Chapter 4
ฉันตื่นแต่เช้ามืดด้วยความเคยชินเดินลงไปด้านหน้าคอนโดซื้อหมูปิ้งข้าวเหนียวขนมไทย จากนั้นจึงไปปลุกร่างสูงที่นอนเปลือยอกบนโซฟาตัวยาว ฉันนั่งมองเพื่อนรักอย่างพิจารณา จะว่าไปอคินก็เป็นผู้ชายที่หล่อเหลาสมบูรณ์แบบคนหนึ่ง หน้าตาดีหน้าที่การงานก็ดี น่าแปลก..ทำไมถึงยังไม่มีแฟนสักที บางทีฉันก็อยากจะถามว่าเขามีคนที่ชอบหรือยัง แต่ฉันก็ไม่กล้า แค่เป็นแพทย์ทำงานที่โรงพยาบาลก็มีเวลาว่างน้อยอยู่แล้ว ถ้าอคินมีแฟนเขาก็คงจะยิ่งไม่มีให้ฉันเลย ฉันอาจจะเป็นเพื่อนที่เห็นแก่ตัวที่อยากจะยึดเพื่อนรักไว้เพียงคนเดียว ฉันเขย่าร่างหนานั้นแรงๆ คนขี้เซาอย่างอคินต้องปลุกแบบใช้กำลัง ทว่ามันน่าแปลกตอนเข้าเวรดึกเขาบอกว่าแค่พยาบาลเคาะประตูเขาก็สะดุ้งตื่น นั่นคงเป็นเอฟเฟคของคนที่เป็นหมอล่ะมั้ง แต่พอในวันหยุดอคินกลับนอนแบบซ้อมตายเพราะต้องการสะสมพลังงานการนอนสำหรับวันเข้าเวรดึกนั่นเอง
“โอ้ยยายชี ฉันง่วงอยากจะนอน ลากฉันตื่นมาใส่บาตรยังไม่พอ ยังพาฉันมาดูต้นไม้ ซื้ออะไรนักหนาเนี่ย ที่มีอยู่ในร้านก็เยอะจนจะเป็นป่าอเมซอนแล้วนะ ตกลงร้านกาแฟหรือซาฟารี เวิร์ล ต้องซื้อกวางลูซ่ากับม้าลายแอฟริกามาเลี้ยงด้วยไหม? จะได้ไปร้านขายสัตว์ป่าต่อเลย” เสียงบ่นยืดยาวของหมอหนุ่มที่มีวันหยุดเพราะไหว้วานเพื่อนหมอราวน์วอร์ดให้ เนื่องจากเมื่อคืนกว่าจะถึงคอนโดของอคินก็เกือบตีสองฉันเลยค้างที่ห้องของเขา แน่นอนว่าฉันยึดห้องนอนเขานอนสบายบนเตียงนุ่มแต่เพียงผู้เดียว ส่วนเพื่อนหนุ่มก็นอนโซฟาข้างนอกไป
“บ่นจริงนะ ถ้าไปกับเที่ยวกับสาวๆจะบ่นแบบนี้รึเปล่า?” ฉันบ่นอุบ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรู้สมกับการโดนเพื่อนคนนี้ต่อว่าหรอก บ่นได้บ่นไปคนอย่างลลิลไม่สะท้านสะเทือนหรอก
“น่าจะทำให้สาวร้องทั้งคืน จนไม่มีเวลาบ่นหรอก” ใบหน้าหล่อเหลากดยิ้มที่มุมปากตามแบบฉบับหนุ่มแบดบอย ใบหน้าของฉันเห่อร้อน ช่วงนี้ทำไมชอบพูดอะไรแบบนี้ บ้าจริง..นายจะทำให้ยายชีอย่างฉันตบะแตกแล้วนะ
“เอาน่า ตอนกลับฉันเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นนะ เลิกบ่นได้แล้ว อคินเพื่อนรักของลลิล” ฉันยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ๆหมอหนุ่ม พลางทำตาบลิ้งๆให้คนขับรถแบบน่ารักๆ อคินถอนหายใจยาวๆแล้วอมยิ้ม สงสัยจะพอใจที่จะได้กินของฟรีแน่ๆ
“อคินต้นนี้เป็นไงสวยไหม ฉันจะปลูกไว้หน้าร้าน” ฉันรู้สึกมีความสุขราวกับเดินบนทุ่งลาเวนเดอร์ ชี้ไม้ชี้มือไปที่พันธุ์ไม้แปลกใหม่ที่บางต้นฉันไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างละลานตา หมอหนุ่มยืนกอดอกทำหน้าเซ็งๆ ดวงตาคู่คมพร้อมจะหลับลงได้ทุกเมื่อ ฉันแอบรู้สึกผิดนิดๆที่พาเพื่อนมาทรมาน คราวหน้าคงจะไม่รบกวนการพักผ่อนของเขาแล้วล่ะ
“ลลิล คุณลุงธนายังอยู่ต่างประเทศไหม?” อยู่ๆอคินก็ถามขึ้น คิ้วเข้มๆขมวดมุ่นด้วยความสงสัย
“ใช่ พ่อยังอยู่ที่อเมริกา เมื่อวานยังโทรหาฉันบอกว่าจะซื้อของมาฝากอยู่เลย” ฉันตอบ พ่อมักจะโทรหาฉันเป็นประจำทุกวันเหมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องทำในฐานะของพ่อบังเกิดเกล้า แต่ความอบอุ่นที่ฉันต้องการท่านกลับไม่เคยมอบมันให้ เราไม่เคยมานั่งคุยปรับทุกข์ตามประสาพ่อลูก สิ่งที่ฉันคุ้นชินคือพ่อต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ตอนเช้าก็ต้องรีบไปทำงานกลับมาบ้านตอนที่ฉันหลับไปแล้ว ตั้งแต่แม่จากไปฉันก็ไม่เคยคิดว่าฉันมีครอบครัวเหลืออยู่ เหมือนฉันใช้ชีวิตตามลำพังกับความเหงาจนรู้สึกเป็นเพื่อนกับมันไปแล้ว แม้กระทั่งวันที่เกิดอุบัติเหตุ ฉันตัดสินใจโทรหาอคินเป็นสายแรกโดยที่พ่อไปถึงโรงพยาบาลตอนที่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ท่านฝากให้เพื่อนหนุ่มดูแลฉันก่อนที่จะขอไปทำงานต่อ พอพ่อกลับไปฉันก็ร้องไห้จนตาบวมโดยมีอคินนั่งอยู่เป็นเพื่อน ถึงเขาจะไม่ได้พูดอะไรแต่ฉันกลับรับรู้ได้ถึงความห่วงใยจากเขา อาจเพราะเหตุนี้ฉันจึงยึดอคินไว้เป็นที่พึ่งพิงยามที่ฉันไม่มีใคร
