All Chapters of ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา: Chapter 1441 - Chapter 1450

1566 Chapters

บทที่ 1441

อันเจ๋อยังมิทันได้ชักนิ้วกลับมาก็ถูกอาจารย์หลินกัดเข้าไปอย่างแรง เขาส่งเสียงร้องออกมาอย่างอึดอัด อยากจะดึงนิ้วออกแต่ก็ดึงมิออกอันเจ๋อหมดคำพูดไปเลยทีเดียว นี่อาจารย์หลินคิดว่านิ้วตนเป็นไม้หรือไร?เขาลองเอานิ้วออกอยู่หลายครั้งแต่สุดท้ายแล้วก็มิสำเร็จแรงกัดเช่นนี้ หากเป็นลิ้นของอาจารย์หลินเองก็คงจะถูกเขากัดขาดกระมัง!อันเจ๋อเห็นว่าอาจารย์หลินชักเกร็งพร้อมกับเหงื่อเปียกโชกไปทั้งตัว จึงทำได้เพียงอดกลั้นความเจ็บเอาไว้แล้วปล่อยให้เขากัดต่อไปเฉาเฉียงเห็นว่าเหงื่อของอันเจ๋อไหลลงมาจากบนหัวแต่อันเจ๋อก็มิได้โกรธเกรี้ยวเฉาเฉียงจึงมองอันเจ๋อเปลี่ยนแปลงไป รู้สึกได้ว่ามิใช่ว่าขุนนางทุกคนจะน่ารังเกียจดังเช่นผู้ว่าการหวาง!ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น อาจารย์หลินคงจะกินยาของอันเจ๋อลงไปแล้วมิได้เจ็บปวดมากแล้ว จึงผ่อนคลายแล้วเลิกกัดนิ้วของอันเจ๋ออันเจ๋อดึงนิ้วออกมา ทั้งนิ้วนั้นเต็มไปด้วยเลือดอย่างน่าเวทนาเขาทรุดตัวลงกับพื้น มองอาจารย์หลินที่มิได้ชักแล้วพลางถอนหายใจโล่งอก“ดีขึ้นแล้ว ยาของข้าออกฤทธิ์แล้ว แต่ยังมิได้ตรวจสาเหตุของอาการป่วยให้แน่ชัด ยานี้ทำได้เพียงให้เขาผ่านพ้นครั้งนี้ไปได้เท่านั้น!
Read more

บทที่ 1442

เซียวหลินเทียนคาดเดาไว้แล้วว่า พวกเขาจะต้องมีปฏิกิริยาเช่นนี้ จึงหย่อนเหยื่อที่ใหญ่กว่าออกไปอย่างช้า ๆ“เหล่าขุนนางทั้งหลาย เพื่อเป็นการกระตุ้นพวกเจ้า ตัวข้าสามารถรับปากได้ว่า หากผู้ใดสามารถเสนอความคิดเห็นดี ๆ ที่แก้ไขเรื่องที่ดินรกร้างได้จริง ๆ จะได้เลื่อนขั้นหนึ่งขั้นและได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นสองเท่า”จ้าวฮุยกับหลี่ว์เซียงเป็นขุนนางในระดับสูงอยู่แล้ว ทั้งสองจึงมิสามารถเลื่อนขั้นได้อีก แต่เซียวหลินเทียนก็เอ่ยกับทั้งสองอย่างชัดเจนเพื่อมิให้จ้าวฮุยสร้างปัญหา“อัครเสนาบดีจ้าวกับหลี่ว์เซียงเป็นอัครเสนาบดีอยู่แล้ว พวกท่านทั้งสองมิสามารถเลื่อนขั้นได้!”“แต่เพื่อเป็นรางวัลในความก้าวหน้าของพวกท่าน ตัวข้ารับปาก… ขอเพียงพวกท่านทั้งสองหากผู้ใดสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินรกร้างได้ ข้าจะแต่งตั้งคนผู้นั้นเป็นอ๋อง!”ทันทีที่คำนี้ออกมา อัครเสนาบดีจ้าวกับหลี่ว์เซียงต่างก็เบิกตาโตอย่างงุนงงหลี่ว์เซียงมิได้สนใจในเรื่องการเป็นอ๋องใด ๆ ทั้งสิ้นแต่อัครเสนาบดีจ้าวนั้นแตกต่างออกไป เขาเป็นอัครเสนาบดีแล้ว ในชีวิตนี้ก็ทำได้เพียงอยู่ในตำแหน่งนี้ไปถึงกว่าจะถึงคราวเกษียณหากสามารถเป็นอ๋องได้ แม้ว่าจะเป็นอ๋
Read more

