5.แม่ศรีเรือนตัวจริง
•5•
ลุกขึ้นวิ่งเตรียมอาบน้ำแต่งตัว ด้วยความเร็วสูงราวกับเข้าค่ายทางโรงเรียน เพราะเสียงของใครอีกคน เคาะประตูก่อกวนอย่างไม่เลิกรา ทั้งที่เมื่อคืนก็มาปลุกคนอื่น เพื่อแหกตานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเขา ตั้งนานหลายชั่วโมงเลย ยังมีหน้าพูดจาข่มขู่ฉันอีกด้วย หากคิดถ่วงเวลาจะหักเงินเดือน ซึ่งที่เขาให้นั้นมันก็น้อยอยู่แล้ว ยังคิดแกล้งกันดูตาบ้านี่เถอะ
แม้อยากโวยวายแต่ก็ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว หากเผลอทำเขาสติหลุด จนเผลออยากฆ่าฉันขึ้นมาจะทำอย่างไรได้ล่ะ พ่อก็ยังไม่รู้ว่าฉันตกระกำลำบาก อยู่แห่งหนไหน ชีวิตนี้ใครจะมาช่วยฉันกัน ประเด็นที่สำคัญอยู่ต่างประเทศอีกด้วย ไร้คนให้พึ่งพาอาศัย ไม่รู้จะได้เจอคุณคนนั้นที่ประเทศนี้ไหม? เฮ้อ~
"เมื่อคืนนอนไม่อิ่มเหรอ หลับอย่างกับคนซ้อมตาย ลืมไปแล้วมั้งว่าต้องทำงานใช้หนี้ ไม่ได้มาพักกินเที่ยวอยู่ฟรีหรอกนะครับคุณ ไปชงกาแฟมาให้หน่อยครับ ทำอาหารด้วยนะวันนี้อยู่บ้าน เสร็จแล้วไปล้างรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน ช่วงมืดมีคุยธุรกิจข้างนอกด้วย ทุกอย่างต้องเสร็จก่อนสองทุ่ม!" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันโวยวายลั่น หลังจากยืนกอดอกพิงกำแพง ซึ่งเขายืนรอเธออยู่เป็นนานสองนานแล้ว พูดจบก็หมุนตัวเดินตรงเข้าสู่ห้องหนังสือ ปิดประตูเสียงดังลั่นอย่างอารมณ์เสียซะงั้น!
"เป็นอะไรของเขาประจำเดือนไม่มาหรือเปล่า ขี้หงุดหงิดง่ายชะมัดเลยหึ~ จะทนอยู่กับเขาได้กี่เดือนสถานการณ์แบบนี้ ไม่กล้าคาดหวังเป็นปีหรอก เกิดเผลอทำให้เขารู้สึกโกรธจัด เขาจะจับฉันโยนให้ฉลามกินไหมเนี่ย!" ทรายกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา กลัวคนภายในห้องได้ยินเข้าจะลงโทษได้น่ะ
เข้าห้องครัวชงกาแฟเป็นงานอันดับแรก เนื่องจากคิดว่ามันง่าย แต่ทว่าขมวดคิ้วเรียงสวยชนกัน แหงนหน้าขึ้นมองขวดโหลสองใบ ยืนคิดอยู่นานก่อนจะหลับตาชี้นิ้วทาย เลือกเปิดมาตักชงใส่แก้วกาแฟ ก่อนหน้านี้เปิดฝาขวดโหลเอามาทดลองดมแล้ว ก็ไม่รู้อันไหนเกลืออันไหนน้ำตาลกันแน่! บ้านก็ใหญ่โตคนใช้ไม่มีสักคนเดียวเฮ้อ~
ช่วงอยู่กับไอ้คนเลวนั่น! ฉันก็จ้างแม่บ้านข้างนอกให้มาทำอาหาร เคยเข้าครัวเองเสียที่ไหนกัน ถึงคนอื่นคิดว่าฉันแต่งงานแล้วสบาย ไม่ต้องไปตรากตรำทำงานนอกบ้าน ใครจะรู้เป็นฉันคนนี้เองแหละ ที่คอยหาเงินเพื่อส่งมอบจุนเจือทั้งครอบครัว เลี้ยงแม้กระทั่งไอ้สามีเฮงซวe!
