All Chapters of ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล: Chapter 21 - Chapter 30

40 Chapters

บทที่ 21

สามีภรรยา...งั้นเหรอ?เขาไม่นึกไม่ฝันจริงๆ ว่าวันหนึ่งจะได้สายลับตัวน้อยเป็นภรรยาถือเป็นเรื่อง ‘น่าสนุก’ ในชีวิตที่จืดชืดและมืดมนไร้สีสันของเขา......หนิงหยวนมาตรงตามเวลาที่นัดหมาย จึงตรงไปเคาะประตูบ้านเลขาธิการหมู่บ้านมีเสียงตอบรับดังมาจากข้างในไม่นาน เลขาธิการเฒ่าก็พาชายอายุประมาณสามสิบปีที่หน้าตาซื่อๆ ออกมา “หวาจื่อ แกขับรถแทรกเตอร์พายุวปัญญาชนหนิงเข้าอำเภอไปรับยาฆ่าแมลงด้วยนะ เดินทางดีๆ ล่ะ”หวาจื่อเป็นคนขับรถแทรกเตอร์ของหมู่บ้าน เลขาธิการเฒ่าค่อนข้างวางใจให้ลูกชายจัดการเรื่องนี้หวาจื่อพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย “พ่อครับ วางใจได้เลย ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย”ก็แค่รับยาฆ่าแมลง แล้วระหว่างนั้นก็แวะจดทะเบียนสมรสแทนคู่ของยุวปัญญาชนหนิงหนิงหยวนยิ้มสดใส “พี่หวาจื่อ รบกวนด้วยนะคะ”หวาจื่อเห็นสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใสของหนิงหยวน ก็คิดในใจว่าหญิงสาวคนนี้มิเลวเลย ทำไมถึงอยากแต่งงานกับหรงเจาหนานที่เป็นนักโทษถูกส่งมาปรับทัศนคตินะแต่เขาเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ไม่ชอบนินทาคนอื่น จึงพยักหน้า “ไม่เป็นไร พี่ไปเตรียมรถก่อนนะ”หวาจื่อพาหนิงหยวนขับรถแทรกเตอร์เข้าอำเภอเสียงดังแต่กๆ
Read more

บทที่ 22

การปฏิวัติเพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงสองปี พี่สาวเจ้าหน้าที่จึงยังกลัวพวกคนหนุ่มสาวที่เอาแต่พูดคำขวัญด้วยความห้าวหาญเลือดร้อนแบบหนิงหยวนเธอยิ้มแห้งๆ “ใช่ ใช่...ใช่จ้ะ”เธอจะกล้าพูดว่าความคิดก้าวหน้าแบบนี้มันผิดได้ยังไง?สุดท้ายพี่สาวคนนั้นก็เอาใบทะเบียนสมรสออกมาหนึ่งแผ่น เขียนชื่อของหนิงหยวนและหรงเจาหนานลงไปจากนั้นเธอก็รีบประทับตราอย่างว่องไว แล้วไล่พวกเขาสองคนออกจากสำนักงานหนิงหยวนมองทะเบียนสมรสที่มีคำพูดของท่านผู้นำพิมพ์กำกับอยู่ พยายามหักห้ามหัวใจที่เต้นระรัว ก่อนจะเดินออกจากที่ทำการพร้อมกับหวาจื่อพอออกมาข้างนอกได้ เธอก็พรูลมหายใจอย่างโล่งอก เอามือเท้าเอวแล้วหัวเราะออกมา ก่อนจะกดหน้าอกเอาไว้ “เย้ สำเร็จแล้ว!”หวาจื่อก็พรูลมหายใจยาวเหมือนกัน “ยุวปัญญาชนหนิง เธอเก่งจริงๆ เลย เมื่อกี้นี้ฉันตกใจแทบตาย”เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะตอบอย่างไรหนิงหยวนมองท่าทางซื่อๆ ของหวาจื่อแล้วยิ้ม “ขอบคุณพี่หวาจื่อมากค่ะ เดี๋ยวพี่ไปขนปุ๋ยก่อนได้เลย ฉันจะไปเดินห้างสรรพสินค้าในอำเภอสักหน่อย”ที่จดทะเบียนสมรสอยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้ามากนัก เดินแค่สิบนาทีก็ถึงหวาจื่อพยักหน้า “ได้ งั้นพอถึงเวลาแล้ว พี่จะ
Read more

