จากนั้นเขาก็เห็นผู้หญิงที่ชื่อฉีฉูฉู่ขี่มอเตอร์ไซค์มาหยุดอยู่ข้าง ๆเธอสวมแจ็กเกตหนังและกางเกงหนัง รูปร่างของเธอน่าทึ่งมาก ส่วนโค้งเว้าบนร่างกายของเธอสมบูรณ์แบบเหนือจะบรรยายเธอถอดหมวกกันน็อกออกแล้วมองเย่ซิวด้วยสีหน้าเย็นชา "ฉันจะไปในเมือง ขึ้นรถสิ"น้ำเสียงนั้นมีกลิ่นอายของอำนาจที่ไม่อาจปฏิเสธได้เย่ซิวมองดูใบหน้าอันไร้ที่ติของเธอ แล้วจึงเข้าใจทุกอย่างเขาเห็นความคล้ายคลึงของฉีตังกั๋วบนใบหน้าของเธอประกอบกับการที่พวกเขามีนามสกุลเหมือนกัน ความจริงนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยากเลยเนื่องจากฉีตังกั๋วไม่สามารถงัดข้อกับเย่ซิวได้ตรง ๆ ดังนั้นเขาจึงใช้กลยุทธ์สาวงาม ต้องบอกว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียวที่ใช้วิธีเช่นนี้เข้าหาเขาหากไม่ใช่เพราะเขาเพิ่งบรรลุและมีพลังจิต เขาอาจถูกหลอก และพัฒนาความรู้สึกต่อฉีฉูฉู่ไปไกลจริง ๆอย่างไรก็ตาม ตอนนี้บทบาทของนักล่าและเหยื่อได้สลับกันแล้วเขายิ้มและขึ้นรถไปโดยไม่ลังเลบึ้น!ฉีฉูฉู่บิดคันเร่ง แล้วมอเตอร์ไซค์ก็พุ่งออกไป"อ๊าาา!"เย่ซิวจงใจตะโกนออกมา จากนั้นก็ยกสองแขนโอบแขนรอบเอวเรียวนุ่มเด้งของฉีฉูฉู่เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อย จ
ในวิลล่า ไป๋อวี้เตี๋ยซึ่งถูกทรมานมาหลายเดือน ดูน่าสังเวชเหลือเกินเดิมทีเธออาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แต่ต่อมาอาจารย์ของเธอได้พาเธอมาที่เมืองหลวงเธอได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกาย เธอคุกเข่าต่อหน้าผู้หญิงคนหนึ่งพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบหน้า "อาจารย์อาเล็ก ปล่อยฉันไปเถอะ"ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เธอรู้สึกเหมือนกำลังตกนรก ถูกทรมานด้วยวิธีการต่าง ๆ จากอาจารย์ของเธอ ตอนนี้เธอหมดสภาพจริง ๆแต่แทนที่จะแสดงความเมตตา แต่ในทางกลับกัน เธอยังหัวเราะพร้อมกับดึงไป๋อวี้เตี๋ย "เมื่อคืนนี้อาจารย์อาเล็กคิดเรื่องสนุก ๆ ขึ้นมาได้ เธอจะต้องชอบแน่ ๆ"ไป๋อวี้เตี๋ยไม่มีแรงแม้แต่จะดิ้นรน ทำได้เพียงปล่อยให้อาจารย์ของเธอลากเข้าไปในห้องน้ำเธอถูกผลักลงในอ่างอาบน้ำ และอาจารย์ของเธอก็ถือกล่องสองใบมาวางไว้ตรงหน้าภายในกล่องมีตัวหนีบและมีดเล็ก ๆ หลายเล่ม ส่องประกายเย็นวาบภายใต้แสงไฟอีกกล่องหนึ่งมีแมลงสีดำเล็ก ๆ จำนวนมาก ทั้งดูน่าเกลียดและน่ากลัวใบหน้าของเธอเผยรอยยิ้มเหมือนคนจิตวิปริต "ฉันจะเฉือนเธอสี่สิบเก้าครั้งแล้วเอาแมลงใส่ลงไปในแผล”“แมลงพวกนี้จะหลั่งสารพิเศษที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่บนมวลเมฆ พวกมันจะ
