แชร์

บทที่ 822

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
เมื่อเห็นเซียวอวี้ สมองของเจียงหลินก็พลันหยุดทำงาน ครู่หนึ่งถึงได้สติ

“เซียวเอ้อร์ เจ้าก็อยู่ด้วยหรือ!

“วันนี้เจ้าแต่งตัวเช่นนี้ ข้านึกว่าเจ้าเป็นเซียวกวนเอ๋อร์(ชายขายบริการ) เสียอีก!”

ไม่ใช่บุรุษทุกคนที่จะสวมชุดสีแดงแล้วดูดี

มีเพียงเซียวกวนเอ๋อร์ในหอเฟิงเยว่เท่านั้น ที่จะใส่แล้วดูเย้ายวนเช่นนี้

แววตาของเซียวอวี้เข้มขึ้นทันที

เซียวกวนเอ๋อร์?

เขาอยากตายรึ!

เจียงหลินเป็นคนประเภทพูดไม่คิด ปกติคำพูดมักลอยออกไปก่อน แล้วสมองค่อยคิดตาม

เมื่อคำพูดของเขาออกจากปาก สมองก็เพิ่งจะตามทัน

ทันใดนั้นเขาก็พลันนิ่งชะงัก

เดี๋ยวนะ!

ไม่ใช่ว่าซูฮ่วนแต่งให้ฮ่องเต้แล้วหรอกหรือ?

ตามหลักการแล้ว นางไม่มีทางกล้าแอบหาบุรุษอื่นลับหลังฮ่องเต้

เช่นนั้น...เซียวเอ้อร์ที่อยู่เบื้องหน้านี้ คงจะไม่ใช่...

เจียงหลินเพิ่งตระหนักถึงความจริง

เขายิ้มแฉ่ง เท้าขวาก้าวไปด้านข้าง เท้าซ้ายก้าวตาม เท้าขวาก้าวไปด้านข้างอีกครั้ง ไม่กี่อึดใจก็อยู่ห่างออกไปไกลกว่าสองจ้าง

“คือว่า ซูฮ่วน วันนี้จังหวะไม่ดีเลย ไว้เราค่อยพบกันใหม่...”

จากนั้นคนผู้นี้ก็วิ่งหายไปทันที

เฟิ่งจิ่วเหยียน: ?

เซียวอวี้วางถ้วยสุราลงบนโต๊ะอย่างน่าเกร
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (12)
goodnovel comment avatar
Daan
เซียวอี้นั่งกลัดกลุ้มอยู่ตรงมุม นึกภาพออกเลย สง เต้
goodnovel comment avatar
Kanjana
เต้ คลั่งรักฮองเฮาสุดๆ ไรท์เก่งมากค่ะบทลื่นไหลอ่านเพลิน มาแบบนี้บ่อยๆนะคะอ่านแบบจุกๆไปเลย
goodnovel comment avatar
Nichaphat
ที่สุดของนิยาย มูฟออนจากเรื่องนี้ไม่ได้เลย งานเขียนละเอียดมาก ไหลลื่นต่อเนื่องทุกตอน เชื่อมโยงทุกอย่าง จากฮ่องเต้ที่ร้ายกลายเป็นรักมาก รักแบบมากจริงๆ ยอมปล่อยมือทั้งที่ยังรัก พิสูจน์ความรัก พิสูจน์ตัวเองทุกอย่าง จนทำให้จิ่วเยี่ยนรักได้จริงๆ เห็นงานแต่งงานคือซึ้งมาก เพราะเค้าผ่านอะไรมาด้วยกันมากจริงๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 823

    อีกสองวันหร่วนฝูอวี้ก็จะแต่งงานแล้ว นางต้องเรียนพิธีการมากตัวนางอยู่ในโรงพักแรมหลวง ใจกลับลอยไปไกลตั้งนานแล้วยามค่ำคืน บุรุษสวมหน้ากากผู้หนึ่งก็หานางเจอยามที่นางกำลังจะโจมตี คนผู้นั้นก็ถอดหน้ากากออก“ศิษย์น้อง?”ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความโกรธ“ศิษย์พี่ ท่านอาจารย์รู้ว่าท่านมาที่แคว้นหนานฉีก็โมโหมาก จึงสั่งให้ข้ามาตามหาท่าน“ที่ก่อนหน้านี้ท่านตามจีบซูฮ่วนก็ช่างเถิด ยามนี้ยังจะแต่งงานอีก? หากท่านอาจารย์รู้เข้า...”“เช่นนั้นก็อย่าให้นางรู้” หร่วนฝูอวี้ตัดจบคำพูดเขา แล้วพิงเตียงอย่างเกียจคร้าน“ไม่ได้! ข้ารับปากท่านอาจารย์แล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องบอกนาง”“พูดมากเพียงนี้เชียว?” หร่วนฝูอวี้กวาดตามองนาง “มิน่ายายแก่ถึงส่งเจ้ามา วิชาไสยเวทไม่ได้เรื่องของเจ้า ถึงไม่มีเจ้าก็ไม่เป็นไร”ศิษย์น้องเล็กถูกคำพูดนี้ของนางแทงใจดำจนตาแดง“ศิษย์พี่ จะเกินไปแล้วนะ! ข้าจะบอกอาจารย์! ว่าท่านหัวเราะเยาะข้า!”สองมือของหร่วนฝูอวี้กอดอก พลางหัวเราะเยาะ“โอ้โห เพิ่งพูดกับเจ้าสองประโยค ก็จะร้องไห้แล้วเหรอ?”“ศิษย์พี่! ท่านมีสติหน่อย! ข้ารู้นะว่าทำไมท่านถึงจะแต่งกับรุ่ยอ๋อง ท่านทำเพื่อซูฮ่ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 824

