บททั้งหมดของ ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย: บทที่ 671 - บทที่ 680

1242

บทที่ 671

“ข้ารู้ว่าพระชายาห่วงใยด้วยความปรารถนาดี แต่หากข้าถูกกำหนดให้ตาย เพื่อปกป้องครอบครัวและแคว้น ข้าจะสละชีวิตเพื่อสร้างความสงบสุขให้กับผู้คน ข้าก็พร้อมยอมตาย! ข้าจะไม่เสียใจ!”“ข้าหวังว่าหากมีครั้งต่อไป พระชายาจะไม่ยื่นมือมาช่วยข้าอีก ข้ามิอยากให้ใครต้องชดใช้”“การนองเลือดของทหารในสนามรบก็เพื่อปกป้องครอบครัวและผู้คนนับล้านที่อยู่เบื้องหลัง มิใช่การสละครอบครัวเพื่อความอยู่รอด”ฉินเชียนหลี่กล่าวพร้อมกับจ้องมองไปในดวงตาของฉินไป๋หลี่อย่างเศร้าโศกหลังจากที่ลั่วชิงยวนได้ยินคำพูดนี้แล้ว หัวใจของนางก็สั่นไหว เลือดของนางก็เดือดพล่านทันที“ข้าเข้าใจแล้ว” ลั่วชิงยวนยิ้มฉินไป๋หลี่ขมวดคิ้วและจับมือของฉินเชียนหลี่ “พี่ใหญ่ ข้าบอกท่านแล้วว่าดวงตาของข้ามิเกี่ยวข้องกับท่าน ท่านมิต้องรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้”“เป็นข้าเองที่ไม่รู้จักผู้อื่นให้ดี ข้าเก็บฮุ่ยเซียงหลิวไว้ข้างกายก็สมควรแล้วที่ข้าเป็นเช่นนี้!” เมื่อมองดูพวกเขาทั้งสองทะเลาะกันไปมา ก็พูดได้ว่าทั้งสองรักใคร่กันอย่างแท้จริงลั่วชิงยวนขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว “เช่นนั้น เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว อย่าไปสนใจเลย”“ข้าขอดูหน่อยว่าดวงตาของคุณชา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 672

ลั่วชิงยวนตัวสั่นไปทั้งร่างผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึงเช่นกัน หลายคนก็จ้องมองไปที่ลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่โดดเด่น จู่ ๆ ก็กลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจไม่มีใครพูดสิ่งใดจนต้องโถงเงียบมากจากนั้นเหยียนหน่ายซินก็ถามขึ้นอีกครั้ง “คนผู้นี้มิใช่หรือ?” หลายคนมองหน้ากัน แต่กลับไม่มีใครกล้าพูด เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฟู่เฉินหวนก็นั่งอยู่ที่นั่นแต่ก็มีบางคนรอดูความสนุกอย่างไม่สนใจ เว่ยอวิ๋นเซี๋ยมองไปที่ลั่วชิงยวน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชังพร้อมกับเย้ยหยันว่า “ฝูเสวี่ยนางมิใช่พระชายาอ๋อง บุตรสาวของอัครเสนาบดี ลั่วชิงยวนหรอกหรือ?!”“นางเพียงมีรูปร่างที่ดีจึงสามารถล่อลวงบุรุษบางคนในหอได้ แต่ใบหน้านางน่าเกลียดเหมือนคางคก แล้วนางจะเต้นบนเวทีได้อย่างไรเล่า ไม่สู้อย่าทำให้ตัวเองขายหน้าจะดีกว่า”“หากนางจะแสดงเพลงยั่วยวนในวันนี้ นั่นจะมิทำให้ท่านอ๋องเสื่อมเสียหรอกหรือ?”การเย้ยหยันอย่างไร้ยางอายของเว่ยอวิ๋นเซี๋ย ทำให้ใบหน้าของฟู่เฉินหวนเย็นชาอย่างยิ่งลั่วชิงยวนมองไปที่เว่ยอวิ๋นเซี๋ยด้วยสายตาเย็นชา สตรีผู้นี้ความจำสั้นเสียจริง นางถูกส่งไปยังหอฝูเสวี่ย ครั้งที่แ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 673

