บทที่ 63 ที่ดินเวนคืนกาลเวลาผันผ่าน ช่วงเวลารวดเร็วดั่งสายน้ำ ฤดูหนาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนได้สิ้นสุดลง ฤดูใบไม้ผลิอันสดใสได้มาเยือน แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องไปทั่วทุกพื้นที่ หมอหยางชิงโม่ ที่กลายเป็นเซี่ยชิงโม่ คุณหนูเล็กแห่งตระกูลเซี่ยแม้สถานะจะเปลี่ยนแปลง แต่ความทุ่มเทและความขยันหมั่นเพียรของเธอยังคงเหมือนเดิม หมอเซี่ยชิงโม่ยังคงทำงานหนักอยู่เช่นเดินในปี 1982 นี้คุณหมอเซี่ยผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ จะเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะอาจารย์หมอ เธอรับลูกศิษย์ 3 คน เข้ามาสอนวิชาแพทย์ศาสตร์ ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์การสอนลูกศิษย์ เปรียบเสมือนการจุดประกายไฟแห่งการรักษา หนุ่มสาวหมอใหม่ทั้ง 3 เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น เซี่ยชิงโม่มองเห็นศักยภาพในตัวพวกเขา เธอจะทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ถ่ายทอดวิชาความรู้ ฝึกฝนทักษะ หล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์แห่งความเมตตาอนาคตอันสดใสรออยู่ข้างหน้า เด็กหนุ่มสาวเหล่านี้จะเป็นหมอที่ดี เป็นผู้สืบสานศาสตร์แห่งการรักษา เยียวยาผู้คน และสร้างประโยชน์ต่อสังคมต่อไปคุณหมออวิ่นไป่คุณหมอเทียนหลงคุณหมอจางเสวี่ยคือ 3 คนที่โชคดีได้รับการคัดเลือกจ
บทที่ 64 หาเรื่องผิดคนเป็นที่รับรู้กันไปทั่วเรื่องที่ท่านนายพลเซี่ยจงซื้อที่ทางรกร้างห่างไกลความเจริญเอาไว้มากมายเพราะตอนนั้นนายกเทศมนตรีเมืองเซินเจิ้น ได้เอาเอกสารมาส่งที่กรม ทำให้พวกเพื่อนๆ ของท่านนายพลเซี่ยจงได้รับรู้ว่าท่านซื้อที่ห่างไกลความเจริญเอาไว้หลายพันไร่ทีเดียวตอนแรกพวกเขาต่างพากันหัวเราะเยาะลับหลัง พวกเขาคิดว่าท่านนายพลเซี่ยจงมีเงินเยอะมากไปหรือไม่รู้จะทำอะไรก็เลยเอาไปโยนทิ้งโดยซื้อที่ป่ารกร้างและห่างไกลถึงเซินเจิ้น ซัวเถา แบบนั้นแต่ก็มีเพื่อนบางคนของท่านนายพลเซี่ยจงที่อายุยังน้อยพวกเขาถือว่านายพลเซี่ยจงคือไอดอลไม่ว่าท่านขยับตัวทำอะไรพวกเขาจะทำตาม เมื่อพวกนายพลอายุน้อยเหล่านี้รู้ว่านายพลเซี่ยจงซื้อที่ห่างไกลขนาดนั้นมากมายจะต้องมีนัยสำคัญอะไรแน่พวกเขาคิดวิเคราะห์แยกแยะเสร็จก็ลองเสี่ยงตัดสินใจซื้อตามท่านนายพลเซี่ยจงไอดอลของพวกดู พวกเขาซื้อที่ตามพื้นที่เซินเจิ้น ซัวเถา จู่ไห่ คนละหลายร้อยไร่เลยทีเดียว ทำให้นายกเทศมนตรีเมืองเซินเจิน และซัวเถาและจู่ไห่ต่างดีใจกันหน้าบานที่พากันขายที่ให้พวกนายพลเหล่านี้ได้เยอะ..เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องตลกในกลุ่มนายพลด้วยกัน พวกเขาต่างคิดว่าน
