“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ”
เสียงแหบพร่าเอ่ยถาม ลมหายใจผ่าวร้อนรินรดแก้มที่แดงเรื่อ หญิงสาวกัดริมฝีปากแล้วสบตากับชายหนุ่มตรงหน้าก่อนเอ่ยเสียงแผ่วเบา
“ไม่..ไม่เปลี่ยนใจค่ะ..อะ..อ๊า..”
เพียงได้ยินคำตอบรับ ลำเอ็นร้อนแข็งขันก็ทิ่มพรวดเข้าไปในร่องรักที่เปียกชุ่ม ความคับแน่นที่ได้รับทำเอาชายหนุ่มขมวดคิ้วหลุดครางเสียงต่ำในลำคอ เขาก้มมองคนตัวเล็กที่ถูกเขาตรึงไว้บนที่นอนหนานุ่มของห้องพักสุดหรูในโรงแรมห้าดาว
“ครั้งแรก?” เขาถาม
หญิงสาวพูดไม่ออก ดวงตากลมสวยมีหยาดน้ำใสๆ เอ่อคลอ คนตัวโตโน้มหน้าลงตวัดลิ้นที่หางตาของหญิงสาวพร้อมกับโยกเอวบดคลึงเพิ่มความเสียวซ่าน
“โทษที ผมไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยน”
ดวงตากลมโตสบตากับดวงตาคมปลาบของเขา ขณะที่เขาถอนลำเอ็นออกจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับเข้ามาใหม่จนร่างกายเธอสั่นไหว ท่อนเอ็นอวบใหญ่กระแทกไปถึงผนังอ่อนนุ่มด้านในสุด มือใหญ่เคล้นคลึงหน้าอกคู่สวย ความเสียวซ่านแทนที่ความเจ็บแปลบที่ได้รับ ร่างอวบอิ่มบิดเร่าด้วยความทรมานและสุขสม
“อึก อึก...บอส..บอสค่ะ...”
“เรียกชื่อผม” เสียงเขาสั่นพร่าแล้วอ้าปากดูดดึงยอดอกสีหวาน ขบเม้มจนหญิงสาวใต้ร่างร้องครวญครางด้วยความเสียวกระสัน
“คุณ..คุณ..อ๊า ...”
“เรียกสิ”
เหมือนจะลงโทษที่คนปากหนักไม่ยอมเรียกชื่อ เอวสอบขยับโยกไม่ปรานีกดขย่มจนคนใต้ร่างแทบจมที่นอน
“แน่นชะมัด” เขาเริ่มสบถหยาบคายหลายคำ คนใต้ร่างนุ่มนวลและร้อนแรงทำเอาเขาแทบคลั่ง “คนสวย ผมจะทำให้คุณจำคืนนี้ไปทั้งชีวิตของคุณ”
กฤติกาหลับตาลงซึมซับความสุขที่เขามอบให้ และแน่นอน เธอรู้ว่าเธอไม่มีวันลืมผู้ชายคนแรกของเธอได้แน่นอน แต่ความเผ็ดร้อนที่เขามอบให้ก็ทำเอาเธอแทบขาดใจตายอยู่แล้ว
“คุณ...ไรอัน...อะ... อ๊า!”
หญิงสาวหลุดเสียงหวีดร้องร่างเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานออกมาจนอาบลำเอ็นแข็งขันที่ไม่ยอมหยุดแม้รู้ว่าอีกฝ่ายไปถึงฝั่ง เขายังเร่งซอยเอวถี่รัวอย่างไม่ผ่อนปรน แรงตอดรัดโอบรัดลำเอ็นทำเอาชายหนุ่มต้องครางออกมา แต่มันยังไม่พอสำหรับผู้ชายที่ชื่อไรอัน โจนส์ เขาช้อนแผ่นหลังเธอขึ้นให้หญิงสาวนั่งหันหน้าเข้าหา จับเอวบางไว้มั่นแล้วยกเอวขึ้นกระแทกตออย่างดุเดือด หน้าอกสั่นไหวขึ้นลงตามกระทุ้ง เขาไม่สนใจว่านี่เป็นครั้งแรกของหญิงสาว ไม่สนใจว่าร่างขาวเนียนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อและบางจุดเป็นรอยช้ำเล็กๆ โดยเฉพาะที่หน้าอก เขาขบกัดอย่างมันเขี้ยวทำเอาหญิงสาวได้แต่ครวญครางลืมอาย เส้นผมยาวสลวยนุ่มมือแผ่สยายเต็มแผ่นหลัง ริมฝีปากอิ่มบวมเจ่อขึ้นเล็กน้อยแต่เผยอปากส่งเสียงครางไม่หยุด
ร่างอรชรเกร็งกระตุกไปอีกครั้ง ความสุขสมที่ชวนให้ตาพร่าทำให้เธอผวากอดเขาแน่น รับรู้เพียงร่างของเขาเองก็กระตุกตามเธอไปเช่นกัน เธอหูอื้อตาลายไปหมดไม่ได้ยินว่าเขาสบถหรือพูดว่าอะไร บางที...เขาอาจไม่ได้ชอบเซ็กส์ครั้งนี้เท่าไหร่นัก
ก็ช่วยไม่ได้นี่น่า เขามันมือเก๋าช่ำชองแต่เธอมันมือใหม่อ่อนหัด ถ้าเขาจะไม่ชอบก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว
ช่วยเป็นของขวัญของฉันได้ไหม
กฤติกา คือชื่อของหญิงสาวร่างเล็กสูง156 เซนติเมตร พ่อของเธอชอบดูดาวเลยตั้งชื่อตามกลุ่มดาวลูกไก่ แต่จะตั้งชื่อเล่นลูกสาวคนเดียวว่าดาวลูกไก่ก็จะยาวไป ไปๆมาๆกลายมาเป็น ‘ดาว’ ได้ไงก็ไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ เธอเหลือเวลาทำงานในบริษัทนี้อีกแค่สองอาทิตย์เท่านั้น เธอยื่นใบลาออกแล้ว หัวหน้าเองก็ได้แต่ถอนหายใจ และขอให้เธอทำงานให้ถึงสิ้นเดือน ซึ่งกฤติกาก็ไม่ปฏิเสธ เธอก็ไม่ได้อยากลาออก แต่เพราะคำสั่งของพ่อ เธอเองก็ผลัดมานานถึงสามปีแล้ว ได้เวลาต้องกลับบ้านนอกแล้ว
เธออยากใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ นั้นเป็นความคิดตั้งแต่อยู่มัธยม ทำให้เธอแอบสมัครเรียนและสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ทั้งที่พ่อแม่และพี่ชายทั้งสามต่างต้องการให้เธอใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด แต่ในเมื่อเธอสอบได้พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ชีวิตที่อยู่ไกลบ้านก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเธอมากนัก หลังเรียนจบเธอก็รีบสมัครงานซึ่งก็นับว่าโชคดีที่เธอได้ทำงานที่บริษัทแห่งนี้ทันทีที่เรียนจบ คราวแรกพ่อให้เวลาเธอแค่สองปี ถ้ามันไม่ดีอย่างที่คิด พวกเขาก็จะมารับเธอกลับบ้าน แต่เธอก็ยื้อไว้จนปีที่สาม ดูเหมือนเธอก็ยังคงเป็นแค่พนักงานเล็กๆ เท่านั้น
คนที่ทำให้เธอกระตือรือร้นอยากมาทำงานทุกวันก็คือบอสสุดหล่อ ‘ไรอัน โจนส์’ เจ้าของความสูง185 เซนติเมต รเรียกได้ว่าเป็นนายแบบได้สบายๆ รวมทั้งหน้าตาหล่อเหลา หากไม่เพราะได้ยินเขาพูดภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำก็คงไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกครึ่ง บิดาเป็นชาวอังกฤษส่วนมารดาเป็นคนไทย ส่วนเธอเป็นพนักงานตำแหน่งเล็กๆ ที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา แน่นอน เพราะเขามักคบกับคนระดับเดียวกันเสมอ ผู้หญิงที่เขาควงแต่ละคน ถ้าไม่ใช่ดารานางแบบชื่อดังก็เป็นคนในแวดวงไฮโซ เธอเคยเห็นข่าวของเขาบ่อยๆ
อันที่จริง ความรู้สึกของเธอที่มีต่อBossสุดหล่อ อาจเรียกได้ว่าเป็นความชื่นชม หลงใหลคลั่งไคล้ตามประสาสาวโสดก็ว่าได้ และเพราะคืนนั้นความเมาจากเครื่องดื่มสีสวยที่ไม่คิดว่าน้ำหวานๆจะเมาได้ ทำให้เธอกล้าหรือบ้าบิ่นก็ไม่รู้ คืนนั้น เธอดื่มเข้าไปหลายแก้วและหมายมั่นปั้นมือจะต้องมีอะไรกับบอสสุดหล่อก่อนที่เธอจะกลับบ้านเกิด เธอดื่มไปหลายแก้วและรู้สึกมึนขึ้นมานิดๆ แต่กระนั้นสายตาของเธอยังคงอยู่ที่ผู้ชายในชุดสูทสีเข้ม แม้ว่าเวลานี้เนคไทคลายลงจากปกเสื้อเล็กน้อย ในมือของเขาก็ถือแก้วเครื่องดื่มยืนคุยกับหัวหน้าของเธออยู่
คืนนั้นเป็นงานเลี้ยงของบริษัท หลังจากที่ไม่มีงานเลี้ยงให้ลูกน้องได้สังสรรค์มาสองปีเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของโรงแรมหรูระดับห้าดาวต้อนรับพนักงานทุกแผนกของบริษัท กฤติกาเป็นแค่พนักงานที่แทบไม่มีตัวตน ทำงานมาเกือบสามปีแต่แทบไม่มีใครรู้จักเธอเลย เรื่องนั้นก็ช่างมันเถอะ เพราะแรงบันดาลใจในการตื่นเช้ามาทำงานของเธอก็คือได้เห็นหน้าหล่อเข้มของบอส แม้ว่าจะได้เห็นแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม แต่ต่อไปนี้ เธอก็คงจะไม่ได้มองเขาอีกแล้ว
หญิงสาวก้มมองแก้วเครื่องดื่มที่พร่องไปเยอะแล้ว นี่ก็คงเป็น...แก้วสุดท้ายของเธอเหมือนกัน เหมือนกับชีวิตในการทำงานของบริษัทแห่งนี้ เธอรอจนเขายืนคนเดียวแล้วจะเข้าไปทัก
“บอสค่ะ”
“ครับ?”
กฤติกาจำสายตาที่เขาแค่ปรายตามองเธอที่สวมชุดเดรสสีม่วงเปลือกมังคุดกระโปรงยาวเหนือเข่าเล็กน้อย สายตาของเขาทำให้เธอทั้งน้อยใจและโกรธขึ้นมาในเวลาเดียวกัน อาศัยว่าเขายืนอยู่คนเดียวและเสียงเพลงที่ค่อนข้างดัง ทำให้เธอต้องขยับเท้าเข้าไปใกล้ ส่งเสียงพูดออกไป และเขาก็ได้ยินไม่ชัดจึงเป็นฝ่ายโน้มหน้าลงมาใกล้เธอ
“คือ...วันนี้วันเกิดฉันค่ะ”
“อ่อ...”
