ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีกลิ่นความผิดหวังลอยเข้ามาในจมูกถ้า...ถ้าฉันไม่ได้หน้าตาน่าเกลียดขนาดนี้ ถ้าเขาไม่ได้ดีขนาดนั้น และถ้าพวกเรามาเจอกันในฐานะคนธรรมดามันคงจะดีกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ในโลกใบนี้ไม่มีเรื่องสมมุติมากมายขนาดนั้นหรอก ฉันกลับไปถึงห้องแล้วปิดประตูลง พลันเงยหน้าขึ้นเพื่อกั้นไม่ให้หยดน้ำตาไหลลงมาผ่านไปซักพัก ความเจ็บปวดในใจก็ค่อย ๆ จางลง มือเรียวเปิดคอมพิวเตอร์ดูรายรับของวันนี้ เมื่อเห็นตัวเลขทั้งหมดก็ทำให้ฉันแปลกใจมาก ผู้ชมประทับใจขั้นสุด มิหนำซ้ำรางวัลในครั้งนี้ยังทะลุหนึ่งแสนสองหมื่นกว่าหยวนแล้ว ในใจคิดว่าควรจะแบ่งให้ถังหมิงหลีบ้าง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ขาดเงิน แต่ถ้าไม่มีเขา การปราบผีครั้งนี้ก็คงไม่ราบรื่นนัก เป็นคนต้องรู้จักบุญคุณคนฉันเปิดแถบเพื่อนอีกครั้ง พลันเหลือบไปเห็นว่าราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางและนางฟ้าหยุนเซี๋ยต่างก็ฝากข้อความถึงฉัน นางฟ้าหยุนเซี๋ยกล่าวว่า คราวนี้ฉันช่วยผดุงความยุติธรรมและทำมันออกมาได้สวยงามมาก เธอจึงให้ใบสั่งยากับฉันอีกครั้งฉันรีบรับไฟล์มาด้วยความดีใจ พอเปิดออกมาก็พบว่ามันคือยารักษาโรค วัตถุดิบในครั้งนี้ค่อนข้างหายาก เช่น ในตัวยาจำเป็นต
เว้ยหลานเข้าไปในอ่างยา คราวนี้เขาแช่น้ำสี่ชั่วโมง คาดว่าอ่างยานี่สามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อได้ รวมทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อศิลปะการต่อสู้ เขาจึงต้องการดูดซับพลังยามากขึ้น ฉันชื่นชมเขามาก ๆ เขาเป็นคนที่มีความพากเพียรมาก ในอนาคตศิลปะการต่อสู้ของเขาจะไม่ตกต่ำอย่างแน่นอนหลังจากแช่ตัวในอ่างยาเสร็จแล้ว ครั้งนี้ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บภายในบริเวณเนื้อใต้สะดือล้วนหายเป็นปกติหมดแล้ว และความแข็งแกร่งของร่างกายก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฉันก็วางแผนจะขอตัวลา แต่จู่ ๆ เว้ยหลานก็บอกให้ฉันหยุดก่อน คราวนี้ปฏิกิริยาของเขาดีขึ้นมาก อาจเป็นเพราะเขากลัวอาจารย์ที่ฉันเคยแอบอ้างเมื่อครั้งก่อน“คุณหยวน เธอสนใจเข้าร่วมงานประเมินสมบัติประจำปีนี้ไหม?”“งานประเมินสมบัติเหรอ?” ฉันเบิกตากว้างเว้ยหลานกล่าว “ทุกปีในวงการไฮโซของเมืองซานเฉิงของพวกเรา จะมีงานประเมินสมบัติเพื่อให้ทุกคนนำสมบัติล้ำค่าของตัวเองออกมาให้คนอื่น ๆ ได้ลิ้มรสหรือสัมผัสมัน แถมยังมีการเลือกราชาแห่งขุมทรัพย์ด้วย” ฉันรู้สึกสนใจมาก ฉันก็ไม่ได้อยากพ่ายแพ้ต่อวงการไฮโซหรอกนะ และนี่เป็นการดีที่จะสามารถเห็นโลกที่แตกต
