All Chapters of องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน: Chapter 121 - Chapter 130

982 Chapters

บทที่ 121

อันที่จริง ต่อให้หยุนเจิงจะไม่เสียงดัง ผู้คนล้วนรู้ดีว่าบทกวีนี้จางซูไม่ได้เป็นผู้ประพันธ์จะมีนักกวีคนไหนที่อ้าปากค้างมองไปทั่วทิศเช่นนี้กันเล่า! นี่ขานไปถึงครึ่งหนึ่งก็ไม่สามารถขานต่อไปได้ เห็นได้ชัดว่าคัดลอกผู้อื่นมา แต่พอขึ้นเวทีกลับลืมไปสเยแล้ว!“ฮ่าๆ…”เมิ่งกว่างไป๋หัวเราะเสียงดัง “จางซูเอ๋ยจางซู เจ้ามันเป็นคนมีความสามรถที่ไร้ประโยชน์เสียจริง! กระทั่งสิ่งที่คัดลอกของผู้อื่นมายังท่องจำไม่ได้ เจ้าดูเจ้าสิ เจ้ายังจะทำอะไรได้อีก”“ข้า…”จางซูละอายใจ ทันใดนั้นนัยน์ตาก็ฮึกเหิมขึ้นมา ด่าทอเกรี้ยวกราดว่า “บิดายังสามารถเอามารดาเจ้าได้ เจ้าลองเรียกแม่เจ้ามาลองดูสิ!”สิ้นเสียงด่าของจางซู ผู้คนล้วนตะลึงงันปราชญ์กวีผู้มีความสามารถที่อยู่ที่นี่ จะเคยคาดคิดที่ไหนกันเล่าว่าจะมีผู้ใดกล้ากล่าววาจาหยาบกระด้างเช่นนี้ต่อหน้าธารกำนัลเมิ่งกว่างไป๋โกรธเป็นที่สุด ชี้ด่าจางซูว่า “ไร้ยางอาย! เจ้าเป็นความอับอายของตระกูลจาง! เหตุใดจางเก๋อเหล่าจึงมีหลานชายเช่นเจ้าได้!” คำพูดของเมิ่งกว่างไป๋ก็ได้รับการตอบรับจากผู้คน“เรื่องอันใดของเจ้า!”อย่างไรเสียก็ถูกคนดูออกแล้ว จางซูจึงปล่อยตัวปล่อยใจ มองไป
Read more

บทที่ 122

“ดาบเดียวจะหนาวสะท้านไปทุกแคว้น! วิเศษจริงๆ”“กลอนนี้ดี ช่างดีจริงๆ!”“กลอนบทนี้เมื่อเทียบกับของคุณชายหวางแล้ว เหนือกว่าขั้นหนึ่ง!”“ดาบเดียวจะหนาวสะท้านไปทุกแคว้น! แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ก็ทำให้กลอนบทนี้เป็นที่หนึ่งในวันนี้ได้แล้ว!”“พอมีกลอนนี้แล้ว คุณชายเมิ่งต้องมีชื่อเสียงขจรไปทั่วแน่นอน…”ในชั่วขณะเดียว เสียงร้องดังร้องว่าดีไม่หยุดหย่อนเมี่ยวอินเองก็พยักหน้าไม่หยุด ราวกับว่านางชื่นชอบกลอนบทนี้เป็นอย่างมาก“ทุกท่านกล่าวชมกันเกินไปแล้ว ข้าเองก็คิดกลอนนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่คู่ควรกับคำชมของทุกท่านขอรับ!”เมิ่งกว่างไป๋กล่าวไปทางผู้คน ท่าทางได้ใจเป็นอย่างยิ่ง“เจ้าสุนัข!”จางซูมองไปทางเมิ่งกว่างไป๋อย่างไม่พอใจเป็นที่สุด แล้วเข้าไปข้างกายหยุนเจิง “องค์ชาย เจ้ายังจำบทกลอนอื่นที่ฮูหยินเยี่ยจื่อประพันธ์ได้อีกหรือไม่?”“ข้ายัง…จำได้อีกสองบท”หยุนเจิงส่ายหัวไปมา แสร้างทำว่ากำลังเมามาย ขณะเดียวกันก็กระดกสุราลงท้องไปอีกหนึ่งจอก“องค์ชาย อย่างดื่มอีกเลย ถ้าดื่มอีกเจ้าก็จะลืมอีกแล้ว!!”จางซูรีบหยุดหยุนเจิง “ฉวยโอกาสตอนที่เจ้ายังไม่เมา รีบร่ายกลอนพวกนั้นเร็ว เชือดเจ้าสุนัขเมิ่
Read more

