บททั้งหมดของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์: บทที่ 391 - บทที่ 400

1316

บทที่ 391 กับข้าวบ้าน

อินจ้งเป็นผู้บัญชาการทหารที่แท้จริง ไม่เหมือนทหารที่กลัวความตายเหล่านั้น ที่แค่กล่าวถึงการสู้รบก็อ้างเหตุปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า และพูดจู้จี้จุกจิกไม่เลิกเย่‍จิ่ง‍อวี้มีความประทับใจที่ดีต่ออินจ้งตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นรัชทายาทแล้วหลังจากที่อินชิงเสวียนแต่งเข้าจวนรัชทายาท อินจ้งก็ไม่เคยมีแผนใดๆ กับเขา ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าอินจ้งเป็นคนตรงไปตรงมาหากไม่มีเรื่องจดหมายลับในการร่วมมือกับศัตรู เขาคงไม่เนรเทศตระกูลอินทั้งครอบครัวโชคดีที่ความจริงทุกอย่างปรากฏชัด เช้านี้อินจ้งและลูกชายก็กลับมาประชุมเช้าอีกครั้ง เมื่อมีพวกเขาสองพ่อลูกอยู่ เหล่าตาเฒ่าเน่าเฟะในอดีตก็เงียบลงมากเมื่อคิดได้ดังนี้ มุมปากของเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็โค้งงอเป็นรอยยิ้มลึกล้ำขึ้นอีกทั้งหมดเดินพลางคุยกันพลางไปตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงตำหนักจินหวูเย่‍จิ่ง‍อวี้และอินจ้งขึ้นไปสนทนากันที่ศาลาหิน ส่วนอินปู้อวี่หยอกเย้าเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงอยู่ข้างล่างไป๋เสวี่ยเหมือนจะรู้ว่าสองคนนี้เป็นญาติของอินชิงเสวียน มันนอนอาบแดดอย่างเกียจคร้านอยู่ใต้ชายคาด้านอินชิงเสวียนก็พาอวิ๋นฉ่ายและนางกำนัลไปทำเกี๊ยวสำหรับพวกเขาทุกคน ทั้งยังทำขนมเปี๊ยะ และหุง
Read More

บทที่ 392 สงสัย

อินปู้อวี่หน้าแดงเถือก จนไม่กล้าคีบอาหารกินเลยเมื่อเห็นเขาดื่มแต่สุรา อินชิงเสวียนก็รีบคีบเกี๊ยวให้เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาแต่ดื่มสุราจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ พี่รองกินอะไรอย่างอื่นบ้าง”อินปู้อวี่เกิดความรู้สึกซาบซึ้งใจ น้องสาวยังนึกถึงเขาอยู่ เกี๊ยวนี้อร่อยมากจริงๆเมื่อเห็นฝ่าบาทพูดคุยกับผู้เป็นพ่อ เขาก็ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทันที “ยังมีอีกหรือไม่ พอแบ่งให้พี่เอาไปให้ท่านแม่รองกับน้องเล็กด้วยได้หรือไม่”อินชิงเสวียนนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ครั้นแล้วภาพของสตรีที่อ่อนโยนและเด็กหญิงตัวเล็กที่ไร้เดียงสาและมีชีวิตชีวาก็ปรากฏขึ้นในใจของนางนางลืมไปแล้วโดยสิ้นเชิง ว่าเจ้าของร่างเดิมก็มีท่านแม่รองและน้องสาวต่างมารดาด้วยบางทีอาจเป็นเพราะเจ้าของร่างเดิมอาจไม่ชอบใจท่านแม่รองคนนี้ จึงไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพวกนางสองแม่ลูกมากนักถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทันทีว่า “ท่านแม่รอง...ดีกับท่านและท่านพ่อหรือไม่”อินปู้อวี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“เหคุใดจึงถามเช่นนี้ ชุดแต่งงานของน้องหญิงใหญ่ก็เป็นท่านแม่รอง ที่เย็บให้เจ้ากว่าสิบวันสิบคืนด้วยมือของนางเอง”ในยุคปัจจุบันอินชิงเสวียนอ่านนิยายนองเลือดม
Read More