“นั่นใช่พ่อเธอไหม?” อคินโบ้ยหน้าไปทางมุมหนึ่งของร้านซึ่งเป็นโซนนั่งดื่มกาแฟและทานอาหาร
ซึ่งจำลองบรรยากาศในสวนดอกไม้ได้อย่างสมจริง คนที่บอกฉันว่ายังอยู่อเมริกากลับนั่งอยู่กับหญิงสาววัยกลางคนที่ยังคงเค้าความสวยดูอ่อนกว่าวัยไปหลายปี หัวใจของฉันกระตุก รู้สึกวูบโหวงในใจ นั่นพ่อกำลังจะมีคนแม่คนใหม่ให้ฉันใช่ไหม? เกิดคำถามมากมายที่ฉันอยากจะได้คำตอบ สมองของฉันมึนงงไปสักพัก ก่อนที่จะเริ่มตั้งสติได้
“อคิน ฉันกำลังจะมีแม่เลี้ยงจริงๆใช่ไหม?” ภาพตรงหน้าที่แสดงออกถึงความสนิทสนมของคนทั้งสองเดาเรื่องราวเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย ที่สำคัญมือของพ่อกุมมือผู้หญิงคนนั้นแนบแน่น น้ำตาของฉันไหลรินด้วยความเศร้าที่เกาะกุมในใจที่พ่อตัวเองกำลังจะมีผู้หญิงคนใหม่ คนที่จะมาแทนที่แม่ของฉัน
“เธอโอเคไหม?” อคินถามขึ้นเมื่อเราเข้ามาในรถแล้ว
“..................” ฉันส่ายหน้า น้ำตายังไม่ยอมหยุดไหล หมอหนุ่มรวบตัวฉันเข้ามาอ้อมกอดของเขา คางเรียวเกยที่ไหล่ของฉัน มือหนาลูบหลังฉันเบาๆคล้ายจะปลอบโยน
“ฉันคงไม่เหลือใครแล้วใช่ไหม?” เป็นคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ เพราะฉันรู้อย่างแน่นอนแล้วว่าต้องมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับฉันในไม่ช้า
“ไม่หรอก ฉันไง ฉันอยู่ข้างๆเธอเสมอนะ” น้ำเสียงทุ้มนุ่มนั้นทำให้หัวใจที่หนาวเหน็บกลับอุ่นวาบขึ้นมาอย่างประหลาด จริงสินะ..ฉันยังมีอคินอยู่..
“แต่สักวันนายก็ต้องแต่งงานมีครอบครัว ตอนนั้นฉันคงอยู่ตัวคนเดียวจริงๆ” ฉันพูดออกไปอย่างที่ใจคิด ไม่อยากให้วันนั้นมาถึงเลย..ไม่อยากให้อคินเห็นคนอื่นสำคัญกว่าฉันเลย..
“งั้นเธอก็แต่งงานกับฉันสิ..” ทว่าคำพูดของเขากลับทำให้หัวใจของฉันเต้นแรง แต่อคินคงแค่ล้อฉันเล่นเหมือนเคย เขาคงอยากให้บรรยากาศตอนนี้ผ่อนคลายลง
“อคิน เพื่อนซีเรียส” ฉันดุเขาเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกประหลาดที่กำลังก่อตัวขึ้น
“แล้วเธอจะเอาไงต่อ ล้มงานแต่งพ่อเธอไหม”
“ทำอย่างนั้นก็เหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโตสิ พ่ออยากแต่งงานใหม่ก็แต่งไป เพราะทุกวันนี้การมีตัวตนอยู่ของฉันไม่เคยสำคัญกับพ่ออยู่แล้ว” น้ำเสียงของฉันสั่นพร่า ฉันสะอื้นไห้เบาๆ อคินไม่ได้พูดอะไรอีก เขารอจนกระทั่งฉันผละออกจากอ้อมกอดของเขาเอง จากนั้นเราจึงขับรถออกไปจากร้านดอกไม้
“เธออยู่บ้านคนเดียวได้ใช่ไหม?” หมอหนุ่มที่โดนโทรตามเพราะมีเคสด่วนลังเลที่จะปล่อยให้ฉันเดินเข้าไปในบ้าน
“ฉันก็อยู่คนเดียวมาตลอดอยู่แล้วนี่นา” ฉันแค่นยิ้มกับตัวเองอย่างขมขื่น
“เดี๋ยวฉันไปทำงานก่อนนะ มีอะไรโทรหาเข้าใจไหม” มือหนาลูบเรือนผมฉันเบาๆ เขาไล้มือไปตามแก้มที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของฉันอย่างอ่อนโยน
“เลิกร้องไห้ได้แล้ว ถ้าเหงาก็ไปนอนบ้านฉัน แม่ฉันคิดถึงเธอจะแย่ ฉันกลับบ้านทีไรถามหาแต่ลลิล คำก็ลลิลสองคำก็ลลิล จนฉันคิดว่าตัวเองเป็นลูกที่แม่เก็บมาเลี้ยงจากถังขยะ ส่วนเธอเป็นลูกสาวแท้ๆของแม่ฉัน” อคินยิ้มกว้างเขาคว้าฉันมากอดอีกครั้ง ก่อนจะขึ้นรถและขับออกไปจากบ้านของฉัน พอเพื่อนรักไปแล้วฉันก็เดินเข้าไปในบ้าน เป็นไปตามคาดพ่อนั่งอยู่ห้องรับแขกกับผู้หญิงคนที่ฉันเจอในร้านขายต้นไม้
“ลลิลกลับมาแล้วเหรอลูก?” ฉันยกมือไหว้และเดินเข้ามานั่งที่โซฟาตรงข้าม ดวงตาจับจ้องแขกผู้มาเยือนที่กำลังจะกลายเป็นคนสำคัญของพ่อ เมื่อช่วงกลางวันที่แอบมองจากที่ไกลๆทำให้เห็นหน้าได้ไม่ชัดนัก ทว่าพอมองใกล้ๆจึงรู้ว่าเธอดูสวยกว่าเมื่อตอนที่เจอครั้งก่อน หญิงสาวมีผิวขาวเนียนละเอียด ผมยาวดำขลับมัดเป็นหางม้าทรงสูงเปิดหน้าผากโชว์รูปหน้ารูปหัวใจที่สวยได้รูป สวยอย่างนี้สินะพ่อก็เลยชอบ
