“ไอ้ทรอย กูจะไปกินข้าว มึงพากูมาที่นี่ทำเชี่ยอะไร” เมื่อเสือเห็นสถานที่ที่ทรอยขับรถมาจอด ร่างสูงก็รีบหันไปมองหน้าทรอยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดใจอย่างเห็นได้ชัด “กูนัดสาวบริหารกินข้าวที่คณะนี้” “เกี่ยวอะไรกับกู” เสียงทุ้มติดรำคาญเอ่ยบอกกับเพื่อนรักของตัวเอง เพราะเขาเบื่อสายตาของผู้หญิงที่มองมาอย่างมีความหมาย ซึ่งเขาไม่ชอบ และยิ่งคณะบริหารส่วนมากจะมีแต่ผู้หญิง “อ้าว!! มึงเพื่อนกูไงไอ้เสือ มึงต้องมาส่งกูสิ” “มึงดูหน้าไอ้ปาร์คด้วย” ใบหน้าเรียบเฉยของปาร์คบ่งบอกถึงความเซ็งได้เป็นอย่างดี เมื่อถูกทรอยลากมาถึงที่นี่แทนที่จะกินข้าวหน้ามหา’ลัย “เออน่า พวกมึงก็มาเป็นเพื่อนกูหน่อยดิวะ” เมื่อเห็นเพื่อนรักทั้งสองไม่โอเค ทรอยจึงส่งสายตาอ้อนวอนขอร้องเสือและปาร์คให้เดินลงจากรถไปยังโรงอาหารของคณะบริหาร “กูเบื่อมึงจริง ๆ ไอ้ทรอย ตั้งแต่เรียนมามีโรงอาหารคณะไหนบ้างที่มึงยังไม่เคยไป” เสียงทุ้มติดเบื่อหน่ายของปาร์คพูดออกจากจี้ใจดำของทรอยไม่น้อย “ไอ้สัด!! พูดยาวจนกูรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้เลย”
“ไว้เจอกันนะครับพี่บัว” หลังจากที่ตกลงรายละเอียดกับจองอินได้สักพัก หนุ่มน้อยจึงขอตัวกลับไปเรียน โดยปล่อยให้ใบบัวอยู่กับติวเตอร์และเหล่าน้องชายของเธอที่นั่งอยู่รวมโต๊ะด้วย “เอ่อ พี่บัวคะ” ใบบัวที่กำลังนั่งกดมือถืออยู่ถึงกับรีบเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียกชื่อเธอ “คะ” “นิรินกำลังจีบน้องชายพี่บัวอยู่ค่ะ” นิรินสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนที่เธอจะพ่นประโยคที่ตัวเองกำลังคิดออกมา “คะ” คิ้วเรียวสวยขมวดกันเป็นปมด้วยความสงสัย ใบบัวงุนงงไม่น้อยกับประโยคคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” ใบบัวเผลอตัวเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ รอยยิ้มหวานแฝงไปด้วยความข้องใจ “พี่ไม่มีน้องชาย” “นิรินกำลังจีบพี่เสืออยู่ค่ะ” “เหรอเสือ?” ใบหน้าสวยหันไปจดจ้องใบหน้าด้านข้างของเสือ เพื่อหาข้อยืนยันว่า คำพูดของนิรินจริงหรือเท็จ “......” “เสือ!!” ใบบัวเอียงหน้าไปกระซิบข้างหูของเสืออีกครั้ง เมื่อเขาไม่ยอมตอบคำถามของเธอ มือเล็กจึงจิกเข้าที่หน้าขาของเสืออย่างแรง “น้องเขาก็บอกอยู่นี่ บัวจ
