ผู้หญิงคนนั้นเพิกเฉยต่อเจ้าของร้านและหันไปชื่นชมเย่ซิวแทน "ขอบคุณมากนะคะ ถ้าวันนี้ไม่ได้คุณ ฉันคงต้องแย่แน่ ๆ เลยค่ะ งั้นให้ฉันเลี้ยงคุณสักมื้อนะคะ"เจ้าของร้านแทบจะกระอักเลือดเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตผู้หญิงคนนี้ แล้วทำไมเธอถึงไปขอบคุณเจ้าหน้าอ่อนนั่นแทนล่ะ?เย่ซิวพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่งทักษะการแสดงของผู้หญิงคนนี้จะสมจริงกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ? นี่เกือบจะเทียบเท่ากับนักแสดงหน้าใหม่สมัยนี้แล้วในความเป็นจริง ผู้ชายหลายคนเมื่อเห็นเธอเขาก็ถึงกับเสียสติ จะสนใจอะไรที่ไหนอีก?ไม่เห็นเหรอว่าเจ้าของแผงขายอาหารนี้น้ำลายแทบจะไหลออกมาอยู่แล้ว?เขาส่ายหัว มื้อนี้กินต่อไม่ได้แล้ว เขาจึงลุกออกไปผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมแพ้ ไล่ตามเขามา“พี่ชาย เดี๋ยวก่อนค่ะ ฉันยังไม่ได้ตอบแทนคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้เลย ฉันชื่อจางหมินหมิ่น คุณชื่ออะไรเหรอคะ?”เจ้าของแผงขายอาหารตีอกชกหัวแล้วพูดว่า "โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมด หล่อแล้วมันยิ่งใหญ่นักหรือไง"กลิ่นหอมแปลก ๆ โชยมาจากร่างกายของหญิงสาวท่าทีของเย่ซิวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาหยุดฝีเท้าชั่วคราวพลางมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น "แล้วคุณคิดจะตอบแทนผมยังไง?"จางหมิ
หน่วยนครหลวงเป็นหน่วยหัวกะทิที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศหลงเถิง และยังติดอันดับหนึ่งในสามอันดับแรกของโลกอีกด้วยเย่ซิวรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้กำลังปฏิบัติหน้าที่กันแต่น่าแปลกตรงที่จังหวะเวลาที่พวกเขาปรากฏตัวมันบังเอิญเกินไปพอเขา 'ตกอยู่ในอันตราย' คนกลุ่มนี้ก็มาถึงทันทีผู้หญิงที่เป็นผู้นำโบกมือ "พาพวกเขาทั้งหมดกลับไปสอบปากคำ"เย่ซิวหรี่ตาลง ไม่ขัดขืน และปล่อยให้พวกเขาพาตัวไปอยากรู้จริง ๆ ว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำอะไรซ่อนอยู่กันแน่ตอนนี้เขาสงสัยว่าหน่วยนครหลวงอาจถูกแทรกแซงไปแล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงแล้วไม่นานเขาก็ถูกนำตัวไปที่ห้องมืดและถูกสอบปากคำเพียงลำพัง"ชื่อ"“เย่ซิว”“ทำไมมันถึงอยู่ในนั้นล่ะ?”“ผู้หญิงที่ชื่อจางหมินหมิ่นล่อลวงผมไปที่นั่น”……อีกฝ่ายเดินออกไปหลังจากถามคำถามอีกหลายสิบข้อหลังจากผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง เขาก็เดินกลับเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้ม "คุณไปได้แล้ว ต้องขอบคุณหัวหน้าของเรา ไม่อย่างนั้นนายไม่รอดแน่" เย่ซิวถามว่า "คนนั้นเป็นผู้หญิงใช่ไหม?"อีกฝ่ายพยักหน้า “ใช่ หัวของเราไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียวนะ เธอย
