บททั้งหมดของ ชายาแพทย์พลิกชะตา: บทที่ 591 - บทที่ 600

776

บทที่ 591

“ฝ่าบาท เรื่องที่ผู้ถูกเนรเทศก่อความวุ่นวายแนวป้องกันชายแดนเมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้มีจดหมายส่งเข้ามาแล้ว”ชิงเยี่ยนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “นายคนใหม่ของเจดีย์หนิงกู่สามารถปราบปรามผู้ถูกเนรเทศเหล่านั้นได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปลืองแรงเลย”จงหลี่เผยความประหลาดใจออกมา เขาก็รู้ด้วยว่าผู้ถูกเนรเทศเหล่านี้อาศัยอยู่ในป่าที่ตะวันไม่ตกดิน จึงสามารถหาเลี้ยงชีพได้ด้วยการล่าสัตว์เท่านั้นดังนั้นเนื่องจากขาดแคลนอาหารอย่างต่อเนื่อง จึงมักมาก่อความวุ่นวายที่เจดีย์หนิงกู่เมืองตงโจวครุ่นคิดหาวิธีการต่าง ๆ มากมายเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย“ผู้ใดกันที่เฉลียวฉลาดเช่นนี้?”“เป็นสตรีนางหนึ่ง ได้ยินมาว่านางเป็นชายาของเจิ้นเป่ยอ๋อง” ในจดหมายมีคำพูดนิดเดียวเพียงสามประโยค ชิงเยี่ยนไม่ค่อยเข้าใจนักจงหลี่พูดอย่างเฉยเมย “สตรีผู้ดีเลิศ ไม่ควรถูกตีตราไว้ว่าเป็นภรรยาของผู้อื่น”เขานึกถึงวันที่อยู่ในเมืองอวี้ขึ้นมาในหัวได้โดยพลัน พลางสบตากับกู้หว่านเยว่ใช่นางหรือ?“วันหลัง ไปเยี่ยมเจดีย์หนิงกู่สักหน่อยสินายใหม่”จงหลี่คิดว่า อาจจะมอบภาพเหมือนให้อีกฝ่าย ให้พวกเขาช่วยตามหาน้องสาวกู้หว่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 592

“มีเรื่องอะไรกันเสียงดังเอะอะถึงเพียงนี้?”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วถาม ฉู่เฟิงเมียงมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ“ดูเหมือนว่ามีคนกำลังโต้เถียงกันอยู่นอกศูนย์พักพิง”“โต้เถียงอะไรกัน?”ศูนย์พักพิงมีทหารคอยเฝ้าอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถูกเนรเทศก่อความวุ่นวายในเมื่อเกิดการโต้เถียงขึ้น ทำไมทหารที่เฝ้าอยู่ถึงไม่เข้ามาห้าม?ความสงสัยมากมายเกิดขึ้นในหัวของกู้หว่านเยว่ “ฉู่เฟิง เราไปดูกันเถอะ”“ขอรับ”เนื่องจากภายนอกเกิดความวุ่นวายมากเหลือเกิน หากลงจากรถม้าก็มีโอกาสเกิดเรื่องไม่คาดคิดสูงดังนั้นซูจิ่งสิงจึงยืนกรานปฏิเสธไม่ให้กู้หว่านเยว่ลงจากรถ แค่เปิดหน้าต่างรถเพียงบานเดียวสังเกตการณ์อยู่ภายในรถ“ข้าบอกแล้วว่าครอบครัวนี้ติดเชื้อกาฬโรค พวกท่านก็ไม่เชื่อ”ชายร่างใหญ่คนหนึ่งชี้ครอบครัวสามคนที่นอนอยู่บนพื้นแล้วพูดว่า “ปีนั้นบ้านเกิดของข้าเคยเกิดกาฬโรคมาก่อน ไม่ง่ายเลยกว่าข้าจะอยู่รอดมาได้ ก็เลยเข้าใจอาการของกาฬโรคเป็นอย่างดี พวกเขาต้องติดเชื้อกาฬโรคแน่นอน”“การแพร่เชื้อของกาฬโรคนั้นรุนแรงมาก รีบขับไล่พวกเขาออกไปซะ ถ้าไม่ไล่ออกไป พวกเราที่นี่ทุกคนจะพบกับความหายนะกันหมด”เขาพูดพลางหยิบผ้าออก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 593