บทที่ 65 กฎหมายการปราบปรามแก๊งผู้มีอิทธิพล“แล้วก็ตอนกลับบ้านไปถามพ่อแกดูว่ารู้จักนายพลเย่เฉินขาเหล็กแห่งกองทัพปักกิ่งมั้ย ถ้ามันรู้จักให้มันเตรียมตัวย้ายไปอยู่ชายแดน 6 เดือน”โทษฐานเลี้ยงลูกไม่เป็น จางเฉิงเจียงที่เจอตอเข้าไปตอนนี้่แทบจะร้องไห้แล้ว ซวยแล้วไม่ล่ะ ลำบากกันทั้งครอบครัวเลยทีนี้กลับมาที่เด็กน้อยที่โดนเตะเข้าที่ท้องตอนนี้นั่งมองพวกจางเฉิงเจียงที่กองอยู่กับพื้นและตัวของจางเฉิงเจียงที่โดนเหยียบอยู่ ‘เขา’ เงยหน้าขึ้นมองท่านนายพลเย่เฉินที่ช่วย ‘เขา’ เอาไว้ด้วยความขอบคุณ“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าหนูเจ็บมากหรือเปล่า?” นายพลเย่เฉินถามขึ้นมา“ไม่เป็นไรครับขอบคุณท่านนายพลมากครับ ผมไปทำงานก่อนนะครับ”เขาลุกไปด้วยความทุลักทุเล เมื่อเหตุการณ์สงบจางเฉิงเจี่ยงและลูกน้องถูกลากออกไปจากร้าน เถ้าแก่ให้เด็กเข้ามาทำความสะอาดอย่างเร่งด่วนและเริ่มทำการค้าขายใหม่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“เถ้าแก่ค่าเสียหายต่างๆ ให้ส่งคนไปเรียกเก็บที่จางเสี่ยวหลงแผนกกำลังพลของกองทัพ" นายพลเย่เฉินเอ่ยขึ้นมา“ขอบคุณมากครับท่านนายพล พวกผมไม่ขอรับค่าเสียหายเหล่านี้ครับเพราะที่ผ่านมา จางเฉิงเจียงก็มาที่นี่บ่อยมากค่ากินที่เข
บทที่ 66 เปิดโรงงานผลิตสบู่พี่ใหญ่ฉีฮ้าวกลับไปจัดการในส่วนของคนในแก๊งที่สมัครใจเข้าร่วมเป็นพนักงานของโรงงานที่เซี่ยชิงโม่กำลังจะเปิด ส่วนเธอก็กำลังปรึกษากับเฉินหวังตง ว่าจะเอาพื้นที่ไหนในการเปิดโรงงาน ถ้าจะหาพื้นที่ในปักกิ่ง ปัญหาคือเรื่องที่พักของพนักงานเพราะจู่ไห่และปักกิ่งห่างกันถึง 1,400 กิโลเมตร การย้ายพวกเขามาอาจจะมีปัญหาได้เพราะพวกเขาส่วนใหญ่เป็นคนจู่ไห่มีครอบครัวที่นั่น การให้ย้ายถิ่นฐานอาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขาดังนั้นพวกเธอจึงได้ตัดสินใจหาพื้นที่รอบนอกของจู่ไห่สร้างโรงงานขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อรองรับคนงานประมาณ 1,500-5,000 คน ซึ่งในอนาคตอาจจะถึงเมื่อปรึกษากันเรียบร้อยช่วงวันหยุดต่อมาพวกเขาทั้งครอบครัวก็ขับรถกลับมาที่เมืองจู่ไห่ ใช้เวลา 10 กว่าชั่วโมงพวกเขาก็มาถึงบ้าน เด็กๆ เหนื่อยและหลับไปนานแล้ว ..เซี่ยชิงโม่งคิดถึงการนั่งเครื่องบินจังเลย เพราะในปี 1982, เมืองจู่ไห่ยังไม่มีสนามบิน. สนามบิน Quanzhou Jinjiang Airport ที่ตั้งในเขตของจู่ไห่ เปิดให้บริการเมื่อปี 1996 ซึ่งอีกหลายปีมากกว่าจะเปิด ดังนั้นต้องอดทนถ้าจะหาสนามบินที่อยู่ใกล้เคียงแล้วบินมาที่นั่นก็พอๆ กัน เพราะเท่าท
บทที่ 67 หึงหวงการก่อสร้างโรงงานเป็นไปด้วยดี กำหนดเสร็จสิ้นสามารถที่จะเปิดโรงงานได้คือช่วงเดือน 11 ของปีนี้ซึ่งเซี่ยชิงโม่ต้องการเปิดโรงงานในช่วงนั้นพอดี เพราะอีก1 เดือนก็จะเป็นวันสินปี สินค้าของเธอถ้าออกสู่ตลาดช่วงนั้นจะต้องขายดีมากแน่ๆระหว่างนี้เธอต้องติดต่อกับเจียงไห่บ่อยมากเพราะเขาคือคนที่จะประสานงานกับลูกน้องในแก๊งมังกรดำและกับโรงงาน บ่อยครั้งที่เขาจะมาที่เรือนสี่ประสานและนั่งประชุมกับเซี่ยชิงโม่เป็นเวลานานนายพลเฉินหวังตงยืนนิ่งอยู่หน้าต่าง