Share

บทที่ 341

Author: หว่านชิงอิ๋น
เขาหมุนร่างจากไปอย่างผิดหวัง แต่ก็ยังหันกลับไปมองประตูที่ปิดสนิทด้วยความเป็นห่วง จากนั้นจึงยกขาจากไป

แต่ข่าวที่ฟู่อวิ๋นโจวมาหาลั่วชิงยวนจะปิดมิดได้อย่างไรกัน ข่าวนี้ส่งถึงหูของฟู่เฉินหวนแทบจะในเวลาแรก

ถุงหอมที่อยู่ในมือพลันกำแน่น

“เร็วเพียงนี้เชียว พวกเขาเจอกันแล้วหรือ?” นัยน์ตาฟู่เฉินหวนแผ่ไปด้วยความเหน็บ

หลังกลับถึงตำหนัก มิได้มารายงานแก่เขาในเวลาแรก แต่กลับเจอฟู่อวิ๋นโจวก่อนงั้นหรือ?

พวกเขาอดใจรอมิไหวเช่นนี้เชียว!

แววตาของฟู่เฉินหวนเหน็บหนาวและเอ่ยสั่งเสียงเย็น “เรียกลั่วชิงยวนมา!”

ซูโหยวพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ!”

……

เมื่อตอนซูโหยวมาเชิญ ลั่วชิงยวนก็เริ่มมีลางไม่ดี

ต้องเป็นเพราะฟู่อวิ๋นโจวมาแน่ เขาจึงเรียกหานางอย่างรีบร้อนเช่นนี้ และคงตักเตือนนางดังเคย

นางสวมหน้ากาก ตามซูโหยวมาที่ห้องตำรา

ทันทีที่ประตูห้องปิดลง

บรรยากาศภายในห้องก็พิลึกขึ้นมา

ฟู่เฉินหวนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประเมินนางด้วยสายตาเย็นชา ทำคนรู้สึกขนลุกทั้งที่มิได้หนาว

ลั่วชิงยวนเองก็ยืนนิ่งมิเอ่ยปาก แสดงท่าทีราวกับหวาดกลัวมาก

นานมาก กว่าเสียงเยือกเย็นของฟู่เฉินหวนจะดังขึ้น

“ถอดหมวกกับหน้ากากออก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 342

    “เจ้า!” ฟู่เฉินหวนตะลึงแรง จนฝีเท้าแน่นิ่งกับที่ ลั่วชิงยวนจ่อมีดสั้นไว้ที่คอของตน อ้อนวอนขอท่านอ๋องด้วยน้ำเสียงร้องไห้ “ท่านอ๋อง ท่านปล่อยหม่อมฉันไปเถิด” “ได้โปรด หม่อมฉันผิดไปแล้ว หากท่านจะดูหน้าของหม่อมฉันจริง ๆ เช่นนั้นหม่อมฉันคงต้องตาย!” “หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉันมิควรแต่งงานแทน มิควรหาเรื่องท่านและลั่วเยวี่ยอิง ทุกอย่างที่หม่อมฉันเป็นอยู่ตอนนี้ หม่อมฉันสมควรทั้งนั้น!” “ท่านช่วยรักษาศักดิ์ศรีสุดท้ายของหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ!” ประโยคสุดท้ายลั่วชิงยวนตะโกนออกมาด้วยความสิ้นหวัง ความเจ็บปวดและการขัดขืนจากหัวใจที่แตกสลายของนาง กรีดลงที่กลางใจของฟู่เฉินหวนราวกับมีดคมทุกคำทุกประโยค นางกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? นี่ใช่ลั่วชิงยวนที่เขารู้จักหรือไม่? ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว ฟังเสียงสะอื้นที่เต็มไปด้วยความผวา คิ้วของฟู่เฉินหวนขมวดมุ่น เสียงที่ส่งออกมาจากในห้องตำรา คนที่อยู่ภายนอกต่างได้ยิน ไม่มีผู้ใดที่มิรู้สึกตะลึง พระชายาในอดีตยโสเช่นนั้น กล้าขัดท่านอ๋อง และมิเคยยอมแพ้ ต่อให้โดนทำโทษนางก็มิเคยก้มหัว บัดนี้กลับร้องไห้อ้อนวอน กระทั่งใช้ความตายมาขู่เพียงเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 343