“ในเมื่อพวกเขาติดเชื้อกาฬโรคแล้ว พวกเราก็ไม่รอดหรอก”ชายร่างใหญ่พูดด้วยความตื่นตระหนก“ศูนย์พักพิงแห่งนี้อันตรายเกินไปจริง ๆ พวกเรารีบออกไปกันเถอะ!”“ใช่แล้ว ใช่แล้ว กาฬโรคน่ากลัวมาก พวกเรารีบไปกันเถอะ”“ใจเย็น ทุกคนอยู่ในความสงบ!”นายทหารที่เป็นหัวหน้าตะโกนดังลั่น “พวกเขาจะเป็นกาฬโรคหรือไม่ยังไม่รู้ ต้องรอให้หมอตรวจดูก่อนถึงจะได้คำอธิบาย”“รอให้หมอตรวจเสร็จ พวกเราทุกคนไม่ติดเชื้อกันหมดแล้วหรือ?”ชายร่างใหญ่หาโอกาสสร้างความโกลาหลอยู่เสมอ “ชีวิตของผู้ถูกเนรเทศก็คือชีวิตเหมือนกัน!”เขาหันไปมองทุกคน “พวกเราหนีกันเถอะ!”เดิมทีผู้ถูกเนรเทศกลุ่มนี้ก็ต้องทรมานทนหิวทนหนาวอยู่แล้ว ไม่อาจเอาชีวิตรอดได้ ถึงได้มาที่นี่ไม่นึกว่าที่นี่จะมีเชื้อกาฬโรค เวลานี้ใครยังกล้าอยู่ที่นี่อีก ต้องการหลบหนีออกไปไว ๆ ใจจะขาดในศูนย์พักพิงแห่งนี้มีผู้คนอยู่สองสามร้อยคนเป็นอย่างน้อย เมื่อเกิดความวุ่นวายใด ๆ ก็ไม่ควรประมาทโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรื่องนี้แพร่กระจายไปยังศูนย์พักพิงอื่น ๆ แล้วใครยังกล้าที่จะอยู่อย่างสงบสุขภายในศูนย์พักพิงอีก?กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วแน่น มองไปที่ชายร่างใหญ่“ชายร่างใหญ่ผู้นี้ไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 594

“เช่นนั้นข้าก็เคยเห็นคนตายมาก่อน ข้าจะพูดโดยไม่รู้สาเหตุว่าเจ้าตายไปแล้วได้งั้นหรือ?”หลี่ชิวเตี๋ยเท้าเอวยิ้มเยาะ มองชายร่างใหญ่ตรงหน้าอย่างเย็นชา มองไปมองมา“ในเมื่อเจ้าไม่ใช่หมอ แต่มาพูดลอย ๆ ใส่ร้ายคนอื่นว่าติดเชื้อกาฬโรค ซ้ำยังก่อความวุ่นวายที่นี่อีก เจ้ามีเจตนาอะไร?”“ข้าน้อยเปล่า...” เห็นชัดเจนว่าชายร่างใหญ่ไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับคนที่พูดจาเฉลียวฉลาดเช่นนี้ ยังไม่รู้ว่าควรรับมืออย่างไรในเวลานี้แววตาของเขาวิบวับ จ้องมองไปที่ทางเดินว่างเปล่าข้าง ๆ อย่างฉับพลัน อยากจะหันหลังหนีจากไป“จับเขาไว้”กู้หว่านเยว่ที่คอยดูอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาเย็นชาอยู่นาน เพลานี้จึงเอ่ยปากขึ้นมาในที่สุด ฉู่เฟิงที่อยู่บนรถม้าได้เหาะเหินออกไป ถีบชายร่างใหญ่ล้มคว่ำลงกับพื้นด้วยขาข้างเดียว“โอ๊ย!” ชายร่างใหญ่ร้องออกมา ยังไม่ทันได้อ้าปาก ก็ถูกฉู่เฟิงเหยียบลงบนร่างกายอย่างโหดร้าย“ขอเตือนเจ้าว่า อย่าพูดอะไรที่ไม่สมควรพูด มิฉะนั้นจะไม่รับประกันชีวิตของเจ้า”ฉู่เฟิงจะไม่อ่อนโยนกับฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครู่ที่เขาเฝ้าดูอยู่นาน เห็นได้ชัดว่าชายร่างใหญ่ผู้นี้ต้องการปลุกปั่นผู้คนเมื่อเห็นฉู่เฟิง ห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 595