มองออกไปยังทิวทัศน์ของเมืองหลวงยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกรามบ้านช่องระยิบระยับ ทว่ากลับไม่สามารถส่องสว่างความมืดมนในใจของเขาได้เขาเพิ่งออกมาจากห้องประชุมที่เซี่ยชิงโม่ ภรรยาของเขา กำลังวางแผนงานสำคัญกับเหล่าสมาชิกแก๊งมังกรดำ เขาแอบมองเธออยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความตั้งใจจริงและความมุ่งมั่นในแววตาของเธอ แต่ก็รู้สึกถึงความห่างไกลระหว่างพวกเขาเซี่ยชิงโม่ไม่ค่อยมีเวลาให้เขาเท่าแต่ก่อน เธอทุ่มเทเวลาและพลังงานทั้งหมดให้กับแก๊งมังกรดำ เขารู้ดีว่าเธอมีภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจเขาเป็นสามีของเธอ เขาควรจะเป็นคนที่เธอปรึกษาห
บทที่ 68 กุหลาบสีแดงบรรยากาศยามค่ำคืน ช่างโรแมนติกท้องฟ้าประดับประดาด้วยดวงดาวระยิบระยับ เฉินหวังตง จับมือชิงโม่ กุมไว้แน่นสายตาของเขาจับจ้องไปที่ดวงตาของเธอ ดวงตาที่เปล่งประกายฉายแววความอบอุ่นและความรัก พวกเขาออกมาเดินเล่นที่สวนหลังจากส่งเด็กๆ เข้านอนแล้ว วันนี้หัวใจของทั้งสองคนฟูฟ่องขึ้นมามากมาย"ชิงโม่" เขาเอ่ยชื่อเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "ผมมีความสุขมากที่มีคุณอยู่เคียงข้างผม"เฉินหวังตง ดึงเธอเข้ามาโอบกอด ร่างกายของเธออบอุ่นและอ่อนโยน เขาสูดหายใจลึกๆ กลิ่นหอมของเธอช่างหอมหวาน เขาอยากจะกอดเธอไว้แบบนี้ตลอดไป" ชิงโม่ " เขาเอ่ยต่อ "ข้าอยากจะเริ่มต้นความสัมพันธ์แบบจริงจังกับคุณอยากจะดูแล ปกป้องอยากจะอยู่เคียงข้างคุณ ตลอดไป"ดวงตาของเธอฉายแววความคิด “ฉันก็อยากเช่นกัน" เธอเอ่ย "อยากจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป"เฉินหวังตงโน้มตัวไปข้างหน้า ประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา มันเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความรัก ความปรารถนา และความหวังในที่สุด เขาก็ได้บอกรักเธอแล้ว และเธอก็ตอบรับความรักของเขาพวกเขากอดกันแน่น หัวใจของพวกเขาเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน พวกเขารู้ว่าพวกเขาถูกกำหนดให้คู่กันอนาคตจะเป็นอ
บทที่ 69 วันเปิดโรงงานผลิตสบู่ชิงโม่สวรรค์แห่งกลิ่นหอมเสียงเครื่องจักรคำรามสะท้อนก้องไปทั่วโรงงาน บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของภารกิจอันยิ่งใหญ่เหล่าคนงานอดีตนักเลงจากแก๊งมังกรดำ แต่งกายในชุดยูนิฟอร์มสีขาว สะอาดตาบัตรพนักงานประดับบนหน้าอก เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตั้งใจแววตามุ่งมั่นมือไม้ขยับคล่องแคล่วร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพสายพานลำเลียง เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องก้อนสบู่หลากสีสันเรียงรายเป็นแถวยาว ผ่านขั้นตอนการผลิตอย่างพิถีพิถัน ผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ก่อนที่จะถูกบรรจุลงกล่องอย่างสวยงาม กล่องบรรจุนั้นชิงโม่ได้นำแบบที่ทันสมัยมากับเธอด้วยหลายแบบ เพราะตอนนี้ทางโรงงานของเธอได้ผลิตสบู่ออกมา 5 กลิ่นด้วยกัน เธอเรียกมันว่า 5 กลิ่นหอมมนต์เสน่ห์ จากสบู่ชิงโม่1. กลิ่นน้ำหอมฝรั่งเศส: สัมผัสความหรูหรา สง่างาม ดั่งหญิงสาวชั้นสูง กลิ่นหอมละมุน อบอวลไปด้วยความเย้ายวน ชวนให้หลงใหล2. กลิ่นกุหลาบแดง:โรแมนติก เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ดั่งรักแท้ที่มั่นคง กลิ่นหอมหวาน อบอวลไปด้วยความรัก3. กลิ่นกุหลาบขาว:บริสุทธิ์ อ่อนหวาน ดั่งหญิงสาวผู้เปี่ยมไปด้วยความ
บทที่ 70 เขื่อนแตกสายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน ราวกับฟ้ากำลังร้องไห้คร่ำครวญ ฟ้าร้องคำรามกึกก้อง สั่นสะเทือนไปทั่ว ท้องฟ้ามืดครึ้มเมฆดำทะมึนลอยลงมาต่ำ มองไม่เห็นแสงแดด แม้จะเป็นเวลากลางวันฝนเทลงมาเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน น้ำท่วมสูงขึ้นทุกชั่วโมง ผู้คนต่างหวาดกลัว เขื่อนหวังจิงสูงทมึนตั้งสูงตะหง่าน ที่กั้นระหว่างหมู่บ้านหวังจิง กับแม่น้ำสุ่ยเซียง ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันจากน้ำจำนวนมหาศาลได้อีกต่อไป เขื่อนเริ่มแตกร้าว น้ำไหลซึมออกมาผู้คนในหมู่ย้านหวังจิงต่างตกตลึงเด็กน้อยอาหลิว ยืนมองเขื่อนหวังจิงด้วยความหวาดกลัวเขาจำได้ว่า พ่อของเขาเคยเล่าให้ฟังว่าเขื่อนนี้สร้างขึ้นเพื่อปกป้องหมู่บ้านจากน้ำท่วม แต่ตอนนี้เขื่อนกำลังจะพังทลายอาหลิวคิดถึงพ่อของเขา พ่อของเขาเป็นคนที่สร้างเขื่อน พ่อของเขาบอกเขาเสมอว่า เขื่อนนี้จะแข็งแรงมากถ้าเป็นไปตามแบบ ไม่มีทางพังทลายได้ แต่ตอนนี้อาหลิวเริ่มสงสัยว่าเขื่อนแตกได้อย่างไร น้ำไหลแรงขึ้นเรื่อยๆ อาหลิวเห็นผู้คนพากันหนีตาย เขารู้ว่าเขาต้องหนีด้วย แต่เขาไม่อยากหนี เขาอยากอยู่กับพ่อของเขาอาหลิววิ่งไปที่บ้านของเขา เขาเห็นพ่อของเขากำลังเก็บของ เขาถามพ่อว่า "
บทที่ 79 ลาออกจากกองทัพ ผ่านปีใหม่ 1988 มา 3 เดือนแล้วดูเหมือนชีวิตของเซี่ยชิงโม่จะดำเนินไปด้วยความสงบ แต่ในความเป็นจริงนั้นตอนนี้เธอกำลังเครียดเคร่งอยู่ เพราะในกระดาษโพยใบนั้นระบุว่าในปีหน้าจะเกิด เหตุการณ์การประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งจะเกิดขึ้นใน เดือนเมษายน ถึง มิถุนายน ของปี 1989 อีกหนึ่งปีข้างหน้า การประท้วงเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 15 เมษายน 1989 โดยนักศึกษาและประชาชนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เสรีภาพ และต่อต้านการคอรัปชั่น การประท้วงดำเนินไปเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน และมีผู้เข้าร่วมหลายแสนคนในวันที่ 4 มิถุนายน 1989 รัฐบาลจีนได้ส่งกองทัพเข้าปราบปรามผู้ประท้วง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยถึงหลายพันคน เหตุการณ์การประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์จีน และยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันแม้แต่ในยุคก่อนที่เธอจะจากมาในการประท้วงครั้งนี้เธอไม่ต้องการให้สามีของเธอและพ่อบุญธรรมเข้าไปมีส่วนร่วมในการปราบปรามนักศึกษาเหล่านั้น แต่เธอก็รู้ว่าด้วยหน้าที่ของนายพลพวกเขาคงยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งได้ เธอกำลังเครียดหาทางว่าจะทำอย่างไร เธอมีเวลาเพียง
บทที่ 78 แก๊งบอยแบนด์ขอคำปรึกษา“อะไรนะอาแป๊ะเฟิงมาปักกิ่ง และมาขอเข้าพบฉันหรือคะ” เซี่ยชิงโม่ที่เพิ่งจะให้นมเจ้าสองแฝดน้อยเสร็จ ถามขึ้นมาเมื่อคุณแม่เฉินเดินเข้ามาบอกเธอว่าอาแป๊ะเฟิงและเพื่อนๆ มาขอพบเธอที่เรือนสี่ประสาน ตอนนี้เซี่ยชิงโม่ได้ขอลาพักราชการเพราะเธอเพิ่งจะคลอดลูก เธอจึงขอหยุดเพื่อเลี้ยงดูลูกอยู่ที่บ้าน ซึ่งกรณีของเธอนั้นตอนนี้เธอได้เป็นอาจารย์ที่สอนแพทย์ที่จบใหม่ไปแล้ว ถ้าไม่มีกรณีที่ยากจริงๆ เธอจะไม่เข้าไปที่โรงพยาบาล“มีอะไรหรือเปล่านะ” เธอพึมพำกับตัวเอง เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังกึกก้องสะท้อนไปทั่วเรือนสี่ประสาน ประตูเรือนสี่ประสานของเธอบานออก เผยให้เห็นขบวนชายหนุ่มในสูทสีดำสนิท คอเสื้อประดับผ้าขาว เดินเรียงรายเข้ามา ประหนึ่งบอยแบนด์เวอร์ชั่นคุณลุง สมาชิกในแก๊งประกอบด้วย อาแป๊ะเฟิงเฉียง หล่อเนี้ยบ สมาร์ท สมกับเป็นหัวหน้าแก๊งอาแป๊ะฟงหลิ่ง ก้าวตามมา ท่าทางสง่างาม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ระบายบนใบหน้าอาแป๊ะต้าหลิ่ง เยื้องย่างมาอย่างมั่นใจ ดวงตาเป็นประกาย ฉายแววเจ้าชู้อาแป๊ะเหวินฟู่ เดินมาแบบเนิบๆ แต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม อาแป๊ะฉินอวิ๋น ยิ้มหวานละมุนละไม ละลายหัวใจสาวๆอาแป๊ะห
บทที่ 77 ความจำภาพถ่าย photographic memory ผ่านเหตุการณ์กวาดล้างแก๊งค้ามนุษย์ของเซียวจ้านมา 3 เดือนแล้วตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาสู่ปรกติอีกครั้ง เซี่ยชิงโม่ที่ตอนนี้ท้องได้ 6 เดือนแล้ว แต่เธอยังคงไปทำงานที่โรงพยาบาลเป็นปรกติส่วนนายพลเฉินหวังตง และนายพลเย่เฉินหลังจากเหตุการณ์นั้นพวกเขาก็ได้รับคำชมเชยมากมายจากท่านผู้นำ พ่อแม่ครอบครัวที่ได้รับลูกหลานกลับสู้อ้อมกอดอีกครั้งต่างพากันขอบพวกเขาจากใจจริงหยางชิงเยว กำลังเรียนพิเศษอย่างขะมักเขม้นกับครูที่เซี่ยชิงโม่จ้างมาสอนเธอกำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสที่บ้าน เมื่อเซี่ยชิงโม่เข้าไปดูการเรียนการสอน เธอถึงกับประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะหยางชิงเยวสามารถทักทายเธอเป็นภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมันพร้อมกันทั้ง 3 ภาษา และยังบอกเซี่ยชิงโม่ว่าเธอชื่นชอบการเรียนภาษาต่างประเทศเหล่านี้กับครูท่านนี้มาก ทำให้ครูชาวฝรั่งถึงกับยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว เพราะเป็นที่รู้กันว่าคุณหมอเซี่ยชิงโม่เป็นคนที่ใจคอกว้างขวางมาก ถ้าเธอพอใจรางวัลที่ให้มาก็มากตามไปด้วย และเย็นนั้นเขาก็กลับบ้านพร้อมกับไวน์แดง แฮมและชีสก้อนใหญ่รวมทั้งเงินหยวนที่เป็นรางวัลพิเศษอีกจำนวนไม่น้อย
