Share

บทที่ 127

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
“ได้ข่าวหรือไม่ว่าในงานประพันธ์กวีที่สมาคมกวีฉวินฟางย่วนเมื่อคืนนี้มีคุณชายท่านหนึ่งเขียนบทกวีได้ทั้งหมดสี่บทได้เวลาไม่ถึงสองก้านธูป ทำเอาคนในงานต่างต้องหน้าถอดสีกันเลย…”

“จะไม่ได้ข่าวได้อย่างไรเล่า ได้ยินว่าคุณชายหลิวผู้นั้นยังก่นด่าผู้คนว่าโอดครวญอย่างไร้เหตุผล…”

“ใช่ๆ คุณชายหลิวเป็นคนฮึกเหิม ชื่นมความตั้งใจจะเดินทางไปซั่วเป่ยขององค์ชายหก”

“ทุกคนถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องตาย อาจจะหนักกว่าภูเขา หรือเบากว่าขนนก คำพูดของคุณชายหลิวผู้นั้นได้พูดถึงความน่าเศร้าของการเดินทางสู่ซั่วเป่ยขององค์ชายหก…”

“ไม่เคยมีเคยจักรพรรดิและองค์ชายที่ปราดเปรื่องเช่นนี้มาก่อน…”

วันถัดมา เกิดความชุลมุนวุ่นวายไปทั้งเมืองหลวง

ไม่ว่าบนท้องถนนหรือตรอกซอยเล็กล้วนสามารถเห็นกลุ่มคนสามถึงห้าคนรวมตัวกันวิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรือนฉวินฟางย่วน

นอกจากบทกวีทั้งสี่บทของหยุนเจิงที่ถูกแพร่ออกไปทั่วแล้ว ยังมีข่าวเรื่ององค์ชายหกจะเดินทางไปยังซั่วเป่ย และยอมตายเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เหล่าทหารออกมาด้วย

การตัดสินพระทัยของจักรพรรดิเหวินในครั้งนี้ ก็ได้รับการชื่นชมมากมายจากผู้คนในเมืองหลวงด้วย

แต่ทว่าในราชวังหลวง จ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
การัณย์ ผาณิตพิเชฐวงศ์
อ่านแล้วขาดตอน ไม่ได้เรื่อง
goodnovel comment avatar
นิติ ตรีตรง
ลงน้อยเกิน...... อ่อน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 128

    เรื่องใหญ่อะไรอย่างนี้!ตาแก่นี่ก็เหมือนกัน แค่เรื่องขี้ปะติ๋วเช่นนี้ถึงกับต้องทรมานขนาดนั้นทำเอาตัวเองคิดว่าได้ก่อกรรมทำชั่วจนสวรรค์และผู้คนต่างก็พากันเคียดแค้นเสียอีก!ขณะที่จักรพรรดิเหวินช่วยพยุงจางฮว๋ายนั่งด้วยตัวเอง มู่ซุ่นก็พรวดพราดเข้ามา กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง พอเหลือบมองจางฮว๋ายที่อยู่ข้างๆ เขาก็ลังเลจักรพรรดิเหวินขมวดคิ้วพูดว่า “ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะ อย่ามัวแต่กระอึกกระอัก”มู่ซุ่นยิ้มอย่างขออภัย แล้วจึงพูดว่า “ฝ่าบาท คนที่แต่งบทกวีในฉวินฟางย่วนเมื่อคืน ดูเหมือนจะรู้จักจางซูหลานชายของจางเก๋อเหล่าพ่ะย่ะค่ะ”“อะไรนะ”สีหน้าของจักรพรรดิเหวินเปลี่ยนไปจางฮว๋ายเห็นดังนี้ ก็ถอนหายใจพูดขึ้นทันทีว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมมีความผิด สารเลวจางซูคนนั้นคือคนที่พาองค์ชายหกไปที่ฉวินฟางย่วนเมื่อคืนวาน สารเลวนั่นยังเรียกหญิงนางโลมนับสิบคนมารับใช้อย่างไร้ยางอาย...”ครั้นจักรพรรดิเหวินได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็กระตุกอย่างรุนแรงยังเรียกหญิงนางโลมสิบคนมาด้วย?สารเลวนี่ ไม่กลัวตายบนอกสตรีหรอกรึจักรพรรดิเหวินเงียบไปครู่หนึ่ง สั่งการมู่ซุ่นทันที “ไป ให้คนไปถามจางซูว่า ใครเป็นผู้ที่ประพันธ์บ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 129

