Semua Bab รัชทายาทชะตาฟ้า: Bab 11 - Bab 20
220 Bab
บทที่ 11
“หานซิ่น? น่าสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วแฮะ!”ฉินอวิ๋นฟานยกมุมปากเล็กน้อย แสดงสีหน้าเหนือคาด หานซิ่นในโลกคู่ขนานกับหานซิ่นในประวัติศาสตร์คล้ายกันจนน่าทึ่ง แต่ไม่รู้ว่าหานซิ่นคนนี้จะต่างกับเทพนักรบหานซิ่นในประวัติศาสตร์มากหรือไม่แต่ในสมัยที่เกียรติสำคัญกว่าชีวิต คนที่รับความอัปยศใต้หว่างขาได้คงมีอยู่แค่คนเดียวแล้ว“เสี่ยวฟาน เจ้าสนใจคนผู้นี้หรือ?”อู่จ้านถามอย่างประหลาดใจเล็กน้อย“ยังไง ท่านรู้จักคนที่ชื่อหานซิ่นหรือ?”ฉินอวิ๋นฟานถาม“หานซิ่นผู้นี้ยากจนข้นแค้น เจอกับอุปสรรคทั้งชีวิต แต่เขามีจุดเด่นที่สุดคือชอบตำราทหาร เขาอดข้าวสามวันเพื่อเอาเงินมาซื้อตำราทหารได้ แล้วยังถึงขั้นว่าคลั่งไคล้เอามาก ๆ ด้วย”อู่จ้านกล่าวทันที “เพราะอย่างนี้คนผู้นี้จึงมีนิสัยอ่อนเปียก ทั้งยังรักการอ่านตำราทหาร ดังนั้นทุกคนจึงชอบรังแกเขา แต่เขามักยิ้มน้อย ๆ ตอบเสมอ วันนี้ที่ถูกคนขายเนื้อหาเรื่องก็คงเพราะผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ นั่นแหละ”“ไม่เลว ข้าชอบเขา!”ไม่ว่าจะเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือไม่ ฉินอวิ๋นฟานประทับใจต่อหานซิ่นมากด้วยความรู้สึก หานซิ่นในสมัยโบราณคือเทพนักรบแห่งยุคที่ฝังลึกอยู่ในใจคน แต่ที่น่า
Baca selengkapnya
บทที่ 12
คำพูดเดียวของฉินอวิ๋นฟานราวกับมีสายฟ้าฟาดผ่ากลางมวลชน!หลัวเหิงมองฉินอวิ๋นฟานด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เห็นเขาไม่เหมือนล้อเล่นจึงเอ่ยปากถาม “ค่ายทานหลางมีทหารทั้งหมดสามพันคน เบี้ยหวัดครึ่งปีไม่ใช่น้อย ๆ นะ”“ถึงท่านจะเป็นรัชทายาทก็คงไม่มีอำนาจก้าวก่ายกรมคลังให้จ่ายเบี้ยหวัดกระมัง? เพราะกรมคลังอยู่ในการดูแลขององค์ชายใหญ่กับองค์ชายรอง”“ไป ตามข้าเข้าวัง รับเบี้ยหวัด!”ฉินอวิ๋นฟานไม่พูดไร้สาระอีก ถ้าอยากดึงค่ายทานหลางเข้าพวกจะต้องแก้ไขปัญหาปากท้องของพวกเขาก่อน สำหรับเรื่องอื่น คงได้แต่รอให้จบเรื่องนี้แล้วค่อยว่ากัน“เอ่อ...”หลัวเหิงตะลึงงัน มองอู่จ้านแบบประหลาดใจเล็ก ๆ เพราะอู่จ้านไม่เพียงแต่เคยเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของเขา ยังเป็นคนที่เขาเชื่อที่สุดด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นอดีตหัวหน้าของเขา“ไป ไปเอาเบี้ยหวัด!”อู่จ้านตบบ่าของหลัวเหิง ทั้งสองตามไปเดี๋ยวนั้น!ไม่น่าพวกเขาก็มาถึงกรมคลัง สถานที่ดูเรื่องเงินของต้าเฉียน“เอ๋ นี่ไม่ใช่รัชทายาทฉินอวิ๋นฟานของต้าเฉียนเราหรือ? ลมอะไรหอบท่านมาได้เนี่ย?”พอเห็นพวกฉินอวิ๋นฟานมา ชายอ้วนตุ๊ต๊ะอายุสามสิบกว่าและมีไฝอยู่เหนือปากก็รีบมาต้อนรับ
Baca selengkapnya
บทที่ 13