วันดีคืนดีก็พามาขัดดอกกับคนอื่นอีกหึ~ ปกติหนีรอด กรงเล็บเหล่าสัตว์ร้ายนั้นได้ตลอด คงมีเพียงเขาแหละมั้ง ที่ทำให้รู้สึกไม่น่าหนักใจอย่างที่ผ่านมา ถึงแม้จะพูดไม่เข้าหูเลยสักครั้งเดียว
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น อีกคนจึงขานตอบรับ จับเอกสารบนโต๊ะซ้อนกันอย่างว่องไว ชำเลืองมองเล็กน้อยก่อนจะเซ็นเอกสารต่อ ราวกับไม่สนใจ เพราะรู้ว่าใครเป็นคนเข้าห้องมา
"เข้ามาเลย!" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน
ฉันจึงเดินเชื่องช้าวางแก้วกาแฟลงให้แก่เขา รีบเดินออกไปทำอาหารเพราะกลัวเวลาไม่พอ ส่วนอีกคนแอบมองกาแฟร้อน กระตุกยิ้มเล็กน้อย เอื้อมมือสอดนิ้วเกี่ยวหูแก้วหยิบมากระดกดื่ม อารมณ์ช่วงแรกเขานั้นยังพอสุนทรีย์ เพราะฟังเพลงกำลังเพลินอยู่
ต้องรีบหันหน้าย้ายมาข้างมุมโต๊ะ เพื่อคายกาแฟทิ้งลงบนพื้นแทบไม่ทัน พยายามกลั้วคอด้วยน้ำเปล่า ภายในโพรงปากพร้อมบ้วนอยู่เช่นนั้น รสชาติกาแฟไม่ได้ขมปี๋ปกติหรอกนะ มันเค็มมากต่างหากล่ะ! กัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิด
ซึ่งสมองที่ถูกกระตุ้นราวกับไฟช็อต บังคับร่างกายให้ลุกขึ้นยืน วิ่งตรงไปยังห้องครัว แต่ก็ต้องขมวดคิ้วดกหนาชนกัน ภาพตรงหน้ามันช่างโมโหหนักกว่าเดิมอีก! ก้าวเท้าเดินตัวปลิวหมุนเตาแก๊สปิดลง หากช้ากว่านี้บ้านเขาคงระเบิดแล้ว เธอหยิบขวดเหล้า คงคิดว่าเป็นน้ำมันมะกอก มาปรุงอาหารไฟลุกโชนจนกระทะไหม้ ลามไปเผาตู้เก็บของด้านบนศีรษะ
"ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย!" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันโวยวายลั่น เธอยืนนิ่งสีหน้าหวาดหวั่นเป็นลมสลบไป ไม่ได้ตอบอะไรเขาเลย จึงรีบช้อนร่างกายคนไร้สติไปพักที่ห้องนอน กดโทรศัพท์ให้ลูกน้องคนสนิท พาแพทย์ประจำตระกูลมารักษาอาการเธอด่วน! เขานั่งแสดงสีหน้าเคร่งเครียดบนโซฟาหรูหรา
"ให้ผมไปสืบให้ไหมครับบอส?" โซ่กล่าวถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เมื่อสังเกตจับความผิดปกติของเจ้านาย ถึงเขาจะเป็นคนนิ่งสงบมาตลอด เรื่องผู้หญิงก็ไม่เคยหวั่นไหวกับใครง่ายๆ ซึ่งหน้าตาคิดหนักขนาดนี้ อย่างกับขาดทุนทางธุรกิจเป็นหลักพันล้าน ย่อมสัมผัสได้เพราะทำงานด้วยกันนานหลายปี แถมยังเป็นดั่งเพื่อนสนิทเลยก็ว่าได้
"ไม่ต้องสืบหรอกมึงไปแจ้งแก๊งบีเวอร์ ขอเลื่อนเวลานัดเจรจาช้าหน่อยเข้าใจไหม?" ไคโรกดเสียงต่ำสั่งงานอย่างหงุดหงิดใจ พยายามปกปิดลูกน้องคนสนิท ไม่ให้ล่วงรู้อาการกังวลของเขาได้
"ครับ!" โซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เดินจากไปด้วยความเร็วเพราะเป็นงานด่วน!