    “เยี่ยมไปเลย นางสารเลวนั่นกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว! ดูท่าหน้านางคงเสียโฉมจึงทำให้นางมิกล้าพบผู้คน” เฉียงเวยพูดเสริม “ก่อนหน้านี้บ่าวได้ยินข่าวว่าที่จวนนั้นปรากฏงูจำนวนมาก พวกมันกัดลั่วชิงยวน จนร่างนางเต็มไปด้วยบาดแผล และหน้าก็เสียโฉมไปเจ้าค่ะ” เมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้รับข่าว นางรู้สึกอารมณ์ดีเป็นที่สุด นางมองใบหน้าของตนในคันฉ่องทองแดง และกระตุกมุมปากอย่างได้ใจ “เวรกรรมไงเล่า! ทุกวันนี้หน้าของข้ายังมิหายดีเพราะนาง นี้แลกรรมตามสนองนาง” เฉียงเวยรินน้ำชา “เจ้าค่ะ ต่อจากนี้แม้นางอยู่ในตำหนักต่อ ก็มิมีผลใด ๆ ต่อคุณหนูรองแล้ว” ลั่วเยวี่ยอิงได้ใจนัก นางกระตุกมุมปากเย็น ๆ “อีกไม่กี่วันที่จวนมหาราชครูจัดงานมงคล จักมีผู้มาเยือนมากหน้าหลายตา ข้าต้องการให้นางขายขี้หน้าต่อหน้าผู้คนมากหลาย!” “ทางที่ดีคือให้ทุกคนได้เห็นใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ของนาง โจมตีนางจนไม่เหลือชิ้นดี และฆ่าตัวตายไปในที่สุด” เมื่อนั้นที่นางไม่ยอมแต่งกับฟู่เฉินหวน แต่ยุยงให้ลั่วชิงยวนแต่งแทน ก็เพราะลั่วชิงยวนนั้นโง่เง่าและควบคุมง่าย นางปัดความผิดเรื่องการแต่งงานให้ลั่วชิงยวน ฟู่เฉินหวนจึงจะมิโทษหรือมิเกลียดชังนาง กลับกั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 344

    สิ้นเสียงประโยคนี้ ผู้คนรอบด้านที่มุงดูก็เพิ่มมากขึ้น “จริงด้วย สถานการณ์วันนี้ เหตุใดผู้นี้จึงแต่งตัวเช่นนี้ มีอะไรให้น่าหลบซ่อนกัน?” “วันนี้เป็นวันมงคลของจวนมหาราชครู แต่งตัวเช่นนี้เสียมารยาทเกินไปหรือไม่!” ผู้คนที่มุงเข้ามา ลั่วชิงยวนต่างไม่แปลกตานัก โดยเฉพาะเว่ยอวิ๋นเซี๋ยที่ยืนนำอยู่ เมื่อก่อนเว่ยอวิ๋นเซี๋ยอยู่กับหลิวฮุ่ยเซียง และค่อนข้างสนิทกับลั่วเยวี่ยอิง ดูท่าเหตุการณ์วันนี้ ลั่วเยวี่ยอิงจะเป็นคนบงการ นางคิดจะเล่นลั่วชิงยวนให้ตาย! เว่ยอวิ๋นเซี๋ยเดินมาหยุดตรงหน้านาง และเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าเป็นใคร ถอดหมวกเดี๋ยวนี้!” “หากเจ้ามิถอด ข้าคงต้องลงมือเอง!” เว่ยอวิ๋นเซี๋ยบีบบังคับนางทีละก้าว แต่นี่เป็นจวนมหาราชครู คนที่เข้ามาได้ในวันนี้ต่างมีเทียบเชิญทั้งสิ้น และมีคนจากจวนมหาราชครูคอยตรวจสอบ ต้องให้พวกนางมาตรวจซ้ำอีกที่ไหนกัน? ขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังจะเอ่ยปาก หางตานางกลับเห็นว่าฟู่เฉินหวนเดินมา และอยู่ในทิศไม่ไกล คิ้วของนางขมวดแน่น ในเมื่อเริ่มแสดงละครไปแล้ว นางจะหลุดมิได้เด็ดขาด เล่นละครต้องเล่นให้ครบ นางกลัวจนถอยหลังไปหลายก้าว เสียงของนางแข็งเกร็ง “นี่เป็นเรื่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 345