“เมื่อวานพ่อบอกว่าพ่ออยู่ที่อเมริกา พ่อโกหกลลิล” ฉันพูดโดยไม่สบตาผู้เป็นบิดา ด้วยกลัวน้ำตาที่เพิ่งจะแห้งเหือดกลับมาไหลอีกครั้ง
“นี่คุณดารินทร์ พ่ออยากให้ลลิลรู้จักกันไว้” พ่อไม่ได้อธิบายเรื่องที่ฉันกล่าวถึงไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร หากแต่แววตาของท่านทอประกายเมื่อพูดถึงผู้หญิงคนใหม่ ฉันจึงยกมือไหว้เธออีกครั้งอย่างเสียไม่ได้ คุณดารินทร์รับไหว้พลางส่งยิ้มบางๆให้
“คุณธนาเล่าเรื่องหนูเยอะมากเลย บอกว่าลลิลชอบทำบุญ กำลังจะเปิดร้านกาแฟด้วย ไว้น้าขอไปทำบุญด้วยนะคะ” หญิงสาวพูดอย่างเป็นธรรมชาติราวกับสนิทสนมกับฉันมานาน ฉันได้แต่หลุบตาต่ำมองพื้น หัวใจวูบโหวงเต็มไปด้วยความเศร้า ปกติพ่อก็ไม่เคยเห็นฉันสำคัญอยู่แล้ว ยิ่งท่านกำลังจะมีครอบครัวใหม่ ฉันคงไร้ตัวตนในสายตาของท่านอย่างแน่นอน..ยิ่งประโยคต่อมาที่พ่อบอก ทำให้ร่างของฉันชาปลาบ
“พ่อกำลังจะแต่งงานกับคุณดารินทร์”
“ค่ะ” เสียงที่พูดออกไปเบาราวกับเสียงกระซิบ
“เธอจะเข้ามาอยู่บ้านนี้กับเรา”
“ลลิลขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ ลลิลปวดหัวรู้สึกไม่สบาย” ฉันฝืนยิ้มและเดินออกไปจากห้องรับแขก ทว่าไม่ได้ขึ้นไปที่ห้องนอนตัวเองแต่อย่างใด พอพ้นสายตาของคนทั้งสอง ฉันก็พาร่างไร้วิญญาณของตัวเองเดินออกจากบ้านอย่างไร้จุดหมายและตัดสินใจเรียกรถแท็กซี่พาไปไหนสักที่..
Chapter 5ในความฝัน ฉันกำลังยืนอยู่ท่ามกลางดอกทานตะวัน สีเหลืองอร่ามชูช่อแข่งกับดวงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา สวนดอกไม้ดูร้างไร้ซึ่งผู้คน มีเพียงฉันที่ยืนอยู่เพียงคนเดียว ดูเอาเถิดในขนาดในฝันฉันยังไม่เหลือใคร ช่างคล้ายกับชีวิตจริงเหลือเกิน“ลลิล..” เสียงหวานๆที่คุ้นชินดังขึ้นทางด้านหลัง ฉันหันขวับไปตามเสียง ร่างบางในชุดเดรสสีขาวยาวระพื้น ผมยาวสลวยของเธอโบกพลิ้วไปตามแรงลมที่โชยมาอ่อนๆ ดวงหน้าสวยหวานที่ละม้ายคล้ายคลึงกับฉันยิ้มกว้าง มือของเธอกางออกคล้ายกับจะเรียกให้ฉันเข้าไป“แม่เอย..” น้ำเสียงของฉันสั่นพร่าด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ประดังประเดเข้ามาพร้อมๆกัน ตื่นเต้นดีใจคิดถึง ฉันเองก็บอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไหนมากกว่ากัน ฉันโผเข้ากอดแม่อย่างแนบแน่นด้วยความคิดถึง ฉันโหยหาอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนี้มานานแสนนานถึงจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็ทำให้หัวใจของฉันอุ่นวาบคล้ายกับมีแสงแดดโลมไล้หัวใจที่แช่แข็งด้วยความเหงามาตลอด“ลลิลคิดถึงแม่” ฉันกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีก ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแค่ความฝันแต่ฉันก็ไม่อยากผละออกจากอ้อมกอดนี้ ไม่อยากตื่นเลย อยากอยู่ในความฝันนี้ตลอดกาล..“ลลิลคนเก่งของแม่ ลูก
Chapter 6“ไหนบอกแค่เพื่อน สวีทหวานเชียวนะ” ฉันทำตาวาวๆล้อคนตรงหน้า ซึ่งนั่งทำหน้าขัดเขินทำทีหยิบน้ำส้มขึ้นมาจิบ ฉันกับอคินทำตัวเป็นกามเทพจับคู่เมอิกับป้อมปืนมานาน ถึงแม้เพื่อนทั้งสองจะมีนิสัยไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันอย่างคนละขั้ว เมอิจะเป็นสาวเปรี้ยวมีอะไรจะพูดตรงๆและเป็นคนมีเหตุมีผล ถ้าเห็นอะไรที่ไม่ถูกต้องเธอจะเดินเข้าไปฉะต่อหน้าและเกลียดการนินทาลับหลังเป็นที่สุด ถ้าใครที่ไม่รู้จักหญิงสาวมาก่อนจะคิดว่าเธอเป็นคนแรง แต่ฉันกลับมองว่าเมอิเป็นคนที่จริงใจมากกว่าคนที่พูดจาอ่อนหวานกับเราต่อหน้า แต่ลับหลังกลับเอาเราไปพูดแบบเสียๆหายๆ ส่วนป้อมปืนนั้นเป็นหนุ่มฮ็อตตีคู่มากับอคิน หมอหนุ่มจะออกแนวสนุกสนานเฮฮาคารมคมคาย แต่ป้อมปืนเป็นผู้ชายเงียบขรึมถ้าไม่สนิท เขาจะไม่ค่อยพูด ฉายาที่รุ่นน้องเรียกคือเจ้าชายน้ำแข็ง “ก็ลองเปลี่ยนสถานะบ้าง เผื่อบางทีมันอาจจะใช่ก็ได้” ดีไซเนอร์สาวเอ่ยขึ้นยิ้มๆ“คร้า..เป็นเพื่อนอยู่ตั้งนานเพิ่งจะรู้ใจตัวเองนะคะ”“ฉันหมายถึงเธอนะซึกิจัง เธอไม่ลองมองอคินแบบผู้ชายคนหนึ่งบ้างเหรอ?” เพื่อนสาวจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของฉัน ถ้าให้ฉันมองอคินเหมือนผู้ชายคนคนหนึ่ง ฉันนึกภาพไม่ออกจริงๆ เราเ