"คงไม่ใช่หรอกมั้ง?" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนจะไปทำงานต่อ
"ฮื่อๆ จะออกไปได้อย่างไรกัน ใครก็ได้ช่วยด้วย!" ตะโกนเสียงดังอย่างลืมตัวติดอยู่ในภวังค์ฝันร้าย
"คุณครับ!" เสียงเรียกทำให้เธอเบิกตากว้างอย่างตกใจ หมอเขาพยายามเขย่าแขนปลุกเธอขึ้นมา เมื่อเห็นพฤติกรรมผิดปกติ ของคนนอนป่วยบนเตียง
ฉันมองรอบตัวอย่างละเอียดอีกครั้ง ตอนนี้อยู่ภายในห้องนอนสินะ ก่อนหน้านี้จำได้ว่าทำอาหารอยู่หน้าเตานี่นา! หลังจากนั้นก็ไร้สติจนลืมว่าเกิดอะไรขึ้นมา ซึ่งเธอย่อมรู้อาการตนเองดี มันเป็นปมติดอยู่ภายในใจดวงนี้โดยเสมอมา รักษาอาการกับจิตแพทย์นานมากแล้ว แต่เพราะอะไรถึงกลับมาเป็นอีกได้เนี่ย! คงไม่ได้เผาบ้านเขาหรอกใช่ไหมนะเฮ้อ~
"เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะหมอ?" ทรายกล่าวถามด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู เอ่ยเรียกเขาแบบนั้น เพราะเห็นเครื่องสเต็ตโทสโคป (Stethoscope) ไว้สำหรับฟังเสียงหัวใจเต้น มันยังแขวนอยู่บนลำคอเขาน่ะ ถึงแม้จะใส่ชุดธรรมดาคงรีบร้อนมาตรวจแน่นอน
"คุณมีอดีตที่ฝังใจหรือเปล่าครับ ผมเองไม่ใช่หมอเฉพาะทาง แต่อาการคุณค่อนข้างมีปฏิกิริยาตอบสนอง อย่างรุนแรงมากพอสมควรถึงขั้นหมดสติ"
"ร่างกายไม่เป็นอะไรแล้วนะ จัดยาคลายเครียดลดอาการวิตกกังวล ให้เรียบร้อยแล้วครับพักไม่นานก็หาย แต่ขอแนะนำอย่าเข้าใกล้ไฟอีกนะ กลัวจะเป็นแทรกซ้อนอย่างอื่นได้ แนะนำพบหมอเฉพาะทางตรวจสอบอีกรอบ เพื่อความปลอดภัยนะครับ!" หมอน้ำกล่าวออกมาด้วยเสียงเคร่งขรึมพร้อมแนะนำ
"ขอบคุณมากค่ะหมอ!" ทรายกล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูพร้อมยกมือไหว้
หมอคนนั้นออกไปได้ไม่นาน ใครบางคนก็เดินเข้ามายืนใกล้ๆ ข้างเตียงนอนเบะปากพูดใส่หน้าทันที เอือมระอาพฤติกรรมเจ้าหนี้อย่างเขาเหลือเกิน
"ไม่ได้เรื่องสักอย่าง! หักค่าเสียหายหนึ่งล้านให้มันจบกันไปหึ~ นอนพักเลยตอนดึกต้องไปคุยธุรกิจกับผม ส่วนงานที่เหลืออื่นๆ ค่อยทำวันพรุ่งนี้ทำงานบ้านไม่เป็นก็ไม่บอก จะเผาบ้านคนอื่นแล้วรู้ไหม หลงเสน่ห์ผมจนอยากอยู่ใช้หนี้นานขึ้นเหรอ?" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันโวยวายจนดังลั่น
"จะขอกลับไปเอาเงินที่พ่อมาชดใช้ คุณก็ไม่ยอมเองคนอะไรหลงตัวเองเป็นบ้า! หน้าตาหล่อแต่ปากร้ายใครชอบก็เชิญเลยค่ะ! ฉันขอลาคนหนึ่ง~" ทรายกระแทกเสียงใส่อีกฝ่าย หลับตาลงหันหลังให้อย่างไม่พอใจ เพราะเขาชอบพูดจาไม่ดีใส่ตลอด ก็ยังดีเขาเลือกหักค่าเสียหายแค่หนึ่งล้าน ซึ่งมันน้อยกว่าราคาจริงของมูลค่าเครื่องใช้นั่นอีก กว่าจะใช้หนี้เขาหมดคงได้ขึ้นคานจริงแหละ อายุแค่เพียง 28ปีเหลือเวลาหาผู้ชายใหม่ยาก คงต้องไปฝากไข่เอาไว้กับแพทย์ก่อน ค่อยหาน้ำเชื้อผู้ชายภายหลัง!