บทที่ 123

สิ้นเสียงของหยุนเจิง ในสถานที่แห่งนั้นก็พลันสงบเงียบตามไปด้วยเหล้าองุ่นรสล้ำเลิศ รินกันเถิดจอกแสงจันทร์ อยากลิ้มร่วมชิมกัน พิณผีผามาเร่งเตือนเมามายบนผืนทราย อย่ายิ้มหมายมาเชือดเฉือน โบราณศึกกลาดเกลื่อน เพื่อนได้กลับสักกี่คน คนไม่น้อยล้วนหลับตาลง ดื่มด่ำกับเรื่องราวเหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนต่างจากกลอนของเมิ่งกว่างไป๋และหวังเสี่ยนที่กล้าหาญและใจกว้าง กลอนบทนี้มีความเป็นอิสระ ไร้กฎเกณฑ์ยิ่งกว่า เป็นการมองความเป็นความตายอย่างปล่อยวางแบบหนึ่งประโยคที่กล่าวว่า “เมามายบนผืนทราย อย่ายิ้มหมายมาเชือดเฉือน โบราณศึกกลาดเกลื่อน เพื่อนได้กลับสักกี่คน” ทำให้คนไม่น้อยตบโต๊ะชื่นชม“กลอนดีนี่! นี่ต่างหากที่เป็นกลอนที่ดีอย่างแท้จริง!”“มีความเป็นอิสระ ไร้กฎเกณฑ์ บ้าคลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ...”“โบราณศึกกลาดเกลื่อน เพื่อนได้กลับสักกี่คน ใช่แล้ว โบราณศึกกลาดเกลื่อน จะมีสักกี่คนที่สามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย”“ในความเห็นของข้า กลอนบทนี้ไร้กฎเกณฑ์ยิ่ง ความกล้าหาญก็ไม่มากพอ! ยังคงเป็นประโยคดาบเดียวจะหนาวสะท้านไปทุกแคว้นของคุณชายเมิ่งที่ดุดันยิ่งกว่า!”“ไม่ใช่ ไม่ใช่! กลอนของคุณชายเมิ่ง ดุดั
Read more

บทที่ 124

“ในทะเลทรายรกร้างว่างเปล่า มีการสู้รบมากมาย ทหารกล้าผ่านการสู้รบนับร้อยครั้ง กระทั่งเกราะเหล็กบนร่าง ก็ร้าวแล้ว แต่ขอแค่ศึกสงครามชายแดนยังไม่สิ้นสุด ก็ไม่มีทางที่จะถอดชุดเกราะหวนคืนบ้านเกิด”ในตอนนี้เองที่เสียง “เมาอ้อแอ้” ของหยุนเจิงดังขึ้นอีกครั้งบึ้ม!เมื่อได้ยินเสียงของหยุนเจิง ภายในสถานที่แห่งนั้นก็พลันเงียบสงัดทุกคนล้วนตะลึงมองหยุนเจิงอย่างแทบจะไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองโดยเฉพาะ “ในทะเลทรายรกร้างว่างเปล่า มีการสู้รบมากมาย ทหารกล้าผ่านการสู้รบนับร้อยครั้ง กระทั่งเกราะเหล็กบนร่าง ก็ร้าวแล้ว แต่ขอแค่ศึกสงครามชายแดนยังไม่สิ้นสุด ก็ไม่มีทางที่จะถอดชุดเกราะหวนคืนบ้านเกิด” ประโยคนี้ ยิ่งทำให้เลือดในกายผู้คนเดือดพล่านกลอนบทที่สามแล้ว!นี่คือกลอนบทที่สามของเขาแล้ว!ภายในระยะเวลาสั้นๆ เท่านี้ คนผู้นี้ถึงกับประพันธ์กลอนติดกันได้ถึงสามบทเชียวหรืออีกอย่าง ยังอยู่ในสภาพเมามายด้วย!ทุกบทกลอนล้วนเป็นบทกลอนชั้นเลิศ“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว!”“ผู้นำในคืนนี้จะต้องเป็นของคุณชายหลิวท่านนี้แต่เพียงผู้เดียวแน่นอน!”“เมื่อสามบทกลอนนี้หลุดออกมา กลอนทั้งหมดล้วนหม่นหมองไร้สีสันแล้ว...
Read more