    ในช่วงบ่าย หยุนเจิงไปพบจางซูตามปกติทันทีที่เขามาถึงทางเข้าลานบ้านของจางซู ก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากข้างใน“จะฆ่าคนแล้ว!”“ช่วยด้วย...”เมื่อได้ยินเสียงนี้ หยุนเจิงก็ต้องตกใจเล็กน้อยนี่ดูเหมือนจะเป็นเสียงของจางซู?เกิดอะไรขึ้นกับจางซู“เร็ว รีบเข้าไปดูเร็วเข้า!”หยุนเจิงรีบร้องเรียกเกาเหอพวกเขาให้รีบเข้าไปในเรือนทันทีที่พวกเขาบุกเข้าไปในเรือนด้านใน ก็เห็นจางซูที่จมูกบวมช้ำใบหน้าบวมปูดกำลังวิ่งหนีขณะที่ร้องเรียกหาบุพการีเป็นการใหญ่แม้ว่าจางซูจะอ้วนท้วนมาก แต่พอเป็นการหนีเอาชีวิตรอดเขากลับไม่ช้าเลย“องค์ชายหก ช่วยด้วย!”เมื่อเห็นหยุนเจิง จู่ๆ จางซูก็วิ่งเข้าไปหาราวกับเห็นดาวช่วยชีวิต“จางซู โง่เง่าเต่าตุ่น! เจ้าคิดหรือว่าจะวิ่งหนีพ้น”เสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้นตามหลังจางซูหลังจากนั้น ร่างสีชมพูก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลังจางซูนั่นคือ...เสิ่นลั่วเยี่ยน?หยุนเจิงตกตะลึงงัน มองดูเสิ่นลั่วเยี่ยนที่กำลังถือไม้กระบองไล่ตีจางซูอย่างอึ้งๆพอรู้สึกตัว หยุนเจิงก็รีบวิ่งไปหา ยืนกั้นกลางอยู่ระหว่างเสิ่นลั่วเยี่ยนกับจางซู“เจ้าทำอะไรอยู่น่ะ”หยุนเจิงมองไปที่เสิ่นลั่วเยี่ยนอ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 130

    เสิ่นลั่วเยี่ยนสะอึก หันไปมองหยุนเจิงอย่างโกรธเคือง “ข้าทำเพื่อผู้ใดเล่า ข้าอยากจะสับร่างพวกเจ้าสองคนจริงๆ เลยเชียว!”ครั้งนี้เสิ่นลั่วเยี่ยนโกรธจริงๆหยุนเจิงก่อเรื่องในฉวินฟางย่วนขนาดนี้ ตอนนี้ทุกคนในเมืองหลวงรู้แล้วว่าจักรพรรดิเหวินมีราชโองการว่าหลังจากเขาแต่งงานแล้วให้ไปที่ซั่วเป่ยตอนนี้เขามีชื่อเสียงดีแล้ว ทุกคนภายนอกต่างชื่นชมเขาในความกล้าหาญของเขา และยกย่องเขาที่ไม่กลัวความตายแต่พอเขาก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น ถ้าไปที่ซั่วเป่ยก็เท่ากับไปตายเท่านั้น!จะให้นางไม่โกรธได้หรือไม่เพียงแต่นางเท่านั้นที่โกรธ แต่ฮูหยินเสิ่นก็กระทืบเท้าอย่างโกรธจัดโชคดีที่คำพูดเหล่านี้มาจากปากของหยุนเจิงเองหากออกมาจากปากของคนอื่น นางคงจะสับคนสารเลวนั่นเป็นชิ้นๆ จริงๆ!“ก็ข้าดื่มจนเมามายไม่ได้สติ”หยุนเจิงเผชิญสายตากับเสิ่นลั่วเยี่ยน “เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว จะเป็นอย่างไรก็ปล่อยให้เป็นไป เจ้ามาก่อเรื่องที่นี่จะมีประโยชน์อะไร พรุ่งนี้เสด็จพ่อของข้าจะไปล่าสัตว์ที่หนานย่วน ให้คนมาแจ้งข้าเป็นพิเศษว่าต้องพาเจ้าไปด้วย! ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ขอให้เสด็จพ่อมีราชโองการยกเลิกการแต่งงานขอ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 131