“ฮูหยิน ลูกสาวของข้ายังเล็กนัก” หญิงผู้เป็นแม่อุ้มเด็กหญิงตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน พูดอย่างอ่อนแรง “ต่อให้ต้องเผาให้ตาย ก็ปล่อยลูกสาวของข้าไปเถอะ”“ท่านแม่ ท่านแม่ ข้าไม่อยากให้พวกท่านตาย...” เด็กหญิงตัวน้อยน้ำตานองหน้าครอบครัวสามคนก็นึกไม่ถึง อุตส่าห์หนีร้อนมาพึ่งเย็นแท้ ๆ เหตุใดถึงหนีมาเจอทางตันได้“เจ้าชื่ออะไร?”กู้หว่านเยว่จ้องมองเด็กหญิงคนนั้น รู้สึกว่านางดูคุ้นตานัก“ข้าชื่อเฉียวโต้ว” เด็กหญิงตัวน้อยมองกู้หว่านเยว่อย่างขลาดกลัวน่าจะเป็นเพราะมีครรภ์แล้ว กู้หว่านเยว่จึงไม่อาจต้านทานเด็กที่ว่านอนสอนง่าย น้ำเสียงอ่อนลงทันที“เฉียวโต้วอย่าร้องไห้ ข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง”“นายท่านซู ซูฮูหยิน!” นายทหารจำทั้งสองได้ รีบเข้ามาทำความเคารพกู้หว่านเยว่โบกมือ “ก่อนอื่นให้คนนำเชือกป่านและเสาหินเข้ามา ล้อมรอบที่นี่ให้เป็นวงล้อม”นางนำเครื่องขยายเสียงออกมาง่าย ๆ เพียงพลิกฝ่ามือ “ประชาชนทุกท่าน ตอนนี้ยังมั่นใจไม่ได้ว่าครอบครัวนี้ติดเชื้อกาฬโรคหรือไม่ พวกข้าจะหาหมอที่เก่งที่สุดในเมืองมาตรวจ ทุกท่านโปรดสงบสติอารมณ์ก่อน”นางเร่งเสียงขึ้น “ถ้าครอบครัวสามคนนี้ติดเชื้อกาฬโรคจริง ๆ ก็ส่งพวกเขาไปกัก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 596

คนผู้นี้จงใจก่อกวนศูนย์พักพิง แน่นอนว่าไม่ใช่ความคิดของเขาคนเดียวแน่ อาจมีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยฉู่เฟิงรีบจับกุมเขาไว้“เจ้าชื่ออะไร?” กู้หว่านเยว่มองไปทางนายทหารผู้นั้น“ข้าน้อยชื่อหนิวลี่” นายทหารเห็นฮูหยินที่เป็นดั่งเทพธิดาพูดคุยกับเขาก็หน้าแดง“ลำบากเจ้าแล้ว เดี๋ยวไปรับเงินรางวัลที่จวนกู้นะ”คนทำผิดต้องถูกลงโทษ คนทำดีก็ต้องได้รางวัลเช่นกันกู้หว่านเยว่เห็นว่าถึงแม้ครอบครัวนี้จะไม่ได้ติดเชื้อกาฬโรค แต่ก็ถูกทรมานจนเกือบตายเช่นกัน“พาพวกเขากลับไป รักษาให้เต็มที่ แล้วก็จ่ายค่าตรวจรักษาให้หมอทั้งสามด้วย”หมอทั้งสามได้ยินว่ามีเชื้อกาฬโรค ก็กลัวว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นในเมืองอวี้เวลานี้เมื่อเห็นว่าเป็นเพียงความสับสนไปเอง ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หมอโจวยังใจดีเขียนใบสั่งยาให้กับครอบครัวนั้นโดยไม่คิดค่าตรวจรักษา“ข้าขอตัวก่อน” พูดจบก็เดินจากไปพร้อมกับหมอหนุ่มสองคนกู้หว่านเยว่รู้สึกประทับใจหมอจากเมืองอวี้ในทันที เมื่อเห็นฝูงชนรอบตัวแยกย้ายกันไปมากแล้ว นางจึงหันไปพูดกับผู้ถูกเนรเทศเหล่านั้น“ในเมื่อเจดีย์หนิงกู่ได้สร้างศูนย์พักพิงแล้ว ก็ต้องคุ้มครองความปลอดภัยให้พวกท่านอย่างเต็
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 597

