All Chapters of รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์: Chapter 371 - Chapter 380

794 Chapters

บทที่ 371

“ยอม”หลี่อิ๋นหู่เกร็งหน้า ก่อนจะตอบกลับเสียงแข็งทื่อ “เจ้าไม่พอใจ” หลี่เฉินจ้องมองหลี่อิ๋นหู่ และกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “กระหม่อมไม่กล้า” หลี่อิ๋นหู่ยังคงตอบต่อไป“ไม่กล้า?”หลี่เฉินหัวเราะเสียงเย็นชาและกล่าวว่า “แต่ข้าเห็นความเกลียดชังที่เจ้ามีต่อข้าในดวงตาของเจ้า มันรุนแรงมากจนยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้” หลี่อิ๋นหู่กัดฟันพูด “ฝ่าบาทคือพระเชษฐาองค์โตของกระหม่อม ทั้งยังเป็นองค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์ กระหม่อมไม่มีเจตนาอื่นใดต่อฝ่าบาท” “ใช่ ไม่มีเจตนาอื่นใด ข้าเชื่อประโยคนี้”หลี่เฉินกล่าวอย่างสงบ แล้วจู่ๆ ก็เพิ่มความเร็วในการพูด “เพียงแค่อยากจะมาแทนที่ข้าก็เท่านั้นเอง นี่ไม่นับว่าเป็น ‘ไม่มีเจตนาอื่นใด’?”หลี่อิ๋นหู่กัดฟันจนกรามแข็ง “เหตุใดฝ่าบาทต้องพุ่งเป้ามาที่กระหม่อม?” หลี่เฉินเตะหลี่อิ๋นหู่กลิ้งลงไปกับพื้น จากนั้นก็ยกเท้าขึ้นมาเหยียบที่หน้าอกของหลี่อิ๋นหู่ และมองหลี่อิ๋นหู่ซึ่งนอนกองบนพื้นหิมะ ด้วยสายตาแหลมคมดุจใบมีด แล้วหลี่เฉินก็กล่าวว่า “เพราะข้ารู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่เจ้ามีต่อข้า” “ตั้งแต่วันที่น้องชายของเจ้าเสียชีวิต ข้าก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกต
Read more

บทที่ 372

เมื่อกลับมาที่ตำหนักบูรพา หลี่เฉินก็ไปเยี่ยมวั่นเจียวเจียวก่อนเป็นอันดับแรก นางฟื้นขึ้นมาแล้ว เมื่อเห็นหลี่เฉินเดินเข้ามา นางก็พยายามลุกขึ้น “นอนลงเถอะ ไม่ต้องคารวะข้า”หลี่เฉินนั่งลงข้างเตียง และเหลือบมองอาหารที่อยู่ด้านข้าง เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้าบาดเจ็บหนักก็ต้องทานอาหารให้มากขึ้น เพื่อเติมพลังงานให้กับร่างกาย แล้วเหตุใดจึงไม่กิน?”เนื่องจากการเสียเลือดมากเกินไป ริมฝีปากของวั่นเจียวเจียวจึงซีดลงเล็กน้อย ใบหน้าที่ขาวซีดของนางดูไม่คุ้นเคยกับการนอนพูดกับหลี่เฉิน นางกล่าวเสียงเบาว่า “กินไม่ลงเพคะ”“กินไม่ลงก็ต้องกิน” หลี่เฉินขมวดคิ้วพูด “ตอนนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บ อยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกาย หากไม่ทานข้าวแล้วจะฟื้นฟูร่างกายได้อย่างไร” “หรือเจ้าอยากให้ข้าป้อนเจ้า?”ประโยคสุดท้ายของหลี่เฉิน ทำให้วั่นเจียวเจียวที่อยากพูดอย่างอื่นก็พลันหยุดชะงักทันที ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางไม่กล้าให้หลี่เฉินป้อนอาหารให้นางแน่ เห็นได้ชัดว่าอาหารมื้อนี้ทำให้วั่นเจียวเจียวเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่ใช้ส่วนผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมายเท่านั้น แต่ยังมีอาหารยาที่หายากอีกมากมายอีกด้วยตอนท
Read more