บทที่ 125

เสียงดุด่าของหยุนเจิงอย่างบ้าคลั่งดังขึ้นในฉวินฟางย่วนไม่หยุดโอรสสวรรค์จะต้องเฝ้าประตูแผ่นดิน?ร่วมเป็นร่วมตายพร้อมแว่นแคว้น?ทุกคนมองหน้ากันคำพูดนี้ พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยจริงๆ!ใครเป็นคนพูดกันนี่?ยังไม่รอจนทุกคนได้สติคืนมา หยุนเจิงก็ฉวยโอกาสฤทธิ์สุรามาดุด่าขึ้นอีก “ทุกวันนี้มีเรื่องมากมายให้ทุกข์ใจ ฝ่าบาทไม่สะดวกจะออกรบด้วยตนเอง ที่องค์ชายหกต้องไปซั่วเป่ย ก็เพราะต้องออกรบแทนบิดา!”“องค์ชายหกแม้ว่าบู๊จะไม่ได้บุ๋นก็ไม่เด่น แต่เขาไม่กลัวตายเลยจริงๆ!”“ใครเกิดมาก็ต้องตาย จะหนักแน่นดุจขุนเขา หรือจะเบาบางดั่งขนนก!”“แม้ว่าสุดท้ายองค์ชายหกจะตายในสนาม แต่การตายของเขาก็เพียงพอในการปลุกใจทหารในซั่วเป่ยของเราแล้ว!”“หากความตายขององค์ชายหกสามารถทำให้พวกเราทบทวนตัวเองได้ สามารถปลุกเลือดร้อนในกายของชายชาติต้าเฉียน การตายของเขาก็นับว่าคุ้มค่าแล้วจริงๆ!”วินาทีนี้ ราวกับว่าหยุนเจิงเป็นนักพูดชื่อดังทุกประโยคหนักแน่นมีพลัง ทุกประโยคมีเหตุผลหากไม่ใช่เพราะเขามีอาการเมามาย ผู้คนคงอยากจะเข้ามาคาราวะเข้าแล้วต่อให้นี่จะเป็นคำพูดของ ‘คนเมา’ เลือดรักบ้านเมืองผู้คนที่อยู่ที่นั่นก็ถูกปล
Read more

บทที่ 126

เมื่อได้ฟังคำอธิบายของหยุนเจิงแล้ว เยี่ยจื่อพลันตะลึงตกใจอย่างควบคุมไม่อยู่ จากนั้นมองหยุนเจิงด้วยสายตาไม่น่าเชื่อเขาเขียนบทกวีสี่บทภายในเวลาไม่ถึงสองก้านธูป?แถมบทกวีทุกบทยังอยู่ในขั้นยอดเยี่ยมอีกด้วยความสามารถนี้ ทำผู้คนตะลึงตกใจมากจริงๆ“ข้าไม่ได้เป็นคนแต่งหรอก”หยุนเจิงส่ายศีรษะหัวเราะกลบเกลื่อน “เจ้าเป็นคนเขียนต่างหาก ข้าเพียงแค่ลอกมาเท่านั้น”“เป็นไปได้อย่างไร ข้าเขียนตั้งแต่เมื่อใด…”เยี่ยจื่อเอ่ยโดยสัญชาตญาณ ทว่าเพียงเอ่ยได้ครึ่งประโยค นางก็ได้รู้ตัวทันทีเห็นได้ชัดว่าบทกวีเหล่านี้เขาเป็นคนแต่งเอง!เพียงแต่เขาต้องการให้ผู้คนเข้าใจว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ไม่รู้ทั้งบุ๋นทั้งบู๊ต่อไปจึงได้ใช้นามของตนเท่านั้น!“ได้ เจ้ามันแน่มาก!”เยี่ยจื่อหมดคำจะพูดกับหยุนเจิง “ต่อไปหากผู้อื่นขอให้ข้าผู้เป็นหญิงเก่งจอมปลอมคนนี้เขียนกวีขึ้นมา แล้วข้าเขียนออกมาไม่ได้ล่ะก็ ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะพูดกับผู้อื่นว่าอย่างไร!”เยี่ยมจริงๆ!ตนไม่เคยเขียนกวีเลยแม้แต่คำเดียว แต่กลับกลายเป็นสตรีมีพรสวรรค์เสียได้การกระทำของเขานี่มันต้องการจะเผาตนบนเตาไฟชัดๆ!“วางใจเถอะ ข้าคิดแทนเจ้าไว้แล้ว”หยุน
Read more

