ในใจของฉันเต็มไปด้วยความสุข หลังจากที่การฟื้นฟูคงที่แล้ว ฉันก็ลืมตาขึ้นและพบว่าหยินเฉิงเหยากำลังตัดหัวงูขาวออก พลางขุดเอาน้ำดีออกจากตัวงูเขาส่งน้ำดีงูให้ฉันและพูดว่า “ที่ฉันสามารถฆ่างูตัวนี้ได้ก็เป็นเพราะดาบของเธอ ดีงูล้ำค่านี้เธอรับไว้เถอะ”ฉันหยิบถุงน้ำดีของงูขึ้นมาดู พร้อมตกใจมาก นี่คือถุงน้ำดีในตำนาน งูขาวตัวนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่มีดีงูสีขาวจริง ๆ ครั้งนี้ฉันต้องทำเงินได้มากมายแน่ ๆ น้ำดีของงูขาวยังเป็นวัตถุดิบหลักในการกลั่นยาอายุวัฒนะ คราวนี้ฉันจะมียาอายุวัฒนะวางจำหน่ายมากกว่าเดิมแล้วฉันเก็บส่วนที่ล้ำค่าของมันไว้ในกล่องหยก แต่กลับได้ยินหยินเฉิงเหยาเอ่ยแทรก “ส่วนที่เหลือเป็นของฉัน”ฉันสาปแช่งเขาเงียบ ๆ ไอ้คนขี้งก!เขาลอกหนังงูและหั่นเนื้อออกเป็นชิ้น ๆ อย่างชำนาญ เรากินเนื้องูดิบกันอยู่สองสามวัน หลังจากนั้น ปราณจิตวิญญาณของฉันก็ฟื้นฟู ฉันจึงใช้พลังจิตก่อไฟ ในที่สุดเราก็ได้กินอาหารที่ปรุงสุกเสียทีเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ แผนกพิเศษก็บอกข่าวคราวกับฉันในห้องไลฟ์สดว่าในที่สุดพวกเขาก็พบเกาะหิมะและกำลังจะมาถึงเมื่อถังหมิงหลีได้ยินว่าฉันติดอยู่กับหยินเฉิงเหยา เขาจึงรีบมาหาฉันด้ว
เรือของทีมกู้ภัยมาถึงแล้ว ถังหมิงหลีรีบกระโดดลงจากเรือและพุ่งมาที่ฉัน ดูเหมือนเขาจะมีหลายสิ่งที่อยากจะถามฉัน แต่สุดท้ายเขาก็พูดว่า “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”ฉันมองดูความกังวลในดวงตาของเขา และจนในที่สุดก็รู้สึกดีขึ้น“ฉันสบายดีแล้วก็เลื่อนขั้นแล้ว”ถังหมิงหลีเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “ระดับกลาง ขั้นที่สอง?”ฉันพยักหน้า เขาใช้สายตาราวกับมองสัตว์ประหลาดจ้องมาที่ฉัน “เมื่อก่อนฉันไม่เชื่อเรื่องพรสวรรค์และโชคชะตา แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว”ฉันก้าวขาขึ้นเรือรบแห่งแดนบูรพา กองทัพกำลังนั่งเรือโบตเข้ามา ฉันกัดฟันแล้วเอ่ย “นี่ทำเพื่ออะไรกัน?”“มีสมบัติล้ำค่าบนเกาะหิมะ ประกอบกับการกลายพันธุ์ของสัตว์และพืชบนเกาะ มีพืชจิตวิญญาณและสัตว์แปลก ๆ มากมายที่มีพลังปราณเพียงพอ แดนบูรพาต้องเข้ามาครอบครองและพัฒนาก่อน” ถังหมิงหลีเอ่ย “อีกไม่กี่วัน ปรมาจารย์แห่งแดนบูรพาก็จะมาล่าขุมทรัพย์ที่นี่ นี่คือการแข่งขันที่สิ้นหวัง และคาดว่าจะเกิดการนองเลือดขึ้น”เขาหันมาหาฉันแล้วเอ่ย “จุนเหยา เธอกลับเมืองซานเฉิงก่อน ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ”“มีเรื่องอะไรเหรอ?” ฉันอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเขายกยิ้มมุมปากพลางเอ่ย “นอกจากกองทัพ
พูดจบพวกเราก็กำลังจะเดินออกไป แต่ชายชุดดำกลับหยุดพวกเราไว้อีกครั้ง “ขออภัย ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ผู้นำฟังอย่างไร”เสี่ยวหลินพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ตระกูลโจวต้องการจะมีเรื่องกับแผนกพิเศษเหรอ?”