“เสือ นี่นายไปกินเหล้า หรือนายไปซื้อร้านเหล้ากันแน่” เพียงแค่ขายาวเดินก้าวเข้ามาภายในบ้านเป็นอันต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงของใบบัวดังมาจากห้องรับแขกของบ้านเสียงบ่นที่มักได้ยินเป็นประจำ เมื่อเขารูดบัตรเครดิตเยอะกว่าปกติ และครั้งนี้ก็คงไม่รอดสายตาของเธอไปได้ “นี่เสือ มาคุยกันก่อน” ใบบัวเดินมาดักตรงหน้าของเสือที่กำลังจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน “มีอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยที่แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง “นี่นายโกรธฉันงั้นเหรอ” คิ้วเรียวสวยขมวดกันเป็นปม ประโยคคำพูดของติวเตอร์กลับลอยเข้ามาภายในหัวของเธอทันที เมื่อเห็นท่าทางและการกระทำของชายหนุ่ม “ไม่ได้โกรธ” “ทำไมไม่ตอบคำถามฉัน” ใบบัวยังคงข้องใจไม่น้อย และเธอต้องได้คำตอบจากเรื่องนี้ “เหนื่อย ง่วง จะนอน” เสือตอบคำถามใบบัวเพียงเท่านี้ ก่อนที่เขาจะก้าวเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านไม่แม้แต่จะเหลียวมองกลับมา “อ้าว!!” ใบบัวเปิดประตูเข้ามาภายในห้องนอนที่เงียบสงัดซึ่งแตกต่างจากทุกวันที่เคยเป็น ดวงตากลมโตโฟกัสไปยังเตีย
ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางกรุง ซึ่งวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้มีผู้คนพลุกพล่านมากกว่าปกติ ใบบัวและเสือเดินเข้ามาภายในห้างพร้อมกัน โดยมีเสือเดินถือกระเป๋าเอกสารตามใบบัวไม่ห่าง “นัดใครไว้” เสียงทุ้มหันมาถามใบบัวด้วยความสงสัย ใบบัวยุ่งคุยงานผ่านมือถือตั้งแต่ออกจากบ้านโดยที่เธอไม่มีเวลาบอกกล่าวอะไรให้เสือฟังเลยสักนิด “นัดเซ็นสัญญาพรีเซ็นเตอร์กับจองอิน” “ไอ้เหี้ยนั่นอะนะ” เสียงทุ้มปนดุพูดโพล่งออกมา สีหน้าและแววตาเป็นประกายด้วยความไม่พอใจออกมาชัดเจน “เหี้ยไหน?” คิ้วเรียวสวยขมวดกันเป็นปม งุนงงกับประโยคที่เสือเอ่ยออกมาไม่น้อยจนลืมไปว่า เสือและจองอินเคยเจอกันมาก่อน “ก็ไอ้ที่มันจะจีบบัวไง” “อ๋อ คนนั้นแหละ” “ทำไมไม่ให้คนอื่นมาวะ” เสือกัดฟันกรอด เขาพ่นลมหายใจอย่างหมดความอดทน เมื่อต้องมาเจอกับบุคคลที่เขาฟาดหัวแตกมาเมื่อคืน “คุณเสือคะ นี่มันคืองานค่ะ กรุณาแยกแยะด้วย” เมื่อเห็นว่าเสือเริ่มไม่มีเหตุผล ใบบัวยกมือขึ้นลูบแขนแกร่งเบา ๆ เพื่อปลอบประโลมให้เขาใจเย็นขึ้น “ให้มันเป็นแค่เ
“ค่าเสียหายเท่าไรคะ เรียกมาได้เลย แต่ขออย่าแจ้งความก็พอ” หลังจากเหตุชุลมุนจบลง ใบบัวหันไปถามผู้จัดการร้าน ขอเคลียร์ค่าเสียหายทันที “คุณกี้ รบกวนพาจองอินไปโรงพยาบาลด้วยนะคะ ค่าเสียหายแจ้งมาได้เลยค่ะ” ใบบัวหันไปคุยกับผู้จัดการส่วนตัวของจองอินด้วยน้ำเสียงสุภาพ “แบบนี้ไม่ไหวนะคะคุณบัว