Chapter 7Akin talksหลังจากเคสผ่าตัดในตอนบ่ายที่ยืดยาวมาจนถึงช่วงหัวค่ำผ่านพ้นไป ผมก็ทั้งหิวทั้งอ่อนเพลียแทบจะยืนไม่อยู่ โดยปกติแล้วผมจะเดินออกไปร้านสะดวกซื้อหน้าโรงพยาบาลหาอะไรง่ายๆอย่างขนมปังยัดเข้าท้องจากนั้นจึงกลับไปอาบน้ำแล้วนอนที่หอพักหน้าโรงพยาบาล นั่นคือกิจวัตรที่ผมทำจนเคยชิน ทว่าวันนี้ผมรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนรักที่เพิ่งทำจะตัวเป็นเด็กน้อยหนีออกจากบ้านตอนอายุยี่สิบหก จึงคิดได้ว่าควรจะไปดูแลความเป็นอยู่ของเพื่อนสาวสักหน่อย ผมใช้เวลาขับรถราวๆ สามสิบนาทีจึงมาถึงคอนโดริมแม่น้ำเจ้าเจ้าพระยาสุดหรู ซึ่งเจ้าของโครงการคอนโดราคาแพงลิบลิ่วไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นคุณอาแท้ๆของผมเอง ผมจึงได้ห้องพักมาแบบฟรีๆ พอเปิดประตูเข้าไปในห้องผมก็อึ้งไปสักพักหรือว่าจะอดนอนจนเบลอเพราะภายในห้องเปลี่ยนไปจนไม่น่าจะใช่ห้องตัวเอง จากห้องโล่งๆ ที่มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นกลับมีกระถางต้นไม้วางอยู่แทบทุกจุดซึ่งจะเป็นฝีมือใครไม่ได้นอกจาก..“อคิน ไหนว่าไม่ค่อยกลับห้อง นายเพิ่งมาเมื่อวานเองนะ” ลลิลซึ่งกำลังทำอะไรบางอย่างริมระเบียงถามขึ้น ใบหน้าขาวนวลเนียนแดงเข้มเหงื่อพราวเต็มใบหน้า“ฉันก็มาดูเด็กมีปัญหาที่หนีออกจากบ้
Chapter 8“เมอิ จะกลับอาทิตย์หน้าแล้วใช่ไหม?” ฉันถอนหายใจอย่างใจหาย ถึงจะสนิทกับดีไซเนอร์สาวไม่เท่ากับสนิทกับอคิน แต่เมอิก็เป็นเพื่อนผู้หญิงที่ฉันคุยได้เกือบทุกเรื่อง“เดี๋ยวมาใหม่ กลับไปเคลียร์งานก่อน พนักงานบอกว่าลูกค้าบ่นอยากเห็นชุดแบบใหม่ๆแล้ว” เมอิยิ้มกว้าง จนดวงตาเรียวรีที่ทาอายแชร์โดว์สีหวานเป็นรูปพระจันทร์คว่ำ สาวสวยเฉี่ยวกลายเป็นสาวหวานคงเพราะมีความรักแน่ๆ ฉันคิดว่าตัวเองเดาถูกแหละ“คนที่นี่จะไม่คิดถึงเหรอ?” ป้อมปืนผู้ซึ่งไม่เคยมีความเคลื่อนไหวใดๆในไอจี กลายเป็นผู้ชายคลั่งรักโพสท์รูปหวานๆกับแฟนสาว สามนาทีสี่สเตตัสทำเอาคนโสดแบบฉันยังแอบอิจฉานิดหน่อย“คงไม่คิดถึงหรอก” เมอิพูดคล้ายกับมีเลศนัย“ทำไมจะไม่คิดถึงล่ะ”“ก็ปืนจะไปกับฉันน่ะสิ พอเคลียร์งานแล้วก็จะกลับมาพร้อมกัน” เมอิทำหน้าขัดเขิน กัดปากอมยิ้มอย่างมีความสุข“ว้าว..ว่าแต่คนบ้างานอย่างป้อมปืนจะทิ้งบริษัทได้เหรอ?” ฉันเห็นเพื่อนคนนี้ทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่ค่อยมีเวลาว่างเหมือนคนอื่นๆ ขนาดอคินเป็นหมอยังมีเวลาว่างมากกว่าป้อมปืนอีก“ซึกิจัง สมัยนี้เค้าไม่ต้องทำงานที่บริษัทได้อย่างเดียวหรอก วิดิโอคอนเฟอเรนซ์ก็ได้จ้า” นั่นสินะ ทุก
Chapter 9.. Akin talksหลังจากออกจากห้องผ่าตัดในช่วงสองทุ่ม ผมก็รีบพุ่งตัวออกจากโรงพยาบาล ท่าทีรีบร้อนจนหมอไปป์อดถามไม่ได้“หมออคิน เดี๋ยวนี้กลับคอนโดบ่อยจัง ไหนว่าขี้เกียจตื่นเช้า” อย่างที่รู้ถ้านอนที่หอพักหน้าโรงพยาบาล เราจะมีเวลานอนเพิ่มขึ้นเพราะจะไม่เสียเวลาในการเดินทางบนท้องถนน เนื่องจากคอนโดของผมในช่วงเช้าเป็นจุดที่การจราจรค่อนข้างติดขัด ซึ่งถ้าผมนอนที่นั่นต้องพึ่งพี่วินมอเตอร์ไซด์อย่างเดียว จึงจะมาราวน์วอร์ดในตอนเช้าทันเวลา“ผมจะเอาผ้าไปซักครับ เสื้อผ้าที่ใช้แล้วมันล้นตระกร้า” ผมอ้างเหตุผลไปแบบข้างๆคูๆเพราะคิดอะไรไม่ออกจริงๆ“ที่หอพักก็มีแม่บ้านรับจ้างซักผ้าแถมมารับผ้าถึงหน้าห้องพักเลยนะครับ” เออ..นั่นสินะ ทำไมต้องหอบตระกร้าผ้าไปซักถึงคอนโด เป็นใครก็คงสงสัย“...........”“หรือว่า..หมออคินแอบซุกสาวไว้รึเปล่า?” ผมแอบสะดุ้งวาบเหมือนโดนใครรู้ความลับที่แอบปิดบังไว้“สาวที่ไหนครับ ไม่มี..” ยายชีไม่นับว่าเป็นสาวๆที่หมอไปป์กล่าวถึงเพราะยัยนั่นเป็นเพื่อนสนิทของผม แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธที่รีบกลับคอนโดเพราะอยากไปหาคนที่อยู่ที่นั่นจริงๆ