เย่ซิวพูดอย่างใจเย็น "ล้างหน้าสักหน่อยเถอะ"เขาเดินออกจากห้องน้ำและไปนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเหตุผลที่ช่วยเธอก็เพราะการลงโทษที่ไป๋อวี้เตี๋ยได้รับในช่วงเวลานี้นั้นเพียงพอแล้วยิ่งกว่านั้นเธอเองก็เป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ด้วยเมื่อธุรกิจของเย่ซิวขยายเติบโตขึ้น คนที่ไม่พอใจเขาก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันเขาจำเป็นต้องวางแผนเผื่อไว้สำหรับคนรอบข้างและหายอดฝีมือมาปกป้องคนของเขานั่นเป็นเหตุผลที่เขาปรากฏตัวในตอนที่ไป๋อวี้เตี๋ยสิ้นหวังมากที่สุดและให้ความหวังกับเธอเขายังใช้วิชาต่าง ๆ เพื่อข่มปรามให้เธอหวั่นเกรงอีกด้วยตอนนี้ในใจของไป๋อวี้เตี๋ย เย่ซิวกลายเป็นคนลึกลับและคาดเดาไม่ได้ ต่อให้เธอจะมีความกล้าหาญมากกว่านี้สักร้อยเท่า เธอก็ไม่มีวันกล้าที่จะมีเจตนาร้ายต่อเย่ซิวอีกแล้วเสียงน้ำไหลดังออกมาจากห้องน้ำไป๋อวี้เตี๋ยใช้แชมพูและเจลอาบน้ำเกือบครึ่งขวดขัดผิวของเธออย่างแรง เพื่อพยายามกำจัดความทรมานและความโสมมที่เธอต้องเผชิญในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาเธอไม่กล้าอาบน้ำนานเพราะกลัวว่าเย่ซิวจะต้องรอนานเกินไปหลังจากอาบน้ำได้ห้านาที เธอก็เพิ่งรู้ว่าเธอไม่ได้นำเสื้อผ้าเข้ามาด้วยเธอใช้ผ้าขนหนูเช
โรงแรมเก็นติ้ง ห้องหกศูนย์แปดห้องนี้เป็นห้องหรูขนาดเกือบห้าร้อยตารางเมตรมีทั้งบ่อน้ำพุร้อน คาราโอเกะ ผับ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันนอกจากนี้ยังมีสิ่งต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักอีกด้วยเซี่ยซิ่วซิ่วมาถึงก่อนเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอกลับบ้านเพื่อไปเอาเสื้อผ้า จากนั้นเมื่อมาถึงโรงแรม เธอก็ส่งรหัสผ่านห้องให้กับเย่ซิวและอยู่ในห้องน้ำจนถึงตอนนี้เธอชำระล้างร่างกายอย่างพิถีพิถันจากบนลงล่าง ทั้งภายในและภายนอกจนสะอาดหมดจด ผิวของเธอขาวอมชมพูกระจ่างใสเปล่งปลั่ง แล้จึงฉีดพรมน้ำหอมราคาแพงและในที่สุดเธอก็สวมเสื้อผ้าที่ตั้งใจเลือกมาอย่างดีชุดนี้เป็นชุดที่เธอไม่เคยใส่มาก่อนกระโปรงสั้นสีขาว ดูโดดเด่นมากเมื่อประกอบกับรูปร่างที่เพรียวบางของเธอและใบหน้าที่งดงามราวกับนางฟ้า ทำให้ใครเห็นเป็นต้องเลือดกำเดาไหลแม้แต่พระภิกษุก็สามารถแปลงร่างเป็นหมาป่าผู้หิวโหยได้หลังจากมองกระจกเต็มตัวอยู่นาน เซี่ยซิ่วซิ่วก็เม้มริมฝีปากแล้วยิ้มด้วยความรู้สึกพอใจมากเธอต้องการให้เย่ซิวและตัวเธอเองมีค่ำคืนที่น่าจดจำไปตลอดชีวิตเธอเปิดประตูด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุขแล
เย่ซิวพาเด็กสาวไปที่ชานเมือง เข้าไปในป่าเขาแล้วปลุกเธอให้ตื่นหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาแล้วก็ยังคิดหาหนทางตายอย่างเดียวเย่ซิวจับเด็กสาวไว้ด้วยมือขวาแล้วยื่นมือซ้ายออกไป "โลกนี้ยังสวยงามมากนะ ถ้าเธอไม่เชื่อก็ลองดูสิ"เหล่าผีเสื้อบินเข้ามาทีละตัว และบินรอบมือซ้ายของเย่ซิวร่างกายของเขาบริสุทธิ์ ใสสะอาดดุจคริสตัล กลิ่นที่เขาปล่อยออกมานั้นเหนือกว่าเหล่าดอกไม้ทั้งปวงฝูงผีเสื้อบินรอบต้นไม้ใบเขียวที่ให้ร่มเงา หมู่ดอกไม้บานสะพรั่ง ผู้คนและธรรมชาติผสมผสานกันกลมกลืนเด็กสาวหยุดดิ้นและจ้องมองฉากนี้อย่างว่างเปล่าเย่ซิวหัวเราะเบา ๆ และมีผีเสื้อสองสามตัวบินลงมาอยู่บนมือของเขาเขาค่อย ๆ ขยับแขนให้ผีเสื้อไปอยู่ข้างหน้าเธอ "ดูสิ น่ารักมากใช่ไหม?"