บททั้งหมดของ ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย: บทที่ 341 - บทที่ 350

1227

บทที่ 341

เขาหมุนร่างจากไปอย่างผิดหวัง แต่ก็ยังหันกลับไปมองประตูที่ปิดสนิทด้วยความเป็นห่วง จากนั้นจึงยกขาจากไป แต่ข่าวที่ฟู่อวิ๋นโจวมาหาลั่วชิงยวนจะปิดมิดได้อย่างไรกัน ข่าวนี้ส่งถึงหูของฟู่เฉินหวนแทบจะในเวลาแรก ถุงหอมที่อยู่ในมือพลันกำแน่น “เร็วเพียงนี้เชียว พวกเขาเจอกันแล้วหรือ?” นัยน์ตาฟู่เฉินหวนแผ่ไปด้วยความเหน็บ หลังกลับถึงตำหนัก มิได้มารายงานแก่เขาในเวลาแรก แต่กลับเจอฟู่อวิ๋นโจวก่อนงั้นหรือ? พวกเขาอดใจรอมิไหวเช่นนี้เชียว! แววตาของฟู่เฉินหวนเหน็บหนาวและเอ่ยสั่งเสียงเย็น “เรียกลั่วชิงยวนมา!” ซูโหยวพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ!” …… เมื่อตอนซูโหยวมาเชิญ ลั่วชิงยวนก็เริ่มมีลางไม่ดี ต้องเป็นเพราะฟู่อวิ๋นโจวมาแน่ เขาจึงเรียกหานางอย่างรีบร้อนเช่นนี้ และคงตักเตือนนางดังเคย นางสวมหน้ากาก ตามซูโหยวมาที่ห้องตำรา ทันทีที่ประตูห้องปิดลง บรรยากาศภายในห้องก็พิลึกขึ้นมา ฟู่เฉินหวนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประเมินนางด้วยสายตาเย็นชา ทำคนรู้สึกขนลุกทั้งที่มิได้หนาว ลั่วชิงยวนเองก็ยืนนิ่งมิเอ่ยปาก แสดงท่าทีราวกับหวาดกลัวมาก นานมาก กว่าเสียงเยือกเย็นของฟู่เฉินหวนจะดังขึ้น “ถอดหมวกกับหน้ากากออก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 342

“เจ้า!” ฟู่เฉินหวนตะลึงแรง จนฝีเท้าแน่นิ่งกับที่ ลั่วชิงยวนจ่อมีดสั้นไว้ที่คอของตน อ้อนวอนขอท่านอ๋องด้วยน้ำเสียงร้องไห้ “ท่านอ๋อง ท่านปล่อยหม่อมฉันไปเถิด” “ได้โปรด หม่อมฉันผิดไปแล้ว หากท่านจะดูหน้าของหม่อมฉันจริง ๆ เช่นนั้นหม่อมฉันคงต้องตาย!” “หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉันมิควรแต่งงานแทน มิควรหาเรื่องท่านและลั่วเยวี่ยอิง ทุกอย่างที่หม่อมฉันเป็นอยู่ตอนนี้ หม่อมฉันสมควรทั้งนั้น!” “ท่านช่วยรักษาศักดิ์ศรีสุดท้ายของหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ!” ประโยคสุดท้ายลั่วชิงยวนตะโกนออกมาด้วยความสิ้นหวัง ความเจ็บปวดและการขัดขืนจากหัวใจที่แตกสลายของนาง กรีดลงที่กลางใจของฟู่เฉินหวนราวกับมีดคมทุกคำทุกประโยค นางกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? นี่ใช่ลั่วชิงยวนที่เขารู้จักหรือไม่? ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว ฟังเสียงสะอื้นที่เต็มไปด้วยความผวา คิ้วของฟู่เฉินหวนขมวดมุ่น เสียงที่ส่งออกมาจากในห้องตำรา คนที่อยู่ภายนอกต่างได้ยิน ไม่มีผู้ใดที่มิรู้สึกตะลึง พระชายาในอดีตยโสเช่นนั้น กล้าขัดท่านอ๋อง และมิเคยยอมแพ้ ต่อให้โดนทำโทษนางก็มิเคยก้มหัว บัดนี้กลับร้องไห้อ้อนวอน กระทั่งใช้ความตายมาขู่เพียงเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 343

