บททั้งหมดของ ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย: บทที่ 1051 - บทที่ 1060

1229

บทที่ 1051

หลังจากสอบถามแล้วก็พบว่าที่นี่คือจวนของจูหงที่เป็นเจ้ากรมพระคลังบันทึกที่หล่างมู่บันทึกไว้ได้กล่าวถึงเส้นทางการส่งเบี้ยหวัดทหารจากกรมพระคลัง ดูเหมือนว่าการสืบสวนครั้งนี้จะนำไปสู่การเปิดโปงจูหงแล้ว แต่มิรู้ว่าเหตุใดจึงรีบเร่งให้นางมาที่แห่งนี้ทหารเดินนำนางไปสู่ห้องลับในจวน ปรากฏว่าฟู่เฉินหวนและแม่ทัพใหญ่ฉินอยู่ภายในห้องนั้นเสียงสตรีร้องไห้คร่ำครวญแผ่วเบาแว่วมาจากเบื้องหลังฉากกั้นห้อง“เกิดเรื่องอันใดขึ้นเพคะ?” ลั่วชิงยวนเอ่ยถามฟู่เฉินหวนอธิบายว่า “จูหง เจ้ากรมพระคลังได้อ้างว่าตนล้มป่วยมาสิบวันแล้ว เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการสมคบคิดกับพวกเผ่านอกด่าน ซึ่งเจ้าเองก็คงรู้ดีอยู่แล้ว”ลั่วชิงยวนพยักหน้ารับฟู่เฉินหวนกล่าวต่อ “แม่ทัพใหญ่ฉินได้สืบสวนมาถึงจวนตระกูลจู จึงทราบว่าจูหงหายตัวไปสิบวันแล้ว”“เป็นคำบอกเล่าจากภรรยาของเขาเอง”ลั่วชิงยวนพยักหน้าพลางครุ่นคิด “ดังนั้นนับแต่ที่เขาอ้างว่าล้มป่วย เขาก็หายตัวไปแล้ว”“คนในจวนมิได้รายงานกับทางการเลยหรือเพคะ? มิได้ส่งคนออกไปตามหาเลยหรือ?”จากนั้นฟู่เฉินหวนก็หันไปมองคนที่อยู่เบื้องหลังฉากกั้นห้อง “เรื่องนั้นต้องถามฮูหยินจูดู”
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1052

เรื่องนี้มิธรรมดาเลยลั่วชิงยวนถามอีกว่า “ฮูหยินจู ช่วงนี้ท่านได้ติดต่อกับคนแปลกหน้าหรือไม่? หรือเกิดเหตุการณ์แปลก ๆ ขึ้นบ้างหรือไม่?”ฮูหยินจูตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ฟังดังนั้น จากนั้นก็หลบสายตากล่าวว่า “ไม่มีเจ้าค่ะ”ดูเหมือนว่าฮูหยินจูจะปกปิดบางอย่างลั่วชิงยวนมิได้ถามประเด็นนี้มากเกินไป ต้องสอบถามรายละเอียดก่อนสอบถามหลายอย่างจึงทราบว่าจูหงรักภรรยามาก ถึงแม้ว่าฮูหยินจูจะไม่มีบุตรธิดา แต่จูหงก็ไม่มีอนุเลยดังนั้นหากเขารู้ว่าตระกูลเหยียนจะฆ่าปิดปากเขา การหลบหนีก็ต้องพาภรรยาไปด้วยแน่นอนแต่สถานการณ์ปัจจุบันคือ ทรัพย์สินในจวนลดลง แต่ฮูหยินจูยังอยู่ที่นี่ลั่วชิงยวนคิดว่า อาจจะเป็นเพราะตระกูลเหยียนใช้สิ่งลึกลับมาฆ่าปิดปากเขา และขโมยทรัพย์สินไปเพื่อปลอมแปลงว่าจูหงหลบหนีไปเองหลังจากพูดคุยกับฮูหยินจูเสร็จแล้ว ลั่วชิงยวนก็ออกจากห้อง“เป็นอย่างไรบ้าง?” ฟู่เฉินหวนถามด้วยความกังวลแม่ทัพใหญ่ฉินก็มองนางด้วยความคาดหวังแต่ลั่วชิงยวนมิได้เล่าเรื่องนี้“เปลี่ยนที่พูดคุยกันเถิดเพคะ”เมื่อนั่งลงในสวนที่ไม่มีใครอยู่ ทหารก็วิ่งมา “ท่านแม่ทัพใหญ่ คุณชายรองมาแล้ว กล่าวว่าพบเบาะแสของวังชิงแล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1053