    กลางดึก ตงฟางซื่อถูกเสียงเคาะประตูที่เร่งรีบปลุกให้ตื่นเขาสวมชุดคลุมแล้วลุกขึ้นเปิดประตูเมื่อเงยหน้าก็สบตาเข้ากับเฟิ่งจิ่วเหยียน“ซูฮ่วน?”ดึกดื่นเพียงนี้ นางมาทำอะไรกัน?เมื่อดูอีกที ฝ่าบาทก็มาด้วย!ตงฟางซื่อคิดว่าตนคงจะฝันไปคู่สามีภรรยาฮ่องเต้ฮ่องเฮาคู่นี้ ช่างไม่เหมือนคนปกติเอาเสียเลย......“จะให้ข้าวาดรูป?” ตงฟางซื่อเพิ่งตื่น ดวงตาปรือเฟิ่งจิ่วเหยียนโค้งคำนับเขาเซียวอวี้หันไปให้เฉินจี๋นำเงินตอบแทนมาให้ตงฟางซื่อมองเงินทองเหมือนดินโคลนที่ไร้ค่า เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา“ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเรา การวาดรูปเหมือนไม่ใช่ปัญหา“เพียงแต่เจ้ามาผิดเวลา“กลางดึกเช่นนี้ ถูกเจ้าปลุกให้ตื่นจากฝัน ยากที่จะมีสมาธิจริง ๆ รอข้าซักครู่ ให้ข้าปลุกตัวเองเสียหน่อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม“ได้”นางมองเงาร่างของตงฟางซื่อที่เดินออกจากห้องไปด้วยจิตใจที่สับสนหลังเวลาผ่านไปสองถ้วยชา ตงฟางซื่อก็เริ่มวาดได้แล้วเขากางกระดาษขาวออก ตั้งอกตั้งใจฟังคำบรรยายของเฟิ่งจิ่วเหยียนหลังผ่านไปราว ๆ หนึ่งชั่วยามตงฟางซื่อก็วาดเสร็จเขานำรูปเหมือนส่งให้เฟิ่งจิ่วเหยียน“ตามที่เจ้าพู

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 825

    ใบหน้าที่แท้จริงของหลิงเหยี่ยน เหมือนกับรูปเหมือนที่ตงฟางซื่อวาดไม่ผิดเพี้ยน!ใบหน้าหล่อเหลางามสง่าอย่างผู้มีคุณธรรมถึงจะถูกเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริง ทว่าเขาไม่ตื่นตระหนก เขาเพียงจ้องมองเฟิ่งจิ่วเหยียนตาไม่กระพริบ แววตาแฝงด้วยความรู้สึกผิดเฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบรูปเหมือนที่กางอยู่บนโต๊ะน้ำชาขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วเอาให้หลิวเหยี่ยนดู“นี่คือรูปเหมือนที่ข้าให้คนวาดขึ้นจากความทรงจำเมื่อตอนนั้น“หลิวเหยี่ยน จนถึงยามนี้แล้ว เจ้ายังมีอะไรจะแก้ตัวอีกหรือไม่!”เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ดีที่สุดหลิวเหยี่ยนมองรูปเหมือนนั้นที่หล่นอยู่บนพื้น แววตาเข้มขึ้นเรื่อย ๆจากนั้นเขาก็ฝืนยิ้ม“สุดท้ายก็ถูกเจ้ามองออกจนได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนกำหมัดแน่นขึ้นอย่างอดไม่ได้เป็นเขาจริง ๆ ด้วย!เขาช่างปิดบังได้เก่งนัก ยามนี้ยังมาซ่อนตัวใต้เปลือกตาของนางอีก!เมื่อตอนนั้นที่เขายังชื่อ ‘โจวเยี่ยน’ เขาเคยเป็นสหายสนิทของนางในสนามรบ เขาเคยสละชีพช่วยนางต่อมาเขากลายเป็นกุนซือของนาง ช่วยนางวางแผนและร่วมกันสู้ต่อกับข้าศึกเรียกได้ว่าพวกเขาเป็นสหายร่วมรบที่รู้ใจกันมากที่สุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 826

