ร่างเล็กออกมาจากห้องน้ำ ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ทำให้เธอแทบกลั้นหายใจ กลัวจะเผลอส่งเสียงออกไปแล้วทำให้บอสของเธอต้องลำบากใจ
“ก็ได้ รออยู่ด้านล่างนั้นแหละผมกำลังจะลงไปแล้ว” ไรอันพูดด้วยน้ำเสียงปกติแต่คนทั่วไปอาจฟังดูเย็นชา เขาปรายตามองคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอยู่มุมห้องแล้วพยักหน้าเป็นเชิงเรียกให้เธอเดินเข้ามาใกล้ๆ เขาพูดคุยอีกสองสามคำแล้วก็วางปิดโทรศัพท์
“ช่วยติดกระดุมให้ผมหน่อย”
“ค่ะ” กฤติกาเดินเข้าไปใกล้แล้วยื่นมือไปติดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้เรียบร้อย ตามด้วยเนคไท และเพราะตัวเธอเตี้ยกว่าเขามากทำให้ต้องเขย่งปลายเท้าขึ้น
“ผมมีนัด” เขาพูดแล้วยกมือขึ้นลูบผมยาวนุ่มมือเบาๆ ทำไมเขากลายเป็นคนแบบนี้ไปได้นะ เห็นยัยดาวลูกไก่อะไรนี่ที่ไร อยากจับอยากจูบไปเสียทุกครั้งที่เจอ นับวัน ยิ่งควบคุมความต้องการได้ยากขึ้นทุกที
“ค่ะ” เธอได้แต่ยิ้มให้เขา ซึ่งก็คงไม่มีอะไรให้เธอทำได้มากไปกว่ายิ้ม
“เก็บกระเป๋าคุณสิ เราลงไปพร้อมกัน”
กฤติกาส่ายหน้าไปมาเร็วๆจนผมที่รวบเป็นหางม้าส่ายไปมา ไรอันขมวดคิ้วไม่ค่อยพอใจนัก แต่เธอยังยืนยันเช่นเดิม
“คนอื่นจะมองบอสไม่ดีเอานะคะ” เธอยิ้มบางๆ ก็มันจริงนี่ ประเดี๋ยวเธอก็ย้ายกลับบ้านที่ต่างจังหวัดแล้ว แต่บอสยังอยู่ที่นี่ หากคนอื่นรู้เข้าว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกับพนักงานในบริษัทคงเสียภาพลักษณ์ที่ดีไปหมดสิ้น เธอไม่อยากสร้างปัญหาให้เขา
“อ้อ! พอดีดาวลืมมือถือไว้ที่แผนกด้วยค่ะ ดาวขอตัวก่อนนะคะ”
ไรอันได้แต่มองร่างหญิงสาวก้าวเร็วออกจากห้องทำงานของเขา ทำไมเขาต้องหงุดหงิดที่เห็นเธอแทบจะวิ่งหนีเขาแบบนี้ด้วยนะ ชายหนุ่มโคลงศีรษะไปมา เขาเดินออกมาจากห้องทำงานแล้วลงลิฟต์ไปที่ชั้นล่างของบริษัท ไลลา-นางแบบสาวสวยคู่ควรคนล่าสุดกำลังถ่ายรูปกับพนักงานต้อนรับ หญิงสาวในชุดกระโปรงสั้นยาวเหนือเข่าเล็กน้อยเห็นประธานบริษัทเดินออกมาจากลิฟต์ก็รีบสาวเท้าเข้าไปหา ยื่นมือไปเกาะแขนเขาด้วยท่าทีสนิทสนมไม่สนใจสายตาของใครต่อใครที่จ้องมองมาทางเธอ
“คิดถึงไรอันจังเลยค่ะ”
ไลลาพูดแล้วทำท่าจะจูบเขา แต่ไรอันเบือนหน้าหนีไปทางอื่นได้ทัน เขาไม่ชอบให้ใครมาจูบเขา ถ้าเขาอยากจูบใคร เขาเริ่มเอง...ก็เหมือนกับ...เอ่อ...ยัยเวอร์จิ้นของเขานั้นแหละ เธอไม่จูบ เขาก็บังคับจูบเอาจนได้
ไลลารู้สึกเสียหน้าขึ้นมาทันที เธออุตส่าห์เป็นฝ่ายมาหาเขาถึงบริษัท นัดแนะให้เพื่อนสนิทมาแอบถ่ายภาพเธอกับไรอันเพื่อสร้างข่าวว่าเธอคบกับเศรษฐีหนุ่มนอกวงการ ช่วงนี้เธอกระแสตก ดารานางแบบใหม่เกิดขึ้นยิ่งกว่าดอกเห็ด ถ้าเธอไม่สร้างสตอรี่ให้ตัวเองก็เห็นทีว่าจะไม่มีงานให้ทำแล้ว และถ้าเขาจริงจังกับเธอ เธอก็พร้อมเซย์เยสทันที
“ผมเคยบอกแล้วนี่ไม่ให้มาที่บริษัท” เขาจับมือเธออกจากแขนของเขาแล้วเดินมาที่ด้านนอกที่รถของเขาจอดอยู่ ไลลาหน้าเจือนแต่ยังฝืนยิ้มออกมา
กฤติกายืนมองภาพนั้นอยู่ห่างๆ แต่หัวใจเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ทั้งที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ แต่ก็...ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้
“ยังไม่กลับบ้านเหรอยัยดาว” พี่ศศิถามอย่างแปลกใจเพราะเห็นรุ่นน้องในแผนกหยิบกระเป๋าออกมาตั้งนานแล้ว แล้วนี่ก็เลิกงานนานแล้วด้วย
“กำลังจะกลับค่ะ” กฤติกาตอบ “ดาวก็นึกว่าพี่ศศิกลับบ้านแล้ว”
