All Chapters of หวนคืนสู่อดีตในฐานะทรราช: Chapter 21 - Chapter 30

40 Chapters

บทที่ 21

"แต่..."มู่ซือหลิงเหมือนจะนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา สีหน้าดูลังเล เหมือนอยากพูดแต่ก็ไม่พูดอวิ๋นฝานขมวดคิ้ว "มีอะไรก็พูดมา อย่ามัวทำอ้ำๆ อึ้งๆ""อ้อ เป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท จู่ๆ กระหม่อมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีญาติห่างๆ เพศชายคนหนึ่ง แม้เขาจะไม่ใช่นักรบเหมือนกระหม่อม แต่เขาก็เป็นบัณฑิตที่มีชื่อเสียง""บัณฑิตหรือ?"อวิ๋นฝานสนใจขึ้นมาทันที "สิ่งที่ข้าขาดอยู่ตอนนี้ก็คือบัณฑิตนี่แหละ!""เขาเป็นใคร ชื่ออะไร มาจากที่ใด?""บางทีฝ่าบาทอาจเคยได้ยินชื่อญาติห่างๆ คนนี้ของกระหม่อมมาก่อน..."สีหน้ามู่ซือหลิงปรากฏแววภาคภูมิใจ "หนึ่งในสิบบัณฑิตผู้มีชื่อเสียงของเจียงหนาน มู่หลิงอี๋!"อวิ๋นฝานอึ้งไปชั่วขณะเขาไม่เคยได้ยินชื่อคนนี้มาก่อนเลยจริงๆแต่ในฐานะฮ่องเต้ เขาจะยอมรับได้อย่างไรว่าไม่รู้จักหนึ่งในสิบบัณฑิตผู้มีชื่อเสียงของเจียงหนานแววตาของอวิ๋นฝานปรากฎความรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยก่อนกระแอมเบาๆ "ก็พอคุ้นๆ อยู่บ้าง!""เอาอย่างนี้ เจ้าไปพาเขามาพบข้า ข้าอยากพบหน้าบัณฑิตแห่งเจียงหนานผู้นี้สักหน่อย!""เอ่อ..."มู่ซือหลิงดูอึดอัดเล็กน้อย "ฝ่าบาท กระหม่อมเกรงว่า...อาจเชิญเขามาไม่ไ
Read more

บทที่ 22

"มิได้เด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!""ท่านอ๋อง หากพระองค์เป็นอะไรไป แล้วพวกกระหม่อม รวมถึงประชาชนต้าหมิงที่อยู่ในด่านทางใต้นี้จะทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ!"อวิ๋นซวี่กำลังจะชักดาบก้าวออกไป แต่กลับถูกแม่ทัพใต้สังกัดของตนขัดขวางอย่างพร้อมเพียงอวิ๋นซวี่หัวเราะด้วยความโมโห "ขนาดไอ้ฮ่องเต้โง่เง่าที่เมืองหลวงยังสามารถลงสนามรบเองได้ แล้วเหตุใดตัวข้าจะทำไม่ได้!"เมื่ออวิ๋นซวี่พูดจบ แม่ทัพทั้งหลายก็เงียบกริบ ถึงอวิ๋นซวี่จะกล้าดูหมิ่นฮ่องเต้ แต่พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงฮ่องเต้จะเป็นอย่างไรก็ยังคงเป็นฮ่องเต้อยู่ดี ความผิดฐานกบฏเป็นสิ่งที่พวกเขารับผิดชอบไม่ไหว"พวกเจ้าจงหลีกทางให้ข้า!"อวิ๋นซวี่ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง แสดงถึงความโกรธจัดเหล่าแม่ทัพจึงต้องหลีกทางให้อย่างจนใจในฐานะเจ้าเมืองใต้ อวิ๋นซวี่มีฝีมือการต่อสู้ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าเมืองเหนือ เมื่อลงสนามรบไปไม่นานก็สังหารศัตรูได้หลายคนแต่จำนวนของชนเผ่าที่โจมตีเมืองนั้นมีมากเกินไป อีกทั้งแต่ละคนก็กล้าหาญไม่กลัวตาย เพียงเวลาไม่นาน อวิ๋นซวี่ก็แทบจะหมดแรงไม่เพียงแค่อวิ๋นซวี่ แต่ทหารรักษาดินแดงทางใต้คนอื่นๆ ก็เริ่มอ่อนล้าทีละ
Read more