ไกลออกไปมีกวางน้อยน่ารักสองสามตัวกำลังออกหาอาหารดูเหมือนว่ากวางเหล่านั้นจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่ซิว พวกมันจึงค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆด้านหลังของเขา มีกระต่ายสีขาวตัวน้อยห้าหรือหกตัวกระโดดมาที่เท้าของเขา หัวของเจ้ากระต่ายแนบถูไปมากับกางเกงของเขาอยู่อย่างนั้นในไม่ช้า กลิ่นอายของเย่ซิวก็ดึงดูดเหล่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยจำนวนมากเข้ามาล้อมรอบเขาไว้ดวงต
“ถ้าอย่างนั้น...” จวงเสี่ยวหยิงยื่นนิ้วก้อยออกมา “เรามาเกี่ยวก้อยสัญญากันเถอะ”เย่ซิวยิ้ม "ได้เลย เกี่ยวก้อยสัญญา"เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้วเย่ซิวจึงพาเธอกลับมาระหว่างทางเขาก็ถามเธอด้วยว่าเธออยากทำอะไรในอนาคตเด็กสาวบอกว่าเธออยากไปโรงเรียน เธออายุสิบหกปีแล้วแต่ความรู้ของเธอยังเทียบเด็กนักเรียนประถมไม่ได้เลย“นั่นไม่ใช่ปัญหา ถ้าเธอหายดีแล้วฉันจะช่วยเธอสมัครเข้าเรียนเอง รัฐบาลจะจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมสำหรับปีสุดท้ายของเธอสำหรับค่าครองชีพและอื่น ๆ ฉันจะให้เธอยืมก่อน พอเธอหาเงินได้เมื่อไหร่ค่อยมาคืนฉันพร้อมดอกเบี้ยก็ได้”แน่นอนว่า เย่ซิวสามารถให้เงินเธอได้ แต่เขาคิดว่าเธอจะไม่ยอมรับแน่นอนเด็กคนนี้ที่ภายนอกอ่อนแอ แต่ภายในแข็งแกร่งมากจวงเสี่ยวหยิงพยักหน้าหนักแน่นและพูดอย่างจริงจัง "ได้ค่ะ ขอบคุณนะพี่ชาย จากนี้ไป… ฉันขอเรียกคุณว่าพี่ชายได้ไหม?"“แน่นอน น้องสาวคนดีของฉัน”"ฮิฮิ พี่ชาย"เมื่อกลับไปบ้านของน่าหลันเหยียนหราน เธอก็ประหลาดใจเมื่อเห็นว่า จวงเสี่ยวหยิงอยู่ในสภาพที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเทียบกับก่อนที่เธอจะออกไปในเวลาเดียวกัน ความชื่นชมของเธอที่มีต่
เมื่อจวงเสี่ยวหยิงดูแลตัวเองอย่างจริงจัง รูปร่างหน้าตาของเธอก็ดีขึ้นมาอีกระดับทันทีเธอสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตร สวมกระโปรงฟูฟ่องและถุงน่องสีขาวผมนุ่มลื่นของเธอพาดอยู่บนไหล่ ดวงตาของเธอกลมโตและเปล่งประกายราวกับอัญมณีข้อเสียอย่างเดียวคือเธอผอมเกินไปและค่อนข้างขาดสารอาหารเย่ซิวเดินออกมาพร้อมกับอาหารจานสุดท้าย เมื่อเขาเห็นจวงเสี่ยวหยิง เขาก็ชื่นชมเธออย่างจริงใจ "ไม่คิดเลยว่าน้องสาวของฉันจะสวยขนาดนี้"จวงเสี่ยวหยิงเกาหัวอย่างเขินอายแต่ในไม่ช้า เธอก็ถูกดึงดูดด้วยโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรส ดวงตาของเธอเป็นประกาย "ว้าว มันดูน่าอร่อยมากเลย"น่าหลันเหยียนหรานก็เบิกตากว้างและค่อนข้างตกใจเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "นั่งลงแล้วกินข้าวกันเถอะ"สาวสวยทั้งสอง