“ก็ก้าวออกจากบริษัทแล้ว แต่ไอ้โต้งโทรตาม ไฟล์งานมีปัญหาเรียกข้อมูลออกมาไม่ได้ แล้วต้องพรีเซนฯลูกค้ารอบเช้าก็เลยต้องกลับเข้ามาใหม่ แต่ตอนนี้โอเค.แล้วล่ะ”
กฤติกาพยักหน้ารับ
“ไหนๆ ก็จะกลับแล้ว ไปหาอะไรกินกัน พี่เลี้ยงเอง ถือว่าเลี้ยงส่งเราก็แล้วกัน คงไม่ว่าอะไรนะ มีพี่คนเดียว”
“ไม่เป็นไรค่ะ” กฤติกาโบกไม้โบกมือปฏิเสธ “ความจริงต้องเป็นดาวที่ควรเลี้ยงข้าวตอบแทนพี่ศศิ สามปีที่ทำงานที่นี่ พี่ศศิดูแลดาวมาตลอด ถ้าไม่มีพี่ศศิ ดาวก็ไม่รู้จะเป็นยังไง”
“พูดเกินไป” ศศิหัวเราะแล้วจูงมือรุ่นน้องออกจากบริษัท “เธอทำงานเก่งนะ เสียแค่เข้ากับคนอื่นลำบากไปหน่อย แต่พี่ก็ชอบเรานะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“เอ้างี้ ไปกินชาบูใกล้ๆบริษัทนี่ก็แล้วกัน”
“ได้ค่ะ”
กฤติกายิ้มกว้าง เดินตามพี่ศศิไปร้านชาบูไม่ไกลนัก สองสาวต่างวัยนั่งกินอาหารอย่างง่ายๆ นั่งคุยเรื่องราวที่ผ่านมา กฤติกาเองก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธอได้สนิทสนมกับเพื่อนที่ทำงานคนอื่นเร็วกว่านี้ บางที...เธออาจจะมีความสุขกับเมืองใหญ่แห่งนี้มากกว่าที่เป็นอยู่
“เอาไว้กลับบ้านนอกแล้ว ดาวจะส่งผลไม้ของที่สวนมาให้พี่ศศินะคะ”
“รอรับเลยจ้า” ศศิหัวเราะร่วน
“วันนี้ขอบคุณพี่ศศิมากเลยนะคะ ดาวต้องกลับไปจัดของที่ห้องอีก พ่อกับพี่ชายจะเอารถกระบะมารับค่ะ เขาอยากให้ดาวเตรียมตัวให้พร้อม”
“เข้าใจๆ มื้อนี้พี่เลี้ยง ยังไงพี่จะรอผลหมากรากไม้จากเธอนะยัยดาว”
กฤติกาพยักหน้ารับ เธอสัญญากับพี่ศศิว่าจะส่งผลไม้จากสวนมาให้ ทั้งสองแยกกันหน้าร้านชาบู แต่กฤติกาเดินย้อนมาที่บริษัท เธอแหงนหน้ามองตึกใหญ่โตที่ตัวเองทำงานอยู่ แม้จะเป็นแค่พนักงานตำแหน่งเล็กๆ แต่เธอก็ภูมิใจที่ก้าวมาถึงจุดนี้ด้วยตัวเอง
ส่วนผู้ชายคนนั้น ก็จะอยู่ในความทรงจำของเธอตลอดไป
หลายวันต่อมา
ศศิไม่คิดว่าประธานบริษัทจะเดินมาที่แผนกด้วยตัวเอง เธอมั่นใจว่าตัวเองทำงานได้ดีผิดพลาดน้อยมาก ท่านประธานคงไม่ได้มาตำหนิการทำงานของเธอหรอกนะ ทว่าประโยคที่เอ่ยถามกลับยิ่งทำให้เธองุนงงหนักเข้าไป
“กฤติกาลาออกแล้วค่ะ”
“ลาออก?” ไรอันขมวดคิ้ว ทำไมเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย “ลาออกเมื่อไหร่กัน”
“คือน้องทำเรื่องลาออกไว้ตั้งแต่ต้นเดือนแล้วค่ะ แต่ทางบริษัทขอให้ทำงานให้ถึงสิ้นเดือน รับเงินเดือนงวดสุดท้ายแล้วก็ออกค่ะ”
‘รับเงินเดือนงวดสุดท้าย...นี่วันที่ห้าแล้ว เธอลาออกโดยไม่บอกเลย!แถมยังยื่นใบลาออกมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว’
“ท่านประธานมีอะไรหรือเปล่าคะ” ศศิทำใจกล้าถามออกไป ถึงจะไม่ได้สนิทสนมกับกฤติกามากนัก แต่เท่าที่ผ่านมา กฤติกาทำงานได้ดี ผิดพลาดน้อยมากและไม่ค่อยมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน
“เอ่อ...ไม่มีอะไร” ไรอันพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ยัยเวอร์จิ้นจะอยู่หรือไปเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยเล่า “เอ่อ...คุณพอรู้ไหมว่าทำไมเธอถึงลาออก มีปัญหาในที่ทำงานหรือเปล่า”
‘ถามแบบนี้คงดูดีเป็นเจ้านายใจดีหน่อยนะ’
“กฤติกาไม่มีปัญหาในที่ทำงานเลยค่ะ น้องให้เหตุผลว่าลาออกเพราะที่บ้านอยากให้กลับไปแต่งงานหรืออะไรนี่แหละค่ะ”
“แต่งงาน!แต่งกับใคร!”
“มะ..ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ รู้แค่เป็นคนที่พ่อจัดการให้”
จะบ้าตาย! แต่งงานทั้งที แต่งกับคนที่พ่อหาให้! หาผัวเองไม่ได้หรือไงกัน!