    คนรอบ ๆ ราวกับแข็งเป็นหิน ยืนนิ่งกับที่มิกล้าขยับ “ท่านอ๋อง…” ใต้เท้าผู้หนึ่งขึ้นหน้าประโลม สายตาดุดันของฟู่เฉินหวนกวาดผ่านอีกฝ่ายทีหนึ่ง ก็ทำเขากลัวจนมิกล้าออกเสียงอะไรทั้งนั้น เว่ยอวิ๋นเซี๋ยถูกบีบคอค้างไว้กลางอากาศ มือทั้งสองของนางพยายามแกะมือของฟู่เฉินหวน ส่วนขาทั้งสองดิ้นรนไปมาอยู่กลางอากาศ ภาพตรงหน้าน่ากลัวนัก ราวกับวินาทีต่อมา เว่ยอวิ๋นเซี๋ยสามารถกลายเป็นศพที่ถูกทิ้งในลานนี้ได้ทันที สายตาของฟู่เฉินหวนเยือกเย็นเหลือเกิน “กุข่าวต่อหน้าธารกำนัล ทำชื่อเสียงราชวงศ์เสื่อมเสีย ต่อให้สังหารเจ้าตอนนี้ ก็คงมิมีใครกล้าพูดสิ่งใด” ท่านเว่ยอยู่ทางทิศไม่ไกล ได้ยินเสียงเขาจึงรีบเข้ามาหา เขาคุกเข่าต่อหน้าฟู่เฉินหวนดังตุบ “ท่านอ๋อง! บุตรีกระหม่อมเพียงแต่สมองฟั่นเฟือนชั่วขณะ นางรู้ซึ้งถึงความผิดแล้ว! ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตนางเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาของเว่ยอวิ๋นเซี๋ยแดงก่ำ เส้นเลือดบนหน้าผากนูนขึ้น สีหน้าแดงเถือก ราวกับกำลังจะขาดใจและหมดลมหายใจได้ตลอด ฟู่เฉินหวนจึงยอมปล่อยเว่ยอวิ๋นเซี๋ย เว่ยอวิ๋นเซี๋ยล้มลงบนพื้น จากนั้นจึงได้ยินเสียงอันน่าเกรงขามดังขึ้น “วันนี้เป็นมงคลของคุณหนูลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 346

