Share

บทที่ 127

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
“ได้ข่าวหรือไม่ว่าในงานประพันธ์กวีที่สมาคมกวีฉวินฟางย่วนเมื่อคืนนี้มีคุณชายท่านหนึ่งเขียนบทกวีได้ทั้งหมดสี่บทได้เวลาไม่ถึงสองก้านธูป ทำเอาคนในงานต่างต้องหน้าถอดสีกันเลย…”

“จะไม่ได้ข่าวได้อย่างไรเล่า ได้ยินว่าคุณชายหลิวผู้นั้นยังก่นด่าผู้คนว่าโอดครวญอย่างไร้เหตุผล…”

“ใช่ๆ คุณชายหลิวเป็นคนฮึกเหิม ชื่นมความตั้งใจจะเดินทางไปซั่วเป่ยขององค์ชายหก”

“ทุกคนถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องตาย อาจจะหนักกว่าภูเขา หรือเบากว่าขนนก คำพูดของคุณชายหลิวผู้นั้นได้พูดถึงความน่าเศร้าของการเดินทางสู่ซั่วเป่ยขององค์ชายหก…”

“ไม่เคยมีเคยจักรพรรดิและองค์ชายที่ปราดเปรื่องเช่นนี้มาก่อน…”

วันถัดมา เกิดความชุลมุนวุ่นวายไปทั้งเมืองหลวง

ไม่ว่าบนท้องถนนหรือตรอกซอยเล็กล้วนสามารถเห็นกลุ่มคนสามถึงห้าคนรวมตัวกันวิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรือนฉวินฟางย่วน

นอกจากบทกวีทั้งสี่บทของหยุนเจิงที่ถูกแพร่ออกไปทั่วแล้ว ยังมีข่าวเรื่ององค์ชายหกจะเดินทางไปยังซั่วเป่ย และยอมตายเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เหล่าทหารออกมาด้วย

การตัดสินพระทัยของจักรพรรดิเหวินในครั้งนี้ ก็ได้รับการชื่นชมมากมายจากผู้คนในเมืองหลวงด้วย

แต่ทว่าในราชวังหลวง จ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
การัณย์ ผาณิตพิเชฐวงศ์
อ่านแล้วขาดตอน ไม่ได้เรื่อง
goodnovel comment avatar
นิติ ตรีตรง
ลงน้อยเกิน...... อ่อน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 128

    เรื่องใหญ่อะไรอย่างนี้!ตาแก่นี่ก็เหมือนกัน แค่เรื่องขี้ปะติ๋วเช่นนี้ถึงกับต้องทรมานขนาดนั้นทำเอาตัวเองคิดว่าได้ก่อกรรมทำชั่วจนสวรรค์และผู้คนต่างก็พากันเคียดแค้นเสียอีก!ขณะที่จักรพรรดิเหวินช่วยพยุงจางฮว๋ายนั่งด้วยตัวเอง มู่ซุ่นก็พรวดพราดเข้ามา กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง พอเหลือบมองจางฮว๋ายที่อยู่ข้างๆ เขาก็ลังเลจักรพรรดิเหวินขมวดคิ้วพูดว่า “ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะ อย่ามัวแต่กระอึกกระอัก”มู่ซุ่นยิ้มอย่างขออภัย แล้วจึงพูดว่า “ฝ่าบาท คนที่แต่งบทกวีในฉวินฟางย่วนเมื่อคืน ดูเหมือนจะรู้จักจางซูหลานชายของจางเก๋อเหล่าพ่ะย่ะค่ะ”“อะไรนะ”สีหน้าของจักรพรรดิเหวินเปลี่ยนไปจางฮว๋ายเห็นดังนี้ ก็ถอนหายใจพูดขึ้นทันทีว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมมีความผิด สารเลวจางซูคนนั้นคือคนที่พาองค์ชายหกไปที่ฉวินฟางย่วนเมื่อคืนวาน สารเลวนั่นยังเรียกหญิงนางโลมนับสิบคนมารับใช้อย่างไร้ยางอาย...”ครั้นจักรพรรดิเหวินได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็กระตุกอย่างรุนแรงยังเรียกหญิงนางโลมสิบคนมาด้วย?สารเลวนี่ ไม่กลัวตายบนอกสตรีหรอกรึจักรพรรดิเหวินเงียบไปครู่หนึ่ง สั่งการมู่ซุ่นทันที “ไป ให้คนไปถามจางซูว่า ใครเป็นผู้ที่ประพันธ์บ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 129