    เมื่อถึงยามอัสดง เยี่ยจื่อรีบกลับไปยังจวนสกุลเสิ่นนางเพิ่งจะทอดน่องเดินเข้าประตูจวนไป ก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ภายในจวน“ท่านแม่ล่ะ?”เยี่ยจื่อกล่าวถามพี่สะใภ้ใหญ่เว่ยซวงเว่ยซวงกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “ท่านแม่กับลั่วเยี่ยนอารมณ์ไม่ค่อยดี ฝึกวรยุทธ์กันอยู่ที่ลานหลังจวน!”“ข้าจะไปหาท่าน”หลังจากพูดคุยกับเว่ยซวงไปไม่กี่คำ เยี่ยจื่อก็รีบวิ่งไปที่ลานหลังจวนอย่างรวดเร็วยังไม่ทันผ่านประตูหลังจวน นางก็ได้ยินเสียงหอกดาบปะทะกันแล้วเยี่ยจื่อเดินเข้าประตูลานหลังจวนก็เห็นเสินลั่วเยี่ยนกับท่านแม่กำลังประลองยุทธ์กันอยู่คาดว่าตอนนี้พวกนางน่าจะโกรธเกรี้ยวเป็นฟืนเป็นไฟจนมิอาจระงับได้แล้ว จึงทำได้เพียงใช้วิธีนี้เพื่อระบายความโกรธภายในใจออกมาเมื่อเห็นเยี่ยจื่อเข้ามา สองแม่ลูกคู่นี้จึงหยุดการประลองลง“เจ้าสารเลวนั่นใช้ให้เจ้ากลับมาโน้มน้าวพวกเราใช่หรือไม่?”ฮูหยินเขวี้ยงหอกยาวในมือไปข้างๆ และกล่าวถามอย่างไม่สบอารมณ์เยี่ยจื่อรู้สึกประหลาดใจถึงขั้นเรียกหยุนเจิงเช่นนี้เลยหรือ!ดูท่าท่านแม่คงจะโกรธเอามากจริงๆ!“ข้ากลับมาเยี่ยมท่านแม่บ้างไม่ได้หรือเจ้าคะ?”เยี่ยจื่อเม้มปากยิ้มเล็กน้อย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 132

    หลังจากที่ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง ฮูหยินเสิ่นก็เรียกสติกลับมาอย่างยากลำบาก “นี่เจ้าไม่ได้โกหกแม่ใช่หรือไม่?”“ข้าจะโกหกท่านแม่ด้วยเหตุใดกันเล่าเจ้าคะ?”เยี่ยจื่อส่ายหน้ากล่าวเสียงต่ำว่า “ท่านแม่ลองคิดดูสิเจ้าคะ องค์ชายหกไม่ได้มีรากฐานอันใด ระหว่างอยู่เมืองหลวงกับไปซั่วเป่ย ท่านแม่คิดว่าที่ใดที่จะเป็นโอกาสดีสำหรับเขาเจ้าคะ?”ฮูหยินเสิ่นได้ยินเช่นนี้ก็ครุ่นคิดขึ้นอีกครั้งว่ากันตามหลักเหตุผลแล้ว หากหยุนเจิงเป็นคนที่มีพรวสรรค์การที่เขาไปซั่วเป่ยเป็นหนทางที่ดีกว่าแน่นอนทว่า น่าเสียดายที่หยุนเจิงเป็นเพียงแค่องค์ชายที่ไร้ความสามารถทั้งทางบุ๋นและทางบู๊การไปซั่วเป่ยของเขา อย่างไรก็เสียก็เหมือนไปตายอยู่ดีฮูหยินเสิ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวความคิดของตนเองให้ลูกสะใภ้รองฟัง“เจ้าประเมินเขาต่ำเกินไปแล้ว”จื่อเยี่ยส่ายหน้ายิ้มพลางกล่าวว่า “กา รต่อสู้ของเขาไม่ได้จริงๆ แต่สติปัญญาของเขาเหนือข้ามาก มิเช่นนั้นแล้วท่านแม่คิดหรือว่าข้าจะยอมอยู่ในจวนเขาได้นานถึงเพียงนี้”ในขณะที่กล่าวนั้นเยี่ยจื่อก็กดเสียงต่ำลงอีกครั้ง และแพร่งพรายเรื่องรูปปั้นหินและถาดรองที่หยุนเจิงให้นางแพร่งพรายออกไปเม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 133

    ยามรัตติกาล ณ ห้องทรงพระอักษรเนื่องจากวันพรุ่งต้องออกเดินทางไปล่าสัตว์ ในค่ำคืนนี้จักรพรรดิเหวินจึงไม่ได้ประทับอยู่กับสนมนางใดและแน่นอนว่าพระองค์เองก็ไม่ได้อารมณ์เช่นนั้น“ตรวจสอบรู้แจ้งแล้วหรือไม่?”จักรพรรดิเหวินเอนกายพักผ่อนอยู่บนแท่ยพระบรรมในห้องทรงพระอักษร โดยมีนางกำนัลสองนางคุกเข่านวดพระชงฆ์ให้จักรพรรดิเหวินอยู่ และมู่ซุ่นโค้งคำนับอยู่ข้างๆ“ตรวจสอบได้เรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”มู่ซุ่นรายงานว่า “เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเมิ่งกว่างไป๋ บุตรชายของหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดินเมิ่งรั่ววั่งพ่ะย่ะค่ะ”เมิ่งกว่างไป๋อย่างนั้นหรือ?จักรพรรดิเหวินขมวดพระขนงขึ้นพลางตรัสถาม “เรื่องมันเป็นมาอย่างไรกันแน่?”มู่ซุ่ยตอบ “หลังจากที่องค์ชายหกดื่มจนเมาและได้เขียนบทกวีขึ้น ด้วยความเมาจึงกล่าวตำหนิผู้เข้าร่วมการแต่งประพันธ์กวีเหล่านั้นว่าตีตนไปก่อนไข้ และได้กล่าวถึงเรื่องที่องค์ชายหกจะไปซั่วเป่ย จึงทำให้เมิ่งกว่างไป๋เกิดความสงสัยขึ้น องค์ชายหกจึงโต้แย้งไปด้วยความโกรธ จึงทำให้เกิดเรื่องราวหลังจากนั้นพ่ะย่ะค่ะ…”“สงสัยหรือ?”จักรพรรดิเหวินหรี่พระเนตรพลางตรัส “เมิ่งกว่างไป๋สงสัยอันใด?”มู่ซุ่นมองจั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 134