บทที่ 393 หวั่นไหว

อินปู้อวี่พูดด้วยใบหน้ามีความสุข “เจอแล้ว น้องหญิงใหญ่ยังฝากเกี๊ยวมาให้ท่านแม่รองกับน้องเล็กด้วย”อินจื่อลั่วเอียงคอถามด้วยความสงสัย “เกี๊ยวคืออะไรเจ้าคะ”อินปู้อวี่หยิบถุงกระดาษไขออกมา แล้วโบกไปมาต่อหน้าน้องสาวคนเล็ก“ของอร่อย ประเดี๋ยวถ้าเจ้าได้ลองแล้วจะรู้”อินจื่อลั่วสูดดมแรงๆ“กลิ่นหอมจัง ข้าได้กลิ่นเนื้อด้วย”แม้ว่าพวกเขาทั้งครอบครัวจะกลับเมืองหลวงและอาศัยอยู่ในจวนหลังใหญ่ แต่ก็ยังไม่มีเงินพวกเขาสองคนพ่อลูกที่ทำงานหยาบๆ ในเมืองซุ่ยหาน กว่าจะหาเงินสักอีแปะมาเลี้ยงครอบครัวได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่อินจื่อลั่วพูด อินจ้งก็อดรู้สึกผิดไม่ได้เขาลูบศีรษะเล็กๆ ของนางแล้วพูดว่า “ตอนนี้พ่อกับพี่รองกลับมารับตำแหน่งเดิมแล้ว ขอเพียงเรายืนหยัดต่อไปอีกหน่อย ก็จะมีเบี้ยรายเดือนแล้ว เกี๊ยวยังร้อนๆ อยู่ พวกเจ้าสองคนแม่ลูกรีบกินเถอะ”ทุกคนเข้าไปในห้องโถง แล้วอินจ้งก็เปิดถุงกระดาษไขอย่างระมัดระวังอินจื่อลั่วยื่นมือเล็กๆ ออกมาหยิบเกี๊ยวขึ้น แล้วส่งให้ผู้เป็นแม่ด้วยความเคารพ“ท่านแม่กินก่อนเจ้าค่ะ”“เจ้ากินเถอะ แม่ไม่หิว”ซูหมิงหลานมองลูกสาวด้วยสีหน้าอ่อนโยนแล้วอินจื่อลั่วก็ส
Read More

บทที่ 394 ฝันร้าย

ท่ามกลางความฝันอันยาวนานในความฝัน เย่‍จิ่ง‍อวี้ดูเหมือนจะกลับมาสู่ช่วงที่ยังเป็นเด็ก ตอนที่ได้นั่งชิงช้าอันแสนสุขกับมารดาในตำหนักจินหวู“เสด็จแม่ สูงขึ้นอีก”“สูงกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถ้าตกลงมา เจ้าจะเจ็บเอานะ”“ลูกไม่กลัว”หวนไท่เฟยพูดอย่างช่วยไม่ได้“แต่แม่กลัว”“เสด็จแม่กลัวสิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้หันกลับมาถามอย่างไม่เข้าใจหวนไท่เฟยส่ายศีรษะ และยิ้มอีกครั้ง“แม่กลัวเจ้ากับแม่ต้องแยกจากกัน แม่ทิ้งเจ้าไม่ได้”เย่‍จิ่ง‍อวี้พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นเช่นนั้นแน่พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่ออนุญาตให้ลูกพักอยู่ในตำหนักจินหวูแล้ว”หวนไท่เฟยถอนหายใจเบาๆ แล้วแกว่งไกวชิงช้าอีกครั้ง“ถ้าแม่ได้อยู่กับเจ้าตลอดไปก็คงดี”เย่‍จิ่ง‍อวี้กล่าวด้วยความมุ่งมั่น “เป็นเช่นนั้นแน่ เมื่อลูกโตขึ้น จะปกป้องเสด็จแม่เอง”หวนไท่เฟยคลี่ยิ้มละไม “ได้ เช่นนั้นแม่จะรอจนเจ้าโตนะ”ฮวาเชียนเดินมาจากด้านข้าง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พระสนมคงเหนื่อยแล้ว ให้หม่อมฉันแกว่งไกวชิงช้าให้นะเพคะ”ฮวาเชียนแข็งแรงมาก แกว่งชิงช้าให้เย่‍จิ่ง‍อวี้ขึ้นสูงๆ ได้ในคราวเดียว เย่‍จิ่ง‍อวี้หัวเราะอย่างมีความสุข ครั้นก้มศีรษะลงโดยไ
Read More

บทที่ 395 ใครร้ายมาร้ายตอบ

“พอดีเลย ให้พวกนางอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”เย่‍จิ่ง‍อวี้จัดแต่งเสื้อคลุม แล้วเดินออกจากตำหนักไปนอกประตู มีสาวๆ กลุ่มหนึ่งกำลังรอให้อินชิงเสวียนเรียกเข้าพบ เมื่อพวกนางเห็นฮ่องเต้เดินออกมา ก็รีบยอบกายคารวะทันที“หม่อมฉันถวายบังคมเพคะ”“ตามสบาย”เย่‍จิ่ง‍อวี้พูดเบาๆ แล้วจากไปพร้อมกับหลี่เต๋อฝูและเหล่าขันทีทั้งหลายนายหญิงหลายคนแอบเงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็เห็นเพียงด้านหลังของฝ่าบาทเท่านั้นเมื่อเห็นใบหน้าที่ผิดหวังของทุกคน สายตาซูฉ่ายเวยก็เผยรอยยิ้มเยาะพวกนางอยู่ในวังมาเกือบครึ่งปีแล้ว ก็ยังไม่เห็นว่าฝ่าบาทจะเสด็จไปที่ใดนอกจากตำหนักจินหวูเลยแทนที่จะคิดถึงสิ่งที่ไม่ได้เป็นของตน มิสู้คิดว่าจะทำให้ชีวิตของตัวเองอยู่อย่างสุขสบายได้อย่างไรดีกว่าหลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว นางหันไปหาอินชิงเสวียน โค้งคำนับแล้วพูดว่า “ขอแสดงความยินดีกับพระสนมที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นกุ้ยเฟย ในอนาคตพวกเราพี่น้องยังต้องให้พระสนมช่วยดูแล นี่คือของขวัญเล็กน้อยจากข้า หวังว่าพระสนมจะไม่รังเกียจ”เซียงหลายยื่นกล่องเล็กแกะสลักวิจิตรงดงามให้ทันทีครั้นแล้วนายหญิงทั้งหลายก็เริ่มรู้สึกตัว ต่างทยอยส่งของขวัญแสดงความยินด
Read More

บทที่ 396 ไม่ยุติธรรม

นี่เป็นครั้งแรกที่อินชิงเสวียนได้ยินเสียงพูดที่ชัดเจนเช่นนี้ จึงอดดีใจเสียไม่ได้“เก่งจริงๆ ขนาดคำพูดยากๆ ลูกชายของข้าก็พูดได้แล้ว”เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงดูเหมือนจะรู้ว่าอินชิงเสวียนกำลังชื่นชมตัวเอง จากที่ร้องไห้ก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะลั่นทันทีเมื่อเห็นลูกชายยิ้มตาหยี อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะจูบใบหน้าเล็กๆ ที่อวบอ้วนดวงนั้น“ลูกแม่เป็นเด็กดีจริงๆ คืนนี้แม่จะนอนกับเจ้านะ”เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงวางหน้าเล็กๆ บนไหล่ของอินชิงเสวียน ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งนักอินชิงเสวียนตบก้นกลมของเขาเบาๆ“เราไปนอนกันดีกว่า ยายหลี่ ท่านกับอวิ๋นฉ่ายก็กลับไปกันเถอะ”“ทราบแล้วเพคะพระสนม หม่อมฉันทูลลา”ทั้งสองโค้งคำนับและออกจากห้องโถงกลาง อินชิงเสวียนประแป้งให้เสี่ยว‍หนาน‍เฟิง แล้วอุ้มเขาพาเข้านอนเด็กได้นอนหลับแล้วหนหนึ่ง ตอนนี้จึงยังคึกคักมากทีเดียว อินชิงเสวียนจึงแลกตัวต่อไม้ที่มีตัวอักษรมาจากมิติ แล้วสอนให้เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงต่อตัวต่อไม้ ขณะเดียวกันก็เรียนรู้ตัวอักษรไปด้วยเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงทำปากมู่ทู่ เรียนกับอินชิงเสวียนด้วยสีหน้าจริงจัง เมื่อเป็นคำที่อ่านออกเสียงยาก ตอนที่เขาพูดน้ำลายก็แตกฟองฟุ้งสองแม่ลู
Read More