บทที่ 127

“ได้ข่าวหรือไม่ว่าในงานประพันธ์กวีที่สมาคมกวีฉวินฟางย่วนเมื่อคืนนี้มีคุณชายท่านหนึ่งเขียนบทกวีได้ทั้งหมดสี่บทได้เวลาไม่ถึงสองก้านธูป ทำเอาคนในงานต่างต้องหน้าถอดสีกันเลย…”“จะไม่ได้ข่าวได้อย่างไรเล่า ได้ยินว่าคุณชายหลิวผู้นั้นยังก่นด่าผู้คนว่าโอดครวญอย่างไร้เหตุผล…”“ใช่ๆ คุณชายหลิวเป็นคนฮึกเหิม ชื่นมความตั้งใจจะเดินทางไปซั่วเป่ยขององค์ชายหก”“ทุกคนถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องตาย อาจจะหนักกว่าภูเขา หรือเบากว่าขนนก คำพูดของคุณชายหลิวผู้นั้นได้พูดถึงความน่าเศร้าของการเดินทางสู่ซั่วเป่ยขององค์ชายหก…”“ไม่เคยมีเคยจักรพรรดิและองค์ชายที่ปราดเปรื่องเช่นนี้มาก่อน…”วันถัดมา เกิดความชุลมุนวุ่นวายไปทั้งเมืองหลวงไม่ว่าบนท้องถนนหรือตรอกซอยเล็กล้วนสามารถเห็นกลุ่มคนสามถึงห้าคนรวมตัวกันวิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรือนฉวินฟางย่วนนอกจากบทกวีทั้งสี่บทของหยุนเจิงที่ถูกแพร่ออกไปทั่วแล้ว ยังมีข่าวเรื่ององค์ชายหกจะเดินทางไปยังซั่วเป่ย และยอมตายเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เหล่าทหารออกมาด้วยการตัดสินพระทัยของจักรพรรดิเหวินในครั้งนี้ ก็ได้รับการชื่นชมมากมายจากผู้คนในเมืองหลวงด้วยแต่ทว่าในราชวังหลวง จ
Read more

บทที่ 128

เรื่องใหญ่อะไรอย่างนี้!ตาแก่นี่ก็เหมือนกัน แค่เรื่องขี้ปะติ๋วเช่นนี้ถึงกับต้องทรมานขนาดนั้นทำเอาตัวเองคิดว่าได้ก่อกรรมทำชั่วจนสวรรค์และผู้คนต่างก็พากันเคียดแค้นเสียอีก!ขณะที่จักรพรรดิเหวินช่วยพยุงจางฮว๋ายนั่งด้วยตัวเอง มู่ซุ่นก็พรวดพราดเข้ามา กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง พอเหลือบมองจางฮว๋ายที่อยู่ข้างๆ เขาก็ลังเลจักรพรรดิเหวินขมวดคิ้วพูดว่า “ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะ อย่ามัวแต่กระอึกกระอัก”มู่ซุ่นยิ้มอย่างขออภัย แล้วจึงพูดว่า “ฝ่าบาท คนที่แต่งบทกวีในฉวินฟางย่วนเมื่อคืน ดูเหมือนจะรู้จักจางซูหลานชายของจางเก๋อเหล่าพ่ะย่ะค่ะ”“อะไรนะ”สีหน้าของจักรพรรดิเหวินเปลี่ยนไปจางฮว๋ายเห็นดังนี้ ก็ถอนหายใจพูดขึ้นทันทีว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมมีความผิด สารเลวจางซูคนนั้นคือคนที่พาองค์ชายหกไปที่ฉวินฟางย่วนเมื่อคืนวาน สารเลวนั่นยังเรียกหญิงนางโลมนับสิบคนมารับใช้อย่างไร้ยางอาย...”ครั้นจักรพรรดิเหวินได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็กระตุกอย่างรุนแรงยังเรียกหญิงนางโลมสิบคนมาด้วย?สารเลวนี่ ไม่กลัวตายบนอกสตรีหรอกรึจักรพรรดิเหวินเงียบไปครู่หนึ่ง สั่งการมู่ซุ่นทันที “ไป ให้คนไปถามจางซูว่า ใครเป็นผู้ที่ประพันธ์บ
Read more

