บทที่ 57 คลอดก่อนกำหนด หยางชิงโม่ทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ตัวนุ่มในเรือนสี่ประสาน รู้สึกอ่อนเพลียทั้งกายและใจ ตั้งแต่ที่เธอได้รู้จักกับท่านนายพลเซี่ยจง ชีวิตของเธอก็เหมือนถูกพลิกผันไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เหมือนเธอกลับไปใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันยังไงยังงั้น เฮ้อ ไหนบอกไม่ต้องเข้ากรมจริงจังนักงั้ย นี้ไม่ว่าผ่าเคสไหนก็จะต้องให้เธอมีส่วนร่วมทุกที ไม่ให้ผ่าตัดเองก็ให้เธอแนะนำแพทย์เหล่านั้น ซึ่งหยางชิงโม่ก็ไม่ได้อยากจะว่าอะไร เพราะอย่างไรก็คือชีวิตคนที่พวกเขาช่วยอยู่ แต่มันก็มาบ่อยไปมั้ย!!!!...เธอเคยคิดว่าชีวิตในยุคนี้จะเรียบง่ายและสงบสุขกว่าชาติก่อน แต่ดูเหมือนว่าความคิดนั้นจะเป็นแค่ภาพลวงตาอาการเหนื่อยล้าที่เธอเคยคิดว่าจะไม่มีวันกลับมาเยือน ได้กลับมาหาเธออีกครั้งแล้วการผ่าตัด การอยู่เวร ยามค่ำคืนที่ต้องนอนน้อยลง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยดีในชาติก่อนเธอเคยคิดว่าการได้มาใช้ชีวิตในยุคนี้ เธอจะได้หลีกหนีจากวังวนเหล่านี้ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะคิดผิด“แม่ คุณแม่ครับ แม่ครับ เสียงเรียกที่น่ารักตะโกนขึ้นมาพร้อมกันทั้งสามเสียงและลูกกระสุนเสี่ยวเป่าก็พุ่งมาก่อนเพื่อนเช่นเคย"แม่ครับ วันนี้หนูเรีย
บทที่ 58 ฉันจะเป็นเวรกรรมให้เจ้าคังอี้หานเอง หยางชิงโม่รีบคว้ากระเป๋าแพทย์และวิ่งไปที่บ้านทันที"ใจเย็นๆ นะคะทุกคน พี่สะใภ้ใหญ่จะต้องปลอดภัย!" เธอบอกเพื่อปลอบประโลมทุกคนเมื่อถึงห้องนอน หยางชิงโม่พบเฉินเจียวนอนอยู่บนเตียงใบหน้าซีดขาวเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก"น้องสะใภ้รอง.. ช่วยหลานด้วย.. ช่วยหลานด้วย..." เฉินเจียวพูดด้วยเสียงอ่อนแอหยางชิงโม่รีบตรวจดูอาการของเฉินเจียว พบว่าเธอมีอาการเจ็บครรภ์อย่างรุนแรง และมดลูกเริ่มบีบตัว"หมอหยาง... เจ็บ... เจ็บมาก..." เฉินเจียวร้องครวญคราง"ใจเย็นๆ นะคะพี่สะใภ้ใหญ่ ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว หายใจเข้าลึกๆ ค่ะ" หยางชิงโม่พยายามปลอบประโลมเธอรีบเตรียมอุปกรณ์สำหรับการคลอดฉุกเฉิน ตอนนี้พวกผู้ชายได้ออกไปจากห้องหมดแล้ว มีเพียงคุณแม่อาเล็กและป้าหวังที่ยืนอยู่ สักพักเธอได้ยินเสียงล้มตึง เป็นป้าหวังที่เป็นลมเพราะเห็นเลือดของสะใภ้ใหญ่บ้านเฉินนั้นไหลออกมามาก ลำบากหยางชิงโม่ที่ให้คนมาพยุงออกไปพักด้านนอกพร้อมให้ยาดมแกดมไปด้วยกลับมาที่ห้องตอนนี้หยางชิงโม่เธอเตรียมอุปกรณ์สำหรับการคลอด เช่น ผ้าปูที่นอน ถุงมือ ยาแก้ปวด และเครื่องดูดเสมหะออกมา" คุณแม่ เตรียมน้ำร้อน ผ้า