    “เจ้าหกไม่ได้เอามา แต่ชายาของเขาเอามาก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรอกหรือ!”“อย่างไรเสีย เจ้าหกก็ไม่มีแรงแม้แต่จะง้างธนู เสด็จพ่อตั้งใจให้เจ้าหกพาชายามาด้วยเช่นนี้ ก็คงอยากจะให้ชายาองค์ชายหกล่าสัตว์แทนเจ้าหกกระมัง”“เจ้าหก ได้ยินว่าไปสร้างความฮือฮาที่เจ้าฉวินฟางย่วน! นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่ไม่เคยออกจากเมืองหลวงมาก่อนเช่นเจ้าจะประพันธ์กวีเกี่ยวกับสนามรบออกมาได้มากมายเพียงนั้น”“เจ้าหก กวีเหล่านั้นเจ้าลอกใครมากันแน่ ไหนเจ้าลองบอกพี่สามมาซิ พี่สามจะไปลอกมาสักบทสองบท…”เพียงฟังแวบแรก หยุนเจิงก็รับรู้ได้ถึงการเยาะเย้ยขององค์ชายเหล่านี้สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้อยู่นอกเหนือจากที่หยุนเจิงได้จินตนาการเอาไว้เลยหยุนเจิงแอบส่ายหน้าเบาๆคนปัญญาอ่อนพวกนี้ โชคดีที่เป็นองค์ชายเอาแต่คอยเยาะเย้ยตนทั้งวี่ทั้งวันด้วยเหตุอันใดกันจิตใจช่างต่ำทรามยิ่งนักหยุนเจิงพลางทอดถอนใจด้วยความหดหู่ พลางดึงม้าเดินไปตรงหน้าคนเหล่านั้น พลางจ้องหน้ามองคนเหล่านี้ มองจนคนเหล่านี้รู้สึกอึดอัด“เจ้ามองอันใด?”หยุนลี่จ้องหน้าหยุนเจิง กล่าวตำหนิด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์หยุนเจิงแสยะยิ้มมุมปาก “พี่สี่รู้”เจ้าสี่?องค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 135

    บัดนี้ รถม้าของจักรพรรดิเหวินมาถึงแล้วผู้ที่มาพร้อมกับจักรพรรดิเหวิน นอกจากจะเป็นเจ้าแปด เจ้าเก้าแล้ว ยังมีสนมสองนางอย่างซูเฟยและเหลียงเฟยติดตามมาด้วยจักรพรรดิเหวินออกมาล่าสัตว์ กลับไม่พาฮองเฮา ชั่วครู่หนึ่งทุกคนต่างตระหนักได้ว่าฮองเฮาไร้อำนาจแล้ว การเรียกคืนตำแหน่งฮองเฮา เพียงรอแค่เวลาเท่านั้นสาเหตุที่จักรพรรดิเหวินยังไม่เรียกคืนตำแหน่งฮองเฮา สาเหตุคงจะเป็นเพราะว่าปัญหาขององค์รัชทายาทเพิ่งจะสงบลง หากเอ่ยถึงเรื่องเรียกคืนตำแหน่งฮองเฮาในตอนนี้ เกรงว่าจะเกิดปัญหาอื่นตามมาอีกทันทีที่จักรพรรดิเหวินเสด็จมาถึงก็จ้องหน้าหยุนเจิงอย่างไม่สบอารมณ์ทันทีหลังจากทุกคนคารวะเสร็จ จึงเดินตามเข้าไปในหนานย่วนเมื่อเจอตำแหน่งที่เหมาะสม นางกำนัลและเหล่าบรรดาขันทีก็เริ่มสร้างกระโจมทันที พร้อมทั้งจัดโต๊ะยาวเรียงกันทีละตัว อีกทั้งยังจัดวางผลไม้นานาชนิด และสุราชั้นดีนี่มันเหมือนการล่าสัตว์เสียที่ไหนกันเล่า!เห็นได้ชัดว่าเป็นการดื่มด่ำสุราและเสวยอาหารมื้อใหญ่!กระทั่งทุกอย่างถูกจัดเตรียมพร้อม จักรพรรดิเหวินจึงประทับนั่งลงตำแหน่งจักรพรรดิ โดยมีซูเฟยและเหลียงเฟยประทับนั่งซ้ายขวาข้างๆ จักรพรรดิเหว