    มือที่ไพล่หลังไว้ของฟู่เฉินหวนกำหมัดอีกครั้ง นางมิได้ยินข่าวลือข้างนอกบ้างเลยหรืออย่างไร? ยังจะอยู่ในจวนมหาราชครูอีกหรือ? ฟู่เฉินหวนรู้สึกมีโทสะแล้วหันหลังเดินจากไป เมื่อลั่วชิงยวนหันกลับไปเห็นฟู่อวิ๋นโจว นางก็ปัดมือของเขาออกไป "องค์ชายห้า ขอบพระทัยในพระเมตตา แต่ท่านมิจำเป็นต้องทรงเป็นห่วงเรื่องของหม่อมฉันจริง ๆ เพคะ" นางยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการและมิอาจเสียเวลาไปกับเรื่องเช่นนั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคำนึงถึงสถานะพิเศษแล้ว พวกเขาก็ต้องรักษาระยะห่างด้วย "ชิงยวน ข้าก็แค่อยากจะให้หมอกู้มาตรวจดูใบหน้าของเจ้า บางทีอาจพอรักษาได้ เจ้าจงอย่าได้ยอมแพ้เด็ดขาด" ในยามนี้เอง ลั่วหรงก็เดินผ่านมาแล้วร้องเรียก "ชิงยวน!" "ท่านอา!" เมื่อลั่วชิงยวนหันหลังไปก็เห็นลั่วหรงกำลังเดินเข้ามาหานางด้วยท่าทีตื่นเต้น ลั่วหรงคว้าแขนของนางเอาไว้ "นังหนูหายไปเสียตั้งนาน มิเกิดเรื่องอันใดขึ้นใช่หรือไม่? ไฉนเจ้าต้องสวมผ้าคลุมหน้าด้วยเล่า..." "ท่านอา ขอเชิญพูดคุยเป็นการส่วนตัวเถิดเจ้าค่ะ" ลั่วชิงยวนลดเสียงลง จากนั้นนางก็หันหน้าไปทางฟู่อวิ๋นโจวและผงกศีรษะให้เล็กน้อย เพื่อเป็นการบ่งบอกว่านางจะขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 347

    "หากข้ามิจัดการเรื่องแต่งงานของบุตรีทั้งสองคนเสียแต่เนิ่น ๆ เกรงว่าเมื่อข้าจากไปแล้ว วันหน้าพวกนางคงโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งพา" หลังจากลั่วหรงพูดจบก็อดมิได้ที่จะไอสองครั้ง จากนั้นก็รินน้ำชาถ้วยหนึ่งเพื่อให้ชุ่มคอ ลั่วชิงยวนสังเกตเห็นแววอ่อนล้าในดวงตาของลั่วหรง นางคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการเตรียมงานแต่งในระยะนี้ ทว่ายามนี้กลับดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลอื่นเสียแล้ว "ท่านอาเจ้าคะ ขอข้าจับชีพจรท่านสักหน่อยเถิด" ลั่วหรงยิ้มพลางส่ายหน้า "ข้ารู้ตัวเองดี ขืนกังวลใจมากไปก็จะทำให้แก่เร็ว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงยัยเด็กอวิ๋นสี่ที่ชวนให้อดห่วงมิได้นี่เลย" "ข้าเกรงว่าวันเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของจวนมหาราชครูกำลังหมดไปจริง ๆ แล้วข้าก็กลัวว่าจักหามีผู้ใดปกป้องเด็กสองคนนี้ได้อีก!" ลั่วหรงสีหน่าเคร่งเคร่งขรึมและเป็นกังวล เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วด้วยความสับสน "วันเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของจวนมหาราชครูกำลังหมดไปหมายความเยี่ยงไรเจ้าคะ? หมู่นี้ก็ใช่ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นในเรือนเสียหน่อย" ลั่วหรงยิ้มพลางตบหลังมือของนาง "ข้ารู้สึกว่าร่างกายแบกรับมิไหวอีกต่อไปแล้ว หากจัดการเรื่องการแต่งงานของบุตรข้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 348