แม้ว่ากู้หว่านเยว่จะคาดเดาผลลัพธ์นี้ไว้แล้ว แต่เมื่อได้ยินด้วยหูตัวเองก็ยังรู้สึกโกรธอยู่“เกิดอะไรขึ้น? เล่ามาโดยละเอียด”ฉู่เฟิงรีบรายงานข้อกล่าวหาที่ชายร่างใหญ่พูดขึ้นมาเองที่แท้ชายร่างใหญ่ผู้นั้นไม่ใช่ผู้ถูกเนรเทศ แต่เป็นนักเลงโดยอาชีพครึ่งเดือนก่อน เขามาที่นี่ตามคำสั่งของสตรีนางหนึ่ง ปล่อยเชื้อกาฬโรคใส่ศูนย์พักพิง“น่าเสียดาย ชายร่างใหญ่ผู้นี้ใจเสาะเหมือนหนูหญิงผู้นั้นให้หนูขาวตัวเล็กที่ติดเชื้อกาฬโรคแก่เขาหลายตัว เขากลัวว่าตัวเองจะติดเชื้อไปด้วย จึงแอบทิ้งหนูเหล่านั้นไว้ระหว่างทาง”“เมื่อมาถึงศูนย์พักพิง ก็เห็นครอบครัวสามคนนั้นเป็นไข้หวัด จึงให้ยาระบายจำนวนหนึ่งแก่พวกเขา เพื่อใส่ร้ายว่าพวกเขาติดเชื้อกาฬโรค”กู้หว่านเยว่ฟังจบกลับรู้สึกดีใจมากเสียอีก“โชคดีที่ชายร่างใหญ่คนนั้นขี้ขลาดตาขาว ถ้าเกิดเขาปล่อยหนูที่มีเชื้อกาฬโรคออกมาจริง ๆ ประชาชนในศูนย์พักพิงต้องประสบหายนะกันทั้งหมด”แม้ว่ากู้หว่านเยว่จะมีความมั่นใจว่า ต่อให้มีเชื้อกาฬโรคเกิดขึ้นก็ยังมีวิธีกำจัดเชื้อกาฬโรคได้แต่สมรรถภาพทางร่างกายของทุกคนแตกต่างกัน ในศูนย์พักพิงมีทั้งผู้สูงวัย อ่อนแอ ป่วย และพิการอยู่ครบถ้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 598

“ทุกคนใจเย็น ๆ ก่อน อย่าใจร้อน เข้าแถวดี ๆ ถ้าพวกท่านจะคืนสินค้า ทางร้านจะรับคืนแน่นอน”หญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นผู้นำพูดขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว “คุณภาพของชาดของร้านพวกท่านแย่เกินไปจริง ๆ ข้าทาบนใบหน้า ไม่นานก็เป็นคราบแล้ว”“ก็ใช่น่ะสิ? เมื่อวานเป็นวันสำคัญที่ข้ากับชายอันเป็นที่รักของข้ามีนัดกัน แต่ผลคือชาดนี้เป็นคราบ ทำร้ายข้าเป็นที่น่าอับอายมาก”“คืนสินค้า ต้องคืนสินค้า”“รีบคืนเงินให้พวกข้าด้วย”เสียงของบรรดาหญิงสาวดังขึ้นพร้อมกัน มีอานุภาพที่ไม่ธรรมดาเลยผู้จัดการร้านที่เฝ้าประตูอยู่หน้าซีดทันทีด้วยเสียงเรียกร้อง รีบสั่งให้เด็กรับใช้ที่ประตูขวางพวกเขาไว้ ส่วนตัวเองวิ่งลนลานเข้าไป“คุณหนูท่านว่าจะทำยังไงดี หรือว่าต้องคืนสินค้าทั้งหมด? ถ้าคืนสินค้าทั้งหมด ร้านของเราจะเสียหายหนักมากนะเจ้าคะ”หลี่ชิวเตี๋ยนั่งอยู่ด้านใน สีหน้ากลัดกลุ้มเช่นกัน“เป็นความผิดของข้าเอง ที่ไปไหว้วานคนผิด นางให้ชาดคุณภาพต่ำเช่นนี้แก่ข้ามาชุดหนึ่ง”ร้านนี้ของนางเพิ่งเปิดกิจการ เดิมทีไม่มีแหล่งผลิตสินค้า แต่เมื่อไม่นานนี้ได้รู้จักกับสตรีนางหนึ่ง บอกว่ามีชาดอยู่ในมือเป็นจำนวนมากในตอนนั้นได้ให้นางมาทดลองใช้หนึ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 599