ถ้าจองอินต้องเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้” ผู้จัดการส่วนตัวของจองอินถึงกับโวยวายออกมากับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น ยิ่งเห็นสภาพใบหน้าที่ปูดบวม แถมเกรอะกรังไปด้วยเลือดของจองอิน เธอแทบอยากจะเป็นลมล้มพับอยู่ตรงนั้น “สั่งสอนมันสิวะ!! อย่าให้มันไปล่อตีนผัวคนอื่น” เสือพูดโพล่งออกมาด้วยความใจร้อน เพียงแค่เห็นใบหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของใบบัว “มึง!!” คำอุทานที่เต็มไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจของจองอินดังขึ้น แต่ก็ถูกผู้จัดการรั้งแขนเอาไว้ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ชกต่อยเหมือนสักครู่ ซึ่งเธอเห็นว่าจองอินแทบสู้เสือไม่ได้เลยสักนิด “พอ!! กันทั้งคู่” น้ำเสียงติดหงุดหงิดใจของใบบัวเอ่ยห้ามทั้งเสือและจองอิน เธอเริ่มรำคาญกับพฤติกรรมของผู้ชายทั้งสองคนนี้มาก แทบอยากจะระเบิดด่
“คุณพ่อ คุณแม่ มาแล้ว” เสียงใสของเมอร์ลินดังออกมาจากประตูบ้านหลังใหญ่ของคุณตาและคุณยาย น้ำเสียงดีใจของเด็กน้อยเรียกรอยยิ้มจากคนแก่ในบ้านได้เป็นอย่างดี “ฉันโชคดีจังเลยค่ะคุณธี ที่ได้เห็นหลานเร็วกว่าคนอื่น” คุณหญิงวิลันเอ่ยบอกกับสามีของตัวเองที่ยืนมองหลานสาวซึ่งกำลังรอคุณพ่อและคุณแม่ของเธอเดินลงจากรถ “ผมก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ยิ่งใบบัวยิ่งแล้วใหญ่ ทำท่าทางเหมือนคนจะโสดไปตลอดชีวิต” รอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าที่เริ่มมีริ้วรอยของผู้ใหญ่ทั้งสอง ย้อนไปเมื่อสามปีก่อน หลังจากที่ใบบัวรู้ว่า ตัวเองตั้งท้อง เธอจึงพาเสือเข้ามากราบขอขมาพวกเขา และให้เหตุผลว่าไม่ต้องการงานแต่งงาน แต่ด้วยฝ่ายชายที่คัดค้านหัวชนฝา เด็กหนุ่มนามว่าเสืออยากจัดงานแต่งงาน และพร้อมรับผิดชอบค่าจัดงานทั้งหมด รวมถึงสินสอดทองหมั้น สร้างความพึงพอใจให้กับครอบครัวใบบัวไม่น้อย และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่สามีภรรยาที่ถูกต้องตามพฤตินัยและนิตินัยของทั้งคู่ โดยมีผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายดูอยู่ห่าง ๆ “คุณพ่อขา อุ้มเมอร์ลินหน่อยค่า” เมอร์ลินยื่นแขนป้อม
“ทำไมวันนี้ คนสวยของพ่อตื่นเช้าจังครับ” เสียงเอ่ยถามลูกสาวที่เดินออกมาจากห้องรับแขกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น “เมอร์ลินนอนอิ่มแล้วค่ะ” เสียงใสตอบกลับผู้เป็นพ่อ เพียงแค่เสือได้เห็น ดวงตากลมโตประกายความสดใสของลูกสาว ชีวิตของเขาก็ช่างเบิกบานไปตลอดทั้งวัน “วันนี้วันหยุด เราจะทำอะไรกันดีคะคุณพ่อ” “หนูอยากทำอะไร