Chapter 10 Ployfon talks“คุณคะ ตอนนี้เข้าไปไม่ได้นะคะ ท่านประธานกำลัง...” เลขานุการสาวร่างบางในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม พยายามจะเข้ามาขวางขณะที่ฉันกำลังจะเปิดประตูห้องทำงานของประธานบริษัทบีบีแอล กรุ๊ป หน้าประตูติดป้ายชื่อ นายธนา วชิระสกุลชัย ชื่อที่ฉันไม่อาจจะลืมได้..แม้จนวันตาย..“ธนา” ฉันเดินเข้าไปประจันหน้าผู้ชายที่เคยได้ชื่อว่าเป็นคนรักเก่า เอ่อ..ไม่สิ อดีตคู่หมั้นตะหาก เรากำลังจะแต่งงานกัน ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมาก่อน“พลอยฝน มีเรื่องอะไร?” ธนาเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มกองโตที่พร้อมจะล้มทับเขาได้ทุกเมื่อ ดวงตาสีเข้มสบตาฉันนิ่งนาน ภาพในอดีตฉายวาบขึ้นมาในความคิดราวกับภาพแฟลชแบ็ค นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน ก็คงตั้งแต่ที่เราเลิกรากันไปเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน แม้ว่าตอนที่อคินยังเด็กบ้านเราจะใกล้กันเพียงกำแพงกั้น แต่ฉันไม่เคยเหยียบย่างไปบ้านของเขาเลย จนกระทั่งอคินเรียนชั้นมัธยมเราก็ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม หลายปีมานี้ฉันพยายามทำใจลืมเรื่องราวของฉันกับเขา ฝังมันไว้ในความทรงจำตลอดกาล “เธอทำแบบนี้กับลลิลได้ยังไง ฉันไม่อย
Chapter 11“อคิน ตื่น!!” ฉันทั้งดึงทั้งลากร่างหนาที่นอนหลับสนิทชนิดที่สะกิดยังไม่มีขยับแม้แต่นิดเดียว“อื้อ..” เขางึมงำในลำคอ ก่อนที่จะเอื้อมมือมาดึงร่างของฉันเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาแถมยังถูใบหน้าตัวเองไปตามซอกคอของฉันแรงๆ จนตัวฉันร้อนวูบวาบเกิดความรู้สึกประหลาด “อคิน หยุดเดี๋ยวนี้” ฉันพยายามดิ้นหนีจากการเกาะกุมของเขา“อ่าว..เธอเองหรอกเหรอ นึกว่าหมอนข้างแล้วหมอนข้างหายไปไหนแล้วล่ะ” อคินลืมตาตื่นขึ้นเขากดยิ้มมุมปาก ดวงตาคู่คมกวาดสายตาไปรอบๆ หมอนข้างที่ว่ามันไปนอนกองแอ้งแม้งอยู่ข้างเตียงโน่น..และมันเป็นฝีมือฉันเอง ฉันหลบสายตาของเขาด้วยความขัดเขินกลัวจะโดนหมอหนุ่มจับได้ว่าฉันแอบทิ้งมันลงข้างเตียงเพื่อจะทำเนียนไปกอดคนข้างๆ“สงสัยฉันถีบมันตกเองแหละ” ฉันตอบไม่เต็มเสียงพลางบีบมือตัวเองไปมา อคินจะดูออกไหมว่าฉันโกหก“แล้วปลุกทำไมแต่เช้ามีอะไร ฉันยังเหลือเวลานอนอีกตั้งสิบห้านาที” คนตัวสูงบ่นอุบ เขาลุกขึ้นมานั่งพลางบิดตัวไล่ความเมื่อยขบ“วันนี้วันเกิดใคร?” ฉันยิ้มกว้างยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ๆเขา อคินยิ้มตอบคล้ายกับจะรับรู้คำตอบแล้ว“วันเกิดเธอเหรอ?” ทว่าคิ้วเข้มขมวดมุ่นด้วยความงุนงง จนฉันอดตีแข
Chapter 12ฉันหอบหิ้วกล่องอาหารที่น้าพลอยฝนแพคไว้ให้ลูกชายคนโปรด ราวๆเกือบสิบกล่องมากซะจนมันน่าจะล้มทับฉันได้เลย แม่ของอคินคงอยากให้หมอหนุ่มเอามาแบ่งปันเพื่อนร่วมงานในวันเกิดของเขาด้วย อาหารที่ให้นำมาจึงมากมายจนคนๆเดียวคงกินไม่หมด ฉันกดเบอร์มือถือโทรหาเพื่อนรักทว่าเขาไม่รับสาย คิดได้ว่าเขาน่าจะติดเคสผ่าตัด ฉันจึงตัดสินใจจะฝากไว้ที่เคาท์เตอร์กับพยาบาลที่ประจำจุดนั้น ขณะที่กำลังเดินไปตามทางเดินของตึกศัลกรรมเพื่อไปยังจุดที่จะนำอาหารไปฝากไว้ ร่างสูงคุ้นตาในชุดปฏิบัติงานแขนสั้นก็เดินผ่านมาพอดี หมอไปป์เพื่อนร่วมงานของอคินนั่นเอง“คุณลลิล” หมอหนุ่มร้องทักฉันอย่างดีใจ ใบหน้าขาวจัดยิ้มกว้าง ฉันแอบงงเล็กน้อยจะดีใจอะไรขนาดนั้น ทำยังกะเจอเนื้อคู่ที่พลัดพรากกันหลายสิบชาติอย่างนั้นล่ะ ทั้งๆที่ฉันก็เป็นเพียงเพื่อนสนิทของเพื่อนร่วมงานของเขาอีกทีเท่านั้น“สวัสดีค่ะหมอไปป์” ฉันค้อมศีรษะทักทายเพราะข้าวของในมือไม่เอื้ออำนวยให้ทำอะไรอย่างอื่นได้เลย เขาคงเห็นฉันถือของราวกับยายบ้าหอบฟางจึงมีน้ำใจเอาไปช่วยถือครึ่งหนึ่ง“หอบอะไรมาตั้งมากมายครับ ทำโรงทาน?” หมอไปป์ถามคิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความสงสัย“วันนี้วันเกิด
