ในเวลานั้นเอง รถแลนด์ โรเวอร์ ออโรร่า คันสีดำก็แล่นผ่านตรอกซอยแคบ ๆ อย่างรวดเร็ว ถังหมิงหลีกระโดดลงไปแล้วตะโกนลั่น “ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!”ไต้ซือตงดึงฉันไปที่หน้าอก พร้อมใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งบีบที่คอของฉันอย่างแรงจนอาจจะหักได้ทุกเมื่อ“ไสหัวไป!” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม “ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าเธอ!”ถังหมิงหลีหมุนข้อมือ ในมือของเขามีกริชอันแหลมคมอยู่ “แกหนีไม่พ้นหรอก วางเธอกับกล่องใบนั้นลง แล้วฉันจะปล่อยแกไป”ไต้ซือตงหัวเราะเยาะ “กล่องใบนี้ก็เป็นสิ่งที่แกต้องการด้วยเหรอ? เจ้ายาหยานโซวอายุหนึ่งปีที่ช่วยให้ร่างกายกลับคืนสถานะสูงสุด ถ้ามันเป็นของมีค่าแล้วฉันจะยอมทิ้งได้ยังไงล่ะ?”เขาก้มหน้ายิ้มเหยียดใส่ฉัน “อย่าบอกนะว่าเธอคิดจะให้ของดีชิ้นนี้กับชายที่รักของเธอเหรอ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า เธออย่าลืมนะว่าเธอหน้าตาน่าเกลียด ทำแบบนี้เขาจะชอบเธอหรือไง?”แม้จุนเหยาจะเจ็บปวดใจแต่กลับตอบโต้ “แล้วมันธุระอะไรของแก?”“จริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของฉันหรอก แต่ฉันคนนี้ดันชอบดูความสนุกสนานมากกว่าน่ะสิ” และเขาก็หันไปพูดกับถังหมิงหลี “ของหรือคน เลือกเอาสิ?”ถังหมิงหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ฉันต้องการทั้
“จุนเหยา ผู้อาวุโสกัวดีกับพ่อแม่และลุงของฉันมาก ฉันต้องช่วยเขา” ถังหมิงหลีกล่าว “น้ำหยานโซวพวกนี้ฉันขอซื้อหมดเลย เธอคิดราคามาเถอะ”ฉันลังเลเล็กน้อยว่าควรเสนอราคาเท่าไรดีถังหมิงหลีมองออกว่าจุนเหยากำลังสับสน จึงพูดเสริม “ขวดละห้าล้าน ทั้งหมดห้าสิบล้าน เป็นไง”ห้าสิบล้าน?ร่างเล็กเบิกตากว้างตกตะลึงห้าสิบล้านหยวน นี่คือตัวเลขที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อนจุนเหยาตกตะลึงจนพูดไม่ออกพักหนึ่ง ก่อนที่จะค่อย ๆ ถามเขาอย่างเกรงใจ “มันจะไม่เยอะเกินไปเหรอ?”เขายิ้มกว้าง “เห็ดหลินจือที่เธอเอามาใช้แลกกิ่งใบกุ้ยหลานก็มีมูลค่าหลายสิบล้านแล้ว นอกจากนี้ยังมีเครื่องยามูลค่าสูงอีก ฉันสามารถทำเงินได้มากกว่าห้าสิบล้านนะ ผู้อาวุโสกัวท่านให้เกียรติลุงของฉันมาก หมายถึงท่านตั้งใจฝึกให้เขาเป็นผู้สืบทอด ขอเพียงท่านมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกหนึ่งปีเท่านั้น ตำแหน่งของลุงก็จะยิ่งมั่นคงขึ้น ดังนั้น เงินห้าสิบล้านก็แค่เศษเสี้ยว”ฉันแอบถอนหายใจ แท้จริงแล้วยากลั่นสามารถทำเงินได้มากขนาดนี้เลยหรือ ไม่แปลกใจเลยที่ตัวเอกในนวนิยายออนไลน์เกี่ยวกับการกินยาอายุวัฒนะถึงล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญในการกลั่นยาเงินห้าสิบล้านถูกโอนเข้าบัญชีขอ
