Tous les chapitres de : Chapitre 311 - Chapitre 320

476

บทที่ 311  

ข่าวลือรวดเร็วราวกับติดปีก บินไปทั่วทุกซอกทุกมุมของเมืองหลวง ว่าอ๋องเฉิงผู้เคยก่อกรรมทำชั่วไว้มากมาย และสังหารภรรยาไปแล้วหกคน ที่แท้แล้วก็เป็นพวกรักร่วมเพศ และอีกฝ่ายที่พัวพันด้วยก็คือคุณชายรองหลิ่วแห่งจวนฉู่กั๋วกง สองคนไม่สนใจขนบธรรมเนียมและจารีตประเพณีของสังคม ถึงขั้นมั่วโลกีย์กันในงานฉลองวันเกิดครบรอบหกสิบปีของฮูหยินผู้เฒ่าสกุลหวัง ครั้นถูกสาวใช้จับได้ก็สังหารเพื่อปิดปาก สุดท้ายก็กลายเป็นความขัดแย้ง จนทำให้คุณชายรองหลิ่วพลั้งมือสังหารอ๋องเฉิง ระดับความเข้มข้นน่าตื่นเต้นของเรื่องนี้ ราวกับจะเป็นบทละครพื้นบ้านที่กำลังเป็นที่นิยมที่สุดในเมืองหลวงตอนนี้อย่างไรอย่างนั้น ไม่สิ ต่อให้เป็นบทละครพื้นบ้านก็ยังมิได้เข้มข้นน่าตื่นเต้นถึงเพียงนี้ด้วยซ้ำ! ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถึงอย่างไรถ้อยคำเล่าลือที่กระจายอยู่ด้านนอกตอนนี้ยิ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมากขึ้นทุกทีแล้ว หลังจากฮูหยินฉู่กั๋วกงฟื้นขึ้นมา ก็โกรธจนปวดท้องไปหมด ตัวสั่นระริกปัดถ้วยโอสถที่สาวใช้ยื่นเข้ามาแตกกระจายเป็นเสี่ยง ช่างน่าอัปยศอดสูยิ่งนัก! อัปยศที่สุด! นับแต่นางแต่งเข้าจวนฉู่กั๋วกงมาเป็นภรรยาเอกคนใหม่แทนค
Read More

บทที่ 312  

อันที่จริงหากเป็นแค่การเล่นสนุกกับสตรีสักคน เรื่องก็คงไม่บานปลายกลายเป็นคลื่นพายุที่ใหญ่โตเพียงนี้ เพราะถึงอย่างไรเรื่องที่ภรรยาคนก่อนของอ๋องเฉิงเสียชีวิตอย่างประหลาด ทุกคนต่างรู้ดีแก่ใจว่าเรื่องราวไม่ธรรมดา ทว่าตราบใดที่เรื่องราวไม่บานปลายใหญ่โต ไม่บานปลายถึงขั้นทำให้สวรรค์โกรธกริ้วมนุษย์ขุ่นเคือง จนนำมาซึ่งเสียงวิจารณ์และความโกรธแค้นของมวลชน ทุกอย่างก็พอจะหารือกันได้ ทว่าครั้งนี้กลับพิเศษเกินไป อ๋องเฉิงและคุณชายรองหลิ่วลักลอบล่วงประเวณี มิหนำซ้ำยังฆ่าคนตาย ขณะเดียวกันก็เกิดความขัดแย้งภายในขึ้นจนต้องเข่นฆ่ากันเอง สุดท้ายก็ตายอย่างน่าอัปยศ อย่าว่าแต่บรรดาผู้ตรวจการทั้งหลายพากันมาร้องโวยว่าศีลธรรมเสื่อมทรามจิตใจผู้คนสูญสิ้นความดี จนถึงขั้นมาคุกเข่าหน้าพระตำหนักไท่จี๋เพื่อเรียกร้องขอให้ฮ่องเต้หย่งชางทรงถอดยศของอ๋องเฉิงและลงโทษทัณฑ์จวนฉู่กั๋วกงอย่างหนักเลย แม้แต่ตัวฮ่องเต้หย่งชางเองก็ทรงโกรธกริ้วมิต่างกัน ฉู่กั๋วกงได้ฟังถ้อยคำที่แฝงด้วยความนัยของเซี่ยกงกง หัวใจพลันกระตุกวูบ แน่นอนว่าเขาย่อมเข้าใจว่าเซี่ยกงกงต้องการจะสื่ออะไร เซี่ยกงกงเป็นคนสนิทของฮ่องเต้หย่งชาง สามารถกล่
Read More