บทที่ 76 ปฎิบัติการทะลายแก๊งค้ามนุษย์จากฮ่องกงสู่จีนแผ่นดินใหญ่เซียวจ้านคือหัวหน้าแก๊งธุรกิจผิดกฎหมายหลายอย่างเช่น การพนันผิดกฎหมาย การฟอกเงิน ตั้งแก๊งรีดไถ เซียวจ้านถูกทางการขนานนามเจ้าพ่อธุรกิจสีเทาและเหตุการณ์ล่าสุดคือการต่อสู้แย่งชิงอำนาจในวงการมาเฟีย เขามีส่วนร่วมในการฆาตกรรมคนในครอบครัว และถูกตำรวจฮ่องกงตามไล่ล่า อย่างหนักจึงหนีมาที่จีนแผ่นดินใหญ่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยความโหดเหี้ยม ไร้ความปรานี เขาก่อตั้งแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติ เติบโตอย่างรวดเร็ว กลายเป็นจักรพรรดิในโลกมืดเส้นทางสู่จักรพรรดิของเซียวจ้าน เขาสร้างเครือข่ายอันกว้างใหญ่ ติดต่อแก๊งค้ามนุษย์ในฮ่องกงและมาเก๊า ใช้เส้นสายในดินบนฟ้า ลักลอบนำคนจากทั่วทุกมุมโลก มาขายเป็นสินค้าเขาใช้วิธีการโหดเหี้ยม บังคับขู่เข็ญ หลอกลวงล่อลวงเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายตกเป็นทาสในเงื้อมมือของเขาเซียวจ้านสั่งสมอำนาจเงินทองและอิทธิพลธุรกิจของเขาเฟื่องฟูร่ำรวยมหาศาลเขามีลูกน้องมากมายที่ต่างหวาดกลัวในความโหดเหี้ยมเขาสร้างภาพลักษณ์เป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ ปกปิดความชั่วร้ายของเขาเบื้องหลังความร่ำรวย คือด้านมืดที่โหดร้ายเซียวจ้านฆ่าคนโดยไม่กะพริบ
บทที่ 75 น้องสาว“เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ละค่ะท่านนายพล”หยางชิงเย่วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ท่านนายพลเย่เฉินฟัง รวมถึงเหตุผลที่เธอต้องปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชายเพื่อความปลอดภัย นายพลเย่เฉินมองเธอด้วยความทึ่ง คิดในใจว่าเด็กคนนี้ช่างฉลาดเฉลียวเหมือนใครคนนั้นเลย“แล้วพี่สาวของเสี่ยวเย่วชื่ออะไรที่ตามหาอยู่” ท่านนายพลหันไปมองภรรยาที่รักของตนเอง ก่อนจะมองหน้าเจ้าเด็กน้อยหยางชิงเย่ว และตั้งคำถามพร้อมกับคาดเดาคำตอบในใจ“พี่สาวชื่อหยางชิงโม่ค่ะ พี่สาวถูกส่งตัวไปใช้แรงงานแทนลูกชายของคุณลุง ตอนนั้นพี่สาวไม่อยากไป แต่คุณลุงคุณป้าบอกว่าเพื่อตอบแทนบุญคุณที่พวกเขาเลี้ยงดูพวกเรา พวกเขาบอกกับพี่สาวของฉันว่าจะดูแลฉันเป็นอย่างดี และจะส่งฉันเรียนหนังสือถ้าพี่สาวไปแทนลูกชายคุณลุง” หยางชิงเย่วเอ่ยขึ้น น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความเศร้า“แต่พอพี่สาวถูกส่งตัวไปไม่นาน พวกเขาก็ให้ฉันออกจากโรงเรียน บอกว่าผู้หญิงไม่ต้องเรียนหนังสือเยอะก็ได้” เสียงของเธอแผ่วเบาลง และแล้วน้ำตาเม็ดโตก็ไหลลงมา“ฮือฮือฮือ!!!...ฉันเพียงอยากจะเจอพี่สาวของฉันอีกครั้งเท่านั้นเอง ใครจะรู้ว่าพวกเขาถึงกับขายฉันให้กับแก๊งค้ามนุษย์” เธอร้องไห้
