บททั้งหมดของ บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่: บทที่ 1411 - บทที่ 1420

1634

บทที่ 1411

“เจ้ากล่าวเช่นนี้แล้วพวกข้าจะต้องเชื่อเจ้าหรือ!”“ถูกต้อง!”“แต่เราไม่สามารถทิ้งเขาไว้ที่นี่ได้ หากสัตว์ป่ามาพบเข้าคงไม่ดีแน่!”“ฮึ่ม! พาไปหาเหล่ากุ้นที่สำนักเซียนกระบอง แล้วขอคำอธิบายกันเถิด!”กล่าวจบ หญิงงามทั้งหลายก็มัดตัวหวังหยวนอย่างแน่นหนา แล้วช่วยกันหามเขาไปที่สำนักเซียนกระบองหวังหยวนไม่เคยอับอายขายหน้าถึงเพียงนี้มาก่อนในชีวิต!เขาเกลียดเหล่ากุ้นผู้นั้นแทบตาย!ชายชราคนนั้นกล้าทำเช่นนี้กับเขาจริง ๆไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงสำนักเซียนกระบอง จากนั้นหวังหยวนก็ถูกโยนลงพื้นอย่างแรงหญิงงามทั้งหลายตะโกนทันที“เหล่ากุ้น! ตาแก่ลามก ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”“ถูกต้อง รีบออกมาเลย!”พวกนางร้องเอะอะโวยวาย ขณะที่เหล่ากุ้นเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางงัวเงีย“โอ้ นี่เหล่านางฟ้าแสนสวยแห่งสำนักเจ็ดสีไม่ใช่หรือ? ไฉนเจ้าทั้งหลายจึงมาหาข้า?”เหล่ากุ้นแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่หวังหยวนกลับโกรธจนแทบคลั่งเหล่ากุ้นผู้นี้ต้องการสิ่งใดกันแน่ โยนความผิดให้เขาหรือ?“เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”หญิงงามทั้งหลายชี้ไปที่หวังหยวนเหล่ากุ้นจึงมองไปที่หวังหยวน แล้วชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะกระโดดเข้ามาหา“โอ้โฮ ศิษ
Read More

บทที่ 1412

“การโกรธเป็นเรื่องดี แสดงว่าความละอายของเจ้าค่อย ๆ ลดลงแล้ว”เหล่ากุ้นพอใจยิ่งนัก หวังหยวนฟังแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “ข้าได้บอกท่านแล้วว่าข้าจะไม่เรียนอย่างแน่นอน!”“ข้าจะจากไปจากที่นี่!”เหล่ากุ้นได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่า “ได้เลย แต่หากข้าไม่ปลดสกัดจุดของเจ้า เจ้าจะจากไปได้อย่างไร?”หวังหยวนได้ยินดังนั้นก็แทบจะกระอักเลือดออกมาหลังจากพิจารณาแล้ว เขาก็ยังรู้สึกว่าควรทำให้ตาแก่ผู้นี้ไว้ใจก่อนจึงกล่าวว่า “เช่นนั้น... เช่นนั้นข้าจะเรียนก็ได้! ท่านปลดสกัดจุดของข้าก่อน”เหล่ากุ้นได้ยินดังนั้นก็ยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ได้ ตกลงกันแล้วนะ”กล่าวจบก็ปลดสกัดจุดของหวังหยวนทันทีทันใดนั้นหวังหยวนก็กระโดดขึ้นจากพื้น ไม่เอ่ยคำใดทั้งนั้น รีบกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเตรียมจากไปทันที“เฮ้ย เฮ้ย เจ้าไม่ได้บอกว่าจะอยู่ที่นี่เพื่อเรียนวิชากระบองหรือ?”เหล่ากุ้นเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นหวังหยวนได้ยินแล้วก็เยาะหยัน “ข้าหลอกท่าน ท่านเป็นตาแก่ที่ไม่น่าเคารพเลยสักนิด ข้าจะไม่เรียนกับท่านหรอก!”“อยากให้ข้าเรียนวิชากระบอง แต่ท่านกลับทำให้ข้าอับอายเช่นนี้ ข้าไม่เคยอับอายถึงเพียงนี้ม
Read More

