All Chapters of โคตรคนยอดปรมาจารย์: Chapter 431 - Chapter 440

590 Chapters

บทที่ 431

ถึงแม้ประตูห้องนี้จะปิดสนิท แต่เย่ซิวกลับได้กลิ่นหอมประหลาดลอยออกมา“นี่มัน…” รูม่านตาของเขาหดตัวเล็กน้อย “ต้นโพธิ์ชาดวัชระ!”นี่คือพืชที่พิเศษมากชนิดหนึ่งกลิ่นที่โชยออกมาคล้ายกลิ่นเลือด ผสมกลิ่นกุหลาบ และกลิ่นไหม้ปะปนกันเย่ซิวเคยเห็นมันถูกบันทึกอยู่ในตำราโบราณด้วยเพราะมันพิเศษมาก เขาจึงจดจำได้อย่างลึกซึ้งความพิเศษของมันมีอยู่ด้วยกันสองประการประการแรกคือ เมื่อใช้ต้นโพธิ์ชาดวัชระขณะโตเต็มวัย จะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งราวกับวัชระ[footnoteRef:0]ได้ [0: วัชระในที่นี้แปลว่าเพชร ในนิกายมหายาน และนิกายวัชรยาน(นิกายตันตระ) วัชระเป็นอาวุธของพระโพธิ์สัตว์] การเป็นร่างวัชระอย่างแท้จริง ร่างกายฟันแทงไม่เข้า ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ เลือดสดจะส่งกลิ่นหอมประหลาด และเมื่อตายแล้ว ภายในร้อยปีเนื้อหนังจะไม่เน่าเปื่อยความพิเศษอีกประการหนึ่งคือ มันเป็นพืชที่หาได้ยากมากและแม้ว่าจะหาพบ แต่ก็ต้องการหญิงสาวที่มีร่างกายพิเศษรดเลือดให้มันทุกวันหญิงสาวที่มีร่างกายพิเศษนี้ ในบันทึกเรียกว่า 'ร่างพระโพธิสัตว์' “นี่เราโชคดีขนาดนี้เลยเหรอ?” เย่ซิวพึมพำในใจเมื่อคิดเช่นนั้น เขาจึงเปิดประ
Read more

บทที่ 432

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอขับรถมาถึงจุดหมายเย่ซิวนำเด็กสาวและต้นโพธิ์ชาดวัชระวางลงในรถของเธอ แล้วกำชับว่า "พาเธอที่บ้านของคุณก่อน และเก็บต้นไม้นี้ไว้ให้ดีด้วย ผมยังมีเรื่องต้องจัดการ แล้วเดี๋ยวไปหาคุณทีหลังนะ"น่าหลันเยียนหรานพยักหน้า "โอเค ฉันเข้าใจแล้วค่ะ"หลังจากมองน่าหลันเยียนหรานขับออกไปแล้ว เย่ซิวเดินไปยังบ้านของหลิวหั่วอย่างเงียบ ๆ กลุ่มมหาเศรษฐีทั้งหกอาศัยอยู่ไม่ไกลกันนัก และทั้งหมดล้วนอยู่ในทำเลใจกลางเมืองหลวงก้อนอิฐในวิลล่าของพวกเขาเพียงก้อนเดียวเทียบเท่าเงินเดือนสิบปีของคนธรรมดาแล้วเย่ซิวเดินไปอย่างไม่รีบร้อนเมื่อใกล้จุดหมายปลายทาง เวลานั้นกำลังภายในของเขาก็เกือบฟื้นตัวเต็มที่แล้วร่างของเย่ซิวค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เย่ซิวก็ออกมาจากบ้านหลังนั้น พร้อมกับที่ปรมาจารย์เจ็ดคนสิ้นชีพไปแต่ก็เช่นเคย เขาไม่เห็นแม้แต่เงาของหลิวหั่วรอจนถึงตีสี่กว่า เหล่าปรมาจารย์ของตระกูลมหาเศรษฐีทั้งหกก็แทบจะถูกสังหารจนหมดแล้วถึงจะมีบางคนหลุดรอดไปได้ แต่ก็ไม่สามารถสร้างปัญหาใหญ่โตต่อเย่ซิวได้ส่วนการที่พวกเขาจะรวบรวมยอดฝีมือระดับปรมาจารย์มาใหม่ ก็ไม่ง่ายขนาดนั้น
Read more

