รับน้อง...
10 ปี ต่อมา... ตึก ตึก ตึก เสียงรองเท้าผ้าใบสองคู่วิ่งมาด้วยความเร็วเข้ามาที่ใต้ตึกใหญ่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ของหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่ตอนนี้พื้นที่ใต้ตึกเต็มไปด้วยมีน้องๆ ปี 1 ของทุกสาขากำลังนั่งรวมตัวกันเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องของคณะ "นี่!!! น้องผู้ชายและน้องผู้หญิงที่วิ่งเข้ามาทีหลังน่ะ มาตรงนี้!" เสียงของรุ่นพี่คนหนึ่งดังขึ้นเรียกเฟร์ย่าและเบย์ที่วิ่งมากระหืดกระหอบ เพราะมาสาย เฟร์ย่าเข้าเรียนคณะวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับเบย์ ลูกชายฝาแฝดคนน้องของวินเซ่ที่อายุมากกว่าเฟร์ย่า 2 ปี แต่ซิ่วกลับมาเรียนปีหนึ่งใหม่พร้อมกับเฟร์ย่า ส่วนฝาแฝดผู้พี่นั้นก็ตอนนี้เรียนอยู่คณะนี้ด้วยเช่นกัน แต่คนละสาขา ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ ปี 3 แล้ว และนี่ก็คือเหตุผลว่า ทำไมผู้หญิงน่ารักๆ ตัวเล็กๆ มีเสี้ยวหนึ่งของเชื้อเกาหลีถึงได้มาเรียนคณะนี้ที่มีแต่ผู้ชายซะส่วนใหญ่ ทั้งสองหยุดวิ่งเมื่อได้ยินเสียงรุ่นพี่ ก่อนจะมองหน้ากันแล้วเดินเข้าไปที่รุ่นพี่คนนั้นอย่างว่าง่าย ท่ามกลางสายตาเด็กปีหนึ่งเกือบร้อยคน เด็กสาวน่ารักในกกับชุดนักศึกษากระโปรงพรีชกลีบรอบสั้น รองเท้าผ้าใบขาวน่ารัก หน้าตาน่ารัก กับเด็กหนุ่มผิวขาวใส หล่อตี๋ ผมสีน้ำตาล เรียกความสนใจให้กับสายตาหลายคู่ "ทำไมมาสาย!!" เสียงของรุ่นพี่คนเดิมถามด้วยน้ำเสียงคะตะคอกดังลั่นเหมือนว่าอยู่ไกลกันเหลือเกิน "อาจารย์วิชาสุดท้ายเพิ่งปล่อยค่ะ" เฟร์ย่าตอบเสียงเบา เพราะยังตกใจ กับเสียงดังนั้นอยู่ "นี่โทษอาจารย์เหรอ ตัวเองมาสายแต่กลับโทษอาจารย์แบบนี้เหรอ" เสียงของรุ่นพี่คนเดิมยังคงถามต่อ แล้วจะให้เธอทำยังไงก็อาจารย์ปล่อยช้า "ไม่ได้โทษค่ะ แต่อาจารย์ปล่อยช้าจริงๆ" เฟร์ย่ายังยืนยันคำตอบเดิม "ทำผิด ต้องยอมรับผิด ไม่ใช่โทษคนอื่นในการทำผิดของตัวเอง นั่นมันไใม่ใช่นิสัยของเราชาววิศวะ" รุ่นพี่ยังคงจะให้เธอรับผิดอยู่ เพื่อจะได้ทำโทษเธอได้ "ก็แล้วจะให้ทำยังไงเล่า!! ก็อาจารย์ปล่อยช้า จะให้หนีเรียนมาหรือยังไง นั่นก็ไม่ใช่นิสัยของนักศึกษาเหมือนช่นกัน พี่จะเอายังไง จะให้รับผิดให้ได้เลยใช่ไหม ถ้ามันออกมากลางครันได้ ป่านนี้เฟร์ก็มารอที่นี่ก่อนพี่อีกพี่จะมาอีก นี่มาร่วมกิจกรรมดก็ดีแล้วไหม มาสายดีกว่าไม่มาเลย จะเอาแบบไหนว่ามา!" เฟร์ย่ารัวคำพูดออกมาเป็นชุดด้วยความโมโหในความไม่มีเหตุผลของรุ่นพี่ แต่การโมโหของเธอนั้น ท่าทที่แสดงออกกลับดูน่ารักในสายตาทุกตคนจริงๆ และหนึ่งในสายตาเหล่านั้นก็มีสายตาสีน้ำเงินเข้มคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองมาที่คนตัวเล้กด้วยสายตานิ่งเรียบไม่ไหวระริกเหมือนกับสายตาของคู่อื่นๆ "โอเคๆ งั้นอนุโลมให้ ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกจะไม่ทำโทษ แล้วน้องผู้ชายนี่ไม่คิดจะพูดแก้ตัวอะไรหน่อยเหรอ ปล่อยผู้หญิงแก้ตัวแทนไม่แมนเลยนะ" รุ่นพี่คนเดิมหันมาเล่นงานเบย์ที่ยืนข้างๆ เฟร์ย่า ก่อนที่เบย์จะทันได้พูดอะไรก็มีรุ่นพี่อีกคนเข้ามากระซิบที่รุ่นพี่คนนี้ทันที 'มึง...น้องผู้ชายคนนี้เป็นน้องฝาแฝดของไอ้บอมพ์ มึงอย่ายุ่งดีกว่ากูว่าไม่รุ่ง" รุ่นพี่คนนี้ได้ยินก็นิ่งเงียบไป พร้อมกับชำเลืองไปยังคนที่เพื่อนตัวเองได้กล่าวอ้างอิงถึง แล้วพบสายตานิ่งคมมองมาทางนี้เหมือนกัน สายตาคมกริบคูนั้นทำเอาคนถูกจ้องสั่นเทิ้มขนลุกขนชันไปทั่วตัวาก่อนจะรีบปล่อยรุ่นน้องทั้งสองคนกลับไปนั่งกับเพื่อนๆ ทันที "เอาล่ะครับ น้องๆ ทุกคน วันนี้ผลของการจับคู่พี่รหัส สายรหัสออกแล้วนะ เนื่องจากน้องๆ มีมากกว่ารุ่นพี่ จึงต้องมีน้องที่ได้พี่รหัสคนเดียวกันด้วย ก็ไม่ต้องแปลกใจนะ เด็กทุกคนมาจับฉากลากเลือกสายรหัสของตัวเอง และก็ไปหาพี่รหัสกันเองแล้วนะ พี่ๆ ทุกคนเอาใจช่วยให้หาให้ได้ไวไวและ...