TP Shopping Mall 22.00 น.
ร้านค้าทุกร้านในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ปิดไฟทุกดวง ทั้งพ่อค้าแม่ค้าพนักงานห้าง รวมถึงผู้มาใช้บริการต่างพอกันยืนออที่หน้าห้าง บ้างก็รอรถที่เรียกมารับ บ้างก็รอคนมารับส่วนคนที่ขับรถมาเองหรือเอาจักรยานยนต์มาก็ลงไปยังลานจอดรถที่อยู่ชั้นใต้ดิน
พิจิกาหญิงสาววัย 24 ปีก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากปิดร้านและเช็กสต๊อกแล้วเธอก็ลงมายังชั้นใต้ดินเพื่อจะขี่จักรยานยนต์คู่ใจกลับบ้าน
หญิงสาวเช่าพื้นที่เล็กๆ ในโซนพลาซ่าของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เพื่อขายเสื้อผ้าวัยรุ่น ซึ่งร้านของเปิดมานานถึงสีปีแล้ว นับตั้งแต่เรียนจบปวส. แล้วหางานทำไม่ได้เธอจึงเอาเงินเก็บที่ได้จากการทำงานพิเศษมาเปิดร้านที่นี่ แม้ค่าเช่าจะแพงหูฉี่แต่เธอก็กัดฟันขายมาได้ เพราะนอกจากจะขายที่หน้าร้านแล้วเธอยังไลฟ์สดขายอีกด้วย การมีหน้าร้านแบบนี้มันก็ทำให้ลูกค้ามั่นใจมากขึ้น
“ฝนยังไม่หยุดเลย ให้พี่ไปส่งไหม” พี่ญาดาเจ้าของร้านขายของเล่นและเสื้อผ้าเด็กถามขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ญา ผิงมีเสื้อกันฝนค่ะ”
“แล้วเค้กจะไม่เปียกเอาเหรอ”
“เดี๋ยวผิงใส่ใต้เบาะก็ได้ค่ะ”
“ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ”
“ไม่ค่ะขอบคุณนะคะพี่ญา”
พอญาดาเดินไปยังรถยนต์ของเธอแล้วพิจิกาก็เปิดเบาะรถจักรยานยนต์เอาเค้กชิ้นเล็กลงไปวางอย่างทะนุถนอม
วันนี้เป็นวันเกิดของกรวีร์เพื่อนสนิทคนเดียวของเธอที่คบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย พิจิกาเลยจะเอาเค้กไปเซอร์ไพรส์วันเกิดเพราะหอพักของเพื่อนอยู่ทางผ่านที่จะกลับไปบ้านของเธอพอดี
ฝนยังคงตกอย่างนักพิจิกาต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง กว่าจะมาถึงของพักของเพื่อนก็กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงทั้งที่ปกติแล้วใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ
“เฮ้อ ถึงสักทีหวังว่าฟางจะยังไม่นอนนะ” หญิงสาวถอดเสื้อกันฝนแล้วใต้เบาะเอาเค้กและกล่องของขวัญออกมาให้เพื่อน
พิจิกาถือเค้กแล้วเดินขึ้นมายังชั้นสามเธอเคาะประตูห้องอยู่หลายครั้งแต่คนด้านในก็เงียบ หญิงสาวจึงโทรหาแต่กรวีร์ก็ไม่รับสาย เธอจึงเอาเค้กและของขวัญแขวนที่ลูกบิดประตู ก่อนจะเดินกลับมายังรถของตัวเองอีกครั้ง
เมื่อเสียงเคาะประตูเงียบไปแล้วคนด้านในก็เปิดออก
“ใครมาเหรอบอล”
“ไม่รู้เหมือนกัน เขาไม่อยู่แล้ว แต่มีของพวกนี้แขวนอยู่ตรงลูกบิดน่ะ” ชายหนุ่มหยิบถุงที่แขวนอยู่ตรงลูกบิดออกมายื่นให้เจ้าของห้อง
“ของอะไร ไหนมาดูซิ”
“นี่ไง มีเค้กกับกล่องของขวัญ ฟางแอบคบใครอยู่หรือเปล่า เขาถึงเอาของมาให้ถึงห้อง”
“ฟางก็มีบอลคนเดียว จะแอบคบใครที่ไหนล่ะ” หญิงสาวที่สวมเพียงผ้าเช็ดตัวกอดชายหนุ่มที่ท่อนบนเปลือยเปล่าอย่างประจบ
“แล้วใครมันเอาของพวกนี้มาให้ฟางกันล่ะ”
“คนที่รู้วันเกิดฟางก็มีไม่กี่คน ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเป็นยัยผิงนั่นแหละ”
“อ้อ ดีนะที่เมื่อกี้เราไม่เปิด” เพราะตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตั้งสองกำลังโรมรันพันตูกันอยู่บนเตียง
“นั่นสิ ฟางลืมไปเลยว่าวันเกิดทีไรยังผิงจะต้องเอาของขวัญมาให้”
“แต่ผมไม่มีของขวัญวันเกิดให้ฟางเลยนะ ฟางน้อยใจไหม”
