บททั้งหมดของ ทาสสาวพราวพิลาส: บทที่ 501 - บทที่ 510

625

บทที่ 501

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ยังหาคนที่จะสืบข่าวไม่ได้ คนเดียวที่นึกออกก็คือเยี่ยเป่ยเฉิงช่างเถอะ รอถึงวันไหว้พระจันทร์ พอได้พบเยี่ยเป่ยเฉิง นางก็จะขอร้องให้เขาไปสืบข่าวของฮุ่ยอี๋ให้ หากมีโอกาส ก็พานางออกมาเที่ยวนอกวังด้วยไม่ได้พบกันนาน นางเองก็คิดถึงฮุ่ยอี๋เหลือเกิน......เจ็ดวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันไหว้พระจันทร์ก็มาถึงในพริบตาค่ำคืนนั้น แสงไฟพร่างพราวทั่วทุกครัวเรือน สว่างไสวตระการตา ตลอดทั้งถนน โคมไฟหลากสีสันถูกแขวนประดับ ดอกไม้ไฟเรืองรองสลับสีสัน งดงามจนมิอาจบรรยายได้ท่ามกลางผู้คนที่เนืองแน่นบนท้องถนน หญิงสาวคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ที่หัวสะพาน ราวกับเป็นภาพวาดที่มีชีวิต ดึงดูดสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมานางสวมชุดกระโปรงยาวผ้าแพรสีฟ้าอ่อน คลุมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าโปร่งสีขาว เผยให้เห็นเส้นสายลำคออันงดงามและไหปลาร้าที่ชัดเจนชายกระโปรงไหลลื่นดั่งแสงจันทร์ทอดลงบนพื้น ผมยาวสลวยถูกรวบไว้ด้านหลังด้วยปิ่นหยกขาวเพียงอันเดียว ปล่อยผมเส้นบางๆ ตกลงมาที่หน้าอก ยิ่งเพิ่มความอ่อนหวานนางแต่งหน้าบางเบา แก้มแดงระเรื่อขับผิวให้ดูนุ่มนวลน่ารักดั่งกลีบดอกไม้ โดดเด่นที่สุดคือดวงตากลมโตเป็นประ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 502

กลัวว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะรอนาน หลินซวงเอ๋อร์จึงมาถึงแต่เนิ่นๆ โดยที่ยังไม่ทันได้ทานอาหารเย็นก็มาแล้ววันที่จากกันครั้งก่อน นางได้บอกเยี่ยเป่ยเฉิงว่า ในวันไหว้พระจันทร์นี้ นางจะรอเขาที่หัวสะพานถนนฉางอานด้วยกลัวว่าเขาจะมาแล้วหานางไม่เจอ หลินซวงเอ๋อร์จึงยืนรออยู่ที่เดิม ไม่กล้าขยับไปไหนแม้แต่ก้าวเดียวแต่นางรออยู่นาน กระนั้นก็ยังไม่เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงมาเสียทีสายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดเอื่อยๆ หลินซวงเอ๋อร์สวมเสื้อผ้าบางเบา เมื่อลมพัดกระทบร่างของนาง นางจึงรู้สึกหนาวเล็กน้อยตงเหมยรอจนหมดความอดทน กวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะถูกดึงดูดด้วยการแสดงกายกรรมที่ริมถนน“พระชายา พวกเราไปดูการแสดงกายกรรมกันเถอะเจ้าค่ะ” ตงเหมยยืนอยู่ตรงนี้มองไม่ชัด จึงอยากจะลากหลินซวงเอ๋อร์ไปดูด้วยกันถนนฉางอานจะคึกคักที่สุดก็ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ของทุกปีหลินซวงเอ๋อร์ไม่ยอมไป นางกล่าวว่า “แต่ท่านพี่ยังไม่มา ข้าบอกว่าจะรอเขาที่นี่”ตงเหมยเบ้ปาก แล้วมองไปที่ร้านขายตุ๊กตาน้ำตาลข้างๆ กล่าวว่า “พระชายา พวกเราไปซื้อตุ๊กตาน้ำตาลกันเถอะเจ้าค่ะ ท่านอยากกินมันมากไม่หรอกหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหน้า กล่าวว่า “ข้าจะรอท่านพี่มาก่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 503

หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกผิดจึงกล่าวว่า “ขอโทษนะตงเหมย”ตงเหมยแค่บ่น แต่ในใจไม่ได้ตำหนิหลินซวงเอ๋อร์ อีกอย่าง เป็นตัวนางเองที่ไม่วางใจปล่อยให้หลินซวงเอ๋อร์ยืนอยู่ที่นี่คนเดียว ถึงได้อยู่เป็นเพื่อนไม่ห่าง เมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกผิดและขอโทษ ตงเหมยก็ใจอ่อนทันที จึงกล่าวว่า “บ่าวไม่ได้ตั้งใจบ่นหรอกเจ้าค่ะ แค่สงสารพระชายา รอคอยวันไหว้พระจันทร์มานาน สุดท้ายก็ผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรเลย”หลินซวงเอ๋อร์แกล้งทำเป็นไม่เป็นไร กล่าวว่า “ไม่เป็นไร วันไหว้พระจันทร์ปีหน้า พวกเราค่อยมาอีก”พูดจบ ทั้งสองก็กำลังจะเดินกลับจวนไม่คาดคิดว่า เสียงคุ้นหูก็พลันดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลินซวงเอ๋อร์หยุดฝีเท้าลงทันที“แม่นางซวงเอ๋อร์”หลินซวงเอ๋อร์หันไปมอง เห็นไป๋อวี้ถังยืนอยู่ด้านหลังตน“พี่ใหญ่ไป๋? ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกแปลกใจ ดูเหมือนไม่คิดว่าจะได้เจอไป๋อวี้ถังที่นี่ไป๋อวี้ถังเองก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นหลินซวงเอ๋อร์อีกครั้งเมื่อครู่เขานั่งรถม้ากลับจวน แค่บังเอิญเลิกม่านมองไปที่หัวสะพาน ผลคือแค่แวบเดียวก็เหมือนผ่านไปหลายปีภาพที่ฝันถึงนับครั้งไม่ถ้วนซ้อนทับกับความจริง หัวใจเต้นรัวด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 504

หลินซวงเอ๋อร์อยากปล่อยโคมดอกบัวจริงๆ แม้ว่าวันนี้เยี่ยเป๋ยเฉิงจะไม่มา นางก็อยากปล่อยแต่ว่า พ่อค้าขายโคมต่างก็เก็บของกลับบ้านไปแล้ว นางซื้อโคมดอกบัวไม่ได้ ก็เลยไม่มีทางปล่อยแล้วพอคิดถึงตรงนี้ ดวงตานางก็ซ่อนความผิดหวังไว้ไม่มิด“แม่นางซวงเอ๋อร์ เจ้ารออยู่ตรงนี้สักครู่” พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็เห็นไป๋อวี้ถังหันหลังกลับ เดินจากไปทางหนึ่งอย่างรวดเร็วหลินซวงเอ๋อร์ยืนอยู่ที่เดิมอย่างงุนงงนางไม่รู้ว่าไป๋อวี้ถังจะไปทำอะไรตอนนี้เอง ตงเหมยจึงเอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “ท่านเสนาบดีไปทำอะไรหรือเจ้าคะ?”หลินซวงเอ๋อร์ตอบ “ไม่รู้”เห็นตงเหมยมีสีหน้าหลงใหล หลินซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะเตือนนางว่า “เจ้าอย่าได้ชอบท่านเสนาบดีมากเกินไปนะ”ใบหน้าของตงเหมยแดงขึ้นทันที แก้ตัวว่า “ใครชอบท่านเสนาบดีกัน..”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า “ท่านเสนาบดีมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เจ้าชอบได้ แต่อย่าหลงลึกเกินไปเชียว”ตงเหมยพูดอ้ำอึ้งว่า “บ่าวไม่มีทางหลงลึกหรอกเจ้าค่ะ แค่เห็นว่าท่านเสนาบดีหน้าตาดี อยากมองสักหน่อยก็เท่านั้นเอง...”ท้ายที่สุด ตงเหมยจึงถามอย่างอยากรู้ว่า “ท่านเสนาบดีก็มีคนที่ชอบด้วยหรือเจ้าคะ? ใครกัน? เขาชอบคุณหนูตระก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 505