บทที่ 23

หนึ่งชั่วโมงต่อมา หนิงหยวนถือขวดเหล้าซ่งเหอ กล่องรองเท้าและกระติกน้ำร้อนออกมาเธอมองเห็นหวาจื่อขับรถแทรกเตอร์บรรทุกปุ๋ยจากที่ไกลๆ เธอรีบวิ่งเข้าไปหาพร้อมข้าวของเต็มมือ ยิ้มทักว่า “พี่หวาจื่อ พวกเรากลับกันเถอะค่ะ!”หวาจื่อยิ้มตอบ “ได้เลย ไปกัน!”เขาขับรถแทรกเตอร์ออกจากตัวเมืองแล้วมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านทั้งสองคนนั่งบนรถที่มีปุ๋ยและยาฆ่าแมลงกลับมาถึงหมู่บ้านตอนบ่ายพอถึงทางเข้าหมู่บ้าน หนิงหยวนหันซ้ายหันขวาไม่เจอใคร ก็รีบยัดขวดเหล้าใส่มือหวาจื่อ “พี่หวาจื่อ อันนี้ให้พี่กับเลขาธิการเฒ่าค่ะ”หวาจื่อปฏิเสธอย่างลนลาน “นี่มันเหล้าที่ใช้ในงานแต่งไม่ใช่เหรอ? ไม่ได้หรอก!”เหล้าซ่งเหอขวดหนึ่งราคา 12 บาท 50 สตางค์เชียวนะ ไม่ใช่เหล้าราคาไม่กี่สตางค์ที่ขายในร้านสหกรณ์หมู่บ้านหนิงหยวนยิ้มตาหยี “ใช่ไงคะ ก็ฉันแต่งงานแล้ว เลี้ยงเหล้าคนที่ช่วยเหลือฉันไม่ใช่เรื่องผิดสักหน่อย ฉันไปก่อนนะ!”เธอพูดจบก็ยัดขวดเหล้าใส่อกหวาจื่อ ก่อนจะคว้าของที่เหลืออยู่แล้วกระโดดลงจากรถแทรกเตอร์ เผ่นหนีออกไปทันทีถึงเธอจะใช้คำพูดหว่านล้อมให้เลขาธิการเฒ่ายอมช่วยเหลือแต่เลขาธิการเฒ่าก็เป็นคนดี ไม่งั้นคงไม่มีทางเห็นอกเห็
Read more

บทที่ 24

หรือว่าเธอกำลังหยั่งเชิงเขาอยู่?หรงเจาหนานตาวาววับ เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างฉับพลัน “เธอบอกให้ผมซ่อมหลังคาไม่ใช่เหรอ?”หนิงหยวนเพิ่งนึกขึ้นได้ ที่แท้หรงเจาหนานอยู่บนคานเพราะกำลังซ่อมหลังคานี่เองเธอเงยหน้ามองหลังคา และพบว่าไม่เห็นรอยรั่วที่แสงลอดผ่านแล้วแม้จะไม่ได้ซ่อมด้วยกระเบื้องอย่างถูกต้องตามหลัก แต่รอยรั่วก็ถูกปิดด้วยฟางหนาๆ และแผ่นไม้เรียบร้อยแล้วเธอทำหน้างุนงง "คุณซ่อมหลังคาเป็นด้วยเหรอ? แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่ซ่อมล่ะคะ?"เขาถูกเนรเทศมาที่นี่หลายปีแล้ว กระท่อมข้างคอกวัวนี่มีแต่รอยรั่วที่ปล่อยให้ลมฝนเล็ดรอดเข้ามา ใช้ชีวิตยากลำบากจะตายไปหรงเจาหนานตอบเรียบๆ "เพราะผมขี้เกียจ"หนิงหยวนกำลังดื่มน้ำ “แค่กๆ ๆ...”สมกับเป็นบอสใหญ่ เป็นคำตอบที่เถรตรงและกระแทกใจคนจริงๆเธอเช็ดปากอย่างอดไม่ไหว “แล้วทำไมพอฉันบอกให้ซ่อมหลังคา คุณถึงยอมซ่อมล่ะคะ?"หรงเจาหนานมองสำรวจเธอเล็กน้อย “ถ้าผมไม่ยอมซ่อม เธอคงจะปีนขึ้นไปซ่อมเองน่ะสิ ดังนั้นให้ผมทำจะดีกว่า”หนิงหยวนหลุดยิ้มออกมา “ถ้าคุณขี้เกียจ ก็ปล่อยให้ฉันซ่อมแทนเถอะ!”บอสใหญ่ก็เป็นผู้ชายอบอุ่นเหมือนกันนะหรงเจาหนานดันแว่นตากรอบดำบนสันจมู
Read more