บทที่ 313  

จะปลดผู้ใดออกจากตระกูล? นายท่านผู้เฒ่ารองเป็นคนแรกที่โวยวายขึ้นมาก่อน: “พี่ใหญ่ ใช่ว่าข้าอยากจะตำหนิหลานชายตนเองว่าไม่ดี ทว่าเรื่องนี้มันน่าอับอายขายหน้าเกินไปจริง ๆ! ศักดิ์ศรีเกียรติยศทั้งหมดของตระกูลเรา ให้เจ้ารองทำเสื่อมเสียหมดแล้ว!” เขาโกรธจนทนไม่ไหว กระทืบเท้าระบายโทสะออกมาไม่หยุด: “อยากจะทำเรื่องต่ำช้านัก ก็หัดเลือกสถานที่เงียบ ๆ ลับตาคนสักหน่อยไม่ได้เชียวหรือ?” เหตุใดถึงได้กล้าทำเรื่องเลวทรามได้เอิกเกริกไม่มีเกรงกลัวกันได้ขนาดนี้?! นี่มันใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจนักหรืออย่างไร? ถึงขั้นต้องถ่อไปทำเรื่องพรรค์นี้ในงานฉลองครบรอบวันเกิดของผู้อื่น! นายท่านสามแม้จะเห็นแล้วว่าสีหน้าของพี่ใหญ่ตนเองดูย่ำแย่ยิ่งนัก แต่กระนั้นก็ยังผงกศีรษะพลางเอ่ยอย่างเห็นด้วย: “เจ้ารองเหลวแหลกเกินไปแล้วจริง ๆ! สมควรเป็นคนสกุลหลิ่วเราเสียที่ไหน? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ลำพังแค่พระเกียรติยศของกุ้ยเฟยและจวิ้นอ๋องก็ถูกเขาทำให้มัวหมองไปด้วยแล้ว!” อารมณ์ของฉู่กั๋วกงที่เพิ่งสงบลงได้ไม่นานพริบตาเดียวก็กลับมาเลวร้ายลงอีกครั้ง ทั้งที่บุตรชายของเขาบริสุทธิ์ ทว่าบัดนี้กลับถูกตำหนิจากทั่วสารทิศ และบิดา
Read More

บทที่ 314  

ต่อให้เป็นเช่นนี้ แต่อันที่จริงฮ่องเต้หย่งชางก็ยังรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของไทเฮาและตวนกุ้ยไท่เฟยเสมอมา มิเช่นนั้นแล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่อ๋องเฉิงเคยก่อเรื่องวุ่นวายไม่เข้าท่าไปมากมายเพียงนั้น ถึงขั้นจับสาวใช้ในจวนมาทำเป็นเป้ายิงธนู เขาก็คงไม่ทำเป็นหลับตาข้างเดียวและมองข้ามไปหรอก แต่ทุกเรื่องล้วนมีความหนักเบาต่างกันออกไป และเรื่องเมื่อปีก่อนนั้นของอ๋องฉี ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครสามารถหาหลักฐานมาได้ ทุกคนล้วนทราบดีว่าเขาเป็นคนเลว ทว่าไม่มีผู้ใดสามารถพูดออกมาได้ว่าแท้จริงแล้วเขาเลวอย่างไร ทว่าครั้งนี้กลับแตกต่างออกไป ฮ่องเต้หย่งชางชี้นิ้วไปด้านนอก: “ก่อนเสด็จแม่จะเข้ามา คงเห็นแล้วว่าผู้ตรวจการเถี่ยได้นำเหล่าขุนนางประจำสำนักตรวจการพากันมาคุกเข่าอยู่ด้านนอก เสด็จแม่ ลูกมิประสงค์จะเป็นฮ่องเต้ทรราช และมิได้ต้องการให้เสด็จแม่กลายเป็นไทเฮาปีศาจ หวังว่าท่านจะเข้าใจในความรู้สึกของลูก!” ถึงอย่างไรนั่นก็มิใช่แม่ลูกกันโดยสายโลหิต ไทเฮาเองย่อมทราบลำดับความสำคัญดี ยิ่งไปกว่านั้นฮ่องเต้หย่งชางเองก็ตรัสถึงขั้นนี้แล้ว สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนไปทันที สุดท้ายก็ยอมผงกศีรษะและเอ่ยขึ้นว่า: “ข
Read More