ศศิไม่เข้าใจว่าทำไมท่านประธานทำหน้าตกใจ แต่อีกฝ่ายไม่พูดอะไรอีกก็หมุนตัวเดินออกไป ทิ้งความงุนงงให้พนักงานทั้งแผนก
ไรอันเดินกลับมาทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ในห้องทำงานของตัวเอง เขาเคาะปลายนิ้วกับโต๊ะทำงานอย่างครุ่นคิด แรกทีเดียวเขาแค่แปลกใจที่โทรไปแล้วหญิงสาวไม่รับโทรศัพท์ เขาคิดว่าเธอคงแง่งอนตามประสาผู้หญิง ก็คงเหมือนคนอื่นๆ ที่อยาก ‘จับ’ เขาโดยงัดทุกวิถีทางมาใช้ แต่พอเธอหายไปกลับเป็นเขาที่ ‘คิดถึง’ วันนี้เขายอมเป็นฝ่ายเดินมาหาเธอก่อน คิดว่าจะเซอร์ไพรส์หญิงสาวแต่กลายเป็นเขาถูกเซอร์ไพรส์เสียเอง
ยัยเวอร์จิ้นของเขาไปแต่งงานจริงๆเหรอ แล้วเรื่องของเรา..มันคืออะไร แค่เซ็กส์เหรอ? มันก็ควรเป็นแค่เรื่องเซ็กส์สินะ แต่ทำไม เขาไม่อยากให้จบแบบนี้และรู้สึกยอมไม่ได้ถ้าร่างเนียนนุ่มนั้นมีคนอื่นมาครอบครอง
เสียงประตูห้องเปิดออกรบกวนสมาธิของประธานหนุ่ม เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นร่างสุดเซ็กซี่ของไลลาเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม เลขาหน้าห้องวิ่งตามมาติดๆ “ไรอันขา ไลลามารับไปกินมื้อเที่ยงค่ะ” “ขอโทษค่ะ ดิฉันห้ามไม่ทันจริงๆ” “ช่างเถอะ” เขาโบกมือไปมาคล้ายไม่ใส่ใจ เขาไม่ได้โง่และรู้ว่าไลลาต้องการสิ่งใด และเขาก็รำคาญผู้หญิงที่ตามตื้อเขาแบบนี้ด้วย “ไรอันขา ไลลาจองโต๊ะสำหรับมื้อเที่ยงไว้แล้ว เราไปกินข้าวกันค่ะ” ไลลาเดินมาหมายจะนั่งที่ตักของไรอัน แต่ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นก่อนทำเอาดาราสาวหน้าเจือนไปทันที “คุณวิไลช่วยสืบประวัติพนักงานที่ลาออกไปแล้วได้ไหมครับ” “คะ?” เลขาหน้าห้องแปลกใจกับคำสั่งของท่านประธานแต่ก็พยักหน้ารับ “ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ” “ดีครับ ผมอยากรู้ทุกเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อกฤติกา....ได้เรื่องยังไงโทรรายงานผมได้ทันที” เขาบอกชื่อนามสกุลของยัยเวอร์จิ้นไป เลขาคนเก่งฟังครั้งเดียวก็จำได้ ผงกศีรษะรับคำสั่งแล้วหมุนตัวเดินออกไป ดาราสาวอ้าปากค้างที่เห็นประธานหนุ่มไม่สนใจเธอสักนิด ร่างสูงกำลังจะก้าวออกไปแต่ชะงัก
คำหวานสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่บ้านเกิดอยู่ไกลเดินทางไม่สะดวกจึงต้องมาอยู่หอพัก ช่วงเรียนปี1 เธอพักอยู่หอในของมหาวิทยาลัย พอขึ้นปีสองก็มาอยู่บ้านเดียวกับพี่สาวและพี่เขยเพราะพ่อกับแม่อยากประหยัดค่าใช้จ่ายจึงฝากฝังลูกสาวคนเล็กให้มาอยู่กับ ‘คำรัก’ พี่สาวที่แต่งงานได้ปีเศษ จะเรียกว่าแต่งงานได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เธอรู้ว่าพี่สาวจดทะเบียนสมรสกับนักรบ แต่ไม่มีพิธีแต่งงานอะไร ได้ยินพ่อกับแม่พูดว่าเสียดายเงินค่าจัดงานแต่ง เอาเงินมาตั้งตัวดีกว่าบ้านของ ‘นักรบ’ พี่เขยวัยสามสิบอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรใกล้มหาวิทยาลัยและใกล้ที่ทำงานของพี่ทั้งสอง เธอย้ายเข้ามาอยู่ได้เทอมหนึ่งแล้ว ระหว่างที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้อยู่ฟรีกินฟรี เธอทำงานบ้านทุกอย่าง ยังดีที่บ้านชั้นเดียวหลังเล็กกะทัดรัดจึงดูแลไม่ยากนัก ดูแลเรื่องเสื้อผ้าของพี่ทั้งสองรวมทั้งทำอาหารง่ายๆ ที่พี่สาวมักจดรายการให้เธอซื้อของสดมายัดใส่ตู้เย็นไว้ จะว่าไปก็ไม่ได้ลำบากอะไร ยกเว้นเรื่องกิจกรรมเข้าจังหวะของพี่สาวกับพี่เขยที่ระยะหลังมานี้ เอ่อ...เหมือนจะเสียงดังและทำกิจกรรมนอกห้องนอนกันบ่อยๆ ทำให้เธอนอนไม่หลับไปด้วย"ขอบตาดำไปแล้วนะ ทาครีมบำ