กัวซวนชี้ไปที่เขาพร้อมกล่าว “ที่นี่คือตระกูลกัว แกมันคนแซ่อื่น ใครใช้ให้แกเข้ามาจุ้นจ้าน”“หุบปาก” พลันเสียงชราที่ยังเต็มไปด้วยลมหายใจก็ลอยมาแต่ไกล ทุกคนต่างตกใจเมื่อหันไปเห็นชายชราสวมชุดสูทจงซานสีเทากำลังก้าวขาเข้ามาอย่างรวดเร็วพ่อลูกตระกูลกัวทั้งสามตกตะลึง ผู้อาวุโสยังมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วันไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ ๆ ลุกขึ้นเดินได้ในพริบตาล่ะ?ผู้อาวุโสกัวในเวลานี้ดูไม่เหมือนคนป่วยเลยแม้แต่นิด ร่างกายของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ดวงตาทั้งสองคมแหลมอีกทั้งยังสดใส มือที่สั่นหลังจากเป็นโรคหลอดเลือดสมองก็กลับมาแข็งแรงและมีกำลัง อีกหน่อยคงกลับมาลุกฮือได้อีกครั้ง ประหนึ่งว่าอ่อนกว่าวัยไปสี่สิบปีทันที“ท่าน ท่านพ่อหายป่วยแล้วเหรอครับ?” กัวเทียนซงเอ่ยด้วยความประหลาดใจทว่าผู้อาวุโสกัวกลับตอบอย่างเย็นชา “ทำไม พวกแกไม่อยากให้ฉันหายเหรอ?”กัวเทียนซงรีบเอ่ยขัดทันควัน “ท่านพ่อ ผมดีใจกับท่านมากจริง ๆ ครับ ท่านกินยาวิเศษอะไรเข้าไปเหรอครับ?”ผู้อาวุโสกัวกล่าว “ครั้งนี้ดีนะที่ได้ถังหมิงหลีช่วยไว้ เขาให้ฉันกินยาอายุวัฒนะเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย เขาเป็นผู้มีพระคุณต่อตระกูลของเรา แล้วดูสิ่งที่ลูกชายทั
ฉันขมวดคิ้ว “เอาเขาส่งให้ตำรวจเถอะ”ตงหมิงโล่งอกอย่างเห็นได้ชัดถังหมิงหลียิ้มบาง “ลุงจง ทำตามที่จุนหยวนบอกเถอะ”ตงหมิงคุกเขาก้มศีรษะลงแตะพื้นไม่หยุด “ขอบคุณครับนายน้อยถัง ขอบคุณครับคุณหยวน”ทว่าตอนนั้นจุนเหยากลับคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่เขาพึ่งไปอยู่ในคุกได้แค่สองสามวันก็โดนคนทำร้ายจนเสียชีวิตในนั้น เมื่อได้ฟัง ร่างทั้งร่างก็เย็นเฉียบไป เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นฝีมือของเว้ยหลานตงหมิงคนนี้คงรู้เยอะเกินไปวันถัดมาฉันไปหาน้องชายที่โรงพยาบาล ระหว่างทางก็แวะซื้อหนังสือสองเล่ม เพราะหมอฉินเคยบอกให้ฉันพยายามพูดกับเขาและเล่านิทานให้ฟังบ่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป มันอาจจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นบ้างจุนเหยาเดินมาถึงหน้าประตู พลันหยุดพร้อมมองลอดเข้าไปทางรอยแตกที่ประตู พบว่าพยาบาลสาวสวยคนนั้นกำลังสูบน้ำสกปรกที่โต๊ะและใช้กระบอกฉีดยาฉีดเข้าไปที่ท่อตรงหน้าท้องของอันอี้ตั้งแต่อันอี้นอนเป็นผักติดเตียง เขาก็ไม่สามารถกินอาหารได้เอง ซึ่งต้องใช้วิธีฉีดอาหารเหลวเข้าไปในท่ออาหาร โดยปกติจะเป็นซุปไก่ นมวัวจำพวกนี้ และจำเป็นว่าต้องมีอุณหภูมิอุ่นด้วย จะช่วยให้ไม่ปวดท้อง แต่หล่อนกล้าดียังไงมาฉีดน้ำสกปรกแบบนั้นฉันโกร