เขาเพียงรับคำในลำคอ แต่สายตายังจ้องมองเธออยู่ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่เธอเคยได้กลิ่นตอนที่เขาเดินผ่านในที่ทำงานทำให้เธอปั่นป่วนและหัวใจเต้นรัว แต่ถ้าพลาดคืนนี้ไป จะไม่ได้ใกล้ชิดเขาอีกแล้ว
“ฉันอยากได้ของขวัญวันเกิด”
“คุณอยากได้อะไรล่ะ” เขาทำหน้าเหมือนเข้าใจมากขึ้นอีกนิดหนึ่ง
“บอสช่วยเป็นของขวัญวันเกิดให้ฉันได้ไหมคะ”
คราวนี้ดวงตาของเขาหรี่ลงเหมือนจับผิด ช่างเถอะ ถ้าเขาไม่พอใจขนาดจะไล่เธอออกก็ไม่มีผลกับเธอแล้วล่ะ เพราะอย่างไร เธอก็จะไปจากบริษัทนี้อยู่แล้ว เขาเองก็คงไม่เอาเธอไปพูดกับคนอื่นหรอก ที่มั่นใจเพราะเขาไม่รู้จักเธออยู่แล้ว
“ได้”“คะ?” เธอคิดว่าตัวเองฟังผิดจึงจ้องหน้าเขา หวังให้เขาพูดอีกครั้ง“ผมบอกว่าตกลง” เขาพยักหน้าแล้วพูด “ผมเปิดห้องไว้....ผมจะออกไปก่อนอีกสิบนาทีคุณตามไปแล้วกัน” เขาพูดจบก็เดินไปทางอื่น พูดคุยทักทายกับคนอื่นๆอีกเล็กน้อยโดยไม่ได้หันมามองเธอเลยสักนิด แวบแรกเธอเกิดลังเลขึ้นมา วันนี้ไม่ใช่วันเกิดเธอ แค่มุกงี่เง่าที่อยากได้ผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น แต่เขาก็รับมุกด้วย ความไม่มีตัวตนของเธอทำให้ไม่ต้องล่ำลาใครก่อนออกจากงานเลี้ยงที่ทุกคนยังสนุกกันสุดเหวี่ยง เธอเข้าห้องน้ำ นั่งทำใจอยู่ครู่หนึ่ง ดูเวลาจากโทรศัพท์มือถือแล้วตัดสินใจเดินไปที่ลิฟต์ กดชั้นที่ต้องการและเดินไปที่ห้องที่ห้องเขาบอกไว้เคาะประตูแล้วก็ถอยออกมาครึ่งก้าว นี่เธอทำอะไรอยู่ ถ้าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว หรือหลอกให้เธอมาเจอใครก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เท้าที่สวมรองเท้าส้นสูงกำลังจะถอยออกไปที่ละน้อย ประตูบานนั้นก็เปิดออกมาก่อน“คุณมาช้าไปสามนาที”“เอ่อ...ขอโทษค่ะ” กฤติกาอดกลัวขึ้นมาไม่ได้ แต่เขายืนรอและจ้องมองเหมือนให้เธอตัดสินใจ ซึ่งสุดท้ายแล้ว เธอก็ก้าวเข้าไปด้านในนั้นแหละ เขาก็กลายเป็นของขวัญให้เธอจริงๆ แต่ไม่ใช่ของขวัญวันเกิดที่เธอก
เพราะใช้ชีวิตคนเดียวจนชิน ได้เวลาเลิกงานแล้วแต่เธอไม่รีบร้อนออกจากบริษัท ก็ไม่รู้จะรีบกลับไปทำไมนี่นะ รถก็ติด เธอมักนั่งเล่นในที่ทำงานต่ออีกหน่อย กว่าจะเก็บกระเป๋าออกจากที่ทำงานก็มักจะหลังหกโมงเย็นไปแล้ว แต่วันนี้กฤติกาอยู่พิมพ์รายงานการประชุมจนเย็นค่ำ เธออ่านตรวจทานอีกรอบแล้วจึงปริ้ตเอกสารใส่แฟ้มให้เรียบร้อย หยิบกระเป๋าสะพายขึ้นคล้องไหล่แล้วถือเอกสารไปวางไว้ที่โต๊ะทำงานของพี่ศศิถ้า...ถ้าเธอไม่อยู่แล้วจะมีใครคิดถึงเธอบ้างไหมนะกฤติกาได้แต่ยิ้มเศร้าให้ตัวเอง เธอแพ้แล้ว อย่างที่พ่อพูดไว้จริงๆ เธอไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตที่กรุงเทพเลยสักนิด ดวงตาคู่สวยกวาดสายตามองรอบๆ อีกครั้งแล้วเดินออกมาจากห้องทำงาน ทว่าร่างของเธอก็ปะทะเข้ากับแผ่นอกกำยำที่ขวางทางอยู่เบื้องหน้า“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ!” กฤติกาเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องเบิกตากลมโตกว้างแล้วเผลอเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างลืมตัว“คุณไรอัน”ประธานหนุ่มเห็นคนตัวเล็กถอยหลังเตรียมตั้งท่าจะหนีก็รีบยื่นมือไปโอบเอวบางมาแนบชิดกับร่างกำยำของตนอย่างรวดเร็ว เร็วเสียจนหญิงสาวไม่ทันตั้งหลัก ร่างเล็กเข้าไปซุกซบในอกของเขาแล้ว“ได้เจอตัวสักที”“คะ?” ดวงตากลมกะพริบตาปริบๆ
