อินชิงเสวียนและน้องสาวได้มาถึงห้องรับแขกแล้วซูหมิงหลานตื่นมาทำอาหารตั้งแต่เช้า โดยมีกับข้าวหกอย่าง น้ำแกงสองอย่าง ข้างๆ มีซาลาเปาก้อนอ้วนๆ ขาวๆ ชิ้นใหญ่ มีควันลอยฉุย ดูน่ารับประทานมากอินจ้งกำลังคุยกับอินปู้อวี่ เมื่อเห็นอินชิงเสวียนเดินเข้าประตูมา ซูหมิงหลานก็พูดทันที “มาชิมดูเร็ว ประเดี๋ยวเย็นชืดแล้วจะไม่อร่อย”อินชิงเสวียนตอบรับ และนั่งลงข้างๆ อินปู้อวี่ฝีมือของซูหมิงหลานนั้นยอกเยี่ยมจริงๆ แค่กัดไปคำแรกก็ได้รสชาติของไส้เนื้อเต็มคำของแบบนี้เป็นเพียงอาหารธรรมดาในยุคปัจจุบัน แต่ในยุคโบราณนี้ การได้กินแป้งหมี่และเนื้อได้ ก็นับว่าเป็นครอบครัวที่ดีมากแล้วฮ่องเต้องค์ก่อนไม่ใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรเลย หลังจากที่เย่จิ่งอวี้ขึ้นครองบัลลังก์ ก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากความอดอยากอีกหนึ่งปี อาหารในสมัยโบราณไม่มีผลิตผลเท่าปัจจุบัน ภายใต้ภัยพิบัติทางธรรมชาติ แม้แต่ข้าวฟ่างและธัญพืชก็กลายเป็นของหายาก นับประสาอะไรกับอาหารจำพวกเนื้อทั้งอินปู้อวี่และอินจื่อลั่วต่างก็กินกันอย่างออกรส ส่วนอินชิงเสวียนกินไปไม่กี่คำ แต่ก็รู้สึกเหมือนกับการเคี้ยวไขผึ้ง การที่มีเรื่องมากมายในใจทำให้นางไม่รับรู้ร
Read more