“…” “ขนาดรามยังหันไปชอบมึงเลย” “…” ฉันหลบสายตา เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีกับบทสนทนาในครั้งนี้ “ถามจริง ทำยังไงให้มันหลงมึงขนาดนี้?” “คือ?” ฉันเลิกคิ้วนิด ๆ เริ่มจะมีน้ำโหขึ้นมาหน่อย ๆและดูเหมือนติมจะไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่มันพูดแต่ละคำค่อนข้างทำให้ฉันรู้สึกแย่
CLOSE FRIEND CHAPTER 35หลายวันต่อมา รามทำแบบที่พูดจริง ๆ หลังจากบอกว่าจะหาหอใหม่ ตอนนี้เราก็ขนของย้ายออกกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อให้ทุกคนจะแปลกใจที่เราย้ายไปไกลกว่าเดิมไม่ได้อยู่ข้างมหา’ลัยเหมือนตอนแรกก็ตามที แต่นั่นก็เพราะรามไม่อยากให้ติมเข้ามายุ่มย่าม ถึงฉันจะค้านรามก็ไม่ฟัง รู้อีก
“ก็ถ้าเปย์เพื่อนก็ไม่เห็นแปลก” แถมน้องอ้ายก็ยังคงไม่รู้เรื่องต่อไป ซึ่งมันก็ดี… “กูสูบบุหรี่ก่อน”จู่ ๆ รามก็ลุกขึ้นยืนกะทันหัน ดวงหน้าหล่อดูจะเคร่งเครียดมากกว่าทุกที หลังจากมันผละจากวงสนทนาเจินก็ลุกตามไปอีกคน มองตามไปก็เห็นพวกมันกำลังยืนพ่นควันมองเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าแบบเดียวกัน
CLOSE FRIEND CHAPTER 36คอนโดเจิน “มึงทำแบบนี้ทำไม?” “ทำอะไร? พวกกูควรจะต้องถามมึงมากกว่า” “กูไม่ได้ทำ!” ฉันกำมือแน่นพยายามข่มอารมณ์โมโหของตัวเองไว้ จ้องหน้าไอติมที่ตอนนี้วิ่งไปหลบอยู่หลังไอ้ยักษ์ที่ก็กำลังปั้นหน้าไม่ถูกกับสถานการณ์ เพราะทันทีที่กลับม
“ใจเย็น ๆ” “ในฐานะที่มึงเป็นเพื่อนทั้งกูทั้งมัน มึงเชื่อใคร?” “พริก…” “มึงก็แค่ตอบมา” “…” เจินสบตากันนิ่งอยู่อึดใจใหญ่ ก่อนที่จะดึงไหล่ฉันเข้าหาตัว กอดกันไว้เงียบ ๆ แล้วพึมพำเสียงเบา “กูจะไม่เชื่อมึงได้ยังไง…” ฉันรู้สึกขอบตาร้อนผ่าว ฝังใบหน
CLOSE FRIEND CHAPTER 37“พริก!” “พอ ๆ แยก ๆ” “ปล่อยกู!” “ฮึก! ช่วยด้วย…” ฉันพยายามจะสะบัดตัวเองให้หลุดจากอ้อมแขนของราม ไอ้ครามกำลังยืนห้ามทัพระหว่างกลางอีกครั้ง ในขณะที่ไอ้ยักษ์กำลังเข้าไปดูอาการคนที่แสร้งทำเป็นร้องไห้ยกมือกุมข้างแก้มแดง ๆ ที่มีรอยฝ่า
สุดท้ายวันนี้ก็จบลงด้วยการที่อ้ายพาฉันกลับไปนอนด้วยกันที่บ้าน เพราะฉันไม่อยากจะเจอหน้าราม ไม่อยากจะได้ยินอะไรทั้งนั้นก็แล้วทำไมคนที่บอกว่าเชื่อกันในตอนแรก… ตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนใจ…สามวันต่อมา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตอนนี้ฉันมานอนอยู่บ้านเมียไอ้เจินได้สามวันแล้ว โดยที่ขอร้องไม่ให้เจ้าตัวบ
CLOSE FRIEND CHAPTER 38RAM TALKS ผมโยนมือถือทิ้งอย่างเซ็งจัดเพราะตอนนี้แบตฯ หมดไปอีกรอบแล้ว ไม่รู้ว่าพริกหายไปไหน พวกเราพยายามตามหามัน ทั้งโทร ทั้งไปที่บ้าน หรือห้องใครก็ตามที่มันรู้จัก แต่ไม่เจอตัวมันเลย ผมเครียดจนแทบเป็นบ้าเพราะเสือกไปเข้าข้างติม ทั้งที่ตัวผมเองก็ไม่ได้เชื่อสิ่งที่มั
Special 6หลายปีต่อมาบรรยากาศยามเช้ายังคงวุ่นวายไม่ต่างไปจากทุกวัน…เนื้อเสียงเจื้อยแจ้วหลายเสียงดังต่อเนื่องไม่หยุดมากว่าชั่วโมงเข้าให้แล้ว กระทั่งฉันเดินลงมาถึงที่ชั้นล่างก็ทันได้เห็น ร่างสูงในชุดสูทเป๊ะปังตั้งแต่หัวจรดเท้า โน้มตัวลงช้อนร่างเล็กของเด็ก ๆ ขึ้นที่สองข้อแขน“วันนี้เฮียกลับไวจะพาไปดิ
