แกร๊กลูกบิดประตูขยับ และประตุไม้ลายจุดก็ค่อย ๆ เปิดออกมีผีปรากฎตัวอยู่ที่ประตู เป็นตุ๊กตากระดาษที่ฉันเห็นในจดหมายเชิญก่อนหน้านี้ร่างกายของมันถูกคลุมด้วยผ้าสีดำทั้งตัว มีเพียงมือซีดขาวคู่หนึ่งที่ถือขวานเปื้อนเลือดเดินเข้ามาหาฉันทีละก้าวใจเย็น ๆ หยวนจุนเหยา เธอต้องใจเย็น ๆตอนแรกฉันอยู่บนรถไฟ แต่กลับมาโผล่อยู่ที่นี่ แถมยังถูกมัด ผีระดับไหนกันถึงได้มีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ไม่ใช่แล้ว!ฉันมองไปที่ประตูด้านหลังผีที่เปิดแง้มไว้ครึ่งหนึ่ง ด้านนอกมืดสนิทมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นและจู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าทุกสิ่งที่นี่ไม่มีจริง ฉันไม่ได้ถูกจับตัวไปไหนทั้งนั้น แต่มีพลังงานวิญญาณอยู่ในจดหมายเชิญ ผีเข้าครอบงำสมองของฉันและทำให้ฉันเห็นภาพลวงที่น่าสยดสยองฉันมองดูผีที่เข้าใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ และรอยยิ้มเย็น ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉัน“ฉันเป็นผู้บำเพ็ญจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ เล่นฉากนี้ต่อหน้าฉัน แกกำลังสอนจระเข้ว่ายน้ำอยู่นะ” หลังจากพูดจบ ฉันก็หลับตาลง และปล่อยจิตสำนึกแห่งสวรรค์ออกมา เพียงพริบตาทุกสิ่งรอบ ๆ ตัวฉันถูกชะล้างไปจนหมดในทันที ฉันยังคงยืนอยู่ในห้องน้ำและถือจดหมายเชิญอยู่ในมือ
จู่ ๆ เธอคนนี้ก็กลายเป็นศพศพผู้หญิงที่เน่าเปื่อยทำให้เห็นถึงพลังที่มีมากกว่าปกติควันสีดำจาง ๆ พุ่งออกมาจากปากของเธอ ฉันหยิบดาบไม้ท้อแล้วฟันเข้าไป เพื่อทำลายวิญญาณชั่วร้ายให้สิ้นซาก แล้วเอ่ย “แจ้งตำรวจ”รถไฟจอดอยู่ที่สถานีถัดไป จากนั้นตำรวจจึงนำศพออกไปชันสูตรเพียงไม่นานตัวตนของศพก็ถูกยืนยัน เธอเป็นพลเมืองธรรมดาในเมืองจินหลิงที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ เมื่อสองวันก่อนเพิ่งจะนำศพใส่โรง แต่ไม่คาดคิดว่าในคืนวันนั้นศพจะหายไป ทางครอบครัวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ แล้วเจ้าหน้าที่ดูแลศพบอกว่าเธอคนนี้เดินออกจากช่องแช่แข็งด้วยตนเองว่ากันว่าตำรวจที่ดูวิดีโอนั้นหวาดกลัวและยังคงนอนฉีดยาเข้าเส้นเลือดอยู่ที่โรงพยาบาลฉันบอกให้ตำรวจส่งศพกลับไปทำพิธีเผา แล้วแจ้งกับคนทางครอบครัวว่าศพถูกขโมย เพราะถ้าหากผู้คนรู้ว่าศพนั้นเดินไปไหนมาไหนเองได้ ก็จะยิ่งทำให้ผู้คนแตกตื่นฉันกังวลเล็กน้อย คราวนี้ไม่ใช่ผีธรรมดาแน่นอน ความแข็งแกร่งของมันมีมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเมื่อมาถึงเมืองจินหลิง ฉันก็มาพักอาศัยอยู่ในโรงแรมที่ถูกจัดไว้โดยเสวียห้าวเทียน ห้องเพรสซิเดนเชียลได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา และตั้งอยู่บนต