ฟู่เฉินหวนถือจอกสุราไว้ในมือ ใบหน้าของเขามืดมนเมื่อลั่วเยวี่ยอิงที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้ นางก็ลุกขึ้นยืนทันทีและพูดว่า “เอาล่ะ หม่อมฉันจะร่ายรำแทนพี่หญิงของหม่อมฉันแล้วกัน!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้วและคว้าข้อมือของลั่วเยวี่ยอิงไว้ลั่วชิงยวนให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของฟู่เฉินหวนเมื่อเหยียนหน่ายซินขอให้นางร่ายรำ ฟู่เฉินหวนกลับมิพูดอะไรเลย แต่ขณะที่ลั่วเยวี่ยอิงต้องการร่ายรำแทนนาง ฟู่เฉินหวนกลับคว้าข้อมือของลั่วเยวี่ยอิงโดยไม่รู้ตัวเขายังรู้อีกด้วยว่าการถูกขอให้ร่ายรำในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องดีเพียงดูก็รู้ว่า อัปยศอดสูเพียงใดนางเป็นพระชายาอ๋อง แต่นางกลับถูกขอให้ร่ายรำเพื่อทุกคนดูในฐานะสตรีจากหอนางโลมเมื่อองค์จักรพรรดิเห็นว่าฟู่เฉินหวนมิได้พูดอะไร เขาก็รู้ถึงทัศนคติของอีกฝ่าย โดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่มีวันปล่อยให้ลั่วชิงยวนแสดงการเต้นรำเด็ดขาดขณะที่เขากำลังจะพูดเพื่อหยุดเหยียนหน่ายซินทันใดนั้น ลั่วชิงยวนก็ลุกขึ้นยืนนางมองไปที่ลั่วเยวี่ยอิงและฟู่เฉินหวนด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะพูดว่า “หม่อมฉันจะร่ายรำเอง”ฟู่เฉินหวนเองก็มิได้แสดงท่าทีอะไรเช่นกัน หากลั่วชิงยวนแสดงกา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 674

“หม่อมฉันคิดว่านั่นจะทำให้การร่ายรำดูงดงามจนมิอาจมีใครเทียบได้ทีเดียว”ทันทีที่คำพูดของเหยียนหน่ายซินจบลง เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมาทันที เสียงหัวเราะปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันในห้องโถงอันเงียบสงบแห่งนี้เหยียนหน่ายซินมองไปที่เว่ยอวิ๋นเซี๋ย “เจ้าหัวเราะอะไร?”เว่ยอวิ๋นเซี๋ยยิ้มและพูดว่า “คุณหนูเหยียน ท่านมิรู้เหรอว่าลั่วชิงยวนเป็นสตรีอัปลักษณ์ที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแห่งนี้ เมื่อนางอภิเษกกับอ๋องผู้สำเร็จราชการ หลายคนต่างพูดกันว่านางคือคางคกหมายกินเนื้อหงส์”“ท่านคงสามารถจินตนาการได้ว่านางมีใบหน้าที่น่าเกลียดมากเพียงใด”“ได้ยินมาว่านางถูกงูกัด จึงมีฝีเต็มหน้า”“หากท่านอยากให้นางถอดหน้ากากแล้วร่ายรำ ข้าเกรงว่าจะดูน่าเกลียด น่าขยะแขยงจนแทบคลื่นไส้อาเจียน!”การเย้ยหยันอย่างไร้ยางอายของเว่ยอวิ๋นเซี๋ยก็เหมือนกับการเปลื้องผ้าของลั่วชิงยวนต่อหน้าธารกำนัล เปิดเผยสิ่งที่นางกลัวต่อสาธารณะและเหยียบย่ำนางตามอำเภอใจ ย่อมทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอับอายอย่างแน่นอนทว่า เว่ยอวิ๋นเซี๋ยจะรู้ได้อย่างไรว่าในขณะนี้หัวใจของลั่วชิงยวนกลับสงบเป็นพิเศษ แต่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร หลังจากที่เหยียนหน่า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 675