"แค่นี้ก็ต้องน้อยใจผู้หญิงน่าเบื่อชะมัด เอานี่บังเอิญหยิบติดมือมาด้วย อมมันเล่นละกันผมไปแล้วพักผ่อนซะ" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันโวยวายจนดังลั่น วางของบนโต๊ะหัวนอนเดินออกจากห้องไปทันที แอบกระตุกยิ้มมุมปาก
ฉันพยายามใช้หูฟังอย่างตั้งใจ แต่เหมือนเสียงฝีเท้าเขาจะไม่อยู่แล้วนะ ลืมตาขึ้นหันหน้ามองสิ่งของบนโต๊ะหัวเตียง พบลูกอมบ๊วยหวานเป็นโหลแก้วใหญ่
"ให้อภัยคุณแล้วกัน!" ทรายกน้ำเสียงแผ่วเบากล่าว อมยิ้มหวานอย่างมีความสุขแกะกินทันที เกลือกกลิ้งบนเตียงราวกับเป็นเด็กน้อย เพราะสิ่งที่เขาเอามาวางไว้เป็นของโปรดนี่นา!
คนหน้าประตูแอบดูอยู่ห่างๆ เดินหนีออกไปจากหน้าห้องอย่างรวดเร็ว ด้วยเสียงฝีเท้าที่เบาสงัดดุจมือสังหาร เขาทำเช่นนั้นเป็นเพราะแค่เพียงไม่อยากให้เธอ รู้สึกแย่จากการกินยาที่หมอจ่ายมาให้
1.คนเจ้าเล่ห์•1•กาสิโนCRเบอร์โทรศัพท์จากต่างประเทศโทรเข้ามา คิ้วดกหนาขมวดชนกันเป็นปมก่อนจะกดรับสาย แม้จะอารมณ์เสียแค่ไหนก็ต้องสนใจ เพราะให้ลูกน้องคอยแอบสอดส่องน้องชายอยู่'โทรมาบ่อยจริงมีเรื่องอะไรนักหนาวะที่นั่นน่ะ' น้ำเสียงดุดันกล่าวโวยวาย'เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นครับนายหญิงรองเธอหายตัวไป ตอนนี้ท่านโคล่าตามหาให้ควั่กเลยครับ ไม่รู้เป็นฝีมือจากแก๊งไหนกันแน่ครับบอส' น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวรายงาน'แอบคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ หากเกิดเรื่องอะไรไม่ดีรายงานมาเลย ถ้าหนักหนามากมึงก็เข้าไปช่วยไอ้โคล่าด้วย แต่ถ้าปัญหาจัดการได้ก็ไม่ต้องสอดมือยุ่ง ปล่อยให้มันเดินด้วยขาของมันเอง หากไม่มีใครอยู่มันจะได้ดูแลตัวเองได้ ส่วนแก๊งจระเข้ก็เป็นบททดสอบที่ดี กระตุ้นให้มันรู้จักปรับตัวคงไม่ดุเดือดเท่าไหร่ เออภายในแก๊งสิงโตช่วงนี้ มันแอบทำอะไรลับหลังกันอยู่หรือเปล่า แลดูมันเงียบสงบเสียเหลือเกิน' น้ำเสียงดุดันกล่าวถาม'เงียบผิดปกติจริงครับ คนแฝงตัวจากทางเราก็ไม่โผล่มาเลย หรืออาจจะโดนสั่งเก็บไปแล้ว' น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวรายงาน'ไปสืบมาแค่นี้แหละ' น้ำเสียงดุดันกล่าวพร้อมกดตัดสายสายตาคมกริบดุจนกเหยี่ยวนั่งเท้าคางอย