“อร๊ายยย” คำหวานร้องครางออกมาเมื่อแท่งเนื้อกดกระแทกเข้ามา“ซี๊ด...ร่องหวานแน่นชะมัด” ธามไทครางกระเส่าแล้วเริ่มโยกสะโพก เขาจับเอวคอดไว้มั่นแล้วซอยลำเอ็นใส่ร่องรักของหญิงสาว ร่างเธอไถลไปตามแรงกระแทกจากด้านหลังจนต้องยึดโต๊ะไว้ให้มั่น ปล่อยให้คนด้านหลังขยับโยก“อูยย อ่าส์ มันลำมากเลยหวาน”ธามไธก้มมองท่อนเนื้อที่ผลุบเข้าออกมาร่องรัก มันอาบน้ำรักของหญิงสาวทำให้เคลื่อนเข้าออกได้สะดวกขึ้น“ซี๊ด...อ่าส์” “ธาม...” คำหวานได้แต่เรียกชื่อเขา รับรู้ได้ว่าเขากระแทกลำเอ็นรัวๆ จนร่างของเธอสั่นไหว สองขาแทบไม่มีแรงยืน“อีกนิดนะหวาน เรา...ใกล้..อะ...ใกล้แล้ว ซี๊ด เสียวมากเลย...อะ อ่า...”ร่องรักขมิบรัดลำเอ็นทำให้เขาได้แต่แหงนหน้าคราง ธามไทเกร็งกระตุกด้วยถึงจุดสุดยอด เขาสูดลมหายใจลึกแล้วค่อยๆ ถอนแก่นกายออกตามด้วยถอดถุงยางมัดแล้วโยนทิ้งในถังขยะใกล้ๆ กัน คำหวานรู้สึกโหวงเหวงชอบกล แต่กระนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง ชายหนุ่มหัวเราะอารมณ์ดี ประคองหญิงสาวขึ้นยืนแล้วดึงกางเกงของเธอขึ้น โน้มหน้าลงจูบกลีบปากเบาๆ ก่อนพาเธอไปนั่งที่โซฟา“ขอเข้าห้องน้ำแป๊บนะ” เขาพูดแล้วผลุบหายไปในห้องน้ำ คำหวานยกมือขึ้นแตะห
“อะไรกัน พอเสร็จแล้วทำเป็นห่างเหิน” นักรบหัวเราะแล้วปลดเนคไทออกจากปกเสื้อแล้วตามด้วยปลดกระดุมเสื้ออย่างใจเย็น แต่ทำให้คำหวานกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก“หวาน...หวาน...” เธอจะแก้ตัวยังไงดี เขาต้องได้ยินเธอครางเรียกชื่อเขาเต็มสองหูแน่ๆ“ทำหน้าเหมือนกลัว เรื่องพวกนี้ธรรมดาจะตายไป ก็เหมือนกินข้าว กินไม่อิ่มก็หิว เป็นธรรมดา” เขาพูดยิ้มๆ แล้วถอดเสื้อออกพาดไปที่โซฟา อวดมัดกล้ามแน่นๆ แบบคนที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะ กิจกรรมบนเตียง“แฟนทำให้ไม่อิ่มสินะ ถึงหิวแบบนี้”“พี่รบ!” เธอไม่คิดว่าพี่เขยที่มักจะเงียบๆ พูดน้อยจนเรียกได้ว่าไม่ได้คุยกันเลย แต่เวลานี้สายตาโลมเลียและน้ำเสียงที่เขาใช้ เหมือนเป็นคนละคนที่เธอรู้จัก ทั้งกลัว ทั้งอาย ที่ถูกจับได้แบบนี้ คำหวานรีบลุกขึ้นหมายจะเดินหนีเข้าห้องตัวเอง แต่แขนถูกคว้าไว้ก่อน เพียงกระตุกทีเดียวเธอก็เสียหลักนั่งบนตักของเขาแล้ว“ว้าย!” คำหวานร้องเสียงหลง “ปล่อยเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่รักกลับมาเห็นเข้า หวานไม่อยากให้พี่สองคนผิดใจกันเพราะหวาน”แทนที่อีกฝ่ายจะกลัวแต่วงแขนกลับรัดแน่นขึ้น ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหูของน้องเมียคนสวย “นี่ไม่รู้เหรอว่าพี่สาวเธอไปสัมม
“อือ...ผัว...ผัวขา....”“ดี...เมียเสียวไหม ชอบที่ผัวให้เสียวหรือเปล่า”“ชะ...ชอบ...ชอบค่ะ ผัวอึดมาก”“เวลาหิวก็มาให้ผัวทำให้ ไม่ต้องทำเอง” เขาก้มมองก้นกลมกลึงแล้วเปลี่ยนมาดึงแขนสองข้างของเธอมาด้านหลัง ทำให้เธอหนีเขาไม่ได้ต้องรองรับความเสียวกระสันจนแทบขาดใจ“ผัวขา เมียจะเสร็จอีกแล้ว”“รอบนี้พร้อมกัน ผัวจะแตกแล้ว ร่องเมียรัดแน่นมาก เอามันจริงๆ”เขาเร่งขยับสะโพกซอยลำเอ็นรัวแรงไม่สนใจกลีบเนื้อสีอ่อนจะเปลี่ยนสีแดงเพราะถูกเสียดสี เขาถาโถมรุนแรงจนร่างเธอเกร็งกระตุกร่องรักตอดรัวจนชายหนุ่มถึงกับต้องกระแทกเข้าไปจนสุดปล่อยน้ำรักจนหมดสิ้น เขาจำใจถอนแก่นกายออกแล้วจัดการถอดถุงยางที่อัดแน่นด้วยน้ำรัก มัดถุงแล้วทิ้งที่ถังขยะ คำหวานหอบหายใจจนตัวโยน เธอแทบไม่มีแรงทรงตัว ร่างกำลังจะร่วงลงไปกองกับพื้นแต่คนตัวใหญ่ช้อนร่างเธออุ้มแล้วพาเข้าห้องนอนเล็กของหญิงสาว เขาโน้มหน้าลงจูบหน้าผากเธอเบาๆ ปล่อยให้เธอได้พักสักประเดี๋ยว เพราะคืนนี้เขาจัดเต็มแน่นอน! เขาชอบมองสีหน้ายามกระแทกตัวตนเข้าไปจนสุด มันทำให้เขายิ่งอัดสะโพกใส่ไม่เกรงกลีบเนื้อสีอ่อนจะบอบช้ำ เหมือนกับเวลานี้ที่แผ่นหลังของเธอแนบไปกับผนังห้องน