บทที่ 1443

การว่าราชกิจในยามเช้านี้เป็นไปอย่างครึกครื้น ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็นของตนและมีจำนวนมิน้อยที่ได้รับรางวัลจากเซียวหลินเทียน พวกขุนนางเช่นใต้เท้าหลี่ก็ได้เลื่อนขั้นและได้รับเงินในทันทีใต้เท้าหลี่ตื่นใจมากจนหลังจบการเข้าราชสำนักแล้วก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ เขารู้สึกว่าการเลื่อนขั้นช่างง่ายดาย แค่พูดเรื่องดี ๆ ออกไปก็ข้ามผ่านความพยายามหลายปีของตนแล้วเพลานี้จ้าวฮุยยังคงมิได้ระแวดระวัง คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่เพิ่งได้ขึ้นครองบัลลังก์มินานก็เจอเหตุจลาจลแล้ว เขาคงใช้ความสามารถที่มีอยู่จนหมดไปแล้วจึงได้คิดจะทำบางสิ่งเอาใจมวลชนเมื่อคนของตนได้เลื่อนขั้น เขาเองก็ยินดีด้วยในใจของจ้าวฮุยยังคงเต็มไปด้วยความดูถูกที่มีต่อเซียวหลินเทียน เขารู้สึกว่า เซียวหลินเทียนยังเป็นมือใหม่ในเรื่องการบ้านการเมือง ยังมิเข้าใจว่าจะจัดการบ้านเมืองอย่างไรจึงได้ใช้วิธีระดมความคิดเช่นนี้หลังจากจบเรื่องหลิงอวี๋ได้ฟังเรื่องในราชสำนักจากปากของเซียวหลินเทียน นางก็มิได้มิพอใจแต่อย่างใดที่เซียวหลินเทียนนำข้อเสนอแนะของตนไปแปลงเป็นความดีความชอบของผู้อื่นเซียวหลินเทียนเข้าใจใช้วิธีอ้อม ๆ เช่นนี้ไปผลักดันนโย
Read more

บทที่ 1444

อันเจ๋อยังเอ่ยถึงท่านอดีตเสนาบดีอีกด้วย เขารู้ว่าคนที่เคยเป็นทหารเช่นเฉาเฉียง พวกเขาอาจจะมิรู้จักองค์จักรพรรดิ แต่ไม่มีทางมิรู้จักท่านอดีตเสนาบดีที่อยู่ในกองทัพมาหลายสิบปีเป็นแน่“รู้จักท่านอดีตเสนาบดีอ๋องเจิ้นหนานที่เมืองหลวงหรือไม่? ก่อนหน้านี้เขาได้นำทัพแล้วตกม้าจนทำให้ขาหัก ตอนที่ถูกส่งตัวกลับเมืองหลวงก็หมดสติและหายใจรวยรินไปแล้ว!”“หมอหลวงในวังล้วนบอกว่า ท่านอดีตเสนาบดีจะมีชีวิตอยู่ได้อีกมินาน แต่ฮองเฮาผู้สูงศักดิ์ของพวกเราก็ใช้วิชาการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมช่วยเหลือท่านอดีตเสนาบดีไว้ได้!”“ตอนนี้ท่านอดีตเสนาบดีมิเพียงแต่ร่างกายแข็งแรงดีเท่านั้น แต่ยังสามารถขี่ม้าได้ด้วย!”เฉาเฉียงฟังแล้วก็เบิกตาโตอย่างประหลาดใจพวกเขาคือคนที่มาจากการออกรบ มีหรือจะมิรู้ว่าเมื่อขาหักแล้วหากโชคดีก็จะมีชีวิตอยู่ต่อได้ แต่หากโชคร้ายก็มีแต่ตายเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีได้รับการรักษาจนหายดีทั้งยังสามารถขี่ม้าได้อีก… นี่เป็นหมอขั้นเซียนจริง ๆ!“ข้ามิได้พูดคุยโวเกินจริงกับพวกเจ้า ทักษะการแพทย์ของฮองเฮายอดเยี่ยมจริง ๆ ตัวอย่างเช่นนี้ยังมีอีกมาก พวกเจ้าไปสืบที่เมืองหลวงดูก็จะรู้!”อันเจ๋อพูดจนปากแห้งคอแห้งจ
Read more