2.หาทางหนีเขา•2•เมื่อสถานการณ์กำลังจะเริ่มตึงเครียด คนไร้มารยาทจึงเอ่ยปากอย่างคนหงุดหงิด เมื่อเห็นพฤติกรรมดื้อดึงของผู้หญิงด้านข้าง"นั่งลงสิวะอีโง่! อยากตายโหงนักเหรอ?" มันตะคอกใส่เสียงดังลั่นเพื่อจะหยุดยั้งเธอ อีกคนจึงต้องกลับมานั่งลงทำหน้าตาบูดบึ้ง ราวกับถูกบังคับให้มาด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงขั้นอารมณ์เสียอย่างรุนแรง กอดอกอย่างไม่พอใจ ความอดทนต่ำจริงผู้หญิงคนนี้ แถมยังแอบดื้อเงียบเอาเรื่องใช่เล่นเลย หึ~แต่คนที่ยังสนุกสนานมองเหยื่อตาไม่กะพริบ เขากลับแอบกระตุกยิ้มร้ายกาจชอบใจ ซึ่งไม่มีใครทันสังเกตเห็น ไพ่ถูกสับก่อนจะแจกให้ผู้เล่น อีกฝ่ายเมื่อเห็นแต้มบนมือ ถึงกับมีเหงื่อผุดเต็มใบหน้า ขอเรียกไพ่ใบใหม่เพิ่ม คล้ายจะใจชื้นขึ้นมาหน่อยสายตาคมกริบดุจนกเหยี่ยว นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ไร้ซึ่งอาการดีใจเสียด้วยซ้ำ เขาไม่จำเป็นหงายไพ่ก็เห็นแต้มบนฝ่ามือแล้ว เพราะแหวนสีเงินที่นิ้วเรียว มันสะท้อนราวกับเป็นกระจกใสจนเด่นชัดหึ! เหนือกว่ากูมีแค่ผีเท่านั้นแหละ คิดอยู่ภายในสมอง แต่ดวงตายังจ้องเหยื่อไม่กะพริบ แม้ไพ่นี้จะต้องใช้ดวงเป็นพิเศษ แต่ก็ใช่ว่าจะโกงกันไม่ได้ เพราะมันอยู่ที่คนสับไพ่ต่างหาก เม
3.หนีไม่รอด•3•สายตาคมกริบจ้องเขม็ง คิ้วดกหนาผูกขมวดคล้ายปมเงื่อนชนเข้าหากัน ราวกับว่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาฉกฉวยขวดสเปรย์พริกไทยจากมือฉัน ขว้างทิ้งลงบนพื้นกระเบื้องอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเอื้อมแขนยาวมาใกล้ ใช้ฝ่ามือบีบช่วงหัวไหล่เอาไว้แน่นถนัด กระชากอย่างรุนแรงพร้อมเขย่าเรือนร่างจนสั่นคลอนฉันรีบเม้มริมฝีปากตนอย่างอดกลั้น แอบรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมากะทันหัน หัวใจกระตุกวูบวาบจนตัวเบาโหวงเหวง ความกลัวที่มีต่อเขายิ่งเพิ่มทวีคูณ แต่เมื่อคิดย้อนดูแล้ว หากเป็นคนที่ทำให้อิฐหวาดกลัวได้ เขาย่อมต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ฉุกคิดเพียงไม่นานสมองอันน้อยนิดคล้ายจะพร่าเลือนเต็มทน แต่กลับต้องตื่นจากภวังค์ เมื่อได้ยินเขาโวยวายใส่เสียงก้องกังวาน"แสบจริงนะเรื่องบนเตียงจะแสบแบบนี้ไหม?" น้ำเสียงดุดันกล่าว ยกคนสวยพาดบนไหล่กว้าง แบกเธอเดินขึ้นไปห้องทำงานตนเอง ด้วยความว่องไวกลัวจะสร้างความไม่สงบเพิ่ม อีกคนพยายามดิ้นรน แต่ก็เหมือนทำอะไรไม่ได้มาก ราวกับแรงทุบเป็นเพียงแค่แรงสะกิดเท่านั้น สำหรับคนร่างกายแข็งแกร่ง ดุจกำแพงหินผานี้"ปล่อยนะไอ้บ้า! โอ๊ย~" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดโวยวาย แต่ต้องร้องเจ็บปวดแทน เธอถูกโยนลงใส่บนโซฟ