บทที่ 25

ปลาและกุ้งที่หลงเข้าไปกินเหยื่อในลอบ พอจะว่ายกลับออกมาก็โดนไม้ไผ่แหลมที่ปากลอบทิ่มแทงตอนที่กลับมาเก็บลอบตอนค่ำ ในลอบของเธอก็มีปลาไหลนาอยู่สองตัว เมื่อรวมกับปลากะพงสามตัวที่เธอตกได้ คืนนี้ก็ได้อิ่มท้องแล้วหนิงหยวนลงมือชำแหละปลาริมแม่น้ำอย่างคล่องแคล่ว เก็บปลาที่ทำความสะอาดแล้วใส่ตะกร้า แล้วนำลอบไปวางในลำธารอีกครั้งเธอถือตะกร้าปลาเดินหลบผู้คนอย่างมีความสุข แอบกลับไปที่คอกวัวในความมืดหลงเจาหนานเพิ่งจะนำวัวทั้งหมดเข้าคอกเสร็จ เขาเดินถือถังอาหารสัตว์ออกมาจากคอกวัว โดยที่ศีรษะมีฟางติดอยู่เต็มไปหมดหนิงหยวนเห็นเขาสวมรองเท้าผ้าใบเก่าขาดคู่เดิม เลยถามอย่างไม่พอใจว่า “ทำไมล่ะ ขนาดรองเท้าไม่พอดี หรือไม่ชอบรองเท้าผ้าใบที่ฉันซื้อให้คะ?”หรงเจาหนานปัดเศษฟางบนศีรษะออก “รองเท้าดีๆ จะเอามาใส่ในคอกวัวทำไม”หนิงหยวนชะงัก ที่แท้ก็ไม่อยากให้สกปรกนี่เองไม่รู้ทำไม เธอรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมา เขาควรจะเป็นชายหนุ่มผู้โดดเด่น แต่กลับถูกบีบจนแม้แต่รองเท้าผ้าใบคู่เดียวก็ไม่กล้าเอามาใส่เธอถอนหายใจ “รองเท้าซื้อมาเพื่อใส่อยู่แล้วนี่คะ จะรอวางทิ้งจนมันพังแล้วค่อยเอามาใส่เหรอ?”ยุคหลังจากนี้สภาพสังคมอยู่ดี
Read more

บทที่ 26

หนิงหยวนเห็นท่าไม่ค่อยดีเลยคิดจะหลบ แต่หลบไม่ทันเธอได้แต่หลับตาแน่น ยกมือขึ้นป้องกันศีรษะโดยสัญชาตญาณ แต่ในวินาทีถัดมา——"ปัง!" เสียงลมที่คมกริบพัดผ่านไปร่างสูงผอมของใครบางคนดึงตัวเธอเข้าไปในอ้อมกอด พร้อมกับปัดสิ่งที่ถูกฟาดลงมาออกไปอย่างคล่องแคล่วหนิงหยวนตะลึงไปชั่วขณะ เงยหน้ามองชายที่กำลังปกป้องเธออยู่โดยสัญชาตญาณหรงเจาหนานก้มหน้าลงมา "เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?"เธอรีบส่ายหน้า ถอยออกจากอ้อมกอดเขาโดยอัตโนมัติ "ไม่เป็นไรค่ะ!"แต่ในวินาทีถัดมา ของที่ถูกเหวี่ยงออกไปก็ตกกระแทกพื้นอีกฝั่ง พร้อมกับส่งกลิ่นเหม็นชวนคลื่นไส้ออกมา"แหวะ!" หนิงหยวนรีบปิดจมูกโดยสัญชาตญาณ แทบจะเผลออาเจียนออกมา ทั้งโกรธทั้งหัวเสีย——ที่แท้ก็เป็นอุจจาระ!"ไอ้คนชั่ว ขโมยของฉันไปแล้วยังคิดจะปาขี้ใส่ฉันอีก!” หนิงหยวนกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ก่อนจะวิ่งตามไปมันช่างน่าขยะแขยงและน่าคลื่นไส้เหลือเกิน!ถ้าห่ออุจจาระนั่นโดนหัวเธอ เธอคงนอนฝันร้ายไปอีกสามวัน กินอะไรไม่ลงแน่ๆหรงเจาหนานเคลื่อนไหวเร็วกว่าเธอ เขาพุ่งตัวออกไปเหมือนลูกธนูที่ถูกยิงจากคันศร วิ่งไม่กี่ก้าวก็ตามทันเงาดำนั่นเขายกเท้าจะเตะไปที่หลังอีกฝ่าย แต่
Read more