Special Akin Lalin and the babies“ปีนี้เมอิจะย้ายมาไทยถาวรเลยใช่ไหม?” อคินเอ่ยถามป้อมปืนที่พาลูกเดินทางไปกลับอังกฤษเป็นเวลาหลายปี“ใช่แล้ว ฉันไม่อยากให้บีบีไปๆมาๆระหว่างไทยกับอังกฤษ ตั้งใจว่าเดือนหน้าจะพาเข้าเรียนอนุบาลที่ไทยแล้ว”“ดีๆ เข้าที่เดียวกับซันเลยสิ จะได้มีเพื่อน ดูเด็กๆเข้ากันได้ดีนะ” หมอหนุ่มทอดสายตาดูลูกชายลูกสาวของเขากับเพื่อนรักกำลังก่อกองทรายริมทะเลอย่างสนุกสนานโดยมีคุณดารินทร์กับคุณย่าพลอยฝนคอยดูอย่างห่างๆ ครอบครัวของอคินมีลูกสองคน คนโตเป็นชายชื่อซัน อายุห้าขวบเท่ากันกับบีบีลูกสาวของป้อมปืน ส่วนคนเล็กเป็นเด็กผู้หญิงชื่อลูน่า“ดีเหมือนกัน เผื่อใครติดธุระจะได้ฝากรับลูกกลับบ้านด้วย” ป้อมปืนพยักหน้ารับเห็นด้วย เขาวางแพลนจะมีลูกคนที่สองแต่ก็ยังไม่มาซะที อยากได้ลูกชายเพิ่มอีกคนจากนั้นก็จะปิดอู่ทันที“แต่ลูกเราคงไม่ลงเอยกันหรอกใช่ไหม?” ป้อมปืนมองลอดแว่นเห็นน้องบีบีลูกสาวที่น่ารักช่างพูดช่างเจรจากำลังพยายามจะจัดทรงผมของน้องซันเป็นทรงโดยใช้น้ำทะเล คล้ายกับกำลังเลียนแบบเมอิตอนที่จัดทรงผมให้เขาในตอนเช้าอะไรอย่างนั้น ที่ถามไปแบบนั้นก็เพราะรู้สึกหวงลูกสาวขึ้นมาตะหงิดๆ ทั้งๆที่น้อ
Chapter 30“ที่รัก เค้าผิดไปแล้ว ดีกันนะครับ” ร่างสูงของหมอหนุ่มยืนหน้าประตูห้องนอนตัวเองอยู่เกือบชั่วโมงเต็มๆ เสียงร้องไห้ของภรรยาสาวยิ่งบีบหัวใจของเขาให้รู้สึกเศร้าตามไปด้วย ก็เขานึกว่าที่ท้องคือเจ้าลิลินและพลั้งปากบอกให้ลลิลไปหาหมอกับคนขับรถอีกด้วย เขาสมควรตายจริงๆ อคินนึกโมโหตัวเองในใจ“อคิน ไปนอนห้องแม่ก่อนก็ได้นะ ท่าทางจะอีกนาน ฮอร์โมนคนท้องก็อย่างนี้แหละ ตอนแม่ท้องเราแม่ก็หงุดหงิดน้อยใจเก่ง แต่ถ้าได้กินของโปรดนะ ยิ้มจนหน้าบาน” พลอยฝนกลัวลูกชายที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน แล้วยังต้องมายืนง้อภรรยาอยู่หน้าห้องจะเกิดเป็นลมล้มพับไปซะก่อน ช่วงนี้ยิ่งได้ยินว่าเข้าเวรไม่ค่อยได้นอนด้วย“ของโปรดเหรอครับ?” อคินทวนคำถามนั้นพลางนิ่งคิดในใจ เอ..ยายชีชอบกินอะไรเป็นพิเศษนะ นอกจากขนมปังเจ้าดัง ใช่แล้ว!! วันก่อนเคยได้ยินว่าที่คุณแม่เปรยๆว่าอยากไปกินอาหารทะเลสดๆที่จันทบุรี“ที่รัก พรุ่งนี้ไปจันทบุรีกันนะ เค้าจะจองโรงแรมที่ใกล้กับร้านอาหารทะเลเจ้าดังที่ตัวเองอยากกินด้วย หายโกรธเค้านะครับ” อคินทำเสียงอ่อยๆออดอ้อนคนที่อยู่ข้างในห้อง เสียงร้องไห้หายไปสักพัก ประตูห้องนอนแง้มออกมานิดนึง ภรรยาคนสวยโผล่ใบหน้
Chapter 29อคินมาถึงบ้านเกือบเกือบสามทุ่ม ภายในห้องนอนมืดสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่ ทว่ามีแสงไฟลอดออกมาจากระเบียงห้องซึ่งลลิลจัดเป็นสวนกระบองเพชรและไม้ดอกไม้ประดับที่ปลูกในกระถางเล็กๆ หญิงสาวมักจะใช้เป็นมุมจิบกาแฟทานอาหารเช้าก่อนที่จะไปทำงาน ร่างสูงเดินตรงออกไปที่ระเบียง ลลิลกำลังยกกระถางต้นไม้อันใหญ่เข้ามาชิดขอบระเบียงด้านใน หัวใจของอคินกระตุกวูบด้วยความตกใจ“ลลิล ทำไมยกของหนัก” เสียงของเขาดังจนแทบจะตะโกนด้วยความห่วงใย“ไม่หนักนะ นี่ยกได้อีกอันสบายๆ” ลลิลทำท่าจะยกกระถางต้นไม้ขึ้นมาด้วยแขนอีกข้าง อคินจึงรีบเข้าไปคว้ามันไว้ก่อน อยากจะจับภรรยามาตีก้นสักทีสองทีโทษฐานทำอะไรไม่นึกถึงเจ้าตัวเล็ก“พอๆ ห่วงตัวเองบ้างสิ ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ” หมอหนุ่มบ่นกลายๆ กลัวว่าที่คุณแม่กับลูกน้อยจะได้รับอันตราย“อ่อ..จริงสิ ฉันมีเด็กๆที่ต้องเลี้ยงนี่นา เผื่อกระถางต้นไม้ตกใส่แข้งขาหัก จะอุ้มเจ้าตัวเล็กลำบาก” หญิงสาวพยักหน้ารับและเข้าใจไปเองว่าสามีหนุ่มหมายถึงเจ้าลิลินที่กำลังตั้งท้อง“รู้ก็ดีแล้ว ห้ามยกของหนักเข้าใจไหม ช่วงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ” อคินคว้าร่างบางมากอดไว้สูดกลิ่นหอมจากเรือนผมยาวสลวยนั้นอย่างหลง
