ได้เจอกันแล้ว...
"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่า พี่ชื่อคีย์ อยู่ปี 2 วิศวกรรมคอมพ์หรือเปล่าคะ" เฟร์ย่าตัดสินใจเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าชายคนดังกล่าวที่นั่งเล่นกีตาร์อยู่โต๊ะนั่ง "ใช่ครับ" หนุ่มหล่อหน้าใส ขาวตี๋ เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงหวานนั้น ก่อนตอบกลับด้วยรอยยิ้มแบบหนุ่มงเพลย์บอย "พอดี พวกเราเป็นเด็กปี 1 ครับ ได้มาตามหาพี่รหัส ได้รหัสเป็นรูปกุญแจ กับ คำว่า กุญแจ เลยคิดว่าน่าจะเป็นพี่ครับ" เบย์เอ่ยขึ้นบ้าง "แล้วเราสองคนเป็นอะไรกันล่ะ รู้จักกันเหรอ หรือเป็นแฟนกัน" คีย์ถามทั้งสองที่เห็นว่ามาด้วยกันแล้วดูสนิทสนมกันเกินที่จะเป็นเด็กปี1 ที่เพิ่งมาเจอกัน "ไม่ได้เป็นแฟนกันครับ พวกเราสนิทกันตั้งแต่เด็ก พ่อแม่เป็นเพื่อนกัน" เสียงของเบย์เป็นฝ่ายตอบแทนเฟร์ย่า เขาคิดว่ารุ่นพี่คนนี้คงอยากรู้ว่าผู้หญิงสวยๆ น่ารักๆ อย่างเฟร์ย่ามีแฟนหรือยังแค่นั้นแหละ คงอยากจะจีบ อยากจะม่อเท่านั้นเอง "อ่อ แล้วมีแฟนหรือเปล่าล่ะเราอ่ะ" คีย์หันกลับมาถามเบย์อีกครั้ง "หมายถึงใครครับ ผมหรือเฟร์ย่า" เบย์ถาม "ทั้งคู่แหละ พี่จะรับหรือไม่รับเข้ารหัส ก็อยากรู้ว่าน้องตัวเองมีแฟนกันหรือยัง จะได้รู้ขอบเขตว่าทำได้แค่ไหน ขนาดไหนที่ทำไม่ได้"คีย์อธิบายให้ทั้งคู่เข้าใจ เพราะคิดว่าทั้งสองคงคิดว่าเขาถามเพื่อจะม่อใส่น้องแน่ๆ และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เบย์คิดตั้งแต่คำถามแรกแล้ว "ครับ/ค่ะ" น้องรหัสทั้งสองรับคำเป็นอันเข้าใจที่คีย์อธิบาย "แล้วพี่จะให้พวกหนูทำอะไรบ้างคะ ถึงจะรับเข้าสายรหัส" เฟร์ย่าถามขึ้นอีก จะได้รีบทำให้จบๆ แล้วกลับบ้าน "ก่อนอื่นเลย พี่แนะนำตัวก่อน พี่ชื่อคีย์ เป็นพี่รหัสของเราทั้งสองคน สายรหัส ลุงรหัส ป้ารหัส ย่ารหัส เดี๋ยวพี่นัดพามาแนะนำอีกทีหลังจากที่พี่รับเข้าสายรหัสแล้วนะ แล้วพวกเราชื่ออะไรกันบ้าง รายงานตัวมาดังๆ ให้คนแถวนี้มองให้ได้" คีย์มอบภารกิจแรกให้กับน้องทั้งสอง "ผมชื่อ สุรสินธ์ บูรณิมา ชื่อเล่นชื่อเบย์ อายุ 22 ปี แต่อยู่ปี 1 ครับ!!" เบย์แนะนำตัวด้วยเสียงดังลั่น ทำเอาคนผ่านไปผ่านมามองมาที่พวกเขาเป็นตาเดียว สร้างความพอใจและรอยยิ้มให้กับคีย์พี่รหัสได้เป็นอย่างดี "ดีมาก น่ารักดี" คีย์เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม "หนูชื่อ เฟรีดา วรารินทร์ ชื่อเล่นชื่อเฟร์ย่า อายุ 20 ปี ค่า!!" เฟร์ย่า ตะโกนแนะนำตัวตามเบย์จนสุดเสียง ทำเอาคนแถวนั้นมองมาแล้วยิ้มด้วยสายตาเอ็นดูกับท่าทางน่ารักของเธอ "555 ดีมากทั้งสองคน เอาเป็นว่าเรารู้ชื่อเล่นกันแล้วนะ การรับเข้าสายรหัสของตระกูลพี่ไม่ยากเหมือนตระกูลอื่น ถ้าเป็นผู้ชายแค่ดวลเหล้ากับพี่ 10 ช็อต ถ้าเมาน้อยกว่าพี่ถือว่าผ่าน ส่วนน้องผู้หญิงถ้าสามารถกิน 2 ช็อตแล้วทำให้นักร้องบนเวทีแซวได้โดยไม่มีการไปอยู่หน้าเวที ถ้าทำได้พี่ให้ผ่าน เพราะฉะนั้นน้องรหัสของพี่ต้องเด็ดพอ ทั้งชายและหญิง" คีย์อธิบายวิธีเข้าสายรหัส สำหรับเบย์ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเขาไปกินเหล้ากับพี่ชายฝาแฝดบ่อยที่คลับของพ่อ ส่วนเฟร์ย่าเรื่องกินเหล้าแค่ 2 ช็อต ไม่มีปัญหา เพราะยัยนี่ตัวตึงได้เชื้อแม่ของเธอกับแม่ของเขามาเต็มๆ แต่ที่จะยากคงเป็นการทำให้นักร้องบนเวทีมาสนใจคนตัวเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางวงล้อมของคนเยอะๆ นี่สิ คงยากที่จะทำได้ "โอเคค่ะ พวกเราคิดว่าทำได้นะ" เฟร์ย่าตอบกลับ "แล้วทั้งสองไม่มีแฟนใช่ไหม พ่อแม่หวงหรือเปล่า ให้ออกมากลางคืนได้ไหม" คีย์ถามต่อ "ได้ค่ะ เฟร์กับเบย์อยู่คอนโด แต่คนละคอนโดค่ะ" เฟร์ย่าบอก เธออยู่คอนโดของแม่ที่พ่อซื้อให้ทั้งตึก ส่วนแม่กับพ่อก็ไปอยู่ที่บ้านซะส่วนใหญ่ ส่วนเบย์ก็อยู่คอนโดของตัวเองกับพี่ฝาแฝด แต่คนละชั้นกัน เธอไปห้องเบย์แต่ก็ไม่เคยเจอพี่บอมพ์เลยสักครั้ง "โอเคๆ งั้นคืนนี้เจอกัน สี่ทุ่ม ที่คลับ BK มากันได้ไหม" คีย์หันไปถามเบย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ เฟร์ย่า ที่ตอนนี้คีย์รู้แล้วว่าเบย์อายุมากกว่าเขา เพราะซิ่วมาปี1 "ได้ครับ เดี๋ยวพวกเราไป คลับนั้น...