บทที่ 1445

ดูเหมือนพวกเขาจะมองออกถึงความสับสนของอันเจ๋ออาจารย์หลินจึงเอ่ยอย่างอดทน “เมื่อหัวหน้าเฉายึดครองสิงหยางและกว่างอู่เอาไว้ได้ คนที่แปรพักตร์ก็มีจำนวนมากแล้ว!” “หัวหน้าเฉามีนิสัยซื่อตรง มิอนุญาตให้ลูกน้องกดขี่ข่มเหงราษฎร แต่ลูกน้องคนหนึ่งของเขาที่ชื่อหลิวจวินกลับอาศัยตอนที่มายึดครองสิงหยางกับหัวหน้าเฉาแล้วปล้นชิงราษฎรหญิงไป จึงถูกหัวหน้าเฉาทุบตีและขับไล่ไป!”“หลิวจวินมิยอมแพ้รวบรวมกองกำลังของตนไปปล้นยึดครองเมืองเช่นกัน และยังมีอีกคนที่ชื่อเส้าหมิงเจี๋ยที่มิพอใจในวิธีทางจัดการดูแลของหัวหน้าเฉาจึงรวบรวมกองกำลังก่อจลาจลด้วย!”อันเจ๋อเข้าใจแล้ว สองคนนี้อ้างชื่อของเฉาเฉียงไปรับคนที่มีความสามารถเข้ามาแล้วพัฒนาต่อเองพวกเสเพลเช่นนี้ย่อมมีทั้งคนดีและมิดีปะปนกันอยู่ จะเกิดเรื่องเช่นนี้ก็ย่อมเป็นเรื่องปกติอันเจ๋อมิได้ใส่ใจ คิดว่าให้อาจารย์หลินกับเฉาเฉียงยอมจำนนก่อนแล้วค่อยไปจัดการพวกเขาได้อย่างง่าย ๆ อาจารย์หลินเห็นว่าอันเจ๋อมิได้ระวังตัวจึงเอ่ยขึ้นมา “ใต้เท้าอัน ที่พวกเรายอมจำนนยังมีสาเหตุที่สำคัญอีกอย่าง! ได้ยินว่าองค์จักรพรรดิส่งกองกำลังขนาดใหญ่อีกกลุ่มมาล้อมปราบเรา!”“ใต้เท้าจางยังกล
Read more

บทที่ 1446

อันเจ๋อจำได้เพียงราง ๆ ว่า เมื่อมิกี่เดือนก่อนใต้เท้าจางยังได้มอบสาส์นกราบทูลบอกว่าปีนี้มีภัยพิบัติร้ายแรง และขอให้ราชสำนักมอบเงินเกือบสองล้านเพื่อจะนำไปซ่อมแซมเส้นทางแม่น้ำเขาจึงพูดเรื่องนี้ออกมาเฉาเฉียงจึงก่นด่าออกมาทันที “พวกเราเคยเห็นเงินจำนวนมากถึงเพียงนั้นที่ไหนกัน ใต้เท้าจางให้เงินชดเชยเพียงครอบครัวละสิบตำลึงเท่านั้น ข้ามีญาติที่ตายจากการถูกน้ำท่วม บ้านเขามีคนตายไปสามคนแต่ก็ได้เงินมาเพียงสิบตำลึงเท่านั้น!”“พวกใต้เท้าจางกังวลว่าจะมีคนออกไปฟ้องร้องจึงส่งทหารมาสกัดกั้นตามทางแยกต่าง ๆ และหากจับได้ก็สังหารคนเหล่านั้นต่อหน้าธารกำนัลด้วย!”อันเจ๋อฟังแล้วก็ตกใจมาก คิดมิถึงว่าพวกใต้เท้าจางจะทำร้ายราษฎรได้รุนแรงเช่นนี้!เงินซ่อมแซมเส้นทางแม่น้ำจำนวนมากถึงเพียงนั้นจะไปอยู่ที่ใดได้เล่า จะต้องถูกพวกใต้เท้าจางที่ละโมบโกงกินไปแล้วอย่างแน่นอนอันเจ๋อนึกถึงองค์ชายคังกับจ้าวฮุย ใต้เท้าจางผู้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับจ้าวฮุยทีเดียว หากมิได้มีจ้าวฮุยคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ใต้เท้าจางจะมีความกล้าหลอกลวงเบื้องบนได้ถึงเพียงนี้หรือ?“เช่นนั้นใต้เท้าเจียงข้าหลวงเจิ้งโจวเล่า? เขาร่วมด้วยหรือไม่?”
Read more