“แม่” เด็กทารกทั้งสองชูมือที่เปื้อนเลือดขึ้นพลางคลานเข้ามาหาหล่อน “แม่”“อ๊าย” หวงซินกรีดร้องด้วยความตกใจ พลันดวงตาก็กลอกกลับไปมาจนเป็นลมล้มไปร่างเล็กยืนอยู่ด้านล่างตึกบริเวณที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ของหล่อน ก่อนเผยรอยยิ้มเย็นชาตรงมุมปากถึงแม้ว่าวิญญาณทารกจะหลอกหลอนแม่ แต่พ่อก็มีกรรมบาปด้วยเช่นกัน ดังนั้นในค่ำคืนนี้ทารกทั้งสองจึงออกตามหาพ่อของตนเอง แม้จะต้องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินก็ตามเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันได้ยินข่าวว่าหวงซินฝันร้าย ซ้ำยังจิตผิดปกติเล็กน้อย พ่อแม่ของหล่อนจึงพากลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด ในขณะเดียวกันเศรษฐีผู้มีหน้ามีตาในสังคมก็ถูกหลอกหลอนในบ้านกลางดึกทำเอาชุลมุนวุ่นวายกันทั้งบ้าน คนหนึ่งขาหัก ส่วนอีกคนโดนหัวโขก ตอนนี้กำลังหาอาจารย์จากทุกหนทุกแห่งเพื่อขับไล่ผีปากเรียวบางยิ้มเยาะ พระเจ้ากระทำบาปยังสามารถให้อภัยได้ ทว่าตนเองกระทำบาปนั่นไม่สามารถไว้ชีวิตได้ความคับแค้นใจของวิญญาณทารกทั้งสองตนยังมีไม่มาก ตอนนี้ทั้งสองได้แก้แค้นแล้วและถึงเวลาที่จะได้ไปกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้ง ส่วนหวงซินและพ่อเด็กทั้งสองอาจจะป่วยเป็นเวลาสามถึงห้าเดือนเท่านั้นเองน่าเสียดายที่หวงซินเพิ่งจะคบ
[แอดมิน เธอเจออาชญากรหรือเปล่า? แต่ไม่เป็นไร พี่ชายของฉันเป็นคนมีหน้ามีตาบ้างในเมืองซานเฉิง เพียงเธอเอ่ยปาก ไม่ว่าคนร้ายจะมากี่คนฉันจะช่วยจัดการเอง][คอมเมนต์ข้างบนเป็น “พี่ใหญ่” หรือเปล่า? ฮ่า ฮ่า แอดมิน ในบรรดาผู้ชมของเธอมีเสือหมอบมังกรซ่อนเร้นด้วยอะ][นั่นแน่ แอดมิน เธอออกไปกับจอมเผด็จการดึก ๆ ดื่น ๆ อีกแล้วนะ บอกมาเลยจะไปเปิดห้องกันใช่ไหม?]ยังไม่ทันที่ผู้ชมได้เตรียมตัวเตรียมใจ ใบหน้าซีดของหญิงสาวก็ปรากฏขึ้นบนกระจกบานหน้าต่าง เลือดไหลปกคลุมไปทั่วใบหน้าของหล่อน สายตาที่มืดมนเตรียมพร้อมเผยรอยยิ้มชั่วร้ายบนหน้าผากของวิญญาณตนนี้มีคาถาสะกด“นี่คือการสวมรอยวิญญาณ!” ฉันอุทาน “มีคนกำลังควบคุมเธอ!”พลันก็เกิดเสียงดังปัง พร้อมกระจกบานหน้าต่างที่แตกออก แขนซีดของวิญญาณสาวเอื้อมมาบีบคอฉันทันทีมือเรียวดึงกริชไม้ท้อแทงเข้าไปที่แขนซีดนั้นอย่างดุเดือด พริบตาควันกลิ่นเหม็นคาวก็ลอยออกมา ขาเรียวเล็กถีบประตูรถจนเปิดออก ทว่าวิญญาณกลับถดถอยเข้าไปในความมืดแล้วหายตัวไปในที่สุด“ระวังตัวด้วยนะ” จุนเหยาและหมิงหลีลงจากรถพร้อมกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ฉันพกกริชไม้ท้อติดตัวเผื่อไปด้วยเพราะ“ว
[แอดมิน ฉันโทรแจ้งตำรวจแล้ว พวกเขากำลังมา][ต่อสู้กันได้สมใจอยากมากครับ ถ้าเทียบกับเรื่องนี้ หนังกังฟูพวกนั้นก็กลายเป็นศาสตร์แบบเด็ก ๆ ไปเลยจริง ๆ]“นักฆ่าคนนี้ค่อนข้างน่าสนใจ นังหนู อยากเป็นจุดสนใจของผู้ชมอีกครั้งไหม?” ราชาแห่งหวางซานกล่าวเสียงเรียบราชาแห่งหวางซานท่านนี้ช่างเฉื่อยชา“อยากค่ะ” ฉันรีบตอบ “พี่หวางซาน ช่วยสอนฉันหน่อยเถอะนะคะ”“ฮ่า ฮ่า ง่าย ๆ เลย” ราชาแห่งหวางซานว่าต่อ “เธอสังเกตเห็นที่คอขวาของเขามีรอยช้ำสีเขียว ๆ ฟ้า ๆ ตอนที่เขาต่อสู้กับเด็กน้อยจอมเผด็จการไหม?”