ไม่มีปัญหา พวกเราไปบ่อย" เบย์ตอบหน้ายิ้มๆ จะมีปัญหาได้ยังไง ก็คลับนั้นเป็นคลับของพ่อเขา ที่มีพี่ชายคอยดูแลอยู่ด้วยทุกวัน "งั้นเจอกันนะ" "พวกหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ เดี๋ยวมีนัดกับครอบครัวด้วย สี่ทุ่มเจอกันค่ะ" พูดจบทั้งเฟร์ย่าและคีย์ก็รีบเดินกลับออกไป เพราะวันนี้พวกเขาเลิกเรียนต้องไปรวมตัวกับครอบครัวของทั้งสองที่สนามแข่งรถของพ่อเธอ เพื่อฉลองที่พวกเธอได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย เฟร์ย่าแอบลุ้นว่านัดรวมครอบครัวกันครั้งนี้ บอมพ์จะมาด้วยไหม ทั้งสองเดินเข้ามาในสนามแข่งรถที่ตอนนี้เงียบสนิท มีผู้คนประปรายที่มาเช่าซ้อมแข่งรถอยู่กลางสนาม ห้องออฟฟิตของสนามแข่งที่มีกระจกอยู่รอบด้านเพื่อเอาไว้ดูการแข่งขัน ภายในห้องมีครอบครัวของเฟร์ย่าและเบย์อยู่กันพร้อมหน้า พอทุกคนเห็นทั้งคู่ก็ยิ้มแย้มต้อนรับเหมือนไม่เจอกันมานานแรมปี "เย้ๆๆ ตาเบย์กับหนูเฟร์มาแล้ววว คิดถึงจังเลยลูกกก" วินเซ่พูดพร้อมกับอ้าแขนทำท่าจะเข้าไปกอดลูกชายแฝดคนเล็ก แต่เบย์เบี่ยงหลบซะก่อน ทำเอาใบหน้าวินเซ่บูดบึ้งส่งสายตาค้อนควับไปให้ลูกชายทันที ก่อนจะเปลี่ยนหันไปหาเฟร์ย่าลูกสาวของเพื่อนสนิท เข้าสวมกอดแน่นทันที "แม่อย่ากอดเฟร์แน่น เดี๋ยวลูกสาวเขาจะหายใจไม่ออกตายพอดี" เบย์แซวแม่ตัวเอง "ก็ฉันรักของฉันนี่ ไม่มีลูกสาวสวยๆ น่ารักๆ จับแต่งตัวเลย มีแต่ลูกชาย คนนึงก็เย็นชาขี้รำคาญ อีกคนก็หวงเนื้อหวงตัว" วินเซ่ส่งสายตาค้อนๆ มองด้วยหางตาไปทางเบย์ "จับผมแต่งตัวก็ได้นะ ไม่ติด" เบย์ตอบพร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟาข้างกับแฟร์รี่ แม่ของเฟร์ย่าที่กำลังนั่งยิ้มกับความแสบซนของเพื่อและลูกชายของเธอ "แต่แม่ติดย่ะ จะให้แม่จับแกแต่งหญิงเหรอ" "อยากมีลูกสาวก็มีสักคนสิ" แฟร์รี่บอกยิ้มๆ "โอ้ย ไม่ไหวหรอก มีสองแสบก็ปวดหัวจะแย่ แถมหนุ่มๆ ก็โตไกลน้องกันหมดแล้ว" "งั้นก็เอาเฟร์เป็นลูกสะใภ้ดิ จะได้มีลูกสาวสมใจ จับแต่งตัวไปเลย" เบย์บอกแม่แล้วยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ เขาส่งให้เฟร์ย่าแล้ว เจ้าตัวได้แต่เขินหน้าแดง เพราะรู้ว่าที่เบย์พูดหมายถึงใคร แต่วินเซ่กลับคิดว่าเฟร์ย่ากับเบย์คบกันถึงขั้นจะให้เป็นลูกสะใภ้ "ก็ดีนะ หนูเฟร์ยิ่งเป็นนางแบบด้วย" วินเซ่ยิ้มร่าอย่างมีความหวัง "แต่หนูเป็นนางแบบเน้นถ่ายวาบหวิวนะคะ" เฟร์ย่าบอกเกี่ยวกับงานอดิเรกที่ทำ "น้าไม่ติดจ้ะ น้ารู้ว่าหนูเซฟอย่างดี หนูสวย แต่งอะไรก็สวย" วินเซ่ยังกอดหลานสาวสุดรักไว้หลวมๆ "มาๆๆ วันนี้เรามาฉลองให้ทั้งคู่ที่ได้เข้าเรียนที่เดียวกับตาบอมพ์ น้องเฟร์น่ะยังพอเข้าใจ เพราะเป็นน้องปีหนึ่งตามวัย แต่...ตาเบย์ ทำไมไปเข้าปีหนึ่งอีกรอบ" วินเซ่หันไปถามที่ลูกชายตัวเองที่นั่งสบายอารมณ์อยู่บนโซฟา เธอคิดว่าเบย์ลูกชายคนเล็กของเธออาจจะเป็นแฟนกับเฟร์ย่าแล้วตามไปเรียนด้วยกัน "เรื่องของผม" เบย์ตอบแบบไม่ยี่หระ "เอ๊า! ไอ้ลูกชายคนนี้ มันกวนจริงๆ" "เอ่อ...พี่บอมพ์ไม่มาอีกแล้วเหรอคะวันนี้" เฟร์ย่าถามขึ้นก่อนที่ทั้งคู่แม่ลูกจะเถียงกันไม่หยุด เธออดใจไม่ไหวที่อยากจะรู้ ทำเอาเบย์อมยิ้มให้กับเพื่อนรุ่นน้องที่อยากรู้เรื่องพี่ชายจนอดใจที่จะถามไม่ไหว "เห็นตาบอมพ์บอกจะมานะ แต่ไม่รู้ว่าจริงไหม กลัวจะบอกปัดๆ ไปงั้น แล้วก็ไม่มา" "มา!!" เสียงทุ่มต่ำนิ่งเรียบของชายวัยรุ่นที่เดินเข้ามาใหม่เอ่ยขัดคนเป็นแม่ ทำเอาทุกสายตาในห้องหันไปหาต้นเสียงเป็นทางเดียว ชายหนุ่มตัวโต รูปร่างสูงโปร่ง ขายาวในชุดเสื้อช็อปสีเลือดหมูเข้มของนักศึกษาวิศวะ กางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำตัดกับผิวขาว ผมดำตัดกับผิวทำให้ใบหน้าดูสว่างใส จมูกโด่งเป็นสันได้รูป รับกับปากหยักสีชมพูธรรมชาติ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มออกดำ ทุกส่วนดูดีดูหล่อเหมือนกับหลุดออกมาจากในนิยาย ทุกคนยิ้มนิดๆ เมื่อเห็นผู้เข้ามาใหม่ แต่คนที่ยิ้มกว้างจนปิดไม่มิดคงมีเพียงเฟร์ย่าคนเดียว ที่ยิ้มกว้างไม่หุบ นิ่งค้าง สายตาจดจ้องไปที่เขาไม่ละสายตา แต่สายตาคมนั้นไม่แม้แต่จะมองมาที่เธอเลยด้วยซ้ำ "เก็บอาการหน่อย" เบย์ลุกมาหยุดยืนกระซิบข้างๆ เฟร์ย่า