ฉันจะไม่เคืองเลยถ้าเธอไม่พูดแบบนี้ และพอเธอพูดจบ เว้ยน่าก็ตะโกนขึ้นมา “คนที่มาวันนี้ล้วนเป็นคนสำคัญ ครอบครัวของเราทำงานอย่างหนักกว่าจะมาถึงจุดนี้ และตระกูลของพวกเราก็ทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะจัดงานประเมินสมบัติให้ออกมาดีที่สุด ถ้าให้คนแบบนี้เข้ามาแล้วแขกท่านอื่นรู้เข้าจะว่ายังไง?”หล่อนก้าวขามาข้างหน้าหนึ่งก้าวและใช้นิ้วชี้กดลงที่จมูกของฉัน “พูดมา เธอเข้ามาได้ยังไง?"ทว่าขณะที่เว้ยน่ากำลังพูดก็มีผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้ามา ใจฉันสั่นมาก โจทย์เก่าทุกคนในวัยเด็กมารวมตัวกันครบหมดแล้ว ผู้ชายคนนี้ชื่อ เฉินตงหนาน เป็นเดือนโรงเรียนในตอนนั้นเขายื่นมือออกมาพลางกอดไหล่ของซือซิ่ว “ซิ่วซิ่ว น่าน่า ใครมันทำให้พวกเธอโกรธขนาดนี้เนี่ย?”ซื่อซิ่วอมยิ้ม “ตงหนาน นายดูสิว่าใครอยู่ที่นี่กับเราด้วย”เฉินตงหนานเหลือบมองมาที่ฉัน สีหน้าเขาประหลาดใจสุด ๆ “เธอ เธอคือหยวนล่ายจือในตอนนั้นเหรอ?” หยวนล่ายจือเป็นฉายาที่พวกเขาตั้งให้ฉัน คนพวกนี้นี่มัน ไม่ว่าจะตอนไหนก็ยังใจร้ายเหมือนเดิมซือซิ่วกล่าวอย่างร้ายกาจ “ในตอนนั้นเธอเขียนจดหมายรักถึงนายหนิ? พวกนายเจอกันทั้งที จะไม่พูดถึงอดีตหน่อยเหรอ?”เฉินตงหนานแ
เมื่อก่อนถ้าเจอเรื่องแบบนี้ ฉันก็ทำได้แค่อดทน แต่ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว ฉันมีเงินในมือบางส่วน มีศิลปะป้องกันตัวนิดหน่อย อีกทั้งยังจับผีไล่ผีได้ ถึงจะเป็นแค่มือใหม่ก็ถือว่าทำได้ดีมากกว่าคนทั่วไปแล้ว และยังมีคนคอยสนับสนุนฉันอยู่อีกมาก ในที่สุดก็หายใจออกได้อย่างไม่อึดอัดใจอีกต่อไป และถ้าอดทนบ่อย ๆ จะทำให้เกิดอาการป่วยได้ไม่นานเว้ยหลานก็หันมาพูดกับฉันเสียงนุ่ม “เด็กคนนี้ถูกพ่อแม่ของเธอเลี้ยงตามใจจนเสียนิสัย คุณหยวน ได้โปรดอภัยให้ฉันด้วย ฉันจะสอนเธออย่างดี” แล้วเขาก็เปลี่ยนเรื่อง “อาจารย์จุนไม่มาเหรอ?”ฉันยิ้มจาง ๆ แล้วพูดตอบ “ชายชราฝากบอกว่าเขาชอบอยู่คนเดียวจนชินแล้ว ไม่ชอบมาในที่ ๆ มีคนเยอะ เลยให้ฉันมาดูและกลับไปเล่าให้เขาฟังก็พอ”เขาก็ไม่เคยคิดว่าอาจารย์ของฉันจะมาจริง ๆ ดังนั้นจึงอย่างไม่ใส่ใจนัก “งั้นคุณหยวน มาสิ ฉันจะพาคุณไปดูรอบ ๆ” ร่างบางเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเขา พวกเราเดินไปที่โถงเก็บสมบัติ และทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองดูด้วยสีหน้าตกตะลึง“ผู้หญิงคนนั้นมีที่มาที่ไปยังไงเนี่ย?” มีใครบางคนกระซิบ “ไม่นึกเลยว่าจะสามารถพูดคุยและหัวเราะกับนายท่านตระกูลเว้ยได้ หล่อนน่าจะรู้หนิว