อยากไปไหนล่ะลูก” เสียงทุ้มละมุนเอ่ยถามลูกสาว มือหนาลูบศีรษะเล็กอย่างนึกเอ็นดูในความน่ารักของลูกสาวที่กำลังทำหน้าครุ่นคิดอยู่ “หนูอยากไปเล่นบ้านบอลค่ะ” “งั้นเราไปชวนคุณแม่กันครับ” “ไปกันเลย” เสือจูงมือลูกสาวเดินมายังห้องครัว ภาพที่ปรากฏตรงหน้าเป็นภาพที่คุณแม่ยังสาวใส่ผ้ากันเปื้อนและกำลังงุ่นง่านทำอาหารเช้าอยู่หน้าเตา “คุณแม่ขา” เสียงใสของเมอร์ลิน ทำให้ใบบัวหันหลังกลับมามองลูกสาวคนสวยของตัวเองพร้อมกับตอบรับลูกสาวเสียงหวาน “ว่าไงคะ” “วันนี้เราไปเล่นบ้านบอลกันมั้ยคะ” ใบหน้าและน้ำเสียงออดอ้อนของลูกสาว เพียงแค่เมอร์ลินเอ่ยขอ เธอก็พร้อมจะหามาให้เมอร์
“กินอะไรดีน้อ” ไม่ใช่เสียงของใบบัวแต่กลับเป็นเสียงของเมอร์ลินที่กำลังถูกคุณพ่อของตัวเองอุ้มแนบอก นิ้วเล็กจิ้มแก้มตัวเองใบหน้าครุ่นคิดเหมือนผู้ใหญ่ “โธ่!! ลูก หนูอยากกินอะไร ไหนบอกพ่อสิ” เพียงแค่เห็นความน่ารักของลูกสาว เสือถึงกับใจอ่อนระทวย “คุณแม่ขา เราจะทานอาหารกลางวันอะไรกันดีคะ” “คนสวยของแม่อยากทานอะไรละคะ” เสียงหวานของคุณแม่ยังสาวเอ่ยถามลูกสาวกลับ เธอเพียงอยากให้ลูกได้คิดเป็นและเลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการ “อาหารญี่ปุ่นดีมั้ยคะ” “ได้ลูก” เมอร์ลินเรียกอาหารญี่ปุ่นอาหารโปรดปรานของเธอตั้งแต่อยู่ในท้อง เนื่องจากตอนท้องเมอร์ลิน ใบบัวทานอาหารญี่ปุ่นแทบทุกวัน “ไปกันเลย” นิ้วเล็กชี้ไปข้างหน้าของตัวเอง เพียงให้ผู้เป็นพ่อเดินตามทางเดิน เนื่องจากท้องน้อยของเธอกำลังร้องหาอาหาร ด้วยน่าตาอันหล่อเหลาของชายหนุ่มและใบหน้าสะสวยของหญิงสาว รวมไปถึงใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักของเด็กหญิง ทำให้ทั้งสามคนเป็นจุดสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา ต่างพากันชื่นชมไปขาดสาย “กินอิ่มแล้ว เมอร์ลินอยากไปไหนต่อลูก” เสือเอ
“เสือ เอาจริงดิ” ใบหน้าสวยดูตกใจไม่น้อย เมื่อได้ยินในสิ่งที่เสือกำลังพูดออกมา เธอแทบกุมขมับด้วยซ้ำกับความดื้อของสองพ่อลูกที่ไม่ยอมห่างจากกันไปไหน “เสือแค่ไปอบรมเอง อีกอย่างวันนี้บัวก็มีประชุมสำคัญไม่ใช่เหรอ” ช่วงนี้เขาไม่มีเรียนสำคัญอะไรแล้ว นอกจากแนะนำ อบรม ประชุมสโมสร สามารถเอาลูกสาวไปมหาลัยด้วยได้สบายมาก “แต่เมอร์ลิน นั่งเล่นอยู่ในห้องทำงานของบัวได้” “ไม่ครับ เมอร์ลินจะเหงา” เสือยังค้านหัวชนฝา เขาไม่เห็นด้วยที่จะให้เมอร์ลินที่กำลังแขนเจ็บไปนั่งเล่นคนเดียวในห้องทำงานของใบบัว “เสือ!!” “เมอร์ลินจะไปกับพ่อหรือแม่ครับ” เมื่อเห็นว่าเสือยังคงหัวแข็งไม่ยอมท่าเดียว