เฟร์ย่าจึงต้องเก็บอาการในทันที เธอเจอเขาในรอบหลายสิบปี ที่ผ่านมาแอบชอบเขามาตลอด ไม่เคยเปลี่ยน แม้จะไม่เคยเห็นตัวจริง แค่ดูผ่านรูปก็ยอม ในห้องนอนที่คอนโดเธอก็มีแต่งรูปเขา เธอคลั่งรักเขามานานจนเบย์อดที่จะเห็นใจแล้วหาวิธีช่วยไม่ได้ "ทำไมวันนี้มาได้เนี่ย ตาบอมพ์" วินเซ่ถามลูกชายคนโต ที่วันนี้ยอมมาได้ เธอรู้ว่าถ้ามีเฟร์ย่ามาลูกชายเธอจะไม่มา ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน คิดว่าเขาคงไม่ชอบอะไรในตัวเฟร์ย่ามากๆ หรือเพราะตอนเด็กๆ เฟร์ย่าเอาแต่ตามเขา เขาขี้รำคาญเลยไม่ชอบ "มาดูหน้าเด็กผู้หญิงที่เข้าเรียนวิศวะ ที่มีแต่ผู้ชาย" เขาพูดเสียงเรียบ สายตาคมเข้มหันไปมองคนตัวเล็ก พอดีกับที่เฟร์ย่าหันมาสบเข้าพอดี เธอรีบหลบสายตานั้น ทั้งเขินอายและกลัวในเวลาเดียวกัน ใจแทบจะหลุดออกมา "นั่นสิ แม่ก็อยากรู้ เราคิดยังไงเข้าเรียนวิศวะ" แฟร์รี่หันไปถามลูกสาว "เอ่อ...หนูอยาก..." เฟร์ย่าอ้ำอึ้ง จะบอกยังไงล่ะว่าไปเรียนเพราะตามผู้ชายไป "ก็บอกแม่ไปดิ ว่าหนูอยากเข้าไปเรียนและก็หาแฟนไปด้วยเลยค่ะ วิศวะผู้ชายเยอะดี" เบย์พูดแทนเฟร์ย่าแบบยิ้มๆ ความจริงแล้วเพราะอะไรเขารู้ดี แต่ที่เขาพูดแบบนี้เพราะอยากรู้ปฏิกิริยาของพี่ชายตัวเองว่าจะทำยังไง เขาได้แต่สายตาคมกลับมา ที่ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าว่าสายตาคมคู่นั้น เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขาเสียให้ได้ "จริงเหรอเนี่ย ยัยเฟร์!!" แฟร์รี่รีบหันมาถามลูกสาวทันที "พี่เบย์!!" เฟร์ย่าหันไปแว้ดใส่พี่ชายคนสนิท "จริงไหมหนูเฟร์" คราวนี้วินเซ่เอ่ยถามขึ้นมาบ้าง ทุกสายตาหันมาจ้องหลานสาวคนเดียวของกลุ่มเป็นตาเดียว คาดคั้นเอาคำตอบ รวมถึงสายตานิ่งคู่นั้นด้วยที่จ้องมาแบบเดาไม่ได้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไร "จะไปจริงได้ไงคะ พี่เบย์แกล้งเฟร์ จริงๆ เฟร์อยากท้าทายตัวเองว่าจะทำได้ไหม อีกอย่างเฟร์อยากได้เกียร์ของชาววิศวะค่ะ จะยากขนาดไหนกันนะกว่าจะได้มา" เฟร์ย่าอธิบายพร้อมรอยยิ้มสดใส "ถ้าอยากได้ก็เป็นแฟนกับตาบอมพ์สิลูก จะได้เกียร์ของพี่เขา ไม่เห็นต้องไปหาเองเลย" วินเซ่ที่ไม่รู้เรื่องอะไร เสนอเล่นๆ โดยไม่คิด แต่คนฟังที่รู้ดีกลับหน้าแดงถึงใบหู และแอบชำเรืองมองคนที่ถูกอ้างถึงว่าเขาจะตอบว่าอะไร "เบย์...ไปแข่งรถกันสักรอบ" เสียงของบอมพ์ขัดเปลี่ยนเรื่องขึ้นด้วยการชวนน้องตัวเองแข่งรถ "แข่งกับพี่ก็แพ้ดิ" เบย์พูดตอบแต่ก็ยอมลุกเดินออกไปพร้อมกับพี่ชาย เขาใช้แขนของตัวเองชนกับแขนของพี่เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยแซวเมื่อเดินออกมาแล้วอยู่กันสองคน "เปลี่ยนเรื่องชวนแข่งรถ แก้เขินเหรอ" เบย์พูดพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ พี่ชายเขามองหน้าเขานิ่งแล้วเดินต่อไป ไม่ตอบอะไร ทำเป็นไม่สนใจ เบย์ได้แต่ยิ้มและเดินตามหลังลงไปที่สนาม พี่ชายเขาคิดอะไรเขาเดาใจไม่ค่อยถูก ถึงจะเป็นฝาแฝดกันก็เถอะ แต่เขารู้อย่างหนึ่งว่า อาการเมื่อกี้คือเขิน เวลาเขินเขาจะปากไม่ตรงกับใจมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วหวั่นไหว! เด็กน่ารำคาญ"กรี๊ดดดดด พี่บอมพ์สู้ๆ พี่บอมพ์สู้เขา อย่าแพ้พี่เบย์นะ" เสียงเชียร์ของเฟร์ย่าดังลั่นสนามท่ามกลางเสียงเชียร์รอบสนามที่มีรถสองคันสีขาวกับสีดำ น่าจะเดากันได้ไม่ยาก คันสีขาวของเบย์ คันสีดำของบอมพ์ ทั้งวินเซ่และแฟร์รี่หันไปมองทางเฟร์ย่าที่เชียร์เสียงดัง ทั้งสองสงสัยเฟร์ย่าเชียร์ผิดคนหรือเปล่าไม่นานรถทั้งสองก็เข้าสู่เส้นชัย ซึ่งคันแรกที่เข้าก็ต้องเป็นคันสีดำอยู่แล้ว เพราะบอมพ์ชอบรถมาตั้งแต่เด็กๆ พ่อของเขาและพ่อของเฟร์ย่าสร้างสนามแข่งรถสำหรับเด็กให้ เขาซ้อมขับทุกวันเป็นประจดำ จะแพ้น้องก็คงไม่ใช่ที่ เพราะเบย์ดูเหมือนจะขับได้แต่ไม่ค่อยชอบแนวนี้มากกว่า"เย้! ชนะแล้ว" เฟร์ย่าออกเสียงดีใจเมื่อรู้ว่าใครเข้าเส้นชัยก่อน เสร็จแล้วก็วิ่งลงไปที่สนามทันที เพื่อรับนักแข่งทั้งสอง"โห่ แพ้อีกละ" เสียงเบย์บ่นอุบอิบ เขาไม่เคยชนะเลย"ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวลุงแก้แค้นให้เอง" เสียงของมิวนิคดังขึ้นขณะที่เดินเข้ามาในสนามพร้อมกับแบล็คเกอร์พ่อของเบย์ฝาแฝดในชุดแข่งรถ"พ่อจะแข่งกับพี่บอมพ์เหรอ" เฟร์ย่ารีบถามทันที ถ้าหากพ่อเขาแข่ง กลัวว่าพี่บอมพ์ของเธอจะแพ้เพราะพ่อแข่งรถมาตั้งแต่เด็ก"ไม่ๆ พ่อจะแข่