    ขนตาของหลิวเหยี่ยนหลุบลง จนสะท้อนเป็นแสงเงา“ที่ลงดาบในครานั้น ข้าสูญเสียสติ เพราะข้าโดนวางยาพิษ เกือบถูกทำให้กลายเป็นมนุษย์โอสถ…”เมื่อได้ยินคำว่า “มนุษย์โอสถ” แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยหลิวเหยี่ยนหยุดนิ่งไปครู่ใหญ่ จากนั้นก็เอ่ยว่า“พิษที่มนุษย์โอสถโดน มีฤทธิ์ทำให้ควบคุมตัวเองไม่ได้ กลายเป็นคนอารมณ์ดุร้าย ไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ เห็นใครก็ฆ่าคนนั้น”เรื่องที่เขาพูด ตรงกับที่เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้เกี่ยวกับมนุษย์โอสถมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเหล่ามนุษย์โอสถที่นางเจอในวิหารลัทธิเต๋าในตอนนั้น หรือมนุษย์โอสถที่ถูกพรรคเทียนหลงใช้มาบุกโจมตีเมืองในภายหลัง ล้วนเป็นหุ่นเชิดที่มีความคิดอยากฆ่าคนเพียงอย่างเดียวนางจำปฏิกิริยาของหลิวเหยี่ยนที่จะฆ่านางในตอนนั้นไม่ค่อยได้แล้วนางจึงถามว่า“เจ้ากับข้าแทบจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แล้วเจ้าไปโดนพิษมนุษย์โอสถได้อย่างไร”หลิวเหยี่ยนส่ายหน้า“เรื่องที่ข้าเจออันตรายอย่างไรนั้น ข้าไม่สามารถบอกรายละเอียดกับเจ้าได้ เพราะข้ารับปากคนผู้หนึ่งเอาไว้ จะไม่ลากเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเด็ดขาด”“คนผู้นั้นคือใคร!” น้ำเสียงของเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้มขึ้นหลิวเห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 827

    “ฝ่าบาท…” เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นทำความเคารพเซียวอวี้ก้าวเดินยาว ๆ มาหยุดตรงหน้านาง แล้วพยุงนางขึ้นเขาหันไป ทอดมองถานไถเหยี่ยนด้วยสายตาเยือกเย็นบรรยากาศภายในห้องโถงหลักตึงเครียดไม่น้อยถานไถเหยี่ยนไม่ถ่อมตนแต่ก็ไม่เย่อหยิ่ง ต่อบทสนทนาก่อนหน้านี้ พูดต่ออีกว่า“ที่ข้าให้เหยาเหนียงจงใจเปิดเผยว่าเป็นสายลับของเป่ยเยี่ยนนั้น ก็เพื่อตบตาคนที่ทางกษัตริย์แคว้นตงซานส่งมาติดตามข้า“อีกอย่าง ข้าเองก็รู้ดีว่า แผนการยุยงที่ไร้ความเฉลียวฉลาดเช่นนี้ เจ้าต้องสังเกตได้เป็นแน่ แล้วไปสืบเป่ยเยี่ยน สาวต่อไปจนถึงแคว้นตงซาน ก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว” เฟิ่งจิ่วเหยียนฟังมาถึงตรงนี้ ก็เริ่มเอนเอียงในใจนางถามต่อ“บัวกลีบเปลวเพลิง เจ้าเป็นคนส่งมาหรือ?”ถานไถเหยี่ยนมองมาที่นาง ไม่ได้ปฏิเสธเขาหันไปมองทางเซียวอวี้“ฮ่องเต้ฉี ข้าคิดว่า ทั่วใต้หล้านี้สามารถเป็นหมากได้ทั้งหมด หากมีคนคุมหมากจริง ๆ ก็ต้องเป็นท่านและแคว้นหนานฉีเท่านั้น“เรื่องสงครามของแคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นหนานฉี ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้แล้ว“ดังนั้น ควรทำลายล้างแคว้นเป่ยเยี่ยนตั้งแต่ตอนนี้ แล้วค่อยทำลายล้างแคว้นตงซานต่อไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 828

