บททั้งหมดของ แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย: บทที่ 171 - บทที่ 180

318

บทที่ 171

กริชตกลงที่พื้น หกเนตรจ้องมองกันไปมารุ่ยอ๋องปริปากเล็กน้อยทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนชิงพูดก่อนนางถอยหลังมาหนึ่งก้าว โน้มกายทำความเคารพให้กับเซียวอวี้“ฝ่าบาท หม่อมฉันหลงทางอยู่ในป่า ดังนั้นจึงลงจากม้า เดิมทีคิดว่าจะใช้กริชทำเครื่องหมายบนต้นไม้ ป้องกันไม่ให้ตนเองเดินกลับมาทางเดิม“เห็นมีเงาที่เข้าใกล้มาอย่างไม่ทันตั้งตัว และคิดถึงเรื่องที่ช่วงก่อนในวังมีนักฆ่าปรากฏตัว ยังไม่สามารถจับตัวได้ จึงคิดว่าเป็นนักฆ่า จึง...”รุ่ยอ๋องช่วยกลบเกลื่อนคำโกหก“ที่แท้พระนางเข้าใจผิดว่ากระหม่อมเป็นนักฆ่า มิน่าล่ะ”เขาเก็บกริชขึ้นมา ส่งคืนให้เฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความเคารพแววตาของเซียวอวี้เย็นยะเยือกมองร่างสองคนสลับไปมาคำพูดของฮองเฮา เขาไม่หลงเชื่อทว่ารุ่ยอ๋องเป็นพี่น้องที่ดีของเขามาตั้งแต่ยังเยาว์วัย...“ฝ่าบาท พระนาง กระหม่อมกราบบังคมลา”รุ่ยอ๋องจูงม้าจากไป สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงมองไปที่ร่างของเขาเซียวอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“ออกไป ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่สตรีนางหนึ่งเยี่ยงเจ้าควรจะอยู่”“เพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบด้วยความเคารพเพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว นางก็หันกายกลับมาอีกครั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 172

การเป็นองครักษ์ลับของฮ่องเต้ เป็นสิ่งหลายคนใฝ่ฝันที่จะทำเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเพิกเฉยต่อตัวเลือกนี้ไปเสียอย่างนั้นเซียวอวี้มองนางอย่างพินิจพิเคราะห์“เจ้าไม่ยินยอมรับใช้เรา มีนายแล้วงั้นหรือ”หากนางไม่ใช้พลังภายในถอนพิษให้เขา นักฆ่าที่ลักลอบเข้าวังเช่นนาง คงจะตายนับครั้งไม่ถ้วนไปนานแล้วเขากำลังให้โอกาสนางกลับตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหน้า“ในยุทธภพข้าเป็นอิสระไร้นาย”เซียวอวี้กล่าวต่อ: “เราให้เจ้าเลือกที่สองคือ——ไปรับใช้ชาติที่ค่ายเป่ยต้า”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน“ทราบข่าวว่าค่ายเป่ยต้ามีกองกำลังหญิงอยู่กลุ่มหนึ่ง”เซียวอวี้กดคางลงเล็กน้อย“ใช่”เห็นนางสนใจในกองกำลังหญิง เขากล่าวเตือนด้วยเสียงเย็นยะเยือก“กองกำลังหญิงเป็นเมิ่งสิ่งโจวจัดตั้งขึ้นมา เขาอารมณ์ดุร้าย กฎค่ายทหารเข้มงวด จะไม่จัดการอย่างเบามือกับเจ้าเพราะเจ้าเป็นสตรีหรอก”นางที่เป็นอิสระจนเคยชิน จะรับไหวได้อย่างไร?หารู้ไม่ว่าคนที่เขาบรรยายว่า “อารมณ์ดุร้าย” นั้น ยืนอยู่ด้านหน้าเขาแล้วนางกล่าวอย่างไม่ต้องคิด“เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โปรดอนุญาตข้าได้พิจารณา”พิจารณา?ไม่มีอยู่จริงทั้งสองเส้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 173

เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ว่ามีคนสะกดรอยตามนาง คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะเป็นรุ่ยอ๋องและคาดไม่ถึงว่า นางแต่งกายเป็นชาย ใบหน้าสวมหน้ากาก เขายังจำได้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ยอมรับ ใช้กริซขู่เขาให้ออกไปจากตรอกอย่างนิ่งเงียบรุ่ยอ๋องก็แต่งกายอำพรางเช่นกัน ดวงตาคู่นั้นอบอุ่นเป็นพิเศษ ดั่งเติมเต็มไปด้วยสายน้ำวสันตฤดูโมงยามนี้เป็นเวลาห้ามออกเรือนแล้วถนนการค้าไร้ซึ่งผู้คนเขาถอยหลังไปพลางพูดไปพลาง“คาดไม่ถึงว่า ไม่เพียงแต่ศิลปะการขี่ม้าของท่านจะเลิศล้ำ วิชาตัวเบาก็ยอดเยี่ยมเพียงนี้เช่นกัน“ท่านพี่รู้หรือไม่ว่าท่านแอบลอบออกจากวัง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนกดเสียงต่ำลง เปลี่ยนเส้นเสียงในการพูด“ใครเป็นพี่สะใภ้เจ้ากัน! รนหาที่ตาย!”กล่าวจบ นางก็ยกเท้าถีบไปทางเขาทันทีรุ่ยอ๋องปฏิกิรยาว่องไวอย่างมาก หมุนกายเพื่อหลบเลี่ยงเมื่อเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง คนก็หายไปแล้วแววตาของรุ่ยอ๋องนั้นมีนัยนะเล็กน้อยหนีไปเช่นนี้งั้นหรือ?ทว่า ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ.........หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนสะบัดรุ่ยอ๋องหลุดแล้ว ความสงสัยในหัวก็วนเวียนไม่หายรุ่ยอ๋องตามนางออกมาตั้งแต่ในวังแล้วเขาสวมชุดอำพรางทำอันใดในวัง?และช่วง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 174

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์มองเฟิ่งจิ่วเหยียนราวคนเสียสติ“เจ้าไม่มีทางเลือกอื่น! นางสารเลว ส่งข้ากลับวัง ข้าต้องการพบฝ่าบาท!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สะทกสะท้าน“ข้าทำได้มากที่สุดคือให้เจ้าจากที่แห่งนี้ไป”“ข้าต้องการพบฝ่าบาท!” ท่าทีหลิงเยี่ยนเอ๋อร์แน่วแน่เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างสุขุม“เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ ให้เจ้าไปพบฝ่าบาท ข้ายังจะมีชีวิตรอดงั้นรึ?”หลิงเยี่ยนเอ๋อร์พยายามทำให้สถานการณ์แย่ลงอีก แสยะยิ้ม “เช่นนั้นก็ไปตายให้หมด ตายให้หมด——”นางคิดที่จะแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนมองออก สายตาเย็นยะเยือกทันที“เจ้ารักฝ่าบาทเพียงนั้น จะปล่อยให้เขาตายได้จริงหรือ?“ทว่าข้าทำได้“เพราะข้าไม่มีความรู้สึกอันใดกับฝ่าบาท และไม่สนใจว่าจะเขาจะอยู่หรือตาย“ข้าเข้าวัง เพื่อแก้แค้นเท่านั้น“ขอเพียงแค่จับบุคคลลึกลับนั้นได้อีก ข้าก็สมความปรารถนาแล้ว“ด้วยเหตุนี้ ข้าสามารถแสร้งทำเป็นเชื่อฟัง สังหารฝ่าบาทก่อน ดังนั้น คนที่จะตายคือพวกเจ้า และข้าจะมีชีวิตอยู่จนวาระสุดท้าย”พูดจบ นางแสร้งว่าจะจากไปหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ตกใจอย่างมาก“ไม่! เจ้ามิกล้า!“หรือว่าเจ้าไม่ต้องการจดหมายสองฉบับนั้น
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 175