ฉันเพ่งดูอย่างตั้งใจและพบว่ามันมีจริง ๆ เนื่องจากตอนนี้เป็นกลางคืน และบริเวณรอบ ๆ ก็มืด รอยช้ำนั่นจึงเห็นได้ไม่ชัดเท่าไหร่ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ“ฮี่ ฮี่ นั่นเป็นเพราะว่า วิธีการทางจิตของศิลปะการต่อสู้ที่เขาฝึกฝนนั้นมีข้อบกพร่อง และการฝึกฝนในระยะยาวจะทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บทุกข์ระทมอย่างรุนแรง พลังของเขาได้พัฒนาเป็นกังฟูขั้นสุดแล้ว แต่ความเจ็บปวดทั้งหมดจะสะสมอยู่บนคอของเขา ถ้าเข้าไปในรัศมีของพลังนั่น ฮี่ ฮี่ มีดราม่าให้เสพแน่นอน”ฉันเข้าไปใกล้ ๆ พวกเขาอย่างเงียบ ๆ ตอนที่นักฆ่ากำลังรีบหลบหลีก
ผู้อาวุโสกัวกล่าวพลางยิ้ม “เด็กดี ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก”ถังหมิงหลีเหลือบมองไปที่ฝ่ายกัวเทียนซงทั้งสาม “พอดีมีเรื่องนิดหน่อยตอนระหว่างทางที่ฉันกำลังมา แต่ตอนนี้สะสางเรียบร้อยแล้ว ส่วนสุนัขป่าที่กระโจนตัวเองเข้ามาอยู่ใต้วงล้อรถของฉันเพื่อหาความตาย ฉันก็จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว”ใบหน้าของกัวเทียนซงเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว เขาหมายถึงนักฆ่าขององค์กรนิกายนักฆ่าเองก็ถูกจัดการด้วยอย่างนั้นเหรอ?คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความสามารถแบบนี้ด้วยกัวซู่มีปฏิกิริยาก่อนใครอื่น เขายิ้มอย่างไม่เต็มใจนัก “หมิงหลี นายเตรียมของขวัญอะไรไว้ให้ผู้อาวุโสเหรอ? ทุกคนต่างรู้ว่าคนในตระกูลกัวของเรามีรสนิยมดีที่สุด ของขวัญของนายต้องไม่ธรรมดานะ”ถังหมิงหลีเตรียมของขวัญไว้พร้อมแล้ว มือหนาหยิบกล่องหยกออกมาพร้อมกล่าว “ผู้อาวุโสครับ ผมขออวยพรให้ท่านมีโชคลาภดั่งทะเลตงไห่ อายุยืนยาวเหมือนดั่งภูเขาหนานซานนะครับ”ผู้อาวุโสกัวยื่นมือรับกล่องด้วยความยินดี “หมิงหลีช่างมีความใส่ใจจริง ๆ”เขาเปิดกล่องและพบว่าด้านในคือหยกขาวรูปเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นหยกมันแพะที่ดีที่สุด ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้กันดีว่าของชิ้นนี้เป็นของล้ำค่ามาก
เธอหยุดชั่วคราวและกล่าวอย่างยิ้ม ๆ อีกครั้งว่า “ฉันยังมีคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลอีกข้อหนึ่ง หวังว่าคุณหยวนจะตกลง”“เรื่องอะไรเหรอคะ?” ฉันไม่พอใจเล็กน้อยกับสายตาที่มีความดูถูกเหยียดหยามของเธอ แต่ฉันก็ยังถามอย่างเก็บอารมณ์เธอพูดว่า “ในการไลฟ์สดครั้งนี้ มีบางฉากที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ฉันอยากให้คุณหยวนได้โปรดอธิบายให้ผู้ชมฟังในการไลฟ์สดครั้งต่อไปด้วย เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจลูกเทียนของเราผิด”ใจของฉันสงบลงและรอยยิ้มบนใบหน้าได้เปลี่ยนเป็นไม่เต็มใจเล็กน้อย “คุณนายเสวีย การไลฟ์สดของฉันเป็นการไลฟ์สดจับผีไม่ใช่การไลฟ์สดเกี่ยบกับความรู้สึก”คุณนายเสวียพูดอย่างสุภาพแต่ไม่ยอมปฏิเสธ “ฉันก็กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของคุณเหยาเหมือนกัน ถึงอย่างไรคุณก็เข้าใจสถานะของตระกูลเราในเมืองจินหลิงชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเกิดทำให้คนอื่นเข้าใจคุณเหยาผิดว่าประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”สีหน้าของฉันเย็นลงมา นี่เป็นการเปลี่ยนวิธีที่จะบอกว่าฉันกำลังประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลฉันยิ้มจาง ๆ “คุณนายเสวีย ไม่รู้ว่าคุณชายเสวียเคยบอกคุณไหมว่าฉันเป็นคนรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดี”คุณนายเสวียตะลึงไปคร
ยังไม่ถึงสองวัน ชาวเน็ตผู้หญิงที่ซื้อสบู่ทำมือเหล่านี้ไปก็มาโพสต์ที่หมวดยา พวกเธอพูดอย่างตื่นเต้นว่าสบู่ทำมือนี้ใช้ดีมาก ๆ พึ่งจะใช้ไปไม่กี่วันสภาพผิวก็ดีขึ้นมาก ริ้วรอยตรงขอบตาและมุมปากต่างก็ตื้นขึ้นเยอะด้วยมีหญิงสาวนักรบสายขาวคนหนึ่งบอกว่าบนใบหน้าของเธอมีสิวเยอะมาก เมื่อก่อนนี้เธอใช้เครื่องประทินผิวเยอะเยอะหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้ผล และนั่นทำให้เธอเป็นทุกข์มาก ๆ แต่หลังจากที่เธอได้ใช้สบู่ทำมือ สิวบนใบหน้าของเธอก็หายไป และไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นมาอีก เธอยังปล่อยภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังออกมาเป็นพิเศษอีกด้วยในไม่ช้า สบู่ทำมือนี้ก็ถูกอัปโหลดลงบนนักเล่นแร่แปรธาตุเน็ตเวิร์กทั้งหมด และนักเล่นแร่แปลธาตุผู้หญิงจำนวนมากต่างก็ฝากข้อความต้องการจะซื้อไว้ทางบริษัทเครื่องสำอางก็มีผลตอบรับกลับมาว่าได้กำหนดสูตรสบู่ทำมือแล้วสามชนิด ชนิดที่หนึ่งคือ กลิ่นหอมของหอมหมื่นลี้ที่ใช้สำหรับขาวใส ชนิดที่สองคือกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ที่ใช้สำหรับป้องกันสิว และอีกหนึ่งชนิดก็คือกลิ่นหอมของว่านหางจระเข้ที่ใช้สำหรับให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษผลลัพธ์ของทั้งสามชนิดต่างก็ดีมาก ๆ และทีมผู้บริหารของบริษัทก็พร้อมที่จะทำ
เมื่อมองดูรถของพวกเขาหายไป ฉันก็แอบถอนหายใจในใจ ถึงแม้ว่าคุณนายเสวียจะลืมช่วงความตายของคุณชายเสวียไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่เหมือนโดนกรวยแหลมคมแทงทะลุเข้าไปในใจก็ยังฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของเธอฉันยักไหล่ ถึงอย่างไรฉันก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันไม่สามารถขอให้ทุกคนมาชอบตัวเองได้หรอกร่างบางกลับมาถึงห้องก็นอนหลับอย่างสบายใจ จนเช้าวันรุ่งขึ้นก็โดนปลุกให้ตื่นโดยเสียงเคาะประตูอย่างแรงฉันหาวหวอดพลางเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก็เห็นถังหมิงหลียืนอยู่นอกประตู เขาถือกระเป๋าสัมภาระธรรมดาใบหนึ่ง เขาหน้าซีดเผือดมาก ราวกับว่าไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืนเพราะรีบกลับมาเมื่อเขาเห็นฉันก็รีบโผเข้ามากอดไว้แน่น ทำให้ใบหน้าของฉันฝังอยู่ที่คอของเขาอย่างแรงและเขาก็พูดขึ้นทันที “ก่อนหน้านี้ฉันอยู่บนเกาะหิมะตลอด ฉันไม่รู้เลยว่าเธอว่าได้เจอกับอันตรายแบบนั้น ไม่อย่างนั้นฉันต้องรีบกลับมาช่วยเธอโดยเร็วที่สุดแน่นอน”ฉันยิ้มออกมา “เป็นเพราะอย่างนี้เองเหรอ วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไร”เขาจับหน้าของฉันไว้แล้วก้มหน้าลงจูบอย่างเร็วฉันตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วรีบผลักเขาออก พลันพูดอย่างร้อนใจ “นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”“ใช่ ฉันบ้าไปแ