ทำภารกิจเพื่อเข้าสายรหัสผ่านกันทุกคน" รุ่นพี่คนหนึ่งประกาศ น้องๆ ปีหนึ่งก็พากันเดินไปจับฉลาก เฟร์ย่าล้วงมือเข้าไปในกล่องใบใหญ่ หยิบกระดาษออกมา 1 แผ่นแล้วแกะเปิดดู พบว่ามันมีรูปกุญแจอยู่ในกระดาษใบนั้น "ของเฟร์ได้รูปกุญแจอ่ะ มันหมายความว่ายังไง แล้วพี่เบย์อ่ะได้รูปอะไร" เฟร์ย่าหันไปหาเบย์ที่กำลังแกะกระดาษดู "ของพี่ได้ไม่ได้รูปอ่ะ แต่ได้ตัวหนังสือแทน คำว่า กุญแจ" เบย์เอ่ยตอบคนตัวเล็ก "ความหมายเดียวกันนี่ สงสัยเราได้พี่รหัสคนเดียวกันมั้ง" เฟร์ย่าตอบ "แล้วพี่รหัสเราคือใครอ่ะ รุ่นพี่เรามีชื่อกุญแจไหม" "เหมือนจะไม่มีนะ" เบย์และเฟร์ย่ามองหน้ากัน ไม่รู้จะทำยังไงดี แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น "แต่เรารู้นะ รุ่นพี่ที่มีชื่อ ความหมายแปลว่ากุญแจอ่ะ" เสียงหวานของเด็กปีหนึ่งคนหนึ่งดังขึ้น เมื่อเขาได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ทั้งสองจึงหันไปทางเสียงนั้นอย่าง "จริงเหรอ รุ่นพี่คนนั้นชื่ออะไร" เฟร์ย่าถามทันที แต่เหมือนเด็กสาวคนนั้นจะไม่ยอมบอกง่ายๆ พร้อมกับทำท่าเบะปากใส่พวกเธออีก "จะบอกให้ก็ได้นะ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน" "จะไม่บอกก็ได้นะ เดี๋ยวหาเอง" เฟร์ย่าพูดขึ้นมาอย่างไม่พอจ เมื่อเห็นท่าทางเบะปากของผู้หญิงตรงหน้า จริงๆ เธอก็ไม่ได้ขอร้องให้มาบอกเธอเสียหน่อย "เอาน่า ข้อแลกเปลี่ยนอะไร" เบย์เป็นคนเอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน ก่อนที่จะไม่ได้เรื่องราวอะไร แต่จะมีเรื่องกันก่อน "เธอต้องช่วยฉันหาพี่รหัสด้วย" "แค่นี้เอง ได้ๆ" เบย์รับปากทันที "รุ่นพี่คนนั้น ชื่อ คีย์ อยู่ปี 2 เป็นพี่ชายของฉันเอง ฉันชื่อแคล" แคลบอกทั้งสอง พร้อมกับแนะนำตัวเอง "น่าจะใช่พี่คนนี้แหละ เราไปหากัน อ้อ! แล้วเธอได้คำใบ้อะไร" เบย์ไม่ลืมหันมาช่วยเหลือเพื่อนร่วมคณะ "ตระกูลระเบิด" แคลตอบสั้นๆ "ระเบิดเหรอ...งั้นคงเป็นพี่ชายฉันล่ะมั้ง" เบย์ทำท่าคิด ก่อนจะตอบไป "พี่ชายนายชื่ออะไร" "แต่พี่เบย์ พี่เขาอยู่ปี 3 นะ จะเป็นพี่รหัสเธอคนนี้ได้ยังไง" เฟร์ย่าถามพี่ชายคนสนิท "ก็คำใบ้ตระกูละระเบิด พี่ฉันชื่อบอมพ์ อยู่ปี 3 แต่มีน้องรหัส ชื่อนิวเคลียร์ นะ คิดว่าน่าจะใช่คนนี้แหละ" เบย์อธิบายยาว "โอเค งั้นฉันไปตามหาพี่รหัสดีกว่า" แคลพูดจบก็จะเดินจากไป แต่เสียงของเฟร์ย่าพูดต่อว่าเสียก่อน "ไม่รู้จักขอบคุณบ้างเลย" "ทำไมฉันต้องขอบคุณ ในเมื่อฉันก็ช่วยพวกเธอเหมือนกัน แสดงว่าเท่ากันเจ๊ากันไป" "เอาเถอะๆ ไม่เป็นไรหรอกเรื่องแค่นี้ อีกอย่างเราเองก็ยังไม่ได้ขอบคุณเขาเหมือนกัน" ก็จริงอย่างที่เบย์พูด เฟร์ย่าจึงยอมอ่อนลงเมื่อรูว่าตัวเองก็ผิดด้วย ทั้งเฟร์ย่าและเบย์เดินตามหาพี่รหัส จนมาพบกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่นั่งเล่นกับกลุ่มเพื่อนอยู่ใต้คณะ ผู้ชายตัวสูง ขาว หุ่นสมาร์มาดแมน หล่อและดูดีทุกกระเบียดนิ้ว พวกเขารู้ได้ทันทีว่าใช่คนคนนี้ เพราะที่คอเขามีสร้อยรูปกุญแจใส่ไว้ด้วย "อย่างหล่อเลย ไม่เห็นเหมือนน้องสาวเลย" เฟร์ย่าพูดพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้น "นี่! ถ้ายังมองคนอื่นหล่อ พี่จะไม่ช่วยเรื่องพี่บอมพ์อีกแล้วนะ" เบย์เอ่ยคาดโทษกับน้องคนสนิทที่เขารู้ว่าเธอแอบชอบพี่ชายของตน และเขาก็เอาใจช่วยอยู่ตลอด แม้แผนการจะไม่เคยสำเร็จเลยก็ตาม แต่ตลอดระยะเวลาที่พี่ชายไม่ยอมมาร่วมกิจกรรมครอบครัว เขาก็มักจะแอบถ่ายรูปปัจจุบันมาให้เธอตลอด ทำให้เธอรู้จักหน้าตาเขาได้เป็นอย่างดีมาตลอด 10 ปีได้เจอกันแล้ว..."สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่า พี่ชื่อคีย์ อยู่ปี 2 วิศวกรรมคอมพ์หรือเปล่าคะ" เฟร์ย่าตัดสินใจเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าชายคนดังกล่าวที่นั่งเล่นกีตาร์อยู่โต๊ะนั่ง"ใช่ครับ" หนุ่มหล่อหน้าใส ขาวตี๋ เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงหวานนั้น ก่อนตอบกลับด้วยรอยยิ้มแบบหนุ่มงเพลย์บอย"พอดี พวกเราเป็นเด็กปี 1 ครับ ได้มาตามหาพี่รหัส ได้รหัสเป็นรูปกุญแจ กับ คำว่า กุญแจ เลยคิดว่าน่าจะเป็นพี่ครับ" เบย์เอ่ยขึ้นบ้าง"แล้วเราสองคนเป็นอะไรกันล่ะ รู้จักกันเหรอ หรือเป็นแฟนกัน" คีย์ถามทั้งสองที่เห็นว่ามาด้วยกันแล้วดูสนิทสนมกันเกินที่จะเป็นเด็กปี1 ที่เพิ่งมาเจอกัน"ไม่ได้เป็นแฟนกันครับ พวกเราสนิทกันตั้งแต่เด็ก พ่อแม่เป็นเพื่อนกัน" เสียงของเบย์เป็นฝ่ายตอบแทนเฟร์ย่า เขาคิดว่ารุ่นพี่คนนี้คงอยากรู้ว่าผู้หญิงสวยๆ น่ารักๆ อย่างเฟร์ย่ามีแฟนหรือยังแค่นั้นแหละ คงอยากจะจีบ อยากจะม่อเท่านั้นเอง"อ่อ แล้วมีแฟนหรือเปล่าล่ะเราอ่ะ" คีย์หันกลับมาถามเบย์อีกครั้ง"หมายถึงใครครับ ผมหรือเฟร์ย่า" เบย์ถาม"ทั้งคู่แหละ พี่จะรับหรือไม่รับเข้ารหัส ก็อยากรู้ว่าน้องตัวเองมีแฟนกันหรือยัง จะได้รู้ขอบเขตว่าทำได้แค่ไหน ขนาดไหนท
หวั่นไหว! เด็กน่ารำคาญ"กรี๊ดดดดด พี่บอมพ์สู้ๆ พี่บอมพ์สู้เขา อย่าแพ้พี่เบย์นะ" เสียงเชียร์ของเฟร์ย่าดังลั่นสนามท่ามกลางเสียงเชียร์รอบสนามที่มีรถสองคันสีขาวกับสีดำ น่าจะเดากันได้ไม่ยาก คันสีขาวของเบย์ คันสีดำของบอมพ์ ทั้งวินเซ่และแฟร์รี่หันไปมองทางเฟร์ย่าที่เชียร์เสียงดัง ทั้งสองสงสัยเฟร์ย่าเชียร์ผิดคนหรือเปล่าไม่นานรถทั้งสองก็เข้าสู่เส้นชัย ซึ่งคันแรกที่เข้าก็ต้องเป็นคันสีดำอยู่แล้ว เพราะบอมพ์ชอบรถมาตั้งแต่เด็กๆ พ่อของเขาและพ่อของเฟร์ย่าสร้างสนามแข่งรถสำหรับเด็กให้ เขาซ้อมขับทุกวันเป็นประจดำ จะแพ้น้องก็คงไม่ใช่ที่ เพราะเบย์ดูเหมือนจะขับได้แต่ไม่ค่อยชอบแนวนี้มากกว่า"เย้! ชนะแล้ว" เฟร์ย่าออกเสียงดีใจเมื่อรู้ว่าใครเข้าเส้นชัยก่อน เสร็จแล้วก็วิ่งลงไปที่สนามทันที เพื่อรับนักแข่งทั้งสอง"โห่ แพ้อีกละ" เสียงเบย์บ่นอุบอิบ เขาไม่เคยชนะเลย"ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวลุงแก้แค้นให้เอง" เสียงของมิวนิคดังขึ้นขณะที่เดินเข้ามาในสนามพร้อมกับแบล็คเกอร์พ่อของเบย์ฝาแฝดในชุดแข่งรถ"พ่อจะแข่งกับพี่บอมพ์เหรอ" เฟร์ย่ารีบถามทันที ถ้าหากพ่อเขาแข่ง กลัวว่าพี่บอมพ์ของเธอจะแพ้เพราะพ่อแข่งรถมาตั้งแต่เด็ก"ไม่ๆ พ่อจะแข่
เธอต้องรับผิดชอบ ปัง!!! เสียงประตูห้องวีไอพีของชั้นบนคลับ ดังสนั่นด้วยฝีมือของบอมพ์ เขากดเฟร์ย่าให้แผ่นหลังกระแทกกับกำแพงอย่างแรง ทำให้เฟร์ย่าถึงกับนิ่วหน้าใส่คนตัวโตที่ยืนคล่อมเธอไว้ด้วยแขนแกร่งทั้งสองข้าง บอมพ์เหงื่อออกเต็มตัว ผุดขึ้นที่หน้าผากจนเกือบจะเปียกโชก หายใจหอบแรงเสียงดังฟืดฟาด อาการเหมือนคนร้อนมาก ร้อนจากข้างในร่างกาย 'หรือเขาจะแพ้แอลกอฮอล์' เฟร์ย่าคิดในใจ มองเขาด้วยสายตาเยิ้ม เพราะอาการเมายังไม่จางหาย “พะ...พี่บอมพ์ร้อนเหรอคะ” คนตัวเล็กในวงล้อมแขนเอ่ยถามขึ้น “ในเหล้ามีอะไร” เขาถามออกมาด้วยเสียงแหบพร่า “เหล้าไหนคะ ที่เฟร์กินเหรอ ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ” เฟร์ย่าทำหน้าสงสัย เพราะเธอไม่รู้เรื่อง “ใส่อะไรลงไปในเหล้าแก้วนั้น” เขาก็ยังถามด้วยเสียงหอบ และยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอจนลมหายใจแทบจะรินรดกัน “เหล้าที่พี่กินไปน่ะเหรอคะ เฟร์ไม่รู้ แก้วนั้นรุ่นพี่เป็นคนยื่นมาค่ะ ไม่ใช่ของเฟร์” เฟร์ย่ารีบแก้ตัวและใช้มือบางดันหน้าอกเขาเบาๆ “เธอวางยาฉัน” บอมพ์พูดจบแค่นั้น ปากหยักก็ประกบเข้าที่ริมฝีปากบางทันที จูบดูดดื่มและเร่าร้อน บดเบียดริมฝีปากให้กลีบปากบางเผยอ