ใบบัวจึงหันไปถามลูกสาวที่กำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่ “พ่อค่ะ” คำตอบของลูกสาว ทำให้ใบบัวถึงกับยีผมตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ ช่วงนี้เมอร์ลินติดพ่อมาก เสียงหือฮาของเหล่านักศึกษาดังขึ้น เมื่อเห็นสุดหล่อของมหาลัยอุ้มหนูน้อยน่ารักเข้าไปใต้ตึกคณะ ช่างเป็นเรื่องน่าแปลกสำหรับชายหนุ่มที่โหดแบบเสือไม่น้อย “สวัสดีค่ะ ลุงทรอย ลุงปาร์ค ลุงมิกซ์
@ หกเดือนผ่านไป การดำเนินชีวิตของใบบัวและเสือยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง มีลูกน้อยที่น่ารักเต็มไปด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวไม่เคยได้พัก ไม่ได้สร้างความรำคาญใจให้กับเสือเลยสักนิด ตรงกันข้ามยิ่งเขาได้ยินเสียงใสของลูกสาวหัวใจกับพองโตในพัฒนาการลูกสาวอยู่ตลอด “เดี๋ยวเย็นนี้ พ่อกับแม่มารับนะครับ” หลังจากที่เคยให้สัญญากับเมอร์ลินเอาไว้ เสือและใบบัวใช้รถยนต์เพียงคันเดียว ส่งลูกสาวเสร็จ เสือก็ต้องขับไปส่งใบบัวที่บริษัทในทุกวัน “รับทราบค่ะ” ตาคมมองแผ่นหลังของเมอร์ลินที่กำลังเดินเข้าไปภายในโรงเรียนไม่ละสายตา รู้สึกโหวงเหวงภายในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “เสือเป็นอะไรรึเปล่า” เมื่อเห็นท่าทางที่ดูเปลี่ยนไปของเสือ ใบบัวที่จับสังเกตได้ถึงกับเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ความคิดของชายหนุ่ม “เปล่าครับ วันนี้เสือแค่รู้สึกแปลก ๆ” “ไม่มีอะไรหรอกหน่า เรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวสาย” เสือหันไปพยักหน้าตอบรับบัว มือหนาจับมือเล็กเดินเคียงข้างกันไปที่รถ “ไอ้เสือ วันนี้มึงทำหน้าเหมือนเมียมีชู้” ทรอยเอ่ยแซวเพื่อนรักที่นั่งทำหน้าไม่รับแขกอยู่เก้าอี้หินอ่อนหน
ช่วงเย็นของวันพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า สายลมเย็นโบกพัดโชยมากระแทกใบหน้าของใบบัวและเสือที่กำลังเดินขึ้นไปบนอัฒจันทร์ข้างสนามแข่งรถขนาดใหญ่ “เรามาทำอะไรที่นี่เหรอ” คิ้วเรียวสวยขมวดกันเป็นปมด้วยความสงสัย ดวงตากลมโตกวาดตามองโดยรอบสนามอันกว้างขวางมีเพียงแค่เธอและเขาสองคนเท่านั้น “มีหุ้นส่วนที่นี่แต่ใช้ชื่อบัวนะ” เสือเอ่ยบอกกับแม่ของลูก วันนี้สนามที่เขาสร้างขึ้นสำเร็จแล้ว ผู้คนมากมายเข้ามาใช้บริการที่สนามแห่งนี้จนเติบโตและกวาดรายได้มหาศาล “ชื่อบัวเป็นหุ้นส่วน ที่นี่เนี่ยนะ” เมื่อได้ยินคำตอบจากชายหนุ่ม ใบหน้าสวยที่ดูตกใจสุดขีดแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง “ครับ” “อย่าบอกนะ ว่าที่สนามแห่งนี้ คือรายได้ที่โอนให้บัวทุกเดือน” ดวงตากลมโตเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จำนวนเงินที่เสือโอนให้ในแต่ละเดือนเป็นจำนวนเยอะพอสมควร “ใช่ เสืออยากสร้างที่นี่เป็นของขวัญให้บัว” “ของขวัญ” คิ้วเรียวสวยขมวดกันเป็นปม เธอเอ่ยทบทวนประโยคคำพูดของเสือท่าทางงุนงง “ของขวัญตอบแทนที่อุ้มท้องและเลี้ยงดูเมอร์ลินอย่างดี” คำตอบของเสื
“คุณพ่อขา ค่อย ๆ นั่งนะคะ” เสียงใสของลูกสาวเอ่ยบอกกับผู้เป็นพ่อที่พึ่งกลับบ้าน หลังจากได้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลสองคืนเต็ม ๆ โดยที่ใบบัวต้องฝากเมอร์ลินเอาไว้บ้านคุณตาและคุณยาย เพื่อจะได้ดูแลเสือได้สะดวกไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง แต่หลังจากที่เสือได้กลับมาพักผ่อนที่บ้านก็มักจะได้ยินเสียงใสของลูกสาวคนสวยไม่หยุด “มีลูกสาวดูแลดีขนาดนี้ พ่อเลยหายเร็ว” เสียงทุ้มละมุนเอ่ยบอกกับลูกสาวตัวเอง รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของเสือ เขาดึงลูกสาวเข้ามากอดและหอมฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึง “เมอร์ลินจะดูแลคุณพ่อไปจนแก่” คำพูดของเมอร์ลิน ทำให้หัวอกของคนเป็นพ่อฟูฟ่อแทบทะลุอก ดีใจไม่น้อยที่สวรรค์ส่งนางฟ้าตัวน้อยมาให้เขาดูแล “เมอร์ลินลูก” “คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ” ใบหน้าและน้ำเสียงมุ่งมั่นบ่งบอกได้ถึงความจริงใจปนไร้เดียงสาของเด็กน้อยที่กำลังนั่งยิ้มเป็นตาสระอิให้กับคุณพ่อของเธอ “วันนี้ขับรถไปส่งที่มหาลัยหน่อยสิ ปวดหัว” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอกกับใบบัวที่กำลังเดินออกมาจากห้องแต่งตัวช่วงเช้าของวัน “ปวดมากมั้ย”
“นอนกกเมียไปแล้ว โทรมาหากูทำเหี้ยอะไร” ทรอยกดรับสายจากเสือที่โทรหาเขาหลังจากที่ขอตัวกลับบ้านได้ไม่นาน “พากูไปโรงบาลที” น้ำเสียงอ่อนเพลียของเสือเอ่ยบอกกับปลายสายและคำตอบที่ได้กลับทำให้เขาอยากใช้หัวตัวเองโขกข้างฝาอีกครั้ง “มึงเป็นเชี้ยอะไร เป็นโรคขาดความรักรึไง” “ไอ้สัด!! พูดมาก รีบมารับกูเดี๋ยวนี้!!” เมื่อเห็นทรอยยังคงถามมากเสือจึงย้ำเพื่อนรักอีกครั้ง “เมีย มึงไปไหน? ” “ไอ้ทรอยกูไหว้ล่ะ รีบมารับกูก่อนที่เลือดกูจะไหลหมดตัว” “เออ ไปเดี๋ยวนี่แหละ” เมื่อได้ยินน้ำเสียงจริงจังของเสือ ทำให้ทรอยหยุดเล่นและรีบขับรถมาหาเพื่อนที่บ้านโดยมีบอสตันพี่ของใบบัวมาด้วย พวกเขาปล่อยให้ปาร์คดูแลสนามต่อเพียงลำพัง “ไอ้เสือ ใครดับกระทืบมึง” ทรอยขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของเสือ เขาเห็นเพื่อนรักนั่งรออยู่บริเวณประตูรั้วของบ้านอยู่แล้ว มือหนาของเสือใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กห้ามเลือดเอาไว้ กัดฟันข่มความเจ็บปวดที่เริ่มโจมตีเข้ามา “เมีย” “นี่มึงอย่าบอกนะ ว่าเป็นฝีมือพี่ใบบัว” ทรอยรีบพยุงเ