บทที่ 1413

หวังหยวนไม่คิดเลยว่าเมื่อดื่มสุราหมดจอกแล้ว ตนเองจะมึนงงจนสิ้นสติไป!ในวันต่อมา หวังหยวนรู้สึกราวกับว่าตนเองอยากจะตายเพราะตาแก่เหล่ากุ้นนั่น!หวังหยวนรู้ดีว่าวิชากระบองนี้หาผู้ใดเทียบเทียมได้ยาก แต่ทว่ากลับแสนจะลามก เขาจึงไม่ชอบสามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดการฝึกฝนอันโหดหินของหวังหยวนก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว!ในดินแดนรกร้างแห่งหนึ่งมีพรรคเล็ก ๆ นามว่าพรรคหุบเขาทมิฬตั้งอยู่มาช้านาน ด้วยพึ่งพาอาศัยอำนาจของประมุขพรรคผู้มีพลังระดับปรมาจารย์ขั้นกลาง ทำให้เหล่าศิษย์ในพรรคต่างก็กระทำการอันไม่ชอบธรรมหญิงสาวในเมืองโดยรอบต่างก็ไม่กล้าออกจากบ้านเรือน ต้องอยู่แต่ในบ้านก็ต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว เพราะเกรงว่าจะต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนเหล่านี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประมุขพรรคไปจับตัวตัวหญิงสาวพรหมจรรย์หลายคน เพื่อจะนำเลือดบริสุทธิ์ของพวกนาง มาช่วยให้ประมุขพรรคไปถึงระดับที่สูงขึ้น ในเวลานี้เองที่การฝึกฝนของหวังหยวนได้สิ้นสุดลงแล้ว เขาได้รับคำสั่งจากโม่ชิงอีให้มาฝึกฝนที่นี่ เพื่อพิสูจน์ผลลัพธ์จากการฝึกฝนในสามเดือนที่ผ่านมา ร่างในชุดดำกระโจนลงมาจากท้องฟ้า และกระบองในมือของเขานำพาความกดดัน
Read More

บทที่ 1414

ประมุขพรรคอดตกใจไม่ได้ เขาชะงักมือไปชั่วครู่ ก่อนจะตรงเข้าโจมตีหวังหยวนบนต้นไม้เมื่อใบไม้สั่นไหว หวังหยวนก็หายตัวไปจากระยะการโจมตีอีกครั้ง วิชากระบองนี้หาผู้ใดเทียบเทียมได้ยากส่งผลให้สามารถเคลื่อนไหวได้ราวกับภูตผีปีศาจแม้ว่าการหลบเลี่ยงการโจมตีจะไม่ใช่หนทางแห่งความยั่งยืน แต่ก็สามารถชะลอความได้เปรียบของคู่ต่อสู้ได้ในตอนแรกประกายสะท้อนจากคมดาบของประมุขพรรคมีพลังอันมหาศาล สามารถฉีกทึ้งแผ่นดินได้ แต่หลังจากที่โจมตีไปหลายครั้งก็สามารถตัดต้นไม้ได้เพียงต้นเดียว“เจ้าเด็กขี้ขลาด เอาแต่หลบซ่อนตัว”ในขณะที่เขาพูดเช่นนี้ หวังหยวนก็ใช้วิชากระบองพุ่งเข้าชนด้านหลังของประมุขพรรคเมื่อชายชราผู้ชั่วช้ารู้สึกตัวว่ามีอันตรายอยู่ด้านหลังก็สายเกินไปเสียแล้วเมื่อมีเสียงดัง“ผัวะ” ดังสนั่น ร่างของเขาก็กระเด็นออกไป ดาบเงินหลุดออกจากมือของประมุขพรรคไปปักอยู่บนพื้นที่ว่างในระยะไกลอย่างน่าเวทนา ประมุขพรรคร่วงลงบนพื้นจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ ต่อให้ผ่านไปครึ่งวันก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้เมื่อแรกเริ่มประมุขพรรคไม่ได้ใส่ใจเด็กหนุ่มผู้นี้เลยแม้แต่น้อยแต่ไม่คาดคิดว่าท่าไม้ตายอันแสนเรียบง่ายเช่นนี้จะสามารถทำให้ตนเ
Read More