    ก่อนที่นางรับใช้จะทันได้พูดให้จบ ลั่วหรงก็รีบลุกพรวดด้วยความร้อนใจแล้ววิ่งออกไป ลั่วชิงยวนสวมผ้าคลุมหน้าแล้วรีบตามไป เกิดอะไรขึ้นกับท่านมหาราชครูกันแน่! นางรีบตามฝีเท้าของลั่วหรงจนมาถึงห้องตำราของท่านมหาราชครู จากนั้นก็เห็นท่านมหาราชครูกำลังนั่งเอามือกุมหน้าอกอยู่บนเก้าอี้ ราวกับว่าเขาหายใจแทบไม่ออกอยู่แล้ว น่าแปลกที่ลั่วไห่ผิงก็อยู่ตรงนั้นด้วย "ท่านลุงรอง! อดทนเอาไว้นะขอรับ ข้าจะไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้!" ลั่วไห่ผิงเอ่ยด้วยท่าทีกระวนกระวายใจแล้วเตรียมจะวิ่งออกไปข้างนอก ลั่วหรงรีบดึงตัวเขากลับมาพลางเอ่ยน้ำเสียงขรึม "วันนี้เป็นวันมงคลของหลางหลาง ขืนท่านวิ่งออกไปด้วยท่าทีตื่นตระหนกเช่นนั้น คนข้างนอกคงได้รู้กันหมดพอดี" ลั่วไห่ผิงที่ตื่นตกใจจึงเอ่ยวาจาตำหนิขึ้นมาว่า "น้องหรง เจ้าเป็นคนกตัญญูรู้คุณเป็นที่สุด แต่มิคาดคิดว่าในช่วงเวลาเป็นตายเช่นนี้ เจ้ากลับเอาแต่สนใจงานมงคลของบุตรสาวของตัวเจ้า หากพวกเรามิไปตามหมอท่านลุงรองคงต้องตายแน่!" ลั่วหรงถลึงตามองเขาด้วยความโกรธจัด "ท่านพ่อของข้าตกอยู่ในสภาพนี้เพราะคนบางคน ท่านคิดว่าผู้ใดควรรับผิดชอบเล่า?!" เพียงประโยคเดียวก็ทำเอาลั่วไห่ผิง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 349

    ท่านมหาราชครูสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วใช้เวลาสงบสติอารมณ์อยู่สักพัก เมื่อเห็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของลั่วชิงยวน เขาก็เดาออกเลยว่าตอนอยู่ในตำหนักอ๋อง นางคงไม่มีชีวิตที่ดีนัก! การที่นางหายไปนานถึงเพียงนั้น เกรงว่าคงต้องทนทุกข์ไม่น้อยเลย หากเกิดเรื่องขึ้นกับจวนอัครเสนาบดี ลั่วชิงยวนย่อมต้องถูกท่านอ๋องทอดทิ้งเป็นแน่ เมื่อลั่วชิงยวนถูกลากเข้ามาพัวพัน สิ่งเดียวที่รอคอยนางอยู่ก็คือ ความตาย! ลั่วไห่ผิงมิได้รักใคร่ไยดีนางเลยสักนิด หากเขาไม่คอยดูแลนางล่ะก็ นางคงตายไปตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัยแล้ว... ท่านมหาราชครูรู้สึกปวดใจนัก แต่สุดท้ายก็กัดฟันตอบตกลง "ก็ได้ ข้าจะมอบจี้กิเลนให้เจ้า! เจ้าต้องจดจำไว้ว่า สิ่งนี้เป็นรางวัลจากจักรพรรดิองค์ก่อน มันมีความหมายกับข้ามากและมีคุณค่าในตัวเหลือคณานับ!" "วันนี้ข้าจักมอบสิ่งนี้เพื่อให้เจ้าเอาไปช่วยจวนอัครเสนาบดีของเจ้า! ข้าหวังว่าเจ้าจักจดจำบุญคุณครั้งนี้เอาไว้!" "ทำดีกับชิงยวนให้มาก ๆ หน่อย แล้วก็เลิกใช้นางมาแสวงหาผลประโยชน์ได้แล้ว!" ขณะที่ท่านมหาราชครูลั่วพูด เขาก็หยิบจี้กิเลนออกมาจากอกเสื้อแล้วยื่นให้ลั่วไห่ผิง ลั่วชิงยวนผงะอึ้งไปชั่วขณะ จู่ ๆ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status