“เธอไม่พูด พี่ไม่พูด ไม่มีใครรู้หรอก”“แต่ว่า...”“หรืออยากเห็นพี่ทะเลาะกับคำรัก” เขาขู่และดูเหมือนจะได้ผลทำให้คำหวานยอมปิดปากเงียบ “เรื่องของพี่ไม่ต้องห่วงหรอก หวงเรื่องของตัวเองเถอะ”"“เรื่องอะไรคะ”“กับไอ้ธามไทนั้นไง” เขาเค้นเสียงพูดอย่างไม่พอใจนัก แสดงความหึงหวงออกมา“ก็ไม่มีอะไรนี่คะ” เธอไม่ได้บอกว่ากดส่งข้อความบอกเลิกไป“ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองถูกหลอก”“หลอกอะไรคะ พี่รบพูดเรื่องอะไรกัน” คำหวานเอียงคอมองอย่างแปลกใจ“ไอ้หมอนั้นมันหลอกหวานอยู่นะ” เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องเมียจะใสซื่อได้ขนาดนี้ “ไม่เชื่อพี่เหรอ จะพาไปให้เห็นกับตาเลยดีไหม”คำหวานไม่แน่ใจว่าพี่นักรบหมายถึงเรื่องอะไร เท่าที่คบกันถ้าไม่นับเรื่องที่ธามไทละเลยความรู้สึกเธอ เขาก็ไม่เคยหลอกเอาเงินหรือให้เธอไปทำอะไรไม่ดีเลยนี่ เธอเห็นสีหน้ามั่นใจของนักรบแล้วก็พยักหน้ารับ เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าธามไททำอะไรที่ไม่รู้บ้าง นักรบหยิบชุดกระโปรงสีดำยาวเหนือเข่าให้คำหวานผลัดเปลี่ยน มันเป็นชุดเดรสสีดำแขนกุดที่ดูเรียบร้อยที่สุดเท่าที่คำหวานพอจะนึกออก เพราะชุดเที่ยวกลางคืนของพี่คำรักเซ็กซี่มากกว่านี้ ที่เธอรู้ว่าเธอเป็นค
“แต่ในใบเสร็จซื้อของใช้ เห็นมีซื้อยาคุมด้วยนี่” “อ๊า!” เธอร้องเมื่อถูกเขารัวนิ้วอย่างแรง “หวาน...หวานกินกันไว้ค่ะ กะ...กลัวพลาด...ท้อง”“ดี” เขายิ้มกริ่มแล้วกระแทกนิ้วจนได้ยินเสียง แจ๊ะๆ น้ำรักหลั่งจนเปื้อนนิ้ว ร่างบอบบางเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมา เขาถอนนิ้วแล้วมองคำหวานทำตาเหม่อลอยมอง เขาดันเธอออกเบาๆ แล้วปลดเข็มขัดออก เพียงแค่นั้น คำหวานก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร“ขย่มพี่หน่อย”“แต่...” เธอกวาดตามองไปรอบๆ ไม่มั่นใจนัก“ถ้าไม่ขย่มลำให้พี่ ก็ใช้ปาก”คำหวานเม้มริมฝีปาก เธอเหลือบมองไปด้านนอก เห็นธามไทกับผู้หญิงคนนั้นเต้นรำนัวเนียกันอย่างสนุก ธามไทเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากหาความสุขให้ตัวเอง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นพี่เขยของเธอก็ตามหญิงสาวหมุนตัวกลับมา เธอค่อยนั่งลงที่พื้นมองแท่งเอ็นที่เขาควักมันออกมานอกกางเกง ลำเอ็นยาวใหญ่ตรงปลายมีน้ำใสๆ เธอยื่นลิ้นไปแตะส่วนปลายตวัดลิ้นไล้เลียอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่พอได้ยินเสียงครางซี๊ด ของเขาแล้ว เธอก็ยิ่งลำพองใจ อ้าปากกว้างแล้วส่งลำเอ็นเข้าไปจนสุด“โอ้ว เด็กดี เก่งมาก มิดลำแล้ว อ่าห์” นักรบก้มมองริมฝีปากสวยที่กลืนดุ้นของเขาไปจนหมดลำแล้วค่อยๆ ขยับช้
“คุณเคยรักฉันบ้างไหม?” จู่ๆ คำรักก็ถาม แล้วก็ยิ้มเศร้าออกมา “ไม่เคยเลยสินะ” “ก็เคยคิดว่าจะลองรักดู แต่เรื่องพนันออนไลน์ผมรับไม่ไหวจริงๆ คุณหมดไปกี่แสนแล้ว ยังหยุดไม่ได้ ต้องหมดเท่าไหร่ถึงจะหยุดได้” “คุณไม่ลองให้โอกาสฉันสักครั้งล่ะคะ” “ผมให้ทั้งเวลาและโอกาสกับคุณแล้ว แต่คุณไม่เคยคว้ามันไว้เลย ทุกวันนี้หนี้สินคุณรุงรังไปหมดแล้ว ต่อให้ไม่ใช่ผม คนอื่นก็ทนไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องเป็นพวกศีลเสมอกันถึงจะอยู่กับคุณได้” “ถ้าฉันเซ็นใบหย่า คุณจะปิดหนี้ให้ฉันใช่ไหม” “อืม แค่ก้อนเดียว อย่างอื่นผมไม่ช่วยแล้ว” คำรักพยักหน้ารับ อย่างน้อยเธอก็รอดจากเจ้าหนี้ที่ทวงตามเงินเธอทุกเช้าเย็น และไม่เสี่ยงกับการถูกฟ้องหย่าซึ่งอาจไม่ได้อะไรกลับมาเลย “คุณชอบยัยหวานจริงๆเหรอ” “ถามบ่อยจัง” “ถึงฉันจะทำตัวไม่ดีกับน้อง แต่คำหวานก็เป็นน้องฉัน” “งั้นคุณควรสบายใจที่ผมจะดูแลคำหวานอย่างดี” เขาแค่ยิ้มบางๆ “ก็ได้ค่ะ เรานัดวันไปเซ็นใบหย่ากัน” เธอยิ้มเศร้าแล้วเดินไปหยิบกระดาษโน้ตมาเขียนที่