“แค่บอลอยู่กับฟางแบบนี้ฟางก็มีความสุขมากๆ แล้วล่ะ”
“งั้นพรุ่งนี้ผมจะชดเชยให้ดีไหม เราไปเที่ยวทะเลกันไหม”
“จริงนะ”
“จริงสิ ได้หยุดทั้งทีก็ควรไปเที่ยวบ้าง”
“นั้นสิ ทำงานบริษัทมันก็ดีแบบนี้เองนะ” กรวีร์ยิ้ม เมื่อนึกไปถึงงานค้าขายของเพื่อนที่ไม่เคยจะได้หยุดเพราะทำสัญญากับทางห้างไว้แล้วว่าจะหยุดก็ต้องจ้างคนมาขายแทน ซึ่งน้อยครั้งมากที่เพื่อนของตนจะยอมจ้างคนมาขาย
“ครับ” ชายหนุ่มกับกรวีร์ทำงานบริษัทเดียวกันมาได้ครึ่งปีแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองเข้ากันได้ดีในเรื่องบนเตียง และการใช้ชีวิตเพราะทั้งคู่มีวันหยุดตรงกันและมักจะไปเที่ยวด้วยกันอยู่เสมอ
แต่บอลหรือปรัชญาไม่ได้คิดกับเธอถึงขั้นแต่งงานเพราะเขาเองมีคนรักอยู่แล้ว เรื่องนี้กรวีร์เองก็รู้ แต่ที่หญิงสาวยอมมีอะไรกับเขาก็เพราะหวังว่าเรื่องบนเตียงที่มอบให้เขานั้นจะมัดใจเขาได้ อีกอย่างแฟนของชายหนุ่มก็เอาแต่ทำงานจนแทบไม่มีเวลา
“คืนนี้บอลจะค้างกับฟางไหมคะ” หญิงสาวนั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักของชายหนุ่มที่กำลังมองกล่องเค้กด้วยใบหน้าที่เครียดเล็กน้อย แต่พอเธอขยับกายบดเบียดเขาก็เลิกสนใจเค้กและกล่องของขวัญตรงหน้า
“วันเกิดฟางทั้งทีผมก็ต้องอยู่กับฟางสิครับ หรือฟางไม่อยากให้ผมค้างด้วย”
“ฟางอยากให้บอลอยู่กับฟางตลอดเวลาอยู่แล้วล่ะค่ะ แล้วบอลเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ฟางเห็นบอลเอาแต่นั่งจ้องเค้ก แบบนั้นคิดอะไรอยู่เหรอคะ”
“คิดสิ”
“คิดอะไร ไหนลองบอกฟางมาสิคะ” นิ้วเล็กไต่ไปตามลำตัวชายหนุ่มอย่างยั่วยวน
“ผมกำลังคิดว่าผมจะก่อนเค้กก่อนหรือกินฟางก่อนดีล่ะ” ปรัชญาไล้มือไปตามหัวไหล่เนียน
“แล้วบอลชอบแบบหวานแต่เลี่ยนหรือชอบแบบแซ่บๆ เผ็ดล่ะคะ”
“ผมชอบแบบแซ่บๆ งั้นคืนนี้ขอกินฟางก่อน เค้กนั่นก็ทิ้งไว้แบบนั้นแหละ”
“เค้กมันคงเลี่ยนมากสินะ”
“ผิง / ผิง”
“สุขสันต์วันเกิดนะฟาง” พิจิกายิ้มก่อนจะกล่าวอวยพรวันเกิดให้เพื่อนรักที่คบกันมานานถึงเก้าปีด้วยเสียงสั่นเครือ หลังจากเอาเค้กและของขวัญแขวนไว้ที่หน้าประตูห้องของกรวีร์แล้วพิจิกาก็กลับมาที่รถ แต่ก็หากุญแจรถไม่เจอ หญิงสาวนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเอาพวกกุญแจใส่ไว้กับถุงของขวัญจึงรีบวิ่งขึ้นมาเอาตอนนี้ฝนหยุดตกแล้วเธออยากจะรีบกลับไปให้ถึงบ้านก่อนเพราะกลัวว่าในจะตกขึ้นมาอีกครั้ง เธอไม่คิดเลยว่าตนเองจะเจอเพื่อนรักกับคนรักของตนกำลังนัวเนียกันอยู่ในห้อง “ผิง อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ ผมก็แค่มาส่งฟางที่ห้องแล้วฝนมันตกชุดผมเปียกไปทั้งตัว” ปรัชญารีบแก้ตัว ส่วนกรวีร์นั้นได้แต่นั่งหน้านิ่งเพราะคิดไม่ถึงว่าเพื่อนจะกลับมาที่ห้องของเธออีกครั้ง “เหรอคะ ถ้าชุดแห้งก็รีบกลับนะคะ ฟางเองก็คงเปียกเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ถึงได้นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัว แปลกดีนะที่ไม่รีบหาเสื้อผ้าใส่ทั้งที่มีเสื้ออยู่เต็มตู้” เธอพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน“ผิง ฟางนึกว่าผิงกลับไปแล้ว”“ผิงก็กำลังจะกลับ แต่บังเอิญว่าลืมกุณแจรถน่ะ ได้กุญแจแล้วผิงก็จะกลับ” หญิงสาวหยิบกุญแจรถที่อยู่ในถุงของขวัญขึ้นมาแล้วยิ้ม
