แม้ว่าหลินซวงจะกระโจนเข้าไปเร็วมากก็ตาม แต่เย่ซิวก็เห็นแล้วว่ามันคืออะไรชุดสีดำสุดเซ็กซี่ ดีไซน์โดดเด่นมาก...เย่ซิวไม่คาดคิดเลยว่าหลินซวง ซึ่งปกติดูเป็นคนจริงจัง จะซื้ออะไรแบบนี้...เขาแทบอดไม่ได้ที่จะใช้ดวงตาที่มีญาณทิพย์ของเขาดูว่าตอนนี้เธอสวมชุดแบบเดียวกันนี้หรือไม่หลินซวงหน้าแดงก่ำจนเลือดแทบจะหยดออกมาแล้ว เธอรีบซ่อนของสิ่งนั้นไว้ด้านหลัง แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำราวกับกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างเย่ซิวหัวเราะอย่างอดไม่ได้ และแน่นอนว่าเขาไม่คิดจะซักไซ้ไล่ถามอะไรแต่อย่างใดเขาหยิบผ้าห่มบาง ๆ ขึ้นมาจากเตียง ปูลงบนพื้นแล้วนอนลงนอนดีกว่า จะได้เลี่ยงความกระอักกระอ่วนเมื่อเธอออกมาหลินซวงอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลาสองชั่วโมง เธอขัดตัวจนผิวแทบจะถลอกถึงได้ออกมาฉากเมื่อกี้มันน่าอับอายมากจริง ๆ ความประทับใจที่เย่ซิวมีต่อเธอคงจะหมดลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้วแน่ ๆ เธออยากจะตบตัวเองสักสองที ทำไมเธอถึงได้ประมาทอย่างนี้นะ?เธอค่อย ๆ ชะโงกศีรษะออกมา แล้วมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวังจากนั้นเธอก็เห็นเย่ซิวนอนอยู่บนพื้นเธอเดินไปหาเย่ซิวอย่างเงียบ ๆ แล้วกระซิบเบา ๆ ว่า "คุณเย่ คุณหลับแล้วหรือยัง?
ตอนเช้าเวลาหกโมงครึ่ง เย่ซิวตื่นขึ้นอย่างตรงเวลาแต่ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น ก็เห็นหลินซวงนอนพาดอยู่บนตัวเขาด้วยท่าทางที่ตลกมาก‘คุณผู้หญิง คุณกำลังเล่นกับไฟอยู่นะ’ เย่ซิวกับตัวเองพูดอย่างลับ ๆ เขาอยากจะลุกขึ้น แต่หลินซวงเกาะเขาไว้เหมือนกับปลาหมึกยักษ์ ถ้าเขาใช้แรงมากเกินไป คงจะทำให้เธอตื่นอย่างแน่นอนเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะต้องทำตัวไม่ถูกแน่ช่างเถอะเย่ซิวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหลับตาอีกครั้ง แล้วบ่มเพาะตนอย่างเงียบ ๆ พอถึงเวลาเจ็ดโมงครึ่ง หลินซวงก็ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา เธอรู้สึกว่าเธอนอนหลับสบายมาก ร่างกายของเธอเหมือนกำลังพิงเตาไฟ ซึ่งอบอุ่นมากวินาทีต่อมา เธอเกือบจะกรีดร้องออกมา รีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว หัวใจร้อนรนกระวนกระวาย‘เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไป?’เธอค่อย ๆ ถอนตัวออกจากร่างกายของเย่ซิว แล้วเดินกลับไปนอนที่เตียงเธอเอาผ้าห่มปิดหน้า ความรู้สึกสับสนแปรปรวนหลังจากนั้นไม่นานเธอก็โผล่หัวออกมา แล้วมองดูเย่ซิวที่อยู่บนพื้น ก่อนจะร้องเรียกเขาสองสามครั้ง“คุณเย่ คุณตื่นหรือยัง?”เรียกอยู่สี่ห้าครั้ง เย่ซิวถึง ‘ตื่น’เมื่อลืมตาขึ้น เขาก็ยิ้มให้หลินซวงและพูดว่า "อรุณสวัสดิ์"
อัตราการผลิตครีมผิวหยกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหนึ่งเดือนหลังจากที่เย่ซิวกลับมาจากหวู่เฉิง สายการผลิตห้าสิบสายก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ในสวนสมุนไพรมีการปลูกเพิ่มอีกห้าแปลงด้วยการสนับสนุนด้วยปุ๋ยน้ำ อัตราการเจริญเติบโตและคุณสมบัติทางยาของสมุนไพรจึงเป็นที่น่าพอใจมากปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นห้าล้านกล่องต่อวัน แต่ยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการมีบริษัทจำนวนมากที่เอาครีมผิวหยกไปทดสอบ ทำการวิเคราะห์และพยายามลอกเลียนแบบสิ่งที่ประเทศหลงเถิงทำได้ดีที่สุดก็คือการลอกเลียนแบบมีบริษัทที่เกือบจะเลียนแบบได้สำเร็จแล้วบังเอิญว่าเย่ซิวได้เปิดตัวครีมผิวหยกเวอร์ชันอัพเกรดในเวลานี้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ในราคาเท่าเดิมสิ่งนี้ขัดขวางแผนการของบริษัทที่พยายามลอกเลียนแบบครีมผิวหยกเหล่านั้นทันทีเมื่อพวกเขาวิเคราะห์ส่วนผสมของครีมผิวหยกเวอร์ชันอัพเกรดและพยายามลอกเลียนแบบ พวกเขาก็พบว่าไม่สามารถเลียนแบบได้อย่างสมบูรณ์ และมีความต่างกันไม่น้อยยังมีบริษัทที่ต้องการเปิดตัวครีมเกรดต่ำลงมาหน่อย ลดราคาลงเล็กน้อย และหมายจะยึดตลาดให้ได้แต่เย่ซิวได้จัดตั้งแผนกหนึ่งขึ้นมาเพื่อคอยสังเกตตลาดเป็
ตอนนี้เย่ซิวไม่ใช่เด็กหนุ่มธรรมดา ๆ อีกต่อไป เขาค่อย ๆ วางลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลง จากนั้น...ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดเย่ซิวก็ได้รับพลังทั้งหมดจากไข่มุกราชาแห่งยาสมใจปรารถนาแล้วพลังงานบริสุทธิ์โคจรไปทั่วร่างของทั้งสอง จำนวนเก้าพันเก้าร้อยแปดสิบเอ็ดรอบ จากนั้นจึงแบ่งเป็นสองส่วนเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ถูกเย่ซิวดูดซับไว้หมดแล้วร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก กำลังภายในเปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณระดับที่สูงขึ้น!พลังวิญญาณหนึ่งสายเทียบเท่ากำลังภายในหนึ่งร้อยสายทัศนวิสัยของเขากว้างไกลออกไปหลายร้อยเมตรในทันที มองเห็นทั่วทั้งสามร้อยหกสิบองศาอย่างทะลุปรุโปร่งนี่ไม่ใช่แค่การมองเห็น แต่เป็นพลังจิต!จากนี้ไป เขาสามารถตรวจจับทุกสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงได้แม้หลับตา และยังสามารถมองทะลุกำแพงได้อีกด้วยช่วงสร้างพื้นฐาน!ตัวเขาในขณะนี้ ได้เปลี่ยนจากร่างกายของมนุษย์ธรรมดาไปสู่ระดับใหม่แล้วด้วยพลังจิตที่ปล่อยออกมา ทำให้ความสามารถในการรับรู้ถึงอันตรายของเขาเพิ่มขึ้นสิบเท่า!‘ไม่รู้ว่าฉันในตอนนี้สามารถต้านทานระเบิดปรมาณูขนาดเล็กได้หรือไม่?’ เย่ซิวคิดในใจยังไม่แน่ใจว่าสามารถไปถึงขั้นนั้นได้หรือยัง
“ฉันผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”“เมื่อกี้คุณยังอวดดีอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”“ฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่อวดดีคนหนึ่ง ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ สามี~”“ก็ได้ ครั้งนี้จะยกโทษให้แล้วกัน”เย่ซิวหยุดและนอนลงข้าง ๆ ลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลู่เสวี่ยเอ๋อร์นอนมองคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาอบอุ่น ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความสุขและความตื้นตันใจหลังจากผ่านความยากลำบากมามากมาย ในที่สุดเธอก็ได้เป็นของผู้ชายคนนี้โดยสมบูรณ์สักทีไม่ว่าเขาจะมีผู้หญิงอีกกี่คนในอนาคต แต่หยางดั้งเดิมของเขาได้มอบให้กับเธอ นั่นก็เพียงพอแล้วพลังการฟื้นฟูของระดับปรมาจารย์นั้นทรงพลังมากเย่ซิววางแผนที่จะเรียนรู้วิชาที่เหลือในตำราวิชายุทธลับร่างกายของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ถูกห่อด้วยผ้าห่ม เหลือเพียงศีรษะที่โผล่อยู่ด้านนอกเธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินคำพูดของเย่ซิวสิ่งที่เธอต้องการตอนนี้คือการได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มเย่ซิวมาที่บ้านอีกหลังหนึ่งเพื่อหยิบตำราวิชายุทธลับออกมาหลังจากทะลวงสู่ช่วงสร้างพื้นฐานแล้ว เขาก็พบว่าความคิดความอ่านของเขาพัฒนาขึ้นมากเช่นกันการเรียนรู้คาถาเหล่านี้ง่ายกว่าเดิมมากวิชาแรกคือวิชาทะลุกำแพง