บทที่ 129

ในช่วงบ่าย หยุนเจิงไปพบจางซูตามปกติทันทีที่เขามาถึงทางเข้าลานบ้านของจางซู ก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากข้างใน“จะฆ่าคนแล้ว!”“ช่วยด้วย...”เมื่อได้ยินเสียงนี้ หยุนเจิงก็ต้องตกใจเล็กน้อยนี่ดูเหมือนจะเป็นเสียงของจางซู?เกิดอะไรขึ้นกับจางซู“เร็ว รีบเข้าไปดูเร็วเข้า!”หยุนเจิงรีบร้องเรียกเกาเหอพวกเขาให้รีบเข้าไปในเรือนทันทีที่พวกเขาบุกเข้าไปในเรือนด้านใน ก็เห็นจางซูที่จมูกบวมช้ำใบหน้าบวมปูดกำลังวิ่งหนีขณะที่ร้องเรียกหาบุพการีเป็นการใหญ่แม้ว่าจางซูจะอ้วนท้วนมาก แต่พอเป็นการหนีเอาชีวิตรอดเขากลับไม่ช้าเลย“องค์ชายหก ช่วยด้วย!”เมื่อเห็นหยุนเจิง จู่ๆ จางซูก็วิ่งเข้าไปหาราวกับเห็นดาวช่วยชีวิต“จางซู โง่เง่าเต่าตุ่น! เจ้าคิดหรือว่าจะวิ่งหนีพ้น”เสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้นตามหลังจางซูหลังจากนั้น ร่างสีชมพูก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลังจางซูนั่นคือ...เสิ่นลั่วเยี่ยน?หยุนเจิงตกตะลึงงัน มองดูเสิ่นลั่วเยี่ยนที่กำลังถือไม้กระบองไล่ตีจางซูอย่างอึ้งๆพอรู้สึกตัว หยุนเจิงก็รีบวิ่งไปหา ยืนกั้นกลางอยู่ระหว่างเสิ่นลั่วเยี่ยนกับจางซู“เจ้าทำอะไรอยู่น่ะ”หยุนเจิงมองไปที่เสิ่นลั่วเยี่ยนอ
Read more

บทที่ 130

เสิ่นลั่วเยี่ยนสะอึก หันไปมองหยุนเจิงอย่างโกรธเคือง “ข้าทำเพื่อผู้ใดเล่า ข้าอยากจะสับร่างพวกเจ้าสองคนจริงๆ เลยเชียว!”ครั้งนี้เสิ่นลั่วเยี่ยนโกรธจริงๆหยุนเจิงก่อเรื่องในฉวินฟางย่วนขนาดนี้ ตอนนี้ทุกคนในเมืองหลวงรู้แล้วว่าจักรพรรดิเหวินมีราชโองการว่าหลังจากเขาแต่งงานแล้วให้ไปที่ซั่วเป่ยตอนนี้เขามีชื่อเสียงดีแล้ว ทุกคนภายนอกต่างชื่นชมเขาในความกล้าหาญของเขา และยกย่องเขาที่ไม่กลัวความตายแต่พอเขาก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น ถ้าไปที่ซั่วเป่ยก็เท่ากับไปตายเท่านั้น!จะให้นางไม่โกรธได้หรือไม่เพียงแต่นางเท่านั้นที่โกรธ แต่ฮูหยินเสิ่นก็กระทืบเท้าอย่างโกรธจัดโชคดีที่คำพูดเหล่านี้มาจากปากของหยุนเจิงเองหากออกมาจากปากของคนอื่น นางคงจะสับคนสารเลวนั่นเป็นชิ้นๆ จริงๆ!“ก็ข้าดื่มจนเมามายไม่ได้สติ”หยุนเจิงเผชิญสายตากับเสิ่นลั่วเยี่ยน “เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว จะเป็นอย่างไรก็ปล่อยให้เป็นไป เจ้ามาก่อเรื่องที่นี่จะมีประโยชน์อะไร พรุ่งนี้เสด็จพ่อของข้าจะไปล่าสัตว์ที่หนานย่วน ให้คนมาแจ้งข้าเป็นพิเศษว่าต้องพาเจ้าไปด้วย! ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ขอให้เสด็จพ่อมีราชโองการยกเลิกการแต่งงานขอ
Read more
PREV
1
...
1112131415
...
99
DMCA.com Protection Status