จากนั้นเขาก็เห็นผู้หญิงที่ชื่อฉีฉูฉู่ขี่มอเตอร์ไซค์มาหยุดอยู่ข้าง ๆเธอสวมแจ็กเกตหนังและกางเกงหนัง รูปร่างของเธอน่าทึ่งมาก ส่วนโค้งเว้าบนร่างกายของเธอสมบูรณ์แบบเหนือจะบรรยายเธอถอดหมวกกันน็อกออกแล้วมองเย่ซิวด้วยสีหน้าเย็นชา "ฉันจะไปในเมือง ขึ้นรถสิ"น้ำเสียงนั้นมีกลิ่นอายของอำนาจที่ไม่อาจปฏิเสธได้เย่ซิวมองดูใบหน้าอันไร้ที่ติของเธอ แล้วจึงเข้าใจทุกอย่างเขาเห็นความคล้ายคลึงของฉีตังกั๋วบนใบหน้าของเธอประกอบกับการที่พวกเขามีนามสกุลเหมือนกัน ความจริงนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยากเลยเนื่องจากฉีตังกั๋วไม่สามารถงัดข้อกับเย่ซิวได้ตรง ๆ ดังนั้นเขาจึงใช้กลยุทธ์สาวงาม ต้องบอกว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียวที่ใช้วิธีเช่นนี้เข้าหาเขาหากไม่ใช่เพราะเขาเพิ่งบรรลุและมีพลังจิต เขาอาจถูกหลอก และพัฒนาความรู้สึกต่อฉีฉูฉู่ไปไกลจริง ๆอย่างไรก็ตาม ตอนนี้บทบาทของนักล่าและเหยื่อได้สลับกันแล้วเขายิ้มและขึ้นรถไปโดยไม่ลังเลบึ้น!ฉีฉูฉู่บิดคันเร่ง แล้วมอเตอร์ไซค์ก็พุ่งออกไป"อ๊าาา!"เย่ซิวจงใจตะโกนออกมา จากนั้นก็ยกสองแขนโอบแขนรอบเอวเรียวนุ่มเด้งของฉีฉูฉู่เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อย จ
ในวิลล่า ไป๋อวี้เตี๋ยซึ่งถูกทรมานมาหลายเดือน ดูน่าสังเวชเหลือเกินเดิมทีเธออาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แต่ต่อมาอาจารย์ของเธอได้พาเธอมาที่เมืองหลวงเธอได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกาย เธอคุกเข่าต่อหน้าผู้หญิงคนหนึ่งพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบหน้า "อาจารย์อาเล็ก ปล่อยฉันไปเถอะ"ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เธอรู้สึกเหมือนกำลังตกนรก ถูกทรมานด้วยวิธีการต่าง ๆ จากอาจารย์ของเธอ ตอนนี้เธอหมดสภาพจริง ๆแต่แทนที่จะแสดงความเมตตา แต่ในทางกลับกัน เธอยังหัวเราะพร้อมกับดึงไป๋อวี้เตี๋ย "เมื่อคืนนี้อาจารย์อาเล็กคิดเรื่องสนุก ๆ ขึ้นมาได้ เธอจะต้องชอบแน่ ๆ"ไป๋อวี้เตี๋ยไม่มีแรงแม้แต่จะดิ้นรน ทำได้เพียงปล่อยให้อาจารย์ของเธอลากเข้าไปในห้องน้ำเธอถูกผลักลงในอ่างอาบน้ำ และอาจารย์ของเธอก็ถือกล่องสองใบมาวางไว้ตรงหน้าภายในกล่องมีตัวหนีบและมีดเล็ก ๆ หลายเล่ม ส่องประกายเย็นวาบภายใต้แสงไฟอีกกล่องหนึ่งมีแมลงสีดำเล็ก ๆ จำนวนมาก ทั้งดูน่าเกลียดและน่ากลัวใบหน้าของเธอเผยรอยยิ้มเหมือนคนจิตวิปริต "ฉันจะเฉือนเธอสี่สิบเก้าครั้งแล้วเอาแมลงใส่ลงไปในแผล”“แมลงพวกนี้จะหลั่งสารพิเศษที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่บนมวลเมฆ พวกมันจะ
เย่ซิวพูดอย่างใจเย็น "ล้างหน้าสักหน่อยเถอะ"เขาเดินออกจากห้องน้ำและไปนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเหตุผลที่ช่วยเธอก็เพราะการลงโทษที่ไป๋อวี้เตี๋ยได้รับในช่วงเวลานี้นั้นเพียงพอแล้วยิ่งกว่านั้นเธอเองก็เป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ด้วยเมื่อธุรกิจของเย่ซิวขยายเติบโตขึ้น