อลิซาเบธเติบโตขึ้นในครอบครัวชนชั้นสูงของอังกฤษ แต่ครอบครัวของเธอตกต่ำลง และเพื่อไม่อยากใช้ชีวิตแบบสามัญชน เธอจึงแต่งงานกับสามีที่กำลังทำธุรกิจในอังกฤษ แล้วกลับมาใช้ชีวิตกับเขาที่อเมริกาสมิธ สามีของเธอตั้งใจสร้างบ้านสไตล์อังกฤษเพื่อให้เธออาศัยอยู่โดยเฉพาะ แต่อลิซาเบธไม่ได้รักสามีของเธอ และสมิธก็มักจะไม่จากบ้านไปทำงานเป็นเวลานาน เพราะเหตุนี้เธอจึงตกอยู่ในความเหงาและหนาวเปล่าเปลี่ยว พลันหลวมตัวเข้าไปในเงื้อมมือของปีศาจทุกคืนเธอจะฝันว่าชายหนุ่มรูปงามมาพบกับตัวเอง ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ตั้งครรภ์ แต่สามีของเธอได้ออกไปทำงานต่างที่เป็นเวลาครึ่งปีแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะท้องเช่นนี้แต่เพื่อที่จะไม่ให้ข่าวรั่วไหลออกไป เธอจึงพาสาวใช้สองคนขึ้นไปอยู่บนห้องใต้หลังคา กระทั่งตั้งครรภ์ครบเก้าเดือนและคลอดเด็กออกมาเธอบอกในไดอารี่ว่าเด็กคนนี้คือปีศาจ แต่สำหรับเธอแล้วคือนางฟ้า เธอโกหกว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของสาวใช้ แล้วเธอก็แอบเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้ข้างกาย แต่ในโลกใบนี้ไม่มีความลับ เพราะเมื่อเด็กอายุได้เจ็ดขวบ ก็มีคนบอกสมิธว่าเด็กชายคนนี้เป็นลูกนอกสมรสของอลิซาเบธสมิธโกรธมากพร้อมเดินถือตะเกียงน้ำมันข
“สไตล์การชอบใครสักคนหนึ่งของคุณแปลกมากจริง ๆ” จุนเหยาเอ่ยพลางเอาดาบออกมาจากด้านหลัง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็มาสู้กันเถอะ”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า สู้กันเหรอ?” เลสหัวเราะ “ธงที่เธอปักไว้ข้างนอกนั่นใช้ไม่ได้แล้วใช่ไหม?”“ใช่” ฉันตอบ “พลังของค่ายปราบผีพลังเก้าหยางถูกใช้ไปเต็มที่แล้ว”“งั้นเธอจะใช้อะไรมาสู้กับฉัน?” เขาดูเหมือนจะมั่นใจว่าตัวเองจะชนะเหลือเกิน“ฉันจะใช้พลังทั้งหมดในชีวิตสู้กับคุณ” มือเรียวถอดหมวก หน้ากาก และเข็มกลัดออก แล้ววางลงพื้น[อา อา อา ในที่สุดเราก็ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของแอดมินแล้ว!][พระเจ้า สวยมาก ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาก่อน!][ทั้งสวยทั้งเท่! แอดมิน ผมอยากจะมีลูกกับคุณสักร้อยคน][สวย สวย สวยมาก สวยมาก ๆ เลย!]ฉันยกดาบขึ้นและชี้ปลายดาบขึ้นเพื่อรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ส่วนปลาย ทำให้ร่างกายของฉันกลายเป็นลำแสงและพุ่งเข้าไปหาเขาและแล้วในห้องไลฟ์สดก็เกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง[ฉันทนไม่ไหวแล้ว! ฉันจะไปลอสแองเจลิสตอนนี้ ฉันจะไปช่วยแอดมิน!][หยุดตลกได้แล้ว กว่าคุณจะบินไปถึงคงทำได้แค่เก็บศพให้แอดมิน][ต่อให้ช่วยแอดมินไม่ได้ ฉันก็อยากไปแก้แค้นให้เธอ!]มีรอย