บทที่ 397 อดทน

หานปิงยืนรอรับใช้อยู่ข้างๆเมื่อเห็นสวีจือย่วนดื่มสุราจอกแล้วจอกเล่า ดวงตาก็เต็มไปด้วยความปวดร้าว“นายหญิง อย่าดื่มอีกเลย ท่านเมาแล้ว”สวีจือย่วนดูคล้ายจะไม่ได้ยิน ยังคงดื่มจอกแล้วจอกเล่าหานปิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก้าวไปแย่งจอกสุรา“ดื่มสุราทำร้ายร่างกาย ถ้านายหญิงดื่มจนเสียสุขภาพ จะต่อสู้กับอินชิงเสวียนได้อย่างไร”สวีจือย่วนเงยหน้าที่เมามายขึ้น แล้วพูดเยาะ “ข้าจะมีคุณสมบัติอะไรไปแข่งกับนางได้ ตอนนี้นางเป็นหวงกุ้ยเฟย แต่ข้าเป็นเพียงนายหญิงเล็กๆ ฝ่าบาทไม่สนใจความรู้สึกของข้าที่มีต่อเขาเลยด้งยซ้ำ”นางแค่นเสียงหึแล้วพูดต่ออีกว่า “อินจ้งกลับมาที่ราชสำนักและกลับสู่ตำแหน่งเดิมแล้ว พ่อของข้าได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมเท่านั้น ไม่น่าเกรงขามเหมือนแม่ทัพ ได้ยินมาว่าฝ่าบาทยังอนุญาตให้นางกลับไปพักอยู่กับพ่อกับพี่ชายสักพักด้วย แต่ข้ากลับทำได้เพียงพูดคุยกับท่านพ่อไม่กี่คำ ในตอนที่เขามาเข้าเฝ้าฝ่าบาทเท่านั้น เราต่างก็เป็นคนเหมือนกัน เหตุใดฝ่าบาทจึงเลือกที่รักมักที่ชัง จะให้ข้ายอมได้อย่างไร”หานปิงเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “หากนายหญิงเลือกฝ่าบาทตั้งแต่ตอนที่เข้าวัง ผลลัพธ์ก็คงไม่เ
Read More

บทที่ 398 ขบวนยิ่งใหญ่

ช่วงกลางวันอินชิงเสวียนเตรียมพร้อมแล้วกระโปรงคาดอกสีชมพูอิงฮวาขับเน้นให้รูปร่างของนางดูเพรียวบางได้ส่วนสัดงามงด กระโปรงปักด้วยดอกไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งดูหรูหราและสง่างาม เมื่อชุดสีนี้ถูกสวมใส่บนเรือนร่างของอินชิงเสวียน กลับไม่ทำให้ดูไร้รสนิยมแม้แต่น้อยบนศีรษะประดับด้วยปิ่นปักผมที่แกะสลักจากหินโมรา แต่งขอบด้วยหมู่มวลผกาเล็กๆ ให้กลิ่นอายโดดเด่นสดใส สง่างามและสูงศักดิ์เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็แต่งตัวเรียบร้อยแล้วเช่นกัน เขาสวมเสื้อผ้าฝ้ายสีฟ้าอ่อน เข้าคู่กับรองเท้าคู่เล็กสีเดียวกัน ซึ่งทำให้ใบหน้าดวงเล็กจ้อยดูขาวกระจ่างตายิ่งขึ้น แพขนตาหนาสีดำงอนเด้ง ราวกับตุ๊กตาเด็กที่ตั้งขายในห้างสรรพสินค้า เมื่อเห็นว่าลูกชายน่ารักแค่ไหน อินชิงเสวียนก็รักเอ็นดูจนอุ้มไม่ยอมวางขณะที่กำลังลูบใบหน้าเล็กๆ ของเขา เสี่ยวอานจื่อก็วิ่งเข้ามาเขากล่าวด้วยสีหน้าเบิกบานว่า “พระสนม ฝ่าบาททรงมีรับสั่ง ตรัสว่าให้รอเสด็จที่ประตูตงฮว๋า ประตูตงฮว๋าเป็นประตูเข้าออกสำหรับเจ้าหน้าที่ขุนนางทุกภาคส่วน ฝ่าบาทอนุญาตให้พระสนมเสด็จออกทางประตูนี้ พอจะเห็นถึงความใหญ่โตแล้ว!”อินชิงเสวียนอยู่ในวังมานานแล้ว พอจะรู้กฎบางอย่างในวังอยู
Read More