ในตอนแรกเหยียนหน่ายซินอดทนกับสิ่งนี้ แต่ลั่วชิงยวนแกว่งดาบใส่นางหลายต่อหลายครั้ง!ด้วยระยะของดาบที่เข้ามาใกล้ ก็ทำให้ผมของนางถูกตัดไปหลายครั้ง อีกทั้งรังสีสังหารที่เปล่งออกก็ยิ่งทำให้เหยียนหน่ายซินรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกแทงด้วยดาบจนตายเหยียนหน่ายซินจะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร นางตบโต๊ะด้วยความโกรธ “ลั่วชิงยวน ทำเช่นนี้หมายความเยี่ยงไร?!”ทว่า สิ่งที่ลั่วชิงยวนตอบโต้นางกลับเป็นการแกว่งดาบใส่นางอย่างดุเดือดการแสดงออกของเหยียนหน่ายซินเปลี่ยนไปอย่างมาก “เรียกคนเข้ามา! เรียกคนเข้ามา!”เหยียนหน่ายซินตื่นตระหนกราชองครักษ์เห็นว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง พวกเขาจึงกำลังจะชักดาบออกมา แต่จักรพรรดิกลับลอบมองพร้อมกับส่งสัญญาณให้พวกเขา พวกเขาจึงกลับไปยืนประจำในตำแหน่งเดิมหากปราศจากคำสั่งของจักรพรรดิก็ไม่อาจมีผู้ใดกล้าขยับเขยื้อนในห้องโถงแห่งนี้ จากนั้นพวกเขาก็เฝ้าดูอย่างช่วยมิได้ขณะที่ลั่วชิงยวนแกว่งดาบใส่เหยียนหน่ายซิน หลายคนกลั้นหายใจขณะที่มองดู ลั่วชิงยวนคงมิได้จะฆ่าเหยียนหน่ายซินจริง ๆ ใช่หรือไม่อย่างไรก็ตามความจริงไม่เป็นเช่นนั้นดาบยาวแหลมคมในมือของลั่วชิงยวนวาดผ่านไปที่แก้มของเหยียนหน่า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 676

ลั่วชิงยวนจะปล่อยให้เหยียนหน่ายซินตบนางได้อย่างไร เช่นนั้นนางจึงยกมือขึ้นเพื่อคว้าข้อมือของอีกฝ่าย เหยียนหน่ายซินตกใจ สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธลั่วชิงยวนปล่อยข้อมือนางอย่างรุนแรงพร้อมกับเย้ยหยัน “ท่านมิได้เป็นคนเชื้อเชิญให้ข้าร่ายรำหรอกหรือ? เหตุใดท่านจึงโกรธอีกแล้ว?”“เจ้ายังต้องการให้ข้าอธิบายในสิ่งที่เจ้าทำอีกงั้นรึ? ลั่วชิงยวน เจ้าตั้งใจทำทุกอย่าง! เจ้าตั้งใจทำให้ข้าอับอาย!” เหยียนหน่ายซินโกรธจัดและตำหนิอีกฝ่ายอย่างรุนแรงลั่วชิงยวนยังคงมีท่าทีสงบ นางเอ่ยอย่างใจเย็น “ท่านมิได้ตั้งใจจะทำให้ข้าขายหน้าโดยขอให้ข้าร่ายรำหรอกหรือ? อย่างนั้นก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน”“ข้าแตกต่างจากเจ้า!” เหยียนหน่ายซินโกรธมากนางคือว่าที่ฮองเฮา!หากกล้าที่จะทำให้นางขายหน้า แสดงว่าคนผู้นั้นกำลังรนหาที่ตาย!เว่ยอวิ๋นเซี๋ยก็ยังเย้ยหยันอีกด้วยว่า “ใช่แล้ว คุณหนูเหยียนมิใช่คนที่พระชายาเปลือกปลอมอย่างท่านจะเทียบได้ ท่านควรตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา กล้าดีอย่างไรถึงเปรียบเทียบตัวเองกับคุณหนูเหยียน”“อัปลักษณ์ก็ช่างปะไร ทว่ากลับมิเจียมเนียมเจียมตัว กล้ายั่วยุคุณหนูเหยียนในที่ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้”เ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 677