ตงเหมยดีใจจนเต้นระบำ รับโคมดอกบัวแล้ววิ่งไปที่ริมฝั่งเพื่อปล่อยมีเพียงหลินซวงเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไป๋อวี้ถังคิดว่านางไม่ชอบโคมนี้ จึงยื่นของตัวเองให้หลินซวงเอ๋อร์ พูดว่า “แม่นางซวงเอ๋อร์ไม่ชอบอันนี้หรือ? เช่นนั้นข้าเปลี่ยนให้เจ้าก็ได้”หลินซวงเอ๋อร์ได้สติ ตอบว่า “ไม่ใช่หรอก ข้าชอบมาก แค่ว่า...โคมดอกบัวต้องบรรจุความปรารถนาด้วย”ไป๋อวี้ถังไม่เคยปล่อยโคมมาก่อน เขาคิดว่าแค่จุดเทียนแล้วโยนลงน้ำก็พอ ที่ไหนได้ ยังต้องบรรจุความปรารถนาด้วยแต่เรื่องนี้ไม่ยากเกินไปสำหรับเขาไป๋อวี้ถังเดินไปที่ริมฝั่ง หยิบโคมดอกบัวขึ้นมาจากแม่น้ำ เห็นข้างในมีตัวอักษรเขียนไว้หลายบรรทัดเขาเข้าใจทันที ที่แท้ความหมายที่นางพูดก็คือต้องเขียนความปรารถนาลงบนโคมไป๋อวี้ถังมองไปรอบๆ เห็นไม่ไกลมีร้านขายพู่กันหมึก จึงหันไปบอกหลินซวงเอ๋อร์ว่า “เจ้ารอสักครู่” พูดจบ เขาก็รีบจากไป แล้วกลับมาพร้อมดินสอถ่านอย่างรวดเร็วเขายื่นดินสอถ่านให้หลินซวงเอ๋อร์ พูดว่า “แม่นางซวงเอ๋อร์มีความปรารถนาอะไร ตอนนี้ก็เขียนลงไปได้แล้ว”หลินซวงเอ๋อร์รับดินสอถ่านมาอย่างดีใจ เริ่มเขียนความปรารถนาของตัวเองลงบนกลีบดอกบัวทีละตัวอยู
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 506

โคมลอยของตงเหมยลอยไปไกลแล้ว นางเดินตามไปตลอดทาง สุดท้าย โคมลอยของนางก็ค่อยๆ เข้าใกล้ริมฝั่งบริเวณน้ำนิ่ง และไม่ขยับลอยไปไหนอีกทว่าตงเหมยไม่สนว่ามันจะลอยไปได้ไกลเท่าไหร่ นางไม่สนใจเรื่องพวกนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วครั้นว่างไม่มีอะไรทำ นางก็หมอบตัวนั่งเล่นโคมลอยดอกบัวอยู่ริมฝั่ง นางไม่เล่นก็ดี แต่พอได้เล่นถึงได้รู้ว่า ที่แท้ในโคมลอยดอกบัวสามารถเขียนอักษรในนั้นได้ตงเหมยรู้สึกเสียดาย เมื่อครู่นางไม่ควรรีบร้อนลอยโคมลอยดอกบัวในน้ำเลย นางควรเขียนความปรารถนาไว้บนนั้นสักหน่อย!ไป๋อวี้ถังเองก็วางโคมลอยดอกบัวของตัวเองบนผิวน้ำเบาๆ เช่นกันสายน้ำหลั่งไหลเร็ว ทันที่วางโคมลอยดอกบัวลงไป มันก็ลอยล่องไปตามสายน้ำทันทีเหนือน่านน้ำมีโคมลอยดอกบัวมากมาย ขนาดใหญ่เท่าๆ กัน หลินซวงเอ๋อร์เพ่งมองอย่างดี ด้วยกลัวว่าจะจำของตัวเองไม่ได้นางสนใจแค่มองโคมลอยของตัวเอง ไม่ทันระวังเบื้องล่าง จึงสะดุดเท้า จนเกือบตกลงไปในแม่น้ำไป๋อวี้ถังจับแขนนางไว้ได้ทันเวลา แล้วดึงนางกลับเข้ามาอย่างแรงหลินซวงเอ๋อร์ถลาเข้าสู่อ้อมแขนไป๋อวี้ถังอย่างไม่ทันได้เตรียมตัวการหายใจยุ่งเหยิง ไม่รู้ว่าใจใครเต้น ดังอึกทึกระรัวดุจลั่นกลอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 507