พลังที่เก้าเอ่ยแทรก “หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ที่จริงผีตัวนี้มีชีวิตและมีเนื้อหนัง แค่เนื้อหนังของมันก็คือทั้งหมดของโรงเรียนแห่งนี้เท่านั้นเอง”ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางยังกล่าวอีกว่า “ฉันไม่ได้เจอผีที่มีเลือดเนื้อในร่างกายมนุษย์แบบนี้มาหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังมีอยู่ในโลกมนุษย์”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถึงแม้ว่าในตอนนี้ในโลกมนุษย์จะขาดแคลนพลังปราณ แต่อารมณ์เจ็ดอายตนะหกของผู้คนก็ยังแข็งแกร่งมากขึ้น” พลังที่เก้าพูดขึ้น “ผีก็มากขึ้นเรื่อย ๆ”หัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ก้อนนั้นเริ่มเผาไหม้และควันหนาค่อย ๆ ลอยออกมา ผีใบหน้าสีดำตัวนั้นเผยหน้าตาที่แสนเจ็บปวดออกมา พลันกำแพงรอบ ๆ ก็เริ่มลุกไหม้ขึ้นมา เปลวไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วและพวกเราก็ได้วิ่งออกมาจากโรงเรียนแห่งนั้น อาคารร้างทั้งหลังล้วนจมลงไปในเปลวไฟ ริ้วลิ้นแห่งเปลวไฟยังกระโจมอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าฉันจะเห็นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปในอากาศด้วยแสงไฟ“อ๊าก!” ในที่สุดผีใบหน้าสีดำก็ปรากฏขึ้นมาในเปลวไฟ มันโดนไฟเผาจนเล็กลงเรื่อย ๆ และมองไม่เห็นอีกต่อไปฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกยาว ๆ ในที่สุดก็จบลงแล้ว จะไม่มีเกมส์แห่งความตายอีกต่อไปแล้ว และก
เมื่อมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เปื้อนเลือดของคุณชายเสวีย ในใจของฉันก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาเป็นพัก ๆ[เป็นไปไม่ได้มั้ง คุณเสวียตายแล้ว?][จะเป็นไปได้ยังไง ถึงแม้ว่าคุณเสวียจะมาเข้าร่วมไลฟ์สดแค่ชั่วคราว แต่จะตายง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร? เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้เชียวนะ][ใครบอกว่าจะไม่มีคนตาย? ทุกครั้งที่แอดมินไลฟ์สดล้วนอันตรายมาก แต่ก็ยังเอาชีวิตรอดจากภัยอันตรายมาได้หลายครั้ง เมื่อก่อนที่จอมเผด็จการไม่ตายก็แค่โชคดีมากเท่านั้นเอง พวกคุณคิดว่าพวกเขาจะมีรัศมีของตัวเอกจริง ๆ เหรอ?][แอดมิน ฉันคือคนใช้ของครอบครัวคุณเสวีย เมื่อสักครู่แม่ของเขาก็ดูไลฟ์สดอยู่ แต่ตอนนี้ได้เป็นลมหมดสติไปแล้ว คุณเตรียมใจรอรับความโกรธของตระกูลเสวียได้เลย][คนข้างบนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งชาวบ้าน ถ้าพวกคุณมีความสามารถก็ไปจัดการกับผีใบหน้าเองสิ จะระบายอารมณ์ใส่แอดมินทำไม?][แอดมิน...