จนเช้า... “กรี๊ดดดด” แม้เขาจะถูไถกับน้ำหวานเยิ้มเพื่อลดการเสียดสีแล้ว แต่ความเจ็บก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี เฟร์ย่ากัดฟันแน่น เม้มปากจนเป็นเส้นตรง ร่างกายสะท้านสั่น ร่องสวาทเริ่มผลิตน้ำหวานออกมามากขึ้น “ครั้งแรก?” บอมพ์แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาคิดว่าหญิงสาวตรงหน้าคงไม่ใช่ครั้งแรกเพราะโตมาจนขนาดนี้แล้ว วัยรุ่นสมัยนี้ไม่มีใครเก็บรักษาความบริสุทธิ์จนถึงวันแต่งงานหรอก แต่ถึงจะรู้แบบนั้นแต่ฤทธิ์ของยาก็ทำให้เขาหยุดหรือเบาลงไม่ได้ เขากดสะโพกเข้าหาเธออย่างหนักหน่วง เนิบนาบช้าๆจนร่างเล็กเกร็งไปทุกสัดส่วน เพราะตอนนี้ช่องรักของเธอบีบรัดกายแกร่งของเขาแน่นจนเขาแทบขยับไม่ไหว หากขยับมากเกินไปเขาจะเสร็จก่อน เขาก้มลงประกบปาก ลิ้นอุ่นลากเลียไปตามริมฝีปากสาวที่เม้มปิดสนิทให้เผยอออกรอรับลิ้นเขาเพื่อลดอากาาเกร็งให้เธอผ่อนคลาย ปึก! “กรี๊ดดดดด” เสียงกรีดร้องลั่นดังออกมาอีกครั้ง แต่ดังอยู่ในลำคอเท่านั้น เล็ดลอดออกมาไม่ได้ เพราะปากของเธอโดนปากของเขาปิดไว้ ด้วยความเจ็บปวดตรงน้องสาวของเธอเหมือนใครเอามีดมากรีด เมื่อแก่นกายหนุ่มที่มีขนาดใหญ่กดเข้ามาในร่างกายจนมิดโคนในทีเดียว เขาแ
จ่อหัว... ช่วงสายของวันต่อมา... “อืมมม” ร่างบางขยับเล็กน้อย เฟร์ย่ารู้สึกตัวตื่นลืมตาขึ้นมอง ความรู้สึกหนักๆอยู่ที่ช่วงท้องเหมือนมีอะไรพาดผ่านท้องของเธอไว้ เฟร์ย่าค่อยๆกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับรับแสง ก้มลงมองที่ท้องพบกับท่อนแขนแกร่งของชายหนุ่มตัวโตคนเมื่อคืนที่เธอรู้จักดี คนที่เธอแอบชอบ คนที่เธอแอบรัก และใฝ่ฝันคอยวิ่งตามมาตลอด ตอนนี้เขาคนนั้นนอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆเธอ แต่เขากลับไม่ได้ชอบเธอหรือเอ็นดูเธออย่างที่เธอหวัง เพราะตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เขาเอาแต่หนีหน้า หลบหน้า บอกว่าเธอคือตัวน่ารำคาญ เฟร์ย่าพยายามขยับตัวเล็กน้อย เพื่อลุกออกจากเตียงโดยที่ไม่ให้คนตัวโตรู้สึกตัว แต่การขยับตัวแค่เพียงนิดเดียว ความเจ็บปวดร่างกายของเธอ มันวิ่งแล่นแผ่ไปทั่วทั้งร่าง โดยเฉพาะส่วนใจกลางความสาวที่รู้สึกเจ็บ และแสบแปร๊บจนเธอเผลอกัดปาก เพื่อสะกดความเจ็บไว้แน่น ร่างบางค่อยๆแกะท่อนแขนหนักออกเบาๆไม่ให้เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอต้องออกไปจากที่นี่ก่อนเขาจะตื่น เพราะถ้าเขาตื่นขึ้นมาตอนที่เธอยังอยู่ตรงนี้ เขาต้องเกลียดเธอมากขึ้นอีกแน่ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันคือความผิดพลาดของเขาและ
จ่อหัว (ต่อ) “ขึ้นรถ!” ได้ยินแค่นั้น ทั้งสองคนที่อยู่นอกรถก็หันหน้ามามองกัน เพราะไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในรถสั่งนั้นหมายถึงใครเขาหรือเธอ เบย์หันไปมองคนในรถแล้วชี้มาที่ตัวเอง “ผม?” “อย่าสำคัญ!” เสียงห้วนตอบมาทันทีที่เบย์ถามขึ้น “อ้าว ไอ้พี่!” เบย์ทำท่าจะเอาเรื่อง “จะขึ้นดีดี หรือจะให้ลงไปลาก” เสียงดุดังมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทั้งสองรู้ดีว่าหมายถึงใคร เฟร์ย่าหันไปมองหน้าเบย์เหมือนอยากจะถามว่าเธอควรทำอย่างไรดี จะขึ้นไปดีไหม เบย์เลยได้แค่พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่า ขึ้นไปเถอะไม่มีอะไรหรอก เฟร์ย่าเอื้อมมือไปเปิดประตูรถและก้าวขึ้นไปนั่งข้างคนขับอย่างหวาดๆ “จะพาไปไหน ให้คนมาเอารถน้องเฟร์กลับไปด้วยนะ” เบย์บอกพี่ชายแค่นั้น แต่ดูเหมือนพี่ชายของเขาจะไม่ฟังเอาแต่มองไปด้านหน้าเตรียมจะออกรถไป “พี่เบย์! พี่ต้องบอกว่าอย่าทำอะไรน้องเป็นห่วงน้องสิ นี่อะไรห่วงรถของน้อง” เฟร์ย่าพูดด้วยหน้าตาบูดบึ้งเบาๆกลัวคนข้างๆได้ยิน เธอคิดว่าเพื่อนรุ่นพี่คนสนิทจะห่วงรถที่เธอขับมามากกว่าตัวเธอ เพราะรถคันนี้เขาเป็นคนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว “เอาน่า อิพี่นี่มันไม่ทำอะไรเราหรอก” ว่าจบ