ก่อนที่คำพูดจะจบลง ก็มีคนสองคนก็โผล่มาจากทางด้านหลัง และเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมสองคนนี้คือเจ้าแห่งสายฟ้าเฉินเต๋อข่ายและเจ้าแห่งไฟเย่เซียนหลัวชายสวมแว่นกันแดดต้องการที่จะพูดอะไรต่ออีก แต่เฉินเต๋อข่ายก้าวไปข้างหน้าและจับไหล่ของเขา สักพักกระแสไฟฟ้าก็พุ่งออกมาจากมือ ชายสวมแว่นกันแดดคนนั้นสั่นเทิ้ม แล้วล้มลงกับพื้น ร่างกายของเขากระตุกตลอดเวลาเสี่ยวหลินก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า “โปรดกลับไปบอกผู้นำตระกูลโจวว่า ถ้าใครไม่ลงรอยกับคุณหยวน ก็ถือว่าเป็นปรปักษ์กับแผนกพิเศษของเรา พวกนายควรชั่งน้ำหนักให้ดี” ตระกูลโจวเป็นแค่เพียงด่านหน้า เบื้องหลังของพวกเขาคือผู้คนมากมายที่ต้องการจะหาผลประโยชน์กับฉัน คำพูดของเสี่ยวหลินไม่เพียงแค่บอกเตือนกับผู้นำตระกูลโจว แต่ยังบอกไปถึงคนที่ตั้งใจจะทำเรื่องนี้อีกด้วยแต่ฉันพบเกาะหิมะที่เหมือนขุมทรีพย์แห่งหนึ่งนี้ และเปิดเผยมันโดยไม่ปิดบัง การคุ้มกันฉัน
สีหน้าของฉันเคร่งขรึมเล็กน้อยเสวียห้าวเทียนพูดต่อ “หลังจากที่ตำรวจมาถึง พวกเขาก็ได้ทำการสอบสวน ในตอนนั้นในห้องน้ำไม่มีใครเลยนอกจากเฉินเฟย ตอนที่คนคุ้มกันของบ้านฉันเข้าไปพบร่างของเขานั้น จากระยะทางที่เขาไปเข้าห้องน้ำจะใช้เวลาเพียงครึ่งนาที ในครึ่งนาทีคนคนนั้นก็สามารถฆ่าเขาและหั่นร่างเขาออกเป็นชิ้น ๆ แถมยังกระโดดหนีไปจากต่างบนชั้นเจ็ดได้อีก อย่างน้อยก็น่าจะเป็นนักยุทธ์ระดับตานจิน หรืออาจจะอยู่ในระดับที่สี่ แต่ปรมาจารย์เช่นนั้นจะฆ่าคนธรรมดาได้อย่างไร?”“แม่ของฉันตกใจมาก ท่านโทษตัวเองและรู้สึกละอายใจเสมอที่ไม่สามารถช่วยเขาได้” เสวียห้าวเทียนถอนหายใจ “ดังนั้นเธอจึงส่งคนไปตรวจสอบอย่างละเอียด เฉินเฟยกลับจีนมาเมื่อสองเดือนก่อน และทำงานเป็นผู้จัดการแผนกในบริษัทข้ามชาติ อาชีพของเขากำลังเฟื่องฟู แต่หนึ่งสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุเขาก็หายตัวไป”“หายตัวไป?” ฉันเอ่ยถาม “เขาไม่ได้ขอลาออกจากบริษัท ทางบริษัทส่งคนไปตามหาเขาแล้วแต่ไม่พบใคร ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทจึงได้แจ้งตำรวจ” เสวียห้าวเทียนยื่นรูปถ่ายให้ฉันด้วยสีหน้าที่หนักอึ้ง “แม่ของฉันใช้กำลังทั้งหมดของท่านในการสืบสวน และพบว่าเขากำลังขับรถที่มีการปลอมแ
แกร๊กลูกบิดประตูขยับ และประตุไม้ลายจุดก็ค่อย ๆ เปิดออกมีผีปรากฎตัวอยู่ที่ประตู เป็นตุ๊กตากระดาษที่ฉันเห็นในจดหมายเชิญก่อนหน้านี้ร่างกายของมันถูกคลุมด้วยผ้าสีดำทั้งตัว มีเพียงมือซีดขาวคู่หนึ่งที่ถือขวานเปื้อนเลือดเดินเข้ามาหาฉันทีละก้าวใจเย็น ๆ หยวนจุนเหยา เธอต้องใจเย็น ๆตอนแรกฉันอยู่บนรถไฟ แต่กลับมาโผล่อยู่ที่นี่ แถมยังถูกมัด ผีระดับไหนกันถึงได้มีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ไม่ใช่แล้ว!ฉันมองไปที่ประตูด้านหลังผีที่เปิดแง้มไว้ครึ่งหนึ่ง ด้านนอกมืดสนิทมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นและจู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าทุกสิ่งที่นี่ไม่มีจริง ฉันไม่ได้ถูกจับตัวไปไหนทั้งนั้น แต่มีพลังงานวิญญาณอยู่ในจดหมายเชิญ ผีเข้าครอบงำสมองของฉันและทำให้ฉันเห็นภาพลวงที่น่าสยดสยองฉันมองดูผีที่เข้าใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ และรอยยิ้มเย็น ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉัน“ฉันเป็นผู้บำเพ็ญจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ เล่นฉากนี้ต่อหน้าฉัน แกกำลังสอนจระเข้ว่ายน้ำอยู่นะ” หลังจากพูดจบ ฉันก็หลับตาลง และปล่อยจิตสำนึกแห่งสวรรค์ออกมา เพียงพริบตาทุกสิ่งรอบ ๆ ตัวฉันถูกชะล้างไปจนหมดในทันที ฉันยังคงยืนอยู่ในห้องน้ำและถือจดหมายเชิญอยู่ในมือ