“รู้อย่างนี้ ไม่ควรเสียเงินไปกับผู้ชายเลย”หลี่ชิวเตี๋ยรู้สึกกลัดกลุ้มนึกถึงสมัยนั้นที่นางพอมีเงินเก็บอยู่บ้างในห้องส่วนตัว แต่เพื่อช่วยเหลือทังต๋า จึงนำเงินทั้งหมดไปถมใส่ในจวนของเขาเครื่องเรือนในจวนทัง มีชิ้นไหนที่ไม่ใช่นางซื้อมาบ้าง?“แม่ของข้าพูดถูก การใช้เงินไปกับผู้ชายเป็นเรื่องโชคร้ายโดยแท้จริง”หากนางยังมีเงินเก็บเหมือนสมัยนั้น จะกลัวการขาดทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ไปทำไม“คุณหนู ไม่เช่นนั้น ร้านค้าแห่งนี้...”สาวใช้ต้องการเสนอให้ปิดร้านนี้ ในขณะที่ยังขาดทุนไม่มากนักหลี่ชิวเตี๋ยเห็นกู้หว่านเยว่เดินเข้ามา“นี่คือร้านแป้งน้ำและชาดที่คุณหนูหลี่บริหารจัดการใช่ไหม?”กู้หว่านเยว่มองไปรอบ ๆ ร้านค้าตกแต่งได้ดีมาก“รีบชงชาให้ซูฮูหยินเร็วเข้า” หลี่ชิวเตี๋ยรู้สึกกระดากอายเล็กน้อยนางพูดอย่างไม่สบายใจ “ร้านค้าเพิ่งได้เปิด ก็กำลังจะปิดเสียแล้ว”“เล่าให้ฟังหน่อยซิ”กู้หว่านเยว่นั่งลงอย่างคล้อยตาม ความจริงแล้วนางมีความคิดมาโดยตลอดว่าจะเปิดร้านชาดในสมัยโบราณ วางแผนที่จะนำเครื่องสำอางสมัยใหม่เข้ามาเพียงแต่ยังไม่ทันได้ทำให้เป็นจริง ซึ่งการเข้าร่วมหุ้นก็เป็นวิธีที่ไม่เลวเลย“ผิดที่ข้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 600

กู้หว่านเยว่จิบชาหนึ่งอึกหลี่ชิวเตี๋ยแปลกใจเล็กน้อย “ฮูหยินมั่นใจขนาดนี้เลยหรือว่าข้าจะเปิดสาขาที่สอง? ถ้าหากสาขาแรกข้ายังจัดการไม่ดี...”“ถ้าคุณหนูหลี่ยังจัดการสาขาแรกไม่ดี เช่นนั้นก็ถือซะว่าการลงทุนของข้าล้มเหลว”กู้หว่านเยว่ใจเย็นมีเหตุผลมากกับเรื่องนี้เรื่องการลงทุน ย่อมมีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว แต่นางเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของตนเองหลี่ชิวเตี๋ยจะไม่ทำให้นางผิดหวังแน่“ข้า...”สีหน้าของหลี่ชิวเตี๋ยเผยความลังเลออกมา กู้หว่านเยว่ก็ไม่รีบร้อนเช่นกัน“เรื่องนี้ไม่ต้องใจร้อน คุณหนูหลี่ค่อย ๆ คิดก็ได้ ตัดสินใจแล้วค่อยบอกข้า เจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร”พูดจบ กู้หว่านเยว่ก็กำลังจะขอตัวกลับก่อน ไม่นึกว่าหลี่ชิวเตี๋ยดูเหมือนจะตัดสินใจได้แล้ว“ข้าเห็นด้วย”หลี่ชิวเตี๋ยรีบบอกว่า “ฮูหยิน ข้าเห็นด้วยกับการจัดการของเจ้า”เมื่อเห็นนางตอบตกลง กู้หว่านเยว่ก็ยิ้มแย้มด้วยความดีใจ“เช่นนั้นเจ้าก็จัดระเบียบร้านค้าให้ดีก่อน ชื่อของร้านนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแล้ว เรียกว่าร้านดอกท้อก็ดี”กู้หว่านเยว่ลุกขึ้นกล่าวว่า “หลังจากที่ข้ากลับไปแล้ว จะให้คนนำเงิน หนังสือสัญญา รวมถึ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
5859606162
...
78
DMCA.com Protection Status