บทที่ 1415

ขณะที่หวังหยวนจัดการกับพรรคหุบเขาทมิฬอยู่นั้น โม่ชิงอีก็เฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา เขาปัดเสื้อของตัวเองเบา ๆ พลางรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะพาหวังหยวนไปแล้ว“พี่ชิงอีบอกว่าจะมาหาข้าเอง ข้าจะไปพักที่โรงเตี๊ยมที่เชิงเขาก่อนเพื่อพักผ่อนให้เต็มที่ และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่นี่”ยามดึกสงัด หวังหยวนพลิกตัวไปมาบนเตียงในโรงเตี๊ยมเพราะนอนไม่หลับ ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียวคือกินอิ่มมากเกินไปทันใดนั้นหน้าต่างก็เปิดออกเองโดยไม่มีลมพัด และในชั่วพริบตาเดียว โม่ชิงอีก็มายืนอยู่ตรงหน้าเขา“พี่ชิงอี ท่าน...” คิดจะพาข้าไปเลยหรือ หวังหยวนมองพี่ชิงอีตรงหน้า แต่ก็กลืนคำพูดประโยคท้ายลงไปอย่างเงียบเชียบเขามีสีหน้าแบบที่ชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ควรมี“เอาเถิด ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำต่อหน้าข้าหรอก ข้ายังไม่รู้จักเจ้าอีกหรือไร การมาครั้งนี้ ประการแรกก็เพื่อดูการฝึกฝนของเจ้า ส่วนประการที่สอง...”โม่ชิงอีหยุดพูดลง แล้วมองหน้าหวังหยวน “คือมีเรื่องที่ต้องปรึกษากับเจ้า”“พี่ชิงอีเชิญพูดมาเถิดขอรับ”หวังหยวนลุกจากเตียงแล้วเดินไปที่โต๊ะ จากนั้นหยิบน้ำชามารินใส่แก้วให้โม่ชิงอี แต่รู้สึกว่าน้ำไม่ร้อนพอจึงจะเรียกเสี่ยวเอ้อ แต่ก็ถูก
Read More

บทที่ 1416

ถ้อยคำเหล่านี้ฟังดูรุนแรง หวังหยวนอดไม่ได้ที่จะโต้แย้งว่า “เช่นนั้นจะฝากความหวังไว้กับพวกเขาเหล่านั้นหรือ? ชายชราทั้งหลายคิดเพ้อฝันมากไป”โม่ชิงอีใช้สายตาส่งสัญญาณให้หวังหยวนสงบสติอารมณ์ลง “สาเหตุประการแรกเป็นเพราะสงสัยในความสามารถของเจ้า ประการที่สองคือเห็นว่าเจ้าเป็นคนนอก ส่วนเหตุผลอื่นนั้นไม่สำคัญนัก”“เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณพวกเขาเป็นอย่างมากที่เสียเวลาคิดเหตุผลมากมายเช่นนี้ ดูเหมือนว่าหากข้าเข้าไปหาตระกูลเสวี่ยคงจะมีอุปสรรคมากมายและอาจถูกฆ่าตายได้”“แม้ว่าคำสั่งล่าสังหารเจ้าจะยังไม่ได้ประกาศ แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากที่กำลังสืบหาเจ้าอยู่เบื้องหลัง อาจเป็นไปได้ว่าจะไม่เป็นผลดีต่อเจ้า สถานการณ์ในขณะนี้เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าคิดอย่างไร”โม่ชิงอีไม่ได้พูดทุกเรื่อง เขาต้องการดูว่าหวังหยวนจะตัดสินใจอย่างไร“ข้าคิดอย่างไรงั้นหรือ ง่ายมาก พวกท่านทั้งในและนอกเทียนไว่เทียนต่างก็มีแผนการสมคบคิด ไม่ได้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” หวังหยวนไม่อยากรักษาหน้าพี่ชิงอีผู้นี้แล้ว“พูดตามตรงก็คือพวกเจ้าปล่อยให้คนอื่นแทรกซึมเข้ามาได้เหมือนตะแกรง หากข้าบุ่มบ่ามไปเทียนไว่เทียนและเข้าร่วมตระกูลเสวี่ย ข้าคงถู
Read More