หลังจากที่นางสวมหน้ากากแล้ว ฟู่เฉินหวนก็ปล่อยนางและผูกสายรัดหน้ากากให้นางลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับมองไปยังฟู่เฉินหวน ดวงตาของเขาเย็นชา แม้แต่ใบหน้าของเขาก็ไม่แปลกใจเลย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เห็นใบหน้าของนางเช่นกันผู้คนในวังต่างตกตะลึง พวกเขาคิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะมีปฏิกิริยารุนแรงถึงเพียงนี้ด้วยวิธีนี้ ใบหน้าของลั่วชิงยวนจึงได้รับการปกป้องจากสายตาของผู้คนภายนอกใบหน้าของลั่วชิงยวนนั้นอัปลักษณ์มากจริง ๆเกรงว่าหากใบหน้าของลั่วชิงยวนเปิดเผยออกมากคงจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะเอาได้ เช่นนั้นนางก็จะต้องขายหน้าอย่างแน่นอนท้ายที่สุดแล้ว ท่านอ๋องจะมีพระชายาที่อัปลักษณ์ถึงเพียงนี้ได้เช่นไร?หลายคนคาดเดาเช่นนี้“กลับไปพักผ่อนเถอะ” ฟู่เฉินหวนกระซิบข้างหูของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนพยักหน้า นางหันหลังกลับและจากไปเหยียนหน่ายซินลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดด้วยความโกรธ “เจ้าจะเดินออกไปง่าย ๆ เช่นนี้งั้นรึ?!”ฟู่เฉินหวนหันหน้าด้วยสายตาอาฆาต น้ำเสียงของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง “เจ้าต้องการอะไร?”คำขู่ที่ถ่ายทอดออกมาด้วยน้ำเสียงทำให้นางหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลังเหยียนหน่ายซินรู้สึ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 678

มารดาของเขาก็ชอบร่ายรำใต้แสงจันทร์ด้วยเช่นกัน!ลั่วเยวี่ยอิง ​พยักหน้า “เพคะ”ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกภูมิใจ ด้วยคำแนะนำของบิดาที่มอบให้แก่นางนั้นได้ผลจริง ๆ!…… ลั่วชิงยวนจากไปแล้วเดินตรงกลับไปยังที่พักของนางเมื่อเข้าไปในลานตำหนัก นางก็เห็นร่างโปร่งสีขาวภายใต้แสงจันทร์ แสงจันทร์ตกกระทบร่างอันหล่อเหลาและเสื้อผ้าสีขาวของเขา ท่ามกลางแสงสว่างนั้น เขาดูราวกับเทพเซียนที่มาจุติลงในโลกมนุษย์“องค์ชายห้า?” ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้า“ท่านมิได้ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำหรือ?”ฟู่อวิ๋นโจวยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ไม่สำคัญว่าข้าจะไปหรือไม่”“เจ้าว่างหรือไม่? ไปเดินเล่นด้วยกันได้หรือไม่?”ลั่วชิงยวนต้องการปฏิเสธ แต่ทิวทัศน์บนภูเขานั้นงดงามมากจริง ๆ อีกทั้งเวลานี้นางก็ยังไม่ง่วงนอน ด้วยความเบื่อหน่ายนางจึงตอบตกลง“เพคะ”ทั้งสองคนเดินออกจากตำหนักไปเดินเล่นลมยามค่ำคืนอันหนาวเย็นทำให้ฟู่อวิ๋นโจวซึ่งสวมอาภรณ์เพียงบาง ๆ เริ่มไอขณะที่เดินออกไปไกลเรื่อย ๆ ลั่วชิงยวนหยุดเดิน ก่อนที่จะเอ่ยว่า “เหตุใดท่านมิกลับไปสวมอาภรณ์ที่หนากว่านี้เพคะ?”ฟู่อวิ๋นโจวส่ายหน้า “ข้าชินแล้ว เดินต่อไปกันเถอะ”ลั่วชิงยวนเข้า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 679