ผ่านมาสามวันแล้วที่พิจิกาตัดขาดจากปรัชญา เขาทั้งโทรหา ส่งข้อความหาและไปดักรอที่บ้านก่อนเธอมาทำงานทุกเช้า แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมยกโทษให้ เพราะถ้าเธอให้อภัยเขากรวีร์ก็ต้องเสียทั้งตัวเสียทั้งใจ ภายนอกเธออาจจะดูเข้มแข็งแต่ข้างในยังคงเจ็บปวด เพราะชายหนุ่มเป็นรักแรกของเธอ ทั้งคู่คบกันตั้งแต่เธอเรียนอยู่ปวส.2 เขาเป็นผู้ชายที่ปากหวานช่างเอาอกเอาใจมันเลยทำให้คนไม่เคยมีแฟนอย่างพิจิกาเปิดใจรับและตกลงคบกับเขาได้อย่างไม่ยาก “ขอบคุณนะถ้ามีแบบใหม่เข้ามาพี่จะลงในเพจและไลน์กลุ่มนะคะ พอดีว่าอีกสองวันห้างจะปรับปรุงโซนพลาซ่าสามวัน ถ้าน้องการเสื้อผ้าหรืออยากได้อะไรก็ไลน์บอกพี่ได้นะคะ เดี๋ยวพี่ให้คนไปส่งค่ะ” เสียงหวานบอกกับลูกค้าซึ่งเป็นนักศึกษาที่มาอุดหนุนเธอเป็นประจำ “ค่ะ พี่ผิง หนูไปก่อนนะคะ” พอลูกค้าออกแล้วใบหน้าที่ยิ้มแย้มก็เปลี่ยนไปจนคนที่นั่งสังเกตอยู่เดินมาถามด้วยความเป็นห่วง “ผิง พี่ว่าสองสามวันมานี้ผิงดูแปลกๆนะ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” ญาดาอดถามเพื่อนรุ่นน้องร้านติดกันไม่ได้ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เหนื่อยๆ” “อดทนอีกนิดเดี๋ยวเราก็ไ
“พ่อว่าช่วงนี้พีร์ทำงานหนักเกินไปแล้วนะ” คุณธวัชชัยเอ่ยกับลูกชายคนโตที่กลับมาถึงบ้านแต่ละวันด้วยสภาพอิดโรยราวกับไปออกรบ “ผมชินแล้วครับพ่อ” พีราวัชรหรือพีร์หนุ่มโสดวัย 35 ปีที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของ TP Shopping Mall ซึ่งมีสาขาอยู่ในกรุงเทพสองแห่ง ต่างจังหวัดอีกถึงสี่แห่งและปลายปีนี้ก็จะเปิดที่เวียดนามอีกหนึ่งแห่ง “ได้ข่าวว่าช่วงนี้ห้างปรับปรุงใช่เหรอ ทำไมไม่ใช้ช่วงนี้พักผ่อนละ ไปภูเก็ตไหมล่ะ ทะเลกำลังสวยเลย” คุณประภัสสรบอกลูกชาย “ไม่ดีกว่าครับแม่ ผมเพิ่งให้ตั๋วเครื่องบินกับที่พักฟรีกับลูกค้าที่เช่าพื้นที่ในห้างไป ถ้าไปเที่ยวแล้วบังเอิญเจอกันผมกลัวพวกเขาจะไม่สนุก” ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาข้างมารดาก่อนจะยกนำที่เด็กรับใช้เอามาเสิร์ฟเพื่อดับกระหาย “พีร์คิดเหรอว่าคนพวกนั้นจะจำพีร์ได้ พีร์เคยเดินลงมาที่ห้างที่ไหนกันละ ไปถึงก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดเลยแล้วใครที่ไหนจะจำลูกแม่ได้กัน” “แต่จำไม่ได้ก็ดีเหมือนกันนะคุณ พวกสาวที่ห้างก็จะได้ไม่วุ่นวาย” “พูดถึงสาว แล้วเมื่อไหร่ลูกของแม่จะ
พอถึงวันเดินทางพิจิกาก็ ได้รับโทรศัพท์จากพี่ญาดาว่าต้องพามารดาไปหาหมอเพราะท่านหกล้ม การเที่ยวครั้งนี้พิจิกาจึงเดินทางคนเดียว หญิงสาวนั่งรถตู้มาถึงท่าเรือตั้งแต่เที่ยงจากนั้นก็ขึ้นเรือไปยังเกาะเสม็ดที่พักของเธอเป็นพูลวิลล่าที่มองเห็นวิวทะเล ทั้งหาดสาดขาวและท้องทะเลสีฟ้าบวกกับเสียงคลื่นกระทบฝั่งทำให้หญิงสาวผ่อนคลายได้เป็นอย่างมาก หลังจากเอาของเก็บเรียบร้อยเธอก็เดินมาหน้ารีสอร์ต เช่าจักรยานยนต์คันเล็กหนึ่งคันเพื่อขี่ไปเที่ยวรอบเกาะ เธอเช่าไว้ทั้งหมดสามวันเพราะไม่อยากจะเสียเวลามาเช่าใหม่ ก่อนจะมาที่นี่พิจิกาก็ศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวมาบ้างแล้วจึงไม่ต้องถามใครให้วุ่นวาย แดดตอนบ่ายค่อนข้างแรงหญิงสาวจึงแวะที่คาเฟ่แห่งหนึ่งนั้นจิบกาแฟและสั่งเค้กมาทานจนอิ่มก็ขับรถกลับไปที่รีสอร์ตพอแดดร่มลมตกก็สวมชุดว่ายน้ำแต่เพราะมาคนเดียวจึงไม่กล้าไปเดินที่ชายหาดจึงเลือกที่จะว่ายน้ำสระแทน ว่ายจนเหนื่อยก็อาบน้ำและเดินออกมาทางอาหารทะเลที่ทางรีสอร์ตจัดไว้ให้หลังอาหารเย็นเธอก็กลับมานอนเล่นที่ห้องพัก รอเวลาที่จะไปยังบาร์ที่เห็นเมื่อตอนกลางวัน เพราะนึก