“เยี่ยมไปเลย นางสารเลวนั่นกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว! ดูท่าหน้านางคงเสียโฉมจึงทำให้นางมิกล้าพบผู้คน” เฉียงเวยพูดเสริม “ก่อนหน้านี้บ่าวได้ยินข่าวว่าที่จวนนั้นปรากฏงูจำนวนมาก พวกมันกัดลั่วชิงยวน จนร่างนางเต็มไปด้วยบาดแผล และหน้าก็เสียโฉมไปเจ้าค่ะ” เมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้รับข่าว นางรู้สึกอารมณ์ดีเป็นที่สุด นางมองใบหน้าของตนในคันฉ่องทองแดง และกระตุกมุมปากอย่างได้ใจ “เวรกรรมไงเล่า! ทุกวันนี้หน้าของข้ายังมิหายดีเพราะนาง นี้แลกรรมตามสนองนาง” เฉียงเวยรินน้ำชา “เจ้าค่ะ ต่อจากนี้แม้นางอยู่ในตำหนักต่อ ก็มิมีผลใด ๆ ต่อคุณหนูรองแล้ว” ลั่วเยวี่ยอิงได้ใจนัก นางกระตุกมุมปากเย็น ๆ “อีกไม่กี่วันที่จวนมหาราชครูจัดงานมงคล จักมีผู้มาเยือนมากหน้าหลายตา ข้าต้องการให้นางขายขี้หน้าต่อหน้าผู้คนมากหลาย!” “ทางที่ดีคือให้ทุกคนได้เห็นใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ของนาง โจมตีนางจนไม่เหลือชิ้นดี และฆ่าตัวตายไปในที่สุด” เมื่อนั้นที่นางไม่ยอมแต่งกับฟู่เฉินหวน แต่ยุยงให้ลั่วชิงยวนแต่งแทน ก็เพราะลั่วชิงยวนนั้นโง่เง่าและควบคุมง่าย นางปัดความผิดเรื่องการแต่งงานให้ลั่วชิงยวน ฟู่เฉินหวนจึงจะมิโทษหรือมิเกลียดชังนาง กลับกั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 344

สิ้นเสียงประโยคนี้ ผู้คนรอบด้านที่มุงดูก็เพิ่มมากขึ้น “จริงด้วย สถานการณ์วันนี้ เหตุใดผู้นี้จึงแต่งตัวเช่นนี้ มีอะไรให้น่าหลบซ่อนกัน?” “วันนี้เป็นวันมงคลของจวนมหาราชครู แต่งตัวเช่นนี้เสียมารยาทเกินไปหรือไม่!” ผู้คนที่มุงเข้ามา ลั่วชิงยวนต่างไม่แปลกตานัก โดยเฉพาะเว่ยอวิ๋นเซี๋ยที่ยืนนำอยู่ เมื่อก่อนเว่ยอวิ๋นเซี๋ยอยู่กับหลิวฮุ่ยเซียง และค่อนข้างสนิทกับลั่วเยวี่ยอิง ดูท่าเหตุการณ์วันนี้ ลั่วเยวี่ยอิงจะเป็นคนบงการ นางคิดจะเล่นลั่วชิงยวนให้ตาย! เว่ยอวิ๋นเซี๋ยเดินมาหยุดตรงหน้านาง และเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าเป็นใคร ถอดหมวกเดี๋ยวนี้!” “หากเจ้ามิถอด ข้าคงต้องลงมือเอง!” เว่ยอวิ๋นเซี๋ยบีบบังคับนางทีละก้าว แต่นี่เป็นจวนมหาราชครู คนที่เข้ามาได้ในวันนี้ต่างมีเทียบเชิญทั้งสิ้น และมีคนจากจวนมหาราชครูคอยตรวจสอบ ต้องให้พวกนางมาตรวจซ้ำอีกที่ไหนกัน? ขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังจะเอ่ยปาก หางตานางกลับเห็นว่าฟู่เฉินหวนเดินมา และอยู่ในทิศไม่ไกล คิ้วของนางขมวดแน่น ในเมื่อเริ่มแสดงละครไปแล้ว นางจะหลุดมิได้เด็ดขาด เล่นละครต้องเล่นให้ครบ นางกลัวจนถอยหลังไปหลายก้าว เสียงของนางแข็งเกร็ง “นี่เป็นเรื่อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 345