พวกเราตรวจสอบทุกห้องของโรงเรียนแล้วแต่ไม่พบอะไรเลย แค่เพียงพริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว เราสองคนไปกินข้าวที่ร้านอาหารไม่ไกลจากโรงเรียน เจ้าของร้านเป็นผู้ชายร่างอ้วนท้วม แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยเนื้อ แต่ว่าสีหน้าของเขาก็มักจะมีรอยยิ้มและน้ำเสียงที่ฟังแล้วชื่นใจเราสั่งซาลาเปานึ่งสองที่และเครื่องเคียงอีกสองจาน จากนั้นเถ้าแก่เจ้าของร้านก็พูดเสียงดัง “ทั้งสองท่านโปรดรอสักครู่ ไม่นานอาหารก็มาแล้ว”เขาพูดแล้วหันไปเสิร์ฟซาลาเปาแสนอร่อยทีมีกลิ่นหอมโชยออกมา เมื่อเขาเปิดหม้อนึ่งออก ความร้อนเป็นลูก ๆ ก็โพยพุ่งออกมา“ผู้เฒ่าเฉิน ทำไมวันนี้ไม่เห็นเมียและลูกเลย” คนทำความสะอาดถนนถามด้วยรอยยิ้มขณะที่กำลังทำความสะอาดใบไม้ที่ร่วงหล่นผู้เฒ่าเฉินกระตุกมุมปากของเขา แล้วเค้นยิ้มออกมา “ทั้งคู่พากันกลับไปบ้านแม่ของเธอน่ะ”“กลับไปบ้านแม่ของเธออีกแล้ว” คนทำความสะอาดหัวเราะ “ฉันเห็นว่าคุณคุ้นเคยกับบ้านแม่ของพวกเธอ ถ้าเป็นเมียของฉัน กลับบ้านบ่อย ๆ แบบนี้ ฉันคงได้แอบเอ็ดเมียตัวเองบ้างล่ะ”ผู้เฒ่าเฉินหัวเราะสองครั้งแล้วไม่พูดอะไรอีก จากนั้นก็นำซาลาเปามาวางให้พวกเราแม้ว่าเสวียห้าวเทียนจะมาจากครอ
เสวียห้าวเทียนหยิบโทรศัพท์ออกมาและตั้งใจจะโทรแจ้งตํารวจ แต่เขากลับพูดแปลก ๆ ว่า “ไม่มีสัญญาณเหรอ? คงจะไม่มีตัวบล็อกสัญญาณอยู่ในห้องนี้หรอกนะ?”ฉันถอนหายใจ จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่น่ากลัวมาก “นายน้อยเสวีย” ใบหน้าของฉันซีดเล็กน้อย “เราอาจจะโดนโจมตีแล้ว” เสวียห้าวเทียนตกตะลึงไปชั่วขณะ ราวกับว่าเขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ทันใดนั้นเองฉากโดยรอบก็เปลี่ยนไป ผนังเริ่มมีรอยด่างพร้อย เฟอร์นิเจอร์และอาหารหายไป เหลือเพียงซากปรักหักพังบนพื้นเท่านั้น ที่นี่คือห้องเรียน! เรากลับไปที่โรงเรียนมัธยมหวนซานอีกครั้ง! ฉันกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง “มันคือมิติวิญญาณ! ครั้งแรกที่พวกเราเดินเข้าไปในโรงเรียนมัธยมหวนซาน เราก็ติดอยู่ที่นี่ ทุกอย่างก่อนหน้านี้ล้วนเป็นกลลวงของวิญญาณทั้งหมด เรายังไม่ได้ออกจากโรงเรียนตั้งแต่แรก!” สีหน้าของเสวียห้าวเทียนเปลี่ยนไป “ดูสิ” ทันใดนั้นมือเรียวชี้ไปที่กระดานดําและตะโกนเสียงดัง จู่ ๆ บนกระดานดํานั่นก็มีคราบเลือดสีแดงก่ำปรากฏขึ้น เลือดเหล่านั้นประกอบกันเป็นข้อความ “ท่านทั้งสอง ยินดีต้อนรับพวกคุณ และขอแสดงความยินดีกับคุณที่ผ่านด่านแรกไปได้