ไม่มีใครสามารถแทนที่ตำแหน่งของลั่วเยวี่ยอิงในใจของฟู่เฉินหวนได้นางเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีทว่าเมื่อนางเห็นสิ่งเหล่านี้ด้วยตาแล้วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็มิใช่เรื่องใหญ่อะไรนักฟู่อวิ๋นโจวยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าจะพาเจ้าไปที่สักแห่ง”“ไปที่ใด?” ลั่วชิงยวนอยากรู้อยากเห็น“ตามข้ามา!” ฟู่อวิ๋นโจวพูดแล้วพานางออกไปอย่างรวดเร็วทั้งสองเดินไปผ่านทางอันคดเคี้ยวหลายต่อหลายครั้งจนมาถึงสวนขนาดใหญ่ ชิงช้าที่สร้างด้วยเถาวัลย์พลิ้วไหวตามสายลม และรอบสวนก็อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้“วันนี้ข้าค้นพบที่แห่งนี้โดยบังเอิญ ทิวทัศน์งดงามเช่นนี้อาจทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้นได้”ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องในลานกว้าง ทั่วทั้งสวนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของมวลหมู่ดอกไม้และต้นไม้ ชิงช้าขนาดใหญ่ทำให้ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะนั่งบนนั้น ฟู่อวิ๋นโจวก้าวไปข้างหน้าและแกว่งชิงช้านั้นอย่างแรงลั่วชิงยวนเริ่มแกว่งไปมา“โอ้ ช่างสูงนัก” เมื่อไปถึงจุดสูงสุด ลั่วชิงยวนก็ยังคงมองเห็นแสงไฟในส่วนอื่นของวัง ทุกสิ่งสว่างไสวอย่างสวยงามมากจริง ๆ!เมื่อเห็นลั่วชิงยวนมีความสุขมาก ฟู่อวิ๋นโจวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขเช่นกัน ชิงช้าที
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 680

เหยียนหน่ายซินยิ้มอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า “ว่าอย่างไร ท่านอยากจะวาดภาพหรือไม่?”ฉินไป๋หลี่อดทนแล้วอดทนอีก หากเขาไม่ได้รับเงินสนับสนุน สถานการณ์ของพี่ใหญ่ของเขาคงเป็นอันตรายมาก!เขากลัวเมื่อคิดถึงคำแนะนำของลั่วชิงยวนบนรถม้า“ข้าจะวาด!” ฉินไป๋หลี่ยังคงประนีประนอม“เช่นนั้นท่านต้องวาดภาพให้ดี ข้าจะแขวนภาพวาดนี้ไว้ในตำหนักของจักรพรรดิในภายหน้า”เหยียนหน่ายซินนั่งลงบนเก้าอี้นางรับใช้ยื่นถ้วยน้ำชาวางไว้ด้านข้างเหยียนหน่ายซินนั่งดื่มชาอย่างสบาย ๆ พลางดูฉินไป๋หลี่วาดภาพความงามให้นางนางต้องการเห็นว่าภาพวาดของฉินไป๋หลี่นั้นดีเพียงใด ผู้คนมากมายต่างก็พูดเสียงเดียวกันในทางที่ดี แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังเต็มไปด้วยการสรรเสริญชื่มชมภาพเหล่านั้นและถึงกับออกปากว่าภาพวาดของนางนั้นด้อยกว่าของฉินไป๋หลี่นางไม่เชื่อ!ฉินไป๋หลี่วาดรูปสตรีที่งดงามแล้วมอบให้เหยียนหน่ายซินเหยียนหน่ายซินเหลือบมองมัน จากนั้นนางก็เย้ยหยันเบา ๆ ก่อนที่จะหยิบภาพนั้นขึ้นแล้วฉีกออกเป็นสองชิ้นด้วยเสียงดังแควกนางโยนภาพนั้นลงพื้นด้วยความรังเกียจ “ท่านจะใช้ภาพเยี่ยงนี้หลอกข้างั้นรึ?”“นางรับใช้ของข้าทุกคนวาดภาพได้ดีกว่าน
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
6667686970
...
125
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status