“ยังไม่รีบขอบคุณรัชทายาทอีก!”อู่จ้านเห็นหลัวเหิงยังอึ้งอยู่จึงรีบเตือน“ขอบคุณพระคุณยิ่งใหญ่ของรัชทายาทมากขอรับ ข้าน้อยหลัวเหิงตัวแทนค่ายทานหลาง ขอสวามิภักดิ์แด่รัชทายาท จะจงรักภักดีจนตัวตาย!”ครั้นหลัวเหิงได้สติกลับคืนมาก็คุกเข่าลงทันที คำนับฉินอวิ๋นฟานแรง ๆ!ฉินอวิ๋นฟานประคองหลัวเหิงขึ้นมาและบอกว่า “คนที่ติดตามข้า ต่อไปก็คือพี่น้องบ้านเดียวกัน ขอเพียงข้าฉินอวิ๋นฟานยังมีหนึ่งเฮือกลมหายใจจะต้องไม่ให้เหล่าพี่น้องได้รับความอยุติธรรม ใครรังแกพวกเจ้าก็คือเป็นศัตรูกับข้าฉินอวิ๋นฟาน ข้าจะให้มันชดใช้อย่างแสนสาหัส”หลัวเหิงในเวลานี้ถูกมนต์เสน่ห์ของฉินอวิ๋นฟานสยบโดยสิ้นเชิงแล้ว เวลานี้เขาเข้าใจสักที นานหลายปีอย่างนี้แล้วทำไมอู่จ้านยังคงจงรักภักดีต่อรัชทายาทรัชทายาทเช่นนี้ คู่ควรให้เหล่าพี่น้องทุ่มเทเพื่อเขา!“หานซิ่นเป็นทหารอัจฉริยะที่ข้ารับมาใหม่ ตอนนี้ข้าจะให้เขาเป็นกุนซือ พวกเจ้าร่วมมือกันดี ๆ พยายามทำให้ค่ายทานหลางแข็งแกร่ง เตรียมตัวทำงานใหญ่”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย“น้อมรับคำสั่งรัชทายาท!”ตอนนี้หลัวเหิงเลื่อมใสฉินอวิ๋นฟานชนิดหมอบราบคาบแก้วแล้ว ย่อมทำตามคำสั่งเขาทุกอย่าง!“รัชทายาท..
Baca selengkapnya
บทที่ 14
“ฉินอวิ๋นฟาน เจ้า เจ้าปล่อยข้านะ!”เห็นฉินอวิ๋นฟานใช้อำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้แล้ว มู่หรงจิ่นก็ลนลาน สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบุรุษที่แผ่ออกมาจากตัวเขา มู่หรงจิ่นค่อนข้างขี้อาย ร่างกายอ่อนเปียกอยู่ในอ้อมอกของฉินอวิ๋นฟานแบบไม่รู้ตัว“ปล่อยเจ้าหรือ? เจ้าเห็นข้ายังเป็นไอ้โง่คนเมื่อก่อนที่เจ้าพูดอะไรก็ต้องเชื่อฟังหรือยังไง?”ฉินอวิ๋นฟานไม่สนใจ หันไปมองเสี่ยวจวี๋ที่ยังอึ้งอยู่ข้าง ๆ “ยังยืนทื่อทำอะไรอีก? รีบกลับตำหนักนอนสิ ข้าต้องการสนุกด้วยกัน!”ถึงเสี่ยวจวี๋จะไม่โดดเด่นเท่ามู่หรงจิ่น แต่ก็เป็นดรุณีวัยแรกแย้ม ผอมเพรียวสะโอดสะอง หน้าตาคมสัน เนื่องจากนางเกิดมาก็มีชะตาต้องรับใช้นาย แต่เล็กจนโตถูกกรอกความคิดที่ต้องทำตามเท่านั้นต่อหน้าฉินอวิ๋นฟาน ไม่ว่านางจะน้อยเนื้อต่ำใจอย่างไรก็ได้แต่อดทน เพราะผู้ชายตรงหน้าคือรัชทายาทผู้อยู่ใต้หนึ่งคนเหนือหมื่นคน แถมยังเป็นไปได้มากว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ลำดับต่อไปของต้าเฉียน นางที่เป็นสาวใช้เช่นนี้ได้แต่ทำตามคำสั่งเท่านั้น“หา อ้อ!”เสี่ยวจวี๋ตระหนักได้แล้วว่าถัดจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ในฐานะที่เป็นสาวใช้ นางไม่มีสิทธิ์เลือก รัชทายาทแข็งกร้าว นางได้แต่ยอมปรนนิบัต
Baca selengkapnya
บทที่ 15