คนหนึ่งตัวใหญ่คนหนึ่งตัวเล็ก แทบรอไม่ไหวที่จะนั่งลงจวงเสี่ยวหยิงหยิบตะเกียบขึ้นคีบชิ้นหนึ่งมาทานแล้วอุทานว่า "ว้าว อร่อยมากเลย"น่าหลันเหยียนหรานกัดแล้วก็รู้สึกว่ารสชาติอาหารระเบิดในปาก กระตุ้นต่อมรับรสของเธอได้อย่างบ้าคลั่ง จนหนังศีรษะของเธอชาวาบเธอไม่เคยได้กินอาหารอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิตของเธอจากนั้นเธอก็ไม่สนใจเรื่อง
เขาไม่ได้จะลงมือทันที แต่เตรียมที่จะสังเกตก่อนผู้คนเริ่มเข้ามากันเรื่อย ๆฉีฉูฉู่แทบจะดึงดูดทุกคนที่เข้ามาในทันทีช่วยไม่ได้ ก็เธอสวยเกินไปน่ะสิ บุคลิกของเธอโดดเด่นมาก ท่าทางสง่าราวกับราชินีสิ่งนี้จะทำให้ผู้ชายบางคนที่คิดว่าตัวเองมีความสามารถเกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะพิชิตเธอชายวัยกลางคนในชุดสูทเรียบร้อยไร้ที่ติ เขาเดินเข้าไปพร้อมกับแก้วไวน์ในมือด้วยรูปลักษณ์และรูปร่างที่สมบูรณ์แบบนี่คือผู้ชายที่มีเสน่ห์มากและมีแรงดึงดูดร้ายแรงสำหรับสาวน้อยที่เพิ่งได้สัมผัสความรู้สึกรักครั้งแรก“คนสวย ผมขอดื่มด้วยคนได้ไหม?”ฉีฉูฉู่ไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำ เธอแค่พูดว่า “ออกไป”มองแวบแรก ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นพวกช่ำชองเรื่องโรแมนติก เขาจึงไม่กังวลอะไร และตั้งใจที่จะเปลี่ยนวิธีการเข้าหาใหม่แต่ฉีฉูฉู่ไม่ให้โอกาสเขาเลย เธอยืนขึ้นและเตะเขาจนกระเด็นออกไปตลอดทางนั้นทั้งโต๊ะและเครื่องดื่มถูกกระแทกกระจัดกระจายเป็นชิ้น ๆไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่เธอก็เตะชายคนนั้นต่อหน้าเย่ซิวไปแล้วเย่ซิวกำลังดื่มคนเดียว เขาเอนกายพิงโซฟาพร้อมหลับตาลงครึ่งหนึ่ง ดูไม่แยแสต่อโลก สิ่งนี้ทำให้ฉีฉูฉู่กัดฟันด้วย
ในขณะเดียวกัน เสียงของเย่ซิวก็ดังขึ้นข้างหูเขา "สถานที่แห่งนี้ ห้ามฟื้นฟูขึ้นใหม่ภายในหนึ่งร้อยปี มิเช่นนั้นประเทศจ้านฉงตี้จะต้องหายไปจากโลกใบนี้"นี่เป็นทั้งการดูแคลน และยังเป็นการเหยียดหยามอย่างถึงที่สุดให้พวกเขาต้องเผชิญกับความอัปยศนี้ทุกขณะในช่วงเวลาหนึ่งร้อยปีถือเป็นการโต้กลับอย่างแข็งแกร่งของเย่ซิว หลังจากประเทศจ้านฉงตี้พยายามเล่นงานเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจักรพรรดิหมีเหล็กกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ความอัปยศอันรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วร่างใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธแต่ในความโกรธแค้นนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกหมดหนทางอย่างลึกล้ำเพียงชั่วพริบตาเดียวราวกับว่าเขาแก่ลงไปอีกหลายสิบปีเดิมทีเส้นผมของเขายังมีสีดำเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับขาวโพลนทั้งหมดผู้ช่วยที่อยู่ข้างกาย มองดูสภาพของเขาด้วยความสงสาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา "ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? จะยิงจรวดออกไปอีกไหม?""