“คุณชายถังคือใครเหรอ?”“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ ลุงของเขาเป็นเสาหลักของตระกูลกัว แต่เสาหลักนี้ได้รับตำแหน่งที่สำคัญมาก”“ตระกูลกัว? ตระกูลที่กำลังมาแรงในช่วงนี้น่ะเหรอ? แถมยังตระกูลมีอิทธิพลเหนือกว่าตระกูลเว้ยนั่นอีกไม่ใช่หรือไง?”“ถูกต้อง ฉันได้ยินมาว่าตระกูลเว้ยได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากทางเมืองหลวง”“หืม ถ้าอย่างนั้นเขาก็เป็นแค่คนนอกที่ไม่คู่ควรกับตำแหน่ง "คุณชาย" งั้นสิ?”“แต่คุณชายถังคนนี้มีมารยาทกับตระกูลเว้ยมากเลยนะ หล่อนน่ะหัดสงบปากสงบคำบ้าง ถ้าล่วงเกินเขาก็เท่ากับว่าล่วงเกินตระกูลเว้ยด้วย”“จะกลัวอะไร? ก็แค่ภาระที่พึ่งพาแต่คนอื่น ช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้ก็เท่านั้นเอง”“พูดเบา ๆ หน่อยสิ”จุนเหยาแอบมองไปที่ถังหมิงหลี เห็นได้ชัดว่าเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ แต่มันไม่ได้ทำให้เขาเคลื่อนไหวอะไรเลยสักนิด ความมุ่งมั่นและอดทนของเขานี่ช่างน่าชื่นชมจริง ๆ แน่นอนว่าฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาเป็นภาระ เขามีความสามารถมากมาย เบื้องหลังของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่นอนแต่ทันใดนั้น ฉันก็เห็นใครบางคนเข้า เขาคือหยินเฉิงเหยา! ร่างบางรีบก้มหัวลงทันที เขายืนอยู่ข้างประตูทางเข้า เว้ยหลานจึงเดินไปหยุดอยู่
ในขณะนั้น คนขุดโสมก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว เพราะตระกูลเว้ยเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาและลากเขาออกไปฉันรีบดึงแขนเสื้อของถังหมิงหลีไว้พลันเอ่ย “นั่นเป็นของดีเลยนะ เราไปขอซื้อกันแบบเงียบ ๆ เถอะ”ถังหมิงหลีดูมีความสุขมากเมื่อได้ยินฉันพูดคำว่า “เรา” พวกเราสองคนแอบตามไปและเห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโยนคนขุดโสมออกไปนอกประตู พวกเขาหัวเราะพร้อมพูดจาดูถูก อีกทั้งยังโยนใบไม้ใบนั้นใส่หน้าเขาด้วย “เอาสมบัติอันล้ำค่าของแกคืนไป แล้วออกไปให้พ้น”สีหน้าของคนขุดโสมเต็มไปด้วยความอับอาย เขาเอาใบไม้ใส่ลงในกล่องอย่างระมัดระวัง ก่อนจะกัดฟันแล้วเดินกะเผลกออกไปฉันรีบวิ่งไปหยุดเขา อีกฝ่ายจ้องมาที่ฉันอย่างระแวดระวัง “พวกคุณต้องการอะไร?”ฉันยิ้มพลางถาม “คุณชื่ออะไรคะ?”“ห่ายเวย” เขาตอบ“คุณห่าย คนอื่นไม่รู้จักสมบัติอันล้ำค่าชิ้นนี้ของคุณ แต่ฉันรู้จัก ฉันอยากจะซื้อขอมัน คุณคิดว่ายังไงคะ?” ฉันพูดขึ้นห่ายเวยมองด้วยความสงสัย “คุณจะซื้อจริงเหรอ? ไม่ใช่มาหลอกฉันใช่ไหม?”“ฉันจะซื้อจริง ๆ ค่ะ” ฉันพูดอย่างจริงจังเขาจึงถามขึ้นว่า “คุณจะให้เท่าไหร่?”ฉันเลยตอบไปตามตรง “ตอนนี้ฉันไม่มีเงิน”เขาโ