บทที่ 23

"เดิมทีข้าก็คิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ..."อวิ๋นฝานแอบถอนหายใจเบาๆ "แต่ข้ากลับพบว่า ในต้าหมิงที่ยิ่งใหญ่นี้ กลับไม่มีผู้ที่ข้าสามารถใช้งานได้เลย!""หากข้ากวาดล้างตระกูลขุนนางทั้งหมดจริงๆ อาณาจักรต้าหมิงของข้าก็คงเหลือเพียงเปลือกนอกที่กลวงเปล่า!""เช่นนั้น ความตั้งใจของฝ่าบาทคือ?"เฉินเฟิงลองคาดเดา "ให้เหลือตระกูลขุนนางบางส่วนไว้?""ถูกต้อง!"อวิ๋นฝานค่อยๆ ลุกขึ้นยืนก่อนพยักหน้า "ข้าวางแผนจะใช้กลยุทธ์ขับเสือกัดหมาป่า!""ขับเสือกัดหมาป่า?"ซูลี่เหวินที่ยังไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่เข้ามา ดวงตาเป็นประกาย "ฝ่าบาททรงหมายถึง...ปล่อยให้พวกเขาฆ่ากันเอง แล้วเลือกผู้ที่ดีที่สุดจากในนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?""ท่านซูช่างรู้ใจข้ายิ่ง!"อวิ๋นฝานหัวเราะเสียงดัง ก่อนกล่าวเสริม "แต่สิ่งที่ท่านซูพูดเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของแผนการของข้าเท่านั้น!""ข้าวางแผนจะกวาดล้างตระกูลขุนนางชั้นหนึ่งทั้งหมด และสนับสนุนตระกูลขุนนางชั้นสองให้ขึ้นมาแทน!""ด้วยวิธีนี้ อำนาจของตระกูลขุนนางก็จะอ่อนแอลงอย่างมาก และพวกเขาก็จะแตกคอกันอย่างหนัก!""แน่นอนว่า เงื่อนไขสำคัญของทุกอย่างคือ ต้องยกเลิกกองทหารส่วนตัวของตระกูลขุนนางทั้งหมด!"
Read more

บทที่ 24

ตระกูลอวี๋ หนึ่งในตระกูลขุนนางชั้นหนึ่งแห่งเมืองหลวงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความวุ่นวายที่ตระกูลหลิงและกบฏอู่เวยสร้างขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นอำนาจสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามในเมืองหลวงยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากหัวหน้าตระกูลอวี๋ในยุคนี้มีความเชี่ยวชาญในการวางตัว อวิ๋นฝานจึงยังหาหลักฐานใดๆ มาจับผิดไม่ได้นอกจากนี้ ตระกูลอวี๋ยังมีกองทัพส่วนตัวหนึ่งหมื่นนายที่ติดอาวุธครบครัน และควบคุมพ่อค้ากว่าสามส่วนในเมืองหลวงถือได้ว่าเป็นตระกูลชั้นหนึ่งอย่างแท้จริงและเป็นตระกูลเดียวในบรรดาตระกูลขุนนางที่ยังไม่ถูกอวิ๋นฝานเล่นงานภายในห้องโถงของจวนตระกูลอวี๋"ท่านหัวหน้าตระกูล! เพิ่งได้รับข่าวมาว่า ฝ่าบาททรงตั้งพระทัยจะให้บุตรหลานของตระกูลขุนนางบางส่วนยังคงรับราชการในราชสำนักต่อไป!"บุตรชายคนโตของหัวหน้าตระกูลอวี๋ อวี๋ซวี่เยียน เดินเข้ามาในห้องโถงด้วยความยินดี ขณะที่อวี๋เหวินซิน หัวหน้าตระกูลที่กำลังเดินวนไปมาด้วยความกังวล ถึงกับตาลุกวาว รีบถามว่า"ฝ่าบาทได้ตรัสหรือไม่ว่าจะเหลือใครไว้บ้าง? มีข้อกำหนดอะไรหรือไม่?""อืม...ท่านพ่อ ลูกยังไม่ได้สืบเรื่องนี้..."อวี๋ซวี่เยียนลังเลเล็กน้อยก่อนกล่าว "แ
Read more