“เย่ซิว!”สวีอิงอุทานออกมา เขามีสภาพตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเขานึกว่าคงไม่มีใครเป็นพวกของเย่ซิวเย่ซิวนั่งลงและมองไปที่สวีอิงที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น "เรามาคุยกันหน่อยได้ไหม?"สวีอิงอยากลุกขึ้นยืน แต่กลับถูกตาวหวังกดให้คุกเข่าลงสวีอิงทั้งอัดอั้นทั้งโกรธแค้นเด็กหนุ่มที่เขาเคยดูถูกดูแคลน ตอนนี้กลายเป็นคนที่เขาต้องคุกเข่าเงยหน้าขึ้นมอง“ฮู่ฮู่ฮู่!”เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสงบสติอารมณ์สวีอิงยังคงมีฝีมืออยู่บ้าง สามารถกลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็วและมองไปที่เย่ซิว"บอกมา แกต้องการอะไร!"สวีอิงต้องการทำให้เย่ซิวใจเย็นลงก่อน จากนั้นค่อยหาทางตอบโต้หลังจากตนเองสะสางปัญหาได้แล้วเย่ซิวไม่ตอบ แต่ถามไปว่า "คุณคิดว่าชีวิตของคุณมีค่าแค่ไหน?"สวีอิงหัวเราะเสียงดัง "ฉันไม่ใช่แมวใช่หมา ถ้าแกกล้าฆ่าฉันอย่างเอิกเกริก แกก็มีราคาที่ต้องจ่ายแน่นอน"เย่ซิวยอมรับว่าเขาพูดถูกตอนนี้สังคมถูกปกครองด้วยกฎหมายมันคงจะดีกว่านี้ถ้าสวีอิงเป็นคนในยุทธภพแต่เขาไม่ใช่ เขาเป็นลูกหลานของตระกูลเศรษฐี ซึ่งใหญ่โตกว่าตระกูลเย่เสียอีกหากเขาถูกฆ่าตอนนี้ ราคาที่เย่ซิวต้องจ่ายคงหนักหน่วงแน่นอนอีกอ
เย่ซิวยิ้ม สองมือไพล่หลัง และทำมือเป็นสัญลักษณ์อย่างเงียบ ๆ แสงประหลาดแวบขึ้นมาในดวงตาของเขา เสียงของเขาเดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ เขากำลังร่ายคาถาสะกดจิต“ตระกูลเศรษฐีแบบพวกคุณไม่มีสายสัมพันธ์กับคนในครอบครัวมากนัก”“และตอนนี้คุณก็แทบไม่เหลืออะไรเลย อย่าคิดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากตระกูลอีก คุณจะถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวอย่างแน่นอนเมื่อถึงเวลานั้น คุณจะถูกกระชากลงสวรรค์ตกลงสู่พื้น และจะถูกผู้คนนับไม่ถ้วนดูถูกเหยียดหยามคนที่เคยถูกคุณดูถูกหรือเคยถูกคุณรังแกในอดีตจะกลับเข้ามาเหยียบย่ำซ้ำเติมคุณนี่คือชีวิตที่คุณต้องการงั้นเหรอ?หากคุณตกลงที่จะร่วมมือกับผม ในอนาคตเมื่อคุณเข้าควบคุมตระกูลสวีได้ ผมสัญญาว่าจะเอาทรัพย์สินออกไปเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นแม้เหลือเพียงครึ่งเดียวก็เพียงพอให้คุณสบายไปทั้งชาติ”ดวงตาของสวีอิงยังคงแสดงถึงความขัดขืนวิชาสะกดจิตไม่ใช่จะได้ผลไปเสียทุกครั้งหากเป้าหมายมีจิตใจที่กล้าแข็งแกร่ง ผลสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ยากมากแน่นอนว่าความแน่วแน่ของสวีอิงอยู่ได้ไม่นานนักวันนี้เขาโดนอัดไปหลายครั้ง บวกกับอาการบาดเจ็บที่มี ความแน่วแน่ของเขาไม่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อนคำพูดของเ
‘เสวี่ยเอ๋อร์บอกฉันว่าเมื่อคืนนายกับเธอ... คนที่สองต้องเป็นฉัน ฉันจะรอนายอยู่ที่โรงแรมเก็นติ้งห้อง ศูนย์แปด เวลาสองทุ่ม แล้วเจอกัน’ เซี่ยซิ่วซิ่วส่งมาถ้าลู่เสวี่ยเอ๋อร์เป็นดอกกุหลาบ เซี่ยซิ่วซิ่วก็เป็นดอกเหมยเธอดูบอบบางแต่จริง ๆ แล้วแข็งแกร่งมากสำหรับเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เอ่ยปาก เย่ซิวก็ไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่นอนเขายิ้มและส่งข้อความตอบตกลงกับเธอที่บริษัท เซี่ยซิ่วซิ่วทั้งดีใจและกังวลในเวลาเดียวกันหลังจากได้รับคำตอบจากเย่ซิวเธอโทรหาเลขาเพื่อบอกว่าคืนนี้ตนเองจะเลิกงานเร็วเธอต้องการใช้เวลาแต่งตัวและแสดงด้านที่งดงามที่สุดของเธอต่อหน้าเย่ซิว…… “เถ้าแก่ เอาบะหมี่หนึ่งชาม เนื้อผัดซอสหนึ่งจาน แล้วก็ซุปแกะหนึ่งถ้วย เอาแบบพิเศษนะ”เย่ซิวนั่งอยู่ในร้านอาหาร สั่งอาหารแล้วนั่งรอช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขารู้ว่ามีคนแอบสะกดรอยตามมาโดยตลอด แต่เขาไม่ได้กระโตกกระตากถึงเวลาจะได้รู้จริง ๆ แล้วใครคือคนที่กำลังคิดร้ายอยู่เบื้องหลัง“จะวิ่งไปไหน!”“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”เสียงดังโหวกเหวกมาจากด้านนอกเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรนเธออายุราวยี่สิบสามถึงยี่สิบสี่ปี