ภายในสนามแข่งที่มีผู้คนมากมายรวมทั้งผู้หญิงผู้ชายรวมตัวกันอยู่ในสนามแห่งนี้ ที่กำลังมีแมตซ์สำคัญจ่อลงแข่ง เพื่อนตรวจดูความเรียบร้อยกลุ่มของเสือรวมไปถึงบอสตันออกจากห้องรับรองเดินลงมายังลานสนาม ตุบ!! เสือที่กำลังยืนมองความเรียบร้อยภายในสนามเป็นอันต้องชะงัก เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาชนเขาอย่างจัง “อุ๊ย!! ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจ คุณ.. ” หญิงสาวที่เดินชนเสือช้อนตามองใบหน้าหล่อเหลาของเสือ ใบหน้าทรงเสน่ห์และโดดเด่นเป็นที่หมายตาของสาว ๆ ในสนามไม่น้อย “ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มตอบกลับหญิงสาวที่เดินชนตัวเองไร้เยื่อใย เสือก้มมองเสื้อของตัวเอง ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดออกมา “จะไม่เป็นไรได้ยังไงคะ? ฉันเดินชนคุณนะ!!” เมื่อเห็นชายหนุ่มไม่มีท่าทีสนใจเธอเลยสักนิด เธอจึงพูดแย้งขึ้นมาเพราะอยากแสดงความรับผิดชอบแต่คำตอบที่ได้ยังคงเหมือนเช่นเดิม “ไม่เป็นไร” “ฉันรู้สึกผิดค่ะ เบียร์หกเปื้อนเสื้อคุณด้วย ให้ฉันซื้อคืนให้นะคะ” หญิงสาวตรงหน้ายังคงคะยั้นคะยออยากรับผิดชอบชายหนุ่มที่กำลังยืนทำหน้าเบื่อโลก “ไม่เป็นไร เดี๋ยวให
“คัท ผ่านครับ” ภายในสตูถ่ายโฆษณาผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งผ่านเรียบร้อยไปด้วยดี ร่างสูงของจองอินจึงเดินเข้าไปหาใบบัวที่กำลังงุ่นง่านอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ “พี่ใบบัว ผมขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยครับ” จองอินเดินมาหยุดตรงหน้าของใบบัว เขาเอ่ยถามเธออย่างสุภาพและคำตอบที่ได้จากใบบัว เรียกรอยยิ้มจากจองอินได้เป็นอย่างดี “ได้สิ” “นายมีอะไรกับพี่รึเปล่า” ใบบัวเดินนำจองอินออกมานอกสตูดิโอที่รายล้อมไปด้วยสวนย่อมที่ไร้ซึ่งผู้คน “ผมชอบพี่ครับ” จองอินสารภาพความในใจของตัวเองให้ใบบัวได้ทราบอีกครั้ง แววตาและน้ำเสียงที่ดูจริงจัง ทำให้ใบบัวถึงกับพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหนักใจ “แต่พี่มีครอบครัวแล้ว” “ครับ ข้อนี้ผมทราบดี ตอนแรกผมก็คิดว่าตัวเองยังมีความหวัง” จองอินพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดมาโดยตลอดเพียงแค่เขารู้ว่าสามีของผู้หญิงที่เขาแอบชอบยังเรียนอยู่ นั่นก็เท่ากับว่าเขายังมีสิทธิ์แต่สิ่งที่เขาคิดกับผิดมหันต์ “จองอิน นายยังต้องเจอผู้หญิงอีกเยอะ อย่ามาอะไรกับพี่เลย” ใบบัวพยายามพูดให้จองอินเข้าใจ อีกอย่างจองอินยังเด็กแยกแยะไม่ออกระหว่าง