เจียงหลินไม่ได้ล้อเล่น กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างมาก“เหล่าฝานส่งจดหมายมาหาข้า เมื่อครึ่งเดือนก่อน คนของเจ้าไปหาพันธมิตรอู่หลิน ขอให้พวกเขาทำธุระเรื่องหนึ่งให้เจ้า ทว่าไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเป็นเรื่องอันใด เพียงให้พวกเขามุ่งขึ้นเหนือไป“ตามหลักแล้ว การเดินทางไปกลับต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนกว่า เจ้าทำธุระเสร็จแล้ว หรือว่ากลับมาก่อนกำหนดรึ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนสายตาเคร่งขรึม ไม่ได้อธิบายอันใดมากมายในตอนนี้เรื่องที่นางอยู่ในวังหลวง เจียงหลินและซ่งหลีไม่รู้เสียหน่อยควรจะไม่ทำให้พวกเขาตกใจเสียดีกว่า หลีกเลี่ยงการทำให้เรื่องใหญ่โตก่อนที่จะกลับวัง เฟิ่งจิ่วเหยียนแวะไปหาอู๋ไป๋อู๋ไป๋ได้ฟังเรื่องนี้แล้ว รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก“แม่ทัพน้อยท่านอยู่ในวังมาโดยตลอด ข้างกายก็มีแค่ข้าน้อยผู้เดียว จะส่งผู้ใดไปพันธมิตรอู่หลินได้? จะต้องมีผู้แอบอ้างท่านเป็นแน่!”เฟิ่งจิ่วเหยียนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไปสืบสอบมาให้กระจ่าง”“พ่ะย่ะค่ะ!” ......หลังจากกลับไปที่วังแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนกินยาบำรุงเม็ดนั้น และฝึกพลังลมปราณภายในอีกครั้ง พลังภายในฟื้นฟูกลับมารวดเร็วดังคาดเพื่อหลีกเล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 176

หลังจากรุ่ยอ๋องมา เซียวอวี้ก็ไม่ได้อ้อมค้อมแต่อย่างใด เอ่ยถามเข้าประเด็นว่า“เจ้ากับฮองเฮาแอบมีความสัมพันธ์ลับ ๆ หรือ?”ฮ่องเต้ทรงมีอำนาจยิ่ง จนรุ่ยอ๋องผงกหัวอย่างนอบน้อม“ฝ่าบาท กระหม่อมไม่เคยพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ลุกขึ้น เดินลงมาจากที่สูง ยืนตรงหน้ารุ่ยอ๋อง เงาร่างอันสูงใหญ่ ปกคลุมจนมืดดำเป็นวงกว้าง“เจ้ารู้จักขอบเขตเรื่องชู้สาวเป็นอย่างดีมาตลอด ย่อมจะไม่เสวนากับสตรีเกินงาม“เหตุการณ์ในป่าหลวงครานั้น เรารู้สึกว่าระหว่างเจ้ากับฮองเฮาดูผิดปกติ“หากเจ้าลงจากม้าเพื่อบอกทาง โดยระยะห่างทั่วไปแล้ว แม้นฮองเฮาจะดึงกริซออกมา ก็ไม่มีทางเข้าใกล้เจ้าได้“เพียงเจ้าก้าวถอยหลัง ก็จะปลอดภัย“แต่สิ่งที่เราเห็น เจ้าสองคนห่างกันเพียงสองก้าว“นอกเสียจากว่า ฮองเฮาจะหันหลังมาแล้วเห็นเจ้า ยังตามแทงเจ้าต่อ“เจ้าจะอธิบายเช่นไร”คนที่เซียวอวี้ไว้ใจที่สุด คือรุ่ยอ๋องดังนั้นตั้งแต่วันนั้นสังเกตเห็นความผิดปกติ ก็ไม่ได้เปิดโปงทันทีเขารอรุ่ยอ๋องมาอธิบายด้วยตัวเองทว่า รุ่ยอ๋องก็ไม่ได้มากล่าวอะไร วันนี้ยังพูดคุยกับฮองเฮามากเกินงาม จึงไม่กลัวว่าหากข้าหลวงมาพบเห็น จะมีข่าวลือที่ไม่เป็นผลดีต่อเขาเผยแพร่อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 177