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1602

    ตอนเที่ยงของวันถัดมา ผางลู่ซานสะพายห่อผ้ามาตามเวลานัด และปรากฏตัวในลานบ้านร้าง“ของทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วหรือไม่?”ทันทีที่เข้ามา ผางลู่ซานก็เอ่ยถาม“เตรียมพร้อมหมดแล้ว!”โหวซื่อไคชี้ไปที่หม้อเหล็กใบเล็กและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เตรียมไว้ผางลู่ซานเดินไปตรวจสอบครู่หนึ่ง ก่อนจะสั่งโหวซื่อไคทันทีว่า “เจ้าทิ้งคนไว้ช่วยข้าคนหนึ่ง ที่เหลือออกไปเฝ้ารอบนอก หากมีใครเข้ามา ให้รีบเตือนพวกเราโดยทันที!”“เอ่อ…”โหวซื่อไคลังเลเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับซูฮ๋วยหมินว่า “เจ้าอยู่ข้างใน ส่วนคนอื่นออกไปเฝ้าด้านนอก!”คนในตระกูลซูที่เหลือต่างไม่พอใจนักพวกเขาเองก็อยากดูให้แน่ชัดว่าผางลู่ซานใช้วิธีใดในการเปลี่ยนจากน้ำตาลอ้อยเป็นน้ำตาลขาวแต่เมื่อเห็นโหวซื่อไคส่งสายตาให้พวกเขาเป็นพัลวัน ก็จำต้องยอมรับและออกไปด้านนอกช่างเถอะ!อย่างไรเสีย ตระกูลซูก็ยังมีคนอยู่ข้างในหนึ่งคนอยู่แล้ว ไม่มีทางที่โหวซื่อไคจะเก็บความลับนี้ไว้คนเดียว!คิดเช่นนั้น พวกเขาก็เดินออกไปอย่างไม่เต็มใจนักเมื่อคนออกไปหมดแล้ว ผางลู่ซานก็เริ่มสั่งการทันทีคนหนึ่งตั้งเตาไฟ อีกคนล้างหม้อหลังจากทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ผางลู่ซานก็หยิบน้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1601

    ไม่กี่วันต่อมา โหวซื่อไคพร้อมกับคนในตระกูลซูอีกสองสามคน ได้เดินทางไปยังซั่วเป่ยพร้อมกับตั๋วเงินจำนวนมากครั้งนี้ ตระกูลซูได้ลงเงินรวมหนึ่งล้านสี่แสนตำลึงโดยหนึ่งล้านสองแสนตำลึงเป็นเงินสำหรับการร่วมลงทุนกับโหวซื่อไคเพื่อซื้อวิธีการทำน้ำตาลขาว ส่วนอีกสองแสนตำลึงนั้นถือเป็นเงินที่ตระกูลซูให้โหวซื่อไคยืมสำหรับเงินที่เพิ่มขึ้นมาอีกสองแสนตำลึง คนในตระกูลซูมีความเห็นคัดค้านมากแต่โหวซื่อไคก็ยืนกรานไม่ยอมอ่อนข้อตามคำพูดของโหวซื่อไค เขาทุ่มเงินไม่น้อยเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผางลู่ซานแค่ความสัมพันธ์ของเขากับผางลู่ซานก็มีค่าเทียบเท่ากับเงินสองแสนตำลึงแล้วในที่สุด ภายใต้การไกล่เกลี่ยของหยางหุยโจว ตระกูลซูก็ยอมเพิ่มเงินให้อีกสองแสนตำลึงแม้ว่าตระกูลซูจะมั่งคั่งเป็นอันดับต้นๆ แต่เงินสดก็ไม่ได้มีอยู่มากนักเพื่อรวบรวมเงินให้ครบหนึ่งล้านสี่แสนตำลึง ตระกูลซูถึงกับต้องไปกู้เงินจากที่อื่นมาอีกสามแสนตำลึงคณะเดินทางข้ามด่านเป่ยลู่ไปโดยมุ่งตรงสู่เมืองหม่าอี้ แต่ไม่ได้เข้าเมือง พวกเขาตั้งหลักอยู่ในเรือนเล็กซอมซ่อแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากเมืองหม่าอี้ประมาณสิบลี้พวกเขารออยู่ที่เรือนเล็กหน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1600