“อยากสัมผัสผมเหรอ” เขายิ้มยั่วแล้วจับมือเธอวางบนหน้าอกของเขา “ได้...ได้ไหมคะ” เธอถามอย่างขลาดกลัวแทนคำตอบ เขาปล่อยมือเธอแล้วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแล้วถอดออก เผยแผงอกกำยำและกล้ามท้องเป็นมัดสวย เธอยื่นมือวางบนแผ่นอกตรงตำแหน่งหัวใจรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนใต้ฝ่ามือ แล้วเงยหน้าสบตากับดวงตาสีน้ำตาลสวยที่เวลาราวกับมีลูกไฟโหมไหม้อยู่ในนั้นสิ่งที่เธอต้องการสัมผัสคือหัวใจของเขางเสียงครางต่ำในลำคอทำให้มือนุ่มชะงักไป เขายื่นหน้าไปจูบปากเธออีกครั้ง ความเป็นชายอัดแน่นดุนดันตุงเป้ากางเกง เขาอุ้มหญิงสาวขึ้นอย่างง่ายดายพาเธอไปที่เตียงนอนขนาดคิงส์ไซด์ เธอยกสะโพกขึ้นเพื่อให้เขาถอดกระโปรงออกไปพ้นเรียวขา ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นอีกครั้ง ริมฝีปากของบอสหนุ่มผละจากกลีบปากสาวแล้วพรมจูบลำคอจนเกิดรอยแดง ร่างเล็กกระสับกระส่ายไปมาด้วยความต้องการที่เอ่อล้น ไรอันปลดตะขอชุดชั้นในของเธอออกด้วยมือข้างเดียว แล้วอ้าปากครอบครองยอดอกที่ชูชันท้าทายสายตา เขากดริมฝีปากลงบนผิวอ่อนนุ่มและหอมกรุ่น“อึก...คุณไรอัน...” กฤติกาครางกระเส่าเมื่อยอดอกถูกเขาดูดกลืนด้วยริมฝีปากหยักสวย เขาดูดแรงขึ้นสลับกับใช้ลิ้นตวัดไล้เล
หญิงสาวผวาเฮือกเมื่อลิ้นของเขาแตะที่กลีบเนื้อหยอกล้อกลีบดอกไม้ที่เบ่งบาน ลิ้นร้อนโลมเลียทำเอาร่างกายเธอสั่นระริก เขาจับต้นขาของเธอให้แยกออกกว้าง ละเลงลิ้นไปตามกลีบเนื้อกระตุ้นจุดเสียว กระสันที่ซ่อนอยู่ภายใน มือเรียวเล็กเผลอกดศีรษะของเขา หยาดน้ำหวานหลั่งออกมามาก ไรอันกอบกุมแท่งเอ็นของตัวเองขณะรัวลิ้นใส่กลีบสวาท เสียงหอบหายใจสลับกับเสียงครวญครางทำให้เร่งรัวลิ้นเพื่อกระตุ้นให้เธอไปถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง “อร๊ายยยย” กฤติกาหวีดร้องออกมาอีกครั้ง เธอแทบนับไม่ได้แล้วว่าถูกเขาทำให้เสร็จสมไปกี่รอบ เขาขบเม้มกลีบเนื้อเธอเบาๆ แล้วยันกายขึ้น จ้องมองใบหน้าที่เขินอาย “ผมชอบอยู่ในตัวคุณ” เขาพูดพลาง “คุณเป็นธรรมชาติแบบนี้ล่ะยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว” เขาหยิบหมอนมารองใต้สะโพกทำให้เนินเนื้อโชว์เด่นอยู่เบื้องหน้า เขาประคองท่อนเอ็นที่แข็งขึงทั้งที่ปลดน้ำรักไปเมื่อครู่ค่อยๆกดหัวบากในร่องเสียว ริมฝีปากของเธอสั่นระริก ความเป็นชายใหญ่โตของเขาผลุบหายไปในกายสาว โพรงอ่อนนุ่มบีบรัดจนเขาครางอย่างพอใจ “คุณต้องเลิกคิดว่าทำให้อีกฝ่ายไม่มีความสุข” เขาพูดแล้วเริ่มขยั
ร่างเล็กออกมาจากห้องน้ำ ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ทำให้เธอแทบกลั้นหายใจ กลัวจะเผลอส่งเสียงออกไปแล้วทำให้บอสของเธอต้องลำบากใจ “ก็ได้ รออยู่ด้านล่างนั้นแหละผมกำลังจะลงไปแล้ว” ไรอันพูดด้วยน้ำเสียงปกติแต่คนทั่วไปอาจฟังดูเย็นชา เขาปรายตามองคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอยู่มุมห้องแล้วพยักหน้าเป็นเชิงเรียกให้เธอเดินเข้ามาใกล้ๆ เขาพูดคุยอีกสองสามคำแล้วก็วางปิดโทรศัพท์ “ช่วยติดกระดุมให้ผมหน่อย” “ค่ะ” กฤติกาเดินเข้าไปใกล้แล้วยื่นมือไปติดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้เรียบร้อย ตามด้วยเนคไท และเพราะตัวเธอเตี้ยกว่าเขามากทำให้ต้องเขย่งปลายเท้าขึ้น “ผมมีนัด” เขาพูดแล้วยกมือขึ้นลูบผมยาวนุ่มมือเบาๆ ทำไมเขากลายเป็นคนแบบนี้ไปได้นะ เห็นยัยดาวลูกไก่อะไรนี่ที่ไร อยากจับอยากจูบไปเสียทุกครั้งที่เจอ นับวัน ยิ่งควบคุมความต้องการได้ยากขึ้นทุกที “ค่ะ” เธอได้แต่ยิ้มให้เขา ซึ่งก็คงไม่มีอะไรให้เธอทำได้มากไปกว่ายิ้ม “เก็บกระเป๋าคุณสิ เราลงไปพร้อมกัน” กฤติกาส่ายหน้าไปมาเร็วๆจนผมที่รวบเป็นหางม้าส่ายไปมา ไรอันขมวดคิ้วไม่ค่อยพอใจนัก แต่เธอยังยืนยั