ฉันพูดต่อว่า “ความจริงแจ่มแจ้งมาก หลังจากที่นายท่านของบ้านหลังนี้เห็นรายงานภาพอัลตราซาวนด์ จึงคิดว่าภรรยาตั้งครรภ์สัตว์ประหลาด ด้วยเหตุนี้จึงฆ่าภรรยา จากนั้นก็ฆ่าตัวตายตาม” เสวียห้าวเทียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หากทารกในครรภ์พิการก็กำจัดออกได้ ทําไมจะต้องเลือกทางตันแบบนั้นด้วย?” “เพราะนี่ไม่ใช่ทารกพิการในครรภ์ธรรมดาทั่วไปไง” ฉันขมวดคิ้ว “ไปกันเถอะ ไปดูศพนายหญิงนั่นกันดีกว่า!” พวกเรารีบเดินไปที่ห้องนอนชั้นสองและเปิดผ้าห่มออก แต่กลับพบว่าท้องของนายหญิงถูกฉีกออกและทารกในครรภ์ก็หายไปแล้ว ฉันตรวจสอบบาดแผลอย่างระมัดระวัง พลางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “มันถูกฉีกขาดจากข้างใน” [เลือดสาดมาก] [คนข้างบน อย่าโอเวอร์ได้ไหม? พวกนี้เป็นแค่กุมารเวชเท่านั้น] [แอดมิน เร็วเข้า ดูตู้เสื้อผ้าด้านหลังเธอสิ!] [อ๊าย อ๊าย อ๊าย อ๊าย ฉันตกใจแทบตายเลย] ฉันรู้สึกเหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง พลันหันศีรษะไปมอง จึงเห็นปากส่วนหนึ่งขนาดเล็กและเขี้ยวถี่ยิบอยู่ในซอกเล็ก ๆ ที่ด้านบนตู้เสื้อผ้า“ก๊าก!” เสียงกรีดร้องแสบแก้วหูดังขึ้น เสวียห้าวเทียนตะโกน “แอดมิน ระวัง!” ทันทีที่ฉันเขยิบออกมา ทารกปร
เรามาถึงห้องเรียนอีกห้อง ทันใดนั้นแสงและเงาก็เปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตา เราพบว่าตัวเองอยู่บนรถไฟที่เต็มไปด้วยผู้โดยสาร ตัวอักษรเลือดปรากฏขึ้นบนผนังรถอีกครั้ง และมีปีศาจปรากฏขึ้นบนรถด้วย คำสั่งคือจงค้นหาปีศาจให้ครบแล้วกําจัดพวกมันทั้งหมดซะ น่าแปลกที่ผู้โดยสารบนรถดูเหมือนจะไม่เห็นตัวอักษรเลือดเหล่านี้ พวกเขาล้วนทําธุระของตัวเอง “แยกกันเหมือนเดิมนะ” ฉันพูดกับเสวียห้าวเทียน “ฉันจะเริ่มจากท้ายรถ คุณเริ่มจากหัวรถนะ” เขาพยักหน้าแล้วเราก็แยกย้ายกันไปเริ่มค้นหาทีละโบกี้ ฉันเพิ่งมาถึงโบกี้ที่สิบหก พลางเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกําลังดึงพนักงานการรถไฟและตะโกนเสียงดัง “ช่วยเปิดประตูห้องน้ำให้ฉันทีค่ะ” หญิงวัยกลางคนรูปร่างอ้วนในชุดสีแดงตะโกน “ลูกสาวของฉันเข้าไปเกือบชั่วโมงแล้ว เคาะประตูก็ไม่มีใครตอบกลับเลย เธอคงเป็นลมแน่ ๆ” “คุณผู้หญิง คุณไม่ต้องกังวลนะคะ” พนักงานการรถไฟปลอบใจ และเรียกตํารวจรถไฟให้เอากุญแจมา เมื่อประตูห้องน้ำเปิดออก เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งยืนอยู่ในนั้นพลันจ้องมองทุกคนอย่างเกรี้ยวกราด หญิงวัยกลางกล่าวอย่างโกรธเคือง “เจ้าเด็กคนนี้นี่ ทําไมถึงขังตัวเองไว้ในนั้นล่ะ? รู้