เธอต้องรับผิดชอบ ปัง!!! เสียงประตูห้องวีไอพีของชั้นบนคลับ ดังสนั่นด้วยฝีมือของบอมพ์ เขากดเฟร์ย่าให้แผ่นหลังกระแทกกับกำแพงอย่างแรง ทำให้เฟร์ย่าถึงกับนิ่วหน้าใส่คนตัวโตที่ยืนคล่อมเธอไว้ด้วยแขนแกร่งทั้งสองข้าง บอมพ์เหงื่อออกเต็มตัว ผุดขึ้นที่หน้าผากจนเกือบจะเปียกโชก หายใจหอบแรงเสียงดังฟืดฟาด อาการเหมือนคนร้อนมาก ร้อนจากข้างในร่างกาย 'หรือเขาจะแพ้แอลกอฮอล์' เฟร์ย่าคิดในใจ มองเขาด้วยสายตาเยิ้ม เพราะอาการเมายังไม่จางหาย “พะ...พี่บอมพ์ร้อนเหรอคะ” คนตัวเล็กในวงล้อมแขนเอ่ยถามขึ้น “ในเหล้ามีอะไร” เขาถามออกมาด้วยเสียงแหบพร่า “เหล้าไหนคะ ที่เฟร์กินเหรอ ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ” เฟร์ย่าทำหน้าสงสัย เพราะเธอไม่รู้เรื่อง “ใส่อะไรลงไปในเหล้าแก้วนั้น” เขาก็ยังถามด้วยเสียงหอบ และยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอจนลมหายใจแทบจะรินรดกัน “เหล้าที่พี่กินไปน่ะเหรอคะ เฟร์ไม่รู้ แก้วนั้นรุ่นพี่เป็นคนยื่นมาค่ะ ไม่ใช่ของเฟร์” เฟร์ย่ารีบแก้ตัวและใช้มือบางดันหน้าอกเขาเบาๆ “เธอวางยาฉัน” บอมพ์พูดจบแค่นั้น ปากหยักก็ประกบเข้าที่ริมฝีปากบางทันที จูบดูดดื่มและเร่าร้อน บดเบียดริมฝีปากให้กลีบปากบางเผยอ
จนเช้า... “กรี๊ดดดด” แม้เขาจะถูไถกับน้ำหวานเยิ้มเพื่อลดการเสียดสีแล้ว แต่ความเจ็บก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี เฟร์ย่ากัดฟันแน่น เม้มปากจนเป็นเส้นตรง ร่างกายสะท้านสั่น ร่องสวาทเริ่มผลิตน้ำหวานออกมามากขึ้น “ครั้งแรก?” บอมพ์แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาคิดว่าหญิงสาวตรงหน้าคงไม่ใช่ครั้งแรกเพราะโตมาจนขนาดนี้แล้ว วัยรุ่นสมัยนี้ไม่มีใครเก็บรักษาความบริสุทธิ์จนถึงวันแต่งงานหรอก แต่ถึงจะรู้แบบนั้นแต่ฤทธิ์ของยาก็ทำให้เขาหยุดหรือเบาลงไม่ได้ เขากดสะโพกเข้าหาเธออย่างหนักหน่วง เนิบนาบช้าๆจนร่างเล็กเกร็งไปทุกสัดส่วน เพราะตอนนี้ช่องรักของเธอบีบรัดกายแกร่งของเขาแน่นจนเขาแทบขยับไม่ไหว หากขยับมากเกินไปเขาจะเสร็จก่อน เขาก้มลงประกบปาก ลิ้นอุ่นลากเลียไปตามริมฝีปากสาวที่เม้มปิดสนิทให้เผยอออกรอรับลิ้นเขาเพื่อลดอากาาเกร็งให้เธอผ่อนคลาย ปึก! “กรี๊ดดดดด” เสียงกรีดร้องลั่นดังออกมาอีกครั้ง แต่ดังอยู่ในลำคอเท่านั้น เล็ดลอดออกมาไม่ได้ เพราะปากของเธอโดนปากของเขาปิดไว้ ด้วยความเจ็บปวดตรงน้องสาวของเธอเหมือนใครเอามีดมากรีด เมื่อแก่นกายหนุ่มที่มีขนาดใหญ่กดเข้ามาในร่างกายจนมิดโคนในทีเดียว เขาแ
จ่อหัว... ช่วงสายของวันต่อมา... “อืมมม” ร่างบางขยับเล็กน้อย เฟร์ย่ารู้สึกตัวตื่นลืมตาขึ้นมอง ความรู้สึกหนักๆอยู่ที่ช่วงท้องเหมือนมีอะไรพาดผ่านท้องของเธอไว้ เฟร์ย่าค่อยๆกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับรับแสง ก้มลงมองที่ท้องพบกับท่อนแขนแกร่งของชายหนุ่มตัวโตคนเมื่อคืนที่เธอรู้จักดี คนที่เธอแอบชอบ คนที่เธอแอบรัก และใฝ่ฝันคอยวิ่งตามมาตลอด ตอนนี้เขาคนนั้นนอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆเธอ แต่เขากลับไม่ได้ชอบเธอหรือเอ็นดูเธออย่างที่เธอหวัง เพราะตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เขาเอาแต่หนีหน้า หลบหน้า บอกว่าเธอคือตัวน่ารำคาญ เฟร์ย่าพยายามขยับตัวเล็กน้อย เพื่อลุกออกจากเตียงโดยที่ไม่ให้คนตัวโตรู้สึกตัว แต่การขยับตัวแค่เพียงนิดเดียว ความเจ็บปวดร่างกายของเธอ มันวิ่งแล่นแผ่ไปทั่วทั้งร่าง โดยเฉพาะส่วนใจกลางความสาวที่รู้สึกเจ็บ และแสบแปร๊บจนเธอเผลอกัดปาก เพื่อสะกดความเจ็บไว้แน่น ร่างบางค่อยๆแกะท่อนแขนหนักออกเบาๆไม่ให้เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอต้องออกไปจากที่นี่ก่อนเขาจะตื่น เพราะถ้าเขาตื่นขึ้นมาตอนที่เธอยังอยู่ตรงนี้ เขาต้องเกลียดเธอมากขึ้นอีกแน่ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันคือความผิดพลาดของเขาและ
จ่อหัว (ต่อ) “ขึ้นรถ!” ได้ยินแค่นั้น ทั้งสองคนที่อยู่นอกรถก็หันหน้ามามองกัน เพราะไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในรถสั่งนั้นหมายถึงใครเขาหรือเธอ เบย์หันไปมองคนในรถแล้วชี้มาที่ตัวเอง “ผม?” “อย่าสำคัญ!” เสียงห้วนตอบมาทันทีที่เบย์ถามขึ้น “อ้าว ไอ้พี่!” เบย์ทำท่าจะเอาเรื่อง “จะขึ้นดีดี หรือจะให้ลงไปลาก” เสียงดุดังมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทั้งสองรู้ดีว่าหมายถึงใคร เฟร์ย่าหันไปมองหน้าเบย์เหมือนอยากจะถามว่าเธอควรทำอย่างไรดี จะขึ้นไปดีไหม เบย์เลยได้แค่พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่า ขึ้นไปเถอะไม่มีอะไรหรอก เฟร์ย่าเอื้อมมือไปเปิดประตูรถและก้าวขึ้นไปนั่งข้างคนขับอย่างหวาดๆ “จะพาไปไหน ให้คนมาเอารถน้องเฟร์กลับไปด้วยนะ” เบย์บอกพี่ชายแค่นั้น แต่ดูเหมือนพี่ชายของเขาจะไม่ฟังเอาแต่มองไปด้านหน้าเตรียมจะออกรถไป “พี่เบย์! พี่ต้องบอกว่าอย่าทำอะไรน้องเป็นห่วงน้องสิ นี่อะไรห่วงรถของน้อง” เฟร์ย่าพูดด้วยหน้าตาบูดบึ้งเบาๆกลัวคนข้างๆได้ยิน เธอคิดว่าเพื่อนรุ่นพี่คนสนิทจะห่วงรถที่เธอขับมามากกว่าตัวเธอ เพราะรถคันนี้เขาเป็นคนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว “เอาน่า อิพี่นี่มันไม่ทำอะไรเราหรอก” ว่าจบ
หวง! รถสีขาวแล่นมาจอดหน้าตึกแห่งหนึ่งย่านการค้า ผู้คนพลุกพล่าน ตึกแห่งนี้เป็นตึกไม่ใหญ่มากนัก มีขนาดปานกลาง ถูกเช่าเป็นสตูดิโอไว้ถ่ายสินค้าแบรนด์ต่างๆหรือถ่ายนางแบบเพื่อโปรโมทสินค้าโดยเฉพาะ หญิงสาวร่างบอบบางก้าวลงจากรถด้านคนขับซึ่งมียามมาเปิดประตูรถให้และต้องทำหน้าที่นำรถเข้าไปจอดที่จอดรถของลูกค้าวีไอพี เฟร์ย่าก้าวลงจากรถเพื่อเข้าไปในตึกดังกล่าว วันนี้เธอได้รับงานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำที่ค่อนข้างวาบหวิวมาก เธอรับจ๊อบพิเศษที่นอกเหนือจากแบรนด์ของรัญดา คุณย่าของเธอที่เธอเป็นนางแบบในสังกัด วันนี้เธอรับพิเศษ ไม่ใช่ว่าเธอนั้นขัดสนเรื่องเงินทอง แต่เธอคิดว่ามันคือการหาประสบการณ์และเป็นงานที่เธอชอบ ช่วงนี้แบรนด์รัญดาไม่ค่อยมีงานเธอจึงแวบออกมารับงานนอกได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่เธอชอบก็คือ การถ่ายแบบนุ่งน้อยห่มน้อย วาบหวิว ยิ่งน้อยชิ้นมากเท่าไรเธอยิ่งคิดว่ามันคือการท้าทาย เธอจึงกลายเป็นนางแบบที่หลายๆบริษัทต้องการตัว เพราะความกล้าของเธอที่น้อยคนจะรับงาน บวกกับความสวย ขาว หุ่นดี เพอร์เฟคทุกอย่างแล้ว ยิ่งเป็นที่ต้องการของหลายแบรนด์ เฟร์ย่าก้าวเข้ามาในสตูดิโอพบว่าทุกคนกำลังจัดเตรียม
หวง! (ต่อ) เฟร์ย่ารับสายยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร เสียงที่เธอคุ้นเคยก็ถามมาทันที เธอตอบเขาไปถึงจุดที่เธออยู่ในตอนนี้ เมื่ออีกฝ่ายรับรู้คำตอบที่ตัวเองต้องการแล้วก็ออกคำสั่งทันทีห้ามให้เธอไปไหน ให้รออยู่ตรงนี้ เธอจะไปหาเบย์ก็ไปไม่ได้ ไม่นานรถสีดำสนิทคันเดิมก็พุ่งมาจอดอยู่ด้านหน้าของเธออย่างแรง เสียงเบรคดังลั่น ทำเอาหญิงสาวตกใจหัวใจแทบร่วงไปอยู่ที่พื้น กระจกรถสีดำนั้นเลื่อนลงเผยให้เห็นว่าใครคือ คนขับรถ “ขึ้นมา” สิ้นเสียงของเขา เฟร์ย่าได้สติรีบลนลานเปิดประตูรถเข้าไปนั่งในรถทันที “พี่บอมพ์จะพาเฟร์ไปไหนคะ” เฟร์ย่าถามขึ้นทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดในรถ “ไปที่ชอบ” เขาตอบกลับอย่างสั้นๆ “ใครชอบคะ เฟร์ชอบหรือพี่ชอบ” คนตัวเล็กหันไปถามด้วยหน้าตาใสซื่อ “ฉัน!” “ถ้าพี่จะไปที่ชอบที่ชอบของพี่ งั้นเฟร์ไม่ไปได้ไหมคะ เฟร์ไม่อยากชอบด้วย” “ไม่ได้ ฉันอยู่ที่ไหน เธออยู่ที่นั่น ลืม?” “ไม่ลืมค่ะ แต่จะให้เป็นแบบนั้น ทำไมไม่เอาเชือกมามัดติดกับตัวเลยล่ะคะ” “อย่าท้าทายอำนาจมืด!” เขาพูดแบบนั้น เพราะเขาสามารถทำแบบนั้นได้แน่นอน อย่าได้ท้าทายอำนาจมืดของเขาถ้าไม่อยากลองดี เธอเลยต้