บทที่ 315  

ชีหยวนชำเลืองมองเขาอย่างเฉยชา ก่อนยกมุมปากขึ้นเอ่ย: “ข้าน้อยพูดผิดไปหรือท่านอ๋อง? ก่อนหน้านี้ท่านเห็นข้าน้อยสังหารอ๋องเฉิงแล้ว การตอบสนองแรกสุดของท่านก็คือบอกกับข้าน้อยว่า ท่านเตรียมหนทางรับมือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” ถึงอย่างไรก็เป็นคนที่อยู่ด้วยกันทั้งชาตินี้และในชาติก่อน ชีหยวนพอจะเข้าใจเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงของเซียวอวิ๋นถิงอยู่บ้าง นางเอียงศีรษะถาม: “วิธีของท่านอ๋อง ก็คงไม่ต่างจากสิ่งที่ข้าคิดไว้เท่าใดนัก?” มิเช่นนั้นจะตอบสนองได้รวดเร็วเพียงนั้นได้อย่างไร คุณชายรองหลิ่วก็กำลังดื่มสุราอยู่ดี ๆ ที่เรือนหน้า มีหรือจะบังเอิญถูกเซียวอวิ๋นถิงหลอกพาตัวมาได้ในจังหวะเวลาที่ประจวบเหมาะเช่นนั้น แต่จะมาเถียงเรื่องเหล่านี้ในตอนนี้ไป ก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว ครู่เดียวนางก็เปลี่ยนประเด็นสนทนาทันใด: “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ตอนที่ข้าสังหารอ๋องเฉิง ยังมีคนของอ๋องฉีและสกุลหลิ่วซ่อนตัวอยู่ในสวน!” แม้นางจะไม่ทราบว่าเหตุผลใดบุคคลผู้นั้นถึงไม่ได้โต้ตอบอะไรออกมาในตอนนั้น และมิได้ออกมาขัดขวางนางตอนสังหารอีกคน ทว่าบุคคลผู้นั้นก็หนีไปแล้ว ถึงอย่างไรก็นับเป็นอันตรายที่แฝงเร้นไว้อยู่ดี เซียวอวิ๋นถิงเปล
Read More

บทที่ 316  

แต่ใครเล่าจะทราบท่านอ๋องกลับไม่มีท่าทีตอบสนองแม้เพียงสักนิด แบบนี้ยิ่งน่ากลัวกว่าเดิมเสียอีก! คนหากได้รับแรงกระทบกระเทือน แม้จะคลุ้มคลั่งเสียสติไปก็ยังบ่งบอกได้ว่าสมองของเขายังคงรู้สึกตัวดีอยู่ ทว่าบัดนี้… ครั้นประตูปิดลง ชีจิ่นพลันสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง ทันใดนั้นก็ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นอย่างหนัก ก่อนจะโขกศีรษะต่ออ๋องฉีอย่างสุดแรง: “ท่านอ๋อง หม่อมฉันมีความผิด หม่อมฉันมีความผิดเพคะ!” สภาพจิตใจของอ๋องฉีบัดนี้ย่ำแย่อย่างเห็นได้ชัด ลำพังแค่ขาของเขาจนถึงตอนนี้ยังไม่ฟื้นตัวหายดี ก็น่าหงุดหงิดมากพออยู่แล้ว ไม่คิดเลยว่าหลังกลับมาจะยังคงพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่แบบนี้! ผิดกับชีหยวนนางหญิงแพศยาคนนั้น กลับได้ทุกสิ่งที่นางต้องการไปหมดแล้ว ทั้งปกป้องสกุลเซี่ยไว้ได้ และยังปลิดชีพหลิ่วจิงหงไป มิหนำซ้ำยังทำลายองครักษ์ลับที่เขาเพียรสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากไปด้วยอีก บัดนี้แม้แต่อ๋องเฉิงและคุณชายรองหลิ่วก็ยังถูกนางฆ่าตายจนหมดสิ้น! มีสิทธิ์อะไร? นางก็เป็นแค่อิสตรีคนหนึ่งก็เท่านั้น! สตรีคืออะไร? คือของขาดทุนมาแต่กำเนิด แค่เกิดมาก็อยู่ต่ำกว่าบุรุษเพศอยู่หนึ่งขั้นแล้ว พ
Read More