บทที่ 59 ตระกูลคังมาขอขมาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตระกูลคัง ของคังอี้หานส่งผลสะเทือนไปทั่วครอบครัวของคุณหมอหยางชิงโม่กลายเป็นที่จับตามองครอบครัวสายหลักของตระกูลคังทั้งตระกูลต้องเข้ามาขอขมาตระกูลเฉิน เรียกว่าแทบจะคลานเข่ามาก็ว่าได้เพราะตอนนี้ทุกคนในตระกูลไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ล้วนได้รับความเดือดร้อนกันหมดทั้งตระกูล พวกเขาไม่สามารถที่จะทำมาหากินอะไรได้เลยบางทีเดินอยู่ดีๆ ยังถูกแก๊งมังกรดำลากไปทุบตี โดยให้เหตุผลว่าทำแล้วสบายใจแบบนี้ก็ได้เหรอ? พวกเขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลยนะ ส่วนคนผิดอย่างเจ้าคังอี้หานที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล กลับไม่โดนอะไรเลยไม่ไปทุบตีมันละ!!!เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวคังต้องสูญเสียทั้งชื่อเสียงและความมั่งคั่ง พวกเขาต้องก้มหัวขอโทษครอบครัวเฉิน เป็นการแก้แค้นที่แสนเจ็บแสบโดยไม่ต้องลงมือทำอะไรเลยในที่สุดพวกเขาทนไม่ไหว หัวหน้าตระกูลคังต้องพาคนในครอบครัวมาที่บ้านหมอหยางและขอขมาพวกเธอบรรยากาศภายในบ้านของหมอหยางชิงโม่เต็มไปด้วยความตึงเครียดครอบครัวตระกูลคัง นำโดยหัวหน้าตระกูลคัง คุกเข่าอยู่หน้าประตูบ้านหยางชิงโม่มองดูคนตระกูลคังนิ่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเฉิน ล้วนมีสาเ
บทที่ 60 อุทักภัยปี 1981คุณหมอหยางชิงโม่กำลังคิ้วขมวดเพราะเธอกำลังอ่านกระดาษ 'โพย' ที่นำมาจากอนาคต ปีหน้าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่มีคนเสียชีวิตหลายพันคนเลยทีเดียว เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นความสูญเสียครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศจีนเลยทีเดียว เพราะมีหลายมณฑลที่น้ำท่วมและมีคนหลายพันคนเสียชีวิตและสูญหายนอกจากเหตุการณ์น้ำท่วมยังมีเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในปี 1981 อีกหลายเหตุการณ์ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในจีน เช่น การปฏิรูปเศรษฐกิจ การเปิดประเทศ และการปฏิรูปการศึกษา ส่งผลให้จีนพัฒนาไปอย่างรวดเร็วส่วนเหตุการณ์การเมืองที่สำคัญมากถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการประชุมสมัชชาประชาชนแห่งชาติครั้งที่ 5:มีการแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่ นำโดย หู เย้าบาง (Hu Yaobang) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นที่รู้จักและเคารพจากประชาชนจีนในฐานะผู้นำที่สนับสนุนการปฏิรูปและประชาธิปไตยเติ้งเสี่ยวผิง (Deng Xiaoping) ได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนการปฏิรูปเศรษฐกิจ: เริ่มต้นการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ เปิดประเทศรับการลงทุนจากต่างประเทศเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรก สี่แห่ง ก่อตั้งขึ้นในเซ