“แม่บอกว่าไม่ให้ไปไหนกับคนแปลกหน้า”“แปลกหน้าที่ไหนล่ะ เรารู้จักกันแล้วนะ”“แต่ก็เพิ่งรู้จัก ฉันไม่ไว้ใจคุณหรอกค่ะ ผู้ชายมันก็เหมือนกันทุกคนไว้ใจไม่ได้ ชอบฉวยโอกาสเห็นผู้หญิงเป็นของเล่น ไอ้ผู้ชายเจ้าชู้ ไอ้ผู้ชายเอ็งซวย” เสียงอ้อเอ้ของคนเมาตัดพ้อ“อ้าวคุณ มาว่าผมแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย”“ผมว่าเธอเมามากแล้วแหละ คุณรีบพาเธอกลับดีกว่านะครับ” ผู้จัดการร้านบอกเพราะหญิงสาวโวยวายจนคนอื่นเริ่มหันมามอง และเธอก็สวยสะดุดตาเกินกว่าจะปล่อยให้เมาแล้วถูกคนใครสักคนหิ้วไป“เอาล่ะ คุณผิงตั้งสติหน่อย คุณเมาแล้วนะ คุณพักที่ไหนเดี๋ยวผมไปส่ง”“นั้นสิ ฉันพักที่ไหนน้า...จำไม่ได้เลย อ้อ ในกระเป๋ามีกุญแจ” หญิงสาวเปิดกระเป๋าแล้วหยิบกุญแจขึ้นมาพอพีราวัชรเห็นก็รู้ทันทีว่าเธอพักที่ไหน“ฝากด้วยนะครับคุณพีร์ขอให้มีความสุขนะ”“มีความสุขบ้าอะไรล่ะ ผมกลัวคุกมากกว่าดูท่าทางยังไม่ยี่สิบด้วยซ้ำ”“สบายใจได้ครับเธอยี่สิบสี่แล้ว” ผู้จัดการร้านรีบบอกเพราะตอนเธอมาสั่งเครื่องดื่มเขาเห็นว่าเธอหน้าเด็กมากก็เลยขอดูบัตรประชาชนกว่าชายหนุ่มจะประคองคนเมาซึ่งโวยวายมาตลอดทางถึงบ้านพักเธอก็แทบแย่ เขาไม่รู้ว่าเธอไปโมโหหรือโกรธใครท
เสียงหวานครางประท้วงเมื่อเขาถอดนิ้วออกจากความเป็นสาวแล้วแทนที่ด้วยปลายลิ้นเปียกชื้น ส่วนมือใหญ่ก็เปลี่ยนมาเคล้นคลึงอกอวบทั้งสองข้าง ปลายนิวบีบขยี้ตุ่มไตที่แข็งชันสู้มืออย่างเมามันทกจุดกระสันถูกโจมตีจนหญิงสาวหูอื้อตาลายไปหมด เธออยากบอกให้เขาหยุด แต่ร่างกายกับตอบสนองด้วยการเบียดสะโพกงอนงามเด้งรับกับปลายลิ้น สองมือดึงรั้งผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความเสียวซ่าน แต่มันก็ยังไม่หาย หญิงสาวปล่อยมือจากผ้าปูมากดศีรษะเข้าให้จมไปกับกลางกาย อีกคนก็ไม่ขัดขืน ยิ่งเธอกดเขาก็ยิ่งรัวลิ้นอย่างชำนาญยิ่งเขาดูดเลียอย่างกระหายพิจิกาก็ยิ่งหลงไปกับเพลิงราคะที่แผนเผา สะโพกหญิงสาวยกขึ้นจากที่นอนส่ายไปมา อย่างซ่านกระสัน กิริยาเชิญชวนแบบนี้ทำให้พีราวัชรชอบใจ เขาครางต่ำก่อนละยอมปล่อยมือจากอกอิ่มมาจับสะโพกของเธอไว้“ชอบแบบนี้เหรอผิง เดี๋ยวผมจะทำให้คุณรู้สึกดีกว่านี้อีกนะ”เขากระซิบด้วยเสียงทุ้มต่ำก่อนก้มใบหน้าหล่อลงกลางกลีบกุหลาบอีกครั้ง ปลายลิ้นพลิ้วไหวสะบัดถี่ ส่งให้เสียงหวานร้องครางดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย เธอทั้งเสียวทั้งทรมานเกินกว่าที่จะนอนนิ่ง“คุณพีร์ ช่วยผิงด้วย ผิงว่าผิงใจจะขาด”เสียงหวานเอ่ยขอให้เขาช
“คุณพีร์...”เธอมองหน้าคนตัวโตที่ยังขยับสะโพกอย่างไม่หยุดพัก ความเสียวซ่านที่ได้รับยังไม่จางหาย หญิงสาวหอบเหนื่อย กอดรัดเขาไว้แน่นและรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเสียวซ่านขึ้นอีกครั้ง“เสียวอีกแล้วใช่ไหม ต่อเลยนะ”พูดจบเขาก็โจนจ้วงแรงเร็วขึ้นไปตามอารมณ์ตัณหา ความคับแน่นตอดรัดจนเขาครางแหบต่ำก่อนจะก้มลงดูดเม้มยอดดอกบัวที่ชูชันอย่างกระหาย พิจิกาก็แอ่นขึ้นตอบสนองเขาให้เขาได้ดูดกินอย่างไม่หวงตัวชายหนุ่มใช้มือดันแผ่นหลังเล็ก เพื่อให้ให้ ความอวบอิ่มพอดีกับปากของร้อน เบื้องล่างก็ยังเคลื่อนขยับอย่างไม่รู้เหนื่อย เสียงหวานที่เรียกชื่อเขาไม่ขาดปากนั้นช่างไพเราะและน่าฟังกว่าเพลงบทเพลงทุกชนิด“คุณพีร์”“ว่าไงครับ เสียวไหม ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า”“ไม่เจบ”“ตอบไม่ครบนะ”เขาพูดพลางกดย้ำจุดกระสันอย่างไม่ปรานีจนหญิงสาวครางอีกครั้ง“สะ..