เสียงประตูห้องเปิดออกรบกวนสมาธิของประธานหนุ่ม เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นร่างสุดเซ็กซี่ของไลลาเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม เลขาหน้าห้องวิ่งตามมาติดๆ “ไรอันขา ไลลามารับไปกินมื้อเที่ยงค่ะ” “ขอโทษค่ะ ดิฉันห้ามไม่ทันจริงๆ” “ช่างเถอะ” เขาโบกมือไปมาคล้ายไม่ใส่ใจ เขาไม่ได้โง่และรู้ว่าไลลาต้องการสิ่งใด และเขาก็รำคาญผู้หญิงที่ตามตื้อเขาแบบนี้ด้วย “ไรอันขา ไลลาจองโต๊ะสำหรับมื้อเที่ยงไว้แล้ว เราไปกินข้าวกันค่ะ” ไลลาเดินมาหมายจะนั่งที่ตักของไรอัน แต่ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นก่อนทำเอาดาราสาวหน้าเจือนไปทันที “คุณวิไลช่วยสืบประวัติพนักงานที่ลาออกไปแล้วได้ไหมครับ” “คะ?” เลขาหน้าห้องแปลกใจกับคำสั่งของท่านประธานแต่ก็พยักหน้ารับ “ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ” “ดีครับ ผมอยากรู้ทุกเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อกฤติกา....ได้เรื่องยังไงโทรรายงานผมได้ทันที” เขาบอกชื่อนามสกุลของยัยเวอร์จิ้นไป เลขาคนเก่งฟังครั้งเดียวก็จำได้ ผงกศีรษะรับคำสั่งแล้วหมุนตัวเดินออกไป ดาราสาวอ้าปากค้างที่เห็นประธานหนุ่มไม่สนใจเธอสักนิด ร่างสูงกำลังจะก้าวออกไปแต่ชะงัก
คำหวานสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่บ้านเกิดอยู่ไกลเดินทางไม่สะดวกจึงต้องมาอยู่หอพัก ช่วงเรียนปี1 เธอพักอยู่หอในของมหาวิทยาลัย พอขึ้นปีสองก็มาอยู่บ้านเดียวกับพี่สาวและพี่เขยเพราะพ่อกับแม่อยากประหยัดค่าใช้จ่ายจึงฝากฝังลูกสาวคนเล็กให้มาอยู่กับ ‘คำรัก’ พี่สาวที่แต่งงานได้ปีเศษ จะเรียกว่าแต่งงานได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เธอรู้ว่าพี่สาวจดทะเบียนสมรสกับนักรบ แต่ไม่มีพิธีแต่งงานอะไร ได้ยินพ่อกับแม่พูดว่าเสียดายเงินค่าจัดงานแต่ง เอาเงินมาตั้งตัวดีกว่าบ้านของ ‘นักรบ’ พี่เขยวัยสามสิบอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรใกล้มหาวิทยาลัยและใกล้ที่ทำงานของพี่ทั้งสอง เธอย้ายเข้ามาอยู่ได้เทอมหนึ่งแล้ว ระหว่างที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้อยู่ฟรีกินฟรี เธอทำงานบ้านทุกอย่าง ยังดีที่บ้านชั้นเดียวหลังเล็กกะทัดรัดจึงดูแลไม่ยากนัก ดูแลเรื่องเสื้อผ้าของพี่ทั้งสองรวมทั้งทำอาหารง่ายๆ ที่พี่สาวมักจดรายการให้เธอซื้อของสดมายัดใส่ตู้เย็นไว้ จะว่าไปก็ไม่ได้ลำบากอะไร ยกเว้นเรื่องกิจกรรมเข้าจังหวะของพี่สาวกับพี่เขยที่ระยะหลังมานี้ เอ่อ...เหมือนจะเสียงดังและทำกิจกรรมนอกห้องนอนกันบ่อยๆ ทำให้เธอนอนไม่หลับไปด้วย"ขอบตาดำไปแล้วนะ ทาครีมบำ
“อร๊ายยย” คำหวานร้องครางออกมาเมื่อแท่งเนื้อกดกระแทกเข้ามา“ซี๊ด...ร่องหวานแน่นชะมัด” ธามไทครางกระเส่าแล้วเริ่มโยกสะโพก เขาจับเอวคอดไว้มั่นแล้วซอยลำเอ็นใส่ร่องรักของหญิงสาว ร่างเธอไถลไปตามแรงกระแทกจากด้านหลังจนต้องยึดโต๊ะไว้ให้มั่น ปล่อยให้คนด้านหลังขยับโยก“อูยย อ่าส์ มันลำมากเลยหวาน”ธามไธก้มมองท่อนเนื้อที่ผลุบเข้าออกมาร่องรัก มันอาบน้ำรักของหญิงสาวทำให้เคลื่อนเข้าออกได้สะดวกขึ้น“ซี๊ด...อ่าส์” “ธาม...” คำหวานได้แต่เรียกชื่อเขา รับรู้ได้ว่าเขากระแทกลำเอ็นรัวๆ จนร่างของเธอสั่นไหว สองขาแทบไม่มีแรงยืน“อีกนิดนะหวาน เรา...ใกล้..อะ...ใกล้แล้ว ซี๊ด เสียวมากเลย...อะ อ่า...”ร่องรักขมิบรัดลำเอ็นทำให้เขาได้แต่แหงนหน้าคราง ธามไทเกร็งกระตุกด้วยถึงจุดสุดยอด เขาสูดลมหายใจลึกแล้วค่อยๆ ถอนแก่นกายออกตามด้วยถอดถุงยางมัดแล้วโยนทิ้งในถังขยะใกล้ๆ กัน คำหวานรู้สึกโหวงเหวงชอบกล แต่กระนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง ชายหนุ่มหัวเราะอารมณ์ดี ประคองหญิงสาวขึ้นยืนแล้วดึงกางเกงของเธอขึ้น โน้มหน้าลงจูบกลีบปากเบาๆ ก่อนพาเธอไปนั่งที่โซฟา“ขอเข้าห้องน้ำแป๊บนะ” เขาพูดแล้วผลุบหายไปในห้องน้ำ คำหวานยกมือขึ้นแตะห