หึง “หน้าตาสดใสดีนะ มีอะไรดีดีหรือไง” เบย์เอ่ยถาม คนตัวเล็กที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆอย่างตั้งใจ “อะไร ไม่มีอะไรสักหน่อย” เฟร์ย่าปฏิเสธ สายตายังคงมองไปด้านหน้าตั้งใจเรียนจดงาน เธอย้ายเข้าไปอยู่คอนโดเดียวกับเขาแล้วก็จริง แต่ไม่ได้บอกให้ใครรู้ และเขาก็ไม่ค่อยได้อยู่คอนโดตรงกับเธอเท่าใดนักในช่วงนี้ เพราะดูเหมือนเขาจะงานยุ่ง ทั้งเช็คของที่โกดังสินค้าของเขา งานที่คลับ และงานเรียน เขากลับมาเธอก็หลับไปแล้ว ตอนเธอจะไปเรียน เขาก็ยังหลับอยู่เธอเลยไม่กล้าจะปลุกเขา “เหรออออ” เบย์ลากเสียงยาวแบบไม่เชื่อ “อะไร อย่ามาไม่เชื่อนะ” “คืนนี้ไปคลับนะ พี่คีย์และลุงๆป้าๆรหัสเลี้ยง ให้พี่ไปรับที่คอนโดไหม” เบย์เอ่ยถามขึ้น “ไม่ต้องๆ เดี๋ยวเฟร์ขับรถไปเอง” เฟร์ย่ารีบปฏิเสธ กลัวเขาจะรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คอนโดตัวเอง “ไม่กลัวเมาแล้วขับรถกลับเองไม่ได้เหรอ” เบย์ยังคงถามด้วยความสงสัย “ไม่กินจนเมาหรอกวันนี้ จะกินเบาๆ” “เฟร์ย่า เรามีอะไรไม่ได้บอกพี่ บอกมา!” เบย์เค้นเสียง ต้องการคำตอบ “ไม่มี” คนตัวเล็กหันมามองแวบหนึ่ง ก่อนหันกลับไปที่กระดานตามเดิม “จะบอก
BEY PART (The End) สารภาพ...ขอเป็นผัว “ถ้าไม่เรียกผัว จะดูดแรงกว่านี้นะ” เขาถอนริมฝีปากพูดแกมขู่เจ้าของร่างที่บิดเร่าไปมา เสียงครางของของคนตัวเล็กกว่าเขากระตุ้นอารมณ์เบย์ให้พลุกพล่านอีกครั้ง เขาจ้องมองคีย์ที่สะบัดหัวไปมาอย่างสุดจะกลั้น ก่อนที่เขาจะก้มลงไปที่ท่อนกายแกร่งอีกครั้งเขาห่อปากตัวเองขยับขึ้นลงเป็นจังหวะรัวและเร็ว ผสมกับมือที่รูดแท่งนั้นขึ้นลงตามจังหวะของปากอุ่นด้วย “อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ...บะ...เบย์” มือบางขยุ้มศีรษะของเบย์อย่างเผลอตัวเพื่อระบายความเสียวที่แผ่ไปทั่วร่าง “มะ...ไม่ไหว อ๊ะ...อ๊าาาา” เสียงครางของคีย์ดังลั่น ร่างกระตุกเกร็ง น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งเข้าปากเขาหมดทุกหยาดหยด เขาไม่รอช้ากลืนมันลงคอไป ก่อนจะยกมือขึ้นปาดคราบน้ำรักที่เลอะรอบริมฝีปากนั้นออกอย่างลวกๆ “เสร็จแล้วเหรอ” เบย์เอ่ยถามคนที่นอนอยู่ใต้ร่างด้วยเสียงหอบหายใจถี่รัว ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นยืนด้วยเข่า ก่อนจับคนตัวเล็กกว่าพลิกตัวให้นอนคว่ำหน้า ใช้สองมือหนายกสะโพกขึ้นสูง จัดแจงให้คีย์อยู่ในท่าหมอบคลาน เขารีบเอามือหนาป้ายน้ำรักที่เลอะขอบปากไปป้ายที่ประตูหลังของคีย์ทันที
BEY PART (The End) สารภาพ...ขอเป็นผัว “อื้ม” เสียงครางทุ้มต่ำในลำคอของเบย์เริ่มเล็ดลอดออกมาจากปากทั้งสองที่ยังคงประกบกัน ภายในลิ้นอุ่นตวัดรัดพันกันนัวเนีย ชายหนุ่มดูดควานหาน้ำหวาน ตักตวงมันจากปากบางอย่างพอใจ ทั้งคู่จูบดูดดื่มแลกเปลี่ยนลิ้นซึ่งกันและกันอยู่พักใหญ่ เบย์ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งเหมือนเสียดาย ดวงตาคู่คมจ้องมองที่ร่างของคนตรงหน้าด้วยสายตาหยาดเยิ้มอย่างลืมตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปปรับเบาะตัวเองให้ถอยห่างจากพวงมาลัยจนสุดล็อค และดึงตัวของคีย์ขึ้นมานั่งค่อมบนตักเขาทันที จมูกโด่งคมสันเริ่มเข้าใกล้ซุกไซร้ไปที่ซอกคอขาวพรมจูบ ดูดดึงเบาๆ ลากไล้ผ่านลำคอเรียว ต่ำลง ต่ำลงเรื่อยๆ มือหนายกขึ้นปลดกระดุมเสื้อของคนบนตักออกอย่างช้าๆ จนหลุดหมดครบทุกเม็ด ริมฝีปากหนายังคงลากไล้ต่ำลงไปจนกระทั่งถึงตุ่มเล็กน่ารักสีชมพูระเรื่อบนแผ่นอกขาวๆ เบย์แลบลิ้นออกแตะปลายลิ้นลงสัมผัสตุ่มนั้นทีละน้อย เมื่อลิ้นอุ่นสัมผัสตุ่มนั้นครั้งใด ร่างบนตักกระกระตุกเล็กน้อยทุกครั้ง สร้างความพอใจให้กับเบย์ไม่น้อย ก่อนที่เขาจะอ้าปากงับยอดอกเล็กน่ารักนั้นทันที “อื้อออ” คีย์สะดุ้งเฮือก ความรู
BEY PART (Start) (2) สารภาพ...ขอเป็นแฟน BK CLUB “เบย์!! ทางนี้ๆ” เสียงของคีย์ที่กำลังโบกมือกวักมือเรียกเบย์ที่เพิ่งมาถึง เดินมาหยุดที่หน้าประตูทางเข้าคลับ มองซ้ายมองขวามองหากลุ่มเพื่อนๆ พี่ๆ คณะเดียวกันที่นัดกันมา โต๊ะที่พวกนั้นจองไว้รู้สึกจะอยู่หลบมุมของตัวคลับที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไป ผ่านมามากนัก และโต๊ะก็ค่อนข้างจะอยู่ห่างจากโต๊ะอื่นๆ พอสมควร “ทำไมมาช้านักล่ะ” คีย์ถามขึ้นเมื่อเบย์มาตามที่นัดช้าไปเกือบชั่วโมง จริงๆ เขาไปดูสินค้า ตรวจสินค้าแทนพี่ของเขาที่วันนี้มีนัดดินเนอร์กับเฟร์ย่า แล้วตั้งใจจะขอแต่งงานในคืนนี้ “ไปดูสินค้าแทนพี่มา” เบย์อธิบายเหตุผลให้กับคีย์ฟัง “อ่อๆ เอาเหล้าอะไร เดี๋ยวเราไปสั่งให้” คีย์บอกพร้อมกับเตรียมจะลุกไปสั่งให้ แต่กลับโดยมือหนาๆ ของเบย์คว้าแขนเอาไว้ก่อน “จะไปไหน ทำไมไม่เรียกเด็กเสิร์ฟมา” เบย์ถาม เพราะว่าที่นี่เป็นคลับของพ่อเขา ที่มีเขาและพี่ชายคอยดูแลรับช่วงต่อจากพ่อ “เอ้อ ลืมไป” คีย์หันมายิ้มให้ แล้วกลับไปนั่งลงที่เดิม “เมาแล้วหรือไง” เบย์ถามคีย์ แต่ดูเหมือนคีย์จะไม่ได้ยิน เขาจึงไม่ได้ตอบอะไรกลับมา “นี่ๆ น้องคีย์ กินให้เมาได้เลยนะ ถ