คนรอบ ๆ ราวกับแข็งเป็นหิน ยืนนิ่งกับที่มิกล้าขยับ “ท่านอ๋อง…” ใต้เท้าผู้หนึ่งขึ้นหน้าประโลม สายตาดุดันของฟู่เฉินหวนกวาดผ่านอีกฝ่ายทีหนึ่ง ก็ทำเขากลัวจนมิกล้าออกเสียงอะไรทั้งนั้น เว่ยอวิ๋นเซี๋ยถูกบีบคอค้างไว้กลางอากาศ มือทั้งสองของนางพยายามแกะมือของฟู่เฉินหวน ส่วนขาทั้งสองดิ้นรนไปมาอยู่กลางอากาศ ภาพตรงหน้าน่ากลัวนัก ราวกับวินาทีต่อมา เว่ยอวิ๋นเซี๋ยสามารถกลายเป็นศพที่ถูกทิ้งในลานนี้ได้ทันที สายตาของฟู่เฉินหวนเยือกเย็นเหลือเกิน “กุข่าวต่อหน้าธารกำนัล ทำชื่อเสียงราชวงศ์เสื่อมเสีย ต่อให้สังหารเจ้าตอนนี้ ก็คงมิมีใครกล้าพูดสิ่งใด” ท่านเว่ยอยู่ทางทิศไม่ไกล ได้ยินเสียงเขาจึงรีบเข้ามาหา เขาคุกเข่าต่อหน้าฟู่เฉินหวนดังตุบ “ท่านอ๋อง! บุตรีกระหม่อมเพียงแต่สมองฟั่นเฟือนชั่วขณะ นางรู้ซึ้งถึงความผิดแล้ว! ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตนางเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาของเว่ยอวิ๋นเซี๋ยแดงก่ำ เส้นเลือดบนหน้าผากนูนขึ้น สีหน้าแดงเถือก ราวกับกำลังจะขาดใจและหมดลมหายใจได้ตลอด ฟู่เฉินหวนจึงยอมปล่อยเว่ยอวิ๋นเซี๋ย เว่ยอวิ๋นเซี๋ยล้มลงบนพื้น จากนั้นจึงได้ยินเสียงอันน่าเกรงขามดังขึ้น “วันนี้เป็นมงคลของคุณหนูลั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 346

มือที่ไพล่หลังไว้ของฟู่เฉินหวนกำหมัดอีกครั้ง นางมิได้ยินข่าวลือข้างนอกบ้างเลยหรืออย่างไร? ยังจะอยู่ในจวนมหาราชครูอีกหรือ? ฟู่เฉินหวนรู้สึกมีโทสะแล้วหันหลังเดินจากไป เมื่อลั่วชิงยวนหันกลับไปเห็นฟู่อวิ๋นโจว นางก็ปัดมือของเขาออกไป "องค์ชายห้า ขอบพระทัยในพระเมตตา แต่ท่านมิจำเป็นต้องทรงเป็นห่วงเรื่องของหม่อมฉันจริง ๆ เพคะ" นางยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการและมิอาจเสียเวลาไปกับเรื่องเช่นนั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคำนึงถึงสถานะพิเศษแล้ว พวกเขาก็ต้องรักษาระยะห่างด้วย "ชิงยวน ข้าก็แค่อยากจะให้หมอกู้มาตรวจดูใบหน้าของเจ้า บางทีอาจพอรักษาได้ เจ้าจงอย่าได้ยอมแพ้เด็ดขาด" ในยามนี้เอง ลั่วหรงก็เดินผ่านมาแล้วร้องเรียก "ชิงยวน!" "ท่านอา!" เมื่อลั่วชิงยวนหันหลังไปก็เห็นลั่วหรงกำลังเดินเข้ามาหานางด้วยท่าทีตื่นเต้น ลั่วหรงคว้าแขนของนางเอาไว้ "นังหนูหายไปเสียตั้งนาน มิเกิดเรื่องอันใดขึ้นใช่หรือไม่? ไฉนเจ้าต้องสวมผ้าคลุมหน้าด้วยเล่า..." "ท่านอา ขอเชิญพูดคุยเป็นการส่วนตัวเถิดเจ้าค่ะ" ลั่วชิงยวนลดเสียงลง จากนั้นนางก็หันหน้าไปทางฟู่อวิ๋นโจวและผงกศีรษะให้เล็กน้อย เพื่อเป็นการบ่งบอกว่านางจะขอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 347