เสียวค่ะคุณพีร์ผิงเสียวไปหมดแล้ว”“ผมก็เสียว คุณเอามันมาก ของคุณมันแน่นสุดๆ เร่าร้อนกว่าที่ผมเคยเจอ ผมดีใจนะทีได้เป็นคนแรกของคุณ”“คุณดีใจเหรอคะ”“แน่นอนผู้ชายทุกคนก็อยากเป็นคนแรก”“ฉันคิดว่าจะเก็บครั้งแรกให้เขา แต่เขาหักหลังฉัน”“เสียใจไหม ที่ผมเป็นคนแรก”“คุณบอกผิงเ
พีราวัชรรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่เช้า เขานอนมองหน้าคนที่ซุกอยู่กับแผงอกของตนเองแล้วยิ้ม นานแต่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยร่วมรักกับใครจนหมดแรงแบบนี้มาก่อน ทุกครั้งเขาไม่เคยให้ใครนอนกับเขาถึงเช้า ผู้หญิงทุกคนของเรารู้ดี หลังจากพวกเธอจะมอบความสุขให้เขาแล้วพวกเธอก็จะหยิบเช็คที่เขาวางไว้และกลับออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด มันทำให้เขาไม่เบื่อเพราะผู้หญิงแต่ละคนก็มีความหลากหลาย มีเพียงไม่กี่คนที่เขาจะเรียกใช้ซ้ำ แต่นั่นต้องเป็นคนที่เขาถูกใจจริงๆ หรือไม่ก็ตอนนั้นอยู่ใกล้กับเขาในเวลาที่เขาต้องการจนทนรอไม่ไหว “อื้อ..ปวดหัวจัง” หญิงสาวเอามือกุมขมับแต่พอขยับจะลุกก็ถูกท่อนแขนใหญ่รั้งไว้ เธอหันกลับมาก็เจอกับผู้ชายตัวโตนอนยิ้มอยู่ข้าง “คุณคงไม่เคยดื่มหนักแบบนั้นมาก่อน”“คุณ...” สมองประมวลผลอย่างรวดเร็วจากนั้นใบหน้าสวยก็แดงซ่านเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเธอมองหน้าผู้ชายแปลกหน้าที่แขนยังกอดเอวเธอไว้ด้วยแววตาตื่นตระหนก “อย่าบอกนะ ว่าเมื่อคืนเมาจนจำอะไรไม่ได้ “ พีราวัชรรู้ว่าเธอเมาแต่ก็ไม่ถึงกับจำอะไรได้คนถูกถามหน้าแดงยิ่งก
เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนี้พิจิกาและพีราวัชรก็แต่งงานกันได้หลายเดือนแล้ว คุณกิ่งแก้วที่ลาไปคลอดลูกก็ยังไม่กลับมาทำงานทำให้สองสามีภรรยามีเวลาหวานด้วยกันทั้งที่บ้านและที่ทำงาน “ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเราจะได้แต่งงานกัน” “ถ้าคืนนั้นผมไม่มาส่งผิงที่นี่ ผมคงเสียดายไปจนตาย” “ผิงไม่คิดเลยนะคะว่าความเมาจะทำให้ผิงได้สามีที่หล่อแบบนี้” “ผิงรู้ไหม ว่าผมแอบมองผิงตั้งแต่ผิงออกไปเต้นแล้ว” “เหรอคะ” “ครับ ผิงสวยสะดุดตาผมมาก ผมดีใจมากแค่ไหนรู้ไหมที่ผิงเดินกลับมาดื่มต่อที่บาร์” “แล้วคุณคิดจะมาส่งผิงแล้วกลับหรือคิดอย่างอื่น” “ผมสารภาพเลยครับว่าผมคิดไม่ซื่อกับผิงตั้งแต่ต้น ผมเคยเจอผู้หญิงในบาร์แล้วเราก็ไปต่อกันจากนั้นทุกอย่างก็จบภายในคืนเดียว ผมแทบไม่รู้ชื่อพวกเธอด้วยซ้ำ แต่พอเจอผิง ผมกลับลืมไม่ลง” “เพราะอะไรคะ จะว่าเพราะหน้าตาก็ไม่น่าจะใช่เพราะคนสวยกว่าผิงมีเยอะไปหมด” “ผมเองก็หาเหตุผลไม่ได้ ผมรู้แค่ต้องเป็นผิง ผมรู้แค