    ในช่วงบ่าย หยุนเจิงไปพบจางซูตามปกติทันทีที่เขามาถึงทางเข้าลานบ้านของจางซู ก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากข้างใน“จะฆ่าคนแล้ว!”“ช่วยด้วย...”เมื่อได้ยินเสียงนี้ หยุนเจิงก็ต้องตกใจเล็กน้อยนี่ดูเหมือนจะเป็นเสียงของจางซู?เกิดอะไรขึ้นกับจางซู“เร็ว รีบเข้าไปดูเร็วเข้า!”หยุนเจิงรีบร้องเรียกเกาเหอพวกเขาให้รีบเข้าไปในเรือนทันทีที่พวกเขาบุกเข้าไปในเรือนด้านใน ก็เห็นจางซูที่จมูกบวมช้ำใบหน้าบวมปูดกำลังวิ่งหนีขณะที่ร้องเรียกหาบุพการีเป็นการใหญ่แม้ว่าจางซูจะอ้วนท้วนมาก แต่พอเป็นการหนีเอาชีวิตรอดเขากลับไม่ช้าเลย“องค์ชายหก ช่วยด้วย!”เมื่อเห็นหยุนเจิง จู่ๆ จางซูก็วิ่งเข้าไปหาราวกับเห็นดาวช่วยชีวิต“จางซู โง่เง่าเต่าตุ่น! เจ้าคิดหรือว่าจะวิ่งหนีพ้น”เสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้นตามหลังจางซูหลังจากนั้น ร่างสีชมพูก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลังจางซูนั่นคือ...เสิ่นลั่วเยี่ยน?หยุนเจิงตกตะลึงงัน มองดูเสิ่นลั่วเยี่ยนที่กำลังถือไม้กระบองไล่ตีจางซูอย่างอึ้งๆพอรู้สึกตัว หยุนเจิงก็รีบวิ่งไปหา ยืนกั้นกลางอยู่ระหว่างเสิ่นลั่วเยี่ยนกับจางซู“เจ้าทำอะไรอยู่น่ะ”หยุนเจิงมองไปที่เสิ่นลั่วเยี่ยนอ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 130

    เสิ่นลั่วเยี่ยนสะอึก หันไปมองหยุนเจิงอย่างโกรธเคือง “ข้าทำเพื่อผู้ใดเล่า ข้าอยากจะสับร่างพวกเจ้าสองคนจริงๆ เลยเชียว!”ครั้งนี้เสิ่นลั่วเยี่ยนโกรธจริงๆหยุนเจิงก่อเรื่องในฉวินฟางย่วนขนาดนี้ ตอนนี้ทุกคนในเมืองหลวงรู้แล้วว่าจักรพรรดิเหวินมีราชโองการว่าหลังจากเขาแต่งงานแล้วให้ไปที่ซั่วเป่ยตอนนี้เขามีชื่อเสียงดีแล้ว ทุกคนภายนอกต่างชื่นชมเขาในความกล้าหาญของเขา และยกย่องเขาที่ไม่กลัวความตายแต่พอเขาก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น ถ้าไปที่ซั่วเป่ยก็เท่ากับไปตายเท่านั้น!จะให้นางไม่โกรธได้หรือไม่เพียงแต่นางเท่านั้นที่โกรธ แต่ฮูหยินเสิ่นก็กระทืบเท้าอย่างโกรธจัดโชคดีที่คำพูดเหล่านี้มาจากปากของหยุนเจิงเองหากออกมาจากปากของคนอื่น นางคงจะสับคนสารเลวนั่นเป็นชิ้นๆ จริงๆ!“ก็ข้าดื่มจนเมามายไม่ได้สติ”หยุนเจิงเผชิญสายตากับเสิ่นลั่วเยี่ยน “เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว จะเป็นอย่างไรก็ปล่อยให้เป็นไป เจ้ามาก่อเรื่องที่นี่จะมีประโยชน์อะไร พรุ่งนี้เสด็จพ่อของข้าจะไปล่าสัตว์ที่หนานย่วน ให้คนมาแจ้งข้าเป็นพิเศษว่าต้องพาเจ้าไปด้วย! ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ขอให้เสด็จพ่อมีราชโองการยกเลิกการแต่งงานขอ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 131