“เช่นนั้นก็ดี จะได้มิต้องรบกวนท่านเซียนฉู่อีกต่อไปแล้ว”ลั่วชิงยวนคิดว่าจะส่งฟู่เฉินหวนออกไปได้แล้วแต่ปรากฏว่าฟู่เฉินหวนกลับพูดว่า “นานแล้วที่เรามิได้นั่งดื่มสุราด้วยกัน คืนนี้แสงจันทร์งดงามนัก มาดื่มกันสักสองสามจอกดีหรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่รีบลุกไปยังห้องครัวหลังบ้านเพื่อนำถ้วยสุรามา“เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อน ท่านทั้งสองโปรดสนทนากันตามอัธยาศัยเถิดเพคะ”ซ่งเชียนฉู่กลับไปยังห้องของตนฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนจึงดื่มสุราด้วยกันฟู่เฉินหวนถามซ้ำอีกครั้งว่า “ท่านเซียนฉู่ ช่วยตรวจดูให้ข้าอีกครั้งเถิด ว่าข้าถูกวางยาพิษหรือถูกควบคุมด้วยยาชนิดใดหรือไม่?”ลั่วชิงยวนถึงกับตะลึงไปเล็กน้อย“ท่านอ๋อง คือว่า... กระหม่อมได้ตรวจดูให้ท่านอ๋องแล้วหลายครั้ง แต่กระหม่อมก็ยังดูมิออกจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมาก“หากท่านยังดูมิออก เช่นนั้นใต้หล้านี้คงไม่มีผู้ใดจะรักษาได้แล้วกระมัง?”น้ำเสียงที่หนักอึ้งและเศร้าโศกนั้น ทำให้ใจของลั่วชิงยวนเจ็บปวดราวกับถูกของหนักทับจึงรีบกล่าวว่า “ท่านอ๋องมิควรสิ้นหวังเช่นนั้น กระหม่อมดูมิออกก็มิได้หมายความว่าจะไม่มีวิธีรัก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1054

ฟู่เฉินหวนก็ประหลาดใจเช่นกันเขาสั่งให้ซูโหยวส่งคนไปสืบประวัติของผู้ที่แจ้งความเหล่านั้นทันทีโดยให้ไปเยี่ยมเยียนและสอบถามข้อมูลและเบาะแสเพิ่มเติมทีละคนลั่วชิงยวนก็ตั้งใจจะไปเยี่ยมเยียนด้วยตนเองเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมแต่ขณะที่กำลังจะออกจากประตู เด็กขอทานตัวน้อยก็วิ่งตรงมาหานางแล้วยื่นสิ่งของบางอย่างให้นาง ก่อนจะวิ่งหนีไปทันที“ช้าก่อน!” ลั่วชิงยวนแทบจะเรียกเขามิทันด้วยซ้ำนางรีบคลี่กระดาษแผ่นนั้นออกดูปรากฏว่าเขียนไว้ว่า ตระกูลเหยียนจะฆ่าปิดปากกระหม่อม หากท่านสามารถช่วยชีวิตกระหม่อมได้ กระหม่อมจะมอบหลักฐานทั้งหมดให้ท่าน! คืนนี้เที่ยงคืนโปรดเสด็จไปรอกระหม่อมที่ใต้ต้นไทรเมืองหลิวหยางตะวันตก เสด็จมาคนเดียว!” “เกิดอะไรขึ้น?” ฟู่เฉินหวนก้าวเข้ามาลั่วชิงยวนรีบส่งกระดาษแผ่นนั้นให้เขาฟู่เฉินหวนอ่านแล้วก็ตกตะลึง นัยน์ตาเคร่งขรึมขึ้นจากนั้นเดินเข้าประตูไป“เป็นลายมือของวังชิง”“เขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจูหงและยังมีข้อมูลลับมากมาย หลังจากจูหงหายตัวไป แม่ทัพใหญ่ฉินก็ให้ความสำคัญกับวังชิง”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลั่วชิงยวนจึงถามว่า “เช่นนั้นคืนนี้ท่านอ๋องจะไปคนเดียวหรือเพคะ? หม่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1055

“นี่... คงมิใช่วังชิงหรอกกระมัง?” ซ่งเชียนฉู่เอ่ยถามขณะคิ้วขมวดมุ่นฟู่เฉินหวนย่อกายลงตรวจดูรอบ ๆ พลันสัมผัสเข้ากับป้ายหยกแผ่นหนึ่งบนพื้นดินมันคือป้ายหยกของกรมคลัง“คงเป็นวังชิงมิผิดแน่”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว นางรีบชักเอาคันฉ่องสุริยันจันทราออกมา ปลายนิ้วเรืองรองด้วยอักขระเวทเมื่อแสงจากอักขระเวทมอดดับลง ภาพบุรุษชุดขาวก็ปรากฏขึ้นในกระจกสุริยันจันทราขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงรัศมีอันแข็งแกร่งหัวใจของลั่วชิงยวนกระตุกวูบ อยู่ใกล้ ๆ นี่เอง!นางรีบเหาะทะยานตามไปทางทิศใต้โดยพลันด้วยวิชาตัวเบาดุจขนนก มินานนางก็หายลับไปในความมืดฟู่เฉินหวนตกใจ รีบติดตามไปทันที......ยามราตรีอันมืดมิด ลั่วชิงยวนไล่ตามออกไปนอกเมือง ร่างกายลอยละลิ่วอยู่เหนือยอดไม้ราวกับควบคุมสายลมได้ในมือนางปรากฏเชือกอักขระเวท นางมองไปยังบุรุษชุดขาวแล้วเหวี่ยงเชือกออกไปอีกฝ่ายไหวตัวทัน กระโดดหลบไปได้แต่ก็ถูกลั่วชิงยวนสกัดกั้นเอาไว้นางพุ่งเข้าหา ดาบวงพระจันทร์ฟาดฟันไปที่ลำคอของอีกฝ่ายท่ามกลางแสงจันทร์ ดวงตาของบุรุษผุดความประหลาดใจ หางงูปรากฏขึ้นด้านหลังพยุงร่างของเขาให้ลอยขึ้น หลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดใน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1056

ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังมาจากในป่าฉู่จิ้งตกใจ เขาสะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังวิ่งหนีไปจากนั้นก็คืนร่างกลับเป็นงูเลื้อยหายเข้าไปในพงหญ้ามินานฟู่เฉินหวนก็ตามมาถึงลั่วชิงยวนยังมิทันได้เอ่ยปากฟู่เฉินหวนก็พูดด้วยความร้อนใจ “คราวหน้าอย่าวิ่งนำหน้าไปคนเดียวเช่นนี้อีก มันอันตรายรู้หรือไม่!”ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไป“มิกลัวว่าข้าจะตามมิทันรึ”ฟู่เฉินหวนมองไปรอบๆ “แล้วเจ้าตามคนผู้นั้นทันหรือไม่?”“เขาหนีไปแล้วเพคะ” ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง“หนีไปแล้วก็ช่างเถิด เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว”ฟู่เฉินหวนยังคงขมวดคิ้ว แต่ลั่วชิงยวนกลับแอบยิ้มจางทั้งสามคนกลับไปที่ลานบ้านหลังนั้นแล้วค้นหาอย่างละเอียดแต่ก็มิพบหลักฐานใด ๆ ที่วังชิงทิ้งไว้เหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น“มีเบาะแสอื่นอีกหรือไม่? หรือว่าจะหมดหวังแล้วเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเคร่งขรึม แต่ก็ยังปลอบโยน “น่าจะมี”“กลับไปก่อนเถิด ข้าจะให้คนมาจัดการเอง”......เมื่อกลับถึงตำหนักอ๋อง ฟู่เฉินหวนก็กลับไปทำงานอย่างหนักเพราะวังชิงตายแล้ว เขาจึงต้องรีบสืบหาเบาะแสอื่นโดยเร็วดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีหลักฐานที่แน่ช
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1057

