“ก็ถ้าเปย์เพื่อนก็ไม่เห็นแปลก” แถมน้องอ้ายก็ยังคงไม่รู้เรื่องต่อไป ซึ่งมันก็ดี… “กูสูบบุหรี่ก่อน”จู่ ๆ รามก็ลุกขึ้นยืนกะทันหัน ดวงหน้าหล่อดูจะเคร่งเครียดมากกว่าทุกที หลังจากมันผละจากวงสนทนาเจินก็ลุกตามไปอีกคน มองตามไปก็เห็นพวกมันกำลังยืนพ่นควันมองเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าแบบเดียวกัน
CLOSE FRIEND CHAPTER 36คอนโดเจิน “มึงทำแบบนี้ทำไม?” “ทำอะไร? พวกกูควรจะต้องถามมึงมากกว่า” “กูไม่ได้ทำ!” ฉันกำมือแน่นพยายามข่มอารมณ์โมโหของตัวเองไว้ จ้องหน้าไอติมที่ตอนนี้วิ่งไปหลบอยู่หลังไอ้ยักษ์ที่ก็กำลังปั้นหน้าไม่ถูกกับสถานการณ์ เพราะทันทีที่กลับม
“ใจเย็น ๆ” “ในฐานะที่มึงเป็นเพื่อนทั้งกูทั้งมัน มึงเชื่อใคร?” “พริก…” “มึงก็แค่ตอบมา” “…” เจินสบตากันนิ่งอยู่อึดใจใหญ่ ก่อนที่จะดึงไหล่ฉันเข้าหาตัว กอดกันไว้เงียบ ๆ แล้วพึมพำเสียงเบา “กูจะไม่เชื่อมึงได้ยังไง…” ฉันรู้สึกขอบตาร้อนผ่าว ฝังใบหน
CLOSE FRIEND CHAPTER 37“พริก!” “พอ ๆ แยก ๆ” “ปล่อยกู!” “ฮึก! ช่วยด้วย…” ฉันพยายามจะสะบัดตัวเองให้หลุดจากอ้อมแขนของราม ไอ้ครามกำลังยืนห้ามทัพระหว่างกลางอีกครั้ง ในขณะที่ไอ้ยักษ์กำลังเข้าไปดูอาการคนที่แสร้งทำเป็นร้องไห้ยกมือกุมข้างแก้มแดง ๆ ที่มีรอยฝ่า
สุดท้ายวันนี้ก็จบลงด้วยการที่อ้ายพาฉันกลับไปนอนด้วยกันที่บ้าน เพราะฉันไม่อยากจะเจอหน้าราม ไม่อยากจะได้ยินอะไรทั้งนั้นก็แล้วทำไมคนที่บอกว่าเชื่อกันในตอนแรก… ตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนใจ…สามวันต่อมา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตอนนี้ฉันมานอนอยู่บ้านเมียไอ้เจินได้สามวันแล้ว โดยที่ขอร้องไม่ให้เจ้าตัวบ
CLOSE FRIEND CHAPTER 38RAM TALKS ผมโยนมือถือทิ้งอย่างเซ็งจัดเพราะตอนนี้แบตฯ หมดไปอีกรอบแล้ว ไม่รู้ว่าพริกหายไปไหน พวกเราพยายามตามหามัน ทั้งโทร ทั้งไปที่บ้าน หรือห้องใครก็ตามที่มันรู้จัก แต่ไม่เจอตัวมันเลย ผมเครียดจนแทบเป็นบ้าเพราะเสือกไปเข้าข้างติม ทั้งที่ตัวผมเองก็ไม่ได้เชื่อสิ่งที่มั
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าห้องแชตนั้นเป็นของติม ต่อให้ไม่เห็นก็พอจะเดาได้ว่ามันคุยอะไรกับเจิน ก็คงเหมือนกับที่ส่งมาหาผมทุกวัน… “ถามจริง…” ไอ้ครามที่ดูเหมือนจะอ่านจบก่อนหันมาเลิกคิ้วสูง ยกยิ้มแข็งทื่ออย่างไร้ความหมาย “โห… ไอ้เหี้ย…” ไอ้ยักษ์ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป มันเงยหน้ามองเจ้าของมือถ
CLOSE FRIEND CHAPTER 39ตอนค่ำ ผมหลับไปตั้งแต่รู้ว่าพริกยังปลอดภัยดีอยู่ที่บ้านน้องอ้าย…หลังจากนั่งคุยกันอยู่นานไอ้เจินก็บังคับให้ผมไปนอนพัก ถึงจะไม่อยากนอนแต่ก็คงฝืนสังขารตัวเองต่อไปไม่ไหว จนกระทั่งฟ้ามืดนั่นแหละถึงได้ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเปิดประตูห้องนอน ไอ้ยักษ์พยักหน้าเร
Special 6หลายปีต่อมาบรรยากาศยามเช้ายังคงวุ่นวายไม่ต่างไปจากทุกวัน…เนื้อเสียงเจื้อยแจ้วหลายเสียงดังต่อเนื่องไม่หยุดมากว่าชั่วโมงเข้าให้แล้ว กระทั่งฉันเดินลงมาถึงที่ชั้นล่างก็ทันได้เห็น ร่างสูงในชุดสูทเป๊ะปังตั้งแต่หัวจรดเท้า โน้มตัวลงช้อนร่างเล็กของเด็ก ๆ ขึ้นที่สองข้อแขน“วันนี้เฮียกลับไวจะพาไปดิ