บทที่ 61 ขอบคุณที่ช่วยชีวิต“ผมเชื่อ”นายพลเซี่ยจงชายผู้ทรงอำนาจเป็นรองเพียงผู้นำประเทศเท่านั้นก้าวเท้าเข้าสู่ห้องอย่างเงียบเชียบ บทสนทนาของสามีภรรยาคู่นั้นลอยเข้าหูเขาโดยไม่ได้ตั้งใจนายพลเซี่ยจงยืนนิ่ง ร่างของเขาแข็งทื่อ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินปี 1981 ... อุทกภัย ... ความหายนะ ...คำพูดเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวของเขาเขาคิดถึงภาพของประชาชนชาวจีนที่ยากไร้ อดมื้อกินมื้อ “เพิ่งจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในปี 60-70 มา ทำไมพระเจ้าถึงต้องทดสอบพวกเขาอีกด้วย?”พวกเขาเพิ่งผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความอดอยากและความโหดร้ายมาแล้วตอนนี้ ...อุทกภัย ...มันจะเป็นบททดสอบที่โหดร้ายเกินกว่าที่พวกเขาจะทนทานไหวนายพลเซี่ยจงกำหมัดแน่น รู้สึกถึงความโกรธและความหดหู่เขาเป็นผู้รับผิดชอบต่อความปลอดภัยของประชาชน เขาจะต้องทำอะไรสักอย่างเขาจะต้องปกป้องพวกเขาเฉินหวังตงเงยหน้าขึ้นมองและเอ่ยขึ้นมาเบาๆ “ ท่านนายพล!”หมอหยางชิงโม่ “ท่านมาที่นี่ได้อย่างไรคะ?”นายพลเซี่ยจง “ผมได้ยินทุกอย่างแล้ว ผมไม่เคยสงสัยในความสามารถของหมอหยาง และผมจะไม่ถามว่าคุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร แต่ถ้าคุณจะบอกรายละเอีย
บทที่ 62 รับเป็นลูกบุญธรรมหลังจากผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ท่านนายพลเซี่ยจงก็เป็นบุคคลที่โด่งดังขึ้นมาทันใด ไม่ว่าจะเป็นสำนักข่าวในประเทศหรือต่างประเทศ หนังสือพิมพ์หลายฉบับต่างก็มาขอสัมภาษณ์เขาทั้งนั้นแน่นอนว่าที่เป็นชาวต่างชาติคนที่จะให้สัมภาษณ์คือหมอหยางชิงโม่นั้นเอง เพราะท่านนายพลเซี่ยจงพูดภาษาต่างประเทศไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของหมอหยาง และที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจและประทับใจมากคือ หมอหยางชิงโม่สามารถพูดได้ถึง 5 ภาษาดังนั้นการให้สัมภาษณ์ของคุณหมอสาวกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ก็เลยกล่าวเป็นข่าวไปด้วย หัวข้อข่าวที่ว่าคือ เรื่องบุคลากรของประเทศเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถจริง ๆนั้นทำให้ท่านนายพลเซี่ยจงได้หน้าได้ตาที่สุดเลยก็ว่าได้ และที่ยืนหน้าบานอยู่ข้างๆ ท่านก็คือนายพลเฉินหวังตง ที่จับตามองภรรยาของเขากำลังให้สัมภาษณ์ภาษาฝรั่งเศสอยู่นั้นเอง ...แววตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและมีแววหวานเยิ้มนิดหน่อยแต่เขาไม่รู้ตัวแต่คนที่เห็นคือท่านนายพลเซี่ยจง ..นายพลเซี่ยจงยังคงหันไปมองหมอหยางชิงโม่ที่ตอนนี้หันมาตอบคำถามนักข่าวชาวญี่ปุ่นแล้ว...มันจะเก่งไปนะ...เขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้วท่านนายพล