Chapter 28หลังจากราวด์วอร์ดผู้ป่วยในช่วงเช้าเรียบร้อย อคินก็กลับมาที่บ้านเพื่อเข้าร่วมในการเปิดพินัยกรรมของผู้เป็นบิดาแท้ๆของเขา หมอหนุ่มเห็นด้วยกับแม่ที่จะเก็บความลับเรื่องที่เขาเป็นลูกชายทางสายเลือดของธนา เพราะอย่างไรเสียมรดกที่ลลิลจะได้รับก็เหมือนเป็นของเขาอยู่ดีและทรัพย์สินที่อคินมีทั้งหมด เจ้าตัวก็ยินยอมพร้อมใจจะมอบให้ภรรยาคนสวยแต่เพียงผู้เดียวด้วยความรักความสิเน่หาล้วนๆ เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมเสื้อเชิร์ตสีขาวกับกางเกงสแล็คสีดำที่ลลิลเตรียมให้ หญิงสาวอยู่ในชุดเดรสสีขาว ผมปล่อยยาวสลวยทำลอนใหญ่ตรงปลาย ใบหน้าแต่งเพียงเบาบางหากแต่สวยจนหัวใจของเขาเต้นรัว อยากเข้าไปกอดไปจูบถ้าไม่ติดว่ากำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขกที่มีญาติผู้ใหญ่อยู่กันพร้อมหน้า ทว่าเขาก็นั่งกุมมือภรรยาสาวไม่ยอมห่างจนคุณหมอของขวัญแอบมองด้วยความหมั่นไส้ เมื่อไม่นานมานี้ยังบอกว่าเป็นแค่เพื่อน นี่ยังไงผ่านมาแค่เดือนเศษๆ กลับเลื่อนสถานะมาเป็นสามีภรรยากันแถมยังหวานจนน้ำตาลเรียกพี่ให้คนโสดที่ขึ้นคานมานานอย่างเธออิจฉาอีกด้วย“เมื่อมาพร้อมกันแล้ว ผมในฐานะทนายประจำตระกูลจะขอเปิดพินัยกรรมที่นายธนา วชิระสกุลชัย ได้ทำไว้ก่อนที่จะ
Chapter 27หลังจากที่เจ้าสาวโดนเจ้าบ่าวอุ้มเข้ามาในห้องน้ำ อคินก็วางร่างบางลงที่อ่างอาบน้ำ มือหนารูดซิปชุดไทยที่ยังเหลือค้างไว้ที่กลางหลังจนถึงบริเวณช่วงเอว หมอหนุ่มช่วยหญิงสาวปลดเครื่องประดับบนศีรษะอันประกอบด้วยปิ่นทองและกิ๊บติดผมรูปดอกไม้ จากนั้นจึงใช้หวีสางผมให้ลลิลอย่างเบามือ“ผมเธอสวยจังเลยนะ” เขากล่าวชื่นชม ตั้งแต่ตอนเด็กๆลลิลมักจะรวบผมที่ยาวสลวยมัดเป็นหางม้าโชว์เครื่องหน้าที่สวยรับกับรูปหน้า ผมของเธอเงางามนุ่มลื่นมีน้ำหนักแถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูสมุนไพรที่เธอมักจะใช้เป็นประจำ“แล้วอย่างอื่นไม่สวย?”“สวยทุกอย่างเลยครับที่รัก” สวยจนเขาไม่อาจละสายตามองผู้หญิงคนอื่นได้เลย อคินกดจมูกลงที่เส้นผมของภรรยาพลางสูดกลิ่นหอมอ่อนๆนั้นอย่างหลงใหล เขาจุมพิตลงไปที่แผ่นหลังเปลือยเปล่าขาวนวลเนียนน่าสัมผัสนั้น มือหนาค่อยๆถอดชุดไทยให้พ้นจากร่างบาง ลลิลเผลอเอามือมาปิดอกอวบด้วยความขัดเขิน หมอหนุ่มมองภาพตรงหน้าแล้วอุทานในใจอย่างตกตะลึง หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น‘โคตรสวย’ลลิลเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ ที่ตกลงมาจากสวรรค์ ร่างเปลือยเปล่าขาวนวลตัดกับเส้นผมดำยาวสลวย ใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลบสายตาขอ
Chapter 26“เพิ่งรู้ว่าหมออคิน ที่มาของชื่อมาจากพระเอกเรื่องสตาร์วอร์สก็วันนี้” ปาลินทร์มองไปรอบๆงานแต่งงานที่จัดขึ้นหลังจากที่เจ้าบ่าวไปตามเจ้าสาวที่บ้านของเขาแค่เพียงสองวัน งานแต่งงานที่หมออคินบอกว่าจัดแบบเรียบง่ายหากแต่บริเวณงานเช่าสวนดอกไม้ขึ้นชื่อเพื่อเนรมิตรเป็นดินแดนในโพ้นอวกาศฉากสำคัญในหนังดังตลอดกาลอย่างสตาร์วอร์ส พนักงานเสิร์ฟในงานแต่งกายแบบชาวดาวนาบู“ก็แม่ของอคินกับพ่อของลลิลเคยคบกันมาก่อน แล้วทั้งคู่ก็ชอบหนังเรื่องนี้มากค่ะ แต่ก็อย่างว่าพ่อเพิ่งเสียแต่ลูกสาวอยากแต่งงานจน....” ตัวสั่น..คำหลังหญิงสาวคิดในใจ ของขวัญอดไม่ได้ที่จะแขวะญาติผู้น้องซึ่งในซึ่งสุดก็ได้ครอบครองผู้ชายที่เธอหลงรักมานานอย่างเป็นทางการ เจ้าตัวมองเจ้าสาวที่ยืนข้างเจ้าบ่าวสุดหล่อแล้วแอบบ่นอุบในใจด้วยความอิจฉา‘ไหนบอกว่าแค่เพื่อน ยิ้มดีใจจนแก้มฉีกเลยล่ะมั้ง’“จะแต่งเร็วแต่งช้าก็ต้องแต่งอ่ะนะ” ดีไซเนอร์สาวสวยมาในชุดราตรีสีขาวแบบเรียบๆ หากแต่แหวกช่วงขาแอบเซ็กซี่นิดๆ แต่งานนี้เมอิยอมให้เพื่อนรักสวยโดดเด่นเพียงคนเดียว หญิงสาวควงแขนมากับหนุ่มหล่อในชุดสูทสีครีมเข้าคู่กัน“ป้อมปืน หวัดดี” ของขวัญกล่าวทักทายแต่เพีย