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ
“เดี๋ยวก่อน ฉันตกลง!”ในที่สุด เมื่อหลี่ต้าจ้วงเห็นเย่ซิวเตรียมจะจากไป เขาก็แสดงการเลือกของตัวเองเย่ซิวหยุดฝีเท้า หมุนตัวกลับมา สีหน้าไม่ได้แสดงถึงความประหลาดใจมากนักแต่ชูตงกลับหันหน้าไปพรวด มองไปที่หลี่ต้าจวงด้วยความไม่เชื่อ "คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?"หลี่ต้าจวงวิ่งไปคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือของเย่ซิว ยืนอยู่ที่ประตู และหัวเราะอย่างดุร้าย“ฉันน่ะเบื่อเธอจะตายอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้ ยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!อยู่กับเธอมาตั้งนาน แม้แต่มือก็ยังไม่ยอมให้จับในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฉันเอาเงินแล้วไปสนุกข้างนอกดีกว่า พวกเราบอกลากันตรงนี้เถอะ!”พูดจบ เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางแล้วจากไปชูตงราวกับถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพื่อเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ถึงกับกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาน้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเย่ซิวมองไปที่เธอ "พรุ่งนี้ไปทำงานต่อนะ อย่ามาสายล่ะถ้าคุณกล้าลาออกจากบริษัทโดยพลการ บริษัทจะให้คุณจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านทีเดียว”แม้ว่าตอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ขึ้นราคาต่อไป "ยี่สิบห้าล้าน"แถมยัง วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เขานำมาไว้บนพื้นแล้วเปิดออกมันเต็มไปด้วยธนบัตรหลงเถิงที่มีมูลค่าฉบับละหนึ่งพันบาท!"ซู้ด!!!"หลี่ต้าจ้วงสูดลมเย็นเข้าปอด จ้องมองไปที่เหรียญหลงเถิงที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ไร้ชีวิต การที่มีเงินสดกว่ายี่สิบห้าล้านมาวางกองตรงหน้า ย่อมส่งผลกระทบมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเย่ซิวเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาหวั่นไหวแล้ว จึงพูดอย่างล่อลวงไปว่า “คุณคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหม?คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ล่ะ? กะประมาณหนึ่งแสนบาทก็แล้วกันถ้าคุณไม่กินหรือดื่มเลย หนึ่งปีก็จะเก็บเงินได้หนึ่งล้านสองแสนบาท และต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้ยี่สิบห้าล้านในความเป็นจริงทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายของเมืองหลวง หนึ่งปีเก็บเงินได้สักห้าแสนบาทก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้วหรือก็คือ คุณต้องใช้เวลาถึงสี่สิบปีจึงจะมีเงินยี่สิบห้าล้านตอนนี้ตราบเท่าที่คุณพยักหน้า เงินนี้ก็จะเป็นของคุณด้วยเงิ