หวง! รถสีขาวแล่นมาจอดหน้าตึกแห่งหนึ่งย่านการค้า ผู้คนพลุกพล่าน ตึกแห่งนี้เป็นตึกไม่ใหญ่มากนัก มีขนาดปานกลาง ถูกเช่าเป็นสตูดิโอไว้ถ่ายสินค้าแบรนด์ต่างๆหรือถ่ายนางแบบเพื่อโปรโมทสินค้าโดยเฉพาะ หญิงสาวร่างบอบบางก้าวลงจากรถด้านคนขับซึ่งมียามมาเปิดประตูรถให้และต้องทำหน้าที่นำรถเข้าไปจอดที่จอดรถของลูกค้าวีไอพี เฟร์ย่าก้าวลงจากรถเพื่อเข้าไปในตึกดังกล่าว วันนี้เธอได้รับงานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำที่ค่อนข้างวาบหวิวมาก เธอรับจ๊อบพิเศษที่นอกเหนือจากแบรนด์ของรัญดา คุณย่าของเธอที่เธอเป็นนางแบบในสังกัด วันนี้เธอรับพิเศษ ไม่ใช่ว่าเธอนั้นขัดสนเรื่องเงินทอง แต่เธอคิดว่ามันคือการหาประสบการณ์และเป็นงานที่เธอชอบ ช่วงนี้แบรนด์รัญดาไม่ค่อยมีงานเธอจึงแวบออกมารับงานนอกได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่เธอชอบก็คือ การถ่ายแบบนุ่งน้อยห่มน้อย วาบหวิว ยิ่งน้อยชิ้นมากเท่าไรเธอยิ่งคิดว่ามันคือการท้าทาย เธอจึงกลายเป็นนางแบบที่หลายๆบริษัทต้องการตัว เพราะความกล้าของเธอที่น้อยคนจะรับงาน บวกกับความสวย ขาว หุ่นดี เพอร์เฟคทุกอย่างแล้ว ยิ่งเป็นที่ต้องการของหลายแบรนด์ เฟร์ย่าก้าวเข้ามาในสตูดิโอพบว่าทุกคนกำลังจัดเตรียม
หวง! (ต่อ) เฟร์ย่ารับสายยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร เสียงที่เธอคุ้นเคยก็ถามมาทันที เธอตอบเขาไปถึงจุดที่เธออยู่ในตอนนี้ เมื่ออีกฝ่ายรับรู้คำตอบที่ตัวเองต้องการแล้วก็ออกคำสั่งทันทีห้ามให้เธอไปไหน ให้รออยู่ตรงนี้ เธอจะไปหาเบย์ก็ไปไม่ได้ ไม่นานรถสีดำสนิทคันเดิมก็พุ่งมาจอดอยู่ด้านหน้าของเธออย่างแรง เสียงเบรคดังลั่น ทำเอาหญิงสาวตกใจหัวใจแทบร่วงไปอยู่ที่พื้น กระจกรถสีดำนั้นเลื่อนลงเผยให้เห็นว่าใครคือ คนขับรถ “ขึ้นมา” สิ้นเสียงของเขา เฟร์ย่าได้สติรีบลนลานเปิดประตูรถเข้าไปนั่งในรถทันที “พี่บอมพ์จะพาเฟร์ไปไหนคะ” เฟร์ย่าถามขึ้นทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดในรถ “ไปที่ชอบ” เขาตอบกลับอย่างสั้นๆ “ใครชอบคะ เฟร์ชอบหรือพี่ชอบ” คนตัวเล็กหันไปถามด้วยหน้าตาใสซื่อ “ฉัน!” “ถ้าพี่จะไปที่ชอบที่ชอบของพี่ งั้นเฟร์ไม่ไปได้ไหมคะ เฟร์ไม่อยากชอบด้วย” “ไม่ได้ ฉันอยู่ที่ไหน เธออยู่ที่นั่น ลืม?” “ไม่ลืมค่ะ แต่จะให้เป็นแบบนั้น ทำไมไม่เอาเชือกมามัดติดกับตัวเลยล่ะคะ” “อย่าท้าทายอำนาจมืด!” เขาพูดแบบนั้น เพราะเขาสามารถทำแบบนั้นได้แน่นอน อย่าได้ท้าทายอำนาจมืดของเขาถ้าไม่อยากลองดี เธอเลยต้
BEY PART (The End) สารภาพ...ขอเป็นผัว “ถ้าไม่เรียกผัว จะดูดแรงกว่านี้นะ” เขาถอนริมฝีปากพูดแกมขู่เจ้าของร่างที่บิดเร่าไปมา เสียงครางของของคนตัวเล็กกว่าเขากระตุ้นอารมณ์เบย์ให้พลุกพล่านอีกครั้ง เขาจ้องมองคีย์ที่สะบัดหัวไปมาอย่างสุดจะกลั้น ก่อนที่เขาจะก้มลงไปที่ท่อนกายแกร่งอีกครั้งเขาห่อปากตัวเองขยับขึ้นลงเป็นจังหวะรัวและเร็ว ผสมกับมือที่รูดแท่งนั้นขึ้นลงตามจังหวะของปากอุ่นด้วย “อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ...บะ...เบย์” มือบางขยุ้มศีรษะของเบย์อย่างเผลอตัวเพื่อระบายความเสียวที่แผ่ไปทั่วร่าง “มะ...ไม่ไหว อ๊ะ...