    เมื่อถึงยามอัสดง เยี่ยจื่อรีบกลับไปยังจวนสกุลเสิ่นนางเพิ่งจะทอดน่องเดินเข้าประตูจวนไป ก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ภายในจวน“ท่านแม่ล่ะ?”เยี่ยจื่อกล่าวถามพี่สะใภ้ใหญ่เว่ยซวงเว่ยซวงกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “ท่านแม่กับลั่วเยี่ยนอารมณ์ไม่ค่อยดี ฝึกวรยุทธ์กันอยู่ที่ลานหลังจวน!”“ข้าจะไปหาท่าน”หลังจากพูดคุยกับเว่ยซวงไปไม่กี่คำ เยี่ยจื่อก็รีบวิ่งไปที่ลานหลังจวนอย่างรวดเร็วยังไม่ทันผ่านประตูหลังจวน นางก็ได้ยินเสียงหอกดาบปะทะกันแล้วเยี่ยจื่อเดินเข้าประตูลานหลังจวนก็เห็นเสินลั่วเยี่ยนกับท่านแม่กำลังประลองยุทธ์กันอยู่คาดว่าตอนนี้พวกนางน่าจะโกรธเกรี้ยวเป็นฟืนเป็นไฟจนมิอาจระงับได้แล้ว จึงทำได้เพียงใช้วิธีนี้เพื่อระบายความโกรธภายในใจออกมาเมื่อเห็นเยี่ยจื่อเข้ามา สองแม่ลูกคู่นี้จึงหยุดการประลองลง“เจ้าสารเลวนั่นใช้ให้เจ้ากลับมาโน้มน้าวพวกเราใช่หรือไม่?”ฮูหยินเขวี้ยงหอกยาวในมือไปข้างๆ และกล่าวถามอย่างไม่สบอารมณ์เยี่ยจื่อรู้สึกประหลาดใจถึงขั้นเรียกหยุนเจิงเช่นนี้เลยหรือ!ดูท่าท่านแม่คงจะโกรธเอามากจริงๆ!“ข้ากลับมาเยี่ยมท่านแม่บ้างไม่ได้หรือเจ้าคะ?”เยี่ยจื่อเม้มปากยิ้มเล็กน้อย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 132

    หลังจากที่ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง ฮูหยินเสิ่นก็เรียกสติกลับมาอย่างยากลำบาก “นี่เจ้าไม่ได้โกหกแม่ใช่หรือไม่?”“ข้าจะโกหกท่านแม่ด้วยเหตุใดกันเล่าเจ้าคะ?”เยี่ยจื่อส่ายหน้ากล่าวเสียงต่ำว่า “ท่านแม่ลองคิดดูสิเจ้าคะ องค์ชายหกไม่ได้มีรากฐานอันใด ระหว่างอยู่เมืองหลวงกับไปซั่วเป่ย ท่านแม่คิดว่าที่ใดที่จะเป็นโอกาสดีสำหรับเขาเจ้าคะ?”ฮูหยินเสิ่นได้ยินเช่นนี้ก็ครุ่นคิดขึ้นอีกครั้งว่ากันตามหลักเหตุผลแล้ว หากหยุนเจิงเป็นคนที่มีพรวสรรค์การที่เขาไปซั่วเป่ยเป็นหนทางที่ดีกว่าแน่นอนทว่า น่าเสียดายที่หยุนเจิงเป็นเพียงแค่องค์ชายที่ไร้ความสามารถทั้งทางบุ๋นและทางบู๊การไปซั่วเป่ยของเขา อย่างไรก็เสียก็เหมือนไปตายอยู่ดีฮูหยินเสิ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวความคิดของตนเองให้ลูกสะใภ้รองฟัง“เจ้าประเมินเขาต่ำเกินไปแล้ว”จื่อเยี่ยส่ายหน้ายิ้มพลางกล่าวว่า “กา รต่อสู้ของเขาไม่ได้จริงๆ แต่สติปัญญาของเขาเหนือข้ามาก มิเช่นนั้นแล้วท่านแม่คิดหรือว่าข้าจะยอมอยู่ในจวนเขาได้นานถึงเพียงนี้”ในขณะที่กล่าวนั้นเยี่ยจื่อก็กดเสียงต่ำลงอีกครั้ง และแพร่งพรายเรื่องรูปปั้นหินและถาดรองที่หยุนเจิงให้นางแพร่งพรายออกไปเม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 133

    ยามรัตติกาล ณ ห้องทรงพระอักษรเนื่องจากวันพรุ่งต้องออกเดินทางไปล่าสัตว์ ในค่ำคืนนี้จักรพรรดิเหวินจึงไม่ได้ประทับอยู่กับสนมนางใดและแน่นอนว่าพระองค์เองก็ไม่ได้อารมณ์เช่นนั้น“ตรวจสอบรู้แจ้งแล้วหรือไม่?”จักรพรรดิเหวินเอนกายพักผ่อนอยู่บนแท่ยพระบรรมในห้องทรงพระอักษร โดยมีนางกำนัลสองนางคุกเข่านวดพระชงฆ์ให้จักรพรรดิเหวินอยู่ และมู่ซุ่นโค้งคำนับอยู่ข้างๆ“ตรวจสอบได้เรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”มู่ซุ่นรายงานว่า “เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเมิ่งกว่างไป๋ บุตรชายของหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดินเมิ่งรั่ววั่งพ่ะย่ะค่ะ”เมิ่งกว่างไป๋อย่างนั้นหรือ?จักรพรรดิเหวินขมวดพระขนงขึ้นพลางตรัสถาม “เรื่องมันเป็นมาอย่างไรกันแน่?”มู่ซุ่ยตอบ “หลังจากที่องค์ชายหกดื่มจนเมาและได้เขียนบทกวีขึ้น ด้วยความเมาจึงกล่าวตำหนิผู้เข้าร่วมการแต่งประพันธ์กวีเหล่านั้นว่าตีตนไปก่อนไข้ และได้กล่าวถึงเรื่องที่องค์ชายหกจะไปซั่วเป่ย จึงทำให้เมิ่งกว่างไป๋เกิดความสงสัยขึ้น องค์ชายหกจึงโต้แย้งไปด้วยความโกรธ จึงทำให้เกิดเรื่องราวหลังจากนั้นพ่ะย่ะค่ะ…”“สงสัยหรือ?”จักรพรรดิเหวินหรี่พระเนตรพลางตรัส “เมิ่งกว่างไป๋สงสัยอันใด?”มู่ซุ่นมองจั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 134