“อย่าเพิ่งหลับนะ กูแบกคนเมาขึ้นคอนโดไม่ไหว” หญิงสาวแสร้งทำเสียงดุทั้งที่ใจสั่นไหว ขับรถเก๋งคันเล็กมุ่งหน้าสู่คอนโดที่อยู่ไม่ไกลมหาวิทยาลัยนัก เพราะบ้านอยู่ไกลที่เรียน พ่อกับแม่จึงตัดสินใจซื้อคอนโดให้ลูกสาวอยู่ ตั้งใจว่าถ้าลูกเรียนจบก็เอาไว้ปล่อยให้เช่าได้ ถนนยามค่ำคืนรถราไม่มากนักจึงใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่หมาย หญิงสาวจอดรถเรียบร้อยก็หันไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้เพื่อน เพราะคิดว่าอีกฝ่ายหลับ แต่เขากลับลืมตามองเธออีกครั้ง “มึงก็ยังดีกับกูเสมอเลยนะ” “พูดอะไรเพ้อเจ้อน่า” น้ำมนต์หันไปหยิบกระเป๋าของตัวเองแล้วลงจากรถ รอจนเพื่อนชายลงมายืนแล้วจึงล็อกรถแล้วเดินนำมาที่ลิฟต์ แต่เห็นท่าทางเดินโซเซทำให้ต้องเดินย้อนกลับมาประคองไหล่ของเพื่อนให้เข้าไปด้านใน “มึงตัวหนักขึ้นอีกหรือเปล่าวะ” หญิงสาวบ่นเพราะรู้สึกว่าเพื่อนตัวหนักขึ้น “เมื่อก่อนหิ้วปีกมึงกูยังหิ้วได้สบาย” “เมื่อก่อนนะ มันสมัยออกค่ายปีหนึ่งไม่ใช่เหรอ” อัคคีหัวเราะแล้วเปลี่ยนมาโยกหัวเพื่อนสาวเล่น ถึงจะเรียนคนละคณะ แต่อยู่ชมรมเดียวกัน ได้ไปทำค่ายอาสาด้วยกันอยู่สองสามครั
เสียงหวานครางสุดเสียงร่องรักขยิบรัวทำให้ตรัยภูมิคำรามไปด้วย เขาถอนแก่นกายออกจากร่องสวาท น้ำเมือกวาวใสอาบลำเอ็นเปียกชุ่ม ชายหนุ่มลงไปยืนข้างเตียงแล้วจับข้อเท้าของแพรวา ดึงร่างเล็กมาที่ขอบเตียง แยกเรียวขาออกกว้างจนเห็นกลีบเนื้อสีอ่อนที่บวมแดงเพราะถูกบดขยี้ แพรวากัดริมฝีปาก เวลานี้เธอไม่สนใจว่าอีกด้านของผนักกระจกจะนัวเนียสลับคู่กันขนาดไหน แต่เวลานี้เธอมีแต่เขาเท่านั้นหนุ่มใหญ่จับเอวคอดไม่ให้หลบหนีแล้วเสียบลำเอ็นเข้าไปจนมิดด้าม หญิงสาวขย้ำหน้าอกตัวเองพลางส่งเสียงเผ็ดร้อนออกมา เขากระแทกลำเอ็นจนร่างเล็กสั่นไหว ในห้องแอร์ที่เย็นฉ่ำแต่ร่างเปลือยสองร่างเปียกไปด้วยเหงื่อและน้ำกาม“ป๋าขา...”“เรียกผัวสิ” เขาสั่งอย่างเอาแต่ใจ น้ำรักไหลอาบลำเอ็นทำให้เขายิ่งซอยเอวได้สาแก่ใจ“ผัว...ผัวขา...”เขากระแทกหนักหน่วงขึ้น เสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง ตับ ตับ ตับ เคล้ากับเสียงครางกระเส่า ความเสียดเสียวทำให้โพรงสาวร้อนฉ่าเช่นเดียวกับแก่นกายของเขาที่ร้อนระอุจนในที่สุดก็พ่นลาวาออกมาพร้อมกับร่างเล็กที่เกร็งกระตุกเพราะถึงจุดสุดยอดอีกครั้งตรัยภูมิค่อยๆ ถอนแก่นกายออกช้าๆ มองคราบรักที่ไหลออกมา เขาประคองร่างที่ไร้เรี่ย
“ใจเย็นๆหนูแพร เพิ่งเริ่มเอง”เขาหัวเราะในลำคอแล้วเบี่ยงกางเกงชั้นในตัวน้อยออกไปเพื่อสอดใส่แท่งสีชมพูให้มันสั่นในโพรงสวาท มือเรียวเล็กจิกที่โซฟา ดวงตาคู่หวานจ้องมองภาพเบื้องหน้า สาวสวยหุ่นเร้าใจ สองมือประคองหน้าอกอวบใหญ่เข้าหาจนปลายถันเสียดสีกันไปมา ตรัยภูมิใช้อีกมือที่ว่างขย้ำหน้าอกให้แพรวา หญิงสาวเสียวซ่านได้แต่ครางกระเส่า ร่องรักหลั่งน้ำหวานออกมามาก แพรวาไม่เหลือความอดทนใดๆอีก เธอยกสะโพกขึ้นรับจังหวะจ้วงแทงแท่งสีชมพู สายตาของเธอมองสองสาวที่อยู่หลังบานกระจกใช้แท่งเสียวเสียบในร่องรักของกันและกัน ช่วยกันกระแทกดุ้นสวาทขณะจูบปากแลกลิ้น “อา ซี๊ดดด คุณป๋า หนูแพรจะแตก...อ๊า”เธอหวีดร้องเมื่อถูกเขาปรนเปรอจนน้ำแตก ร่างกายเกร็งกระตุกคาแท่งสีชมพู ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้น ตรัยภูมิไม่รอช้าโน้มหน้าลงจูบกลีบปากหวานฉ่ำ เธอจูบตอบเล่นลิ้นอย่างเร้าร้อน มือใหญ่เลื่อนรูดซิปชุดเดรสของเธอลงเพื่อให้ชุดกระโปรงสีไวน์แดงออกไปพ้นร่าง หน้าอกคู่สวยมีจุกปิดปลายถันอยู่ เขาจัดการมันออกแล้วบี้ปลายถันเล่นทำให้ร่างอรชนบิดเร้าไปมา เธอเสียวซ่านจนต้องขย้ำต้นขาใหญ่ของเขา “ป๋าขา...ใส่เถอะ หนูแพรอยาก