ไม่ต้องแล้ว ไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก"จักรพรรดิหมีเหล็กส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยล้า สายตามองไปยังร่องรอยของกระบี่อันใหญ่โตเบื้องหน้า "ดูเหมือนว่า ถึงเวลาที่ฉันจะต้องหาผู้สืบทอดแล้ว"……ม
เบื้องหน้าของเย่ซิวปรากฏชายชราผู้มีรูปลักษณ์ประหลาดเขามีอายุกว่าร้อยปีแล้ว ดวงตาฝ้าฟางแทบจะลืมขึ้นไม่ได้เส้นผมยาวหลายสิบเมตรถูกถักเป็นเปียและพันรอบร่างกายของตนใต้ฝ่าเท้าของเขามีการ์กอยล์หินเป็นพาหนะ มือขวาถือไม้กายสิทธิ์อันเก่าแก่เย่ซิวกระตุกบังเหียนให้ม้าหยุดลงพลางหรี่ตามองชายชราเล็กน้อย “มีธุระอะไร?”พลังที่แผ่ออกมาจากร่างของชายชราทำให้เย่ซิวรู้สึกได้ถึงอันตรายแม้ว่าจะเป็นเพียงเสี้ยวเดียวก็ตาม“ข้าคือเทพพิทักษ์แห่งประเทศจ้านฉงตี้ ปิดด่านฝึกฝนมาหลายสิบปีแล้วได้ยินว่าประเทศหลงเถิงมีอัจฉริยะที่แข็งแกร่งจึงอยากมาดูให้เห็นกับตา”เย่ซิวไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “ตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว มีอะไรจะชี้แนะหรือเปล่า?”ดวงตาฝ้าฟางของชายชราเพ่งมองเย่ซิวแน่วแน่ แววตานั้นแฝงไปด้วยอันตรายเล็กน้อยก่อนที่เขาจะยิ้มออกมา“ข้าน่ะเป็นคนอยากรู้อยากเห็นเลยอยากจะประลองกับเจ้าสักหน่อย ไม่รู้ว่าจะรับคำท้าหรือไม่”เย่ซิวสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ซ่อนเร้นของอีกฝ่ายที่บอกว่าเป็นการประลองคงเป็นแค่ข้ออ้างจุดประสงค์ที่แท้จริงคือก็แค่อยากทดสอบพลังของตนเองกับเขาเท่านั้น“ฉันไม่มีคำว่าประลองอะไรทั้งนั้น ถ้าคุณคิ
ทั้งคืนผ่านไปด้วยความว้าวุ่นใจและความกระสับกระส่าย เธอแทบไม่ได้หลับเลยเวลาแปดโมงเช้า เย่ซิวยืนอยู่ริมหน้าต่างมองออกไปยังทิวทัศน์ภายนอกอากาศสดชื่น เสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้กระจายไปทั่ว ที่นี่มีนกยูงเลี้ยงไว้อยู่หลายตัว บรรยากาศเหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างยิ่ง“คุณเย่ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” ลิลิธเดินเข้ามาพร้อมกับก้าวย่างที่อ่อนช้อยดุจแมวป่าฝ่าเท้าขาวผ่องราวหิมะสัมผัสพื้นเบา ๆ ทีละก้าวก่อนจะหยุดอยู่ข้าง ๆ เย่ซิวเธอจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวนหลังจากฝึกฝนตลอดทั้งคืน พลังของลิลิธก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างมหาศาลตอนที่เธอมาที่นี่ เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถพัฒนาขึ้นได้เร็วขนาดนี้หากเป็นไปได้ เธอเองก็อยากบำเพ็ญร่วมกับเย่ซิวตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทั้งวันทั้งคืนบางทีเธออาจสามารถบรรลุถึงระดับพลังที่ไม่มีใครในประเทศจ้านฉงตี้เคยไปถึงมาก่อนแต่น่าเสียดายที่คงเป็นแค่ความฝันที่เป็นไปไม่ได้เย่ซิวไม่ได้ตอบอะไร สายตาของเขายังคงจ้องไปข้างนอกโดยไม่กะพริบตาจินตานห้าสีของเขาหมุนวนอย่างบ้าคลั่งรัศมีพลังที่ส่องออกมาราวกับพระอาทิตย์ที่สว่างไสวและแข็งแกร่งไ