บทที่ 373

ในพระที่นั่งสีเจิ้ง อากาศอบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลิแสงไฟที่พลิ้วไหวส่งเสียงปะทุเป็นครั้งคราว แต่ไม่อาจขัดขวางหลี่เฉินกับซานเป่าที่กำลังพูดคุยอยู่ในพระที่นั่งสีเจิ้ง “จับได้กี่คน?” หลังจากหลี่เฉินนั่งลง เขาก็ถามเข้าประเด็นทันที ซานเป่ารีบตอบกลับไปว่า “ในการค้นหานี้ พวกเราพบมือสังหารทั้งหมดสามคน หนึ่งในนั้นถูกฆ่าเนื่องจากขัดขืน ส่วนอีกสองคนได้รับบาดเจ็บและถูกองครักษ์เสื้อแพรกับองครักษ์อวี่หลินล้อมจับไว้ได้” “สามคน?” หลี่เฉินขมวดคิ้วแน่น “มีสตรีศักดิ์สิทธิ์และหญิงแก่รวมด้วยหรือเปล่า?” ซานเป่าพูดด้วยความอับอายว่า “ทูลฝ่าบาท ตอนนี้ ตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลยพ่ะย่ะค่ะ” ใบหน้าของหลี่เฉินพลันเย็นชา แต่ไม่ได้พูดอะไรบางครั้ง ข้อดีของความเงียบไม่ได้จำกัดอยู่ที่ความสัมพันธ์ทางอารมณ์ระหว่างชายหญิง แต่ในสนามรบของอำนาจ ความเงียบของผู้บังคับบัญชา มักจะสร้างความกดดันให้กับผู้ใต้บังคับบัญชามากยิ่งขึ้นตามที่คาด ซานเป่ารู้สึกได้ถึงความกดดันและความไม่พอใจจากฝ่าบาท จึงรีบพูดขึ้นมาทันที “ฝ่าบาท โปรดให้เวลาบ่าวเพิ่มอีกสักหน่อย ประตูทางเข้าเมืองทุกด้านและสถานที่ที่สามารถออกจากเมืองหลวงได้น
Read more

บทที่ 374

“ข้าดูจากรูปลักษณ์ภายนอก คำพูด และการกระทำของเจ้า เจ้าจะต้องเป็นชาวต้าฉินอย่างแน่นอน ไม่ใช่พวกชาวต่างชาติ”“ในเมื่อเจ้าเป็นชาวต้าฉิน เจ้ากินอาหารที่ปลูกโดยชาวต้าฉิน สวมเสื้อผ้าที่ทอโดยช่างปักของต้าฉิน และเดินไปตามถนนหลวงที่สร้างโดยช่างฝีมือของต้าฉิน นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เจ้าเกิดมา เจ้าก็เพลิดเพลินไปกับความสะดวกสบายที่ทางราชสำนักต้าฉินและเหล่าขุนนางสร้างให้กับสังคม”“เจ้าสามารถเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ได้ ก็เพราะต้าฉินได้มอบสภาพแวดล้อมที่มั่นคงให้กับเจ้า สร้างสังคมที่ไม่ต้องขึ้นไปบนภูเขาเพื่อล่าสัตว์และดื่มเลือดทุกวัน”“ทหารต้าฉินเฝ้าอยู่ที่ชายแดน คอยหลั่งเลือดอยู่ในสนามรบ ต่อต้านศัตรูจากต่างประเทศ เพื่อปกป้องราษฎร์ดรต้าฉินที่อยู่ข้างหลังพวกเขา”“ขุนนางต้าฉิน บริหารจัดการท้องถิ่น เก็บภาษีและบรรเทาภัยพิบัติ สร้างเมืองและพัฒนาถิ่นทุรกันดาร ทำให้สังคมและประเทศเจริญรุ่งเรือง”“เชื้อพระวงศ์ต้าฉิน ใช้ทักษะการเมืองและการทหาร คอยบัญชาการเหล่าทหารนับล้านและเหล่าบัณฑิตวิชาการ ทำให้ประชาชนเช่นเจ้า มีอาหารให้กิน มีเสื้อผ้าให้สวม มีถนนหลวงให้ใช้ มีบ้านเมืองให้เจ้าได้อยู่อาศัยอย่างปลอดภัย”ฝ่าเท้
Read more