เริ่มงานวันแรกหลังจากหยุดยาว พิจิกาไม่ค่อยมีสมาธิทำงานเท่าไหร่เพราะเย็นนี้เธอจะต้องเข้าไปทานอาหารเย็นที่บ้านของพีราวัชร แม้จะเคยเจอบิดามารดาของเขาแล้ว แต่ครั้งนี้มันต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะเขาจะพาเธอเข้าไปในฐานะคนรักไม่ใช่ผู้ช่วยเลขาอย่างครั้งก่อน“ผิง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”“นิดหน่อยค่ะพี่กิ่ง”“เล่าให้พี่ฟังได้นะ”“ผิงก็อยากเล่าค่ะ แต่เรื่องนี้ผิงบอกใครไม่ได้จริงๆ ค่ะ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับผิงคนเดียว”“คงเป็นเรื่องสำคัญมากใช่ไหม”“ค่ะพี่กิ่ง”“พี่ไม่รู้นะว่าเรื่องไร เอาเป็นว่าพี่ให้กำลังใจผิงก็แล้วกันนะ ใช้สติให้มาก พี่ว่าปัญหาทุกอย่างจะผ่านได้ด้วยดี”“ขอบคุณค่ะพี่กิ่ง พี่กิ่งจะกลับเลยก็ได้นะคะเดี๋ยวตรงนี้ผิงทำต่อเองค่ะ”“แล้วผิงไม่รีบกลับบ้านเหรอวันนี้เจ้านายไม่อยู่น่าจะรีบกลับนะ”“กลับตอนนี้รถเมล์แน่นค่ะพี่กิ่ง ผิงรออีกนิดดีกว่าค่ะ”“งั้นพี่ไปก่อนนะ”“ค่ะพี่กิ่ง”พอเลขารุ่นพี่กลับไปแล้วพิจิกาก็จัดการงานตรงหน้าต่ออย่างไม่เร่งรีบเพราะพีราวัชรเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กว่าเขาจะขับรถมาถึงที่นี่ก็คงอีกนานเมื่อทำงานตรงหน้าเสร็จแล้วหญิงสาวก็เข้าห้องน้ำสำรวจความเรีย
เกือบสิบโมงเช้าของวันใหม่สองหนุ่มสาวก็ยังคงนอนกอดกันอยู่บนเตียงกว้าง ความสุขที่มีร่วมกันมันมากมายราวกับเป็นความฝัน พิจิกาตื่นตั้งนานแล้วแต่เธอยังไม่อยากขยับออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขา เธอเงยมองใบหน้าหล่อที่ตอนเช้าไรหนวดเขียวเริ่มเห็นชัดเจนและมันเพิ่มเสน่ห์ในตัวเขาได้เป็นอย่างดี หญิงสาวไล้มือไปตามสันกรามอย่างแผ่วเบา และคิดว่าถ้าเขาเอาใบหน้านี้ซุกไซร้ไปตามลำตัวเธอมันจะจั๊กจี้หรือเสียวซ่านมากแค่ไหน เธอสำรวจใบหน้าของเขานานไปหน่อยตอนนี้เจ้าตัวก็เลยและทำให้คนที่แอบมองต้องรีบหลบตา“แอบมองแบบนี้คิดอะไรอยู่”“ผิงไม่ค่อยได้เห็นเวลาหน้าคุณพีร์มีหนวดเลย ปกติคุณพีร์โกนทุกวันเหรอคะ”“ครับ ผมต้องโกนทุกเข้า”“อยู่ที่นี่กับผิงไม่โกนได้ไหมคะ ผิงชอบนะคะ มันเซ็กซี่ดีค่ะ”“ผมไม่อยากให้มันทิ่มผิงเวลาที่ผมจูบผิงนี่ครับ”“นิดหน่อยเองไม่เป็นไรหรอกค่ะ นะคะ”“ก็ได้ครับแล้วถ้าเจ็บอย่ามาบ่นก็แล้วกัน”“แล้วผิงเคยบ่นให้คุณพีร์ฟังไหมล่ะคะ”“ไม่เลย ผิงไม่เคยบ่นว่าเจ็บ ผมไม่รู้เพราะผิงไม่เจ็บหรือเพราะผิงทนเพื่อผม”“ถ้าบอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ถูกหรอกค่ะ ผิงเจ็บแต่มันไม่มากถึงขั้นทนไม่ไหว คุณพีร์ทำให้ผิง
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในสภาพเปลือยเปลา พีราวัชรขึ้นมาคร่อมทับตัวหญิงสาว เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ก่อนบดจูบลงบนริมฝปากบางอยางดูดดื่ม มือหนาทั้งสองข้างคลึงเคลาสองปทุมอวบอิ่มอย่างมันมือ ปลายนิ้วสะกิดยอดปทุมถันปลุกเร้าจนเสียงหวานครางระงม“อื้อ....”จูบจนพอใจเขาก็ลากไล้ความเปียกชื้นไปตามซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มดูดดึงไปตามแรงอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง ผิวเนียนนุ่มขึ้นรอยแดงไปทั้งทุกจุดที่ปากร้อนเลื่อนผ่าน ลากไล้มาจนถึงร่องปทุมอวบอิ่ม ลิ้นร้อนลากปัดป่ายบนยอดสีสวย ก่อนจะส่งปากร้อนครอบครองด้วยความเสน่ห์หาหญิงสาวได้แต่ดิ้นพล่านเสียงหวานครางเพื่อระบายความเสียว เขาหยอกเย้าดูดกินจนอิ่มหนำก็เลื่อนตัวลงไปเรื่อยๆ จนหยุดกลางขาเรียวทั้งสองข้าง เธอชันเข่าขึ้นอย่างรู้งานไม่นานความสุขก็แตกกระจายเข้าสู่กายของพิจิกา หญิงสาวหอบสะท้านก่อนจะถูกเขาโน้มกายลงหาตัวเธอนอนคว่ำไปกับที่นอน ขณะที่ท่อนเอ็นของเขายังคงกระตุกอยู่ในกายเธออย่างยาวนาน ปากร้อนพรมจูบลงบนแผ่นหลังอย่างหลงใหล“ผมไม่เคยเจอใครที่สุดยอดเหมือนคุณมาก่อน ที่รัก ผมรักคุณนะผิง”“ผิงก็รักคุณพีร์ค่ะ”พิจิกายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อชายหนุ่มถอด