เขาพูดมีเหตุผลมาก ฉันถึงกับไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว[เอ๊ะ นี่ใช่คนที่โรงแรมผีสิงคนนั้นหรือเปล่า?][รู้สึกว่าจะนามสกุลหยินใช่ไหม? เป็นคนที่หล่อมากคนหนึ่งเลยนะ][คิดไม่ถึงว่าเขาจะกลับมา แล้วเขาจะอยู่กับแอดมินถาวรไหม?]ฉันปิดห้องไลฟ์สดและทำท่าจะเดินออกไป แต่ฝีเท้าของฉันกลับอ่อนแรงจนเกือบจะล้มลงเขาเอื้อมมือออกมาพยุงฉัน แต่โดนฉันผลักออกไป ร่างบางยันผนังไว้แล้วเดินออกไปทีละก้าว ก่อนจะเห็นป้ากุ้ยและครอบครัวนอนอยู่บนพื้น ฉันจับชีพจรของพวกเขาดู โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่แค่เป็นลมไปเท่านั้นหยินเฉิงเหยาตามหลังฉันมา เขามองฉันอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร“ทำไมนายถึงมาอเมริกาล่ะ?” ฉันถาม “ไม่ใช่ว่าสะกดรอยตามฉันมาจริง ๆ ใช่ไหม?”“ถ้าฉันบอกว่าฉันมาอเมริกาเพื่อหาพืชพลังงานจิตชนิดหนึ่ง เธอจะเชื่อไหม?” หยินเฉิงเหยาพูดฉันมองดูเขาอย่างเย็นชาและเขาก็พูดต่อว่า “หญ้าเฮยมี๋ มีคนบอกว่าเคยเห็นมันแถว ๆ นี้ ฉันต้องการมันเพื่อช่วยให้ฉันก้าวหน้าขึ้น”หญ้าเฮยมี๋เป็นหญ้าแห่งจิตวิญญาณชนิดหนึ่งที่เติบโตในที่ที่มีพลังงานมืดสูงที่แท้เขาก็ไม่ได้สะกดรอยตามฉันมามันคือพรหมลิขิตอันชั่วร้ายที่แท้จริง“เธอเกลียดฉัน
“เธออยู่ในนี้ก่อน ฉันจะไปดูที่ชายฝั่งว่ามีของอะไรสามารถเอามาใช้ได้บ้าง” หลังจากที่เขาออกไป ฉันก็ตรวจดูสิ่งของบนร่างกาย ยังดีที่มีดาบไม้ท้อและกริชสั้นไม้ท้อติดตัวมาด้วย ส่วนในกระเป๋าเป้ก็มียาอยู่ไม่น้อย มันน่าจะช่วยประคับประคองร่างกายไปได้สักพักทุกครั้งที่ฉันเจอหยินเฉิงเหยาล้วนเจอแต่เรื่องไม่ดีผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง หยินเฉิงเหยาก็ได้พกกล่องขนาดใหญ่กลับมาด้วย กล่องนี้น่าจะเป็นของผู้โดยสารคนใดคนหนึ่ง เจ้าของของมันได้กลายเป็นเมฆฝุ่นอยู่ในทะเลที่กว้างใหญ่ไปแล้วหยินเฉิงเหยาหยิบผ้าห่มส่งมาให้ฉัน และฉันก็ห่มมันอย่างหนาแน่น เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า “เสื้อผ้าที่เปียกต้องถอดออกมาตากให้แห้ง จะได้ไม่เป็นปอดบวม”พูดแล้วเขาก็ถอดเสื้อคลุ่มที่เปียกออก เผยให้เห็นผิวสีน้ำตาลอ่อนที่แข็งแรงฉันหันหน้าไปอีกด้านทันที “ฉันไม่เป็นไร”หลังจากที่ฉันเลื่อนขั้นเป็นระดับสองแล้ว ร่างกายก็ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงเพื่อไม่ให้เจ็บป่วยง่าย ๆ ด้วยภายในถ้ำภูเขา อีกทั้งเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผา พวกเราทั้งคู่ต่างไม่พูดกันสักคำ ทำให้บรรยากาศดูอึดอัดและแปลกประหลาดฉันเหนื่อยมากจึงนอนอยู่ข้างกองไฟและหลับไปไม่รู้ว่