บทที่ 433

ฉีตังกั๋ว หานเฟิง หลี่เว่ยกั๋ว เฉินซาน หยางคุน หลิวหั่ว มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลทั้งหกคน วิดีโอคอลเรียกประชุมฉุกเฉินอีกครั้งคราวนี้พวกเขาทั้งหกคนสีหน้าเคร่งเครียด และในขณะเดียวกันก็มีความหวาดกลัวเล็กน้อยหานเฟิงพูดเป็นคนแรก"ผมสงสัยว่ามีปรมาจารย์ระดับเก้าที่เชี่ยวชาญด้านการลอบสังหารอยู่เบื้องหลังเย่ซิว!"เฉินซานพูดอย่างโศกเศร้า "น่าจะมีมากกว่าหนึ่งคน ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางที่จะสังหารปรมาจารย์ของเราไปมากขนาดนี้โดยไร้ซุ่มเสียง ช่างน่าตกใจจริง ๆ!"พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาตื่นตระหนกแค่ไหนเมื่อได้รู้ข่าวนี้ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขารอบคอบ ไม่ยอมปรากฏตัวง่าย ๆ เมื่อคืนนี้ต้องถูกตัดศีรษะขณะนอนหลับอย่างแน่นอนฉีตังกั๋วสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า "การใช้กําลังจัดการกับเขาไม่น่าเป็นไปได้แล้ว ส่วนการจับคนรอบข้างเขามาข่มขู่... เราไม่ค่อยรู้เรื่องเขามากนัก ถ้าเขาเป็นคนเลือดเย็นและไร้ศีลธรรม ผลที่ได้ก็อาจจะย้อนกลับมาทำร้ายเราเสียเอง”หลิวหั่วพูดอย่างเคร่งขรึม "ผมมีแผน"ดวงตาของคนอื่น ๆ เป็นประกาย เร่งเร้าให้เขารีบบอก“คุณฉี คุณมีหลานสาวสุดสวยอยู่ที่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ?”“เรียกให้เธอกลับมา แ
Read more

บทที่ 434

มีรอยยิ้มอ่อน ๆ บนใบหน้าของเหวินฮ่าว แต่แรงในมือกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทว่า สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ หนุ่มหน้าละอ่อนตรงหน้าเขาดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลยมันเป็นไปได้อย่างไร?!เย่ซิวแอบขำเบา ๆ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าประลองกำลังกับเขาด้วยสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ที่มีพลังมากกว่าเขา คงจะเป็นช้างโตเต็มวัยเท่านั้นเขามองเหวินฮ่าวเหมือนแมวที่กำลังเล่นกับหนู จากนั้นก็เพิ่มแรงในมือเพียงเล็กน้อยไม่นานใบหน้าของเหวินฮ่าวก็เริ่มบิดเบี้ยว อ้าปากหวอ รู้สึกว่ามือของตนเองกำลังจะหัก"พวกเธอมัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น มาทานข้าวกันเถอะ"เมื่อได้ยินคุณย่าของหลินซวงตะโกนเรียก เย่ซิวจึงปล่อยมือเหวินฮ่าวพยายามเก็บอาการอย่างสุดความสามารถ สีหน้าของเขาช่างน่าตลกสิ้นดีริมฝีปากของหลินซวงโค้งขึ้นเมื่อเธอสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างเธอดึงกระเป๋าเป้ของเย่ซิวลงแล้วพูดเบา ๆ “ฉันช่วยเอากระเป๋าไปวางไว้ในห้องของฉันนะ”มุมปากของเหวินฮ่าวกระตุก ความหึงหวงทวีขึ้น รู้สึกอิจฉาตาร้อนเย่ซิวเดินไปที่โต๊ะอาหารตามลำพัง โดยไม่ได้มองเหวินฮ่าวอีกเลยหลินซู่โน้มตัวไปกระซิบเหวินฮ่าว "อย่าไปหลงกลน้องสาวฉันนะ เธอแค่เล่นละครน่ะ ดูทร
Read more