เคย์ฟี่พาลิลิธกลับมาที่ห้องของเธอเธอกับพูโรแยกกันนอนมานานแล้วหลังจากปิดประตู เธอก็รีบดึงลิลิธเข้าไปในห้องน้ำอย่างกระตือรือร้นน้ำร้อนถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วจากนั้นเคย์ฟี่ก็ปิดประตูห้องน้ำเสียงดังปังไม่นานนักก็มีเสียงอุทานของเคย์ฟี่ดังออกมาเป็นระยะด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอิจฉาลึก ๆครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องน้ำเคย์ฟี่ช่วยลิลิธแต่งตัวกับมือ จากนั้นก็ลงเครื่องสำอางให้เธอก่อนจะฉีดน้ำหอมสุดหรูราคาแพงเดิมทีลิลิธก็เป็นหญิงงามอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เสน่ห์ของเธอกลับเพิ่มขึ้นไปอีกระดับเธอมองเงาตัวเองในกระจกก่อนจะพยักหน้าด้วยความพอใจ ความมั่นใจของเธอเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วนจากนั้นเคย์ฟี่ก็พาลิลิธไปยังห้องของเย่ซิว เธอเคาะประตูเบา ๆภายในห้อง แน่นอนว่าเย่ซิวไม่มีความจำเป็นต้องนอนพักเขาเพิ่งกลั่นโอสถไปหลายเตา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เอาไว้ใช้เพื่อเพิ่มพลังบำเพ็ญตนแม้ว่าตอนนี้ผลลัพธ์ของมันอาจจะไม่ได้ทรงพลังมากนัก แต่ถ้าปริมาณมากพอก็ยังสามารถช่วยได้ตอนนี้เขามีโอสถกว่าพันเม็ดแล้วก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก เย่ซิวชะงักเล็กน้อยก่อนจะเก็บเตาหลอมและโอสถท
แต่ลิลิธกลับมีพรสวรรค์ในศาสตร์ด้านนี้สูงมาก จนสามารถฝึกฝนไปถึงระดับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนผู้ชายทั่วไปไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอเลยไม่เช่นนั้น วันรุ่งขึ้นมีหวังกลายเป็นซากศพแห้งตายอย่างแน่นอนแม้ว่าลิลิธจะมีชื่อเสียงด้านความงามโด่งดังไปทั่ว แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอเคย์ฟี่ดวงตาเป็นประกาย “ความคิดนี้ไม่เลวเลยนะ ลิลิธต้องเจอกับผู้ชายที่แข็งแกร่งระดับเย่ซิวเท่านั้นถึงจะรับมือไหวพอลิลิธทำสำเร็จแล้วเข้าไปอ้อนเย่ซิวอีกหน่อยลองชวนให้เขามาลองพี่น้องสุดเซ็กซี่ บางทีเขาอาจจะไม่ปฏิเสธก็ได้”พรีเอลล์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบพูดแทรกขึ้นมา “อย่าลืมแม่ลูกสุดแซ่บด้วย”เคย์ฟี่หัวเราะคิกคัก “อันนี้ก็ต้องดูที่ผลงานของลูกในอนาคตแล้วล่ะ”พูทมองด้วยความอิจฉาผู้ชายที่แท้จริงต้องเป็นแบบเย่ซิว ต้องผ่านดงดอกไม้นับไม่ถ้วนโดยไม่ทิ้งร่องรอยน่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะมีฝีมือพอตัว แต่เมื่อเทียบกับเย่ซิวแล้วยังห่างชั้นกันเกินไปแถมสาว ๆ ที่เขาเคยได้มาก็ยังไม่มีคุณภาพดีเท่านี้เลยด้วยซ้ำหลังจากหารือกันเสร็จ เคย์ฟี่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลิลิธด้วยตัวเองณ เมืองระดับแนวหน้าของประเทศจ้านฉงตี้
