ครั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวว่าจะแจ้งทางการ ทุกคนต่างตกตะลึงผู้ที่เมื่อครู่ยังคิดอยากกลั่นแกล้งคู่สามีภรรยานั้น ต่างมองหน้ากันไปมาเซียวอวี้เองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน นี่นางต้องการทำอะไรกันแน่ต่อให้เพื่อเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตจนไปถึงที่ว่าราชการมีเขาอยู่ คนเหล่านี้ย่อมไม่กล้ากำเริบเสิบสานแววตาเย็นชาของเฟิ่งจิ่วเหยียนมองเถ้าแก่ผู้นั้น และอ่านออกเสียงกลอนปริศนาเมื่อครู่“ที่ว่า ‘ลมสารทฤดูพัดไหว สีสันใบหญ้าเปลี่ยนเมื่อสาย เหมายันแสนหนาวเหน็บ’ ประโยคนี้ใช้ตัว ‘เฉา(หญ้า)’ และ ‘เซียว(หนาวเหน็บ)’ สีสันใบหญ้าเปลี่ยนเมื่อสาย เมื่อสายก็ไม่มีเช้า จึงเอาตัวอักษรเจ๋า(เช้า)ออก ดังนั้นขีดอักษรด้านบนของ ‘เฉา’ ก็จะกลายเป็นจุดเริ่มของตัวอักษร เมื่อรวมเข้ากับ‘เซียว(หนาวเหน็บ)’ ก็จะกลายเป็นตัวอักษร‘เซียว’ในชื่อเซียวอวี้ ”สีหน้าของเถ้าแก่เริ่มดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ยังคงไม่ปริปากพูดอะไรจากนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดต่อ“ ‘กลางดึกนกร้องหาลูก’ ผู้ใดเป็นคนร้องหาลูกเล่า? ย่อมเป็น ‘พ่อ’ สกุลเซียวเป็นสกุลราชวงศ์แคว้นหนานฉี ใช้คำว่าเซียวเป็นตัวแทนแคว้นหนานฉี ก่อน
Read more