บทที่ 435

หลินซวงหันไปมองเย่ซิวด้วยสายตาอันอ่อนโยนราวสายน้ำอีกครั้ง เธอเปลี่ยนสีหน้าเป็นอ่อนโยนทันที "คุณเลยอย่าใส่ใจ คุณย่าของฉันไม่ใช่พวกวัตถุนิยม แค่คุณมาเธอก็ดีใจมากแล้ว"คุณย่าของหลินซวงยิ้มพร้อมคีบน่องไก่ให้เย่ซิว "ใช่แล้วล่ะ ฉันมีความสุขมากที่เธอมาที่นี่ ไม่ต้องรู้สึกหนักใจหรอกนะ"เมื่อเห็นเธอต้อนรับเย่ซิวอย่างอบอุ่นมากขนาดนี้ เหวินฮ่าวก็รู้สึกแย่นิดหน่อย เขาแอบส่งสายตาให้หลินซู่อย่างลับ ๆ ต้องรู้ไว้ว่า เพื่อจีบหลินซวงเขาจ่ายเงินก้อนโตแก่ชายไม่เอาไหนคนนี้ไปแล้ว!หลินซู่กลอกตาแล้วพูดว่า "คุณย่าพูดแบบนี้ไม่ถูกนะครับ ไม่สำคัญว่าของขวัญจะแพงแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็ต้องมี”“เหวินฮ่าวตั้งใจมาก เขาใช้เวลาหลายวันในการเลือกหยกชิ้นงามนี้ให้กับคุณย่า นั่นแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของเขา”“แต่ในทางกลับกัน ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มอบอะไรให้เลย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใส่ใจคุณย่ากับหลินซวงแม้แต่น้อย”เหวินฮ่าวกดถูกใจให้หลินซู่ในใจหลินซวงกัดฟันแน่น โกรธจนแทบอยากจะเอามีดมาเชือดลูกพี่ลูกน้องของเธอให้รู้แล้วรู้รอดเธอรีบหันไปมองเย่ซิว พร้อมส่งสายตาขอโทษให้เขาเย่ซิวไม่ใช่แฟนตัวจริงของเธอ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกซาบซ
Read more

บทที่ 436

เหวินห่าวมองด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม ราวกับว่าโอกาสชนะอยู่ในกำมือของเขาแล้วเขาไม่คิดว่าเย่ซิวจะมีความสามารถที่จะซื้อสร้อยข้อมือในราคาหลายร้อยล้านได้เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตั้งแต่หัวจรดเท้า เย่ซิวไม่สิ่งใดที่คนรวยควรมีเลยสักอย่างเขาแค่คิดว่าเย่ซิวจะต้องใช้วิธีสกปรกบางอย่างอย่างลับ ๆ แน่ ๆ ถึงได้ทำให้หลินซวงชอบเขาได้เขาคิดในใจว่า อีกเดียวเขาจะทำให้เย่ซิวขายหน้าอย่างแรงได้แน่นอนหลินซู่ก็ไม่คิดว่าเย่ซิวจะมีความสามารถเช่นกัน เขาคิดว่าเย่ซิวกำลังพูดคุยโวโอ้อวดก็เท่านั้นคุณย่าของหลินซวงเปิดกล่องด้วยรอยยิ้มเบิกบานทันทีที่เปิดกล่องออก กลิ่นหอมตามธรรมชาติของไม้กฤษณาก็ลอยฟุ้งกระจายออกมากลิ่นนั้นทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานใจภายในกล่องมีสร้อยข้อมือลูกปัดทรงกลมสีเข้มสนิทหนึ่งเส้นแม้แต่คนที่ไม่รู้จักสิ่งนี้ก็สามารถบอกได้ว่าสร้อยข้อมือลูกปัดเส้นนี้มีความพิเศษคุณย่าของหลินซวงกลั้นหายใจ ในขณะหยิบขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แล้วลูบมันอย่างพินิจ ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมใจนั้นยากเกินจะปิดบังได้“ยากนักที่จะได้พบสร้อยข้อมือคุณภาพสูงอย่างนี้ เสี่ยวเย่ สร้อยข้อมือเส้นนี้ราคามากกว่าสอ
Read more