4.คนปากร้าย•4•คำถามเมื่อสักครู่ทำให้อีกฝ่ายนิ่งเงียบเชียบ แต่ยังเลือกตอบกลับแสดงท่าทางเฉยเมย เสมือนหุ่นยนต์ไร้ซึ่งอารมณ์เสียอย่างนั้น อีตานี่เขาก็ขี้เก๊กชะมัด! คิดว่าตัวเองหล่อราวกับเทพบุตรผู้ใจดีมาก จนฉันต้องหลงเสน่ห์หรือยังไงกันเนี่ยถึงแม้จะเป็นความจริงเรื่องใบหน้าหล่อคมเข้ม สามารถกระชากหัวใจสาวสวยมาขยี้เล่นได้ แต่ขอให้คิดว่าเว้นฉันเอาไว้สักคนเถอะค่ะ ใช้หนี้หมดเมื่อไหร่พร้อมบอกลาไร้ตั๋วกลับมาอีก ฉันสะดุ้งเฮือกหลุดจากสติอันเพ้อเจ้อ เพื่อตั้งใจฟังเขาพูดเกี่ยวกับใจความสำคัญ"เธอต้องทำงานใช้หนี้จนกว่าจะหมด ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะผมไม่ใช้งานคุณฟรีแน่ เงินเดือนเลขาเดือนละสามล้าน ทนทำไปสักหน่อยก็คืนยอดได้ครบแล้ว ผมให้มากกว่าลูกน้องคนอื่นอีกนะเนี่ย" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมปรายหางตามอง หยิบกางเกงใส่จนเรียบร้อยเดินไปหยิบทิชชู ทำความสะอาดมือตนเองนั่งดูหน้าจอต่อราวกับไม่สนใจเธอสักนิด"จะบ้าเหรอสามสิบหกล้านต่อปี ต้องทำงานตั้งยี่สิบกว่าปีนะ คุณตั้งใจให้ฉันขึ้นคานเลยเหรอ? ไม่สู้ให้ฉันกลับไปช่วยพ่อvายอวัยวะ ยังได้มากกว่ารายปีคุณอีกนะ อย่างน้อยมีอิสระได้เริ่มต้นชีวิตใหม่!" ทรายกล่าวด้วยน้ำเสี
5.แม่ศรีเรือนตัวจริง•5•ลุกขึ้นวิ่งเตรียมอาบน้ำแต่งตัว ด้วยความเร็วสูงราวกับเข้าค่ายทางโรงเรียน เพราะเสียงของใครอีกคน เคาะประตูก่อกวนอย่างไม่เลิกรา ทั้งที่เมื่อคืนก็มาปลุกคนอื่น เพื่อแหกตานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเขา ตั้งนานหลายชั่วโมงเลย ยังมีหน้าพูดจาข่มขู่ฉันอีกด้วย หากคิดถ่วงเวลาจะหักเงินเดือน ซึ่งที่เขาให้นั้นมันก็น้อยอยู่แล้ว ยังคิดแกล้งกันดูตาบ้านี่เถอะแม้อยากโวยวายแต่ก็ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว หากเผลอทำเขาสติหลุด จนเผลออยากฆ่าฉันขึ้นมาจะทำอย่างไรได้ล่ะ พ่อก็ยังไม่รู้ว่าฉันตกระกำลำบาก อยู่แห่งหนไหน ชีวิตนี้ใครจะมาช่วยฉันกัน ประเด็นที่สำคัญอยู่ต่างประเทศอีกด้วย ไร้คนให้พึ่งพาอาศัย ไม่รู้จะได้เจอคุณคนนั้นที่ประเทศนี้ไหม? เฮ้อ~"เมื่อคืนนอนไม่อิ่มเหรอ หลับอย่างกับคนซ้อมตาย ลืมไปแล้วมั้งว่าต้องทำงานใช้หนี้ ไม่ได้มาพักกินเที่ยวอยู่ฟรีหรอกนะครับคุณ ไปชงกาแฟมาให้หน่อยครับ ทำอาหารด้วยนะวันนี้อยู่บ้าน เสร็จแล้วไปล้างรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน ช่วงมืดมีคุยธุรกิจข้างนอกด้วย ทุกอย่างต้องเสร็จก่อนสองทุ่ม!" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันโวยวายลั่น หลังจากยืนกอดอกพิงกำแพง ซึ่งเขายืนรอเธออยู่เป็นนานสอ