บทที่ 317  

เสี้ยวพริบตาเดียวนั้น ขนทั่วทั้งร่างของชีจิ่นพลันลุกชันขึ้นมา นางย่อมรู้ดีหากตนเองถูกลากออกไปจากห้องนี้ นั่นหมายถึงต้องตายอย่างแน่นอน ทว่านางไม่อยากตาย ตอนแรกชีเจิ้นสั่งให้นางหวังสังหารนาง นางไม่อยาก บัดนี้นางยิ่งไม่อยาก หลังจากได้สัมผัสวิถีชีวิตของชีหยวนด้วยตนเองแล้ว นางยิ่งไม่อยากตาย มีสิทธิ์อะไรกัน?! ทั้งที่นางได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาดีกว่าชีหยวน ได้รับสิ่งต่าง ๆ ที่มากกว่าชีหยวนเป็นเท่าตัวมาตลอด ในเมื่อชีหยวนสามารถมีชีวิตที่ดีขนาดนี้ได้ นางก็ต้องมีได้เหมือนกัน! นางก็แค่ยังมีจิตใจโหดเหี้ยมไม่พอ ขอเพียงแค่มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตมากพอ ไร้ยางอายมากพอ และกล้าได้กล้าเสียมากพอ นางก็จะมีชีวิตที่ดียิ่งกว่านี้ได้แล้ว! ความรู้สึกอยากเอาชนะและความหวาดกลัวอันมหาศาลนี้ ได้ปลุกความมุ่งมาดปรารถนาอยากมีชีวิตรอดที่แข็งแกร่งที่สุดของนางออกมา นางเบิกตากว้างจ้องมองอ๋องฉีอย่างไม่วางตา: “ท่านอ๋อง สกุลชี! ไม่มีผู้ใดเข้าใจสกุลชีไปมากกว่าหม่อมฉันแล้วเพคะ! หม่อมฉันแค่ยังเข้มแข็งไม่พอ ทว่าหม่อมฉันสามารถยืมแรงผู้อื่นสังหารอีกฝ่ายได้แน่ ในสกุลชีหม่อมฉันมีมีดเล่มหนึ่งน่าใช้งานที่สุด!” ค่อยน
Read More

บทที่ 318  

หลายครั้งเหลือเกินที่นางลืมไปแล้วว่าตนเองยังเป็นมนุษย์คนหนึ่งอยู่ ครั้งสุดท้ายที่ได้นั่งละเลียดน้ำชาอยู่ในเรือนแบบนี้ ราวกับว่าเป็นเรื่องของชาติที่แล้วอย่างไรอย่างนั้น นางค่อย ๆ หลับตาลง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา: “จวนจะถึงวันปีใหม่แล้วสินะ” สาวใช้ข้างกายหัวเราะออกมา พลางก้าวขึ้นมาและรินน้ำชาให้นาง “ใช่แล้วเจ้าค่ะคุณหนู จวนจะถึงวันปีใหม่แล้ว แต่ละบ้านแต่ละครอบครัวต่างก็เริ่มแขวนโคมไฟ ทำความสะอาดสิ่งของกันแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูดูสิเจ้าคะหลายวันมานี้ บนหน้าต่างตามท้องถนนมีกุนเชียงกับเนื้อตากแห้งแขวนเอาไว้ทั้งนั้นเลยเจ้าค่ะ” ชีจิ่นลูบถ้วยน้ำชา ผ่านไปเนิ่นนาน ถึงจะเปล่งเสียงรับคำออกมา นางไม่มีครอบครัวให้ฉลองวันปีใหม่ร่วมกันอีกแล้ว แต่ก็ช่างปะไร อีกไม่นานชีหยวนก็จะไม่มีเหมือนกัน สกุลชีเองก็จะไม่มีอีกแล้วเช่นกัน นางจะทำให้คนเหล่านี้ที่เคยทอดทิ้งนางคุกเข่าลง คุกเข่าลงต่อหน้านางอ้อนวอนร้องขอให้นางยอมให้อภัย หลังจากดื่มน้ำชาคำสุดท้าย นางก็เอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า: “จงไปเก็บข้าวของ และทำตามที่ข้าสั่ง ปล่อยข่าวลือออกไปล่วงหน้า” สาวใช้ขานรับคำสั่งทันที ขณะเดียวกัน สกุลชีทั้งนา
Read More