บทที่ 27

"แค่กๆ ๆ..." หนิงหยวนหน้าแดงก่ำ นี่มันยุคสมัยอะไรกัน ทำไมถึงยังมีคนกล้าพูดเรื่องแบบนี้อยู่อีก!หรงเจาหนานขมวดคิ้ว "ยายแก่เซี่ย อย่าพูดจาไร้สาระ วันนี้คุณทำเกินไปแล้วนะ"ยายแก่เซี่ยแค่นเสียงในลำคอ ร่างที่หลังค่อมค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ปัดฝุ่นดินออกจากตัว"เกินไปตรงไหน ฉันพูดผิดตรงไหน! พอแกมีเมียแล้วก็ไม่ยอมแบ่งอาหารให้พวกเรา ฉันถึงต้องถ่อมาเอาเองไง ทำไม? รีบเอาหม้อโจ๊กของอีเด็กนั่นมาให้ฉันสิ ฉันกับตาแก่รอกินอยู่นะ”หนิงหยวนได้แต่อึ้ง ไม่เคยเห็นใครขอทานแบบหน้าด้านๆ ขนาดนี้มาก่อน แถมยังกล้ามาข่มขู่เธออีก?เธอถือหม้อแล้วแค่นเสียงเย็นชา “ข้าวพวกนี้ฉันเป็นคนทำ เขาจะได้กินไหมยังไม่รู้เลย ดังนั้นอย่าหวังเลย!”เธอเห็นชัดว่าหรงเจาหนานดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับยายแก่คนนี้แต่เธอเคยเป็นคนอ่อนแอไม่สู้คนมาทั้งชีวิต ชาตินี้ไม่อยากเป็นคนที่ไร้จุดยืนอีกแล้ว!ยายแก่เซี่ยเห็นท่าไม่ดีก็ตกใจ ชี้นิ้วใส่เธอพลางพูดเสียงสั่น "แก แก แก...นังผู้หญิงปากร้าย!"หนิงหยวนกลอกตา "ยายแก่อย่างคุณยังกล้าว่าฉันเป็นคนปากร้ายอีกเหรอ?”พูดจบ เธอก็หมุนตัวถือหม้อเดินจากไปแต่ในวินาถัดมา มือใหญ่ก็คว้ามือเ
Read more

บทที่ 28

หรงเจาหนานมองแผ่นหลังเพรียวบางของหนิงหยวนอย่างครุ่นคิดสายตาที่เธอมองเขาเมื่อครู่นี้ เต็มไปด้วยความโกรธที่แฝงความเศร้าจวนเกือบจะสิ้นหวัง ทำไมเธอถึงได้มีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนั้นล่ะ?แต่เขายังไม่ทันได้คิดอะไรมาก ยายแก่เซี่ยก็ดึงแขนเขาอย่างตื่นเต้น "ไอ้หนุ่ม เอาปลาย่างพวกนั้นมาให้ฉันด้วยสิ สองวันก่อนฉันเห็นพวกเธอกินปลาย่างกัน"หรงเจาหนานดันแว่นตาบนสันจมูก "...ยายแก่ อย่าได้คืบจะเอาศอก"ยายแก่เซี่ยเลียริมฝีปาก แล้วแค่นเสียงเย็นชา "คิดไว้แล้วว่าแกแสร้งเป็นคนดี ขี้งก"พูดจบ เธอก็หันหลังเดินจากไปอย่างโมโห หรงเจาหนานเดินตามไปโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆคู่สามีภรรยาเซี่ยอาศัยอยู่ในบ้านดินที่พังไปครึ่งหลังใกล้กับเชิงเขา ไม่ไกลจากคอกวัวมากนักชายชราผอมโซคนหนึ่งนอนอยู่ลึกเข้าไปในบ้านดิน นอนบนพื้นที่ปูด้วยฟางแห้ง ข้างๆ มีชามแตกสองใบและหม้ออะลูมิเนียมดำปี๋หนึ่งใบหนิงหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เดิมคิดว่าคอกวัวที่หรงเจาหนานอยู่ก็แย่พอแล้ว ไม่นึกว่าจะมีบ้านที่แย่และพังยิ่งกว่าคอกวัวอีกก่อนมาถึงบ้านยายแก่เซี่ย เธอเดาว่าสามีภรรยาคู่นี้คงมีชีวิตที่ลำบากแต่เธอไม่คิดว่าพวกเขาจะลำบาก...ถึงขั้นนี้เมื่อเห็นคนเ
Read more