หลินซวงเอ๋อร์สีหน้าซีดขาว “เหตุใดโคมลอยของข้าดับไปแล้วล่ะ...” นางหันกลับไปมองไป๋อวี้ถัง สีหน้าตกใจจนทำอะไรไม่ถูกไป๋อวี้ถังมองโคมลอยดอกบัวที่หลินซวงเอ๋อร์ชี้ เห็นเทียนข้างในนั้นดับจริงส่วนดับได้อย่างไรนั้น เขาไม่สนใจ เขาสนแค่มองหลินซวงเอ๋อร์เขากล่าวปลอบ “ไม่เป็นไร เทียนดับแล้วก็ดับไป ไม่สำคัญอะไร ข้าได้ยินว่า ขอแค่โคมลอยนี้ยังลอยมั่นคงอยู่บนน้ำก็ดีแล้ว”สิ้นเสียง โคมลอยของหลินซวงเอ๋อร์ก็ค่อยๆ จมลงในน้ำด้วยไม่รู้สาเหตุอันใดหลินซวงเอ๋อร์หันไปมองเขาอีกครั้ง เม้มริมฝีปาก ขอบตาค่อยๆ แดงขึ้นมาไป๋อวี้ถัง “…”“ความปรารถนาที่ข้าขอมันจะไม่เป็นจริงแล้วใช่ไหม?”หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก มันรู้สึกเหมือนเป็นลางบางอย่าง ลางที่กำหนดว่านางจะต้องแยกจากเยี่ยเป่ยเฉิงไม่กี่วันมานี้ นางมักจะใจเต้นผิดจังหวะ รู้สึกหดหู่อย่างมากและมักจะรู้สึกว่าจะต้องมีเรื่องไม่ดีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นประกอบกับโคมลอยดอกบัววันนี้ ลางสังหรณ์ไม่ดีในใจนางก็ยิ่งรุนแรงขึ้นไป๋อวี้ถังกล่าวปลอบ “ไม่หรอก ของพวกนี้เอาไว้หลอกคน เชื่อไม่ได้หรอก”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวโต้ “แล้วเหตุใดถึงมีแค่โคมลอยของข้าดับเล่า แถมย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 508

หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกว่าวันนี้ตงเหมยดูแปลกไปเล็กน้อยหากเป็นเมื่อก่อน ไม่ง่ายเลยที่จะได้ออกมานอกบ้านสักครั้ง หากนางไม่รบเร้าให้ตงเหมยกลับบ้าน อีกฝ่ายไม่มีทางเป็นฝ่ายเอ่ยถึงเรื่องกลับก่อนแน่เพียงแต่มันก็สายแล้วจริงๆ แม้ตงเหม่ยจะไม่รบเร้า นางก็จะกลับอยู่แล้วหลินซวงเอ๋อร์พยักหน้าให้ไป๋อวี้ถังเล็กน้อย พลางกล่าว "พี่ใหญ่ไป๋ นี่ก็ดึกมากแล้ว เราขอกลับจวนก่อนนะ"เมื่อเห็นว่านางจะกลับแล้ว ไป๋อวี้ถังก็เริ่มร้อนใจ และโพล่งคำพูดออกมาจากปากว่า "จะไปตอนนี้แล้วหรือ?"หลินซวงเอ๋อร์ชะงักฝีเท้า หันกลับไปมองเขา พลางพยักหน้า "อืม พี่ใหญ่ไป๋ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือ?"ไป๋อวี้ถังกล่าว "ใช้เวลาในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ไปแบบนี้มันคงจะน่าเบื่อเกินไป แม่นางซวงเอ๋อร์อยากฟังงิ้วหรือไม่?"ตั้งแต่รู้ความปรารถนาของไป๋อวี้ถัง ตงเหมยย่อมรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ทว่ากระนั้น นางไม่มีทางให้โอกาสนี้แก่เขาตงเหมยยืนขวางอยู่ด้านหน้าหลินซวงเอ๋อร์ พลางกล่าวกับไป๋อวี้ถัง "ฟ้ามืดมากแล้ว หากพระชายายังไม่กลับจวนอีก ท่านอ๋องคงจะกังวลใจ"หางตาของไป๋อวี้ถังเต็มไปด้วยรอยหยักยิ้ม เขามองไปที่ตงเหมยทันที วาจาที่เอื้อนเอ่ยออกมามี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 509