    เฟิ่งจิ่วเหยียนนำพิมพ์เขียว “ใยแมงมุม” มาส่งให้ตงฟางซื่อด้วยตัวเอง เพื่อให้เขาวิเคราะห์ว่าจริงหรือปลอมตงฟางซื่อดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตามมาด้วยความประหลาดใจ“พิมพ์เขียวนี้ หากเต็มสิบมีส่วนเป็นเรื่องจริงแปดถึงเก้าส่วน!”เขาตื่นเต้นขึ้นมาชั่วขณะ จับไหล่ของเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้ แล้วเขย่าตัวนาง “ซูฮ่วน หากเป็นเรื่องจริง นี่ก็จะเป็น ‘ใยแมงมุม’ ที่สมบูรณ์! เจ้าไปเอามาจากไหน!!”เฟิ่งจิ่วเหยียนบอกตามความจริง“จากคนที่บอกว่าตัวเองคือคนในตระกูลถานไถ”เมื่อได้ยินคำว่าถานไถ สีหน้าของตงฟางซื่อพลันเปลี่ยนไปทันทีรอยยิ้มที่มีอยู่ในตอนแรกกลายเป็นความกังวล“ตระกูลถานไถ? พวกเขาออกมาจากภูเขาแล้วหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้พูดอะไรมาก “‘ใยแมงมุม’นี้ ข้าฝากเจ้าไว้ก่อนแล้วกัน”ตงฟางซื่อพยักหน้าอย่างหนักแน่น“ได้ มีพิมพ์เขียวแผ่นนี้ คงหาจุดเชื่อมต่อครบได้ง่าย เหมือนเสือติดปีก อีกอย่าง ในเมื่อตระกูลถานไถสร้างขึ้นมา คาดว่าคงใช้ในสงคราม ซึ่งเป็นผลดีต่อแคว้นหนานฉีอย่างยิ่ง“เพียงแต่ว่า…”“แต่ว่าอะไร?” เฟิ่งจิ่วเหยียนถามอย่างระมัดระวังตงฟางซื่อมีท่าทางคาดคิดไม่ถึง“‘ใยแมงมุม’ นี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 829

    ชายแดนของหนานเจียงกับแคว้นหนานฉีเชื่อมต่อกัน ทั้งยังมีพิษระบาด หากทั้งสองแคว้นไม่สู้รบกัน หนานเจียงก็จะเป็นด่านกั้นทางทิศใต้ของแคว้นหนานฉีตอนนี้หนานเจียงโดนล้อมโจมตี แคว้นหนานฉีจึงไม่อาจนิ่งดูดายเฟิ่งจิ่วเหยียนถามอย่างเรียบนิ่ง“เรื่องตั้งแต่เมื่อใด? แคว้นไหนเป็นคนทำ?”น้ำเสียงของเซียวอวี้เคร่งขรึม“ไม่กี่วันก่อน เผ่าสุยเหอรวบรวมชนเผ่าอื่น เคลื่อนกองทัพทั้งหมดบุกเข้าโจมตีหนานเจียง สงครามเกิดขึ้นในเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงห้าวัน แนวป้องกันรอบด้านของหนานเจียงพังทลาย ราวกับว่า กองกำลังพันธมิตรเผ่าสุยเหอทำลายแนวป้องกันได้ เตรียมการณ์มาล่วงหน้า” ……หนานเจียงไม่ใช่แคว้นใหญ่แต่ดำรงอยู่ได้มากว่าร้อยปี ย่อมมีศักยภาพ ครั้งนี้ต้องมาเจอหายนะครั้งใหญ่ฉับพลัน ราชสำนักและราษฎรต่างสั่นสะเทือนสองแคว้นดั่งน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าหากหนานเจียงถูกทำลายล้าง ชานแดนใต้ของแคว้นหนานฉีก็จะตกอยู่ในอันตรายไปด้วยเช่นกันขุนนางทุกหมู่เหล่าจึงผนึกรวมปัญญาและพละกำลัง หาวิธีรับมือ“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่า ศัตรูตัวฉกาจของแคว้นหนานฉีคือเป่ยเยี่ยน ชายแดนเหนือสมควรเพิ่มแนวป้องกันมากที่สุด ด้วยการส่งทหารไปเป็นกำลังเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 830

    เมื่อรู้ว่าถานไถเหยี่ยนต้องการเข้าพบตัวเอง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็กล่าวเสียงเรียบนิ่ง“ส่งแม่ทัพอาวุโสหลี่ไปที่คุกหลวง”หากถานไถเหยี่ยนอยากช่วยหนานเจียง และแคว้นหนานฉีด้วยใจจริง เช่นนั้น เขาก็สามารถบอกกลยุทธ์ต้านศัตรูแก่ใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนางหว่านชิวเห็นด้วยตอนแรกนางกังวล ว่าพระนางจะไปพบหลิวเหยี่ยนด้วยตัวเอง เพราะเรื่องหนานเจียงดูจากตอนนี้ พระนางเหมือนจะรอบคอบกว่านางอีกอีกคนที่กังวลเหมือนหว่านชิว ก็คือเซียวอวี้หลังจากที่เขาได้ยินว่าหลิวเหยี่ยนขอเข้าพบ ก็รีบวางราชสารในมือ ตรงมาที่ตำหนักหย่งเหออย่างรีบร้อนเมื่อเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนยังนั่งอยู่ในตำหนัก เขาถึงได้ถอนหายใจโล่งอกอย่างสังเกตได้ยากจากนั้นก็เดินเข้าไปหาเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้น ขณะที่กำลังจะทำความเคารพ เขาก็ดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด โอบรัดไว้แน่น“ฮองเฮา รับปากเรา ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม ห้ามไปพบหลิวเหยี่ยนแบบส่วนตัวเด็ดขาด  คนผู้นี้มีความคิดที่คาดเดาได้ยาก เรากลัวว่าเขาจะใช้มันมาหลอกล่อ ทำไม่ดีกับเจ้า”เขาเองก็ได้ยินเรื่องพิษมนุษย์โอสถอะไรนั่นมาเหมือนกันแต่ลางสังหรณ์บอกเขาว่า หลิวเหยี่ยนไม่น่าเชื่อถือเขาคิดเอาเองว่า