คนที่ไม่พอใจเขาก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันเขาจำเป็นต้องวางแผนเผื่อไว้สำหรับคนรอบข้างและหายอดฝีมือมาปกป้องคนของเขานั่นเป็นเหตุผลที่เขาปรากฏตัวในตอนที่ไป๋อวี้เตี๋ยสิ้นหวังมากที่สุดและให้ความหวังกับเธอเขายังใช้วิชาต่าง ๆ เพื่อข่มปรามให้เธอหวั่นเกรงอีกด้วยตอนนี้ในใจของไป๋อวี้เตี๋ย เย่ซิวกลายเป็นคนลึกลับและคาดเดาไม่ได้ ต่อให้เธอจะมีความกล้าหาญมากกว่านี้สักร้อยเท่า เธอก็ไม่มีวันกล้าที่จะมีเจตนาร้ายต่อเย่ซิวอีกแล้วเสียงน้ำไหลดังออกมาจากห้องน้ำไป๋อวี้เตี๋ยใช้แชมพูและเจลอาบน้ำเกือบครึ่งขวดขัดผิวของเธออย่างแรง เพื่อพยายามกำจัดความทรมานและความโสมมที่เธอต้องเผชิญในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาเธอไม่กล้าอาบน้ำนานเพราะกลัวว่าเย่ซิวจะต้องรอนานเกินไปหลังจากอาบน้ำได้ห้านาที เธอก็เพิ่งรู้ว่าเธอไม่ได้นำเสื้อผ้าเข้ามาด้วยเธอใช้ผ้าขนหนูเช
โรงแรมเก็นติ้ง ห้องหกศูนย์แปดห้องนี้เป็นห้องหรูขนาดเกือบห้าร้อยตารางเมตรมีทั้งบ่อน้ำพุร้อน คาราโอเกะ ผับ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันนอกจากนี้ยังมีสิ่งต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักอีกด้วยเซี่ยซิ่วซิ่วมาถึงก่อนเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอกลับบ้านเพื่อไปเอาเสื้อผ้า จากนั้นเมื่อมาถึงโรงแรม เธอก็ส่งรหัสผ่านห้องให้กับเย่ซิวและอยู่ในห้องน้ำจนถึงตอนนี้เธอชำระล้างร่างกายอย่างพิถีพิถันจากบนลงล่าง ทั้งภายในและภายนอกจนสะอาดหมดจด ผิวของเธอขาวอมชมพูกระจ่างใสเปล่งปลั่ง แล้จึงฉีดพรมน้ำหอมราคาแพงและในที่สุดเธอก็สวมเสื้อผ้าที่ตั้งใจเลือกมาอย่างดีชุดนี้เป็นชุดที่เธอไม่เคยใส่มาก่อนกระโปรงสั้นสีขาว ดูโดดเด่นมากเมื่อประกอบกับรูปร่างที่เพรียวบางของเธอและใบหน้าที่งดงามราวกับนางฟ้า ทำให้ใครเห็นเป็นต้องเลือดกำเดาไหลแม้แต่พระภิกษุก็สามารถแปลงร่างเป็นหมาป่าผู้หิวโหยได้หลังจากมองกระจกเต็มตัวอยู่นาน เซี่ยซิ่วซิ่วก็เม้มริมฝีปากแล้วยิ้มด้วยความรู้สึกพอใจมากเธอต้องการให้เย่ซิวและตัวเธอเองมีค่ำคืนที่น่าจดจำไปตลอดชีวิตเธอเปิดประตูด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุขแล
เย่ซิวพาเด็กสาวไปที่ชานเมือง เข้าไปในป่าเขาแล้วปลุกเธอให้ตื่นหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาแล้วก็ยังคิดหาหนทางตายอย่างเดียวเย่ซิวจับเด็กสาวไว้ด้วยมือขวาแล้วยื่นมือซ้ายออกไป "โลกนี้ยังสวยงามมากนะ ถ้าเธอไม่เชื่อก็ลองดูสิ"เหล่าผีเสื้อบินเข้ามาทีละตัว และบินรอบมือซ้ายของเย่ซิวร่างกายของเขาบริสุทธิ์ ใสสะอาดดุจคริสตัล กลิ่นที่เขาปล่อยออกมานั้นเหนือกว่าเหล่าดอกไม้ทั้งปวงฝูงผีเสื้อบินรอบต้นไม้ใบเขียวที่ให้ร่มเงา หมู่ดอกไม้บานสะพรั่ง ผู้คนและธรรมชาติผสมผสานกันกลมกลืนเด็กสาวหยุดดิ้นและจ้องมองฉากนี้อย่างว่างเปล่าเย่ซิวหัวเราะเบา ๆ และมีผีเสื้อสองสามตัวบินลงมาอยู่บนมือของเขาเขาค่อย ๆ ขยับแขนให้ผีเสื้อไปอยู่ข้างหน้าเธอ "ดูสิ น่ารักมากใช่ไหม?"