บทที่ 63 ที่ดินเวนคืนกาลเวลาผันผ่าน ช่วงเวลารวดเร็วดั่งสายน้ำ ฤดูหนาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนได้สิ้นสุดลง ฤดูใบไม้ผลิอันสดใสได้มาเยือน แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องไปทั่วทุกพื้นที่ หมอหยางชิงโม่ ที่กลายเป็นเซี่ยชิงโม่ คุณหนูเล็กแห่งตระกูลเซี่ยแม้สถานะจะเปลี่ยนแปลง แต่ความทุ่มเทและความขยันหมั่นเพียรของเธอยังคงเหมือนเดิม หมอเซี่ยชิงโม่ยังคงทำงานหนักอยู่เช่นเดินในปี 1982 นี้คุณหมอเซี่ยผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ จะเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะอาจารย์หมอ เธอรับลูกศิษย์ 3 คน เข้ามาสอนวิชาแพทย์ศาสตร์ ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์การสอนลูกศิษย์ เปรียบเสมือนการจุดประกายไฟแห่งการรักษา หนุ่มสาวหมอใหม่ทั้ง 3 เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น เซี่ยชิงโม่มองเห็นศักยภาพในตัวพวกเขา เธอจะทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ถ่ายทอดวิชาความรู้ ฝึกฝนทักษะ หล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์แห่งความเมตตาอนาคตอันสดใสรออยู่ข้างหน้า เด็กหนุ่มสาวเหล่านี้จะเป็นหมอที่ดี เป็นผู้สืบสานศาสตร์แห่งการรักษา เยียวยาผู้คน และสร้างประโยชน์ต่อสังคมต่อไปคุณหมออวิ่นไป่คุณหมอเทียนหลงคุณหมอจางเสวี่ยคือ 3 คนที่โชคดีได้รับการคัดเลือกจ
บทที่ 64 หาเรื่องผิดคนเป็นที่รับรู้กันไปทั่วเรื่องที่ท่านนายพลเซี่ยจงซื้อที่ทางรกร้างห่างไกลความเจริญเอาไว้มากมายเพราะตอนนั้นนายกเทศมนตรีเมืองเซินเจิ้น ได้เอาเอกสารมาส่งที่กรม ทำให้พวกเพื่อนๆ ของท่านนายพลเซี่ยจงได้รับรู้ว่าท่านซื้อที่ห่างไกลความเจริญเอาไว้หลายพันไร่ทีเดียวตอนแรกพวกเขาต่างพากันหัวเราะเยาะลับหลัง พวกเขาคิดว่าท่านนายพลเซี่ยจงมีเงินเยอะมากไปหรือไม่รู้จะทำอะไรก็เลยเอาไปโยนทิ้งโดยซื้อที่ป่ารกร้างและห่างไกลถึงเซินเจิ้น ซัวเถา แบบนั้นแต่ก็มีเพื่อนบางคนของท่านนายพลเซี่ยจงที่อายุยังน้อยพวกเขาถือว่านายพลเซี่ยจงคือไอดอลไม่ว่าท่านขยับตัวทำอะไรพวกเขาจะทำตาม เมื่อพวกนายพลอายุน้อยเหล่านี้รู้ว่านายพลเซี่ยจงซื้อที่ห่างไกลขนาดนั้นมากมายจะต้องมีนัยสำคัญอะไรแน่พวกเขาคิดวิเคราะห์แยกแยะเสร็จก็ลองเสี่ยงตัดสินใจซื้อตามท่านนายพลเซี่ยจงไอดอลของพวกดู พวกเขาซื้อที่ตามพื้นที่เซินเจิ้น ซัวเถา จู่ไห่ คนละหลายร้อยไร่เลยทีเดียว ทำให้นายกเทศมนตรีเมืองเซินเจิน และซัวเถาและจู่ไห่ต่างดีใจกันหน้าบานที่พากันขายที่ให้พวกนายพลเหล่านี้ได้เยอะ..เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องตลกในกลุ่มนายพลด้วยกัน พวกเขาต่างคิดว่าน
บทส่งท้าย ส่งต่อแหวนมิติ2 วันต่อมาคู่สามีภรรยาหลังจากที่พากันไปจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงขับรถไปที่บริเวณที่เป็นเรือนสี่ประสานที่พวกเขาเคยอยู่ตั้งแต่ในยุค 70 เมื่อขับรถผ่านและจอดมอง พวกเขาเห็นเรือนสี่ประสานที่ยังคงงดงามและมีมนต์เสน่ห์เช่นเดิม นั้นสามารถบอกได้ว่าลูกๆ หลานๆ ของพวกเขานั้นดูแลเรือนหลังนี้เอาไว้อย่างดี พวกเขาจอดรถและเฝ้ามองอยู่ที่ประตูตั้งแต่เช้าไม่นานก็เห็นรถโรลส-รอยซ์สีขาวคันใหญ่ค่อยๆ ขับออกมาขณะที่รถคันนั้นกำลังจะขับผ่านพวกเขาไป รถโรลส-รอยซ์คันนั้นก็หยุดกะทันหันเพียงไม่นานประตูก็เปิดออก คนที่ออกมาจากประตูรถเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่แต่งกายเหมือนชุดอนุบาลเรียบร้อย เธอเปิดประตูออกมาแล้วรีบวิ่งกลับไปที่ประตูบ้านทันที ประตูเรือนสี่ประสานยังไม่ทันได้ปิดก็มีร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งรีบวิ่งมาในมือของเขานั้นมีกล่องเล็กอยู่ 2 สอง ดูเหมือนว่าจะเป็นกล่องข้าว เขายื่นกล่องข้าวใบเล็กนั้นให้กับเจ้าเด็กน้อยจากนั้นก็เดินจูงเธอมาและเปิดประตูรถให้เธอเมื่อเสร็จก็ยกมือขึ้นบ๊ายบาย 2-3 ครั้งก่อนจะปิดประตู และยืนมองจนกระทั่งรถคนนั้นหายไปจากสายตา เขากำลังจะกลับเข้าไปที่บ้านแต่เหมือนว่าเขา
บทที่ 103 จากฮีโร่สู้ผู้ร้ายเช้าวันต่อต่อมาเกิดข่าวใหญ่ที่สะเทือนเมืองหลวงปักกิ่งขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อหยวนเปียวน้องของภรรยารองของท่านผู้นำ จากที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาคือฮีโร่ที่เข้าช่วยเหลือท่านผู้นำจนตัวเองได้รับบาดเจ็บอาการเป็นตายเท่ากัน มาวันนี้อาการของเขากลับมาดีขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาเลย และที่ทำให้ตกใจมากกว่าเดิมนั้นก็คือ เขาขอให้ทางหมอและพยาบาลช่วยอัดคลิปให้ ตอนแรกพวกหมอและพยาบาลนึกว่าเขาจะอัดคลิปเพื่อบอกให้คนที่เป็นห่วงเขาไม่ต้องห่วงเขาสบายดี แต่ที่ไหนได้คลิปที่เขาอัดกลับกลายเป็นการสารภาพความผิดทั้งหมดที่เขาเคยทำมา รวมทั้งการวางแผนกับพี่สาวของตัวเองซึ่งก็คือภรรยารองของท่านผู้นำเพื่อที่จะสังหารเขานั้นเอง และยังได้บอกอีกว่าพวกเขาคือ ผู้ร้ายข้ามชาติที่แฝงตัวอยู่ในประเทศนานแล้ว และรอเพียงเวลาที่จะลงมือสังหารท่านผู้นำนั้นเองเมื่อคลิปการสารภาพของเขากระจายออกไป ทำให้เกิดคลื่นใหญ่ขึ้นในสังคมทันที เหล่าผู้รักษาความปลอดภัยต่างก็รีบเข้าเพื่ออารักขาท่านผู้นำและพวกเขาได้รวบตัวของภรรยารองของท่านผู้นำเอาไว้เพื่อสอบสวนต่อไป ถึงแม้ว่าเธอจะปฎิเสธทุกข้อหาที่น้องชายของเธอพูดก็ตาม ตอ
บทที่ 102ความทรงจำที่หวนคืนเมื่อหยางชิงโม่ออกจากห้องของเฉินหวังตงได้ เธอก็รีบยกหูโทรหาน้องสาวจางหมี่ของเธอทันที“พี่หมอให้หยดน้ำทิพย์ไปเขากินหรือคะ” จางหมี่เอ่ยถามมาตามสาย“ใช่แล้วน้องหมี่ พี่ก็เลยจะถามน้องว่าน้ำทิพย์จะมีผลต่อความทรงจำของเขาหรือไม่นะสิ”หยางชิงโม่เอ่ยออกมาเธอออกจะเป็นกังวลเล็กน้อย“มีผลค่ะ นั้นคือหากว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปจริงๆ เขาก็จะกลับมาจำได้อย่างแน่นอน แต่หากว่าเขาไม่มีความทรงจำนั้นอยู่แล้ว น้ำทิพย์ก็เพียงจะทำให้เขาเฉลียวฉลาดมากขึ้นเท่านั้นเอง”จางหมี่บอกคุณสมบัติของน้ำทิพย์สวรรค์ของเธอให้กับพี่หมอหยางชิงโม่ไป ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องใช้น้ำทิพย์เพื่อกระตุ้นความทรงจำเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะอีกไม่นานเขาก็จะจำเธอได้แล้ว แต่ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พวกเขาจะได้ไม่เสียเวลาดีๆ ในชีวิตไป จางหมี่คิด“เช่นนั้นแสดงว่าหากเขาเป็นเฉินหวังตงของพี่จริงๆ เขาก็จะจำพี่ได้แล้วใช่หรือไม่?"