นัดหมายสามวันพริบตาเดียวก็มาถึง เรื่องเกี่ยวพันถึงตัวเลือกผู้จะได้เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ของต้าเฉียน และคล้ายเกี่ยวข้องกับชะตาชีวิตของทุกคน บรรดาขุนนางใหญ่ทั้งหมดในต้าเฉียนมาชุมนุมกันอยู่ที่ตำหนักว่านฉงแต่เช้าแล้วไท่เว่ยจางเต้าหลินที่พักครึ่งปีเต็ม ๆ ก็ปรากฏตัวอยู่ในราชสำนักแบบมหัศจรรย์ด้วย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของประลองคราวนี้ในใจทุกคนเมื่อฉินอวิ๋นฟานย่างเท้าเข้าตำหนักใหญ่ก็ถูกภาพเบื้องหน้าทำให้ตกตะลึงพรึงเพริด เสายักษ์สูงชะลูดแปดต้นอลังการอย่างยิ่ง บนนั้นแกะสลักมังกรสีทองคำตัวมหึมาที่ราวกับมีชีวิตแปดตัว สง่างามน่าเกรงขาม ให้คนรู้สึกเหมือนมีความกดดันจากทวยเทพอย่างยิ่งตำหนักใหญ่มาก บรรจุได้สามร้อยกว่าคน ภาพแกะสลักวิจิตรทองอร่ามอยู่ถ้วนทั่ว หรูหราปานวิมานเซียน!ครั้นดึงสติกลับมา ฉินอวิ๋นฟานกวาดสายตามองรอบหนึ่ง ตรงกลางตำหนักใหญ่มีขุนนางใหญ่สำคัญยืนอยู่สองฟากฝั่งร้อยกว่าคน เช่นเดียวกัน ทุกสายตาต่างจับจดอยู่ที่ตัวของเขาด้วย“อ้าว นี่น้องเจ็ดไม่ใช่หรือ? หลายปีขนาดนี้ ในที่สุดเจ้าก็หวนคืนราชสำนักเป็นปกติสักที ไม่รู้ว่าวันนี้เจ้าจะนำการแสดงตลกอะไรมาให้พวกเราสิน่า? ชวนให้คนอยากรู้จริง ๆ
Baca selengkapnya
บทที่ 16
เห็นเพียงสตรีนางหนึ่งในชุดกระโปรงผ้าไหมสีแดงสดสะดุดตา คอเสื้อต่ำมาก หน้าอกอวบอั๋นอุดมสมบูรณ์โดดเด่นที่สุด เนื่องจากสวมเครื่องประดับเงินอยู่ตรงคอหลายเส้น จึงทำให้ร่องลึกวับ ๆ แวม ๆ ชวนให้คนมองจนหลงใหลนางสวมผ้าปิดหน้าสีขาวผืนบาง คิ้วโก่งดังใบหลิว ดวงตาที่มีเสน่ห์ยิ่งกว่าดอกท้อล่อลวงหัวใจคนอย่างยิ่ง ผิวพรรณขาวสะอาดเนียนนุ่มปานหิมะ แบ่งผมดำเกล้าสูงทรงหญิงงาม สวมกวานหงส์และผ้าคลุมไหล่ โดดเด่นชวนมอง งามวิไลพาลให้ใจคนหวั่นเหมือนเซียนบนสรวงสวรรค์ลงมาจุติ!ตลอดทางที่ผ่าน กลิ่นหอมขจรขจาย สายตาเฒ่าหัวงูมิอาจเคลื่อนออกจากร่างฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวได้เลย บางคนยังถึงขึ้นน้ำลายไหลแบบไม่รู้ตัว“สุดยอดดังคาด!”ทันทีที่ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวปรากฏ ฉินอวิ๋นฟานก็ถูกบรรยากาศน่าทึ่งรอบตัว รูปร่างสมบูรณ์แบบและการแต่งหน้าประณีตของนางดึงดูดอย่างหนักเหมือนกัน เป็นตัวตนที่ไม่ว่าจะอยู่งานไหนก็งามหยาดเยิ้มสะกดข่มมวลชนหากเทียบกับความงามของมู่หรงจิ่น ความงามของฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวกลับพกพาความเย็นชา หยิ่งและอำนาจมาด้วย มีความเป็นผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์ยั่วยวนแผ่ออกมาจากตัว คุณลักษณะสมบูรณ์แบบเช่นนี้รวมอยู่ในตัวฮ่อ
Baca selengkapnya
บทที่ 17