เป็นครั้งแรกที่พี่จิกต้องนั่งเครื่องคนเดียวข้ามประเทศแต่พอลงจากเครื่องก็ได้เจอกับพีราวัชรที่รออยู่ตรงจุดรับกระเป๋า“บังเอิญจังเลยนะครับที่ได้เจอกันที่นี่”“ค่ะ บังเอิญมาก ว่าแต่จะบังเอิญพักที่เดียวกันด้วยไหมคะ” พิจิกาถามก่อนที่ทั้งสองจะเดินตามกันไปยังรถของโรงแรมที่จอดอยู่เที่ยวบินที่พวกเขาโดยสารมาเป็นเที่ยวบินที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิดึกที่สุดพอมาถึงสิงคโปร์และเข้าที่พักก็เกือบจะตีหนึ่ง โรงแรมที่ชายหนุ่มพาเธอมาพักเป็นโรงแรมหรูห้าดาวที่อยู่บริเวณอ่าวมารีนา สามารถมองเห็นวิวยามค่ำคืนรวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญอย่างสิงคโปร์ฟลายเออร์ได้อีกด้วย“สวยจังค่ะคุณพีร์ ผิงไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาพักโรงแรมหรูแบบนี้” พิจิกตื่นเต้นกับภาพความสวยตรงหน้า“ถ้าผิงชอบเราจะมากันทุกวันหยุด”“ไม่เอาหรอกค่ะ ราคาห้องมันคงแพงมาก”“แพงแค่ไหนผมก็ยอมจ่ายถ้าผิงชอบ” พีราวัชรเดินมาสวมกอดเธอด้านหลัง“ค่ะผิงชอบ แต่ถ้ามาบ่อยๆ ผิงกลัวว่าคุณพีร์จะหมดตัวเสียก่อน”“ถ้าผมหมดตัวผิงยังจะรักผมไหม”“รักสิค่ะ ผิงไม่ได้รักคุณพี่ที่เงิน”“ผมรู้ ผมถึงได้รักผิงมากยังไงล่ะ”“วิวสวยมากเลยนะคะ เหมือนอยู่บนสวรรค์”“เคยเห็นเหรอครับว่าสวรรค์เป
หลังจากเคลียร์เอกสารทุกอย่างเสร็จแล้วพีราวัชรก็เรียกกิ่งแก้วและพิจิกาเข้ามาในห้องทำงาน“นั่งก่อนทั้งสองคนนั่นแหละ”“ขอบคุณค่ะ/ ขอบคุณค่ะ” เลขาและผู้ช่วยเลขาพูดพร้อมกันก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะของรองประธาน“ผมอย่างจะถามคุณกิ่งว่าผ่านมาสองเดือนแล้วพิจิกาทำงานเป็นยังไงบ้าง”“น้องผิงทำงานเรียบร้อยดีค่ะ เรียนรู้ได้เร็วมากค่ะ”“แล้วคุณมั่นใจไหมว่าถ้าคุณหยุดงานไปหกเดือนงานทุกอย่างจะไม่มีปัญหาอะไร”“กิ่งมั่นใจค่ะ ที่ผ่านมาน้องผิงไม่เคยทำงานพลาดเลย เธอรอบคอบและมีไหวพริบมากกว่ากิ่งด้วยซ้ำ”“ถ้าอย่างนั้นช่วงที่คุณลางานผมคงไม่ต้องหาใครมาเพิ่มใช่ไหม”“ผิงคิดว่าไหวไหม” กิ่งแก้วหันมาถามผู้ช่วย“คิดว่าไหวค่ะพี่กิ่ง”“ถ้าไหวก็ดี เอาล่ะเรื่องงานผ่านไปแล้ว ทีนี้ก็มาถึงเรื่องวันหยุดยาว”“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณพีร์”“ผมอยากให้คุณกิ่งช่วยดูให้หน่อยว่าหลังวันหยุดผมต้องไปเจอลูกค้าหรือไปตรวจงานที่สาขาไหนหรือเปล่า”“สักครู่นะคะ” กิ่งแก้วเปิดตารางงานของเจ้านายขึ้นมาดูก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบเขาอีกครั้ง“คุณพีร์ต้องไปร่วมงานเปิดสาขาใหม่คู่ค้าที่สิงคโปร์ค่ะ”“เดี๋ยวผมจัดการจองตั๋วเองนะ”“ได้ค่ะ ครั้งนี้คุณพีร์จะใ
กลับมาจากเวียดนาม ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ พิจิกาทำงานได้เป็นอย่างดี จนกิ่งแก้วรู้สึกวางใจถ้าเธอจะต้องลางานถึงหกเดือนพิจิกาเองก็ปรับตัวได้ดีกับทั้งเรื่องงานและเรื่องของความรัก หลังเลิกงานหญิงสาวก็จะรอกลับพร้อมกับพีราวัชร แต่บางวันก็ขอไปทานข้าวเย็นกับมารดาบ้าง พีราวัชรก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขาเองก็ต้องแบ่งเวลาให้กับครอบครัวเหมือนกันอย่างเย็นวันนี้ชายหนุ่มมาส่งเธอที่บ้าน ก่อนจะรีบขอตัวกลับไปที่บ้านของตนเอง เพราะมารดาบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยเขาไม่รู้ว่าเรื่องที่มารดาจะพูดนั้นเป็นเรื่องอะไร พอไปถึงและทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว พีราวัชรก็ถูกเรียกมานั่งคุยที่ห้องทำงานซึ่งวันนี้ใบหน้าของมารดานั้นดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก“พีร์มีอะไรจะสารภาพกับแม่ไหม”“ไม่มีนี่ครับ”“แน่ใจนะว่าไม่ได้ทำอะไรผิดหรือแอบทำอะไรลับหลังแม่” คุณประภัสสรมองหน้าบุตรชายอย่างคาดคั้น“พีร์ พ่อว่ามีอะไรก็รีบสารภาพไปเถอะ เผื่อบางทีอาจจะได้ลดโทษบ้าง”“ทำไมพ่อกับแม่ทำเหมือนกับว่าผมไปทำอะไรผิดมาอย่างนั้นแหละครับ”“แม่จะไม่อ้อมค้อมแล้วนะ”“ครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าผมไปทำอะไรผิดมา” ชายหนุ่มมั่นใจว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดและเรื่องของต
“ผิง ถ้าคืนนั้นไม่เจอผมคุณก็คงเลือกมันใช่ไหม”“คุณกำลังดูถูกผิงอยู่”“ยังจะเถียงก็เห็นอยู่ว่าพอเจอกันก็หน้าระรื่น”“หึงเหรอคะ”“...” พี่ราวัชเงียบ เขาเพิ่งรู้ตัวเองว่ากำลังหึงและไม่มีเหตุผล“คุณพีร์ขา ผิงไม่คิดอะไรกับเขาเลย” เธอพยายามใจเย็น เพราะดูแล้วเขาจะทั้งเมาและโมโหจนคุมตัวเองไม่อยู่“คุณจะมีผมคนเดียวใช่ไหม”“แน่นอน ผิงมีคุณคนเดียว”“คุณพีร์เมาแล้ว ผิงพาไปนอนนะคะ”พิจิกาพยุงคนเมามายังที่นอนกว้างแต่พอถึงเตียงเขากลับผลักให้เธอลงไปนอนพร้อมกับกระชากชุดของเธอออกอย่างรวดเร็วก่อนโน้มใบหน้าเข้าใกล้ใบหน้าสวย สัมผัสจูบแผ่วเบาบนเรียวปากทำให้พิจิการู้สึกว่าตอนนี้เขากำลังกลับมาเป็นพีราวัชรคนเดิมของเธอแล้ว “อ้าห์....”เสียงครางหลุดออกมาจากลำคอระหงเมื่อปากร้อนเข้าครอบครองปทุมถันเต่งตึง สลับกับมือใหญ่บีบเคล้นอีกข้างพิจิกาเริ่มดิ้นเพราะถูกความรู้สึกเสียวซ่านเข้าจู่โจม เธอแอ่นร่างเปิดทางเชื้อเชิญเขาดูดดึง หยอกล้อกับความอวบอิ่มของตนมากขึ้นพีราวัชรเลื่อนใบหน้าลงต่ำมาไปตามผิวเนียนนุ่มจนถึงหน้าท้องแบนราบที่กำลังเกร็งสะท้านกับสัมผัสร้อนที่รินรดไปทั่วผิวกาย เขาเหมือนจะควบคุมความต้องการข
มาถึงดานังในเวลาบ่าย พอเอาของเข้าที่พักแล้วก็ใช้บริการรถโรงแรมให้ไปส่งที่เมืองฮอยกันซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก ทั้งสองพากันมาเดินเล่นย่านเมืองเก่า พิจิกาถ่ายรูปไปทั่วเพราะอยากจะเอาไปอวดมารดาโดยมีพีราวัชรเป็นตากล้องให้ พอเดินจนเหนื่อยก็ทานอาหารที่นั่นก่อนจะพากันนั่งรถกลับมายังโรงแรมพิจิกานั่งพิงกับไหล่หนาใบหน้ายิ้มอย่างมีความสุขขณะที่ดูรูปในมือถือ“พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวไหนกันคะ”“ผิงอยากไปไหนล่ะครับ”“บานาฮิลล์ค่ะ คุณพีร์เคยไปไหมคะ”“ยังเลยครับ เดี๋ยวถ้ากลับถึงโรงแรมแล้วผมจะถามโรงแรมให้นะครับว่าจะไปที่นั่นได้ยังไงบ้าง”จากนั้นพิจิกาก็นั่งหลับมาจนถึงโรงแรม พีราวัชรพาเธอมาส่งที่ห้องก่อน ส่วนตัวเขานั้นกลับไปยังหน้าล็อบบีของโรงแรม ซื้อสำหรับสองคนเพื่อไปเที่ยวบานาฮิลล์ตามที่พิจิกาอยากไปเขากลับมาบนห้องอีกครั้งคนที่อยากเที่ยวก็หลับไปก่อนแล้ว พีราวัชรรีบอาบน้ำแล้วตามเธอขึ้นบนเตียงแม้ในใจอยากจะทำมากกว่ากอดแต่เพราะพรุ่งนี้จะต้องออกเดินทางจากโรงแรมตั้งแต่เช้าจึงต้องข่มใจให้นอนกอดเธอไปแบบนั้นเช้าวันใหม่พิจิกาแต่งตัวสดใส เธอกับเขาพากันลงมาทานอาหารตั้งแต่เช้า พอแปดโมงครึ่งรถบัสก็มารับนักท่องเที่ยวที่ซื