หยางชิงโม่ยังต้องการคำตอบเพื่อความแน่ใจ“ใช่แล้วค่ะ เขาจะจำพี่ได้แน่นอน ที่นี่ก็ขึ้นอยู่กับพี่หมอแล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่ฉันก็อยากจะบอกพี่หมอเหมือนกันว่า คู่ชีวิตที่ดีนั้นหาไม่ได้ง่ายน
บทที่ 101 เป็นแฟนกันเถอะนะครับหยางชิงโม่ที่อยู่ในชุดกาวน์ของแพทย์ยืนมองดูร่างของคนไข้ที่ตอนนี้มีสายระโยงระยางเพื่อพยุงชีวิตเขาเต็มไปหมด หมอที่มาตรวจดูอาการของเขาต่างก็ตกอยู่ในอาการงวยงง กันมาก เพราะว่าแผลของเขาที่รับนั้นมันเล็กมาก ไม่ถึง10 เซนติเมตรด้วยซ้ำแต่ว่าอาการของเขานั้นมีหลายครั้งที่ถึงกลับมีอาการหัวใจล้มเหลว พวกเขาต่างพยายามเต็มที่ที่จะช่วยชีวิตของคนไข้รายสำคัญคนนี้ของท่านผู้นำเอาไว้ เพราะแน่นอนว่าพวกเขาทุกคนต่างก็ได้รับข่าวสารเรื่องการที่เขาเป็นผู้ช่วยเหลือท่านผู้นำเอาไว้จากผู้ร้ายหยางชิงโม่นั้นก่อนที่จะมาที่นี่เธอได้โทรหาน้องสาวจางหมี่แล้ว โดยถามว่ายาที่เธอให้มานั้นจะเกิดอาการอย่างไรกับคนที่โดนซึ่งจางหมี่ก็ได้บอกรายละเอียดมาจนครบและเด็กสาวคนนั้นยังบอกอีกว่าหากจะรักษาให้หายเพียงให้หยดน้ำทิพย์เข้าปากเพียง1หยดเท่านั้นเอง และหากว่าอยากจะให้คนร้ายสารภาพและซัดทอดไปถึงผู้บงการจำเป็นต้องมียาอีกตัวที่จะทำให้ประสาทของคนไข้หลอนและสารภาพออกมาเอง โดยการที่เขาจะสารภาพนั้นอาจจะใช้เวลา 1 หรือ 2 วันหลังจากที่เขาอาการดีขึ้น โดยที่พวกเธอไม่ต้องทำอะไร และแน่นอนว่าตอนนี้ยาเม็ดนั้นอยู่ในมือของเ
บทที่ 100 ข่าวเด่นประเด็นร้อนเมื่อเหตุการณ์สงบลงเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาจับกุมตัวของคนร้ายและรถพยาบาลได้นำตัวของหยวนเปียวผู้ที่ได้เข้ามาช่วยท่านผู้นำไปส่งโรงพยาบาล ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลาย ท่านผู้นำเดินมาหาหมอหยางชิงโม่ที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่และมือของเธอข้างหนึ่งก็ถูกเฉินหวังตรงจับเอาไว้แน่น“ผมต้องขอโทษคุณหมอด้วยนะครับที่การมาทานอาหารครั้งนี้ทำให้คุณหมอตกอกตกใจขนาดนี้ ไม่นึกจริงๆ การรักษาความปลอดภัยของผมจะหละหลวมขนาดนี้ ผมคงต้องกลับไปจัดการใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ” ท่านผู้นำกล่าวขึ้นมา“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นเหตุสุดวิสัย พวกเราไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” หยางชิงโม่พูดขึ้นมา“คุณหมอหยางคะ เป็นอย่างไรบ้างคะ ฉันกลัวมากเลยค่ะ” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาและร่างของเธอก็ถูกกอดเอาไว้จากด้านหลัง