บทที่ 319  

อันที่จริงตอนแรกโหวผู้เฒ่าชีก็มิได้ชอบสุนัขตัวนี้มากนัก และมันก็มิใช่สายพันธุ์เลอค่าอะไร หากจะพูดถึงความงดงามแล้วยังเทียบกับสุนัขสิงโตสีขาวปลอดที่ฮูหยินผู้เฒ่าเลี้ยงไว้ไม่ได้ด้วยซ้ำไป ทว่าทุกสิ่งย่อมมีข้อยกเว้น ใครขอให้เจ้าสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขของชีหยวนกัน ในเมื่อชีหยวนสามารถเดินอย่างผึ่งผายอยู่ในจวนโหวแห่งนี้ได้ ก็เป็นธรรมดาที่สุนัขของนางจะไม่เหมือนสุนัขตัวอื่นในจวน หลังจากโหวผู้เฒ่ากลับไปก็กำชับห้องครัวว่า อาหารของเจ้าสุนัขตัวนี้จะต้องเหมือนกับสุนัขสิงโตของฮูหยินผู้เฒ่า หรืออาจจะต้องดีกว่าด้วย! ไม่เพียงเท่านั้น ยังสั่งให้คนไปหาบ่าวรับใช้ส่งไปช่วยชีหยวนเลี้ยงสุนัขตัวนั้นโดยเฉพาะ การกระทำที่ยิ่งใหญ่เกินหน้าเกินตาของเขา ทำให้นางหวังอดถามด้วยความสงสัยออกมาไม่ได้: “เจ้าว่าอย่างไรนะ? จะสร้างเรือนให้ผู้ใดหรือ?” แม่นมสวีแสดงสีหน้าท่าทางใหญ่โตเป็นที่สุด น้ำเสียงยังเจือด้วยความริษยา: “จะใครเสียอีกเจ้าคะฮูหยิน? บัดนี้ในจวนของเรา ทั้งนายบ่าวรวมกัน ใครที่ไหนเล่าจะได้รับความรักความเอ็นดูมากไปกว่าคุณหนูใหญ่?” พูดถึงชีหยวน สีหน้าของนางหวังก็ดูปรวนแปรจนมิอาจคาดเดา ถูกต้องแล้ว ในจวนยามน
Read More

บทที่ 320  

นางหวังเป็นเช่นนี้ แม่นมสวีเองก็เป็นเช่นเดียวกันนี้ไม่ต่างกัน เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ทำให้นางรู้สึกไม่ถูกชะตากับชีหยวนก็คือการที่ชีหยวนไม่ให้ความเคารพต่อชีอวิ๋นถิง ทั้งที่คนป่วยคือนางหวัง ทว่าเมื่อสองคนยืนอยู่ด้วยกันแล้ว คนที่ดูป่วยหนักกว่าเหมือนจะเป็นชีอวิ๋นถิงเสียมากกว่า เขาซูบผอมลงไปมาก ดวงตาลึกโหล ดูซีดเซียวไร้เรี่ยวแรงอย่างถึงที่สุด อย่าว่าแต่แม่นมสวีที่รู้สึกทุกข์ใจเลย ยิ่งนางหวังยิ่งเจ็บปวดหัวใจจนน้ำตาไหลพรากออกมา: “ไฉนเจ้าจึงทรมานตนเองจนกลายเป็นเช่นนี้ไปได้?” ชีอวิ๋นถิงเม้มปาก ไม่อยากพูดอะไรกับนางหวังมากนัก เพียงแต่ยื่นมือออกไปและเอ่ยกับนางว่า: “ท่านแม่ ขอเงินหน่อย” นับแต่เกิดเรื่องเผาศาลบรรพบุรุษ เขาก็กลายเป็นสวะไร้ค่าของสกุลนี้ไป ไม่เพียงชีเจิ้นจะไม่เห็นเขาในสายตา แม้แต่พวกบ่าวรับใช้ก็เริ่มไม่แยแสเขาแล้ว หากเขาจะไปเอาเงินจากห้องบัญชี โดยที่เกินจากจำนวนที่กำหนดไว้ ไม่ว่าอย่างไรคนในห้องนั้นต้องไม่มีทางยอมมอบเงินให้เขาเด็ดขาด ได้ยินเขาเอ่ยปากขอเงิน นางหวังก็ซับน้ำตาพลางเอ่ยว่า: “ต้องการเท่าใดหรือ?” บุตรชายลำบากเกินไปแล้วจริง ๆ นางหวังส่งสายตาให้แม่นมสวี แม่
Read More
Dernier
1
...
3031323334
...
48
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status