“ไอ้เชี้ย ไม่อยากจะเชื่อ” หลังจากที่อาจารย์เดินออกจากห้องสอน เสียงพึมพำของปาร์คดังขึ้นเบา ๆ ซึ่งเสือและทรอยที่นั่งข้างกลับได้ยินชัดเจน “มีอะไรวะ”ทรอยเอ่ยถามปาร์คด้วยความสงสัย ใบหน้าเรียบเฉยก่อนหน้านี้ดูอึ้งไปไม่น้อย เมื่อเห็นข้อมูลในมือถือของตัวเอง “ข้อมูลคนทำ” “สรุป?” น้ำเสียงเรียบเฉยหันมาถามปาร์คด้วยความอย่างรู้ เขารอเรื่องนี้อยู่ รอเจอบุคคลที่ใส่ร้ายเมียตัวเอง “นิรินหรือไอ้จองอิน” ทรอยเองก็รอคำตอบอยู่เหมือนกันระหว่างนิรินกับจองอินใครกันแน่ที่เป็นคนทำ “ไม่ใช่ทั้งสอง” คำตอบของปาร์คสร้างความงุนงงให้กับเสือและทรอยไม่น้อย ถ้าหากไม่ใช่สองคนนี้แล้วจะเป็นใคร? “ไอ้เสือ มึงแม่ง!!ศัตรูเยอะ ฉิบหาย” “สรุปใคร” “น้องปลายฟ้าที่เราพึ่งเจอเมื่อเช้า” เพียงแค่ได้ยินชื่อบุคคลที่เป็นต้นเรื่อง พวกเขาตกใจไม่น้อยบุคคลที่ปล่อยข่าวกลับเป็นรุ่นน้องในคณะที่แทบไม่เคยได้เจอกันเลยสักครั้ง ยิ่งสร้างความแปลกใจให้กับเสือไม่น้อย เขาไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้และเขาก็มั่นใจว่าใบบัวเองก็ไม่รู้จักเธอ “ไอ
“คุณแม่ขา” เสียงใสของเมอร์ลินเอ่ยเรียกแม่ของตัวเองตั้งแต่เดินเข้าประตูบ้าน โดยมีคุณพ่อยังหนุ่มเดินตามระวังไม่ให้ลูกสาวล้มไม่ห่าง “ว่าไงคะ คุณสวยของแม่” เสียงหวานของคุณแม่ยังสาวเอ่ยถามลูกสาวด้วยความละมุน “วันนี้คุณพ่อซื้อเค้กร้านโปรดให้เมอร์ลินด้วย” รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าของเธอ นึกเอ็นดูใบหน้าดีใจของลูกสาวที่ได้เค้กร้านโปรดที่พ่อมักจะซื้อมาให้เป็นประจำ “น่ากินมั้ยคะ” “สุด ๆ ไปเลยค่ะ” ความสดใสในทุกวันของเธอ ป่วนจนบางครั้งถึงกับต้องรีบกุมขวับแต่ทุกความวุ่นวายของลูกคือความสุขและความบันเทิงใจของพ่อแม่ “ใช้เสียงแบบนี้พูดกับผมบ้างสิ” เมอร์ลินสนใจเค้กตรงหน้าของเธอไม่แม้จะสนใจคุณพ่อและคุณแม่ของตัวเองเลยสักนิด “จ้างสิ วางเงินมาค่ะ” ใบบัวแบมือตรงหน้าของเสือ สายตาซุกซน รอยยิ้มหวานพิมพ์ใจ หยอกล้อพ่อของลูกท่าทางน่ารัก “พอมั้ย” เสือล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ของตัวเอง หยิบแบล็คการ์ดใบสีดำ วางบนมือของใบบัวด้วยใบหน้าเรียบเฉย “เฮ้ย!! ให้จริงดิ” ดวงตากลมโตเบิกตากว้าง ตกใจไม่น้อย เมื่อเห็นบัตรแบล็คก