บทที่ 25

เรื่องใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับต้าหมิงและตระกูลขุนนางนับไม่ถ้วนเช่นนี้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่มีพื้นที่สำหรับเจรจา?ในระหว่างการเจรจา มีเพียงการเพิ่มคุณค่าของตนเองและข้อเรียกร้องให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงจะได้ผลประโยชน์มากขึ้น"ช่างเถิด...พ่อแก่แล้ว บางเรื่องเจ้าก็ต้องเผชิญด้วยตัวเอง"อวี๋เหวินซินถอนหายใจในใจ แสดงความจริงใจมากหน่อยก็ดี เขาตบไหล่อวี๋ซวี่เยียนเบาๆ "ไปเถอะ นำพัดพับของพ่อไป อนาคตของตระกูลอวี๋ ฝากไว้ในมือเจ้าแล้ว!"หลายชั่วยามต่อมา ณ จวนตระกูลซูเดิมตระกูลซูไม่มีจวนเป็นของตนเอง แม้ในช่วงรุ่งเรือง ตระกูลซูก็ยังคงยึดมั่นในความซื่อสัตย์และไม่ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยอย่างไรก็ตาม เมื่อซูลี่เหวินได้รับการฟื้นฟูชื่อเสียง มีเรื่องราวต่างๆ มากมายต้องจัดการ อวิ๋นฝานจึงพระราชทานจวนหลังหนึ่งให้และในตอนนี้ จวนตระกูลซูก็ได้เข้ามาแทนที่จวนตระกูลหลิง กลายเป็นสถานที่ที่คึกคักที่สุดในเมืองหลวง มีทั้งตระกูลขุนนาง ข้าราชการชั้นผู้น้อย และผู้คนมากมายเดินทางมาเพื่อขอพบจนถึงเวลาเที่ยง ในที่สุดซูลี่เหวินก็ส่งแขกกลุ่มสุดท้ายออกไป และได้มีเวลาพักดื่มน้ำชาบ้าง"นายท่าน บุตรชายคนโตของตระกูล
Read more

บทที่ 26

"ลดกำลังทหาร?"อวี๋ซวี่เยียนชะงักไป พลางคิดในใจว่าฝ่าบาทกำลังขาดแคลนกำลังทหาร เหตุใดจึงคิดที่จะลดกำลังอีก..."ใช่แล้ว!"ซูลี่เหวินทำสีหน้าจริงจัง "ฝ่าบาทตรัสว่า จำนวนทหารในเมืองหลวงมีมากเกินไป แถมยังถูกกระจายไปตามจวนของตระกูลขุนนาง เป็นการสิ้นเปลืองเงินโดยเปล่าประโยชน์!"อวี๋ซวี่เยียนเข้าใจแจ่มแจ้งในทันที เหงื่อเย็นชุ่มลำคอ ฝ่าบาทต้องการยกเลิกกองทัพส่วนตัวของตระกูลขุนนาง!ต้องรู้ว่าหากรวมกองทัพส่วนตัวของตระกูลขุนนางทั้งหมดในเมืองหลวงแล้ว อย่างน้อยก็คงมีถึงหนึ่งแสนนาย!หากตระกูลขุนนางทั้งหมดร่วมมือกัน การล้มล้างราชบัลลังก์ก็เป็นเรื่องง่ายดาย!"ท่านอัครมหาเสนาบดีซู การกระทำของฝ่าบาทครั้งนี้...ออกจะเสี่ยงเกินไปหน่อยหรือไม่ขอรับ..."อวี๋ซวี่เยียนลดเสียงต่ำ "ข้าเองก็เป็นบุตรหลานของตระกูลขุนนาง แต่ใจข้าฝักใฝ่ต้าหมิง ทุกสิ่งที่ข้าทำก็เพื่อต้าหมิง การกระทำของฝ่าบาทครั้งนี้ อาจบีบให้ตระกูลขุนนางทั้งหมดลุกฮือขึ้นมาต่อต้านก็เป็นได้...!"เพียงแค่พูดไม่กี่คำ อวี๋ซวี่เยียนก็แสดงท่าทีแยกตัวออกจากตระกูลขุนนางอื่นๆ และแม้กระทั่งตระกูลอวี๋ของเขาเองด้วยแล้ว ดูแล้วช่างเหมือนสุนัขรับใช้เสียจริงซ
Read more