ตรัยภูมินั่งที่โซฟารับแขกแล้วกดมือถือเพื่อจองโต๊ะสำหรับดินเนอร์ งานพวกนี้เขาไม่เคยต้องทำเองแต่เพราะครั้งนี้เป็น ‘เดทแรก’ ของเขากับแพรวา เลือกร้านไม่ไกลนัก เขานั่งรอไม่นานแพรวก็ออกมาในชุดเดรสเกาะอกสีไวน์แดง หน้าอกหน้าใจแทบล้นทะลักแต่ยังดีที่มีผ้าคลุมไหล่ช่วยปกปิดทำให้เขาพอหายใจหายคอคล่องขึ้น ใครว่าเขาไม่หวงแพรวา เขามันขั้น ‘ขี้หวง’แต่ต้องทำใจกว้างเพราะเขาอายุมากกว่าเธอตั้งหลายปี“ผ่านไหมคะ” แพรวายิ้มทะเล้น ตรัยภูมิลุกขึ้นเดินวนรอบตัวหญิงสาวแล้วพยักหน้ารับอย่างพอใจ แต่ก็อดยื่นมือไปแตะลำคอของเธอไม่ได้“คอโล่งไปนะ เดี๋ยวหาสร้อยใส่สักเส้นสิ เอาต่างหูที่เข้าชุดกันด้วยนะ”“คุณป๋า...” “ตามใจป๋าหน่อย” เขาหัวเราะแล้วยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน ไม่นานพนักงานเอาถุงกระดาษหรูหราใส่เสื้อผ้าชุดเดิมของแพรวามาส่งพร้อมคืนบัตรเครดิต ตรัยภูมิถือของให้แพรวาด้วยตนเอง เขาจับมือเธอแล้วมองใบหน้าหวาน“ป๋าไม่ได้เดินจับมือใครมานานมากแล้ว” เขาพูดยิ้มๆ “จะอายไหมถ้าป๋าจะจับมือหนูแพร”แพรวาส่ายหน้าไปมาแล้วยิ้มกว้าง เธอกระชับมือเขาแน่น ไม่ว่าเขาจะพาไปไหน เธอก็ไม่ขัดใจแม้เขาจะบอกว่าวันนี้จะตามใจเธอ ตรัยภูมิพาแพรวาเ
แพรวาทำหน้ายุ่งกับช่อดอกไม้ตรงหน้า เธออ่านการ์ดใบเล็กที่แนบมาด้วยแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจหนักๆ ดอกไม้ช่อที่เท่าไหร่แล้วนะ จะทิ้งก็เสียดาย เพราะดอกไม้ไม่ได้ทำอะไรผิด เธอจึงให้เด็กในร้านเอาไปใส่แจกันประดับร้านกาแฟไป เธอฝากงานให้ผู้จัดการร้านดูแลต่อแล้วออกมารอรถหน้าร้าน ถ้าวันไหนที่คุณตรัยภูมิกลับช้าหรือมีงานที่อื่น เธอจะให้คนที่บ้านขับรถมารับ ก็ทำไมเธอต้องขับรถเองด้วยเล่า ในเมื่อมีคนให้ใช้อยู่แล้วนี่ คุณตรัยภูมิไม่ใช่คนขี้เหนียว ตรงกันข้าม เขาใจสปอร์ตเปย์หนักด้วยซ้ำ เงินเดือนเธอโอนเข้าบัญชีตรงเวลาทุกเดือน อาหารการกินเธออยู่บ้านเขาอยู่แล้วไม่ต้องเสียเงิน หากจะซื้อของใช้ส่วนตัวหรืออยากออกไปกินข้าวนอกบ้าน เธอสามารถใช้บัตรเครดิตที่เขาทำไว้ให้สบายๆ รวมทั้งซื้อเครื่องประดับหรือของแบรนด์เนมที่ถูกใจแต่แพรวาไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น เธอรู้ว่าสถานะของเธอเป็นแค่เมียลับๆ ก่อนหน้านี้เขาเอ็นดูสงสารเพราะเธอยังเรียนไม่จบ แต่ตอนนี้ เธอเรียนจบแล้ว เขาจะหมดความสงสารเธอเมื่อไหร่ก็ได้ จะไปบังคับให้เขารับเธอเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายก็ทำไม่ได้ และต่อให้ทำได้ มันจะมีความหมายอะไร ถ้าใจเขาไม่
จาก ‘ฉัน’ กลายเป็น ‘ป๋า’ ยกสะโพกให้เธอรูดกางเกงออกไปพ้นขา แก่นกายแข็งขันตั้งโด่ แพรวาเลียริมฝีปากตัวเองก่อนค่อยๆ ยื่นหน้าไปใกล้ ใกล้จนแลบลิ้นเลียส่วนปลายหัวบาก เขาเอื้อมมือมารวบผมของเธอขึ้นเผื่อให้เห็นสีหน้าของเธอได้ชัดๆ ใบหน้าหวานแดงก่ำ ลิ้นสีชมพูตวัดลำเอ็นจนเปียกชุ่ม ไล้เลียลำเอ็นราวกับเป็นไอติมแท่งโปรดแสนอร่อย เลียไปสุดฐานไม่ลืมลูกบอลสองลูกก็ถูกเลียจนเปียก เธอได้ยินเสียงครางในลำคออย่างพอใจ ก็อ้าปากอมลำเอ็นค่อยดันเข้าไปในโพรงปาก “ค่อยๆ ระวังอย่าให้โดนฟัน อ่า...แบบนั้นแหละ ดูดมันด้วย อย่างนั้น...อ่า...เสียวลำดีจริงๆ” เขาเอ่ยชมสลับกับส่งเสียงครางทุ่มต่ำ นังหนูนี้ทั้งอมทั้งดูดจนเขาเสียวไปทั่วตัว สลับกับใช้ลิ้นดุนปลายหัวอีก เขาเสียวจนจับศีรษะเธอแล้วโยกเบาๆ เมื่อรู้ว่าเขาเริ่มยั้งตัวไม่อยู่ แพรวาที่ศึกษาจากสารพัดคลิปโป๊ก็ดูดดึงลำเอ็นที่คับเต็มปาก ความเสียวสุดยอดทำให้เขาทนต่อไปไม่ไหวโยกเอวถี่ยิบเมื่อจวนเจียนเขื่อนพังเขาก็ดึงลำเอ็นออกจากปากสวย แต่น้ำรักก็กระฉูดออกมาเปื้อนเปรอะริมฝีปากและใบหน้าของเธอ “หนูแพร” เขาไม่ได้อยากจะทำแบบนี้แต่ก็ยอมรับว่าห่างเรื่องพวกนี้มา