4.คนปากร้าย•4•คำถามเมื่อสักครู่ทำให้อีกฝ่ายนิ่งเงียบเชียบ แต่ยังเลือกตอบกลับแสดงท่าทางเฉยเมย เสมือนหุ่นยนต์ไร้ซึ่งอารมณ์เสียอย่างนั้น อีตานี่เขาก็ขี้เก๊กชะมัด! คิดว่าตัวเองหล่อราวกับเทพบุตรผู้ใจดีมาก จนฉันต้องหลงเสน่ห์หรือยังไงกันเนี่ยถึงแม้จะเป็นความจริงเรื่องใบหน้าหล่อคมเข้ม สามารถกระชากหัวใจสาวสวยมาขยี้เล่นได้ แต่ขอให้คิดว่าเว้นฉันเอาไว้สักคนเถอะค่ะ ใช้หนี้หมดเมื่อไหร่พร้อมบอกลาไร้ตั๋วกลับมาอีก ฉันสะดุ้งเฮือกหลุดจากสติอันเพ้อเจ้อ เพื่อตั้งใจฟังเขาพูดเกี่ยวกับใจความสำคัญ"เธอต้องทำงานใช้หนี้จนกว่าจะหมด ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะผมไม่ใช้งานคุณฟรีแน่ เงินเดือนเลขาเดือนละสามล้าน ทนทำไปสักหน่อยก็คืนยอดได้ครบแล้ว ผมให้มากกว่าลูกน้องคนอื่นอีกนะเนี่ย" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมปรายหางตามอง หยิบกางเกงใส่จนเรียบร้อยเดินไปหยิบทิชชู ทำความสะอาดมือตนเองนั่งดูหน้าจอต่อราวกับไม่สนใจเธอสักนิด"จะบ้าเหรอสามสิบหกล้านต่อปี ต้องทำงานตั้งยี่สิบกว่าปีนะ คุณตั้งใจให้ฉันขึ้นคานเลยเหรอ? ไม่สู้ให้ฉันกลับไปช่วยพ่อvายอวัยวะ ยังได้มากกว่ารายปีคุณอีกนะ อย่างน้อยมีอิสระได้เริ่มต้นชีวิตใหม่!" ทรายกล่าวด้วยน้ำเสี
3.หนีไม่รอด•3•สายตาคมกริบจ้องเขม็ง คิ้วดกหนาผูกขมวดคล้ายปมเงื่อนชนเข้าหากัน ราวกับว่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาฉกฉวยขวดสเปรย์พริกไทยจากมือฉัน ขว้างทิ้งลงบนพื้นกระเบื้องอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเอื้อมแขนยาวมาใกล้ ใช้ฝ่ามือบีบช่วงหัวไหล่เอาไว้แน่นถนัด กระชากอย่างรุนแรงพร้อมเขย่าเรือนร่างจนสั่นคลอนฉันรีบเม้มริมฝีปากตนอย่างอดกลั้น แอบรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมากะทันหัน หัวใจกระตุกวูบวาบจนตัวเบาโหวงเหวง ความกลัวที่มีต่อเขายิ่งเพิ่มทวีคูณ แต่เมื่อคิดย้อนดูแล้ว หากเป็นคนที่ทำให้อิฐหวาดกลัวได้ เขาย่อมต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ฉุกคิดเพียงไม่นานสมองอันน้อยนิดคล้ายจะพร่าเลือนเต็มทน แต่กลับต้องตื่นจากภวังค์ เมื่อได้ยินเขาโวยวายใส่เสียงก้องกังวาน"แสบจริงนะเรื่องบนเตียงจะแสบแบบนี้ไหม?" น้ำเสียงดุดันกล่าว ยกคนสวยพาดบนไหล่กว้าง แบกเธอเดินขึ้นไปห้องทำงานตนเอง ด้วยความว่องไวกลัวจะสร้างความไม่สงบเพิ่ม อีกคนพยายามดิ้นรน แต่ก็เหมือนทำอะไรไม่ได้มาก ราวกับแรงทุบเป็นเพียงแค่แรงสะกิดเท่านั้น สำหรับคนร่างกายแข็งแกร่ง ดุจกำแพงหินผานี้"ปล่อยนะไอ้บ้า! โอ๊ย~" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดโวยวาย แต่ต้องร้องเจ็บปวดแทน เธอถูกโยนลงใส่บนโซฟ