บทที่ 27

"ยังมีข้าอยู่ไม่ใช่หรือ" ซูลี่เหวินกล่าวพร้อมตบหีบสัมฤทธิ์เบาๆ "ด้วยความจริงใจเต็มหีบนี้ ข้าเชื่อว่าฝ่าบาทจะต้องทรงตอบรับแน่""ขอบคุณท่านอัครมหาเสนาบดีซูๆ!"อวี๋ซวี่เยียนดีใจสุดขีด เมื่อเห็นซูลี่เหวินยกถ้วยชาขึ้น เขาจึงรีบลุกขึ้นขอตัวออกไปหลังจากอวี๋ซวี่เยียนออกไปแล้ว ซูลี่เหวินก็สั่งให้คนเตรียมรถม้า เพื่อเดินทางไปเข้าเฝ้าอวิ๋นฝานที่ตำหนักบรรทม"เจ้าหมายความว่า ตระกูลอวี๋ยินดีมอบที่ดินเกือบทั้งหมดเพียงเพื่อความอยู่รอดหรือ?"อวิ๋นฝานวางพู่กันลง จ้องมองไปที่ซูลี่เหวินอย่างแน่วแน่ "แล้วท่านอัครมหาเสนาบดีซูตอบเขาไปว่าอย่างไร?"ซูลี่เหวินค้อมตัวและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังด้วยความเคารพอวิ๋นฝานก้มศีรษะคิดอยู่ครู่หนึ่ง "อืม...เจ้ากลับไปบอกอวี๋ซวี่เยียน ให้เขากำจัดตระกูลทั้งห้านั้นไปเสีย""หา?" ซูลี่เหวินถึงกับอึ้งไป "นี่...จะเหมาะสมหรือพ่ะย่ะค่ะ?""ในเมื่อจะล้มล้างตระกูลขุนนางทั้งหมด ก็ต้องใช้กำลังทหาร!"อวิ๋นฝานประสานมือวางไว้ตรงหน้า "นี่คือก้าวสำคัญที่สุดในการทำให้ราชสำนักมั่นคง และเป็นก้าวสุดท้ายที่ข้าจะควบคุมราชสำนักได้อย่างสมบูรณ์!""ตระกูลขุนนางที่ไม่มีทหารส่วนตัว ก็เหมือน
Read more

บทที่ 28

"ที่ข้าเรียกเจ้ามา ก็เพราะเรื่องนี้!"เฉินเฟิงมีสีหน้าตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยความเคารพ "ฝ่าบาทบัญชามาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะทำสุดความสามารถ!""ง่ายมาก เกณฑ์ทหาร!"อวิ๋นฝานมีสีหน้าจริงจังอย่างยิ่ง "ตอนนี้ ข้ามีกองทัพในมือเพียงหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย ในขณะที่ช่วงที่กลุ่มอำนาจอู่เวยครองอำนาจ พวกเขามีกองทัพถึงสามล้านนาย!""ตอนนี้เผ่าม่านใต้ก็กำลังบุกรุกด่านทางใต้ เป็นช่วงเวลาที่ต้องการกำลังพล ข้าต้องการให้เจ้าเกณฑ์ทหารหนึ่งแสนห้าหมื่นนายภายในสามวัน!""หนึ่งแสนห้าหมื่น?"เฉินเฟิงตกใจ "ฝ่าบาท...นี่...กระหม่อมคงไร้ความสามารถเกินไป การเกณฑ์ทหารถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นนายในสามวันนั้นช่าง...""ฟังข้าให้จบก่อน" อวิ๋นฝานโบกมือส่งสัญญาณ "ข้าย่อมรู้ว่าในสามวันจะเกณฑ์ทหารให้ครบหนึ่งแสนห้าหมื่นนายมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นข้าได้เตรียมแหล่งกำลังพลไว้ให้เจ้าแล้ว!""แหล่งกำลังพล?" เฉินเฟิงถามด้วยความสงสัย"ถูกต้อง แหล่งกำลังพลนี้ก็คือเหล่าทหารส่วนตัวของตระกูลขุนนาง!"อวิ๋นฝานกล่าวพร้อมรอยยิ้ม "ถึงข้าจะจัดการล้มล้างตระกูลขุนนางไปแล้วครึ่งหนึ่ง ก็ยังมีทหารส่วนตัวอีกห้าหมื่นนายที่ไร้ที่ไป!""และพ
Read more