บทที่ 437

“ได้ได้ได้ ฉันจะจำความแค้นนี้ไว้!”เหวินห่าวแทบจะกัดฟันพูดถ้อยคำนี้ แล้วค่อย ๆ หมอบลง ใช้ทั้งมือและเท้าคลานออกไปอย่างรวดเร็วที่สุด“น้องเขย ผมขอดื่มให้คุณสักเธอ้ว ตั้งแต่เห็นคุณครั้งแรก ผมก็รู้เลยว่าคุณเป็นคนไม่ธรรมดา แล้วผมก็มองคนไม่ผิดจริง ๆ ด้วย”เมื่อเผชิญหน้ากับเธอ้วเหล้าที่หลินซู่ยื่นมา เย่ซิวพูดอย่างเฉยเมยว่า "คุณก็ออกไปด้วย"รอยยิ้มบนใบหน้าหลินซู่ชะงัก เขาอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้แต่เมื่อเห็นแววตาที่ลึกล้ำของเย่ซิว เขาก็เลือกที่จะหุบปากอย่างชาญฉลาดเขาหัวเราะแห้ง ๆ "เอ่อคือว่าผมมีธุระจะต้องสะสาง ขอตัวก่อนนะครับ ทานข้าวให้อร่อยนะครับ"เมื่อเดินไปที่ประตู จู่ ๆ หลินซวงก็พูดขึ้นว่า "ต่อไปนี้พี่ไม่ต้องไปที่บริษัทอีก"น้ำเสียงของเธอฟังดูไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้งใด ๆหลินซู่ร้อนรนทันที เขามองไปทางคุณย่าราวกับกำลังขอความช่วยเหลือแต่คุณย่าเพิกเฉยต่อเขาโดยสิ้นเชิงหลินซู่เสียใจอย่างมาก แต่ตอนนี้ถึงเขาจะเสียใจแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์แล้วหากจะโทษก็ต้องโทษตัวเองที่มีตาหามีแววไม่ จนทำลายอนาคตอันสดใสของตัวเองจนป่นปี้หลังจากที่แมลงวันน่ารำคาญสองตัวจากไป ทั้งสามก็ทานอาหารอย่างมีความสุ
Read more

บทที่ 438

แม้ว่าหลินซวงจะกระโจนเข้าไปเร็วมากก็ตาม แต่เย่ซิวก็เห็นแล้วว่ามันคืออะไรชุดสีดำสุดเซ็กซี่ ดีไซน์โดดเด่นมาก...เย่ซิวไม่คาดคิดเลยว่าหลินซวง ซึ่งปกติดูเป็นคนจริงจัง จะซื้ออะไรแบบนี้...เขาแทบอดไม่ได้ที่จะใช้ดวงตาที่มีญาณทิพย์ของเขาดูว่าตอนนี้เธอสวมชุดแบบเดียวกันนี้หรือไม่หลินซวงหน้าแดงก่ำจนเลือดแทบจะหยดออกมาแล้ว เธอรีบซ่อนของสิ่งนั้นไว้ด้านหลัง แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำราวกับกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างเย่ซิวหัวเราะอย่างอดไม่ได้ และแน่นอนว่าเขาไม่คิดจะซักไซ้ไล่ถามอะไรแต่อย่างใดเขาหยิบผ้าห่มบาง ๆ ขึ้นมาจากเตียง ปูลงบนพื้นแล้วนอนลงนอนดีกว่า จะได้เลี่ยงความกระอักกระอ่วนเมื่อเธอออกมาหลินซวงอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลาสองชั่วโมง เธอขัดตัวจนผิวแทบจะถลอกถึงได้ออกมาฉากเมื่อกี้มันน่าอับอายมากจริง ๆ ความประทับใจที่เย่ซิวมีต่อเธอคงจะหมดลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้วแน่ ๆ เธออยากจะตบตัวเองสักสองที ทำไมเธอถึงได้ประมาทอย่างนี้นะ?เธอค่อย ๆ ชะโงกศีรษะออกมา แล้วมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวังจากนั้นเธอก็เห็นเย่ซิวนอนอยู่บนพื้นเธอเดินไปหาเย่ซิวอย่างเงียบ ๆ แล้วกระซิบเบา ๆ ว่า "คุณเย่ คุณหลับแล้วหรือยัง?
Read more