บทที่ 399 ซูหมิงหลานผู้ระมัดระวัง

เย่‍จิ่ง‍อวี้คลี่ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ทุกท่านลุกขึ้นเถิด”ทั้งสองคำนับอีกครั้ง และยืนขึ้นด้วยความเคารพนบนอบ“ฝ่าบาทเชิญด้านนี้พ่ะย่ะค่ะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้าและก้าวเข้าไปในบ้านซูหมิงหลานมองดูเด็กที่อวิ๋นฉ่ายอุ้มไว้อีกครั้งเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงตัวอ้วนท้วนผิวขาวอมชมพู กำลังกัดกำปั้นน้อยๆ ของตัวเองพลางสอดส่ายสายตาไปรอบๆ ดวงตาคล้ายองุ่นสีดำผลใหญ่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นช่างเป็นเด็กที่รูปงามจริงๆ!ซูหมิงหลานเห็นแล้วก็ชอบ อดไม่ได้ที่จะมองดูอีกสักหน่อยทว่าอินชิงเสวียนกลับกำลังมองนางอย่างสำรวจตรวจตรา รู้สึกว่าสตรีคนนี้ดูท่าทางใจดี เค้าหน้าได้สัดส่วน ดูเหมือนคนที่มีแผนร้ายซุกซ่อนอยู่เลยแต่ว่าจะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้ ไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไรอยู่ในใจครั้นจึงขยิบตาให้อวิ๋นฉ่าย แล้วเดินตามเย่‍จิ่ง‍อวี้เข้าประตูไปทุกคนต่างนั่งในตำแหน่งที่เหมาะสม แต่อินจ้งกลับไม่มีของสิ่งใดที่จะต้อนรับขับสู้ฝ่าบาท จึงร฿สึกกระดากอายอย่างอดไม่ได้ก่อนหน้านี้ยังพอจะเหลือใบชาคุณภาพแย่อยู่บ้าง จึงรีบสั่งคนไปชงชามาต้อนรับเย่‍จิ่ง‍อวี้ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “แม่ทัพอินไม่ต้องเกรงใจ ข้าจะนั่งพักสั
Read More

บทที่ 400 ปลาใหญ่ในอวน

อินจื่อลั่วลืมตาขึ้นด้วยความไม่เชื่อ“ท่านพี่ ข้าอุ้มเขาได้จริงหรือเจ้าคะ”“อืม”อินชิงเสวียนตอบด้วยรอยยิ้มทันใดนั้นอินจื่อลั่วก็ดูมีความสุข นางอุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงอย่างระมัดระวัง แล้วพาเขาไปนั่งบนเก้าอี้จู่ๆ เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นในตัวอินจื่อลั่ว ซูหมิงหลานรีบมาอยู่ข้างๆ ลูกสาว ด้วยกลัวว่านางจะอุ้มไม่ดี ทำให้เด็กตกได้เมื่อมองดูความกังวลบนใบหน้าของซูหมิงหลานที่ดูไม่เหมือนการเสแสร้งแกล้งทำ อีกทั้งหน้าตาของนางก็ดูเอื้ออารี ไม่เหมือนคนใจร้าย บางทีเป็นเพราะเจ้าของร่างเดิมคิดไปเองเกินไปอินปู้อวี่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “น่าเสียดายที่ข้าไม่มีเงิน ไม่เช่นนั้นข้าจะได้ซื้อของเล่นให้จ้าวเอ๋อร์เล่น”เขามีนิสัยตรงไปตรงมา คิดสิ่งใดก็พูดไปตามนั้น เขามีใบหน้าที่สง่างามและหล่อเหลา แต่จริงๆ แล้วเขามีนิสัยง่ายๆ หลังจากได้ยินเขาพูดเช่นนี้ อินชิงเสวียนก็จำได้ว่าตัวเองกลับมาเพื่อเอาเงินไว้ให้เขาจึงรีบหยิบตั๋วเงินปึกหนาออกมาจากแขนเสื้อ แล้วส่งให้อินจ้ง“นี่เป็นเงินจำนวนหนึ่งที่ลูกสะสมตั้งแต่ตอนที่อยู่ในวัง เดิมทีอยากฝากจิ้งอ๋องนำไปมอบให้ท่านพ่อ แต่เมื่อรู้ว่าท่านพ่อจะกลับเมืองหลว
Read More
ก่อนหน้า
1
...
3839404142
...
132
DMCA.com Protection Status