เธอไม่รู้ว่าตรัยภูมิรู้ไหมว่าเธอพยายามอ่อยและให้ท่าเขามากขนาดไหน เคยมีครั้งหนึ่งที่เธอรอแม่จนแอบนอนเล่นบนโซฟาในห้องทำงานของเขาเพราะคิดว่าเขากลับไปแล้ว แต่จู่ๆ เขาก็กลับเข้ามาในห้อง เธอทำอะไรไม่ถูกเลยแกล้งหลับไปเสียอย่างนั้น กระโปรงนักเรียนม.ปลายร่นขึ้นเห็นเรียวขาขาวผ่อง เธอหลับตานิ่งทำเป็นกรนเบาๆ คิดว่าเขาจะลวนลามหรือทำอะไรเธอบ้าง ซึ่งถ้าตอนนั้นเขาทำจริงเธอก็เต็มใจล่ะ แต่เธอได้ยินเสียงถอนหายใจแรงๆ ตามด้วยเสื้อสูทตัวนอกคลุมช่วงเอวไว้ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป เธอได้ยินเสียงปิดประตูและกลั้นใจรออยู่ครู่หนึ่ง ไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะกลับเข้ามาจึงลุกขึ้นนั่ง ตอนนั้นเองที่เธอมั่นใจว่าวิธีการอ่อยไม่ได้ผลกับหนุ่มใหญ่ เธอจึงใช้กลยุทธ์สาวใสไร้เดียงสาเข้าใกล้ อาศัยว่าตัวเองหัวดี เอาผลการเรียนไปให้เขาดูบ้าง เห็นเขายิ้มใจก็เต้นแรง บางครั้งเขาก็ยื่นมือมาลูบหัวอย่างเอ็นดู ตอนนั้นเธอจึงลงสนามการประกวดสารพัดเพื่อให้ได้รางวัลไปอวดเขา หรือถ้าไม่ติดรางวัลก็ทำหน้าเศร้า เขาก็คอยปลอบใจ ที่บริษัทมีการให้ทุนการศึกษาลูกๆของพนักงานที่เรียนดีเป็นประจำ เธอได้ทุกปี แต่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ก็คือเขาให้ทุนเธอพิเศ
นั้นเป็นประโยคที่เขาไม่ได้พูดออไป ได้แต่เด้งเอวรัวใส่ร่องที่ร้อนและเปียกแฉะ แพรวาครางไม่ได้ศัพท์ร่างเล็กกระเด็นกระดอนตามแรงกระแทก ถูกสามีวัยสี่สิบแปดตอกลำเอ็นจนเสียวไปทั่วร่าง เพียงไม่กี่อึดใจ เธอก็กรีดร้องออกมาอีกรอบพร้อมกับชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ผัว’ แม้จะอายุห่างกันถึงยี่สิบหกปีก็ตาม “โอ้ววว สุดยอด หนูแพรของป๋าเด็ดจริงๆ” น้ำรักขาวขุ่นไหลทะลักล้นจนเปื้อนเปรอะ แพรวาหอบหายใจแรงก่อนค่อยๆ ยกตัวออกจากร่างแกร่งแล้วนอนแผ่หราบนเตียง ตรัยภูมิหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี ดึงเมียเด็กเข้ามากอดใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน “คุณป๋าแกล้งหนูแพร” หญิงสาวต่อว่าไม่จริงจังนักแต่วาดวงแขนกอดเขาทั้งที่ร่างเปลือยเปล่า “แกล้งอะไรกัน ก็ป๋าบอกว่ามันดึกแล้วให้หนูแพรนอน หนูแพรก็ไม่เชื่อ” แพรวาเอ่ยอย่างเพิ่งนึกได้ “อ้อ คุณดารินให้เตือนคุณป๋าว่าอย่าลืมนัดไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ” “อื้ม ป๋าลืมไปแล้ว” “ถึงวันนัดแล้วหนูแพรจะเตือนอีกทีค่ะ” หญิงสาวได้แต่ก้มหน้าเข้ากับอกอุ่น หน้าที่ของเธอคือเป็นเมียของเขา แม้ว่าจะไม่ได้มีฐานะใด
เรื่องสั้น เมียเด็กของคุณป๋า เจ้าของบ้านเปิดประตูห้องนอนเบาๆ ด้วยเกรงว่าคนที่หลับอยู่จะตื่น แม้จะพยายามให้เบาที่สุด แต่หญิงสาวก็รู้สึกตัวและงัวเงียลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนขนาดใหญ่ ชุดนอนเป็นเสื้อยืดลายตุ๊กตาหมีสีเหลืองสดใสแต่ไหล่เสื้อเลื่อนหล่นเผยให้เห็นหัวไหลกลมมน และไร้สายเสื้อชั้นในทำให้มั่นใจได้ว่าเรือนร่างอวบอิ่มนี้สวมแค่ชุดนอนตัวหลวมแค่ชิ้นเดียว “คุณป๋ากลับมาแล้วเหรอคะ” แพรวาเอ่ยถามแล้วลุกขึ้นเดินไปหา ผมยาวสลวยยุ่งเหยิงอยู่บ้างแต่ดูน่าเอ็นดูจนชายหนุ่มวัยสี่สิบแปดอดไม่ไหวยื่นมือไปลูบผมเบาๆ “ทำให้หนูแพรตื่นเลย” “หนูแพรรอคุณป๋าแต่ไม่รู้หลับไปตอนไหน” หญิงสาวยื่นมือไปช่วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออก “ป๋าก็บอกแล้วว่าคืนนี้ป๋ากลับดึก” เขายิ้มและปล่อยให้มือเล็กๆ ช่วยถอดเสื้อเชิ้ตออก เธอเอาเสื้อของเขาไปหย่นลงตะกร้าใส่ผ้าแล้วหยิบผ้าขนหนูส่งให้ “ก็หนูแพรเป็นห่วงคุณป๋านี่คะ” เธอส่งยิ้มหวาน “ไปอาบน้ำนะคะ หรือจะไม่อาบก็ได้” “ป๋าไม่อาบน้ำแล้วหนูแพรจะไม่เหม็นป๋าแย่เหรอ” เขาหัวเราะออกมากับท่าทางขี้อ้อน