ชายคนนั้นเปิดประตู ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นเย่ซิว ความริษยาก็วาบผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น การมีอยู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ตัวเขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น“คุณเป็นใคร!”ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของชายคนนั้นจึงไร้ความเป็นมิตรอย่างมาก แถมด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองไปทางห้องครัวโดยไม่รู้ตัวกลัวว่าจู่ ๆ ชูตงจะวิ่งออกมา แล้วตกหลุมรักเย่ซิวทันทีหลังจากที่ได้พบเขานี่คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เสแสร้ง และขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ชูตงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเป็นประธานของบริษัทของเธอ คุณคงเป็นแฟนเธอสินะ"“หืม?!”ชายคนนั้นเริ่มตื่นตัวทันที "คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"“ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” เย่ซิวพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ “ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบความมั่งคั่งให้กับคุณ”"ใครคะ?"ตอนนี้เอง ชูตงที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับทัพพีในมือขวาเมื่อเขาเห็นเย่ซิว ม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย "ประธาน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่คะ?"ไม่กี่นาทีต่อมา เย่ซ
นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด
"ตอนนี้คุณมีแฟนหรือยัง?"เมื่อได้ยินแบบนี้ ชูตงก็รู้สึกรังเกียจเธอแอบคิดว่าเย่ซิวประธานใหญ่คนนี้ ดูเหมือนจะซื่อตรงและมีเกียรติ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆหลายคนเคยถามคำถามนี้กับเธอเธอรู้ตัวดีว่าเธอมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายมากจริง ๆแม้ในใจจะดูแคลน แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย “เรียนท่านประธานคะ มีแล้วค่ะ เป็นคนที่บ้านแนะนำมา ในอีกไม่กี่เดือนก็จะกลับไปหมั้นกันแล้ว”เย่ซิวขานรับอืมหนึ่งที "อืม ออกไปทำงานเถอะ"ชูตงตกตะลึงไปครู่หนึ่งเธอนึกว่าเย่ซิวจะขอให้เธอเป็นคนรักลับ ๆ ของเขาแต่เป็นแบบนี้ก็ดี ตัวเองเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ยังไม่อยากลาออก อยู่ที่นี่เธอทำงานอย่างมีความสุขมากเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์บริหารงานเข้มงวด จึงไม่มีความน่ารังเกียจทุกประเภทที่พบในที่ทำงานภายนอกปรากฏขึ้นที่นี่หลังจากที่เธอออกไป เย่ซิวก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเซี่ยซิ่วซิ่ว เปิดรายชื่อพนักงาน และพบข้อมูลของชูตงเธอมาจากชนบทและเพิ่งจะเรียนจบ แต่กลับเปลี่ยนงานมามากกว่าสิบตำแหน่งแล้วในเรซูเม่ระบุว่างานเหล่านั้นทำเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ประธานหรือหัวหน้างาน
ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างด่าบริษัทเครื่องสำอางเหล่านั้นอย่างสาดเสียเทเสียว่าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็เลยใช้ไม้แข็ง ไร้ศีลธรรมมากเกินไปแล้วเมื่อสักครู่นี้เพิ่งมีข่าวส่งมา ว่ามีผู้คนหลายหมื่นคนของประเทศอวี้ไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา"เย่ซิวเตือนไปหนึ่งประโยค "ผลกำไรของเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ต้นทุนที่เพิ่มมาก็ปล่อยให้พวกเขาไปแบกรับแทนอย่างไรเสียพวกเราคือ 'เหยื่อ' และหากมีคำด่าทออะไรก็ให้บริษัทของแต่ละประเทศไปแบกรับกันเอาเอง"เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มอย่างมีความสุขมาก "อืม ฉันรู้แล้วเว้นเสียแต่ประเทศต่าง ๆ จะห้ามไม่ให้ผู้คนเดินทางไปยังประเทศอวี้ ธุรกิจของเราก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก"แต่มันไม่สมจริงเลยที่จะห้ามไม่ให้ผู้คนไปที่ประเทศอวี้ประเทศอวี้เป็นประเทศที่เป็นกลางอย่างยิ่ง ได้รับการคุ้มครองจากหลายร้อยประเทศ แถมยังเป็นเขตปลอดภาษีอีกด้วยใครก็ตามที่แบนมัน จะต้องเผชิญการประท้วงอย่างรุนแรงแน่นอน“จริงสิ ชิงชิงจะมาถึงบ่ายวันนี้ ฉันจะไปรับเธอ นายจะไปไหม?”