จะมีชีวิตกลับมาไหม?]ขณะนี้ในใจของฉันว่างเปล่า ฉันคุกเข่าลงบนพื้นและกอดหัวของเสวียห้าวเทียนไว้ ทั้งยังรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วร่างกายฉันและคุณชายเสวียไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่เขากับฉันได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาในเกมส์แห
เพี๊ยะ เพี๊ยะ! ไฟในเมรุเผาศพดังขึ้นและลัดวงจร กระแสไฟฟ้ารวมตัวกันในมือของฉันจนกลายเป็นก้อนใหญ่ [ว้าว ใช้กระแสไฟฟ้าหนึ่งแสนโวลต์ควบแน่นเป็นสายฟ้าก้อนกลม แอดมินเธอเก่งขั้นเทพเลยอ่ะ] [แรงดันไฟฟ้าสูงเท่าหนึ่งแสนโวลต์ที่ไหนกัน!] [ฉันพูดเกินจริงไม่ได้เหรอ? คุณจะยุ่งเกินไปแล้ว?] “คุณเสวีย หลบไปเร็วเข้า!” ฉันตะโกนเสียงดังแล้วโยนกระแสไฟฟ้าในมือออกไป ตูม! เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น กระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าใส่ร่างของผีกองกอย ร่างของมันเปล่งแสงสีม่วงออกมาและส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ป่า แต่สุดท้ายร่างกายก็ไหม้กลายเป็นศพไหม้เกรียม “เร็วเข้า เอามันเข้าไปในเตาเผาศพ!” ฉันและเสวียห้าวเทียนอดทนต่อกลิ่นเหม็นเน่าเพื่อยกผีกองกอยขึ้น แล้วรีบเข้าไปในห้อง พร้อมเปิดเตาเผาศพและโยนศพเข้าไป บึ้ม! ในเตาเผามีเปลวไฟลุกโชนออกมา ผีกองกอยดิ้นทุรนทุรายอย่างดุเดือด ฉันตะโกน “ปิดประตู!” ประตูเตาเผาได้ปิดลงเสียงดังปัง เสียงดิ้นรนดังออกมาจากด้านใน ศพถูกเผาเป็นเวลานานมากก่อนที่จะหยุดลง และท้ายที่สุดก็มีเศษกระดูกออกมาจากรูด้านหลัง กระดูกไม่ได้ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด แต่เผาแล้วกลายเป็นเศษเล็ก ๆ พวกมัน
[เพื่อเงินเพียงเล็กน้อย แต่เขากลับฆ่าพ่อของตัวเอง ช่างน่าเศร้าจริง ๆ] [มีลูกชายแบบนี้ มิน่าล่ะพ่อของเขาถึงได้โกรธทะยานขึ้นจนศพเปลี่ยนไป] [จะไปโทษใครได้? นอกจากตัวเขาเอง ใครบอกให้เขารักลูกชายมากเกินไปล่ะ? รู้จักแต่เลี้ยงแต่ไม่รู้จักอบรม นั่นเป็นความผิดขอพ่อแม่] ในห้องไลฟ์สดมีการโต้เถียงทุกแบบอย่าง ผีดิบฟางเหวินตัวนั้นกระโดดออกมาจากโลงศพ โลงศพเป็นโลงไม้เนื้อแข็งแบบดั้งเดิม และสูงพอ ๆ กับไหล่ของผู้ใหญ่ แต่มันสามารถมันกระโดดออกมาได้ในพริบตา ในตอนนั้นเอง ร่างกายของฟางเหวินก็เริ่มมีขนงอกออกมาอย่างรวดเร็ว เขามีขนปุกปุยราวกับลิงอุรังอุตังที่เป็นบรรพบุรุษ [ผีกองกอย! นี่มันผีกองกอยจริง ๆ!] [ผีกองกอยเป็นกระดูกเหล็กทองแดงในตํานาน! มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว กระโดดขึ้นอาคารบ้านเรือนไปบนต้นไม้ กระโดดโลดเต้นราวกับบิน ไม่กลัวไฟธรรมดา หรือแม้แต่แสงอาทิตย์] [ข้างบนมีความรู้เยอะจัง] [ไร้สาระ เว็บไป๋ตู้ก็เขียนเอาไว้แบบนั้น] ฉันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาถูกลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าตาย ลูกชายก็อกตัญญู และมักจะด่าทอเขา เขามีความคับข้องใจมาเป็นเวลานาน แถมลูกชายก็ไม่ได้จัดงานศพให้ หลังจ