บทที่ 29

หนิงหยวนยิ้มน้อยๆ "พวกเรายังมีปลาเหลืออีกสามตัวสำหรับมื้อเย็น ส่วนโจ๊กนี้คุณหมอหรง...เจาหนานบอกให้ฉันเอามาส่งให้พวกคุณ"เมื่อเห็นสามีของตัวเองยอมกินโจ๊ก ยายแก่เซี่ยก็ดีใจมาก รีบหยิบช้อนมาตักป้อนตาแก่ถัง "เห็นไหม ฉันไม่ได้โกหก ตาแก่รีบกินเร็วเข้า"ตาแก่ถังจึงยอมให้ยายแก่เซี่ยป้อนโจ๊กปลาไหลหรงเจาหนานเข้ามาแล้วไม่พูดอะไร มองเงาร่างบางของหนิงหยวนที่กำลังนั่งยองๆ อยู่ตรงนั้น มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยกลิ่นหอมของโจ๊กปลาไหลทำให้ยายแก่เซี่ยอดเลียมุมปากไม่ได้ แต่ก็ไม่พูดอะไรตาแก่ถังผลักหม้อไปทางยายแก่เซี่ย "เธอก็กินด้วยสิ ฉันป่วยช่วยเหลืออะไรเธอไม่ได้ แต่พรุ่งนี้เธอยังต้องออกไปทำงาน"ยายแก่เซี่ยกลับหันไปคว้าชามแตกใบหนึ่งมา ยัดมันเทศสองชิ้นเข้าปาก "ฉันไม่ชอบกินโจ๊กปลาไหลหรอก กลิ่นคาวเกินไป"ตาแก่ถังชะงักแล้วไอออกมา ”แค่กๆๆ...ยายแก่ ถ้าเธอไม่กิน...แล้วฉันจะกินลงได้ยังไง”มองดูคู่สามีภรรยาชราที่คอยเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน หาข้ออ้างให้อีกฝ่ายได้กินอาหาร ไม่รู้ทำไม หนิงหยวนถึงรู้สึกขอบตาร้อนผ่าวเธอลุกขึ้นทันที "ในเมื่อยายแก่เซี่ยไม่ชอบกินโจ๊กปลาไหล ที่บ้านฉันกับเจาหนานยังมีปลาย่างเหลืออยู่ พวก
Read more

บทที่ 30

"เอ่อ...วันนี้ข้าวเย็นของพวกเราคงมีแค่ปลาคนละครึ่งตัวนะ แก้ขัดไปก่อน" หนิงหยวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยอมตัดปลาครึ่งตัวใส่ชามยื่นให้เขาเดิมทีทุกคนก็มีเสบียงอาหารไม่มากอยู่แล้ว เธอถึงได้แอบไปตกปลามาย่างกินแต่หรงเจาหนานกลับไม่รับชามไว้ พูดเรียบๆ ว่า "ผมไม่หิว เธอกินเถอะ"พูดจบเขาก็หมุนตัวเดินเข้าห้องไปหนิงหยวนอึ้งไป ถือชามวิ่งตามเข้าไป "คุณเองก็ทำงานมาทั้งวัน จะไม่หิวได้ยังไง!"พูดพลางวางชามลงบนโต๊ะ "ไม่จำเป็นต้องเกรงใจฉันหรอก ตกลงกันแล้วนี่ว่าเราจะแต่งงานกันแค่สองปี คุณช่วยฉัน ฉันช่วยคุณ ฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน นี่คือการเป็นหุ้นส่วนกัน"หรงเจาหนานมองเงาร่างบอบบางของเธอ แล้วมองปลาในชาม ดวงตาเย็นชาวาบขึ้นด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดาความหมายหุ้นส่วนงั้นเหรอ... ดูเหมือนเธอกำลังเลี้ยงดูเขามากกว่าเขานั่งลง ค่อยๆ กินปลาย่างอย่างใจเย็นราตรีมืดสนิทหลังอาบน้ำเสร็จ เธอกระแอมเบาๆ แล้วบอกกับหรงเจาหนาน "คุณขึ้นเตียงก่อนเถอะ ฉันจะอ่านหนังสือทบทวนสักหน่อย"เธอยังไม่ชินกับการนอนร่วมเตียงกับผู้ชายแปลกหน้าหรงเจาหนานไม่ได้ว่าอะไร เช็ดผมพลางมองหนิงหยวนที่นั่งลงที่โต๊ะทำงานตัวเก่าที่เธอหามาได้
Read more
PREV
1234
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status