บทที่ 1417

“ท่านช่างมีวิสัยทัศน์นัก จงกล่าวต่อไปเถิด ตลอดวันก็มัวแต่พร่ำเพ้ออยู่ได้ ข้าเห็นว่าไม่มีผู้ใดจะเสแสร้งแกล้งทำได้เก่งเท่าท่านแล้ว”“คนบ้าบิ่นเช่นท่านจะรู้เรื่องใด ตระกูลหลิวแห่งฉินหยางภายใต้การนำของท่านอยู่ในอันดับสุดท้ายของตระกูลทั้งแปดมาหลายปีแล้ว และไม่ได้มีส่วนช่วยเหลือใด ๆ หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปจะยังสามารถเข้ามาในห้องประชุมได้หรือไม่?”“ผู้อาวุโสหลี่ เหตุใดจึงโอหังนัก ตระกูลหลี่แห่งหล่งซีของท่าน หากมีผู้ใดสักคนเป็นที่พึ่งพาได้บ้าง ท่านคงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่...”ชายวัยกลางคนยังไม่ทันกล่าวจบก็ถูกเสวี่ยโส่วจุนขัดจังหวะ “พอได้แล้ว รู้หรือไม่ว่าที่นี่คือหอประชุม ไม่ใช่ตลาด”ทุกคนเห็นสีหน้ามืดมนของประมุขแล้วก็สงบลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีความรู้สึกที่แต่ละคนต่างก็คิดไม่ซื่อต่อกันและกัน“ข้าให้พวกท่านมาเพื่อปรึกษากัน ไม่ใช่เพื่อมาโจมตีกัน หากไม่สามารถช่วยเหลือเทียนไว่เทียนได้ ในครั้งต่อไปที่ส่งจดหมายเชิญ ผู้ใดที่ไม่สามารถมาได้ก็ไม่ต้องมา”“คำพูดของประมุขรุนแรงเกินไปแล้ว ไม่ว่าเหล่าผู้นำตระกูลจะโต้เถียงกันอย่างไรก็เพื่อประโยชน์ร่วมกันทั้งสิ้น ท่านคิดเช่นไร?”ชายชราผมขาวที่นั่งทางด้านซ้ายล
Read More

บทที่ 1418

“แต่เสวียฉีเอ๋ย คนเราก็ต้องมองไปข้างหน้า เด็กคนนี้ต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไร เหตุใดไม่ให้ผู้ใหญ่อย่างพวกเราช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น นางจะได้สบายใจ”“ข้าเข้าใจ ผู้อาวุโสหวัง แต่เชียนหลงเป็นหญิงสูงศักดิ์มาตั้งแต่เด็ก นางต้องลำบากมากเพียงใด บัดนี้จะให้ข้าทนเห็นนางเดินไปสู่จุดจบเช่นนี้ได้อย่างไรขอรับ”“ข้าเห็นว่าท่านอาวุโสกว่าข้า ในที่นี้มีคนที่ทนได้ ยิ่งกว่านั้นคือนางยังเป็นความหวังของเราในการประลองเทียนซาน”“ข้าก็เห็นด้วยกับผู้อาวุโสหวังทุกประการ ท่านพูดมีเหตุผล บัดนี้เราควรจัดการประลองเพื่อหาคู่ให้หญิงสูงศักดิ์ตามธรรมเนียมของบรรพบุรุษ”“เจ้าเป็นใคร?” ทุกคนเพิ่งสังเกตเห็นว่าวันนี้มีคนใหม่เข้ามา นั่นคือชายหนุ่มชุดเขียวที่ลุกขึ้นยืนอย่างสง่างามและคารวะเหล่าผู้นำตระกูลและประมุข“ข้าคือตัวแทนของตระกูลหลูแห่งฟ่านหยาง เนื่องจากบิดาของข้าป่วยหนักในระยะนี้ ทำให้ไม่สามารถมาประชุมได้ จึงให้ข้ามาแทนขอรับ”“เช่นนั้นก็นั่งลงรับฟังความคิดเห็นของเหล่าผู้นำตระกูลเถิด”ในใจของเสวี่ยโส่วจุนยังคงกังวลอยู่ดี คนแล้วคนเล่าต่างก็พยายามโน้มน้าวให้ตนละทิ้งบุตรสาวเพื่อเทียนไว่เทียน โดยพูดจาไร้ห
Read More