ไกลออกไปมีกวางน้อยน่ารักสองสามตัวกำลังออกหาอาหารดูเหมือนว่ากวางเหล่านั้นจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่ซิว พวกมันจึงค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆด้านหลังของเขา มีกระต่ายสีขาวตัวน้อยห้าหรือหกตัวกระโดดมาที่เท้าของเขา หัวของเจ้ากระต่ายแนบถูไปมากับกางเกงของเขาอยู่อย่างนั้นในไม่ช้า กลิ่นอายของเย่ซิวก็ดึงดูดเหล่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยจำนวนมากเข้ามาล้อมรอบเขาไว้ดวงต
“ถ้าอย่างนั้น...” จวงเสี่ยวหยิงยื่นนิ้วก้อยออกมา “เรามาเกี่ยวก้อยสัญญากันเถอะ”เย่ซิวยิ้ม "ได้เลย เกี่ยวก้อยสัญญา"เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้วเย่ซิวจึงพาเธอกลับมาระหว่างทางเขาก็ถามเธอด้วยว่าเธออยากทำอะไรในอนาคตเด็กสาวบอกว่าเธออยากไปโรงเรียน เธออายุสิบหกปีแล้วแต่ความรู้ของเธอยังเทียบเด็กนักเรียนประถมไม่ได้เลย“นั่นไม่ใช่ปัญหา ถ้าเธอหายดีแล้วฉันจะช่วยเธอสมัครเข้าเรียนเอง รัฐบาลจะจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมสำหรับปีสุดท้ายของเธอสำหรับค่าครองชีพและอื่น ๆ ฉันจะให้เธอยืมก่อน พอเธอหาเงินได้เมื่อไหร่ค่อยมาคืนฉันพร้อมดอกเบี้ยก็ได้”แน่นอนว่า เย่ซิวสามารถให้เงินเธอได้ แต่เขาคิดว่าเธอจะไม่ยอมรับแน่นอนเด็กคนนี้ที่ภายนอกอ่อนแอ แต่ภายในแข็งแกร่งมากจวงเสี่ยวหยิงพยักหน้าหนักแน่นและพูดอย่างจริงจัง "ได้ค่ะ ขอบคุณนะพี่ชาย จากนี้ไป… ฉันขอเรียกคุณว่าพี่ชายได้ไหม?"“แน่นอน น้องสาวคนดีของฉัน”"ฮิฮิ พี่ชาย"เมื่อกลับไปบ้านของน่าหลันเหยียนหราน เธอก็ประหลาดใจเมื่อเห็นว่า จวงเสี่ยวหยิงอยู่ในสภาพที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเทียบกับก่อนที่เธอจะออกไปในเวลาเดียวกัน ความชื่นชมของเธอที่มีต่
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ
“เดี๋ยวก่อน ฉันตกลง!”ในที่สุด เมื่อหลี่ต้าจ้วงเห็นเย่ซิวเตรียมจะจากไป เขาก็แสดงการเลือกของตัวเองเย่ซิวหยุดฝีเท้า หมุนตัวกลับมา สีหน้าไม่ได้แสดงถึงความประหลาดใจมากนักแต่ชูตงกลับหันหน้าไปพรวด มองไปที่หลี่ต้าจวงด้วยความไม่เชื่อ "คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?"หลี่ต้าจวงวิ่งไปคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือของเย่ซิว ยืนอยู่ที่ประตู และหัวเราะอย่างดุร้าย“ฉันน่ะเบื่อเธอจะตายอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้ ยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!อยู่กับเธอมาตั้งนาน แม้แต่มือก็ยังไม่ยอมให้จับในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฉันเอาเงินแล้วไปสนุกข้างนอกดีกว่า พวกเราบอกลากันตรงนี้เถอะ!”