บทที่ 1447

อันเจ๋อชื่นชมการระวังตัวของเจียงเจิ้งเป็นอย่างมาก จากนั้นก็หยิบหุ่นไม้แกะสลักตัวหนึ่งออกมาจากแหวนพระสุเมรุ หุ่นไม้ตัวนั้นเป็นหญิงที่มีรูปร่างคล้ายเจียงอวี้เจียงเจิ้งมองอย่างนิ่ง ๆ นั่นเป็นของขวัญวันเกิดที่เขาตั้งใจแกะสลักให้เจียงอวี้และให้นางไว้ตอนก่อนที่เขาจะติดตามท่านพ่อออกมารับตำแหน่ง เพราะกลัวว่าจะมิได้มีโอกาสกลับไปฉลองวันเกิดให้เจียงอวี้ เขากลัวว่าตนจะมองผิดไปจึงพุ่งเข้าไปแย่งหุ่นไม้ในมือของอันเจ๋อที่กระโปรงของหุ่นไม้หญิงมีการแกะสลักกระต่ายตัวเล็ก ๆ ไว้หนึ่งตัว กระต่ายตัวนั้นหูขาดไปข้างหนึ่งเพราะว่าตนรีบแกะสลักจึงมิได้ระวังทำพลาดไป“เจ้าคือว่าที่พี่เขยของข้าจริง ๆ หรือ?”เจียงเจิ้งเอ่ยถามอย่างมิเชื่อ“ข้าเอาชื่อท่านพ่อของข้าเป็นประกันว่าข้าคือคือว่าที่พี่เขยของเจ้าจริง ๆ!”เรื่องการแต่งงานของอันเจ๋อกับเจียงอวี้ได้กำหนดแน่นอนแล้ว อันเจ๋อจึงคุยโวโอ้อวดได้“พี่เขย!”เจียงเจิ้งตาแดงทันที จากนั้นน้ำตาเม็ดโตก็ไหลลงมา เขาอยากจะพุ่งเข้าไปกอดอันเจ๋อแต่มือก็ถูกมัดอยู่อันเจ๋อจึงรีบก้าวเข้าไปแก้มัดให้เขาเฉาเฉียงก็เอ่ยอย่างกระอักกระอ่วน “เด็กผู้นี้ร้ายมาก ข้ามัดมือเขาไว้เพราะว่
Read more

บทที่ 1448

อันเจ๋อคิดที่จะโต้แย้งออกไปแต่สิ่งที่ต้อนรับเขาก็คือลูกธนูอย่างหนาแน่นอาจารย์หลินลากอันเจ๋อกลับมาพลางเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่มีประโยชน์ พวกเขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะสังหารพวกเราทั้งหมด การวินิจฉัยของเจ้าล้วนผิดเพี้ยนไปแล้ว!”อันเจ๋อก็มองความโหดร้ายของหยางเจี้ยนออกเช่นกันจึงกังวลเป็นอย่างมาก “อาจารย์หลิน กองกำลังของพวกเราจะต้านการบุกของพวกเขาไหวหรือไม่?”อาจารย์หลินยิ้มอย่างเย็นชา “สิงหยางของเรามีกองกำลังของราษฎรอยู่เพียงสามพันคนเท่านั้น จะเป็นคู่ต่อสู้ของทหารอาชีพเหล่านี้ได้อย่างไร!”“หยางเจี้ยนมาในคราวนี้นำทหารมาเกือบหกพันคน! ทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากถึงเพียงนี้ เป็นไปมิได้เลยที่จะป้องกันประตูเมืองไว้ได้!”อันเจ๋อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมากแต่อาจารย์หลินก็หัวเราะอย่างดูถูกออกมาอีกครั้ง “แต่หากคิดจะต่อสู้ให้พวกเขาพ่ายแพ้ไปก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปมิได้!”อันเจ๋อมองอาจารย์หลินอย่างงุนงง เขาเอาความมั่นใจมาจากที่ใดกัน!“มิสามารถต้านทานได้ แต่สามารถใช้สติปัญญาชิงไหวชิงพริบได้!”อาจารย์หลินเอ่ยอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม “ข้าจะสั่งให้คนเอาจดหมายของเจ้าออกไปส่งก่อน!”อันเจ๋อมองอาจารย์
Read more