“นี่คือเหยือกรับวิญญาณที่พ่อมดโบราณใช้เก็บผี” ฉันชี้ไปยังฝาหม้อและพูดว่า “เห็นลวดลายตราประทับนั่นไหม? ถ้ามีตราประทับนี้ แสดงว่ามีวิญญาณอยู่ด้านใน ห้ามเปิดเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะเกิดภัยพิบัติ” กรรมการทั้งสามมองหน้ากันและหัวเราะออกมาเสียงดัง“แม่สาวน้อย คุณดูหนังสยองขวัญมากเกินไปหรือเปล่า? ฉันเป็นนักประเมินสมบัติมาหลายสิบปี ไม่เคยเจอพวกภูต ผี ปีศาจเลย” หานหยุนยิ้มอย่างดูถูกอีกครั้ง เขาโบกมือไปมา “ไม่เป็นไร ถอยออกไปเถอะ อย่ามาขัดขวางพวกเราเลย”ฉันขมวดคิ้ว “คุณหาน เชื่อสิ ถ้าคุณเปิดฝาจะมีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้น ยังมีผู้คนมากมายที่อยู่ในงานอีกนะ นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องของคนหนึ่งคนหรือสองคนแล้ว”หวาโหย่วเหวยพูดอย่างดูถูก “แล้วคุณเรียนรู้มาจากใคร? สำเร็จการศึกษาระดับไหน? มีผลงานวิชาการอะไรบ้าง?”ฉันหน้าแดงเล็กน้อย “ไม่มี”ผู้ชมที่อยู่ข้าง ๆ เขาหัวเราะ “คุณไม่มีอะไรเลย ยังจะกล้ามาวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญอีกเหรอ? คุณเว้ย คุณปล่อยให้คนแบบนี้เข้ามาได้ยังไง?”สีหน้าของเว้ยหลานไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับแต่อย่างใด เขาไม่ได้เชื่อฉัน แต่เขาเชื่ออาจารย์ที่อยู่เบื้องหลัง
“อย่าเพิ่งบูชา” ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางกล่าว “ตอนนี้เธอยังไม่คู่ควรที่จะเป็นศิษย์ของฉัน และเธอก็ไม่ควรบูชาอาจารย์ง่าย ๆ แบบนี้ ฉันจะสังเกตดูอีกสักระยะ เมื่อฉันคิดว่าเธอมีคุณสมบัติมากพอแล้วค่อยคุยกันเรื่องการรับลูกศิษย์”ฉันรู้ว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นจึงรีบพูดขึ้นว่า “ค่ะ ท่านวางใจได้ ฉันจะพยายามเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากท่านค่ะ”“พอแล้ว พอแล้ว รีบลุกขึ้นเถอะ เดี๋ยวใครจะเห็นเข้า” เขาบอก“ค่ะ” ฉันยืนขึ้นด้วยความดีใจ และเขาก็พูดต่อ “มีคนอยู่ข้างหลังเธอ” ฉันตกใจและรีบหันหลังไปมองทันที ตรงนั้นมีผู้ชายร่างสูงคนหนึ่ง เขาคือหยินเฉิงเหยา! ฉันรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที เขาจ้องมาที่ฉันอย่างเย็นชา จ้องจนฉันรู้สึกชาที่หัวและจู่ ๆ เขาก็เดินเข้ามาก้าวหนึ่ง ทำเอาฉันตกใจและถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจอะไรบางอย่าง “ทวนที่แทงออกไปตรง ๆ นั้นหลบหลีกง่าย แต่ลูกศรที่ยิงมาจากที่ลับนั้นยากต่อการระวัง ระวังตัวด้วยล่ะ” พูดเสร็จเขาก็เดินจากไป ทำฉันยืนงงอยู่ตรงนั้นร่างบางเดินออกมาจากหลังเวที พลันเหลือบไปเห็นผู้ชายวัยกลางคนที่โดนผีสิงคนนั้นกำลังยืนขึ้นโดยมีภรรยาของเขาช่วยประคองอยู่ เข