บทที่ 375

“ไปตรวจสอบประวัติของพวกมันให้ข้า”หลี่เฉินชี้ไปที่มือสังหารที่ไร้ซึ่งความกลัวใดๆ ด้วยสีหน้าอันบ้าคลั่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า “ตรวจสอบทุกเบาะแสของพวกมัน เพื่อค้นหาทะเบียนบ้าน ภูมิลำเนา ญาติในครอบครัว ทั้งที่ตายไปแล้วและที่ยังเหลืออยู่ ตรวจสอบบรรพบุรุษของพวกมันทั้ง 18 รุ่น!”“พวกมันอยากเป็นวีรบุรุษ ได้สิ งั้นนับรวมพ่อกับแม่ไปด้วยเลยดีไหม? ในเมื่อมีลูกเป็นวีรบุรุษ เช่นนั้นพ่อแม่และตระกูลของพวกมัน ก็สมควรออกมาอาบแสงแห่งเกียรติยศนี่ด้วยกัน”“เมื่อค้นพบบรรพบุรุษทั้งสิบแปดรุ่นของพวกมันแล้ว คนที่ตายไปแล้วให้ขุดหลุมศพขึ้นมา เปิดโลงศพแล้วบดกระดูกของพวกมัน เพื่อโปรยขี้เถ้าของพวกเขา หากยังมีชีวิต ผู้ชายให้สังหารให้หมด ส่วนผู้หญิงถ้าอยู่ในวัยที่เหมาะสมก็ส่งไปยังหอคณิกาของทางการ หากมีอายุที่ไม่เหมาะสมก็ส่งไปที่ฝ่ายแรงงาน ลงทะเบียนเป็นทาส ไม่อนุญาตให้พลิกสถานะตลอดชีวิต!” หลังจากออกคำสั่ง ชายร่างอ้วนและชายร่างผอมก็มีสีหน้าซีดเซียวในทันทีอย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่เหล่าองครักษ์เสื้อแพรที่คุ้นเคยกับความโหดร้ายก็ยังตกใจกลัว การทรมานดังกล่าวอาจกล่าวได้ว่าโหดร้ายถึงแก่นแท้ นี่ไม่ใช่แค่กรณีของค
Read more

บทที่ 376

สีหน้าของซานเป่าพลันเคร่งขรึม เขาสงสัยด้วยซ้ำว่าฝ่าบาทเคยต่อกรกับสำนักบัวขาวมาก่อนแล้วหรือไม่มิฉะนั้นจะรู้พฤติกรรมของสำนักบัวขาวได้อย่างไร? ซึ่งในความเข้าใจของซานเป่าที่มีต่อสำนักบัวขาว พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ใครมีชีวิตอยู่จริงๆอู๋เจียงอี้ผู้น่าสงสารคงคิดไม่ถึงว่า เมื่อข่าวที่เขาถูกจับทั้งเป็นแพร่กระจายออกไป วันนั้นก็คือวันตายของแม่เขา “ฝ่าบาท บ่าวมีแผน”ซานเป่าลดเสียงลงและพูดว่า “บ่าววางแผนที่จะประกาศข่าวว่าสองคนนี้ถูกจับทั้งเป็น จากนั้นก็เลือกวันสอบสวนและสังหารต่อหน้าสาธารณชน ด้วยวิธีนี้ สำนักบัวขาวจะต้องมาช่วยคนอย่างแน่นอน พวกเขาสองคนคือเหยื่อล่อชั้นดี” หลี่เฉินเข้าใจทันทีว่าซานเป่าหมายถึงอะไร เขามองขันทีที่มีน้ำเสียอยู่เต็มท้องอย่างรังเกียจ ก่อนจะโบกมือแล้วพูดว่า “เจ้าจัดการตามที่เห็นสมควรเถอะ”แต่หลี่เฉินไม่รู้ว่ากระบวนการทั้งหมดที่เขาจัดการกับมือสังหารสองคนนั้น ถูกจับตามองด้วยดวงตาสองคู่ ในมุมบอดของห้องด้านข้างพระที่นั่งสีเจิ้ง ย่าเมิ่งโกรธจัดจนตัวสั่นไปทั้งตัว นางปรารถนาจะออกไปสับหลี่เฉินออกเป็นชิ้นๆ ด้วยความโกรธเมื่อเห็นว่าอู๋เจียงอี้ต้องการที่จะสารภาพ เ
Read more