    “เจ้าหกไม่ได้เอามา แต่ชายาของเขาเอามาก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรอกหรือ!”“อย่างไรเสีย เจ้าหกก็ไม่มีแรงแม้แต่จะง้างธนู เสด็จพ่อตั้งใจให้เจ้าหกพาชายามาด้วยเช่นนี้ ก็คงอยากจะให้ชายาองค์ชายหกล่าสัตว์แทนเจ้าหกกระมัง”“เจ้าหก ได้ยินว่าไปสร้างความฮือฮาที่เจ้าฉวินฟางย่วน! นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่ไม่เคยออกจากเมืองหลวงมาก่อนเช่นเจ้าจะประพันธ์กวีเกี่ยวกับสนามรบออกมาได้มากมายเพียงนั้น”“เจ้าหก กวีเหล่านั้นเจ้าลอกใครมากันแน่ ไหนเจ้าลองบอกพี่สามมาซิ พี่สามจะไปลอกมาสักบทสองบท…”เพียงฟังแวบแรก หยุนเจิงก็รับรู้ได้ถึงการเยาะเย้ยขององค์ชายเหล่านี้สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้อยู่นอกเหนือจากที่หยุนเจิงได้จินตนาการเอาไว้เลยหยุนเจิงแอบส่ายหน้าเบาๆคนปัญญาอ่อนพวกนี้ โชคดีที่เป็นองค์ชายเอาแต่คอยเยาะเย้ยตนทั้งวี่ทั้งวันด้วยเหตุอันใดกันจิตใจช่างต่ำทรามยิ่งนักหยุนเจิงพลางทอดถอนใจด้วยความหดหู่ พลางดึงม้าเดินไปตรงหน้าคนเหล่านั้น พลางจ้องหน้ามองคนเหล่านี้ มองจนคนเหล่านี้รู้สึกอึดอัด“เจ้ามองอันใด?”หยุนลี่จ้องหน้าหยุนเจิง กล่าวตำหนิด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์หยุนเจิงแสยะยิ้มมุมปาก “พี่สี่รู้”เจ้าสี่?องค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 135

    บัดนี้ รถม้าของจักรพรรดิเหวินมาถึงแล้วผู้ที่มาพร้อมกับจักรพรรดิเหวิน นอกจากจะเป็นเจ้าแปด เจ้าเก้าแล้ว ยังมีสนมสองนางอย่างซูเฟยและเหลียงเฟยติดตามมาด้วยจักรพรรดิเหวินออกมาล่าสัตว์ กลับไม่พาฮองเฮา ชั่วครู่หนึ่งทุกคนต่างตระหนักได้ว่าฮองเฮาไร้อำนาจแล้ว การเรียกคืนตำแหน่งฮองเฮา เพียงรอแค่เวลาเท่านั้นสาเหตุที่จักรพรรดิเหวินยังไม่เรียกคืนตำแหน่งฮองเฮา สาเหตุคงจะเป็นเพราะว่าปัญหาขององค์รัชทายาทเพิ่งจะสงบลง หากเอ่ยถึงเรื่องเรียกคืนตำแหน่งฮองเฮาในตอนนี้ เกรงว่าจะเกิดปัญหาอื่นตามมาอีกทันทีที่จักรพรรดิเหวินเสด็จมาถึงก็จ้องหน้าหยุนเจิงอย่างไม่สบอารมณ์ทันทีหลังจากทุกคนคารวะเสร็จ จึงเดินตามเข้าไปในหนานย่วนเมื่อเจอตำแหน่งที่เหมาะสม นางกำนัลและเหล่าบรรดาขันทีก็เริ่มสร้างกระโจมทันที พร้อมทั้งจัดโต๊ะยาวเรียงกันทีละตัว อีกทั้งยังจัดวางผลไม้นานาชนิด และสุราชั้นดีนี่มันเหมือนการล่าสัตว์เสียที่ไหนกันเล่า!เห็นได้ชัดว่าเป็นการดื่มด่ำสุราและเสวยอาหารมื้อใหญ่!กระทั่งทุกอย่างถูกจัดเตรียมพร้อม จักรพรรดิเหวินจึงประทับนั่งลงตำแหน่งจักรพรรดิ โดยมีซูเฟยและเหลียงเฟยประทับนั่งซ้ายขวาข้างๆ จักรพรรดิเหว