พูดจบ เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางแล้วจากไปชูตงราวกับถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพื่อเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ถึงกับกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาน้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเย่ซิวมองไปที่เธอ "พรุ่งนี้ไปทำงานต่อนะ อย่ามาสายล่ะถ้าคุณกล้าลาออกจากบริษัทโดยพลการ บริษัทจะให้คุณจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านทีเดียว”แม้ว่าตอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ขึ้นราคาต่อไป "ยี่สิบห้าล้าน"แถมยัง วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เขานำมาไว้บนพื้นแล้วเปิดออกมันเต็มไปด้วยธนบัตรหลงเถิงที่มีมูลค่าฉบับละหนึ่งพันบาท!"ซู้ด!!!"หลี่ต้าจ้วงสูดลมเย็นเข้าปอด จ้องมองไปที่เหรียญหลงเถิงที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ไร้ชีวิต การที่มีเงินสดกว่ายี่สิบห้าล้านมาวางกองตรงหน้า ย่อมส่งผลกระทบมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเย่ซิวเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาหวั่นไหวแล้ว จึงพูดอย่างล่อลวงไปว่า “คุณคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหม?คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ล่ะ? กะประมาณหนึ่งแสนบาทก็แล้วกันถ้าคุณไม่กินหรือดื่มเลย หนึ่งปีก็จะเก็บเงินได้หนึ่งล้านสองแสนบาท และต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้ยี่สิบห้าล้านในความเป็นจริงทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายของเมืองหลวง หนึ่งปีเก็บเงินได้สักห้าแสนบาทก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้วหรือก็คือ คุณต้องใช้เวลาถึงสี่สิบปีจึงจะมีเงินยี่สิบห้าล้านตอนนี้ตราบเท่าที่คุณพยักหน้า เงินนี้ก็จะเป็นของคุณด้วยเงิ
ชายคนนั้นเปิดประตู ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นเย่ซิว ความริษยาก็วาบผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น การมีอยู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ตัวเขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น“คุณเป็นใคร!”ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของชายคนนั้นจึงไร้ความเป็นมิตรอย่างมาก แถมด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองไปทางห้องครัวโดยไม่รู้ตัวกลัวว่าจู่ ๆ ชูตงจะวิ่งออกมา แล้วตกหลุมรักเย่ซิวทันทีหลังจากที่ได้พบเขานี่คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เสแสร้ง และขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ชูตงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเป็นประธานของบริษัทของเธอ คุณคงเป็นแฟนเธอสินะ"“หืม?!”ชายคนนั้นเริ่มตื่นตัวทันที "คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"“ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” เย่ซิวพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ “ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบความมั่งคั่งให้กับคุณ”"ใครคะ?"ตอนนี้เอง ชูตงที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับทัพพีในมือขวาเมื่อเขาเห็นเย่ซิว ม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย "ประธาน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่คะ?"ไม่กี่นาทีต่อมา เย่ซ
นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด
"ตอนนี้คุณมีแฟนหรือยัง?"เมื่อได้ยินแบบนี้ ชูตงก็รู้สึกรังเกียจเธอแอบคิดว่าเย่ซิวประธานใหญ่คนนี้ ดูเหมือนจะซื่อตรงและมีเกียรติ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆหลายคนเคยถามคำถามนี้กับเธอเธอรู้ตัวดีว่าเธอมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายมากจริง ๆแม้ในใจจะดูแคลน แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย “เรียนท่านประธานคะ มีแล้วค่ะ เป็นคนที่บ้านแนะนำมา ในอีกไม่กี่เดือนก็จะกลับไปหมั้นกันแล้ว”เย่ซิวขานรับอืมหนึ่งที "อืม ออกไปทำงานเถอะ"ชูตงตกตะลึงไปครู่หนึ่งเธอนึกว่าเย่ซิวจะขอให้เธอเป็นคนรักลับ ๆ ของเขาแต่เป็นแบบนี้ก็ดี ตัวเองเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ยังไม่อยากลาออก อยู่ที่นี่เธอทำงานอย่างมีความสุขมากเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์บริหารงานเข้มงวด จึงไม่มีความน่ารังเกียจทุกประเภทที่พบในที่ทำงานภายนอกปรากฏขึ้นที่นี่หลังจากที่เธอออกไป เย่ซิวก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเซี่ยซิ่วซิ่ว เปิดรายชื่อพนักงาน และพบข้อมูลของชูตงเธอมาจากชนบทและเพิ่งจะเรียนจบ แต่กลับเปลี่ยนงานมามากกว่าสิบตำแหน่งแล้วในเรซูเม่ระบุว่างานเหล่านั้นทำเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ประธานหรือหัวหน้างาน
ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างด่าบริษัทเครื่องสำอางเหล่านั้นอย่างสาดเสียเทเสียว่าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็เลยใช้ไม้แข็ง ไร้ศีลธรรมมากเกินไปแล้วเมื่อสักครู่นี้เพิ่งมีข่าวส่งมา ว่ามีผู้คนหลายหมื่นคนของประเทศอวี้ไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา"เย่ซิวเตือนไปหนึ่งประโยค "ผลกำไรของเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ต้นทุนที่เพิ่มมาก็ปล่อยให้พวกเขาไปแบกรับแทนอย่างไรเสียพวกเราคือ 'เหยื่อ' และหากมีคำด่าทออะไรก็ให้บริษัทของแต่ละประเทศไปแบกรับกันเอาเอง"เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มอย่างมีความสุขมาก "อืม ฉันรู้แล้วเว้นเสียแต่ประเทศต่าง ๆ จะห้ามไม่ให้ผู้คนเดินทางไปยังประเทศอวี้ ธุรกิจของเราก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก"แต่มันไม่สมจริงเลยที่จะห้ามไม่ให้ผู้คนไปที่ประเทศอวี้ประเทศอวี้เป็นประเทศที่เป็นกลางอย่างยิ่ง ได้รับการคุ้มครองจากหลายร้อยประเทศ แถมยังเป็นเขตปลอดภาษีอีกด้วยใครก็ตามที่แบนมัน จะต้องเผชิญการประท้วงอย่างรุนแรงแน่นอน“จริงสิ ชิงชิงจะมาถึงบ่ายวันนี้ ฉันจะไปรับเธอ นายจะไปไหม?”เกี่ยวกับเซี่ยชิงชิง เซี่ยซิ่วซิ่วบอกเขาเมื่อวานนี้ตอนนี้ตัวหมากนี้มีผลต่อเย่ซิวไม่มากแล้วบวกกับหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วติดตามเขาเธอก็ทำง