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1018

    ในพระราชโองการที่ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้น เขียนบันทึกไว้อย่างชัดเจน ขอเพียงนางยินยอม ก็สามารถเป็นประมุขแคว้นซีหนี่ว์ได้ทุกเมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนถือพระราชโองการไว้ ในใจรู้สึกว้าวุ่นตลอดเวลาที่ผ่านมา นางคิดเพียงว่าตนเองคือคนของแคว้นหนานฉี เพื่อปกป้องแผ่นดิน ตายอยู่บนสนามรบ ก็ไม่ตำหนิเสียใจทว่าตอนนี้...ประมุขแคว้นซีหนี่ว์รู้นิสัยของนางเป็นอย่างดี รู้ว่านางไม่มีทางรับอำนาจปกครองแคว้นซีหนี่ว์“เด็กดี พระราชโองการฉบับนี้ เป็นสิ่งรับประกันที่ป้าให้กับเจ้า ให้อนาคตเจ้ามีทางถอย”บนโลกนี้ การมีชีวิตอยู่ของสตรีนั้นยากลำบากมีเพียงแคว้นซีหนี่ว์ เป็นผืนแผ่นดินของสตรีในความรู้สึกส่วนตัว นางยังคงคาดหวังให้จิ่วเหยียน สามารถกลับมาสู่ตระกูลทว่าอย่างไรนี่ก็เป็นเพียงความหวังจิ่วเหยียนกับฮ่องเต้ฉีเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่กัน กำลังเป็นช่วงเวลาที่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ แยกจากกันไม่ได้นายหญิงเฟิ่งคาดเดาได้ว่าในพระราชโองการมีอะไร สีหน้าแสดงออกถึงตกตะลึง“พี่สาว ท่านคิดอยากที่จะ...”ประมุขพูดขัดนาง“ซู่ยวน ให้เด็กตัดสินใจเองเถอะ”จากนั้นก็หันไปสั่งมั่วซิน“เราเหนื่อยแล้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1017

    อารมณ์ประมุขแคว้นซีหนี่ว์แปรปรวนอย่างมาก บวกกับความปรารถนาที่เฝ้ารอคอยมานานเป็นจริง...การได้หาเจอน้องสาวที่แท้จริง เหมือนเชือกที่รัดแน่น ขาดกะทันหัน ร่างกายทนรับไม่ไหวในที่สุดหมอหลวงผู้ติดตามเฝ้าอยู่ด้านข้างเตียง ให้การรักษาอย่างเร่งด่วนด้านนอกห้อง เฟิ่งจิ่วเหยียนรออยู่เป็นเพื่อนนายหญิงเฟิ่งนายหญิงเฟิ่งยังคงถามย้ำอยู่หลายรอบ“จิ่วเหยียน ข้าคือซู่ยวนจริง ๆ หรือ? คราวนี้ไม่ได้ตรวจสอบผิดจริง ๆ หรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนอดทน เล่าความจริงกับนางฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อให้นายหญิงเฟิ่งเตรียมใจตั้งแต่แรก ก็ยังคงไม่สามารถยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนี้จากที่นางเป็นคนแคว้นหนานฉี กลายเป็นคนแคว้นซีหนี่ว์ กระทั่งยังกลายเป็นน้องสาวของประมุขทว่าลูกชายลูกสาวของนาง ล้วนอยู่ที่แคว้นหนานฉีต่อไปนางจะทำอย่างไร?และพี่สาวที่นางเพิ่งรู้ความจริง เวลานี้ยังคงเสี่ยงอยู่ตรงประตูนรก...นายหญิงเฟิ่งรู้สึกใจหาย จิตใจกระสับกระส่ายเฟิ่งจิ่วเหยียนจับมือของนางไว้แน่น ปลอบโยนอย่างไร้เสียงนายหญิงเฟิ่งเอียงศีรษะมองนาง แล้วค่อยผ่อนคลายเล็กน้อย“จิ่วเหยียน ประมุขจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สามารถใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1016