“แต่เดิมตระกูลข้าประกอบอาชีพค้าขาย สามีข้าเป็นชายที่เข้ามาเป็นเขย ก่อนพิธีสมรส เขาประพฤติตนราวกับสุภาพบุรุษ แต่หลังจากนั้นกลับเผยธาตุแท้ เที่ยวเตร่ในแหล่งอบายมุข นำเงินจากบัญชีการค้าไปใช้จ่ายในสถานเริงรมย์”“พ่อแม่ข้าทราบเรื่องนี้จึงคิดจะขับไล่เขาออกจากบ้าน แต่เพียงเดือนเดียว พ่อแม่ข้าก็ล้มป่วยลงอย่างรวดเร็วและสิ้นใจ”“ท่านทั้งสองมีสุขภาพแข็งแรงดีเสมอมา! ข้ารู้แน่ว่าสามีข้าต้องเป็นคนลงมือ! แต่ข้าหาหลักฐานมิได้”“เขายังยึดครองทรัพย์สินของตระกูลข้าและทำร้ายข้าทุกวัน ขู่เข็ญข้าว่าหากข้ากล้าไปแจ้งความ เขาจะฆ่าข้า”นางกล่าวจบ น้ำตาก็รินไหลลงมาอาบแก้ม ลั่วชิงยวนฟังด้วยความเวทนา แล้วจึงเอ่ยถาม “แล้วเจ้าแจ้งความหรือไม่?”“ข้าแอบไปแจ้งความครั้งหนึ่ง แต่คนใจโหดนั้นกลับขายข้าให้หอนางโลม!”“เขาขู่ข้า ข้าหวาดกลัวเกินกว่าจะทำอะไรได้”“ข้าหวาดผวาอยู่ทุกวันทุกคืน”“ปรารถนาเพียงให้เขาตายไปเสีย!”“ต่อมาข้าได้ยินมาว่าศาลเจ้าที่เขาหลิงซานศักดิ์สิทธิ์นัก เพียงแต่เขียนความปรารถนาและความทุกข์ยากลงไป แล้วจุดธูปบูชาติดต่อกันสิบวันก็จะสมปรารถนา!”“ข้าจึงไปที่นั่น!”“หลังจากกลับมาได้สามวัน คนใจร้ายน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1058

“ฮูหยินจู ข้ารู้ทุกอย่างแล้ว ข้าจะปล่อยท่านไป ขึ้นอยู่กับว่าท่านจะจริงใจหรือไม่”ฮูหยินจูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกลับไปที่สวนด้านหลังกับลั่วชิงยวนและซ่งเชียนฉู่ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ ฮูหยินจูจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ต่อหน้าคนอื่นเขาดูเป็นคนรักภรรยา แม้ข้าจะไม่มีลูก เขาก็มิหย่าและมิเคยรับอนุด้วยซ้ำ”“แต่ไม่มีใครรู้ว่าความจริงแล้วเขามีชู้ และชู้คนนั้นก็คือน้องสาวแท้ ๆ ของข้าเอง”“พวกเขามีทั้งลูกชายและลูกสาวด้วยกัน”“เงินที่เขานำกลับบ้านมีเพียงเบี้ยหวัดเท่านั้น แต่เงินที่มอบให้ชู้มีมากมายมหาศาล แต่เขามิเคยให้ข้ารู้เลย”“ต่อมาข้าจึงรู้ว่านั่นคือบ้านหลักที่แท้จริงของเขา”“ส่วนข้าเป็นเพียงภรรยาที่ใช้รับแขกเท่านั้น ที่เขาบอกว่าอาจมีอันตรายเมื่อมินานมานี้เป็นความจริง แต่เขามิได้บอกข้า”“ข้าเกิดความสงสัยเขาจึงตามไปดู จึงได้รู้ความลับที่เขาปิดบังข้ามานานสิบกว่าปี”“เขาบอกว่าเขาจะพาครอบครัวหนีออกจากเมืองหลวง แล้วจะขนย้ายเงินก่อน”“ส่วนที่เมืองหลวง ตราบใดที่จวนตระกูลจูยังอยู่และข้ายังเป็นฮูหยินจูก็จะไม่มีใครสงสัยว่าเขาหนีไป”“ความรักที่เขามอบให้ข้าต่อหน้าคนอื่นเป็นเพียงการแสด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1059

“เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันได้เบาะแสบางอย่างมา ขอให้หม่อมฉันได้สนทนาเป็นการส่วนตัวกับฮูหยินหวงเถิดเพคะ”ฟู่เฉินหวนพยักหน้ารับ แล้วให้คนรับใช้ทั้งหมดถอนตัวออกจากเรือนไปลั่วชิงยวนนั่งมองฮูหยินหวงผู้กำลังร่ำไห้คร่ำครวญด้วยสีหน้าที่เย็นชา “ฮูหยินหวง ข้าได้สืบหาความจริงเรื่องของท่านแล้ว”“ท่านเพียงแค่บอกข้ามาเถิดว่า ใครเป็นผู้บอกท่านว่าการบนบานศาลกล่าวที่ศาลเจ้าเขาหลิงซานนั้นศักดิ์สิทธิ์นัก”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฮูหยินหวงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด นั่นหมายความว่าลั่วชิงยวนทราบแล้วว่านางได้สังหารสามีของตน“ท่านมิต้องกังวล ข้าได้ปล่อยตัวฮูหยินจูไปแล้ว และข้าก็จะปล่อยตัวท่านเช่นกัน แต่ท่านต้องบอกความจริงมา”ฮูหยินหวงก้มศีรษะลงแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “หลิ่วอิ๋งเอ๋อร์ อนุแห่งตระกูลหลิวเป็นผู้บอกข้าเจ้าค่ะ”สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปซ่งเชียนฉู่ถาม “อาจจะเป็นเพียงการบอกต่อ ๆ กันมาจนเป็นเช่นนี้ก็ได้ใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ยังมิสามารถยืนยันได้ ต้องสืบหาต่อไป”ทั้งสองเดินออกจากเรือนฟู่เฉินหวนประหลาดใจยิ่งนัก “เร็วเช่นนี้เลยหรือ? นางบอกความจริงแล้วรึ?”
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1060

เหยียนหน่ายซิน!“เป็นนางจริง ๆ! ก่อนหน้านี้ นางลักเอาป้ายของมหาราชาจารย์เหยียนไปให้เจ้าเพื่อระดมกำลังทหาร แต่บัดนี้กลับไปช่วยตระกูลเหยียน นางต้องการจะทำอะไรกันแน่!”ฟู่เฉินหวนรู้สึกงุนงงลั่วชิงยวนส่ายหน้า แล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “สตรีผู้นี้มิธรรมดา เราต้องระวังตัวไว้ให้ดี”“หม่อมฉันจะไปสอบถามนางเอง”ขณะที่กำลังจะออกไป ฟู่เฉินหวนกลับคว้ามือของนางไว้ลั่วชิงยวนอึ้งไปเล็กน้อย แล้วหันหน้ามามองเขา“ระวังตัวด้วย”“วางใจเถิดเพคะ” หลังจากที่ลั่วชิงยวนออกไปแล้วก็ไปสืบหาเรื่องราวของเหยียนหน่ายซินก่อน เพื่อหาทางติดต่อนางมิถึงครึ่งชั่วยาม เหยียนหน่ายซินก็ปรากฏตัวต่อหน้าลั่วชิงยวนนางยังคงสวมเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่บดบังใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง“เจ้ามาเร็วเสียจริง”เหยียนหน่ายซินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ข้ารู้ว่าเจ้ากับอ๋องผู้สำเร็จราชการกำลังสืบหาข้า ข้าอยากจะไปหาเจ้ามานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีโอกาส”“วันนี้เป็นโอกาสดี พาข้าไปพบอ๋องผู้สำเร็จราชการเถิด”ลั่วชิงยวนอึ้งไปเล็กน้อย “ต้องการพบฟู่เฉินหวนหรือ? มีเรื่องอะไรที่บอกข้ามิได้หรือ?”เหยียนหน่ายซินเชิดคางขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนอย
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
104105106107108
...
123
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status