    อวี๋ฝูเดิมทีคิดจะรับจดหมายนั้นไว้เอง แต่ผู้ส่งจดหมายกลับยืนยันหนักแน่นว่า ผู้ที่สั่งให้เขานำจดหมายมา ได้กำชับซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า จดหมายฉบับนี้จะต้องส่งถึงมือหยุนเจิงโดยตรง!“พาเข้ามา!”หยุนเจิงสั่งไม่รู้ว่าจะเป็นจดหมายจากโหวซื่อไคหรือไม่?ไม่นาน เด็กหนุ่มผู้ส่งสารก็ถูกพาตัวเข้ามา “ข้าน้อยขอคารวะท่านอ๋อง!”“ลุกขึ้นเถิด!”หยุนเจิงยกมือขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถามต่อ “โหวซื่อไคเป็นคนให้เจ้ามาส่งหรือ?”“ใช่ขอรับ!”เด็กหนุ่มรีบพยักหน้า พร้อมกับยื่นจดหมายออกมาให้หยุนเจิงหยุนเจิงรับจดหมายมา เปิดออกอ่านอย่างรวดเร็วหลังจากกวาดตาอ่านคร่าวๆ เขาก็โล่งใจลงไม่น้อย ก่อนจะหันไปสั่งอวี๋ฝู “หาที่พักให้เขา และให้รางวัลห้าตำลึงเงิน!”“รับทราบ!”อวี๋ฝูรับคำสั่ง ก่อนจะพาเด็กหนุ่มออกไปทันทีเมื่อพวกเขาจากไป เยี่ยจื่อจึงขยับเข้ามาดูจดหมายด้วย“สำเร็จแล้วรึ?”เยี่ยจื่อยิ้มอย่างสดใส“ไม่เพียงแต่สำเร็จ ยังมีเรื่องเหนือความคาดหมายอีกด้วย!”หยุนเจิงเผยรอยยิ้มเย็นชา “เจ้าสามนี่ช่างไม่รู้จักสิ้นสุดจริงๆ!”แม้ว่าโหวซื่อไคจะไม่ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ของหยางหุยโจวที่ไปเยือนตระกูลซู แต่เพียงใช้ปลายเท้าคิด เขา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1599

    “ได้ยินแล้วหรือยัง? นายท่านอู๋ถูกยึดทรัพย์แล้ว”“นายท่านอู๋อะไรกัน! ต้องเรียกอู๋โหย่วเต๋อ! ไม่สิ ต้องเรียกว่า อู๋ขาดคุณธรรม!”“อู๋โหย่วเต๋อ… ชื่อก็แปลว่าไม่มีคุณธรรมอยู่แล้วมิใช่รึ? ไม่ต่างกันเลยสักนิด!”“อู๋โหย่วเต๋อสมควรได้รับโทษแล้ว แต่พวกที่ซื้อที่ดินของตระกูลอู๋ไป นับว่าโชคดีมาก! ตอนนี้ตระกูลอู๋ถูกยึดทรัพย์แล้ว พวกเขาไม่ต้องส่งค่าธัญญาหารให้พวกมันอีก!”“จริงด้วย! เจ้าว่าทำไมข้าถึงไม่มีโชคแบบนั้นบ้างนะ?”“ข้าได้ยินมาว่า ท่านอ๋องจงใจหาเรื่องจับผิด เพื่อล้มตระกูลอู๋ทั้งบ้าน! นี่แหละที่เรียกว่า เชือดไก่ให้ลิงดู ตั้งใจทำให้เหล่าผู้มั่งคั่งที่ไม่ยอมรับนโยบายภาษีใหม่เห็นเป็นตัวอย่าง!”“…”ข่าวการถูกยึดทรัพย์ของตระกูลอู๋แพร่กระจายไปทั่วหัวเมืองสี่ทิศในเวลาอันสั้นบางคนดีใจถึงกับปรบมือยินดี ขณะที่บางคนมองว่าเรื่องนี้เป็นแผนการที่แฝงไว้ด้วยเจตนาแอบแฝงบรรดาขุนนางและเจ้าที่ดินใหญ่ทั้งหลายต่างหวาดกลัวกันถ้วนหน้าแท้จริงแล้ว ตามกฎหมายราชสำนัก ความผิดของตระกูลอู๋ไม่ถึงขั้นต้องถูกยึดทรัพย์แต่จุดอ่อนของพวกมันคือ วัวที่เหล่าหลิวโถวได้รับ เป็นของที่หยุนเจิงพระราชทาน นี่ทำให้หยุนเจิงมีเห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1598