Chapter 25“ซึกิจัง ฉันว่าขอเวลาให้ฉันออกแบบชุดให้เธอสักสองวันจะได้ไหม แต่งงานพรุ่งนี้มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ?” คนแรกที่ลลิลโทรบอกเรื่องงานแต่งงานที่จัดแบบกระชั้นชิดก็คือเมอิ ลลิลไม่มีเพื่อนผู้หญิงคนสนิทที่ไหนนอกจากดีไซเนอร์สาวสวย ซึ่งเธอขอร้องให้ช่วยมาเป็นเพื่อนเจ้าสาว ส่วนเรื่องการจัดงานทั้งหมดน้าพลอยฝนจ้างบริษัทรับจัดงานแต่งงานทุกอย่างและคงเป็นการจัดงานแบบกะทันหันที่สุดตั้งแต่ที่บริษัทก่อตั้งมาเลยล่ะมั้ง..“ฉันอยากจะแต่งงานแบบง่ายๆน่ะ การแต่งงานของฉันมีขึ้นเพื่อสานต่อธุรกิจของพ่อ” ลลิลรีบชิงบอกเหตุผลก่อนที่จะโดนเพื่อนสาวซักไซร้ไล่เลียงไปมากกว่านี้“แล้วเธอไม่คิดอะไรกับอคินสักหน่อยเลยเหรอ? แน่ใจว่าเพราะธุรกิจอย่างเดียว” เมอิสบตาว่าที่เจ้าสาวราวกับต้องการล้วงลึกความจริงที่ตัวเองอยากจะรู้ ลลิลหลบสายตาที่มองมาอย่างใคร่รู้ปนสังสัย“ฉันกับอคินก็เป็นเพื่อนกันไง จะคิดอะไรกว่านี้ได้ล่ะ” หญิงสาวทำเป็นหยิบน้ำส้มขึ้นมาจิบเพื่อกลบเกลื่อนความขัดเขินที่เริ่มจะปิดไม่มิด“อ๋อ..ไม่คิดทำไมทำหน้าเขินๆแถมหลบตาฉันด้วย มีอะไรที่ฉันไม่รู้ไหมนะ?” ดีไซเนอร์สาวขยับเข้ามาใกล้ๆเพื่อนรักพลางกระซิบถามเบาๆ“ทีเรื่อ
Chapter 24 “ช่วยเป็นภรรยาและแม่ของลูกที่น่ารักๆให้ที ขอแค่นี้ล่ะ..” คนข้างๆพูดเสียงอ้อนจนหัวใจของหญิงสาวถึงกับสั่นสะเทือนด้วยความหวั่นไหว“บ้า!!..ใครเค้าขอให้ชดใช้ความผิดด้วยอะไรแบบนี้กันล่ะ” ใบหน้าของลลิลเห่อร้อน เธอแสร้งทำหน้าขึงขังเพื่อกลบเกลื่อนความเขินที่เริ่มจะปิดบังไว้ไม่อยู่เพราะใบหน้าสวยหวานเริ่มยิ้มน้อยๆ“ไม่เคยได้ยินเหรอ? ละครเรื่องจำเลยที่รัก ที่แบบตบจูบๆ แต่ฉันไม่เถื่อนขนาดนั้นนะ ฉันชอบแบบตบด้วยปากกระชากด้วยลิ้นอะไรแบบนี้” คนแอบหื่นพูดหน้าตาเฉยพลางสบตาว่าที่เจ้าสาวคนสวยอย่างไม่มีทีท่าสะทกสะท้าน ส่วนคนที่นึกภาพตามถึงกับเขินจนนั่งไม่ติดเก้าอี้“ตกลงหนีมาเพราะว่ารู้สึกผิดที่แย่งพ่อฉันไปใช่ไหม?” อคินเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ อยากจะเคลียร์ใจกันให้ชัดเจน ลลิลจะได้ไม่คิดจะหนีเขาไปอีก“อืม..ฉันทำผิดต่อน้าพลอยฝน ทำให้พ่อไม่ได้ใช้ชีวิตกับแม่ของนาย” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าเจือความรู้สึกผิด เพราะตนเองเป็นต้นเหตุของเรื่องราวยุ่งเหยิงของทั้งสองครอบครัว“แม่ฉันไม่ได้โทษเธอหรอก ฉันเองก็ไม่โกรธอะไรเธอเลย แต่ฉันโกรธที่เธอคิดจะหนีฉันไปนี่แหละ ทำเหมือนฉันไม่มีค่า ได้ฉันแล้วก็ทิ้ง ผัวทั้ง
Chapter 23“ลลิล ยืนตรงมุมนะครับ เอียงข้างนิดนึง นั่นแหละครับ ยิ้มนะครับ” ปาลินทร์ปรับโฟกัสกล้องจากนั้นจึงกดชัตเตอร์ ร่างบางในชุดพื้นเมืองสีชมพูเข้มตัดกับผิวขาวนวลเนียนน่าสัมผัส เธอสวมรองเท้าแตะธรรมดาๆแต่คนที่เดินผ่านไปมากลับมองหญิงสาวด้วยความสนใจ ก็ลลิลสวยโดดเด่นขนาดนั้น ย่อมเป็นเป้าสายตาเป็นเรื่องปกติ หมอหนุ่มพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดทั้งที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของกลับหึงหวงไม่อยากให้ผู้ชายคนไหนมองเธอ“ไหนๆ ลลิลขอดูรูปหน่อยค่ะ” สาวสวยเดินเข้ามาใกล้ๆจนปาลินทร์ได้กลิ่นแชมพูจางๆจากเรือนผมที่ยาวสลวยนั้น ดวงตากลมโตจับจ้องที่กล้องถ่ายภาพราคาแพงของชายหนุ่ม เธอมองภาพถ่ายตัวเองอย่างพึงพอใจ“หมอไปป์เก่งมากเลยค่ะ อคินถ่ายให้ทีไรเบลอบ้าง โฟกัสผิดจุดบ้าง คนอะไรไม่มีพรสวรรค์เอาซะเลย” ลลิลบ่นไปเรื่อย เกือบชั่วโมงที่เธอเอาแต่กล่าวถึงเพื่อนวัยเด็กโดยไม่รู้ตัวเลย ปาลินทร์กำมือแน่นอิจฉาอดีตเพื่อนร่วมงานหนุ่มหล่อ เขาอยากเป็นผู้ชายคนเดียวที่ดวงจันทร์ดวงนี้เอ่ยถึง“ลลิลเรียกผมว่าไปป์ได้ไหม?” อยากให้เรียกชื่ออย่างสนิทสนมเหมือนกับหมออคิน เขาพูดต่อเองในใจ“ได้สิคะ แค่ตัดคำว่าหมอออกเอง ยิ่งเรียกง่ายค่ะ” ลลิลพูด