บทที่ 377

สตรีศักดิ์สิทธิ์ตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้ความจริงแล้ว นางมั่นใจว่าตัวเองนั้นสามารถพาย่าเมิ่งหลบฝ่ามือของขันทีซานเป่าได้ หรือจะกล่าวตรงๆ ก็คือ ย่าเมิ่งตายเปล่าแต่ที่เรื่องมาถึงจุดนี้ได้ เป็นเพราะสตรีศักดิ์สิทธิ์ถูกย่าเมิ่งหาเหามาใส่หัวไม่ขาดสาย นางจึงไม่สนใจย่าเมิ่งอีกต่อไป ไม่ว่าความสัมพันธ์จะดีแค่ไหน แต่ถูกทำให้ลำบากซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันก็ทนไม่ไหวสตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่กล่าวสิ่งใด ร่างอันบอบบางพุ่งทะยานไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างรวดเร็วดุจเทพเซียนส่วนย่าเมิ่งที่ตั้งใจจะตายอยู่แล้ว ก็ใช้หน้าอกของนางรับพลังฝ่ามือของซานเป่าเข้าอย่างจัง ทันใดนั้นเลือดก็พุ่งออกมาจากปาก ท่าทางของนางดูเหมือนแสงสายัณห์ของตะวันรอน[footnoteRef:1] นางเปิดปากที่เต็มไปด้วยเลือด แล้วพุ่งเข้าหาซานเป่าด้วยรอยยิ้มที่บ้าคลั่ง [1: แสงสายัณห์ของตะวันรอน อุปมาว่า สีหน้าดูสดใสขึ้นก่อนที่จะตาย] “กำเนิดมาจากโคลนตมผลิบานในความโกลาหล ดอกบัวขาวจงเจริญ!”“มีนางเฒ่าคนนี้อยู่ เจ้าอย่าหวังว่าจะจับสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้!”ซานเป่าที่ถูกถ่วงเวลาก็ระเบิดความโมโหออกมา เขากระแทกฝ่ามือไปที่ร่างของย่าเมิ่งอย่างต่อเนื่องถึงสามครั้งย่าเ
Read more

บทที่ 378

กลางคืนเย็นเหมือนน้ำ หิมะเย็นเหมือนน้ำแข็งสุรารสร้อนแรงไหลเข้าไปในลำคอของเขา และก่อนที่ความเผ็ดร้อนของสุราจะออกฤทธิ์ หัวของหลี่เฉินก็พลันเย็นยะเยือกขึ้นมาทันทีที่เขาเห็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ หลี่เฉินก็เกือบตะโกนเรียกทหารองค์รักษ์ แต่จู่ๆ คำพูดนั้นก็ติดค้างที่ริมฝีปาก เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ไม่มีเหตุผลเลยที่ตัวเขาเห็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์กลับไม่เห็นเขาเพราะมีความเป็นไปได้ว่าตอนที่เขาปีนขึ้นหลังคามาหาที่ตายด้วยตัวเองนั้น สตรีศักดิ์สิทธิ์ซึ่งนั่งรอคอยกระต่าย[footnoteRef:1] ก็จะฆ่าเขาทันทีด้วยการโบกมือครั้งเดียว [1: นั่งรอคอยกระต่าย อุปมาว่า มีความคิดที่ไม่ได้เรื่องแต่บังเอิญประสบความสำเร็จ] หากคิดเรื่องนี้จากมุมมองของสตรีศักดิ์สิทธิ์แล้ว หลี่เฉินคงหัวเราะแทนนางซะด้วยซ้ำ เพราะจู่ๆ ก็มีพายตกลงมาจากฟ้าแต่ความจริงก็คือสตรีศักดิ์สิทธิ์นอนแน่นิ่งอยู่บนหลังคากระเบื้อง สวมเสื้อผ้าสีขาวราวกับหิมะ ซึ่งกลมกลืนไปกับหิมะสีขาวที่อยู่รอบๆ ทำให้การอำพรางตัวสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ถ้าหากไม่เข้าไปใกล้ก็จะมองไม่ออก เมื่อพิจารณาอย่างใกล้ชิด หลี่เฉินก็พบว่าดวงตาของสตรี
Read more