บทที่ 1419

“เจ้ากล่าวเช่นนี้หมายความว่าข้ายึดติดในความรักของบิดาลูกสาว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือในสายตาเจ้า ข้าเป็นเพียงคนแก่ที่โง่เขลาใช่หรือไม่”เลือดลมของเสวี่ยโส่วจุนพลุ่งพล่าน ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่มีน้อยนักที่จะใส่ใจเชียนหลง ทุกคนกล่าวถึงแต่ภาพรวมใหญ่โต ทำให้เขาและลูกสาวดูเหมือนเป็นคนชั่วร้ายแม้ว่าตระกูลเซี่ยแห่งสิงหยางที่อยู่เบื้องหลังเซี่ยอันจะเป็นตระกูลชั้นกลางในบรรดาทั้งแปดตระกูล แต่ก็มีแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกันมาโดยตลอด นั่นคือหันตามลม หากไม่ทำเช่นนั้น...เซี่ยอันกัดฟันแน่น เมื่อประมุขสูงสุดไม่เต็มใจก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้แต่หากไปขัดใจคนผู้นั้นเข้า ไม่สิ เรื่องนี้ไม่มีที่ว่างให้ลังเลอีกแล้ว ทำได้เพียงเสียใจกับเทียนไว่เทียนเท่านั้นเซี่ยอันตั้งสติให้มั่นแล้วกล่าวต่อไปว่า “ท่านประมุขสูงสุดกล่าวเช่นนี้ ข้ารู้สึกหวาดกลัวนัก แต่เมื่อได้ยืนอยู่ในหอประชุมแห่งนี้แล้ว ข้าก็ไม่อยากปิดบังสิ่งใด”“เซี่ยอัน จงนั่งลงเถิด” เสียงของผู้อาวุโสที่เปี่ยมด้วยอำนาจดังขึ้น“นี่... ขอรับ ท่านผู้อาวุโสหวัง”“หมิงป๋อ จงฟังความคิดเห็นของทุกคนเถิด”“เฮ้อ หากเช่นนั้นก็ตามที่ผู้อาวุโสหวังกล่าวไว้ เลือกวันจ
Read More

บทที่ 1420

ผู้อาวุโสหวังกระแทกไม้เท้าหัวมังกรที่ทำจากไม้หวงฮวาหลีในมือลงบนพื้นอย่างแรง ใบหน้าเทพเจ้าผู้เฒ่าดาวอายุยืนที่แกะสลักอยู่บนไม้เท้าไม่มีรอยยิ้มเหมือนในอดีตอีกต่อไป ภายใต้แสงเงาทำให้ใบหน้าของเทพเจ้าผู้เฒ่าดาวอายุยืนดูมืดมนน่ากลัว“หากการประชุมในหอประชุมครึ่งวันนี้จบลงด้วยเรื่องราวเหล่านี้ ก็ไม่จำเป็นต้องส่งจดหมายเชิญข้ามาประชุมอีกต่อไปแล้ว เห็นพวกท่านทะเลาะกันวุ่นวายเช่นนี้แล้วช่างน่าเวทนานัก ข้าแก่เฒ่าแล้ว ไม่อยากเห็น ไม่อยากฟัง”ผู้อาวุโสหวังเป็นผู้ที่มีอายุมากที่สุดในที่แห่งนี้ เขาได้ส่งผู้นำสูงสุดแห่งเทียนไว่เทียนไปแล้วสามคน ประมุขที่นั่งอยู่ตรงหน้าล้วนเติบโตมาในสายตาของเขา อีกทั้งเขายังเป็นผู้นำของตระกูลทั้งแปด ทุกคนจึงให้ความเคารพเขาเป็นอย่างมากเสวี่ยโส่วจุนก็รู้ว่าหากไม่ยอมลดราวาศอกลงก็จะไม่มีประโยชน์ใดต่อเรื่องนี้ การประลองยุทธ์สู่ขอสามารถจัดได้ แต่เขาก็ต้องมีอำนาจตัดสินใจด้วย“ข้าเข้าใจความรักของท่านประมุขสูงสุดที่มีต่อลูกสาว ทุกคนก็เข้าใจเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ข้าจึงพูดเพียงประโยคเดียว หากท่านประมุขสูงสุดเห็นด้วย เราก็จะทำตามที่ท่านร้องขอ”“ผู้อาวุโสหวัง ท่านโปรดกล่าวเถิด” เ
Read More
ก่อนหน้า
1
...
140141142143144
...
164
DMCA.com Protection Status