“ใจเย็นๆหนูแพร เพิ่งเริ่มเอง”เขาหัวเราะในลำคอแล้วเบี่ยงกางเกงชั้นในตัวน้อยออกไปเพื่อสอดใส่แท่งสีชมพูให้มันสั่นในโพรงสวาท มือเรียวเล็กจิกที่โซฟา ดวงตาคู่หวานจ้องมองภาพเบื้องหน้า สาวสวยหุ่นเร้าใจ สองมือประคองหน้าอกอวบใหญ่เข้าหาจนปลายถันเสียดสีกันไปมา ตรัยภูมิใช้อีกมือที่ว่างขย้ำหน้าอกให้แพรวา หญิงสาวเสียวซ่านได้แต่ครางกระเส่า ร่องรักหลั่งน้ำหวานออกมามาก แพรวาไม่เหลือความอดทนใดๆอีก เธอยกสะโพกขึ้นรับจังหวะจ้วงแทงแท่งสีชมพู สายตาของเธอมองสองสาวที่อยู่หลังบานกระจกใช้แท่งเสียวเสียบในร่องรักของกันและกัน ช่วยกันกระแทกดุ้นสวาทขณะจูบปากแลกลิ้น “อา ซี๊ดดด คุณป๋า หนูแพรจะแตก...อ๊า”เธอหวีดร้องเมื่อถูกเขาปรนเปรอจนน้ำแตก ร่างกายเกร็งกระตุกคาแท่งสีชมพู ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้น ตรัยภูมิไม่รอช้าโน้มหน้าลงจูบกลีบปากหวานฉ่ำ เธอจูบตอบเล่นลิ้นอย่างเร้าร้อน มือใหญ่เลื่อนรูดซิปชุดเดรสของเธอลงเพื่อให้ชุดกระโปรงสีไวน์แดงออกไปพ้นร่าง หน้าอกคู่สวยมีจุกปิดปลายถันอยู่ เขาจัดการมันออกแล้วบี้ปลายถันเล่นทำให้ร่างอรชนบิดเร้าไปมา เธอเสียวซ่านจนต้องขย้ำต้นขาใหญ่ของเขา “ป๋าขา...ใส่เถอะ หนูแพรอยาก
ตรัยภูมินั่งที่โซฟารับแขกแล้วกดมือถือเพื่อจองโต๊ะสำหรับดินเนอร์ งานพวกนี้เขาไม่เคยต้องทำเองแต่เพราะครั้งนี้เป็น ‘เดทแรก’ ของเขากับแพรวา เลือกร้านไม่ไกลนัก เขานั่งรอไม่นานแพรวก็ออกมาในชุดเดรสเกาะอกสีไวน์แดง หน้าอกหน้าใจแทบล้นทะลักแต่ยังดีที่มีผ้าคลุมไหล่ช่วยปกปิดทำให้เขาพอหายใจหายคอคล่องขึ้น ใครว่าเขาไม่หวงแพรวา เขามันขั้น ‘ขี้หวง’แต่ต้องทำใจกว้างเพราะเขาอายุมากกว่าเธอตั้งหลายปี“ผ่านไหมคะ” แพรวายิ้มทะเล้น ตรัยภูมิลุกขึ้นเดินวนรอบตัวหญิงสาวแล้วพยักหน้ารับอย่างพอใจ แต่ก็อดยื่นมือไปแตะลำคอของเธอไม่ได้“คอโล่งไปนะ เดี๋ยวหาสร้อยใส่สักเส้นสิ เอาต่างหูที่เข้าชุดกันด้วยนะ”“คุณป๋า...” “ตามใจป๋าหน่อย” เขาหัวเราะแล้วยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน ไม่นานพนักงานเอาถุงกระดาษหรูหราใส่เสื้อผ้าชุดเดิมของแพรวามาส่งพร้อมคืนบัตรเครดิต ตรัยภูมิถือของให้แพรวาด้วยตนเอง เขาจับมือเธอแล้วมองใบหน้าหวาน“ป๋าไม่ได้เดินจับมือใครมานานมากแล้ว” เขาพูดยิ้มๆ “จะอายไหมถ้าป๋าจะจับมือหนูแพร”แพรวาส่ายหน้าไปมาแล้วยิ้มกว้าง เธอกระชับมือเขาแน่น ไม่ว่าเขาจะพาไปไหน เธอก็ไม่ขัดใจแม้เขาจะบอกว่าวันนี้จะตามใจเธอ ตรัยภูมิพาแพรวาเ
แพรวาทำหน้ายุ่งกับช่อดอกไม้ตรงหน้า เธออ่านการ์ดใบเล็กที่แนบมาด้วยแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจหนักๆ ดอกไม้ช่อที่เท่าไหร่แล้วนะ จะทิ้งก็เสียดาย เพราะดอกไม้ไม่ได้ทำอะไรผิด เธอจึงให้เด็กในร้านเอาไปใส่แจกันประดับร้านกาแฟไป เธอฝากงานให้ผู้จัดการร้านดูแลต่อแล้วออกมารอรถหน้าร้าน ถ้าวันไหนที่คุณตรัยภูมิกลับช้าหรือมีงานที่อื่น เธอจะให้คนที่บ้านขับรถมารับ ก็ทำไมเธอต้องขับรถเองด้วยเล่า ในเมื่อมีคนให้ใช้อยู่แล้วนี่ คุณตรัยภูมิไม่ใช่คนขี้เหนียว ตรงกันข้าม เขาใจสปอร์ตเปย์หนักด้วยซ้ำ เงินเดือนเธอโอนเข้าบัญชีตรงเวลาทุกเดือน อาหารการกินเธออยู่บ้านเขาอยู่แล้วไม่ต้องเสียเงิน หากจะซื้อของใช้ส่วนตัวหรืออยากออกไปกินข้าวนอกบ้าน เธอสามารถใช้บัตรเครดิตที่เขาทำไว้ให้สบายๆ รวมทั้งซื้อเครื่องประดับหรือของแบรนด์เนมที่ถูกใจแต่แพรวาไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น เธอรู้ว่าสถานะของเธอเป็นแค่เมียลับๆ ก่อนหน้านี้เขาเอ็นดูสงสารเพราะเธอยังเรียนไม่จบ แต่ตอนนี้ เธอเรียนจบแล้ว เขาจะหมดความสงสารเธอเมื่อไหร่ก็ได้ จะไปบังคับให้เขารับเธอเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายก็ทำไม่ได้ และต่อให้ทำได้ มันจะมีความหมายอะไร ถ้าใจเขาไม่