    เขารู้เพียงว่า ท่านอ๋องผู้นี้ ซึ่งผ่านศึกมานับไม่ถ้วน มิใช่คนที่จะเมตตาปรานีใครได้ง่ายๆอู๋โหย่วเต๋อสั่นสะท้านไปทั้งตัว ในที่สุดก็พยายามรวบรวมเรี่ยวแรง ขยับร่างที่อ่อนแรงของตนขึ้นคุกเข่าให้เรียบร้อย“ขอ… ขอท่านอ๋องเมตตาด้วย…”“ได้! ข้าจะให้เจ้า!”หยุนเจิงตอบตกลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปมองหลิวอู่และหลี่เจี่ย “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกตระกูลอู๋ ทั้งบิดา บุตร และพ่อบ้านผู้นี้ จะเป็น วัวไถนา ของพวกเจ้า! ให้พวกมันลากคันไถให้พวกเจ้า! ส่วนเรื่องอาหารไม่ต้องห่วง ข้าจะเป็นคนดูแลเอง ข้าจะทำให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่อดตาย!”อะไรนะ?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ไม่เพียงแต่อู๋โหย่วเต๋อเท่านั้นที่ตะลึงงัน แม้แต่หลิวอู่และหลี่เจี่ยเองก็ตกตะลึงเช่นกันภายในแคว้นต้าเฉียน ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนถูกใช้ให้ลากคันไถแทนวัวแต่เรื่องเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับชาวบ้านยากไร้ที่ไม่มีเงินเช่าวัวเท่านั้นทว่า เรื่องให้ตระกูลอู๋กลายเป็นวัวไถนาให้พวกเขา แม้แต่ในฝัน พวกเขาก็ไม่เคยกล้าคิด!พวกเขานิ่งอึ้งไปอยู่นาน ก่อนจะได้สติ รีบคุกเข่ากระแทกพื้นและกล่าวเสียงดัง “ข้าน้อยขอคารวะท่านอ๋อง! ขอขอบพระคุณในพระเมตตาอันล้ำลึก!”ใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1597

    เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้ซับซ้อนอะไรเพียงแค่อู๋โหย่วเต๋อโลภอยากได้วัวไถนาของเหล่าหลิวโถวเดิมทีเขาตั้งใจจะใช้เงินซื้อวัวจากเหล่าหลิวโถวในราคาถูก แต่เหล่าหลิวโถวกลับไม่ยอมขายให้ไม่ว่าจะอย่างไรเมื่ออู๋โหย่วเต๋อหมดความอดทน จึงใส่ร้ายว่าเหล่าหลิวโถวขโมยวัวของตระกูลอู๋ไป และกล่าวว่า หากไม่ได้ขโมยจริง ก็ต้องมีทะเบียนวัวมายืนยันแต่ปัญหาก็คือ วัวตัวนี้เป็นของที่หยุนเจิงพระราชทานให้เหล่าหลิวโถว! แล้วเหล่าหลิวโถวจะมีทะเบียนวัวจากที่ใดกัน?เหล่าหลิวโถวพูดจนปากจะฉีกก็ยังแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ เขายืนกรานว่าวัวตัวนี้เป็นของที่หยุนเจิงพระราชทานให้ แต่ไม่ว่าอย่างไร อู๋โหย่วเต๋อก็ไม่ยอมฟัง ซ้ำยังข่มขู่ว่าจะพาตัวเหล่าหลิวโถวไปแจ้งความที่ศาลเหล่าหลิวโถวเป็นคนซื่อสัตย์มาตลอดชีวิต พอได้ยินว่าต้องไปแจ้งความก็ถึงกับตกใจกลัวสุดท้าย วัวตัวนั้นก็ถูกอู๋โหย่วเต๋อแย่งไปจนได้หลังจากวัวถูกพาออกไป เหล่าหลิวโถวก็ร้องไห้ไม่หยุด ราวกับจิตวิญญาณหลุดออกจากร่างเมื่อหลิวอู่และหลี่เจี่ยได้ยินข่าวอีกครั้ง เหล่าหลิวโถวก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว… เขาแขวนคอตายใต้ต้นไม้ข้างกระท่อมของตัวเอง“ที่พวกเขาก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1596

    อู๋โหย่วเต๋อเห็นท่าไม่ดีจึงไม่กล้าเอนกายต่อ รีบลุกจากเก้าอี้ไม้ไผ่ แล้วเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มประจบ“นายทหาร ข้ามิทราบว่ามีใครในจวนข้าทำเรื่องผิดไป…”“พาตัวไป!”เสิ่นควานไม่แม้แต่จะให้เขาพูดจบ โบกมือสั่งการทันที ทหารองครักษ์สองนายตรงเข้าไปจับกุมอู๋โหย่วเต๋อ“ปล่อยข้านะ!”อู๋โหย่วเต๋อโกรธจัด “พวกเจ้าคิดว่าเป็นใคร ถึงกล้าบุกเข้ามาอาละวาดในตระกูลอู๋ของข้า? อย่าคิดว่าใส่ชุดเกราะแล้วจะขู่ข้าได้ ข้า…”ผัวะ!ยังไม่ทันที่อู๋โหย่วเต๋อจะพูดจบ ทหารองครักษ์นายหนึ่งก็ซัดหมัดเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรงอู๋โหย่วเต๋อร้องลั่น ร่างกายโค้งงอราวกับกุ้งต้ม“เจ้าด้วย! จับไป!”เสิ่นควานปรายตามองพ่อบ้าน ก่อนจะสั่งต่อไปยังเหล่าทหาร “ปิดล้อมตระกูลอู๋! หากไม่มีคำสั่งจากท่านอ๋อง ห้ามผู้ใดเข้าออกเด็ดขาด!”“รับทราบ!”กองทหารองครักษ์รับคำสั่งทันทีท่านอ๋อง!เมื่อได้ยินคำนี้ พ่อบ้านถึงกับรู้สึกว่าโลกหมุนคว้าง ก่อนจะล้มลงนั่งก้นกระแทกพื้น ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดท่านอ๋อง! เป็นท่านอ๋องจริงๆ!สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว!อู๋โหย่วเต๋อที่กำลังเจ็บจนหน้าบิดเบี้ยวก็ถึงกับแข็งค้างไปชั่วขณะ ราวกับว่าเขา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1595