    ก่อนที่ชายลึกลับจะปล่อยเจิ้งจี ได้ป้อนยาเม็ดหนึ่งใส่ปากของนางเจิ้งจีอยากคายออกมา กลับถูกเขาบีบคางไว้ ยังเม็ดนั้นจึงไหลลงคอไปหลิวอิ๋งมองเห็นกับตา ร้อนรุ่มอยู่ในใจ“เจ้าเอาอะไรให้นางกิน!”ฝ่ายชายพูดขึ้นมาอย่างสบายอารมณ์ “แน่นอนว่าเป็นยาพิษ ชีวิตลูกสาวของเจ้าอยู่ในมือพวกเรา”สายตาเจิ้งจีเต็มไปด้วยความหวาดกลัวนางกลัวตายนางอยากมีชีวิตอยู่“ท่านแม่ ท่านแม่ช่วยข้าด้วย!”ท่าทีหลิวอิ๋งเต็มไปด้วยความโกรธ“ข้าได้ตอบตกลงทำงานให้พวกเจ้าแล้ว ไยยังต้องทำร้ายลูกสาวข้า! ยาถอนพิษล่ะ! ยาถอนพิษอยู่ที่ใด?”ฝ่ายชายหัวเราะเสียงดัง“ยาถอนพิษ? จะให้เจ้าตอนนี้ได้อย่างไร? หลังจากทำงานสำเร็จแล้ว พวกเจ้าสองแม่ลูกก็จะปลอดภัยเอง ทว่าตอนนี้ พวกเจ้าว่าง่ายเชื่อฟังจะดีที่สุด!”แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ฆ่าคนได้อย่างไม่กะพริบตาหลิวอิ๋งเกลียดแค้นจัดทว่า ถูกคนอื่นควบคุม ทำได้เพียงก้มหัว……แคว้นซีหนี่ว์ช่วงเวลานี้ อาการป่วยของประมุข ไม่มีร่องรอยว่าจะดีขึ้นเลยสุขภาพของนานย่ำแย่อย่างมาก แม้แต่ยาก็ไม่สามารถย่อยได้ส่วนงานราชกิจ นางมอบหมายให้กับขุนนางหลายคนที่ไว้ใจนางใช้ข้ออ้างไปรักษาตัว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1015

    เมื่อเทียบกับบุตรสาวที่มีความมั่นใจ หลิวอิ๋งกลับมีแต่ความกังวลใจนางรู้สึกอยู่ตลอดว่า เรื่องทั้งหมดแฝงกลิ่นอายความไม่ชอบมาพากลโดยเฉพาะกับราชทูตเหล่านั้นที่หายตัวไปอย่างกะทันหัน...เพล้ง!ขณะที่สาวใช้ยกน้ำชาออกมา เจิ้งจีสะบัดแขนเสื้อแรงเกินไป จึงมิทันระวังทำถ้วยชาหก จนลวกมือตนเองก่อนหน้านี้เจิ้งจีอยู่ที่พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ เป็นนายที่ผู้คนมากมายต้องให้ความเคารพ หากมีสิ่งใดมิราบรื่นเพียงเล็กน้อย จะมิยอมทนเด็ดขาด ตอนนี้แทบจะกลายเป็นสัญชาตญาณ นางจึงฟาดฝ่ามือออกไปอย่างทันควัน“เพียะ!” สาวใช้ปรากฏรอยแดงบนใบหน้าขึ้นมาทันที พลันรีบก้มศีรษะและขออภัยเจิ้งจีตอบโต้ฉับไว: “พวกรนหาที่ตาย ยกชาไม่เป็นหรืออย่างไร? มือข้าถูกลวกจนเป็นแผลแล้ว รีบไปนำยามาเดี๋ยวนี้!”หลิวอิ๋งรู้สึกหงุดหงิดใจ จึงตำหนิบุตรสาว“พอแล้ว แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”ถึงอย่างไรก็เป็นจวนขององค์หญิงใหญ่เจิ้งจีรู้สึกคับแค้นใจ จึงยื่นมือไปตรงหน้ามารดา“ท่านแม่ เป็นเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ! ท่านดูมือของข้าสิ! ประเดี๋ยวก็ต้องเข้าวังไปพบฝ่าบาทแล้ว มือของข้ากลายเป็นเช่นนี้ ฝ่าบาททรงมิพอพระทัยจะทำอย่างไร!”มือนับเป็นใบหน้าที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1014