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1610

    “ขอ…ขอรับ!”โหวซื่อไครีบตอบรับทันทีไปซั่วเป่ยยังจะดีกว่าอยู่ที่นี่เสียอีกอยู่ในจวนอ๋องทุกวันเช่นนี้ เขาเองก็รู้สึกอึดอัดใจหากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้หยุนเจิงขอให้เขาอยู่ เขาคงไปซั่วเป่ยนานแล้วเขายังมีธุรกิจวุ่นวายอีกมากมายที่ต้องจัดการที่ซั่วเป่ยเมื่อโหวซื่อไคออกเดินทางไปแล้ว หยุนเจิงก็เริ่มเตรียมตัวออกเดินทางเช่นกันหลังจากสั่งความบางประการ หยุนเจิงนำเมี่ยวอินและกองทหารองครักษ์รีบเดินทางออกไปสองวันต่อมา พวกเขาเดินทางมาถึงเมื่อหยุนเจิงมองเห็นเขตจวีผิงจากระยะไกล กองทหารองครักษ์ที่ถูกส่งไปสืบข่าวก็กลับมารายงานทันที “เรียนฝ่าบาท! ประตูเมืองจวีผิงปิดสนิท กลางเมืองดูเหมือนจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น”หืม?กลางวันแสกๆ ประตูเมืองปิด?ยังมีความวุ่นวายในเมืองอีก?ตระกูลซูกำลังทำอะไรกันแน่?หยุนเจิงครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนออกคำสั่งเสียงเย็นชา “สั่งกองกำลังจวีผิง เปิดประตูเมืองเดี๋ยวนี้! หากปฏิเสธ ถือเป็นกบฏ!”“รับบัญชา!”กองทหารองครักษ์รีบไปดำเนินการทันที“ไปกันเถอะ พวกเราเข้าไปดูกัน!”หยุนเจิงหันไปเรียกเมี่ยวอิน ก่อนจะควบม้าไปยังจวีผิงทันทีไม่ช้า หยุนเจิงมาถึงเมืองตัวเมืองจวีผิ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1609

    ความวุ่นวายในตระกูลซูยังคงดำเนินไปตั้งแต่เที่ยงจนถึงย่ำค่ำบ้านของซูเฮ่อเหนียนถูกล้อมแน่นหนาไม่มีทางหนีกลุ่มคนที่นำโดยซูซ่งฝู่ต่างเรียกร้องให้ซูฮ๋วยหมินส่งมอบ วิธีผลิตน้ำตาลขาวออกมาแต่ซูฮ๋วยหมินจะเอามาจากไหนเล่า!เขาเองก็เป็นฝ่ายที่ถูกหลอก ต่อให้คว้านหัวออกมาก็ไม่มีอะไรให้ส่งมอบ!ซูฮ๋วยหมินยังคงยืนยันว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการของหยุนเจิง แต่ไม่มีใครเชื่อเขาอีกต่อไปทุกคนต่างมั่นใจว่าซูฮ๋วยหมินคิดจะกอบโกยผลประโยชน์ไว้คนเดียวเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ซูฮ๋วยหมินรู้สึกสิ้นหวังจนแทบอยากตายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนขณะที่ความขัดแย้งกำลังรุนแรงขึ้น คนที่ถูกส่งไปทวงหนี้จากตระกูลโหวก็กลับมารายงานข่าวคนของตระกูลโหวบอกว่าโหวซื่อไค ได้นำเงินทั้งหมดของตระกูลหนีไปทางใต้แล้ว หนี้ที่โหวซื่อไคเป็นคนก่อขึ้น พวกเขาไม่มีปัญญาชดใช้ให้อย่างไรก็ตาม ตระกูลโหวยอมรับหนี้และสัญญาว่า เมื่อโหวซื่อไคกลับมา ตระกูลโหวจะให้เขาชดใช้คืนทันที“เห็นหรือไม่! โหวซื่อไคหนีไปทางใต้เพื่อตักตวงผลประโยชน์แล้ว!”ซูซ่งฝู่มองซูฮ๋วยหมินด้วยสายตาเดือดดาล “เจ้าจะยังกล้าพูดอีกหรือไม่ว่าเจ้าไม่รู้วิธีผลิตน้ำตาลข