    ตระกูลอู๋นายท่านอู๋โหย่วเต๋อกำลังเอนกายบนเก้าอี้ไม้ไผ่ รับไออุ่นจากแสงแดดอย่างสบายใจ บนร่างยังมีผ้าขนสัตว์นุ่มคลุมอยู่สาวรับใช้สองนางคุกเข่าอยู่ข้างซ้ายขวาของเขา พลางนวดเฟ้นให้เป็นจังหวะเป็นตอน บางครั้งยังถูกอู๋โหย่วเต๋อใช้มือบีบเค้นร่างกายพวกนางไปด้วยสาวรับใช้ทั้งสองไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง ได้แต่ปล่อยให้อู๋โหย่วเต๋อกระทำตามใจขณะที่อู๋โหย่วเต๋อกำลังหลับตาเพลิดเพลิน พ่อบ้านก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา“นายท่าน!”พ่อบ้านดูร้อนรน รีบเข้าไปใกล้แล้วกระซิบเบาๆ ข้างหูอู๋โหย่วเต๋อลืมตาขึ้นทันที โบกมือไล่สาวรับใช้ทั้งสองออกไป ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น “เหล่าหลิวโถวตายแล้ว? ตายได้อย่างไร?”พ่อบ้านตอบกลับ “เจ้าเฒ่านั่นบอกว่าจะออกไปเข้าห้องส้วมเมื่อคืน แต่กลับไปหยิบเชือกป่านแล้วแขวนคอตายใต้ต้นไม้ ตอนที่มีคนพบเข้าก็แข็งทื่อไปแล้ว…”“แขวนคอตายรึ?”อู๋โหย่วเต๋อถอนหายใจโล่งอกก่อนจะบ่นอย่างไม่พอใจ “มันแขวนคอตายเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา เจ้าจะร้อนรนไปทำไม?”“ข้าน้อยแค่กลัวว่าเรื่องที่เจ้าเฒ่านั่นพูดไว้จะเป็นความจริง…” พ่อบ้านสีหน้าไม่สู้ดีนัก “นายท่าน วัวตัวนั้นจะเป็นของที่ท่านอ๋องมอบให้เหล่าหลิวโถวจริ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1594

    พวกเขาต่างรู้ดีว่า การนำโหวซื่อไคมาขายแบบนี้ ย่อมทำให้โหวซื่อไคมีความแค้นต่อพวกเขาแน่นอนว่าโหวซื่อไคคงไม่คิดร่วมมือกับพวกเขาอีกหากต้องการแบ่งผลประโยชน์ในครั้งนี้ ก็มีเพียงให้หยางหุยโจวเป็นผู้เชื่อมโยงความสัมพันธ์เท่านั้น“เรื่องนี้… ไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง?”หยางหุยโจวรู้สึกโลภขึ้นมา แต่กลับทำเป็นวางตัวไว้ก่อนหากสามารถฟันกำไรจากพวกซูเฮ่อเหนียนอีกทาง หลังจากได้จากโหวซื่อไคไปแล้ว นั่นก็หมายความว่า ตนไม่ต้องลงทุนแม้แต่ตำลึงเดียว แต่กลับสามารถกอบโกยเงินมหาศาลได้!เงินขาวๆ กองโตเช่นนี้ จะให้ตนไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?“ใต้เท้ากล่าวอะไรเช่นนั้น!”ซูเฮ่อเหนียนหัวเราะ “หากมิใช่เพราะใต้เท้า พวกเราคงยังไม่รู้เลยว่าโหวซื่อไคมีเส้นทางทำเงินเช่นนี้! นี่เป็นสิ่งที่ใต้เท้าควรได้รับอยู่แล้ว!”“ถูกต้อง!”ซูซ่งฝู่รีบเสริม “ขอใต้เท้าอย่าได้ปฏิเสธเลย!”อืม… พวกเขากล่าวมาถึงเพียงนี้แล้ว จะปฏิเสธก็ใช่ที่!หยางหุยโจวรู้สึกยินดีจนแทบกลั้นไม่อยู่ แต่สีหน้ายังคงสงบนิ่ง “เช่นนั้น… ข้าขอไปหารือกับโหวซื่อไคก่อน แล้วค่อยว่ากัน”สำเร็จแล้ว!ซูเฮ่อเหนียนและซูซ่งฝู่สบตากัน ก่อนจะเผยรอยยิ้มพึงพอใจตราบใดที่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status