    หนานฉี เมืองหลวงหลิวอิ๋งยังคงมิได้ข่าวคราวของราชทูตคนอื่น ๆ ในใจยิ่งกระวนกระวายในช่วงหลายวันที่ผ่านมานางวนเวียนไปที่จวนรุ่ยอ๋อง เพื่อสอบถามความคืบหน้าทว่า บัดนี้ก็ยังมิได้รับข่าวคราวใด ๆภายในโรงพักแรมเจิ้งจีเห็นมารดากลับมา คำพูดแรกมิใช่แสดงความห่วงใย แต่เป็นการเร่งรัด“ท่านแม่ ฝ่าบาทเสด็จกลับวังแล้ว เมื่อใดพวกเราถึงจะได้เข้าวัง?”สีหน้าหลิวอิ๋งอยู่ในอาการเหม่อลอยเจิ้งจีถามอีก: “ท่านป้ายังมิได้ตอบจดหมายพวกเรา และส่งสาส์นตราตั้งฉบับใหม่มาให้อีกหรือเจ้าคะ? ท่านแม่?”หลิวอิ๋งเรียกสติกลับมา พลันกุมมือบุตรสาวไว้แน่น“ท่านป้าของเจ้ามิมีทางเมินเฉยพวกเรา ถึงอย่างไรข้าก็เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของนาง! พวกเราจะเข้าวังไปพบฝ่าบาทได้เลยโดยตรง!”เดิมคิดว่ารุ่ยอ๋องมีความสามารถที่จะตามหาราชทูตได้ มิคาดคิดว่า เขาที่ดูเหมือนเป็นคนเข้าหาได้ง่าย ที่จริงแล้วกลับรับปากนางแบบขอไปทีตลอดสองแม่ลูกจึงมุ่งหน้าไปยังพระราชวังเพื่อขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้ภายในวังเซียวอวี้เพิ่งกลับเข้าวัง ขณะกำลังตรวจดูสาส์นกราบทูลในห้องทรงพระอักษร องครักษ์ก็เข้ามารายงาน---หลิวอิ๋งคนที่อ้างว่าเป็นราชทูตแคว้นซีหนี่ว์มาขอเข้าเฝ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1013

    หลังจากท่านผู้เฒ่าหลินรู้สถานะของเฟิ่งจิ่วเหยียน เดิมทีก็คิดจะสานสัมพันธ์เป็นเครือญาติกับนางทว่านางกลับบอกว่า มิใช่เครือญาติแท้ ๆ หรือ?ใครมิใช่เครือญาติแท้ ๆ กันเล่า?เฟิ่งจิ่วเหยียนถามด้วยสีหน้าเย็นชา “บุตรสาวคนที่สองของตระกูลหลิว เมื่อคลอดออกมาก็มอบให้พวกเจ้าดูแลใช่หรือไม่?”ท่านผู้เฒ่าหลินสีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและงุนงง นึกไม่ถึงว่า สิ่งที่นางต้องการจะถาม กลับเป็นเรื่องราวในตอนนั้น...เขาก้มศีรษะลง กลัวว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนจะเห็นสีหน้าของตน“พ่ะย่ะค่ะ! ตอนนั้น น้องสาวของข้าน้อยคลอดบุตรสาวคนเล็ก ก็มอบให้พวกเราดูแลเลย“ฮองเฮา เรื่องนี้ยังจะมีอะไรให้น่าพูดถึงอีก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงถือเครื่องมือทรมานนั้นอยู่ในมือ สายตาดูเยือกเย็นไร้ความปรานี“เจ้ายืนยันได้หรือไม่ว่า เด็กที่มอบให้กับมือพวกเจ้าในตอนนั้น เพิ่งจะคลอดมาได้ไม่นาน?”ท่านผู้เฒ่าหลินตอบด้วยความมั่นอกมั่นใจ“แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ! เด็กคนนั้นคลอดออกมาได้ไม่กี่วัน ก็ถูกพวกเรานำมาดูแลแล้ว...”“โกหก” สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูเย็นชา นางเงยหน้าขึ้นมองท่านผู้เฒ่าหลิน “หากข้าเดาไม่ผิด เด็กคนนั้น ตอนที่มาถึงมือพวกเจ้า น่าจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1012

    ภายในคุกที่ว่าการท่านผู้เฒ่าหลินในวัยชรา ยืนพิงอยู่มุมกำแพงด้วยอาการตัวสั่นเทาเขามองไปยังเจ้าหน้าที่เหล่านั้นโดยฝืนทำเป็นสงบนิ่ง“พวกเจ้า พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาจับข้า ข้าไม่มีความผิด...”เอ่ยยังมิทันจบ เจ้าหน้าที่ก็ถอยแยกเป็นสองฝั่ง เพื่อเปิดช่องทางตรงกลางหลังจากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนก็เข้ามาจากด้านนอก เส้นผมนางถูกรวบยกสูง ดวงตาทั้งคู่ดูองอาจน่ายำเกรง“ทุกคนออกไปก่อน”ตามคำสั่งของนาง บรรดาเจ้าหน้าที่ก็ออกไปอย่างรู้งาน อู๋ไป๋ปิดประตูห้องขัง และคอยเฝ้าอยู่ด้านนอกห้องขังภายในห้องขังท่านผู้เฒ่าหลินมิรู้จักเฟิ่งจิ่วเหยียน ในตอนแรกคิดว่านางเป็นขุนนาง ทว่าพอได้ยินเสียงนางเป็นสตรี ก็มิแน่ใจแล้วว่านางเป็นใคร“เจ้าเป็นใคร?” ท่านผู้เฒ่าหลินมองนางตาไม่กะพริบ ไม่มีท่าทีอ่อนข้อสายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูเยือกเย็นและหมางเมิน ราวกับดวงดาวระยิบในค่ำคืนเหน็บหนาว ทำเอาผู้คนสั่นสะท้านนางมองท่านผู้เฒ่าหลิน พลางแสร้งทำเป็นหยิบเครื่องมือทรมานที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาโดยมิได้ตั้งใจแค่การกระทำนี้ ก็ทำให้ท่านผู้เฒ่าหลินตกใจกลัวจนลำคอแห้งผาก ดวงตาเบิกกว้าง ยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว“ข้า ข้ามิเคยทำเรื่องช