ครั้นฉินอวิ๋นฟานพูดออกมาก็ราวกับมีสายฟ้าฟาดผ่ากลางตำหนักใหญ่ ชักนำความไม่พอใจของเหล่าขุนนางใหญ่!“รัชทายาท ที่นี่คือราชสำนัก ไม่ใช่สถานที่ที่ท่านจะกำแหงได้ กรุณาระวังคำพูดของท่านด้วย ท่านไม่อยากรักษาหน้า แต่พวกเราแก่ ๆ นี่ยังต้องการอยู่”“นั่นสิ รัชทายาท พวกเราชมท่วงทำนองแห่งยุคของฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวมีอะไรไม่เหมาะสมหรือ? อีกอย่าง พวกเราก็ไม่ได้ล่วงเกินท่านกระมัง เหตุใดต้องลบหลู่พวกเราด้วย?”“ต่อให้ท่านเป็นรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินแต่จะกำเริบเสิบสานไม่ได้กระมัง? ไท่ซั่งหวงยังประทับอยู่เบื้องบน ท่านเพิ่งกลับมาเป็นปกติก็จะเป็นศัตรูกับทุกคน จะกำแหงไปแล้วกระมัง?”......เมื่อเผชิญหน้ากับท่าทียโสและแววตาที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาและของฉินอวิ๋นฟาน ก็ทำเอาบรรดาขุนนางเดือดดาลด้วยจะผดุงคุณธรรม ไฟโทสะเต็มทรวง ใบหน้าชราอับอายจนแดงก่ำวันนี้เป็นวันสำคัญยิ่งของราชวงศ์ต้าเฉียน ชะตาของทุกคนขึ้นอยู่กับวันนี้เจ้าก็แค่รัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินหัวเดียวกระเทียมลีบ จะอยู่รอดเดินออกจากตำหนักนี้หรือไม่ยังอีกเรื่อง กลับกล้าโอหังเช่นนี้ มาถึงก็ล่วงเกินทุกคนในที่นี้รนหาที่ตายชัด ๆ!“น้องเจ็ด ฮ่อง
Baca selengkapnya
บทที่ 18
“รนหาที่ตายหรือ?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงเย็น “ถึงตอนนั้นท่านก็รู้เองนั่นแหละ!”ในยุคปัจจุบัน เขาเป็นพวกเด็กเรียนดีสุดขั้ว มีคุณลักษณะทางร่างกายที่แกร่งมาก ดังนั้นจึงเลือกโรงเรียนทหาร และใช้คะแนนยอดเยี่ยมเป็นอันดับหนึ่งของรุ่นจัดการให้เข้าหน่วยความปลอดภัยระดับสูงสุดของชาติแบบลับ ๆ ด้วย!อย่าว่าแต่สมัยโบราณเลย แต่ให้เป็นสมัยปัจจุบันก็อยู่เหนือคนร้อยละเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้า แค่ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำนิดหน่อยก็ต่อกรกับพวกใช้แรงงานในสมัยโบราณแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงของผลิตปืนสั้นเรียบร้อย ต่อกรกับพวกเขาแทบเป็นการลดมิติการต่อสู้เหมียวชิงอีขมวดคิ้วเอ่ย “รัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินของต้าเฉียนฉินอวิ๋นฟานหรือ?”ในความทรงจำของนาง รัชทายาทต้าเฉียนเป็นคนโง่งมที่ชื่อว่าฉินอวิ๋นฟาน ปราศจากความรู้สึกมีตัวตนคิดไม่ถึงว่าเจอหน้าครั้งแรก ฉินอวิ๋นฟานไม่เพียงแต่ไม่เหมือนโง่งม ยังจะแข็งกร้าวเช่นนี้ และบนตัวยังมีกลิ่นอายเผด็จการของราชันแผ่ออกมาด้วย!“ถูกต้อง ข้าก็คือฉินอวิ๋นฟาน!”ฉินอวิ๋นฟานยืนเอามือไพล่หลังเหมียวชิงอีมองประเมินฉินอวิ๋นฟานรอบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดว่า “ในเมื่อรัชทายาทอดรนทนไม่ไหวแล้ว เ
Baca selengkapnya
บทที่ 19