อ๊าาาา” เสียงครางของคีย์ดังลั่น ร่างกระตุกเกร็ง น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งเข้าปากเขาหมดทุกหยาดหยด เขาไม่รอช้ากลืนมันลงคอไป ก่อนจะยกมือขึ้นปาดคราบน้ำรักที่เลอะรอบริมฝีปากนั้นออกอย่างลวกๆ “เสร็จแล้วเหรอ” เบย์เอ่ยถามคนที่นอนอยู่ใต้ร่างด้วยเสียงหอบหายใจถี่รัว ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นยืนด้วยเข่า ก่อนจับคนตัวเล็กกว่าพลิกตัวให้นอนคว่ำหน้า ใช้สองมือหนายกสะโพกขึ้นสูง จัดแจงให้คีย์อยู่ในท่าหมอบคลาน เขารีบเอามือหนาป้ายน้ำรักที่เลอะขอบปากไปป้ายที่ประตูหลังของคีย์ทันที
BEY PART (The End) สารภาพ...ขอเป็นผัว “อื้ม” เสียงครางทุ้มต่ำในลำคอของเบย์เริ่มเล็ดลอดออกมาจากปากทั้งสองที่ยังคงประกบกัน ภายในลิ้นอุ่นตวัดรัดพันกันนัวเนีย ชายหนุ่มดูดควานหาน้ำหวาน ตักตวงมันจากปากบางอย่างพอใจ ทั้งคู่จูบดูดดื่มแลกเปลี่ยนลิ้นซึ่งกันและกันอยู่พักใหญ่ เบย์ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งเหมือนเสียดาย ดวงตาคู่คมจ้องมองที่ร่างของคนตรงหน้าด้วยสายตาหยาดเยิ้มอย่างลืมตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปปรับเบาะตัวเองให้ถอยห่างจากพวงมาลัยจนสุดล็อค และดึงตัวของคีย์ขึ้นมานั่งค่อมบนตักเขาทันที จมูกโด่งคมสันเริ่มเข้าใกล้ซุกไซร้ไปที่ซอกคอขาวพรมจูบ ดูดดึงเบาๆ ลากไล้ผ่านลำคอเรียว ต่ำลง ต่ำลงเรื่อยๆ มือหนายกขึ้นปลดกระดุมเสื้อของคนบนตักออกอย่างช้าๆ จนหลุดหมดครบทุกเม็ด ริมฝีปากหนายังคงลากไล้ต่ำลงไปจนกระทั่งถึงตุ่มเล็กน่ารักสีชมพูระเรื่อบนแผ่นอกขาวๆ เบย์แลบลิ้นออกแตะปลายลิ้นลงสัมผัสตุ่มนั้นทีละน้อย เมื่อลิ้นอุ่นสัมผัสตุ่มนั้นครั้งใด ร่างบนตักกระกระตุกเล็กน้อยทุกครั้ง สร้างความพอใจให้กับเบย์ไม่น้อย ก่อนที่เขาจะอ้าปากงับยอดอกเล็กน่ารักนั้นทันที “อื้อออ” คีย์สะดุ้งเฮือก ความรู
BEY PART (Start) (2) สารภาพ...ขอเป็นแฟน BK CLUB “เบย์!! ทางนี้ๆ” เสียงของคีย์ที่กำลังโบกมือกวักมือเรียกเบย์ที่เพิ่งมาถึง เดินมาหยุดที่หน้าประตูทางเข้าคลับ มองซ้ายมองขวามองหากลุ่มเพื่อนๆ พี่ๆ คณะเดียวกันที่นัดกันมา โต๊ะที่พวกนั้นจองไว้รู้สึกจะอยู่หลบมุมของตัวคลับที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไป ผ่านมามากนัก และโต๊ะก็ค่อนข้างจะอยู่ห่างจากโต๊ะอื่นๆ พอสมควร “ทำไมมาช้านักล่ะ” คีย์ถามขึ้นเมื่อเบย์มาตามที่นัดช้าไปเกือบชั่วโมง จริงๆ เขาไปดูสินค้า ตรวจสินค้าแทนพี่ของเขาที่วันนี้มีนัดดินเนอร์กับเฟร์ย่า แล้วตั้งใจจะขอแต่งงานในคืนนี้ “ไปดูสินค้าแทนพี่มา” เบย์อธิบายเหตุผลให้กับคีย์ฟัง “อ่อๆ เอาเหล้าอะไร เดี๋ยวเราไปสั่งให้” คีย์บอกพร้อมกับเตรียมจะลุกไปสั่งให้ แต่กลับโดยมือหนาๆ ของเบย์คว้าแขนเอาไว้ก่อน “จะไปไหน ทำไมไม่เรียกเด็กเสิร์ฟมา” เบย์ถาม เพราะว่าที่นี่เป็นคลับของพ่อเขา ที่มีเขาและพี่ชายคอยดูแลรับช่วงต่อจากพ่อ “เอ้อ ลืมไป” คีย์หันมายิ้มให้ แล้วกลับไปนั่งลงที่เดิม “เมาแล้วหรือไง” เบย์ถามคีย์ แต่ดูเหมือนคีย์จะไม่ได้ยิน เขาจึงไม่ได้ตอบอะไรกลับมา “นี่ๆ น้องคีย์ กินให้เมาได้เลยนะ ถ
BEY PART (Start) สารภาพ...ขอเป็นแฟน หลังจากวันนั้น ที่บอมพ์และเฟร์ย่าได้ตกลงเป็นแฟนกันโดยการประกาศขอกันกลางลานหน้าคณะวิศวะ ท่ามกลางเหล่านักศึกษาเกือบทั้งคณะเลยก็ว่าได้ วันนี้พวกเราทั้งสองครอบครัวก็นัดเจอกันที่สุสานหลุมฝังศพประจำตระกูลของคุณน้าแฟร์รี่ ที่จะจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงแค่สองครอบครัวทุกปี “นี่ตาเบย์ ทำไมวันนี้มาคนเดียวล่ะ ทุกทีจะมากับน้องเฟร์” วินเซ่เอ่ยถามลูกชายคนเล็กที่เดินเข้ามาใต้ต้นจามจุรียักษ์ที่พวกเธอรวมตัวกันอยู่ หน้าหลุมฝังศพ 3 หลุม เบย์ในชุดนักศึกษา เสื้อช็อปสีแดงเลือดหมู