“นาย...นายท่าน...”ภายใต้การล่อลวงอย่างต่อเนื่องของเย่ซิว น่าหลันเยียนหรานมีเพียง 'ยอมแพ้' ในที่สุดนอกจากความเขินอายที่มีอยู่ น่าหลันเยียนหรานยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่พิเศษมาก ซึ่งมาจากก้นบึ้งของหัวใจ นั่นคือความรู้สึกถูกครอบงำที่แสนประหลาด!หลังจากบำเพ็ญตนจนถึงเที่ยงคืน น่าหลันเยียนหรานก็หลับสนิทไประหว่างที่หลับ ร่างกายของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาก็จะขึ้นเป็นปรมาจารย์ทั้งหมดแม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่ออกหน้า แต่ผู้หญิงข้างกายเขาเหล่านี้ก็สามารถครองยุทธภพเย่ซิวไม่ได้พักผ่อน แต่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆ น่าหลันเยียนหราน หยิบสุราวิญญาณออกมาดื่มอึกใหญ่ แล้วใช้วิชายุทธเริ่มปรับแต่งมันอย่างเงียบ ๆตอนนี้เป้าหมายของเขาคือการเข้าสู่ขั้นอมตะให้เร็วที่สุด แบบนี้ถึงจะสามารถรู้ความหมายของคำพูดที่หยางชิงเสวี่ยพูดไว้ว่าถ้าเขาได้เธอ ก็จะได้ครอบครองพลังที่ทรงพลังมากเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อน่าหลันเยียนหรานตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ามีพลังไหลไปทั่วทั้งร่างกาย หูและสายตาของเธอเฉียบคมขึ้น สภาพดีชนิดที่ว่าเมื่อก่อนเทียบไม่ติด“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเย่”
น่าหลันเยียนหรานหัวเราะคิกคัก "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มเก่งมาก มา ดื่มกันต่อ..."โดยปกติแล้วคนที่ชอบพูดว่าตัวเองดื่มเก่ง ในความเป็นจริงล้วนไม่ค่อยจะเท่าไหร่ยกตัวอย่างเช่นน่าหลันเยียนหราน อวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ดื่มไปสามแก้วติดกัน ก็นอนฟุบหมดสติไปกับโต๊ะแล้วเย่ซิวส่ายหัวอย่างหมดคำพูด เดินขึ้นไปแล้วอุ้มเธอกลับไปที่ห้องน่าหลันเยียนหรานดูตัวสูงเพรียว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตัวหนัก น่าจะสักประมาณสี่สิบห้ากิโลกรัม สำหรับเย่ซิวแล้วจึงไม่ต่างอะไรกับการอุ้มก้อนสำลีมากนักเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของน่าหลันเยียนหราน กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกมะลิก็ลอยมาปะทะจมูก ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานเมื่อได้กลิ่นห้องพักสะอาดมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้คนเห็นแล้วต้องหน้าแดงเขาวางเธอลงเบา ๆ ไม่ทันรอให้เย่ซิวดึงมือกลับไป เธอก็ลืมตาที่แดงก่ำขึ้นแล้วพูดอย่างคลุมเครือฟังไม่ค่อยชัดแต่เย่ซิวได้ยินมันอย่างชัดเจนมาก เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "คุณแน่ใจเหรอ? ผมไม่สามารถให้สถานะแก่คุณได้"น่าหลันเยียนหรานค่อย ๆ หลับตาลง ท่าทางเหมือนยอมให้ท่านกระทำได้ทุกอย่างนี่เป็นการตัดสินใจเลือกของเธอเอง เย่ซิวไม่ได้บังค