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1608

    “ถูกต้อง! หากเจ้าไม่มีอะไรปิดบัง ก็ให้ข้าตรวจสอบคลังสินค้า!”ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งเอ่ยเสริมขึ้นมา“ให้พวกเราตรวจสอบคลังสินค้า!”“ต้องตรวจสอบคลังสินค้า!”“เจ้าบริสุทธิ์หรือไม่ เพียงตรวจสอบก็รู้ได้!”“หากเจ้าไม่ให้ตรวจ นั่นแสดงว่ามีบางสิ่งที่เจ้าปิดบัง!”“ถูกต้อง…”ในชั่วพริบตา ผู้คนต่างส่งเสียงขึ้นพร้อมกันทุกสายตาต่างมุ่งเป้าไปยังซูฮ๋วยหมินวันนี้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องตรวจสอบคลังสินค้าให้ได้ ต่อให้ใครมาก็ขัดขวางไม่ได้!พวกเขาจะปล่อยให้เงินของพวกตนถูกโกงไปโดยไม่รู้ตัวได้อย่างไรกัน!เมื่อเห็นฝูงชนที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ซูเฮ่อเหนียนถึงกับตัวสั่นด้วยความโมโห “ได้! ข้ายอมให้เจ้าตรวจ! แต่หากวันนี้เจ้าตรวจแล้วไม่พบอะไร เจ้าต้องให้คำอธิบายกับข้า!”“ได้!”เหล่าผู้อาวุโสทั้งหกต่างตอบรับพร้อมกันซูฮ๋วยหมินเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติเขาค่อยๆ ตระหนักว่านี่อาจเป็นกับดักซ้อนแผนบางที… หยุนเจิงอาจให้ยอดฝีมือแอบลอบนำ น้ำตาลขาว ไปใส่ไว้ในคลังสินค้าของเขา!นี่คงเป็นแผนที่ต้องการเร่งให้เกิดความขัดแย้งภายในตระกูลซู เพื่อทำให้พวกเขาแตกแยกกัน!แต่ตอนนี้ทุกคนก็ล้อมรอบหมดแล้วหากไม่ยอมเปิด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1607

    เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก บรรยากาศทั่วทั้งตระกูลซูเต็มไปด้วยความเศร้าหมองตระกูลซูรีบส่งคนเดินทางไปยังตระกูลโหวที่เมืองมู่โจวแม้ว่าจะไม่สามารถเอาเรื่องตระกูลโหวได้โดยตรง แต่พวกเขาก็ต้องให้ตระกูลโหวช่วยชดใช้เงินสองแสนตำลึงที่โหวซื่อไคติดหนี้ไว้!หากสามารถเอาเงินสองแสนตำลึงคืนมาได้ แล้วขายทรัพย์สินบางส่วนเพิ่มเติม ธุรกิจของตระกูลซูก็ยังพอไปต่อได้ และอาจจะสามารถประคองสถานการณ์เอาไว้ได้ตอนนี้ เงินสองแสนตำลึงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตระกูลซูขณะที่ทุกคนกำลังรอข่าวจากกลุ่มที่ไปทวงหนี้ ซูซ่งฝู่ก็นั่งเคร่งเครียดอยู่ที่บ้าน ทันใดนั้น พ่อบ้านของเขาก็รีบร้อนวิ่งเข้ามา ก่อนจะกระซิบข้างหูซูซ่งฝู่เบาๆ“อะไรนะ?”ซูซ่งฝู่หน้าเปลี่ยนสีทันที “เจ้ามั่นใจหรือ?”พ่อบ้านส่ายหัวเร็วๆ “ข้าไม่อาจมั่นใจได้ เรื่องนี้ข้าได้ยินมาจากคนอื่นอีกที! ว่ากันว่า… พ่อบ้านของซูเฮ่อเหนียนพูดหลุดปากออกมาโดยไม่ตั้งใจ…”เมื่อได้ยินคำพูดของพ่อบ้าน ซูซ่งฝู่ก็จมดิ่งสู่ความคิดของตนเองเขาเคยได้ยินจากหลานชายมาก่อนแล้วตอนที่ผางลู่ซานสอนวิธีผลิตน้ำตาลขาว มีเพียงซูฮ๋วยหมินและโหวซื่อไคอยู่ข้างในคนอื่นทั้งหมด ถูกกันออกไปด้าน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1606