เซียวอวี้ควบคุมขุนนางใหญ่กลุ่มนั้นได้ก็จริง แต่กลับไม่สามารถใช้อำนาจของฮ่องเต้มาข่มผู้อาวุโสได้“ช่วงนี้สงครามชายแดนเกิดขึ้นติดต่อกัน เราไม่มีกระจิตกระใจเข้าวังหลัง”ไทฮองไทเฮาย่อมไม่ปล่อยให้เขาผ่านได้ง่าย ๆ“ฉานเอ๋อร์ทั้งน่ารักและเฉลียวฉลาดขนาดนั้น มีจุดไหนที่ไม่ถูกใจฮ่องเต้หรือ? แม้จะไม่โปรดปราน อย่างน้อยก็ควรไปเยี่ยมเยือนนางที่ตำหนักฟางเฟยบ้าง สองคนควรมีโอกาสพบกันบ่อย ๆ  เอาแต่หลบเลี่ยงไม่ไปเจอเช่นนี้ จะรู้ถึงความดีของนางได้อย่างไร?”แววตาของเซียวอวี้แน่นิ่ง“เสด็จย่า เรื่องในวังหลัง มีฮองเฮาคอยดูแล ไม่อาจรบกวนผู้อาวุโสเช่นท่านมาเป็นห่วงเป็นไยอีก”ไทฮองไทเฮาเหมือนพบที่ระบายอารมณ์ พลันตบโต๊ะน้ำชา“เจ้าบอกมาตามตรง ฮองเฮาบอกอะไรเจ้าใช่หรือไม่?”“เป็นเพราะนางอาศัยการได้ร่วมเรือนหอกับเจ้าแล้ว คอยเป่าหูเจ้าสินะ!”มิเช่นนั้นคนที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมเช่นฉานเอ๋อร์ ไยไม่ได้รับความโปรดปราน?เซียวอวี้กำลังจะโต้กลับ แต่กลับคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงเปลี่ยนคำพูดฉับพลัน“ฮองเฮาคือภรรยาหลวงของเรา เราต้องคำนึงถึงความรู้สึกของนางเป็นธรรมดา”เมื่อไทฮองไทเฮาได้ยินคำพูดเช่นนี้ ยิ่งโกรธหนักขึ้นจน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 178

ภายในศาลาริมทะเลสาบหลวง สายลมพัดโชยแผ่วเบาภาพทิวทัศน์อันงดงามและสงบถึงเพียงนี้ ก็มิอาจปัดเป่าอารมณ์คุกรุ่นของฮ่องเต้ให้จางหายได้เซียวอวี้ยืนหันหลังให้เฟิ่งจิ่วเหยียน หันหน้าไปทางทะเลสาบหลวง ใช้มือไขว้หลังเอาไว้เขากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ ราวธารน้ำแข็งตกผลึก“ฮองเฮาพูดจาเหลวไหลจนเคยชิน ควรลงน้ำเรียกสติหน่อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบกลับอย่างจริงจัง“หม่อมฉันคิดว่า ฝ่าบาทไม่เต็มใจจะประนีประนอมกับไทฮองไทเฮา โดยการโปรดปรานจิ้งกุ้ยเหรินตามคำเรียกร้องของนาง ภายใต้สถานการณ์คับขันเช่นนั้น จำต้องเลือกวิธีที่แก้ไขปัญหาได้ในครั้งเดียว“หากหม่อมฉันสื่อสารผิด หม่อมฉันจะไปอธิบายให้ไทฮองไทเฮาอย่างชัดเจน ว่าอาการของท่านหายดี…”สายตาของเซียวอวี้ดุดันถมึงทึงหายดีอะไร? เขาไม่ได้ป่วยด้วยซ้ำ!หากนางกลับไปพูดจาเหลวไหลอีกครั้ง มีแต่จะทำให้มันเลวร้ายขึ้น“พอได้แล้ว!”เซียวอวี้ถึงแม้ว่าจะโกรธ ทว่าก็ต้องยอมรับว่า พอฮองเฮาพูดเช่นนั้นกับไทฮองไทเฮาแล้ว มันช่วยเขาลดปัญหาไปได้ไม่น้อยแม้นจะเป็นวิธีที่สร้างความเสียหายให้แก่ตนเองไปหน่อย  แต่เขาก็ต้องรักษาสัญญา“โทษหักเบี้ยเงินหนึ่งปีของเจ้า เราละเว้นให้”เฟิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 179