[คนข้างบนช่างไร้ความรู้จริง ๆ เคยได้ยินเรื่องสาวคอยาวบ้างไหม? วิชาลดศีรษะชนิดหนึ่งของหนานหยางอ่ะ] [เธอเคยเห็นสาวคอยาวเป็นกาฝากในท้องของมนุษย์ไหม?] [หรือว่าสาวคอยาวจะกลายพันธุ์ล่ะ?] [นี่คือ หนอนนรก พวกเธอคิดว่านี่มันเป็นหัวมนุษย์จริง ๆ เหรอ? มันคือหนอนชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในยมโลก มันมีรูปร่างเหมือนศีรษะของมนุษย์และกินคนโดยเฉพาะ] [คนข้างบนรู้ลึกรู้จริง ได้โปรดรับการคารวะของฉัน] ฉันมองปุ๊บก็รู้เลยว่ามันเป็นหนอนนรก พวกมันใช้หัวในการเดิน หลังจากเจาะท้องของหญิงสาวออกมาแล้ว หญิงวัยกลางคนก็ล้มลง กลายเป็นเปลือกว่างเปล่า ทันใดนั้นขนของหนอนนรกก็แผ่ออก พลันปีนขึ้นไปบนที่นั่งและเริ่มคลานอย่างรวดเร็ว “เจ้าเดรัจฉาน!” จุนเหยาตะโกนด้วยความโกรธ “ตายซะ!” พูดจบเธอก็กวัดแกว่งดาบไม้ท้อในมือ จนไฟลุกโชนออกมาจากดาบพุ่งเข้าใส่หนอนนรกทันที ทว่าหนอนนรกนั้นรวดเร็วมาก เปลวไฟจึงปะทะกับเก้าอี้และถูกเผาจนเป็นรูใหญ่ ฉันดับไฟทันทีแล้วขว้างลูกไฟใส่หนอนนรกอย่างต่อเนื่อง หนอนนรกหลบไปทีละครั้งทีละครั้ง ใบหน้าของมันปรากฏรอยยิ้มสะใจและดูถูกเหยียดหยาม มันพลิกตัวผ่านที่นั่ง พลันอ้าปากและกรีดร้อง
เขาพลิกตัวขึ้นสู่กลางอากาศ ลมกระโชกแรงพุ่งผ่านบริเวณที่เขายืนอยู่ พลันมีคนลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำพอดี แต่กลับถูกลมนี้ฟาดจนขาดเป็นสองท่อน “กร๊าซ!” เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองดังขึ้นท่ามกลางโบกี้ที่เงียบสงัด ผู้คนต่างพากันวิ่งหนีอย่างตื่นตระหนก คิ้วคมเข้มของเขาขมวดเข้าหากันพลางมองไปรอบ ๆ เพื่อค้นหาคนที่ลอบโจมตีเขาท่ามกลางฝูงชน ทันใดนั้น สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่คนคนหนึ่ง ชายหัวล้านรูปร่างผอมบาง มุมปากมีรอยยิ้มชั่วร้าย กำลังปะปนอยู่ในฝูงชนพลางคิดจะหลบหนี สีหน้าของเขาเย็นชา พลันตัดสินใจหยิบลูกดอกขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือออกมาจากแขนเสื้อ แล้วยกมือขึ้นปามันออกไป ลูกดอกบินผ่านฝูงชนที่กำลังพลุกพล่านและปักลงบนหน้าผากของชายผู้นั้นอย่างแม่นยํา ร่างกายของชายผู้นั้นหยุดชะงัก ตาค้าง และล้มลงไปกองกับพื้นในที่สุด เสวียห้าวเทียนกําลังจะเข้าไปตรวจสอบชายคนนี้ แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่ร้ายแรงกว่า ผู้โดยสารที่เดิมทีกําลังจะวิ่งออกไปข้างนอกพลันหยุดเดิน และค่อย ๆ หันกลับมาด้วยแววตาที่เย็นชาและจ้องเขม็งไปที่เขา เขาตกใจ คนพวกนี้ถูกปีศาจควบคุมกันหมดแล้วเหรอ? “ฮิ ฮิ ฮิ” เสียงหัวเราะ