บทที่ 1449

กลุ่มขุนนางทำได้เพียงเดินตามเซียวหลินเทียนต่อ เมื่อออกจากเมืองไปสิบกว่าลี้ ก็เริ่มเห็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าเซียวหลินเทียนแสร้งทำเป็นมิรู้ว่าเป็นที่ดินของตระกูลใด พลางเอ่ยอย่างเสียดาย “ที่ดินดีเช่นนี้ หากมิปลูกพืชพรรณใดก็น่าเสียดายแย่!”“ใต้เท้าเจี่ยง ให้ผู้คนในเขตนี้บอกต่อกันออกไปว่า ทางราชสำนักสนับสนุนให้มีการบุกเบิกฟื้นฟูที่ดินรกร้าง ให้ชาวบ้านแถวนี้มาทำการฟื้นฟูที่ดินและเพาะปลูกในช่วงวสันตฤดู!”ใบหน้าของใต้เท้าเจี่ยงกระตุก มิรู้ว่าเซียวหลินเทียนจงใจหรือว่ามิรู้จริง ๆ ว่าที่ดินแห่งนี้เป็นของตระกูลใต้เท้าหลี่ใต้เท้าหลี่เองก็ลำบากใจพูดมิออก ตนเป็นผู้เสนอให้มีการสนับสนุนบุกเบิกที่ดินรกร้าง และตนก็ได้เลื่อนขั้นเพราะเรื่องนี้ด้วยแล้วตอนนี้เขาจะกล้าบอกกับองค์จักรพรรดิหรือว่าที่ดินรกร้างว่างเปล่าแห่งนี้เป็นของตระกูลตน?ผู้ตรวจการซุนเป็นคนซื่อตรงและมีนิสัยตรงไปตรงมา เขามิเกรงกลัวอำนาจของใต้เท้าหลี่ เมื่อเห็นว่าใต้เท้าหลี่มิพูดจา เขาจึงเอ่ยออกไปตามตรง “ฝ่าบาท นี่มิใช่ที่ดินรกร้างพ่ะย่ะค่ะ เป็นที่ดินที่มีเจ้าของ!”“หา? ในเมื่อเป็นที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ แล้วเหตุใดจึงมีวัชพืชขึ้นรกเช่นนี
Read more

บทที่ 1450

เซียวหลินเทียนพูดออกมาพร้อมทำหน้านิ่วคิ้วขมวด จากนั้นก็มองที่ดินรกร้างว่างเปล่าเหล่านั้นด้วยท่าทีที่ดูเสียใจเป็นอย่างมาก“ใต้เท้าหลี่มิสามารถจัดการที่ดินเพาะปลูกได้ แต่ที่ดินที่ดีเหล่านี้จะปล่อยรกร้างไปก็น่าเสียดาย!”ใต้เท้าเฉินหนึ่งในกรมพระคลังได้รับคำสั่งจากหลี่ว์เซียงมาก่อนหน้านี้ ในยามนี้จึงออกมาพลางเอ่ย“ฝ่าบาท กระหม่อมก็รู้สึกว่าที่ดินที่ดีเช่นนี้หากปล่อยรกร้างไปช่างน่าเสียนักพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อใต้เท้าหลี่มิถนัดในการจัดการที่ดิน เช่นนั้นเหตุใดจึงมิให้ใต้เท้าหลี่ขายที่ดินเหล่านี้กลับคืนให้ราชสำนักแล้วให้จวนขุนนางส่งคนมาจัดการอย่างเท่าเทียมหรือพ่ะย่ะค่ะ!”“หากทำเช่นนี้ก็มิต้องปล่อยที่ดินให้รกร้างแล้วและยังทำให้ใต้เท้าหลี่มิต้องมายุ่งวุ่นวายเพราะเหตุนี้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”“ใต้เท้าหลี่ การปล่อยที่ดินรกร้างตามกฎแล้วจะต้องถูกลงโทษตามความร้ายแรงของสถานการณ์! ที่ดินรกร้างของเจ้ามีขนาดหลายร้อยหมู่ ต้องมีการชดเชยภาษีและถูกลงโทษด้วย มันจะได้มิคุ้มเสีย!”ใต้เท้าเฉินยังพูดมิทันจบ ใต้เท้าหลี่ก็ตกใจคุกเข่าลงกับพื้นแล้ว“ฝ่าบาท กระหม่อมมิรู้จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะว่าที่ดินเหล่านี้ถูกปล่อยให้รกร้าง
Read more
PREV
1
...
143144145146147
...
157
DMCA.com Protection Status