    มันต้องเป็นเช่นนี้แน่!น้ำซาวข้าวงั้นหรือ? น้ำส้มสายชูข้าวงั้นหรือ? ทั้งหมดเป็นแค่กลลวง!ตั้งแต่ต้น ผางลู่ซานใช้น้ำตาลขาวทำให้น้ำตาลขาวอีกที!มันไม่เคยใช้น้ำตาลอ้อยทำน้ำตาลขาวเลย!ที่ผางลู่ซานทำให้สถานการณ์ดูเร่งรีบ ก็เพื่อบีบบังคับให้พวกเขารีบออกจากซั่วเป่ยโดยไม่ทันคิดอะไรส่วนโหวซื่อไคที่สั่งให้ฝังน้ำตาลอ้อยที่เหลือทั้งหมด ก็เพราะมันกลัวว่าพวกเขาจะลองทำจริงระหว่างเดินทาง และจับได้ว่าเป็นแผนหลอกลวง!ทั้งหมดนี้ เป็นแผนที่ถูกออกแบบมาอย่างรอบคอบ!และเบื้องหลังแผนนี้ ต้องเป็นหยุนเจิง!นี่คือการแก้แค้นของหยุนเจิงต่อพวกเขา!หยุนเจิงต้องการทำลายตระกูลซูด้วยวิธีนี้!เมื่อได้ฟังซูฮ๋วยหมินพูด ทุกคนรู้สึกเหมือนสมองถูกฟาดเข้าอย่างแรงจนดังวิ้งๆ!พวกเขาถูกหลอก!พวกเขาถูกผางลู่ซานและโหวซื่อไคร่วมมือกันหลอก!ผู้อาวุโสสองคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้วถึงกับล้มลงไปด้านหลังทันที!เงินหนึ่งล้านสองแสนตำลึง…ถูกหลอกไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้!?ไม่!ไม่ใช่แค่หนึ่งล้านสองแสนตำลึง แต่เป็น หนึ่งล้านสี่แสนตำลึง!หากสิ่งที่ซูฮ๋วยหมินพูดเป็นความจริง โหวซื่อไคย่อมไม่มีทางคืนเงินที่ยืมไป!เวลานี้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1605

    ตระกูลซูแห่งจวีผิงเมื่อมั่นใจว่าซูฮ๋วยหมินและพวกเรียนรู้วิธีผลิตน้ำตาลขาวได้แล้ว คนในตระกูลซูก็ต่างดีอกดีใจเปลี่ยนน้ำตาลอ้อยเป็นน้ำตาลขาวได้ มูลค่าพุ่งขึ้นไม่ใช่เล่น!เหล่าผู้อาวุโสทั้งเจ็ดของตระกูลซูรวมตัวกัน และยืนกรานให้ซูฮ๋วยหมินสาธิตวิธีเปลี่ยนน้ำตาลอ้อยเป็นน้ำตาลขาวต่อหน้าพวกเขาซูฮ๋วยหมินย่อมไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ เขาสั่งให้คนเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดที่จำเป็น แล้วเริ่มการสาธิตทันทีครั้งนี้เป็นเพียงการทดลอง ไม่ใช่การผลิตในปริมาณมาก ซูฮ๋วยหมินทำทุกขั้นตอนตามที่ผางลู่ซานสอนมาอย่างแม่นยำแม้แต่ผ้าที่ใช้ห่อน้ำตาลอ้อยก็ยังเป็นผ้าขาวแบบเดียวกัน“ถ้าเราควบคุมวิธีทำน้ำตาลขาวจากน้ำตาลอ้อยได้ พวกเราก็จะร่ำรวยมหาศาล!”“เรื่องร่ำรวยก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่พวกเราต้องรอบคอบ!”“ใช่ น้ำตาลขาวที่ผลิตได้ควรส่งไปขายทางใต้จะดีกว่า”“เราต้องเร่งผลิตให้ได้มากๆ อย่าให้ตระกูลโหวแย่งตลาดไปก่อน…”“ถูกต้อง…”เหล่าผู้อาวุโสทั้งเจ็ดของตระกูลซูต่างวาดฝันถึงเงินตราที่จะหลั่งไหลเข้ามาในตระกูลกันอย่างตื่นเต้น สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มขณะที่พวกเขาพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้น ซูฮ๋วยหมินก็ดำเนินการตา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1604

    “ระวังไว้ก่อนย่อมดีกว่า!”โหวซื่อไคกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “แค่น้ำตาลอ้อยพวกนี้มีค่าเท่าไหร่กัน? หยุนเจิงเป็นคนเจ้าเล่ห์ อย่าให้ต้องแลกชีวิตแค่เพราะเงินเล็กน้อย!”“แล้วน้ำตาลขาวที่เขาให้เจ้าล่ะ? ฝังไปด้วยไหม?” ซูฮ๋วยหมินขมวดคิ้วถาม“อันนั้นยังไม่ต้องฝัง ถ้าขายได้ มันก็มากกว่าหมื่นตำลึงเงิน”โหวซื่อไคตอบ “ข้าจะหาที่ซ่อนให้ปลอดภัย รอให้สถานการณ์สงบลงก่อน แล้วค่อยหาทางขนมันออกจากซั่วเป่ย”“ก็ได้!”ซูฮ๋วยหมินไม่ได้ถามอะไรอีกไม่นาน พวกเขาก็จัดการฝังทุกอย่างที่สามารถฝังได้ ก่อนจะรีบออกจากที่นั่นอย่างรวดเร็วทุกคนต่างรู้สึกเหมือนทำเรื่องผิดอยู่ตลอด จึงหวาดระแวงไปตลอดทางจนกระทั่งช่วงบ่ายของวันถัดมา พวกเขาจึงข้ามด่านเป่ยลู่ไปได้สำเร็จเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาถึงได้วางใจอย่างแท้จริงก่อนแยกจากกัน โหวซื่อไคได้ตกลงกับคนของตระกูลซูว่า “น้ำตาลขาวนี้ต้องขายในราคาสูง ห้ามขายต่ำเกินไป เพราะถ้าราคาต่ำเกินไป มันไม่เป็นผลดีกับพวกเราทั้งหมด”ข้อเสนอนี้ คนของตระกูลซูไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใดเพื่อให้ได้วิธีผลิตน้ำตาลขาวจากน้ำตาลอ้อย พวกเขาทุ่มเงินมหาศาลไปแล้วอย่างไรเสีย พวกเขาก็ต้องนำต้นทุนกลั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1603