ข้างนอกเต็มไปด้วยหิมะ หลังจากกินกระต่ายและยาอายุวัฒนะแล้ว ปราณแห่งจิตวิญญาณในร่างกายของฉันก็ฟื้นฟูขึ้นมาป้องกันความหนาวเย็นได้พอดีฉันเดินผ่านหิมะหนาบางเป็นเวลานาน และในที่สุดก็พบถ้ำที่สะอาดแห่งหนึ่ง ฉันเดินเข้าไปด้านใน ถ้ำแห่งนี้ลึกมาก แต่ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะเข้าไปสำรวจภายในถ้ำ ดังนั้นฉันจึงจุดไฟที่ทางเข้าถ้ำและถือมันไว้จนกว่าทีมกู้ภัยจะมาถึงไม่นานนัก ฉันก็ได้ยินเสียงออกมาจากภายในถ้ำ และชักดาบไม้ท้ออกมาในทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดระแวงเสียงนั้นใกล้เข้ามาทุกที มันคือหนู เป็นหนูที่ตัวใหญ่เท่ากระต่าย ดวงตาทั้งสองเป็นสีแดงก่ำ มันอ้าปากที่เต็มไปด้วยฟันแหลมคมและเปล่งเสียงคำรามออกมามันใช้ขาหลังกระโดดมาข้างหน้าฉัน ฉันจึงแผ่ปราณแห่งจิตวิญญาณเข้าไปในดาบไม้ท้อ แล้วใช้ดาบตัดหัวของมันออกเสียงฝีเท้ากร็อบแกรบ ๆ ดังมาจากส่วนลึกของถ้ำอีกครั้ง ทำให้หนังศรีษะของฉันตึงขึ้นราวตื่นตัวในความมืด หัวของหนูยักษ์ถูกเปิดออก ตามมาด้วยตัวที่สอง สาม และอีกนับไม่ถ้วน ดวงตาของพวกมันเป็นสีแดงวาบและมองมาที่ฉันด้วยความโกรธแค้นใบหน้าของฉันซีดขาว และก้าวถอยหลังสองก้าวอย่างระมัดระวัง ทว่าจู่ ๆ ก็มีมือข้างหน
มันคือน้ำพุร้อน! มีบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่อยู่ลึกเข้าไปในถ้ำแห่งนี้!พอเห็นน้ำแร่ร้อนวูบวาบ หัวใจก็คันยุบยิบนิดหน่อย หลายวันมานี้ไม่ได้อาบน้ำ ร่างกายเหนียวเหนอะจนได้กลิ่นเหงื่อเหม็น ๆ ออกมาจากทั่วร่างกายหยินเฉิงเหยารู้ว่าฉันกำลังคิดอะไร ก็เลยพูดว่า “พวกเราไปอาบน้ำกันสักหน่อยเถอะ”สีหน้าของฉันเปลี่ยนไปทันที เขาจึงพูดขยายความอีกครั้ง “เธอไปอาบตรงซอกหินนั้น ฉันจะอยู่ข้างนอก ถ้ามีอะไรให้เรียกฉัน”ฉันพยักหน้าตอบ ก่อนจะตรงไปที่หลังหินแล้วลงไปในน้ำฉันลองเงี่ยหูฟัง ทางนั้นก็เหมือนจะอยู่ในน้ำด้วย “ทางนั้นปลอดภัยไหม?” หยินเฉิงเหยาถามจากด้านนอก“ปลอดภัย” ฉันพยักหน้า จากนั้นเราทั้งคู่ก็เงียบไปไม่รู้ว่านานแค่ไหน ฉันค่อย ๆ ปล่อยตัวลึกลงไปในน้ำ พลางปล่อยจิตสำนึกแห่งสวรรค์ออกมาปราณจิตวิญญาณมากมายนั้นมากจากใต้น้ำอุ่นมีบางสิ่งที่อ่อนนุ่มเคลื่อนมายังข้อเท้าของฉัน และฉันก็กวาดเท้าสัมผัสมันด้วยความรู้สึกทางจิตวิญญาณ ในใจตื่นตระหนกเล็กน้อยมันคือ...ปลาเหรอ?ฉันเกือบหลุดกรีดร้อง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอยู่ใต้น้ำ ฉันก็เอามือปิดจมูกและปากทันทีนี่คือปลาแก้วหลากสี!ปลาแก้วหลากสีเป็นปลาวิญญาณโบราณ