และมือที่ถูกเฉินหวังตงจับเอาไว้แน่นนั้นก็ถูกดึงออก จากมือใหญ่แข็งแรงและมีมือเล็กขาวนวลนั้นก็มาจับเอาไว้แทนเฉินหวังตงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เจ้าบ้าหรูอี้มาแย่ง ‘แฟน’ ของเขาไปและมันยังพัฒนาถึงขั้นกอด ‘แฟน’ ของเขาอีกหยางชิงโม่ที่ถูกกอดจากด้านหลังก็ตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อตั้งสติได้เธอก็ยกมือขึ้นมาลูบมือของจ้าวหรูอี้แล้วปล
บทที่ 99 ดินเนอร์กับท่านผู้นำประเทศ ep 2 เมื่ออาหารถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ หยางชิงโม่และท่านผู้นำและไม้ประดับคู่นั้นก็เริ่มทานอาหาร บรรยากาศระหว่างมื้ออาหารเต็มไปด้วยความอบอุ่น ท่านผู้นำเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เธอฟัง หยางชิงโม่รู้สึกประทับใจกับความรู้และประสบการณ์ของเขามากจ้าวชุนหยางนั่งทานอาหารมื้อค่ำอย่างเอร็ดอร่อย รอบตัวเขามีเพียงองครักษ์ 2 นาย ยืนประจำการอยู่ห่างๆ บรรยากาศภายในห้องอาหารเงียบสงบ แสงไฟสีนวลสาดส่องลงมาสร้างบรรยากาศอบอุ่นทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านหลังของเขาแต่เมื่อมองไปเห็นเขาเพียงพนักงานที่กำลังถือถาดเพื่อจะนำไวน์มาเสิร์ฟให้พวกเขาเท่านั้น พนักงานชายคนนั้นเดินมาทางด้านหลังและก่อนที่ทุกคนจะทันตั้งตัวเขาก็ชักมีดเล่มเล็กออกมาและจ่อไปที่คอของท่านผู้นำประเทศทันที“อย่าขยับไม่อย่างนั้นฉันจะเชือดคอผู้นำของพวกแกแน่นอน” น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นเป็นภาษาจีนแต่ว่าสำเนียงนั้นไม่ชัดเจนเหมือนว่าคนที่พูดเป็นชาวต่างประเทศอย่างไรอย่างนั้นตอนนี้ทุกคนต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น มันเป็นไปได้อย่างไรกับการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขนาดนี้แต่ยังมีคนร้ายสามารถเล็ดลอด
บทที่ 98 ดินเนอร์กับท่านผู้นำประเทศ ep 1 “ผมยังไม่มีแฟนครับ”เฉินหวังตงตอบอย่างภาคภูมิใจ และหันไปมองหน้าของหมอหยางที่ทำสีหน้าประมาณ ‘ฉันนึกแล้ว’ ใส่เขาและเธอก็หันไปขับรถต่อไป ทิ้งให้ภายในรถมีแต่ความเงียบ....เมื่อบอกไปแล้ว ชายหนุ่มก็หันไปมองหน้าคุณหมอคนสวยพลางรออีก เขารอให้เธอถามต่อหรือแสดงอาการดีใจ อะไรก็ได้ แต่สิ่งที่เขาได้รับคือ ความเงียบและสีหน้านิ่งเฉยและตั้งหน้าตั้งตาเหยียบคันเร่งรถเหมือนจะพยายามขับให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด เฉินหวังตงแสดงอาการผิดหวังเล็กน้อยที่เธอไม่ถามต่อ เขาก็เลยจะเฉลยให้เธอฟังซะเลยดีกว่าเพราะตัวเขาเองก็อึดอัดใจเหมือนกัน คือ อยากบอกอยากเล่าอะนะ (55555 สงสาร)“คือว่าผมกับจ้าวหรูอี้เป็นเพียงเพื่อ.....“ถึงคอนโดของคุณเฉินแล้วค่ะ” หยางชิงโม่ที่เหยียบรถห้อมาเต็มที่ในที่สุดก็ถึงคอนโดของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เสียที เฮ้ออึดอัดเป็นบ้าเลย ทำไมตอนที่เธออยู่ที่ยุค 80 กับเขาตอนนั้นไม่เป็นแบบนี้นะ ตอนนั้นทั้งสองออกจะหวานแหววกันตลอดด้วยและดูเหมือนว่าเขากำลังจะเล่าอะไรอีกแล้วละ ...ขณะที่เฉินหวังตงกำลังจะบอกเงื่อนไขที่เขากับเจ้าจ้าวหรูอี้คุยกันกับเธอ หยางชิงโม่ก็พูดแทรก