หลังจากหนิงเฟยกลับไป กุ้ยหมัวมัวก็เข้ามาปลอบใจไทเฮา“หนิงเฟยเข้าใจคำพูดเหล่านั้น คงไม่ทำให้ไทเฮาผิดหวังหรอกเพคะ”แววตาของไทเฮาลุ่มลึก“นิสัยของซิ่วหว่าน ไม่ใช่ว่าข้าไม่รู้“ดวงตาของนางไปอยู่บนศีรษะ ย่อมมองหลาย ๆ อย่างพลาดไปอย่างเลี่ยงไม่ได้“ฮองเฮาเหมาะที่จะเป็นหินฝนทองให้นางได้พอดี”กุ้ยหมัวมัวพยักหน้า“เพคะ ไทเฮา ไม่เสียแรงที่ท่านทรงอบรมบ่มเพาะหนิงเฟยมา”ณ ตำหนักหย่งเหอหลังมื้อเที่ยง นางสนมเจียก็มาหานางไม่ได้ขี่ม้าเป็นเวลานาน จึงวอแวเฟิ่งจิ่วเหยียนไปที่สนามม้าหลวงด้วยกันเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ตอบรับประการแรก นางเป็นฮองเฮา จำเป็นต้องดูแลจัดการเรื่องภายในประการที่สอง นางไม่อยากผูกมิตรกับสตรีในวังหลังทว่านางสนมเจียตามรบเร้ามากเกินไป เอาแต่พูดจ้ออยู่ข้างหูเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่หยุด “ไปเถอะ ๆ ฮองเฮา แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว หลังจากนี้หม่อมฉันจะไม่มารบกวนท่านอีก ตกลงไหม?”นางสนมเจียเข้าวังมาตั้งแต่ยังเด็ก แถมยังไม่มีเพื่อนให้คุยเล่นในวังอีก ยามอยู่กับฮองเฮา นางรู้สึกสบายใจ ซึ่งแตกต่างจากความรู้สึกโหยหาฝ่าบาทมาหลายปีแม้นฮองเฮาเองก็เย็นชาเหมือนกัน แถมยังไม่ค่อยสนใจนางเท่าไรนัก แ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 180

อาวุธลับมาอย่างกะทันหัน เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ทันสังเกต  แต่ก็หลบทันตามสัญชาตญาณของร่างกายอาวุธลับนั้นก็ได้ตกลงไปในน้ำหลังจากนั้น มีคนหนึ่งปรากฏตัว“พี่สะใภ้ฝีมือไม่ธรรมดาเลยนี่นา”รุ่ยอ๋องอีกแล้ว!เขายืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาตกอยู่ใต้เงาร่มไม้ ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็น จ้องมองมาที่เขาโดยไม่พูดจา จากนั้นก็ตวัดกริชแหลมคมออกมาจากแขนเสื้อในเมื่อได้เผยตัวแล้ว เช่นนั้น…ใบหน้าของรุ่ยอ๋องประดับไปด้วยความอ่อนโยน ถามกลั้วยิ้ม“ช่วงนี้มีคนแฝงตัวเข้ามาในจวนของกระหม่อมบ่อยครั้ง เหมือนอยากมาสืบอะไรบางอย่าง“เรื่องนี้ พี่สะใภ้รู้หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนย่อมรู้ดีในเมื่อสงสัยรุ่ยอ๋อง ก็ต้องตามสืบเรื่องในจวนของเขาอยู่แล้วทว่า เขามั่นใจขนาดนั้นเลยหรือว่าเป็นนาง ทั้งยังวิ่งแจ้นไปซักถามในวัง?รุ่ยอ๋องเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ใบหน้ายังคงประดับไปด้วยรอยยิ้ม“พี่สะใภ้ คนเราต่างมีความลับเป็นของตัวเอง“กระหม่อมไม่ได้เปิดโปงเรื่องที่ท่านมีวิชายุทธ์และเรื่องที่แอบหนีออกจากวัง ไยท่านยังบีบคั้นกระหม่อมอีกล่ะ?”นัยน์ตาของเขาทอประกายมืดมนเล็กน้อย “ท่านคิดว่า กระหม่อมสู้กลับไม่เป็
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1617181920
...
32
DMCA.com Protection Status