ฉันวิ่งไปได้แค่สองก้าว ก็ได้ยินเสียงอู้อี้ของหยินเฉิงเหยาดังขึ้นเขาได้รับบาดเจ็บเหรอ?เพื่อช่วยฉันไว้ ก็เลยถูกงูขาวตัวนั้นทำร้ายสินะ แต่ฉันกลับวิ่งหนีไปคนเดียว นี่มันไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยเหรอ?แต่เขาเป็นศัตรูของฉัน เขาเป็นคนที่ทำให้น้องชายของฉันนอนเป็นผัก เขาควรจะชดใช้ด้วยชีวิต ฉันควรจะฆ่าเขาเสียฉันกัดฟันและเดินหน้าต่อไป แต่ฉันก็ไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ให้ตายเถอะ หยวนจุนเหยา เธอไม่ควรเสียดายนะในตอนนี้ หยินเฉิงเหยาขึ้นขี่อยู่บนหัวของงูขาว ร่างกายของเขาอาบไปด้วยเลือด ฉันรีบหยิบดาบไม้ท้อขี้ไปที่เท้าแล้วแทงไปที่งูขาวตีงูต้องตีให้ได้ที่ความยาวเจ็ดนิ้วฉันกะความยาวประมาณเจ็ดนิ้วของงูยักษ์ แล้วแผ่ปราณทั้งหมดลงในปลายดาบ เสียงดังฟึ่บ เจาะทะลุผิวหนังของงูทว่าคิดไม่ถึงว่าผิวหนังของงูจะแข็งขนาดนี้ ดาบของฉันแทงเข้าไปได้แค่หนึ่งนิ้วเท่านั้นแต่ถึงอย่างไรมันก็ได้รับบาดเจ็บ งูยักษ์ดิ้นด้วยความเจ็บปวดอยู่ในน้ำ ฉันถูกตวัดลงน้ำ และกระแทกลงไปที่หินจนรู้สึกเจ็บปวดที่หลังหยินเฉิงเหยาคว้าเกล็ดของมัน พลางเลื่อนตัวลงมาจากหัว จนมาถึงบริเวณที่ความยาวเจ็ดนิ้ว เขาก็ชกเข้าไปที่บาดแผลหมัดนี้
ในใจของฉันเต็มไปด้วยความสุข หลังจากที่การฟื้นฟูคงที่แล้ว ฉันก็ลืมตาขึ้นและพบว่าหยินเฉิงเหยากำลังตัดหัวงูขาวออก พลางขุดเอาน้ำดีออกจากตัวงูเขาส่งน้ำดีงูให้ฉันและพูดว่า “ที่ฉันสามารถฆ่างูตัวนี้ได้ก็เป็นเพราะดาบของเธอ ดีงูล้ำค่านี้เธอรับไว้เถอะ”ฉันหยิบถุงน้ำดีของงูขึ้นมาดู พร้อมตกใจมาก นี่คือถุงน้ำดีในตำนาน งูขาวตัวนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่มีดีงูสีขาวจริง ๆ ครั้งนี้ฉันต้องทำเงินได้มากมายแน่ ๆ น้ำดีของงูขาวยังเป็นวัตถุดิบหลักในการกลั่นยาอายุวัฒนะ คราวนี้ฉันจะมียาอายุวัฒนะวางจำหน่ายมากกว่าเดิมแล้วฉันเก็บส่วนที่ล้ำค่าของมันไว้ในกล่องหยก แต่กลับได้ยินหยินเฉิงเหยาเอ่ยแทรก “ส่วนที่เหลือเป็นของฉัน”ฉันสาปแช่งเขาเงียบ ๆ ไอ้คนขี้งก!เขาลอกหนังงูและหั่นเนื้อออกเป็นชิ้น ๆ อย่างชำนาญ เรากินเนื้องูดิบกันอยู่สองสามวัน หลังจากนั้น ปราณจิตวิญญาณของฉันก็ฟื้นฟู ฉันจึงใช้พลังจิตก่อไฟ ในที่สุดเราก็ได้กินอาหารที่ปรุงสุกเสียทีเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ แผนกพิเศษก็บอกข่าวคราวกับฉันในห้องไลฟ์สดว่าในที่สุดพวกเขาก็พบเกาะหิมะและกำลังจะมาถึงเมื่อถังหมิงหลีได้ยินว่าฉันติดอยู่กับหยินเฉิงเหยา เขาจึงรีบมาหาฉันด้ว