หัวใจของตงเหมยเคิ่มเต้นบ้าคลั่งอย่างควบคุมไม่ได้ขึ้นมาอีกครั้งสมองของนางเริ่มงุนงงอีกครา…“ความจริง…อยู่อีกสักหน่อยก็ไม่มีปัญหาอะไร”นางกล่าวออกมาโดยไม่รู้ตัวหลินซวงเอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนกล่าวกับไป๋อวี้ถัง “พี่ใหญ่ไป๋ นี่ก็ดึกมากแล้ว ข้าต้องกลับแล้วจริงๆ หากสามีข้ากลับจวนแล้วไม่เจอข้า เขาจะเป็นห่วงเอาได้”เทศกาลไหว้พระจันทร์วันนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงผิดนัดไม่มา ที่จริงหลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้โกรธเลยสักนิด แม้ไม่รู้ว่าช่วงนี้เขายุ่งอะไรอยู่ แต่นางรู้ ที่เขาไม่มาต้องมีสาเหตุบางที เขาอาจจะยุ่งมากจริงๆ ยุ่งจนไม่กินไม่นอน ยุ่งจนลืมแม้แต่เทศกาลไหว้พระจันทร์ในวันนี้ดังนั้น เขาผิดนัด หลินซวงเอ๋อร์ไม่โทษเขา นางแค่เป็นห่วง ในวันเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้เขาจะได้พักผ่อนดีๆ บ้างหรือเปล่า ได้กินข้าวดีๆ หรือไม่…ที่นางรอเขาอยู่ที่นี่นานถึงเพียงนี้ นั่นเพราะกลัวว่าจู่ๆ เขานึกนัดหมายวันนี้ขึ้นมา หากนางจากไป และจู่ๆ เขามาตามนัดและหานางไม่เจอจะทำอย่างไร?ดังนั้น นางจึงรอมาตลอดจนถึงตอนนี้ รอจนร้านข้างทางปิด คนที่เดินขวักไข่วอยู่บนถนนกลับไปหมด แต่เขาก็ยังไม่มาหลินซวงเอ๋อร์คิดว่า เขาอาจจะมาแล้วจริงๆ 
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 510

“แม่นางซวงเอ๋อร์ชอบน้ำตาลปั้นอันนี้หรือไม่? ข้าเห็นว่าหงส์ตัวนี้สวย เหมาะกับแม่นางซวงเอ๋อร์พอดี”ไป๋อวี้ถังยื่นน้ำตาลปั้นให้กลินซวงเอ๋อร์ ในคำพูดเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้มโปรดปราน ทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกอบอุ่นในใจหลินซวงเอ๋อร์กลืนน้ำลาย ไม่กล้ายื่นมือออกไปรับ“แม่นางซวงเอ๋อร์ไม่ชอบหรือ?”ไป๋อวี้ถังถามนางด้วยความอดทนหลินซวงเอ๋อร์ซ่อนความรู้สึกไว้ไม่มิด ชอบหรือไม่ชอบล้วนเขียนเด่นหราอยู่บนใบหน้า ความคิดบริสุทธิ์จนคนมองแวบเดียวก็มองออกไป๋อวี้ถังรู้ว่านางชอบ แต่เขาไม่รู้ว่าเหตุใดนางถึงไม่กล้ารับหลินซวงเอ๋อร์ลังเลไปชั่วครู่หนึ่ง และกล่าวว่า “ชอบ”เสียงของไป๋อวี้ถังยิ่งอ่อนโยนเพิ่มขึ้น “ถ้าชอบก็รับไปเถิดหากยังไม่พอ พี่ใหญ่ไป๋จะซื้อให้แม่นางซวงเอ๋อร์อีก”หลินซวงเอ๋อร์เอามือไพล่หลัง ยังคงไม่กล้ายื่นมือไปรับ และคุยกับเขาอย่างนุ่มนิ่ม “แต่สามีข้าไม่ให้ข้ารับของจากคนอื่น”“คนอื่นหรือ?” ไป๋อวี้ถังตกใจก่อน จากนั้นก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ พลางกล่าวด้วยรอยยิ้มราบเรียบ “พี่ใหญ่ไป๋หาใช่คนนอกเสียหน่อย เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นสหายสนิทข้า ของที่ข้าซื้อ เจ้ารับไปได้”หลินซวงเอ๋อร์กล่าว “รับไม่ได้หรอก ท่านพ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
4950515253
...
63
DMCA.com Protection Status