BEY PART (Start) สารภาพ...ขอเป็นแฟน หลังจากวันนั้น ที่บอมพ์และเฟร์ย่าได้ตกลงเป็นแฟนกันโดยการประกาศขอกันกลางลานหน้าคณะวิศวะ ท่ามกลางเหล่านักศึกษาเกือบทั้งคณะเลยก็ว่าได้ วันนี้พวกเราทั้งสองครอบครัวก็นัดเจอกันที่สุสานหลุมฝังศพประจำตระกูลของคุณน้าแฟร์รี่ ที่จะจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงแค่สองครอบครัวทุกปี “นี่ตาเบย์ ทำไมวันนี้มาคนเดียวล่ะ ทุกทีจะมากับน้องเฟร์” วินเซ่เอ่ยถามลูกชายคนเล็กที่เดินเข้ามาใต้ต้นจามจุรียักษ์ที่พวกเธอรวมตัวกันอยู่ หน้าหลุมฝังศพ 3 หลุม เบย์ในชุดนักศึกษา เสื้อช็อปสีแดงเลือดหมู กางเกงยีนส์สีดำขาเดฟ รองเท้าผ้าใบเท่ๆ “นี่แม่แกล้งถามหรือแม่อยากมีเรื่องกับผมกันแน่” เบย์พูดกับแม่แบบทีเล่นทีจริง “อ้าว แม่ถามจริงๆ นะเนี่ย” “ก็เวลาเพื่อนมีแฟน ก็มักจะลืมเพื่อนไม่ใช่เหรอ ยัยนั่นก็เหมือนกัน” เบย์บอกพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆ แม่และพ่อตัวเอง “แล้วน้องจะมาไหมเนี่ย เรียนหนักกันหรือเปล่า” วินเซ่เอ่ยถามอีก “เรียนไม่หนักหรอก แต่เรื่องอื่นน่าจะหนักกว่า เดี๋ยวก็มากับลูกชายคนโตแม่อ่ะแหละ” เบย์พูดแล้วยิ้มกวนๆ พูดไม่ทันได้จบ รถสีดำขลับก็แล่นมาจอดยังสถานที่เอาไว้จอดรถ สองช
เกียร์อยู่ที่ใคร ใจอยู่ที่เธอ (จบ) เฟร์ย่า และบอมพ์ เดินทางกลับเข้าแผ่นดินใหญ่เพื่อกลับไปเรียนต่อ โดยมีนนนี่ย้ายมาอยู่ด้วย ในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัวของเฟร์ย่า ก่อนหน้านี้เฟร์ย่าจะไม่ยอมให้พ่อหาบอดี้การ์ดให้ เพราะว่าตัวเองยังเรียนอยู่ ไม่จำเป็นต้องมีคนคอยติดตาม แต่ตอนนี้ยอมให้มีคนคอยติดตามแล้ว เพราะรู้สึกถูกชะตาต้องใจ กับนนนี่เข้าให้ เธอรู้สึกได้ว่า นนนี่มีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่าง ทั้งรู้ใจ ทั้งใส่ใจ เป็นทั้งเพื่อนสาว แม่บ้าน คนขับรถ หรือแม้กระทั่งคนคอยปกป้องเธอ เพราะว่านนนี่ได้รับการฝึกการป้องกันตัวมาจากคุณตาเจคอร์ปเป็นอย่างดี เมื่อบอมพ์ไปขอนนนี่กับคุณตาเจคอร์ปให้เฟร์ย่า แล้วบอกว่าจะให้มาเป็นคนคอยดูแลเฟร์ย่า คุณตาก็ยอมตอบตกลงทันที โดยไม่ถามอะไรเลย “นี่...นนนี่จะให้เฟร์เรียกว่าอะไรดี เรียกนนท์ หรือ นนนี่” เฟร์ย่าเอ่ยถามขึ้น ในขณะที่กำลังเดินลงมาจากตึกเรียน นนนี่เข้าเรียนคณะเดียวกับเฟร์ย่า เพราะนนนี่อายุเท่ากับเธอ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยอื่น เฟร์ย่าให้พ่อของเธอทำการย้ายนนนี่มาเรียนด้วยกัน คณะเดียวกันเสียเลย “สภาพแบบนี้ เรียก นนนี่ น่าจะสวยกว่านะ” เบย์เอ่ยขึ้น เพราะเดินลงมาพร
รักษาคนแพ้อาหาร ร่างบางใต้ร่างหนาที่ทาบทับเธออยู่บนที่นอน คนตัวเล็กนอนหลับตาพริ้ม รอรับจูบอันหอมหวานที่เขาจะมอบให้ ปากหยักประกบจูบลงมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน ไม่นานจูบที่อ่อนโยนเริ่มแปลเปลี่ยนดูดดื่มดุดัน ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากหวานควานหาน้ำหวานอย่างชอบใจจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ “อื้อออ” มือบางยกขึ้นเกาะกำเสื้อเขาจนเกิดรอยยับ ชายหนุ่มถอนจูบดูดดื่มออกอย่างเสียดาย จมูกโด่งเป็นสันซุกไซ้ไล้ลูบลงตามซอกคอหอมขาว ผ่านไหปลาร้าบุ๋ม ลิ้นชุ่มน้ำลายจูบซับตามร่องอกเต่งตึง มือหนาสอดใต้ชุดมินิเดรสบาง เขาเลิกผ้าที่ปิดเรือนกายเธอขึ้นเหนืออกสวย เผยให้เห็นสองเต้าที่ถูกบราเซียสีขาวปกปิดไว้อย่างไม่มิดชิดมากนัก บอมพ์ยกยันตัวขึ้นมองเล็กน้อย ริมฝีปากหนากดจูบลงมาที่ริมฝีปากอวบอีกครั้ง บรรจงจูบอย่างดูดดื่ม ดุดันรุนแรง และเร่าร้อน เขาบดเบียดให้กลีบปากบางเผยอออก ส่งลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นอุ่นกวาดไปรอบๆโพรงปากดูดกลืนน้ำหวานจนทั่วทุกพื้นที่ในปากจนพอใจ จึงค่อยๆถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งเสียดาย ร่างกายบางอ่อนปวกเปียกบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่านรัญจวน “พะ...พี่คะ ประตูยังไม่ได