เกี่ยวกับเซี่ยชิงชิง เซี่ยซิ่วซิ่วบอกเขาเมื่อวานนี้ตอนนี้ตัวหมากนี้มีผลต่อเย่ซิวไม่มากแล้วบวกกับหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วติดตามเขาเธอก็ทำง
“นาย...นายท่าน...”ภายใต้การล่อลวงอย่างต่อเนื่องของเย่ซิว น่าหลันเยียนหรานมีเพียง 'ยอมแพ้' ในที่สุดนอกจากความเขินอายที่มีอยู่ น่าหลันเยียนหรานยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่พิเศษมาก ซึ่งมาจากก้นบึ้งของหัวใจ นั่นคือความรู้สึกถูกครอบงำที่แสนประหลาด!หลังจากบำเพ็ญตนจนถึงเที่ยงคืน น่าหลันเยียนหรานก็หลับสนิทไประหว่างที่หลับ ร่างกายของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาก็จะขึ้นเป็นปรมาจารย์ทั้งหมดแม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่ออกหน้า แต่ผู้หญิงข้างกายเขาเหล่านี้ก็สามารถครองยุทธภพเย่ซิวไม่ได้พักผ่อน แต่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆ น่าหลันเยียนหราน หยิบสุราวิญญาณออกมาดื่มอึกใหญ่ แล้วใช้วิชายุทธเริ่มปรับแต่งมันอย่างเงียบ ๆตอนนี้เป้าหมายของเขาคือการเข้าสู่ขั้นอมตะให้เร็วที่สุด แบบนี้ถึงจะสามารถรู้ความหมายของคำพูดที่หยางชิงเสวี่ยพูดไว้ว่าถ้าเขาได้เธอ ก็จะได้ครอบครองพลังที่ทรงพลังมากเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อน่าหลันเยียนหรานตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ามีพลังไหลไปทั่วทั้งร่างกาย หูและสายตาของเธอเฉียบคมขึ้น สภาพดีชนิดที่ว่าเมื่อก่อนเทียบไม่ติด“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเย่”
น่าหลันเยียนหรานหัวเราะคิกคัก "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มเก่งมาก มา ดื่มกันต่อ..."โดยปกติแล้วคนที่ชอบพูดว่าตัวเองดื่มเก่ง ในความเป็นจริงล้วนไม่ค่อยจะเท่าไหร่ยกตัวอย่างเช่นน่าหลันเยียนหราน อวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ดื่มไปสามแก้วติดกัน ก็นอนฟุบหมดสติไปกับโต๊ะแล้วเย่ซิวส่ายหัวอย่างหมดคำพูด เดินขึ้นไปแล้วอุ้มเธอกลับไปที่ห้องน่าหลันเยียนหรานดูตัวสูงเพรียว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตัวหนัก น่าจะสักประมาณสี่สิบห้ากิโลกรัม สำหรับเย่ซิวแล้วจึงไม่ต่างอะไรกับการอุ้มก้อนสำลีมากนักเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของน่าหลันเยียนหราน กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกมะลิก็ลอยมาปะทะจมูก ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานเมื่อได้กลิ่นห้องพักสะอาดมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้คนเห็นแล้วต้องหน้าแดงเขาวางเธอลงเบา ๆ ไม่ทันรอให้เย่ซิวดึงมือกลับไป เธอก็ลืมตาที่แดงก่ำขึ้นแล้วพูดอย่างคลุมเครือฟังไม่ค่อยชัดแต่เย่ซิวได้ยินมันอย่างชัดเจนมาก เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "คุณแน่ใจเหรอ? ผมไม่สามารถให้สถานะแก่คุณได้"น่าหลันเยียนหรานค่อย ๆ หลับตาลง ท่าทางเหมือนยอมให้ท่านกระทำได้ทุกอย่างนี่เป็นการตัดสินใจเลือกของเธอเอง เย่ซิวไม่ได้บังค