บทที่ 29

ตู้จื่อหมิงส่ายหน้าทันที "เวลากระชั้นชิดเกินไป แม้ว่าข้าจะสามารถเกลี้ยกล่อมแม่ทัพเหล่านั้นได้ในเวลาหนึ่งวัน แต่การจะจัดระเบียบและรวมกำลังพลในเมืองหลวง จากนั้ยก็เคลื่อนทัพไปยังด่านทางใต้ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีกสามวัน!""แต่นี่เป็นพระบัญชาของฝ่าบาท"เฉินเฟิงยักไหล่ "และแม่ทัพตู้ก็น่าจะรู้ดีว่าด่านทางใต้นั้นสำคัญเพียงไหนใช่หรือไม่?""หากด่านทางใต้ถูกเผ่าม่านใต้ตีแตกได้ ด้วยกำลังของต้าหมิงในตอนนี้..."ตู้จื่อหมิงถอนหายใจและพูดขัดเฉินเฟิงขึ้น "ช่างเถอะ! ข้าจะหาทางเอง!"หลังจากเฉินเฟิงจากไป ตู้จื่อหมิงก็ขมวดคิ้วแน่นและเดินไปมาในห้องด้วยความกระวนกระวายแล้วจู่ๆ ตู้จื่อหมิงก็นึกขึ้นได้ ฝ่าบาทไม่ได้กำหนดว่าต้องให้เขาเกลี้ยกล่อมกองทัพใกล้เมืองหลวงเท่านั้นหนิ!เช่นนั้นเหตุใดเขาถึงไม่สามารถไปเกลี้ยกล่อมอดีตกองทัพอู่เวยที่ด่านทางใต้ได้เล่า?ดวงตาของตู้จื่อหมิงเป็นประกายขึ้นเรื่อยๆ เขาหยิบกระดาษและพู่กันออกมาเขียนจดหมายสามฉบับ แต่เมื่อกำลังจะเรียกบ่าวรับใช้ก็กลับลังเลหากส่งจดหมายสามฉบับนี้ไปด้วยวิธีการปกติ เกรงว่ากว่าจะไปถึงคงกินเวลานานจนไม่ทันการณ์แน่ถึงตอนนั้นเกรงว่าด่านทางใต้ก็คงถูกต
Read more

บทที่ 30

"โอ๊ะ?" มู่ซือหลิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "แม่ทัพตู้แน่ใจได้อย่างไรว่า แม่ทัพทั้งสามนายที่ท่านพูดถึงจะยอมสวามิภักดิ์ต่อฝ่าบาท?""บอกตามตรง ข้าเองก็ไม่มั่นใจว่าแม่ทัพสองนายแรกจะยอมสวามิภักดิ์ต่อฝ่าบาทหรือไม่"ตู้จื่อหมิงยิ้มเล็กน้อย "แต่แม่ทัพนายสุดท้าย คือหูอู่จื่อ เขาคือพี่น้องร่วมสาบานของข้า ถึงแม้จะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน แต่ก็สนิทกันราวกับพี่น้องแท้ๆ""ยิ่งไปกว่านั้น แม่ทัพสองนายแรกยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพี่น้องร่วมสาบานของข้า เพราะเช่นนี้ พวกเขาก็ย่อมต้องยอมสวามิภักดิ์ต่อฝ่าบาท"มู่ซือหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นี่นับว่าเป็นวิธีการที่ประหยัดทั้งเวลาและแรงกำลังคนที่สุดในตอนนี้"ว่าแต่แม่ทัพตู้ แม่ทัพหูอู่จื่อที่ท่านพูดถึงนี้...เขามีกำลังพลกี่นายกัน?""หนึ่งแสนนายขึ้นไป!"ตู้จื่อหมิงพูดไปพลางแสดงสายตาชื่นชม "อีกทั้งกำลังพลเหล่านี้ล้วนเป็นทหารผ่านศึกที่ชำนาญพื้นที่ในท้องถิ่น เหมาะสมที่จะให้จัดการกับพวกชนเผ่าม่านใต้ดีที่สุด!"เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของมู่ซือหลิงก็เป็นประกาย หากเป็นเช่นนี้จริง ก็จะช่วยประหยัดแรงไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว!"ดี! พี่ตู้ งานนี้ข้าจะช่วยจัดการให้แน่น
Read more
PREV
1234
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status