“แม่ของเจ้าเป็นแค่สาวใช้ข้างห้องข้างตัวแม่เจ้ารองเท่านั้น นางได้รับการแต่งตั้งเป็นสนมถือว่าอดีตฮ่องเต้ทรงพระเมตตามากแล้ว จนถึงตอนนี้เจ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไรอีกหรือ?”“ในหมู่องค์ชาย ฐานะของเจ้าต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่สุด ถ้าข้าอารมณ์ดีก็เรียกเจ้าว่าน้องแปด แต่ถ้าไม่ เจ้าก็เป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งข้างเจ้ารอง เจ้าคุยใหญ่คุยโตหน้าด้าน ๆ ในราชสำนักได้ตั้งแต่เมื่อไร?”การประลองเพิ่งเริ่ม องค์ชายใหญ่ก็เข้าโหมดต่อสู้แล้ว ต่อหน้าองค์ชายแปดฉินอวิ๋นเซินผู้มีฐานะต้อยต่ำ เขาใช้ถ้อยคำเสียดแทงที่สุด พูดแทงใจดำองค์ชายแปดตรง ๆ“ท่าน ท่าน...”องค์ชายแปดโกรธจนหน้าเขียวปัด เขาในวัยเพียงสิบแปดเคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้ที่ไหน เจอกับความใจดำและการหยามเหยียดลบหลู่ของพี่ใหญ่ ทำให้เขาอับอายจนเกิดเป็นโทสะ“น้องแปด!”องค์ชายรองหน้าตึงตบบ่าของฉินอวิ๋นเซิน ก่อนจะพูดปลอบว่า “เจ้าไม่ใช่คู่ปรับของเขา ถอยไปก่อน”“พี่ใหญ่พูดเกินไปแล้ว ถึงมารดาของน้องแปดจะมีฐานะต่ำต้อย หากเป็นโอรสแท้ ๆ ของเสด็จพ่อ ท่านกลับเปรียบเทียบเขากับสุนัข ขอถาม ท่านที่เป็นองค์ชายเหมือนกันดีไปกว่าสุนัขหรือ?”“ย่อมเป็นเช่นนั้น!”องค์ชายใหญ่ต
Baca selengkapnya
บทที่ 20
ฉินอวิ๋นฟานสองมือกอดอก มองการต่อสู้เข้มข้นระหว่างทั้งสองเงียบ ๆ และมองตรงฉากบังลมในตำหนักใหญ่เป็นระยะเมื่อก่อนเขาเห็นการต่อสู้ในราชสำนักจากหนังสือประวัติศาสตร์และละคร ตอนนี้ได้ประสบกับตัวเอง ทั้งยังไม่เข้าร่วมซะด้วย ได้อรรถรสอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ“เพื่อไม่ให้ทุกท่านเสียเวลา ข้าจะเริ่มแต่งกลอนคู่ก่อนแล้วกัน ถ้าใครสามารถต่อให้จบได้ ก็ถือว่าข้าเหลียงคังจวิ้นแพ้ แต่ถ้าต่อไม่ได้ ก็ถือว่าข้าชนะ ไม่ทราบทุกท่านเห็นว่าอย่างไร?”เหลียงคังจวิ้นเดินไปอยู่ตรงกลางตำหนักเลย เปิดฉากการประลองด้านบุ๋นรอบแรก ท้าทายผู้เข้าร่วมแข่งขันโดยตรง!ซ่า...ครั้นสิ้นเสียง สถานที่แห่งนั้นก็อึกทึกครึกโครม เหลียงคังจวิ้นที่ขับกลอนกับผู้คนบ่อย ๆ ไม่เพียงแต่ข่มทับเหล่ายอดฝีมือ ทั้งยังเอาชนะด้วยคะแนนขาดลอย ชื่อเสียงระบือไกล กลอนที่เขาแต่งหากไม่ใช่ผลงานโดดเด่นน่าทึ่งถึงที่สุด ก็เรียกได้ว่าเป็นความยากระดับนรกการที่คนสามารถแต่งกลอนต่อจากเขาได้จะเพียงพอพิสูจน์ภูมิลึกซึ้งและรากฐานหยั่งลึกของเขา น่าเสียดาย ด้านการแต่งกลอนนี้ แทบไม่มีผู้ใดต่อกลอนจากเหลียงคังจวิ้นได้เลย! “นี่เจ้าพูดเองนะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะขอคำชี้แน
Baca selengkapnya
Sebelumnya
123456
...
22
DMCA.com Protection Status