เย่ซิวมองสิ่งของที่วางอยู่ตรงหน้าตัวเองโดยไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากนักตอนนี้เงินทองพวกนี้ไม่ได้มีผลอะไรมากนักสำหรับเขาแล้วแต่รถยนต์ลอยตัวนั่นนับว่ายังพอมีค่าอยู่บ้างเขาย่อมรู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้ทำแบบนี้เพราะอะไรต้องยอมรับว่าเธอมีความกล้าหาญไม่น้อยเลยทีเดียวแต่เพียงแค่นี้ยังไม่พอที่จะทำให้เขาเชื่อใจเธอได้อย่างสมบูรณ์“ของพวกนี้ฉันรับไว้ แต่ถ้าพวกเธอยอมย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่สำนักโอสถจะยิ่งดีเข้าไปอีก”หากเป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งของกำไรที่พวกเขาได้รับในแต่ละปีจะต้องเสียภาษีนอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการพัฒนาบุคลากรท้องถิ่นของสำนักโอสถได้อีกด้วยที่สำคัญที่สุดคือสามารถใช้เป็นมาตรการควบคุมพวกเขาได้หากในอนาคตพวกเขาไม่เชื่อฟังหรือกระทำสิ่งใดที่เป็นภัยต่อสำนักโอสถเย่ซิวสามารถริบทรัพย์สินทั้งหมดของสำนักงานใหญ่ของพวกเขาไปได้ทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันทีเย่ซิวกำลังกุมจุดอ่อนของพวกเขาไว้อย่างแน่นหนาพูโรหัวเราะเสียงดัง “นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก บริษัทไม่ได้เป็นของผมเพียงคนเดียว ผมยังไม่อาจตอบตกลงได้ทันทีขอให้ผมจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันพรุ่งนี้ก่อน แล้วผมจะหารือก
นั่นคือสายตาที่มองลงมาจากระดับชีวิตที่สูงกว่าราวกับพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเย่ซิวตบไปที่หัวม้าศึกเพลิงน้ำแข็งเบา ๆ มันจึงยอมเก็บพลังของตัวเองกลับไป เปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ใต้กีบเท้าก็ค่อย ๆ มอดลงเคย์ฟี่มองเย่ซิวด้วยสายตาร้อนแรงตอนนี้เขาดูสง่างามและทรงอำนาจ ทั้งยังหล่อเหลาเกินบรรยาย เหนือกว่าเจ้าชายขี่ม้าขาวในฝันของเธอเสียอีกเธอถึงกับน้ำลายสอโลกนี้มีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ได้อย่างไรเย่ซิวหยิบของจำนวนหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของแล้ววางลงตรงหน้าพรีเอลล์กับพวกพ้อง “นี่คือส่วนแบ่งของพวกเธอในครั้งนี้ เอาไปได้เลย”พรีเอลล์ก้มลงมองของตรงหน้า จากนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที “ของพวกนี้มันไม่ใช่ของที่พวกเราเคยได้มาจากเรือรบของประเทศจ้านอิงตี้ครั้งก่อนเหรอ?”สิ่งที่เย่ซิวนำออกมาเป็นชุดเกราะและอาวุธต่าง ๆ ที่ได้มาเมื่อนานมาแล้ว“ใช่” เย่ซิวพยักหน้าโดยไม่ปิดบัง “ของที่ฉันได้จากข้างในมีค่ามากเกินไป ไม่สามารถให้พวกเธอได้เลยต้องใช้ของพวกนี้แทน”แม้สองพี่น้องจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกมาในตอนนี้พูทแววตาเป็นประกายขึ้นมา จากนั้นก็ฉีกเสื้อเป็นผืนเล็ก ๆ แล้วใช้มันมัด