    หลังจากยุ่งวุ่นวายกันเกือบหนึ่งชั่วยาม พวกเขาก็สามารถผลิตน้ำตาลขาวออกมาได้สำเร็จ“เยอะขนาดนี้เลยหรือ?”เมื่อเห็นน้ำตาลขาวที่ผลิตได้ ซูฮ๋วยหมินถึงกับตาค้างด้วยความตกตะลึงปริมาณที่ได้มาน่าจะประมาณสองเหลี่ยงเลยทีเดียวผางลู่ซานกล่าวว่า “ถ้าทำในปริมาณน้อย จะได้ผลลัพธ์ที่ละเอียดขึ้น ปริมาณน้ำตาลขาวที่ได้ก็จะมากขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าทำในปริมาณมาก การสูญเสียย่อมเยอะขึ้น! อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอย่างไร น้ำตาลอ้อยห้าจินต้องได้ผลผลิตเป็นน้ำตาลขาวหนึ่งจินแน่นอน”“ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง!”ซูฮ๋วยหมินเข้าใจแจ่มแจ้ง ดวงตาเป็นประกายมองน้ำตาลขาวตรงหน้าไม่อยากเชื่อเลย!การทำน้ำตาลขาวจากน้ำตาลอ้อยกลับง่ายดายเพียงนี้!หัวใจสำคัญอยู่ที่น้ำส้มสายชูข้าวและน้ำซาวข้าว!แต่เพียงวิธีการง่ายๆ นี้ พวกเขากลับต้องจ่ายเงินถึงสองล้านตำลึงแค่คิดก็ปวดใจแล้วอย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงว่าหลังจากนี้พวกเขาจะสามารถผลิตน้ำตาลขาวได้จำนวนมหาศาล ซูฮ๋วยหมินก็รู้สึกปล่อยวางได้เงินที่เสียไป ไม่นานก็จะกลับคืนมาเป็นกำไร!“ให้เวลาเจ้าสิบห้านาที หากยังมีข้อสงสัยก็รีบถาม!”ขณะพูด ผางลู่ซานก็ขยับไปที่หน้าต่าง สีหน้าเต็มไปด้วยความ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1602

    ตอนเที่ยงของวันถัดมา ผางลู่ซานสะพายห่อผ้ามาตามเวลานัด และปรากฏตัวในลานบ้านร้าง“ของทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วหรือไม่?”ทันทีที่เข้ามา ผางลู่ซานก็เอ่ยถาม“เตรียมพร้อมหมดแล้ว!”โหวซื่อไคชี้ไปที่หม้อเหล็กใบเล็กและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เตรียมไว้ผางลู่ซานเดินไปตรวจสอบครู่หนึ่ง ก่อนจะสั่งโหวซื่อไคทันทีว่า “เจ้าทิ้งคนไว้ช่วยข้าคนหนึ่ง ที่เหลือออกไปเฝ้ารอบนอก หากมีใครเข้ามา ให้รีบเตือนพวกเราโดยทันที!”“เอ่อ…”โหวซื่อไคลังเลเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับซูฮ๋วยหมินว่า “เจ้าอยู่ข้างใน ส่วนคนอื่นออกไปเฝ้าด้านนอก!”คนในตระกูลซูที่เหลือต่างไม่พอใจนักพวกเขาเองก็อยากดูให้แน่ชัดว่าผางลู่ซานใช้วิธีใดในการเปลี่ยนจากน้ำตาลอ้อยเป็นน้ำตาลขาวแต่เมื่อเห็นโหวซื่อไคส่งสายตาให้พวกเขาเป็นพัลวัน ก็จำต้องยอมรับและออกไปด้านนอกช่างเถอะ!อย่างไรเสีย ตระกูลซูก็ยังมีคนอยู่ข้างในหนึ่งคนอยู่แล้ว ไม่มีทางที่โหวซื่อไคจะเก็บความลับนี้ไว้คนเดียว!คิดเช่นนั้น พวกเขาก็เดินออกไปอย่างไม่เต็มใจนักเมื่อคนออกไปหมดแล้ว ผางลู่ซานก็เริ่มสั่งการทันทีคนหนึ่งตั้งเตาไฟ อีกคนล้างหม้อหลังจากทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ผางลู่ซานก็หยิบน้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status