บทที่ 97 ผมยังไม่มีแฟน“น้องจะบอกว่ามีคนปองร้ายท่านผู้นำหรือ” หยางชิงโม่ก้มหน้าลงและพูดกระซิบกับจางหมี่ทั้งที่บริเวณนั้นไม่มีใครแต่ว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเหมือนสัญชาตญาณการระวังตัวนั้นเอง“ทั้งใช่และไม่ใช่ค่ะ” จางหมี่บอกแบบคลุ่มเครือ เธอไม่อยากจะฟันธงไปเลยการมีคนต้องการที่จะปองร้ายท่านผู้ เพราะว่าคนที่ทำนั้นมันอยู่ใกล้ตัวของท่านผู้นำมากนั้นเอง เฮ้อ ปัญหาครอบครัวแม้ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็หนีไม่พ้นจริงๆ จางหมี่คิดหยางชิงโม่หยิบขวดน้ำทิพย์ที่จางหมี่ให้มาแล้วเก็บเอาไว้อย่างดีภายในแหวนมิติของเธอ“แล้วท่านผู้นำจะเชื่อพี่หรือ ถ้าพี่บอกว่าแม่บ้านของเขาน่าสงสัย” หยางชิงโม่กังวลเล็กน้อยเพราะต้องทราบว่าเธอก็แค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเหลือเขาเท่านั้น ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดใดๆ กับพวกเขาเลย“เขาจะเชื่อค่ะ อย่าลืมว่ากว่าเขาจะขึ้นมาเป็นผู้นำคนทั้งประเทศได้ไม่ใช่เรื่องง่ายและเขาจะต้องระมัดระวังเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ยิ่งพี่หมอเอายาไปให้และบอกว่ามาจากฉันเขาจะยิ่งตรวจเช็คเรื่องพวกนี้อย่างถี่ถ้วนแน่นอน” จางหมี่บอกออกไป“ได้งั้นพี่จะทำตามที่น้องจางหมี่บอกก็แล้วกัน”"อีกอย่างตอนที่พี่
บทที่ 96 ฉันเลือกที่จะลืมเขาหยางชิงโม่นั่งรอเพียงไม่นาน ร่างแสนสวยของจางหมี่ก็เดินเหมือนลอยมาหาเธอแล้ว สองสาวทักทายกันนิดหน่อยและจางหมี่ก็เชิญเธอเข้าไปด้านในร้าน เพราะว่าภายในร้านชานั้นพวกเธอไม่ได้ขายอาหารเต็มรูปแบบ มีเพียงขนมและของกินเล่นที่ใช้กินคู่กับชาเท่านั้น ส่วนวันนี้นั้นเธอได้นัดที่จะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่พี่หมอ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเข้าไปทานกันด้านใน ในขณะที่พวกเธอสองคนเดินนั้น ได้มีสายตาของหมาป่าต่างเพศสองตัวจ้องอยู่และพวกเขามองส่งนางฟ้าไปจนลับตาพลางถอนหายใจด้วยความเสียดายเฉินหวังตงและจ้าวหรูอี้ที่มองนางฟ้า 2คนเดินเข้าไปข้างในต่างก็ถอนหายใจด้วยความเสียดายเมื่อไม่มีอาหารตาที่แสนสวยแล้ว พวกเขาสองคนก็หันหน้ามาหากันแทน แม้จะเบื่อหน่ายแค่ไหนก็ตาม“งั้นเอาแบบนี้ไหม อีก 2-3 วันนี้คุณปู่ของคุณจะเชิญหมอหยางของผมไปทานอาหารเพื่อเป็นการขอบคุณที่หมอหยางของผมช่วยชีวิตน้องชายของคุณเอาไว้ วันนั้นผมจะถือโอกาสบอกท่านผู้นำเลยว่าเราสองคนตัดสินใจเลิกกัน ส่วนคุณจะไปหาแฟนของคุณก็ไปผมจะเป็นคนบอกเอง”เฉินหวังตงหันมาปรึกษาหาทางออกให้กับทั้งสองฝ่าย“ถ้าแบบนั้นฉันก็คงจะโดนคุณปู่ยำแน่นอน นายมีทางอื่นอีกไห