รอฟังความจริง (ต่อ) “พี่ไม่อยากให้เราออกไปกับไอ้หน้าอ่อนนี่” ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อยๆ ก่อนจะชำเรืองมองผ่านตัวเฟร์ย่าไปด้านหลัง ที่มีนนท์ยืนยิ้มให้อยู่ “ทำไมล่ะคะ เฟร์ไปกับนนท์แล้วจะเป็นอะไร” “ก็พี่หึง พี่หวงไม่เข้าใจหรือไงวะ!” บอมพ์พูดออกมาอย่างหงุดหงิด “55555 หึงเหรอคะ” เฟร์ย่าหัวเราะออกมาดังลั่นพลอยทำให้นนท์และคนอื่นๆ อดยิ้มไปด้วยไม่ได้ “หัวเราะอะไร ไม่ตลก!” บอมพ์พูดแล้วหันไปทางอื่นด้วยท่าทางงอนๆ “พี่ไม่ต้องหึงเฟร์กับนนท์หรอกค่ะ” “ทำไมจะหึงไม่ได้ ทำไมไม่ให้หึง เราเป็นเมียพี่” “ก็...นนนี่เขาไม่ชอบชะนีอย่างเฟร์หรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นพี่บอมพ์ก็ไม่แน่นะ นนนี่อาจจะชอบก็ได้” เฟร์ย่าพูดปนเสียงหัวเราะขำๆ คำพูดของเธอทำเอาบอมพ์ที่ได้ยินถึงกับอึ้ง ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอก แต่พอหันไปหานนท์ที่ยกมือขึ้นโบกเล็กน้อยระดับหน้าอก แสดงจริตจะกร้านออกมาแบบนั้น บอมพ์ก็ถึงบางอ้อทันที “แล้วทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่แรก และทำไมนายไม่บอกความจริงฉันห๊ะ?” บอมพ์หันไปคาดโทษนนท์หรือนนนี่ “ก็เฟร์ไม่ยอมให้นนนี่บอกนี่คะ บอกว่าอยากรู้อะไรบางอย่างก่อน” นนนี่จีบปากจีบคอพูดกับเจ้านาย “อยากรู้อะไร ทำไมไม
รอฟังความจริง เผียะ!! “อิพี่บอมพ์!!” เฟร์ย่าตื่นขึ้นมาในตอนเช้ารู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆ พาดอยู่ที่หน้าท้อง ตอนแรกเธอคิดว่าผีอำ พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับใบหน้าหล่อที่หลับพริ้ม อยู่ใกล้กับใบหน้าหวานๆ ของเธอ ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาเป่ารดแก้มป่องเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเขากำลังหลับสนิท แขนแกร่งพาดทับที่หน้าท้องน้อยของเธอคล้ายกับว่ากำลังกอดเธอไว้อย่างหลวมๆ เฟร์ย่าตกใจเล็กน้อยทำไมเขาถึงได้มานอนกับเธอได้ แต่พอเห็นว่าเขากำลังหลับสนิทก็เลือกที่จะไม่ปลุก ปล่อยให้หลับอยู่แบบนั้นพักใหญ่ๆ จนกระทั่ง..เหน็บชาเริ่มกัดกินท่อนแขนของเธอ จะอดทนต่อไปก็ไม่ได้ เหน็บชาเล่นงานเธอจนเจ็บไปหมด จึงต้องแกล้งโวยวายให้เขาตื่นซะเลย “อื้ออ ตีพี่ทำไมเนี่ย” บอมพ์งัวเงียตื่น ใช้ศอกยันตัวขึ้นมาจากเตียง เขาตื่นเพราะแรงตบตีที่แขนของเขา “ทำไมพี่มานอนในห้องเฟร์ มาอยู่บนเตียงเฟร์ด้วย” เฟร์ย่าโวยวาย พอเป็นพิธี “แล้วทำไมพี่ถึงจะมานอนกับเมียของตัวเองไม่ได้ล่ะ” ชายหนุ่มยียวนกวนอารมณ์เธอในท่านอน ศอกตั้งเอามือค้ำใบหน้าหล่อฟ้าประทานเอาไว้ “แต่เมื่อคืนพี่อนุญาตให้เฟร์ไปรักคนอื่นแล้ว” คนตัวเล็กเถียงกลับแว้ดๆ
ฝันถึงไอ้หน้าอ่อนแค่คืนนี้ “เราหนีพี่ไม่พ้นหรอก ขอแค่ 5 นาทีพี่ก็หาเราเจอแล้ว” บอมพ์พูดออกไปด้วยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ เฟร์ย่าเห็นรอยยิ้มนั้นก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาทันที รีบยกมือบางดันตัวเขาออกอย่างไม่แรงมากนัก แต่ก็สามารถออกห่างเขาได้นิดหนึ่ง “ตามมาทำไมคะ” ร่างบางพูดพร้อมกับทำปากบูดๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่า เหตุผลที่เธอต้องหนีเขามาที่นี่เพราะอะไร ก็เพราะเขาเห็นเธอเป็นของเล่น แล้วทีนี้จะตามเธอมาถึงที่นี่ทำไม “มาตามเมียกลับบ้าน” เขาตอบทันที “เมียที่ไหนคะ ที่นี่ไม่มีเมียพี่ค่ะ มีแต่ของเล่นกับของตาย” “อย่าประชด” “ไม่ได้ประชด เฟร์พูดจริงๆ พี่เป็นคนบอกเองว่าไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบเฟร์ เห็นเฟร์เป็นแค่ของเล่น ของตายที่เลิกรักพี่ไม่ได้” เฟร์ย่าพรั่งพรูคำพูดที่รู้สึกอึดอัดออกมาให้เขารู้ว่าเธอได้ยินในสิ่งที่เขาพูดกับแม่ของเขา “ที่บอกว่า พี่เห็นเราเป็นของเล่น หรือของตายน่ะไม่จริงเลยนะ แต่ที่บอกว่าเธอเลิกรักพี่ไม่ได้น่ะ เรื่องจริง...หรือเธอว่าไม่จริง?” บอมพ์เอียงคอถามคนตรงหน้าแบบยิ้มๆ เจ้าเล่ห์และทะเล้นเหมือนตัวเองกำลังชนะอีกแล้ว “หลงตัวเอง!” “ไม่ได้หลงตัวเอง มีคนหลงพี่ด้วย” “วุ