จู่ ๆ เจ๊หยีที่วันนี้อยู่ในชุดอลังการยิ่งกว่าทุกวันก็ดึงเอากระดาษแผ่นหนึ่งมาวางลงบนโต๊ะ ทุกสายตาหันมอง มีเพียงแค่เฮียครามที่ผุดยิ้มกว้างมองสบตาเมียตัวเองเจ๊พริกเป็นคนแรกที่คว้ากระดาษแผ่นที่ว่าขึ้นดู และเจ๊ก็เบิกตาโตจนเจ๊อ้ายที่นั่งอยู่ข้างกันต้องรีบขยับหัวชะโงกมองตาม และเจ๊ก็ตกอยู่ในสภาวะเดียวกันค
“หนูทำผัวหลงได้ขนาดนี้ น่าจะดีใจ…” สายตากระหายหิวยังคงหลุบลงมอง พร้อมกันบั้นท้ายหนาก็หดเกร็งทุกจังหวะที่มีการเบียดอัดความแข็งกร้าวเข้าไปจนสุดทาง เพราะรู้ว่าคงจะต้องให้เขาได้ปลดปล่อยสักหนึ่งรอบฉันก็ได้แต่ยืนแข้งขาสั่นใช้แขนสองข้างโอบรอบเหนือบ่ากว้าง ยอมพยักหน้าตามใจในที่สุด
Special 5 หลายเดือนต่อมา เรากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ที่บ้านของฉันกับเฮียยักษ์… เพื่อนทุกคนมารวมตัวกันที่นี่เนื่องในวันเกิดของหนูยิ้มหลานสาวคนโตของกลุ่มที่ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นปฐมวัยหลังจากเวลาผ่านไปหลายปีนับตั้งแต่ตอนนั้นที่หลานยังเป็นเพียงเด็กน้อยตัวอ้วนป้อ
“วันนี้น้องของเจ๊สวยมาก”“เจ๊ก็เหมือนกัน”“ขอให้ความรักยืนยาวยั่งยืนตลอดไปนะซอล”“ขอบคุณนะคะ”“ยักษ์เป็นคนดีจะต้องดูแลซอลได้ดีมากแน่ ๆ”แล้วอีกฝ่ายก็กลับเสียงสั่นเครือขึ้นมาทั้งอย่างนั้น แต่ก็ได้เห็นแค่เพียงแวบเดียว เจ๊พริกพยายามเอ่ยต่อด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ“เพื่อนเจ๊จะต้องทำให้ซอลมีความสุขมากแน่นอน
Special 4หลายปีต่อมางานแต่งงาน“ตื่นเต้นไหม?”“นิดหน่อยค่ะ”“ตอนเจ๊แต่งก็ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน”“ตอนนั้นดีใจมากเลยใช่ไหมคะ?”“เหมือนฝันอะไรแบบนั้น”“หนูก็เหมือนกัน…”“เจ๊พริก เฮียยักษ์โทรมาถามว่ากดเงินสดมาให้รึยังคะ?”การสนทนาแบบเป็นส่วนตัวระหว่างฉันกับคนที่นั่งอยู่ข้างกันเป็นอันต้องสิ้น
Special 3สองเดือนผ่านไป“ฝนตกขนาดนี้ ขับไปก็ได้รถคว่ำตายพอดี”“หนูไม่อยากให้เฮียขึ้นห้อง”“ถ้าเฮียจะทำอะไรหนูจริง คงไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านมาขนาดนี้”“…”“ช่างมัน เดี๋ยวเฮียนั่งรอฝนหยุดในรถได้ไม่เป็นไร”“…”จะว่าบ้าก็บ้า…แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันกับคนข้าง ๆ สนิทสนมกันในระดับหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘พี
Special 2สามชั่วโมงต่อมาและฉันเองในตอนนี้…ก็อยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติพอกัน…เสียงคลื่นซัดเข้าหาชายหาด ประกอบกับสายลมลอยโชยพัดปะทะเข้าหาร่างกายทำเอาคลายความกรุ่นกังวลในใจลงได้ชั่วขณะหลังจากหย่อนกายลงนั่งที่ชายหาดได้ราวหนึ่งชั่วโมง เบียร์ก็ถูกเปิดดื่มไปหลายขวด ระหว่างเสียงคลื่นลมดังคลอ ก็มีเสียง
ร่างโปร่งสูงดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าหยุดยืนที่หน้าเคาน์เตอร์ ก็ยืนเงียบอยู่นานจนฉันเองต้องเป็นฝ่ายร้องขอคำสั่งซื้อด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะไม่หงุดหงิด “รับอะไรดีคะ?” “อเมริกาโนครับ” ริมฝีปากหยักลึกคลี่ยิ้มกว้างราวกับจะกวนไม่ต่างไปจากเดิม ส่วนฉันที่กำลังอยู่ในเวลางานก็ไ