จู่ ๆ เจ๊หยีที่วันนี้อยู่ในชุดอลังการยิ่งกว่าทุกวันก็ดึงเอากระดาษแผ่นหนึ่งมาวางลงบนโต๊ะ ทุกสายตาหันมอง มีเพียงแค่เฮียครามที่ผุดยิ้มกว้างมองสบตาเมียตัวเองเจ๊พริกเป็นคนแรกที่คว้ากระดาษแผ่นที่ว่าขึ้นดู และเจ๊ก็เบิกตาโตจนเจ๊อ้ายที่นั่งอยู่ข้างกันต้องรีบขยับหัวชะโงกมองตาม และเจ๊ก็ตกอยู่ในสภาวะเดียวกันค
“หนูทำผัวหลงได้ขนาดนี้ น่าจะดีใจ…” สายตากระหายหิวยังคงหลุบลงมอง พร้อมกันบั้นท้ายหนาก็หดเกร็งทุกจังหวะที่มีการเบียดอัดความแข็งกร้าวเข้าไปจนสุดทาง เพราะรู้ว่าคงจะต้องให้เขาได้ปลดปล่อยสักหนึ่งรอบฉันก็ได้แต่ยืนแข้งขาสั่นใช้แขนสองข้างโอบรอบเหนือบ่ากว้าง ยอมพยักหน้าตามใจในที่สุด
Special 5 หลายเดือนต่อมา เรากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ที่บ้านของฉันกับเฮียยักษ์… เพื่อนทุกคนมารวมตัวกันที่นี่เนื่องในวันเกิดของหนูยิ้มหลานสาวคนโตของกลุ่มที่ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นปฐมวัยหลังจากเวลาผ่านไปหลายปีนับตั้งแต่ตอนนั้นที่หลานยังเป็นเพียงเด็กน้อยตัวอ้วนป้อ
“วันนี้น้องของเจ๊สวยมาก”“เจ๊ก็เหมือนกัน”“ขอให้ความรักยืนยาวยั่งยืนตลอดไปนะซอล”“ขอบคุณนะคะ”“ยักษ์เป็นคนดีจะต้องดูแลซอลได้ดีมากแน่ ๆ”แล้วอีกฝ่ายก็กลับเสียงสั่นเครือขึ้นมาทั้งอย่างนั้น แต่ก็ได้เห็นแค่เพียงแวบเดียว เจ๊พริกพยายามเอ่ยต่อด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ“เพื่อนเจ๊จะต้องทำให้ซอลมีความสุขมากแน่นอน
Special 4หลายปีต่อมางานแต่งงาน“ตื่นเต้นไหม?”“นิดหน่อยค่ะ”“ตอนเจ๊แต่งก็ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน”“ตอนนั้นดีใจมากเลยใช่ไหมคะ?”“เหมือนฝันอะไรแบบนั้น”“หนูก็เหมือนกัน…”“เจ๊พริก เฮียยักษ์โทรมาถามว่ากดเงินสดมาให้รึยังคะ?”การสนทนาแบบเป็นส่วนตัวระหว่างฉันกับคนที่นั่งอยู่ข้างกันเป็นอันต้องสิ้น
Special 3สองเดือนผ่านไป“ฝนตกขนาดนี้ ขับไปก็ได้รถคว่ำตายพอดี”“หนูไม่อยากให้เฮียขึ้นห้อง”“ถ้าเฮียจะทำอะไรหนูจริง คงไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านมาขนาดนี้”“…”“ช่างมัน เดี๋ยวเฮียนั่งรอฝนหยุดในรถได้ไม่เป็นไร”“…”จะว่าบ้าก็บ้า…แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันกับคนข้าง ๆ สนิทสนมกันในระดับหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘พี
Special 2สามชั่วโมงต่อมาและฉันเองในตอนนี้…ก็อยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติพอกัน…เสียงคลื่นซัดเข้าหาชายหาด ประกอบกับสายลมลอยโชยพัดปะทะเข้าหาร่างกายทำเอาคลายความกรุ่นกังวลในใจลงได้ชั่วขณะหลังจากหย่อนกายลงนั่งที่ชายหาดได้ราวหนึ่งชั่วโมง เบียร์ก็ถูกเปิดดื่มไปหลายขวด ระหว่างเสียงคลื่นลมดังคลอ ก็มีเสียง
ร่างโปร่งสูงดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าหยุดยืนที่หน้าเคาน์เตอร์ ก็ยืนเงียบอยู่นานจนฉันเองต้องเป็นฝ่ายร้องขอคำสั่งซื้อด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะไม่หงุดหงิด “รับอะไรดีคะ?” “อเมริกาโนครับ” ริมฝีปากหยักลึกคลี่ยิ้มกว้างราวกับจะกวนไม่ต่างไปจากเดิม ส่วนฉันที่กำลังอยู่ในเวลางานก็ไ