บทที่ 439

ตอนเช้าเวลาหกโมงครึ่ง เย่ซิวตื่นขึ้นอย่างตรงเวลาแต่ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น ก็เห็นหลินซวงนอนพาดอยู่บนตัวเขาด้วยท่าทางที่ตลกมาก‘คุณผู้หญิง คุณกำลังเล่นกับไฟอยู่นะ’ เย่ซิวกับตัวเองพูดอย่างลับ ๆ เขาอยากจะลุกขึ้น แต่หลินซวงเกาะเขาไว้เหมือนกับปลาหมึกยักษ์ ถ้าเขาใช้แรงมากเกินไป คงจะทำให้เธอตื่นอย่างแน่นอนเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะต้องทำตัวไม่ถูกแน่ช่างเถอะเย่ซิวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหลับตาอีกครั้ง แล้วบ่มเพาะตนอย่างเงียบ ๆ พอถึงเวลาเจ็ดโมงครึ่ง หลินซวงก็ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา เธอรู้สึกว่าเธอนอนหลับสบายมาก ร่างกายของเธอเหมือนกำลังพิงเตาไฟ ซึ่งอบอุ่นมากวินาทีต่อมา เธอเกือบจะกรีดร้องออกมา รีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว หัวใจร้อนรนกระวนกระวาย‘เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไป?’เธอค่อย ๆ ถอนตัวออกจากร่างกายของเย่ซิว แล้วเดินกลับไปนอนที่เตียงเธอเอาผ้าห่มปิดหน้า ความรู้สึกสับสนแปรปรวนหลังจากนั้นไม่นานเธอก็โผล่หัวออกมา แล้วมองดูเย่ซิวที่อยู่บนพื้น ก่อนจะร้องเรียกเขาสองสามครั้ง“คุณเย่ คุณตื่นหรือยัง?”เรียกอยู่สี่ห้าครั้ง เย่ซิวถึง ‘ตื่น’เมื่อลืมตาขึ้น เขาก็ยิ้มให้หลินซวงและพูดว่า "อรุณสวัสดิ์"
Read more

บทที่ 440

อัตราการผลิตครีมผิวหยกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหนึ่งเดือนหลังจากที่เย่ซิวกลับมาจากหวู่เฉิง สายการผลิตห้าสิบสายก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ในสวนสมุนไพรมีการปลูกเพิ่มอีกห้าแปลงด้วยการสนับสนุนด้วยปุ๋ยน้ำ อัตราการเจริญเติบโตและคุณสมบัติทางยาของสมุนไพรจึงเป็นที่น่าพอใจมากปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นห้าล้านกล่องต่อวัน แต่ยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการมีบริษัทจำนวนมากที่เอาครีมผิวหยกไปทดสอบ ทำการวิเคราะห์และพยายามลอกเลียนแบบสิ่งที่ประเทศหลงเถิงทำได้ดีที่สุดก็คือการลอกเลียนแบบมีบริษัทที่เกือบจะเลียนแบบได้สำเร็จแล้วบังเอิญว่าเย่ซิวได้เปิดตัวครีมผิวหยกเวอร์ชันอัพเกรดในเวลานี้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ในราคาเท่าเดิมสิ่งนี้ขัดขวางแผนการของบริษัทที่พยายามลอกเลียนแบบครีมผิวหยกเหล่านั้นทันทีเมื่อพวกเขาวิเคราะห์ส่วนผสมของครีมผิวหยกเวอร์ชันอัพเกรดและพยายามลอกเลียนแบบ พวกเขาก็พบว่าไม่สามารถเลียนแบบได้อย่างสมบูรณ์ และมีความต่างกันไม่น้อยยังมีบริษัทที่ต้องการเปิดตัวครีมเกรดต่ำลงมาหน่อย ลดราคาลงเล็กน้อย และหมายจะยึดตลาดให้ได้แต่เย่ซิวได้จัดตั้งแผนกหนึ่งขึ้นมาเพื่อคอยสังเกตตลาดเป็
Read more
PREV
1
...
4243444546
...
59
DMCA.com Protection Status