บทที่ 379

ผิวบอบบางไร้ที่ติเหมือนดั่งไข่ปอก ความเนียนละเอียดยิ่งไม่ต้องพูดถึงราวกับว่าพระเจ้าตั้งใจจะสร้างสตรีผู้นี้ขึ้นมา โดยไม่คิดถึงความสมดุลใดๆ เพียงเอาสิ่งที่ดีที่สุดมอบให้กับนาง ความงามประเภทนี้ สร้างภาพลักษณ์ที่เรียบง่ายและบริสุทธิ์ในสมัยโบราณ เพื่อทำให้นางเปาซื่อยิ้มออกมา โจวโยวอ๋องจึงจุดไฟสัญญาณหลอกเจ้าเมืองหรือนางปีศาจจิ้งจอกต๋าจี่ที่ทำให้ประเทศชาติต้องล่มจม เพราะนางเปลี่ยนโจ้วอ๋องผู้ชาญฉลาดให้กลายเป็นเผด็จการที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ยังมีอู๋ซานกุ้ยของราชวงศ์ก่อนที่ลุ่มหลงในเฉินหยวนหยวน เขาโกรธจนไฟลุกเพื่อโฉมงามแต่สตรีเหล่านี้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นความสวยและความงดงามนั้นแตกต่างกัน ความสวย จำกัดอยู่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น หากมองแล้วสบายตา ก็เรียกว่าสวยงาม แต่ความงดงาม ความสวยเป็นเพียงรากฐาน และต้องมีอะไรแฝงมากกว่านั้นจึงจะเรียกว่างดงามได้ยกตัวอย่างเช่น จ้าวชิงหลานที่สูงส่งมีเกียรติจนหาใครเทียบไม่ได้ หรือจ้าวหรุ่ยที่มีเสน่ห์ราวกับสายน้ำ และซูจิ่นพ่าที่มีความสง่างามและเปี่ยมไปด้วยอิสระ ส่วนสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ตรงหน้า นางงดงามแบบเยือกเย็น เ
Read more

บทที่ 380

ครั้งแรกที่ต้องซ่อนตัว สตรีศักดิ์สิทธิ์เลือกซ่อนตัวอยู่ที่ตำหนักบูรพา อาจกล่าวได้ว่ากล้าหาญ ระมัดระวัง และเฉลียวฉลาดและเมื่อถูกค้นพบในตำหนักบูรพา นางก็หนีรอดไปได้เป็นครั้งที่สองด้วยสภาพร่างกายที่บาดเจ็บหนัก แต่นางก็ยังคงกลับมาที่ตำหนักบูรพา จุดนี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงความกล้าหาญและความคิดของนาง ซึ่งอยู่เหนือคนธรรมดา ดังนั้นการประนีประนอมของนางในตอนนี้ จึงไม่น่าแปลกใจสำหรับหลี่เฉินสตรีศักดิ์สิทธิ์อาจไม่กลัวความตาย แต่ไม่ว่าจะเป็นฐานะของผู้หญิงหรือสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณของสำนักบัวขาว นางจะไม่มีวันยอมให้ตัวตนทั้งสองนี้ถูกดูหมิ่น นี่เป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตายเมื่อเผชิญหน้ากับการประนีประนอมของสตรีศักดิ์สิทธิ์ หลี่เฉินก็ไม่ลังเล เขาหันกลับมาพูดกับทหารองค์รักษ์ที่อยู่ด้านล่างว่า “ไปเรียกซานเป่ามา”หลังจากทหารองค์รักษ์ส่งเสียงตอบรับ หลี่เฉินจึงหันศีรษะกลับมาอีกครั้ง และเห็นสายตาที่เย็นชาของสตรีศักดิ์สิทธิ์กำลังจ้องมอง“ทำไมถึงมองข้าเช่นนี้ล่ะ ข้าก็แค่กลัวว่าเจ้าจะถ่วงเวลาเพื่อฟื้นฟูพลัง เพราะท้ายที่สุดแล้วยอดฝีมืออย่างพวกเจ้า ก็อาจจะฟื้นพลังขึ้นมาได้ในหนึ่งก้านธูปและสังห
Read more
PREV
1
...
3637383940
...
80
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status