จาก ‘ฉัน’ กลายเป็น ‘ป๋า’ ยกสะโพกให้เธอรูดกางเกงออกไปพ้นขา แก่นกายแข็งขันตั้งโด่ แพรวาเลียริมฝีปากตัวเองก่อนค่อยๆ ยื่นหน้าไปใกล้ ใกล้จนแลบลิ้นเลียส่วนปลายหัวบาก เขาเอื้อมมือมารวบผมของเธอขึ้นเผื่อให้เห็นสีหน้าของเธอได้ชัดๆ ใบหน้าหวานแดงก่ำ ลิ้นสีชมพูตวัดลำเอ็นจนเปียกชุ่ม ไล้เลียลำเอ็นราวกับเป็นไอติมแท่งโปรดแสนอร่อย เลียไปสุดฐานไม่ลืมลูกบอลสองลูกก็ถูกเลียจนเปียก เธอได้ยินเสียงครางในลำคออย่างพอใจ ก็อ้าปากอมลำเอ็นค่อยดันเข้าไปในโพรงปาก “ค่อยๆ ระวังอย่าให้โดนฟัน อ่า...แบบนั้นแหละ ดูดมันด้วย อย่างนั้น...อ่า...เสียวลำดีจริงๆ” เขาเอ่ยชมสลับกับส่งเสียงครางทุ่มต่ำ นังหนูนี้ทั้งอมทั้งดูดจนเขาเสียวไปทั่วตัว สลับกับใช้ลิ้นดุนปลายหัวอีก เขาเสียวจนจับศีรษะเธอแล้วโยกเบาๆ เมื่อรู้ว่าเขาเริ่มยั้งตัวไม่อยู่ แพรวาที่ศึกษาจากสารพัดคลิปโป๊ก็ดูดดึงลำเอ็นที่คับเต็มปาก ความเสียวสุดยอดทำให้เขาทนต่อไปไม่ไหวโยกเอวถี่ยิบเมื่อจวนเจียนเขื่อนพังเขาก็ดึงลำเอ็นออกจากปากสวย แต่น้ำรักก็กระฉูดออกมาเปื้อนเปรอะริมฝีปากและใบหน้าของเธอ “หนูแพร” เขาไม่ได้อยากจะทำแบบนี้แต่ก็ยอมรับว่าห่างเรื่องพวกนี้มา
เธอไม่รู้ว่าตรัยภูมิรู้ไหมว่าเธอพยายามอ่อยและให้ท่าเขามากขนาดไหน เคยมีครั้งหนึ่งที่เธอรอแม่จนแอบนอนเล่นบนโซฟาในห้องทำงานของเขาเพราะคิดว่าเขากลับไปแล้ว แต่จู่ๆ เขาก็กลับเข้ามาในห้อง เธอทำอะไรไม่ถูกเลยแกล้งหลับไปเสียอย่างนั้น กระโปรงนักเรียนม.ปลายร่นขึ้นเห็นเรียวขาขาวผ่อง เธอหลับตานิ่งทำเป็นกรนเบาๆ คิดว่าเขาจะลวนลามหรือทำอะไรเธอบ้าง ซึ่งถ้าตอนนั้นเขาทำจริงเธอก็เต็มใจล่ะ แต่เธอได้ยินเสียงถอนหายใจแรงๆ ตามด้วยเสื้อสูทตัวนอกคลุมช่วงเอวไว้ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป เธอได้ยินเสียงปิดประตูและกลั้นใจรออยู่ครู่หนึ่ง ไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะกลับเข้ามาจึงลุกขึ้นนั่ง ตอนนั้นเองที่เธอมั่นใจว่าวิธีการอ่อยไม่ได้ผลกับหนุ่มใหญ่ เธอจึงใช้กลยุทธ์สาวใสไร้เดียงสาเข้าใกล้ อาศัยว่าตัวเองหัวดี เอาผลการเรียนไปให้เขาดูบ้าง เห็นเขายิ้มใจก็เต้นแรง บางครั้งเขาก็ยื่นมือมาลูบหัวอย่างเอ็นดู ตอนนั้นเธอจึงลงสนามการประกวดสารพัดเพื่อให้ได้รางวัลไปอวดเขา หรือถ้าไม่ติดรางวัลก็ทำหน้าเศร้า เขาก็คอยปลอบใจ ที่บริษัทมีการให้ทุนการศึกษาลูกๆของพนักงานที่เรียนดีเป็นประจำ เธอได้ทุกปี แต่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ก็คือเขาให้ทุนเธอพิเศ
นั้นเป็นประโยคที่เขาไม่ได้พูดออไป ได้แต่เด้งเอวรัวใส่ร่องที่ร้อนและเปียกแฉะ แพรวาครางไม่ได้ศัพท์ร่างเล็กกระเด็นกระดอนตามแรงกระแทก ถูกสามีวัยสี่สิบแปดตอกลำเอ็นจนเสียวไปทั่วร่าง เพียงไม่กี่อึดใจ เธอก็กรีดร้องออกมาอีกรอบพร้อมกับชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ผัว’ แม้จะอายุห่างกันถึงยี่สิบหกปีก็ตาม “โอ้ววว สุดยอด หนูแพรของป๋าเด็ดจริงๆ” น้ำรักขาวขุ่นไหลทะลักล้นจนเปื้อนเปรอะ แพรวาหอบหายใจแรงก่อนค่อยๆ ยกตัวออกจากร่างแกร่งแล้วนอนแผ่หราบนเตียง ตรัยภูมิหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี ดึงเมียเด็กเข้ามากอดใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน “คุณป๋าแกล้งหนูแพร” หญิงสาวต่อว่าไม่จริงจังนักแต่วาดวงแขนกอดเขาทั้งที่ร่างเปลือยเปล่า “แกล้งอะไรกัน ก็ป๋าบอกว่ามันดึกแล้วให้หนูแพรนอน หนูแพรก็ไม่เชื่อ” แพรวาเอ่ยอย่างเพิ่งนึกได้ “อ้อ คุณดารินให้เตือนคุณป๋าว่าอย่าลืมนัดไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ” “อื้ม ป๋าลืมไปแล้ว” “ถึงวันนัดแล้วหนูแพรจะเตือนอีกทีค่ะ” หญิงสาวได้แต่ก้มหน้าเข้ากับอกอุ่น หน้าที่ของเธอคือเป็นเมียของเขา แม้ว่าจะไม่ได้มีฐานะใด