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1011

    ไม่นานรุ่ยอ๋องก็จัดหาหญิงสาวให้กับหร่วนฝูอวี้ได้แล้ว เป็นสาวใช้ภายในจวนเขายืนอยู่นอกห้อง ยืนอยู่นานก็มิยอมไปหนึ่งชั่วยามต่อมา ด้านในก็เรียกขอน้ำสาวใช้ผลักประตูเดินออกมารุ่ยอ๋องรีบหันไปมองนาง เห็นเพียงนางถืออ่างเลือดออกมา“พระชายาเป็นอย่างไรบ้าง?” เขาถามด้วยท่าทีใส่ใจการถอนพิษกู่เสน่ห์ มิใช่แค่ต้องมีสัมพันธ์กับใครสักคนเท่านั้นหรือ?เหตุใดจึงมีเลือดออกมามากมายเพียงนี้?สาวใช้ตอบด้วยอาการตัวสั่นเทา“พระชายาเลือดออกมาก บ่าวคอยช่วยพระชายาเปลี่ยนอาภรณ์ และชำระร่างกายเจ้าค่ะ”สีหน้าของรุ่ยอ๋องเปลี่ยนไปเล็กน้อยดูแล้วสาวใช้ผู้นี้ ไม่เหมือน...“แค่ช่วยพระชายาชำระร่างกาย?” เขาถามด้วยความไม่แน่ใจสาวใช้พยักหน้าซ้ำ ๆ“เจ้าค่ะ”รุ่ยอ๋องรู้สึกงุนงง มิรู้ว่าหร่วนฝูอวี้ทำสิ่งใดลงไปหรือว่า เขาเข้าใจเจตนาของนางผิดไป นางขอให้เขาหาหญิงสาวให้นาง มิใช่เพื่อจะถอนพิษกู่เสน่ห์หรอกหรือ?ในระหว่างที่ครุ่นคิด เขาก็พุ่งตรงเข้าไปในห้องทันทีทว่าเห็นหร่วนฝูอวี้นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ ภายในห้องคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า หร่วนฝูอวี้พลันลืมตาขึ้นนางจ้องมองไปทางรุ่ยอ๋อง ดว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1010

    ฉึก---ตามเข็มที่หร่วนฝูอวี้แทงลงไป กู่เสน่ห์ในร่างกายของรุ่ยอ๋องก็แตกระเบิด แปรเปลี่ยนเป็นกองเลือดในเวลานี้ รุ่ยอ๋องรู้สึกเพียงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงโจมตีเข้ามา จากนั้นตามมาด้วยความรู้สึกโล่งสบายราวกับปล่อยวางของหนักกู่เสน่ห์ หายไปแล้วเขาผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ มิคาดคิดว่า กู่เสน่ห์ที่ทรมานเขามาหลายเดือนนั้น จะกำจัดได้อย่างราบรื่นเช่นนี้...ในชั่วขณะนั้น หร่วนฝูอวี้ในสภาพราวกับใบไม้แห้งที่อยู่ตรงหน้าเขา ทั้งตัวคนกลับเอนมาทางด้านหน้า และล้มลงในอ้อมอกเขารุ่ยอ๋องรีบประคองนางไว้ทันที โดยมิรู้สาเหตุ“เจ้าเป็นอะไร?”เมื่อครู่นางก็ยังดี ๆ อยู่มิใช่หรือ?เมื่อก้มลงมอง สีหน้านางซีดขาวไร้เลือดฝาด ส่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดรุ่ยอ๋องรับรู้ได้ทันทีว่า นี่อาจจะเป็นผลที่ย้อนกลับมาทำร้ายของกู่เสน่ห์!หากต้องการจะฝังกู่เสน่ห์ให้กับคนอื่น ตนเองก็ต้องฝังกู่เสน่ห์ตัวแม่ไว้ด้วยเช่นกันตอนนี้กู่เสน่ห์ตัวลูกในร่างกายของเขาตายไปแล้ว หร่วนฝูอวี้ย่อมต้องทรมานเป็นธรรมดาทว่าเขามิมีความรู้ด้านนี้มากนัก มิรู้ว่าอาการของนางร้ายแรงเพียงใด เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหรือไม่รุ่ยอ๋องจึงตัดสินใจเด็ดข

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status