"หากข้ามิจัดการเรื่องแต่งงานของบุตรีทั้งสองคนเสียแต่เนิ่น ๆ เกรงว่าเมื่อข้าจากไปแล้ว วันหน้าพวกนางคงโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งพา" หลังจากลั่วหรงพูดจบก็อดมิได้ที่จะไอสองครั้ง จากนั้นก็รินน้ำชาถ้วยหนึ่งเพื่อให้ชุ่มคอ ลั่วชิงยวนสังเกตเห็นแววอ่อนล้าในดวงตาของลั่วหรง นางคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการเตรียมงานแต่งในระยะนี้ ทว่ายามนี้กลับดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลอื่นเสียแล้ว "ท่านอาเจ้าคะ ขอข้าจับชีพจรท่านสักหน่อยเถิด" ลั่วหรงยิ้มพลางส่ายหน้า "ข้ารู้ตัวเองดี ขืนกังวลใจมากไปก็จะทำให้แก่เร็ว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงยัยเด็กอวิ๋นสี่ที่ชวนให้อดห่วงมิได้นี่เลย" "ข้าเกรงว่าวันเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของจวนมหาราชครูกำลังหมดไปจริง ๆ แล้วข้าก็กลัวว่าจักหามีผู้ใดปกป้องเด็กสองคนนี้ได้อีก!" ลั่วหรงสีหน่าเคร่งเคร่งขรึมและเป็นกังวล เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วด้วยความสับสน "วันเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของจวนมหาราชครูกำลังหมดไปหมายความเยี่ยงไรเจ้าคะ? หมู่นี้ก็ใช่ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นในเรือนเสียหน่อย" ลั่วหรงยิ้มพลางตบหลังมือของนาง "ข้ารู้สึกว่าร่างกายแบกรับมิไหวอีกต่อไปแล้ว หากจัดการเรื่องการแต่งงานของบุตรข้า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 348

ก่อนที่นางรับใช้จะทันได้พูดให้จบ ลั่วหรงก็รีบลุกพรวดด้วยความร้อนใจแล้ววิ่งออกไป ลั่วชิงยวนสวมผ้าคลุมหน้าแล้วรีบตามไป เกิดอะไรขึ้นกับท่านมหาราชครูกันแน่! นางรีบตามฝีเท้าของลั่วหรงจนมาถึงห้องตำราของท่านมหาราชครู จากนั้นก็เห็นท่านมหาราชครูกำลังนั่งเอามือกุมหน้าอกอยู่บนเก้าอี้ ราวกับว่าเขาหายใจแทบไม่ออกอยู่แล้ว น่าแปลกที่ลั่วไห่ผิงก็อยู่ตรงนั้นด้วย "ท่านลุงรอง! อดทนเอาไว้นะขอรับ ข้าจะไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้!" ลั่วไห่ผิงเอ่ยด้วยท่าทีกระวนกระวายใจแล้วเตรียมจะวิ่งออกไปข้างนอก ลั่วหรงรีบดึงตัวเขากลับมาพลางเอ่ยน้ำเสียงขรึม "วันนี้เป็นวันมงคลของหลางหลาง ขืนท่านวิ่งออกไปด้วยท่าทีตื่นตระหนกเช่นนั้น คนข้างนอกคงได้รู้กันหมดพอดี" ลั่วไห่ผิงที่ตื่นตกใจจึงเอ่ยวาจาตำหนิขึ้นมาว่า "น้องหรง เจ้าเป็นคนกตัญญูรู้คุณเป็นที่สุด แต่มิคาดคิดว่าในช่วงเวลาเป็นตายเช่นนี้ เจ้ากลับเอาแต่สนใจงานมงคลของบุตรสาวของตัวเจ้า หากพวกเรามิไปตามหมอท่านลุงรองคงต้องตายแน่!" ลั่วหรงถลึงตามองเขาด้วยความโกรธจัด "ท่านพ่อของข้าตกอยู่ในสภาพนี้เพราะคนบางคน ท่านคิดว่าผู้ใดควรรับผิดชอบเล่า?!" เพียงประโยคเดียวก็ทำเอาลั่วไห่ผิง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 349