กางเกงยีนส์สีดำขาเดฟ รองเท้าผ้าใบเท่ๆ “นี่แม่แกล้งถามหรือแม่อยากมีเรื่องกับผมกันแน่” เบย์พูดกับแม่แบบทีเล่นทีจริง “อ้าว แม่ถามจริงๆ นะเนี่ย” “ก็เวลาเพื่อนมีแฟน ก็มักจะลืมเพื่อนไม่ใช่เหรอ ยัยนั่นก็เหมือนกัน” เบย์บอกพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆ แม่และพ่อตัวเอง “แล้วน้องจะมาไหมเนี่ย เรียนหนักกันหรือเปล่า” วินเซ่เอ่ยถามอีก “เรียนไม่หนักหรอก แต่เรื่องอื่นน่าจะหนักกว่า เดี๋ยวก็มากับลูกชายคนโตแม่อ่ะแหละ” เบย์พูดแล้วยิ้มกวนๆ พูดไม่ทันได้จบ รถสีดำขลับก็แล่นมาจอดยังสถานที่เอาไว้จอดรถ สองช
เกียร์อยู่ที่ใคร ใจอยู่ที่เธอ (จบ) เฟร์ย่า และบอมพ์ เดินทางกลับเข้าแผ่นดินใหญ่เพื่อกลับไปเรียนต่อ โดยมีนนนี่ย้ายมาอยู่ด้วย ในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัวของเฟร์ย่า ก่อนหน้านี้เฟร์ย่าจะไม่ยอมให้พ่อหาบอดี้การ์ดให้ เพราะว่าตัวเองยังเรียนอยู่ ไม่จำเป็นต้องมีคนคอยติดตาม แต่ตอนนี้ยอมให้มีคนคอยติดตามแล้ว เพราะรู้สึกถูกชะตาต้องใจ กับนนนี่เข้าให้ เธอรู้สึกได้ว่า นนนี่มีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่าง ทั้งรู้ใจ ทั้งใส่ใจ เป็นทั้งเพื่อนสาว แม่บ้าน คนขับรถ หรือแม้กระทั่งคนคอยปกป้องเธอ เพราะว่านนนี่ได้รับการฝึกการป้องกันตัวมาจากคุณตาเจคอร์ปเป็นอย่างดี เมื่อบอมพ์ไปขอนนนี่กับคุณตาเจคอร์ปให้เฟร์ย่า แล้วบอกว่าจะให้มาเป็นคนคอยดูแลเฟร์ย่า คุณตาก็ยอมตอบตกลงทันที โดยไม่ถามอะไรเลย “นี่...นนนี่จะให้เฟร์เรียกว่าอะไรดี เรียกนนท์ หรือ นนนี่” เฟร์ย่าเอ่ยถามขึ้น ในขณะที่กำลังเดินลงมาจากตึกเรียน นนนี่เข้าเรียนคณะเดียวกับเฟร์ย่า เพราะนนนี่อายุเท่ากับเธอ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยอื่น เฟร์ย่าให้พ่อของเธอทำการย้ายนนนี่มาเรียนด้วยกัน คณะเดียวกันเสียเลย “สภาพแบบนี้ เรียก นนนี่ น่าจะสวยกว่านะ” เบย์เอ่ยขึ้น เพราะเดินลงมาพร
รักษาคนแพ้อาหาร ร่างบางใต้ร่างหนาที่ทาบทับเธออยู่บนที่นอน คนตัวเล็กนอนหลับตาพริ้ม รอรับจูบอันหอมหวานที่เขาจะมอบให้ ปากหยักประกบจูบลงมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน ไม่นานจูบที่อ่อนโยนเริ่มแปลเปลี่ยนดูดดื่มดุดัน ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากหวานควานหาน้ำหวานอย่างชอบใจจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ “อื้อออ” มือบางยกขึ้นเกาะกำเสื้อเขาจนเกิดรอยยับ ชายหนุ่มถอนจูบดูดดื่มออกอย่างเสียดาย จมูกโด่งเป็นสันซุกไซ้ไล้ลูบลงตามซอกคอหอมขาว ผ่านไหปลาร้าบุ๋ม ลิ้นชุ่มน้ำลายจูบซับตามร่องอกเต่งตึง มือหนาสอดใต้ชุดมินิเดรสบาง เขาเลิกผ้าที่ปิดเรือนกายเธอขึ้นเหนืออกสวย เผยให้เห็นสองเต้าที่ถูกบราเซียสีขาวปกปิดไว้อย่างไม่มิดชิดมากนัก บอมพ์ยกยันตัวขึ้นมองเล็กน้อย ริมฝีปากหนากดจูบลงมาที่ริมฝีปากอวบอีกครั้ง บรรจงจูบอย่างดูดดื่ม ดุดันรุนแรง และเร่าร้อน เขาบดเบียดให้กลีบปากบางเผยอออก ส่งลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นอุ่นกวาดไปรอบๆโพรงปากดูดกลืนน้ำหวานจนทั่วทุกพื้นที่ในปากจนพอใจ จึงค่อยๆถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งเสียดาย ร่างกายบางอ่อนปวกเปียกบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่านรัญจวน “พะ...พี่คะ ประตูยังไม่ได