เรื่องสั้น เมียเด็กของคุณป๋า เจ้าของบ้านเปิดประตูห้องนอนเบาๆ ด้วยเกรงว่าคนที่หลับอยู่จะตื่น แม้จะพยายามให้เบาที่สุด แต่หญิงสาวก็รู้สึกตัวและงัวเงียลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนขนาดใหญ่ ชุดนอนเป็นเสื้อยืดลายตุ๊กตาหมีสีเหลืองสดใสแต่ไหล่เสื้อเลื่อนหล่นเผยให้เห็นหัวไหลกลมมน และไร้สายเสื้อชั้นในทำให้มั่นใจได้ว่าเรือนร่างอวบอิ่มนี้สวมแค่ชุดนอนตัวหลวมแค่ชิ้นเดียว “คุณป๋ากลับมาแล้วเหรอคะ” แพรวาเอ่ยถามแล้วลุกขึ้นเดินไปหา ผมยาวสลวยยุ่งเหยิงอยู่บ้างแต่ดูน่าเอ็นดูจนชายหนุ่มวัยสี่สิบแปดอดไม่ไหวยื่นมือไปลูบผมเบาๆ “ทำให้หนูแพรตื่นเลย” “หนูแพรรอคุณป๋าแต่ไม่รู้หลับไปตอนไหน” หญิงสาวยื่นมือไปช่วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออก “ป๋าก็บอกแล้วว่าคืนนี้ป๋ากลับดึก” เขายิ้มและปล่อยให้มือเล็กๆ ช่วยถอดเสื้อเชิ้ตออก เธอเอาเสื้อของเขาไปหย่นลงตะกร้าใส่ผ้าแล้วหยิบผ้าขนหนูส่งให้ “ก็หนูแพรเป็นห่วงคุณป๋านี่คะ” เธอส่งยิ้มหวาน “ไปอาบน้ำนะคะ หรือจะไม่อาบก็ได้” “ป๋าไม่อาบน้ำแล้วหนูแพรจะไม่เหม็นป๋าแย่เหรอ” เขาหัวเราะออกมากับท่าทางขี้อ้อน
“คุณเคยรักฉันบ้างไหม?” จู่ๆ คำรักก็ถาม แล้วก็ยิ้มเศร้าออกมา “ไม่เคยเลยสินะ” “ก็เคยคิดว่าจะลองรักดู แต่เรื่องพนันออนไลน์ผมรับไม่ไหวจริงๆ คุณหมดไปกี่แสนแล้ว ยังหยุดไม่ได้ ต้องหมดเท่าไหร่ถึงจะหยุดได้” “คุณไม่ลองให้โอกาสฉันสักครั้งล่ะคะ” “ผมให้ทั้งเวลาและโอกาสกับคุณแล้ว แต่คุณไม่เคยคว้ามันไว้เลย ทุกวันนี้หนี้สินคุณรุงรังไปหมดแล้ว ต่อให้ไม่ใช่ผม คนอื่นก็ทนไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องเป็นพวกศีลเสมอกันถึงจะอยู่กับคุณได้” “ถ้าฉันเซ็นใบหย่า คุณจะปิดหนี้ให้ฉันใช่ไหม” “อืม แค่ก้อนเดียว อย่างอื่นผมไม่ช่วยแล้ว” คำรักพยักหน้ารับ อย่างน้อยเธอก็รอดจากเจ้าหนี้ที่ทวงตามเงินเธอทุกเช้าเย็น และไม่เสี่ยงกับการถูกฟ้องหย่าซึ่งอาจไม่ได้อะไรกลับมาเลย “คุณชอบยัยหวานจริงๆเหรอ” “ถามบ่อยจัง” “ถึงฉันจะทำตัวไม่ดีกับน้อง แต่คำหวานก็เป็นน้องฉัน” “งั้นคุณควรสบายใจที่ผมจะดูแลคำหวานอย่างดี” เขาแค่ยิ้มบางๆ “ก็ได้ค่ะ เรานัดวันไปเซ็นใบหย่ากัน” เธอยิ้มเศร้าแล้วเดินไปหยิบกระดาษโน้ตมาเขียนที่
“แต่ในใบเสร็จซื้อของใช้ เห็นมีซื้อยาคุมด้วยนี่” “อ๊า!” เธอร้องเมื่อถูกเขารัวนิ้วอย่างแรง “หวาน...หวานกินกันไว้ค่ะ กะ...กลัวพลาด...ท้อง”“ดี” เขายิ้มกริ่มแล้วกระแทกนิ้วจนได้ยินเสียง แจ๊ะๆ น้ำรักหลั่งจนเปื้อนนิ้ว ร่างบอบบางเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมา เขาถอนนิ้วแล้วมองคำหวานทำตาเหม่อลอยมอง เขาดันเธอออกเบาๆ แล้วปลดเข็มขัดออก เพียงแค่นั้น คำหวานก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร“ขย่มพี่หน่อย”“แต่...” เธอกวาดตามองไปรอบๆ ไม่มั่นใจนัก“ถ้าไม่ขย่มลำให้พี่ ก็ใช้ปาก”คำหวานเม้มริมฝีปาก เธอเหลือบมองไปด้านนอก เห็นธามไทกับผู้หญิงคนนั้นเต้นรำนัวเนียกันอย่างสนุก ธามไทเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากหาความสุขให้ตัวเอง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นพี่เขยของเธอก็ตามหญิงสาวหมุนตัวกลับมา เธอค่อยนั่งลงที่พื้นมองแท่งเอ็นที่เขาควักมันออกมานอกกางเกง ลำเอ็นยาวใหญ่ตรงปลายมีน้ำใสๆ เธอยื่นลิ้นไปแตะส่วนปลายตวัดลิ้นไล้เลียอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่พอได้ยินเสียงครางซี๊ด ของเขาแล้ว เธอก็ยิ่งลำพองใจ อ้าปากกว้างแล้วส่งลำเอ็นเข้าไปจนสุด“โอ้ว เด็กดี เก่งมาก มิดลำแล้ว อ่าห์” นักรบก้มมองริมฝีปากสวยที่กลืนดุ้นของเขาไปจนหมดลำแล้วค่อยๆ ขยับช้