ท่านมหาราชครูสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วใช้เวลาสงบสติอารมณ์อยู่สักพัก เมื่อเห็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของลั่วชิงยวน เขาก็เดาออกเลยว่าตอนอยู่ในตำหนักอ๋อง นางคงไม่มีชีวิตที่ดีนัก! การที่นางหายไปนานถึงเพียงนั้น เกรงว่าคงต้องทนทุกข์ไม่น้อยเลย หากเกิดเรื่องขึ้นกับจวนอัครเสนาบดี ลั่วชิงยวนย่อมต้องถูกท่านอ๋องทอดทิ้งเป็นแน่ เมื่อลั่วชิงยวนถูกลากเข้ามาพัวพัน สิ่งเดียวที่รอคอยนางอยู่ก็คือ ความตาย! ลั่วไห่ผิงมิได้รักใคร่ไยดีนางเลยสักนิด หากเขาไม่คอยดูแลนางล่ะก็ นางคงตายไปตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัยแล้ว... ท่านมหาราชครูรู้สึกปวดใจนัก แต่สุดท้ายก็กัดฟันตอบตกลง "ก็ได้ ข้าจะมอบจี้กิเลนให้เจ้า! เจ้าต้องจดจำไว้ว่า สิ่งนี้เป็นรางวัลจากจักรพรรดิองค์ก่อน มันมีความหมายกับข้ามากและมีคุณค่าในตัวเหลือคณานับ!" "วันนี้ข้าจักมอบสิ่งนี้เพื่อให้เจ้าเอาไปช่วยจวนอัครเสนาบดีของเจ้า! ข้าหวังว่าเจ้าจักจดจำบุญคุณครั้งนี้เอาไว้!" "ทำดีกับชิงยวนให้มาก ๆ หน่อย แล้วก็เลิกใช้นางมาแสวงหาผลประโยชน์ได้แล้ว!" ขณะที่ท่านมหาราชครูลั่วพูด เขาก็หยิบจี้กิเลนออกมาจากอกเสื้อแล้วยื่นให้ลั่วไห่ผิง ลั่วชิงยวนผงะอึ้งไปชั่วขณะ จู่ ๆ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 350

ในยามนี้เอง บรรดาผู้มาเยือนที่อยู่ในงานต่างครึกครื้นสนุกสนาน มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่เดินผ่านลานไป ลั่วชิงยวนแอบตามลั่วเยวี่ยอิงอยู่ไม่ไกลจากนอกเรือนปีกตะวันออก ลั่วชิงยวนหลบอยู่หลังกำแพง นางได้ยินเสียงลั่วเยวี่ยอิงกำชับนางรับใช้ว่า "พวกเจ้าจัดการเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?" นางรับใช้ผงกศีรษะ "จัดการเรียบร้อยแล้ว คุณหนูมิต้องห่วงเจ้าค่ะ!" เมื่อลั่วชิงยวนมองดูให้ชัด ๆ ก็รู้ว่าเป็นนางรับใช้จากจวนอัครเสนาบดี นางถือได้ว่าเป็นนางรับใช้คนสนิทของลั่วเยวี่ยอิงผู้หนึ่งเลยก็ว่าได้ การที่นางมาจัดแจงบางสิ่งบางอย่างถึงจวนมหาราชครู ย่อมมิใช่เรื่องดีงามอันใดเป็นแน่ "งั้นทำตามแผนได้ พอลั่วชิงยวนเข้ามาในห้อง เจ้าก็รีบพาคนเข้ามาเถอะ!" นางรับใช้ผงกศีรษะอีกครั้ง จากนั้นลั่วเยวี่ยอิงก็จากไป ลั่วชิงยวนสายตาเย็นชาเล็กน้อย แผนการคราวนี้พุ่งเป้ามาที่นางกระนั้นหรอกหรือ? ดูเหมือนว่าลั่วเยวี่ยอิงจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของตนจริง ๆ ลั่วเยวี่ยอิงคงคิดจะปลีกตัวออกจากสถานการณ์ เรื่องจะได้พัวพันมาไม่ถึงตนเอง ดังนั้นนางจึงอยู่ให้ห่างออกไป เมื่อลั่วชิงยวนเห็นว่าดูเหมือนนางรับใช้คิดจะตามหาตน
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
3334353637
...
123
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status