เย่ซิวแสยะยิ้มมุมปาก “แกลองเดาดูสิว่าทำไมฉันถึงมั่นใจกล้าปล่อยแกออกมา”ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีขึ้นมาทันทีแต่มันยังไม่ทันได้คิดให้ถี่ถ้วน เย่ซิวก็เริ่มขยับริมฝีปากร่ายคาถาบางอย่างออกมาทันทีที่เสียงคาถาดังก้องในอากาศ ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งก็กรีดร้องอย่างเจ็บปวดทั่วร่างของมันปรากฏอักขระเรืองแสงผุดขึ้นมาจากผิวหนัง ค่อย ๆ ก่อตัวเป็นโซ่ตรวนล่องหนที่พันธนาการมันเอาไว้อย่างแน่นหนามันทรุดลงกับพื้นกลิ้งไปมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความทรมาน“สารเลว เหตุใดเจ้าถึง…พอได้แล้ว หยุดเดี๋ยวนี้ บอกว่าให้หยุดอย่างไรเล่า!”มันส่งเสียงร้องปวดร้าวจนใจแทบแตกสลายความปรารถนาที่จะฆ่าเย่ซิวที่มันเคยมีนั้นก็หายไปหมด ตอนนี้เหลือเพียงความหวาดกลัวอย่างท่วมท้นเท่านั้นเย่ซิวมีสีหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งความเมตตา และเขาไม่คิดจะหยุดแต่อย่างใด เขาสวดคาถาต่อเนื่องเป็นเวลากว่าสิบนาทีจนม้าศึกเพลิงน้ำแข็งถูกทรมานจนแทบไม่เหลือแรง เขาจึงหยุดลงในที่สุดตอนนี้ลมหายใจของมันสับสนวุ่นวาย ไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งโอหังเช่นตอนแรกอีกต่อไปสายตาที่มันมองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อเย่ซิวมีคาถานี้อยู่ในมือ เขาก็สามาร
เย่ซิวกำลังจะเดินออกจากห้องไปแต่ทันใดนั้น เขาหันไปมองที่กลางห้องก่อนจะดีดนิ้วส่งปราณกระบี่ออกไปทำลายพื้นด้านล่างปรากฏว่าข้างใต้มีช่องลับซ่อนอยู่ภายในนั้นมีหีบสีดำใบหนึ่งวางอยู่เย่ซิวสร้างร่างแยกขึ้นมาเพื่อเข้าไปเปิดมันภายในมีม้วนหนังสัตว์ปริศนาที่ไม่รู้ว่าทำจากหนังของสัตว์ชนิดใดเขาหยิบขึ้นมาดู พบว่ามีตัวอักษรเรียงรายแน่นหนาอยู่เต็มไปหมดแต่ไม่ใช่ตัวอักษรที่ใช้กันในปัจจุบัน เย่ซิวจึงอ่านมันไม่ออกในทันทีเขาทำได้แค่เก็บมันไว้ก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ไขปริศนาในภายหลังตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งเท่านั้นจากนั้นเย่ซิวก็เดินไปยังจุดที่มันถูกผนึกไว้ทันทีที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งสัมผัสได้ถึงการเข้าใกล้ของเขา มันก็เริ่มส่งเสียงโหยหวนขึ้นมา“ข้ายอมแล้วพี่ชาย ท่านเป็นบรรพบุรุษของข้าเลย ปล่อยข้าไปเถอะ อย่าดูดพลังข้าอีกเลย ถ้าดูดต่อไปข้าต้องตายจริง ๆ แน่”มันไม่เคยเจอมนุษย์ที่โหดร้ายบ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อนถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายของมันแข็งแกร่งแต่กำเนิด ป่านนี้มันคงสลายไปแล้วเย่ซิวไม่คิดจะเสียเวลาคุยไร้สาระกับมัน เขาก้าวไปข้างหน้าโอบกอดหนึ่งในเสาหลักของผนึก ก่