บทที่ 74 หยางชิงเย่วท้องฟ้ายามเช้าสาดแสงสีส้มอ่อนลงบนเมืองหลวงปักกิ่ง ท่ามกลางความวุ่นวายของผู้คน เด็กน้อยร่างผอมบางคนหนึ่งนอนขดตัวอยู่ใต้สะพานลอย ‘เขา’ สกปรกมอมแมม เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบดินและคราบน้ำตาหยางชินเย่วหนีออกมาจากแก๊งค้ามนุษย์ที่ ‘เขา’ ถูกลุงและป้าของ‘เขา’แอบขายเขาให้พวกมันโดยบอกเขาว่าคนกลุ่มนั้นจะพา 'เขา' ไปพบกับพี่สาวของ ‘เขา’ ถ้ามากับพวกเขา เขาต้องการที่จะตามหาพี่สาวมานานแล้วด้วยความไว้ใจลุงและป้าจึงได้ตามคนกลุ่มนี้มาแต่ที่ ‘เขา’ ผิดสังเกตก็คือ มีเด็กมากมายที่พวกเขาพามาด้วยบางคนถูกตีบางคนถูกมัดก็มี ทำให้เด็กน้อยแอบฟังเวลาที่พวกเขาคุยกันและรู้ว่านี้เป็นแก๊งที่จับคนมาขายไม่ใช่คนที่จะพาไปหาพี่สาว เด็กน้อยหวาดกลัวมาก แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นที่สังเกตจนกระทั่งพวกเขาพามาถึงเมืองปักกิ่งเมื่อได้โอกาสเธอจึงได้หลบหนีออกมาเด็กน้อยเร่รอนอยู่หลายวันและพยายามหางานทำ และในที่สุดก็ได้งานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารที่ขายเป็ดปักกิ่ง แต่ทำงานได้ 3 วันก็ต้องถูกไล่ออกเพราะมีอันธพาลมาหาเรื่องที่ร้าน ถึงแม้จะมีคนมาช่วย แต่เถ้าแก่ก็ไม่พอใจ ‘เขา’ และหลังจากนั้น 2 วันก็ไล่เขาออกมา
บทที่ 73 อันดับที่หนึ่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง / พอร์ช 911ท้องฟ้าสีครามสดใส อากาศเย็นสบาย แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างห้องนอน สะท้อนให้เห็นรอยยิ้มอันเปี่ยมสุขบนใบหน้าของเซี่ยชิงโม่ เธอรู้สึกตื่นเต้นและดีใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อสองเดือนก่อน เธอและหวังตงได้พาครอบครัวไปท่องเที่ยวที่ยุโรป เป็นการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความประทับใจแต่สิ่งที่ทำให้เธอประทับใจที่สุด ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่เป็นของขวัญล้ำค่าที่เธอได้รับมาตอนนี้ต่างหากเธอตั้งครรภ์แล้ว เธอรู้ข่าวดีนี้หลังจากกลับจากทริปทันทีที่เธอทดสอบการตั้งครรภ์ สองขีดสีแดงปรากฏขึ้นบนแท่งทดสอบ โลกทั้งใบของเธอก็เหมือนหยุดหมุนเธอรู้สึกเหมือนฝันไป เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีลูก แต่เธอก็รู้สึกดีใจเธอดีใจที่เธอจะได้เป็นแม่ เธอดีใจที่เธอจะได้สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกับเฉินหวังตงเธอรีบโทรไปบอกเฉินหวังตง เขาดีใจไม่แพ้เธอ เช้าวันนี้เซี่ยชิงโม่ตื่นนอนด้วยความสดชื่นเธอรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายเธอรู้สึกถึงชีวิตน้อยๆ ที่กำลังเติบโตขึ้นภายในท้องของเธอยิ้มเธอรู้ว่า ชีวิตของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแต่มันจะเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยคว
บทที่ 72 ฮันนีมูนทริปผ่านเรื่องราวที่หนักหนาสาหัสมาหลายเดือน ตอนนี้เข้าสู่หน้าหนาวของปี 1985 อย่างเป็นทางการแล้ว หิมะสีขาวโพลนปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ เปรียบเสมือนผืนผ้าปูสีขาวบริสุทธิ์ที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าสีครามสดใสตัดกับสีขาวของหิมะ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงมา สะท้อนกับเกล็ดหิมะเป็นประกายระยิบระยับ ดอกไม้ในสวนเบ่งบานสวยงาม แม้จะอยู่ในฤดูหนาว ดอกไม้บางชนิดก็ยังคงยืนหยัด ชูช่อท้าทายความหนาวเย็น ดอกไม้เหล่านี้ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความหวัง แสดงให้เห็นว่า แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ก็ยังมีความสวยงามและความหวังอยู่เสมอเชี่ยชิงโม่ ยืนมองทิวทัศน์อันงดงามตรงหน้า เธอสูดหายใจลึกๆ8 ปีแล้วที่เธอมายังยุคอดีตนี้ ทุกอย่างในชีวิตของเธอตอนนี้ถือว่าเข้าที่เข้าทางมากเธอก็มีสามีที่รักและมีลูกที่น่ารักถึง 3 คน ครอบครัวของเธอดูเหมือนจะครบสมบูรณ์แบบแล้วแต่ว่า...ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป อากาศเย็นจับใจ ทว่ากลับทำให้หัวใจของเซี่ยชิงโม่อบอุ่นอย่างประหลาด หลังจากผ่านพายุชีวิตมาหลายเดือน เธอรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ครอบครัวของเธอจะได้มีช่วงเวลาแห่งความสุขและความทรงจำที่งดงามร่วมกันเธอเดินฝ่าหิ
บทที่ 71 คอร์รัปชั่น / ประหารชีวิต1 เดือนต่อมา เฉินหวังตงเดินเข้าไปหาภรรยาของเขาที่กำลังตรวจเอกสารเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าอยู่“ชิงโม่ ผมมีเรื่องอยากจะถามทำไมเหตุการณ์เขื่อนแตกครั้งนี้ทำไมคุณถึงไม่ได้เตือนผมให้เตรียมตัวเหมือนครั้งที่น้ำท่วมใหญ่ละครับ” เฉินหวังตงถามเซี่ยชิงโม่ขึ้นมาเซี่ยชิงโม่วางเอกสารในมือลง แล้วถอนหายใจ เธอก็รู้สึกสงสารและเสียใจที่เกิดเหตุการณ์“ฉันก็ไม่แน่ใจเพราะเหตุใดฉันจึงได้ไม่เห็นเหตุการณ์นี้เหมือนกันค่ะ”“เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้หมู่บ้านเสียหายไปกว่า 20 หมู่บ้าน สูญเสียชีวิตกว่า 300 คน สูญหายอีก 200 คน มูลค่าความเสียหายยากเกินกว่าที่จะประเมิน ผมเสียใจกับเหตุการณ์ครั้ง ถ้าหากว่าผมรู้....."เซี่ยชิงโม่ยื่นมือไปจับมือของเขาแน่น เธอก็อยากช่วยแต่ครั้งนี้เธอไม่รู้จริงๆ ว่าเพราะอะไรถึงไม่มีใน ‘โพย’ ใบนั้นเฉินหวังตงได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมสืบสวนเหตุการณ์เขื่อนแตกที่อำเภอสุยเซียงสุนซุยเย่วหมิงเจ้าหน้าที่ระดับ 9 ของกรมชลประทานได้ขอเข้าพบเข้านายพลเฉินหวังตงพร้อมมอบเอกสารการออกแบบเขื่อนหรือพิมพ์เขียวหรือเขื่อนหวังจิง ให้นายพลเฉินหวังตงเพื่อตรวจสอบความถูกต้องต่อไป