2.หาทางหนีเขา•2•เมื่อสถานการณ์กำลังจะเริ่มตึงเครียด คนไร้มารยาทจึงเอ่ยปากอย่างคนหงุดหงิด เมื่อเห็นพฤติกรรมดื้อดึงของผู้หญิงด้านข้าง"นั่งลงสิวะอีโง่! อยากตายโหงนักเหรอ?" มันตะคอกใส่เสียงดังลั่นเพื่อจะหยุดยั้งเธอ อีกคนจึงต้องกลับมานั่งลงทำหน้าตาบูดบึ้ง ราวกับถูกบังคับให้มาด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงขั้นอารมณ์เสียอย่างรุนแรง กอดอกอย่างไม่พอใจ ความอดทนต่ำจริงผู้หญิงคนนี้ แถมยังแอบดื้อเงียบเอาเรื่องใช่เล่นเลย หึ~แต่คนที่ยังสนุกสนานมองเหยื่อตาไม่กะพริบ เขากลับแอบกระตุกยิ้มร้ายกาจชอบใจ ซึ่งไม่มีใครทันสังเกตเห็น ไพ่ถูกสับก่อนจะแจกให้ผู้เล่น อีกฝ่ายเมื่อเห็นแต้มบนมือ ถึงกับมีเหงื่อผุดเต็มใบหน้า ขอเรียกไพ่ใบใหม่เพิ่ม คล้ายจะใจชื้นขึ้นมาหน่อยสายตาคมกริบดุจนกเหยี่ยว นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ไร้ซึ่งอาการดีใจเสียด้วยซ้ำ เขาไม่จำเป็นหงายไพ่ก็เห็นแต้มบนฝ่ามือแล้ว เพราะแหวนสีเงินที่นิ้วเรียว มันสะท้อนราวกับเป็นกระจกใสจนเด่นชัดหึ! เหนือกว่ากูมีแค่ผีเท่านั้นแหละ คิดอยู่ภายในสมอง แต่ดวงตายังจ้องเหยื่อไม่กะพริบ แม้ไพ่นี้จะต้องใช้ดวงเป็นพิเศษ แต่ก็ใช่ว่าจะโกงกันไม่ได้ เพราะมันอยู่ที่คนสับไพ่ต่างหาก เม
1.คนเจ้าเล่ห์•1•กาสิโนCRเบอร์โทรศัพท์จากต่างประเทศโทรเข้ามา คิ้วดกหนาขมวดชนกันเป็นปมก่อนจะกดรับสาย แม้จะอารมณ์เสียแค่ไหนก็ต้องสนใจ เพราะให้ลูกน้องคอยแอบสอดส่องน้องชายอยู่'โทรมาบ่อยจริงมีเรื่องอะไรนักหนาวะที่นั่นน่ะ' น้ำเสียงดุดันกล่าวโวยวาย'เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นครับนายหญิงรองเธอหายตัวไป ตอนนี้ท่านโคล่าตามหาให้ควั่กเลยครับ ไม่รู้เป็นฝีมือจากแก๊งไหนกันแน่ครับบอส' น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวรายงาน'แอบคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ หากเกิดเรื่องอะไรไม่ดีรายงานมาเลย ถ้าหนักหนามากมึงก็เข้าไปช่วยไอ้โคล่าด้วย แต่ถ้าปัญหาจัดการได้ก็ไม่ต้องสอดมือยุ่ง ปล่อยให้มันเดินด้วยขาของมันเอง หากไม่มีใครอยู่มันจะได้ดูแลตัวเองได้ ส่วนแก๊งจระเข้ก็เป็นบททดสอบที่ดี กระตุ้นให้มันรู้จักปรับตัวคงไม่ดุเดือดเท่าไหร่ เออภายในแก๊งสิงโตช่วงนี้ มันแอบทำอะไรลับหลังกันอยู่หรือเปล่า แลดูมันเงียบสงบเสียเหลือเกิน' น้ำเสียงดุดันกล่าวถาม'เงียบผิดปกติจริงครับ คนแฝงตัวจากทางเราก็ไม่โผล่มาเลย หรืออาจจะโดนสั่งเก็บไปแล้ว' น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวรายงาน'ไปสืบมาแค่นี้แหละ' น้ำเสียงดุดันกล่าวพร้อมกดตัดสายสายตาคมกริบดุจนกเหยี่ยวนั่งเท้าคางอย