ฉันถามถึงที่อยู่และเรียกแท็กซี่กับเสวียห้าวเทียน จนมาถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฝางเจีย เมืองนี้ค่อนข้างหดหู่กว่าเมืองชิงหยาง มีเพียงคนแก่ใกล้วาระสุดท้ายที่นั่งอาบแดดอยู่หน้าประตู เราสอบถามเกี่ยวกับโรงฌาปนกิจศพในเมืองฝางเจีย วันนี้ไม่มีการจัดงานศพ ภายในนั้นเงียบมาก และมีชายชราคนหนึ่งกําลังกวาดพื้น “ขอถามหน่อยค่ะ คุณคือผู้เฒ่าฟางใช่ไหมคะ?” ฉันก้าวไปข้างหน้าและถามเขาทันที เขามองฉันอย่างระมัดระวังพลางกล่าว “คุณมีธุระอะไร?” “เมื่อสองวันก่อน มีช่างขนศพพาศพหกศพมาค้างคืนที่นี่ใช่ไหมคะ?” ฉันถาม ความระแวดระวังในดวงตาของชายชรายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น “ผมจําไม่ได้แล้ว” พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป เสวียห้าวเทียนเดินไปข้างหน้าและจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้ “ผู้เฒ่าฟาง อย่าเพิ่งรีบไปสิ มาคุยกับพวกเราเถอะครับ” พร้อมกันนั้น เขาก็ยัดธนบัตรสีแดงสองใบใส่มือชายชราไปด้วย เขาลังเลเล็กน้อยและกำธนบัตรสีแดงไว้ ก่อนจะกล่าว “คุณต้องการถามอะไร?” เสวียห้าวเทียนยิ้มบาง “เราแค่อยากรู้ว่าในโลงศพทั้งหกศพนั้นบรรจุอะไรไว้” “แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? แน่นอนว่าต้องเป็นศพอยู่แล้ว” ตาแก่ฟางพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ฉันยิ่งงงเข้าไปใหญ่ การที่ภูตผีจากโรงเรียนมัธยมหวนซานนี้ รวบรวมเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นจริงไว้มากมายเพื่อทดสอบคนอื่น ที่แท้เพราะอะไรกันแน่นะ? เขาวางแผนอะไรอยู่นะ? จริงสิ! ความกลัวไงล่ะ! ความกลัวที่พวกเราประสบในมิติวิญญาณจะกลายเป็นแหล่งพลังงานของมัน ทําให้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมภูตผีถึงชอบทำให้คนกลัว หลังจากที่มนุษย์หวาดกลัวแล้ว พลังหยางจะถูกทําลาย ทำให้ถูกสิงได้ง่ายขึ้น แต่ภูตผีบางชนิดสามารถดูดซับความกลัวได้ เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น พอดึกขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีเสียงกรนดังมาจากห้องเวร ตอนแรกฉันว่าจะไปผนึกศพพวกนี้ก่อน แต่ตัวอักษรเลือดพูดถึงผีดิบที่ฆ่าศพฟื้นคืนชีพ ถ้าฉันฝืนเปลี่ยนเค้าโครงเรื่อง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้จะดีกว่า พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และเป็นตอนที่พลังหยินพลุ่งพล่านที่สุด พระจันทร์เสี้ยวสีแดงเลือดดวงนั้นสว่างจนแสบตาเป็นพิเศษ ฉันสอนวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เสวียห้าวเทียน โดยการปิดปากและจมูก เพื่อให้ผีดิบไม่ได้กลิ่นมนุษย์บนตัวเรา ทันใดนั้นกลิ่นอายวิญญาณก็พวยพุ่งออกมาจากในห้อง ศพทั้งหกพลันลืมตาขึ้นมาพร้อ