รอฟังความจริง (ต่อ) “พี่ไม่อยากให้เราออกไปกับไอ้หน้าอ่อนนี่” ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อยๆ ก่อนจะชำเรืองมองผ่านตัวเฟร์ย่าไปด้านหลัง ที่มีนนท์ยืนยิ้มให้อยู่ “ทำไมล่ะคะ เฟร์ไปกับนนท์แล้วจะเป็นอะไร” “ก็พี่หึง พี่หวงไม่เข้าใจหรือไงวะ!” บอมพ์พูดออกมาอย่างหงุดหงิด “55555 หึงเหรอคะ” เฟร์ย่าหัวเราะออกมาดังลั่นพลอยทำให้นนท์และคนอื่นๆ อดยิ้มไปด้วยไม่ได้ “หัวเราะอะไร ไม่ตลก!” บอมพ์พูดแล้วหันไปทางอื่นด้วยท่าทางงอนๆ “พี่ไม่ต้องหึงเฟร์กับนนท์หรอกค่ะ” “ทำไมจะหึงไม่ได้ ทำไมไม่ให้หึง เราเป็นเมียพี่” “ก็...นนนี่เขาไม่ชอบชะนีอย่างเฟร์หรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นพี่บอมพ์ก็ไม่แน่นะ นนนี่อาจจะชอบก็ได้” เฟร์ย่าพูดปนเสียงหัวเราะขำๆ คำพูดของเธอทำเอาบอมพ์ที่ได้ยินถึงกับอึ้ง ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอก แต่พอหันไปหานนท์ที่ยกมือขึ้นโบกเล็กน้อยระดับหน้าอก แสดงจริตจะกร้านออกมาแบบนั้น บอมพ์ก็ถึงบางอ้อทันที “แล้วทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่แรก และทำไมนายไม่บอกความจริงฉันห๊ะ?” บอมพ์หันไปคาดโทษนนท์หรือนนนี่ “ก็เฟร์ไม่ยอมให้นนนี่บอกนี่คะ บอกว่าอยากรู้อะไรบางอย่างก่อน” นนนี่จีบปากจีบคอพูดกับเจ้านาย “อยากรู้อะไร ทำไมไม
รอฟังความจริง เผียะ!! “อิพี่บอมพ์!!” เฟร์ย่าตื่นขึ้นมาในตอนเช้ารู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆ พาดอยู่ที่หน้าท้อง ตอนแรกเธอคิดว่าผีอำ พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับใบหน้าหล่อที่หลับพริ้ม อยู่ใกล้กับใบหน้าหวานๆ ของเธอ ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาเป่ารดแก้มป่องเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเขากำลังหลับสนิท แขนแกร่งพาดทับที่หน้าท้องน้อยของเธอคล้ายกับว่ากำลังกอดเธอไว้อย่างหลวมๆ เฟร์ย่าตกใจเล็กน้อยทำไมเขาถึงได้มานอนกับเธอได้ แต่พอเห็นว่าเขากำลังหลับสนิทก็เลือกที่จะไม่ปลุก ปล่อยให้หลับอยู่แบบนั้นพักใหญ่ๆ จนกระทั่ง..เหน็บชาเริ่มกัดกินท่อนแขนของเธอ จะอดทนต่อไปก็ไม่ได้ เหน็บชาเล่นงานเธอจนเจ็บไปหมด จึงต้องแกล้งโวยวายให้เขาตื่นซะเลย “อื้ออ ตีพี่ทำไมเนี่ย” บอมพ์งัวเงียตื่น ใช้ศอกยันตัวขึ้นมาจากเตียง เขาตื่นเพราะแรงตบตีที่แขนของเขา “ทำไมพี่มานอนในห้องเฟร์ มาอยู่บนเตียงเฟร์ด้วย” เฟร์ย่าโวยวาย พอเป็นพิธี “แล้วทำไมพี่ถึงจะมานอนกับเมียของตัวเองไม่ได้ล่ะ” ชายหนุ่มยียวนกวนอารมณ์เธอในท่านอน ศอกตั้งเอามือค้ำใบหน้าหล่อฟ้าประทานเอาไว้ “แต่เมื่อคืนพี่อนุญาตให้เฟร์ไปรักคนอื่นแล้ว” คนตัวเล็กเถียงกลับแว้ดๆ
ฝันถึงไอ้หน้าอ่อนแค่คืนนี้ “เราหนีพี่ไม่พ้นหรอก ขอแค่ 5 นาทีพี่ก็หาเราเจอแล้ว” บอมพ์พูดออกไปด้วยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ เฟร์ย่าเห็นรอยยิ้มนั้นก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาทันที รีบยกมือบางดันตัวเขาออกอย่างไม่แรงมากนัก แต่ก็สามารถออกห่างเขาได้นิดหนึ่ง “ตามมาทำไมคะ” ร่างบางพูดพร้อมกับทำปากบูดๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่า เหตุผลที่เธอต้องหนีเขามาที่นี่เพราะอะไร ก็เพราะเขาเห็นเธอเป็นของเล่น แล้วทีนี้จะตามเธอมาถึงที่นี่ทำไม “มาตามเมียกลับบ้าน” เขาตอบทันที “เมียที่ไหนคะ ที่นี่ไม่มีเมียพี่ค่ะ มีแต่ของเล่นกับของตาย” “อย่าประชด” “ไม่ได้ประชด เฟร์พูดจริงๆ พี่เป็นคนบอกเองว่าไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบเฟร์ เห็นเฟร์เป็นแค่ของเล่น ของตายที่เลิกรักพี่ไม่ได้” เฟร์ย่าพรั่งพรูคำพูดที่รู้สึกอึดอัดออกมาให้เขารู้ว่าเธอได้ยินในสิ่งที่เขาพูดกับแม่ของเขา “ที่บอกว่า พี่เห็นเราเป็นของเล่น หรือของตายน่ะไม่จริงเลยนะ แต่ที่บอกว่าเธอเลิกรักพี่ไม่ได้น่ะ เรื่องจริง...หรือเธอว่าไม่จริง?” บอมพ์เอียงคอถามคนตรงหน้าแบบยิ้มๆ เจ้าเล่ห์และทะเล้นเหมือนตัวเองกำลังชนะอีกแล้ว “หลงตัวเอง!” “ไม่ได้หลงตัวเอง มีคนหลงพี่ด้วย” “วุ