จู่ ๆ เธอคนนี้ก็กลายเป็นศพศพผู้หญิงที่เน่าเปื่อยทำให้เห็นถึงพลังที่มีมากกว่าปกติควันสีดำจาง ๆ พุ่งออกมาจากปากของเธอ ฉันหยิบดาบไม้ท้อแล้วฟันเข้าไป เพื่อทำลายวิญญาณชั่วร้ายให้สิ้นซาก แล้วเอ่ย “แจ้งตำรวจ”รถไฟจอดอยู่ที่สถานีถัดไป จากนั้นตำรวจจึงนำศพออกไปชันสูตรเพียงไม่นานตัวตนของศพก็ถูกยืนยัน เธอเป็นพลเมืองธรรมดาในเมืองจินหลิงที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ เมื่อสองวันก่อนเพิ่งจะนำศพใส่โรง แต่ไม่คาดคิดว่าในคืนวันนั้นศพจะหายไป ทางครอบครัวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ แล้วเจ้าหน้าที่ดูแลศพบอกว่าเธอคนนี้เดินออกจากช่องแช่แข็งด้วยตนเองว่ากันว่าตำรวจที่ดูวิดีโอนั้นหวาดกลัวและยังคงนอนฉีดยาเข้าเส้นเลือดอยู่ที่โรงพยาบาลฉันบอกให้ตำรวจส่งศพกลับไปทำพิธีเผา แล้วแจ้งกับคนทางครอบครัวว่าศพถูกขโมย เพราะถ้าหากผู้คนรู้ว่าศพนั้นเดินไปไหนมาไหนเองได้ ก็จะยิ่งทำให้ผู้คนแตกตื่นฉันกังวลเล็กน้อย คราวนี้ไม่ใช่ผีธรรมดาแน่นอน ความแข็งแกร่งของมันมีมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเมื่อมาถึงเมืองจินหลิง ฉันก็มาพักอาศัยอยู่ในโรงแรมที่ถูกจัดไว้โดยเสวียห้าวเทียน ห้องเพรสซิเดนเชียลได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา และตั้งอยู่บนต
พวกเราตรวจสอบทุกห้องของโรงเรียนแล้วแต่ไม่พบอะไรเลย แค่เพียงพริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว เราสองคนไปกินข้าวที่ร้านอาหารไม่ไกลจากโรงเรียน เจ้าของร้านเป็นผู้ชายร่างอ้วนท้วม แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยเนื้อ แต่ว่าสีหน้าของเขาก็มักจะมีรอยยิ้มและน้ำเสียงที่ฟังแล้วชื่นใจเราสั่งซาลาเปานึ่งสองที่และเครื่องเคียงอีกสองจาน จากนั้นเถ้าแก่เจ้าของร้านก็พูดเสียงดัง “ทั้งสองท่านโปรดรอสักครู่ ไม่นานอาหารก็มาแล้ว”เขาพูดแล้วหันไปเสิร์ฟซาลาเปาแสนอร่อยทีมีกลิ่นหอมโชยออกมา เมื่อเขาเปิดหม้อนึ่งออก ความร้อนเป็นลูก ๆ ก็โพยพุ่งออกมา“ผู้เฒ่าเฉิน ทำไมวันนี้ไม่เห็นเมียและลูกเลย” คนทำความสะอาดถนนถามด้วยรอยยิ้มขณะที่กำลังทำความสะอาดใบไม้ที่ร่วงหล่นผู้เฒ่าเฉินกระตุกมุมปากของเขา แล้วเค้นยิ้มออกมา “ทั้งคู่พากันกลับไปบ้านแม่ของเธอน่ะ”“กลับไปบ้านแม่ของเธออีกแล้ว” คนทำความสะอาดหัวเราะ “ฉันเห็นว่าคุณคุ้นเคยกับบ้านแม่ของพวกเธอ ถ้าเป็นเมียของฉัน กลับบ้านบ่อย ๆ แบบนี้ ฉันคงได้แอบเอ็ดเมียตัวเองบ้างล่ะ”ผู้เฒ่าเฉินหัวเราะสองครั้งแล้วไม่พูดอะไรอีก จากนั้นก็นำซาลาเปามาวางให้พวกเราแม้ว่าเสวียห้าวเทียนจะมาจากครอ
เสวียห้าวเทียนหยิบโทรศัพท์ออกมาและตั้งใจจะโทรแจ้งตํารวจ แต่เขากลับพูดแปลก ๆ ว่า “ไม่มีสัญญาณเหรอ? คงจะไม่มีตัวบล็อกสัญญาณอยู่ในห้องนี้หรอกนะ?”ฉันถอนหายใจ จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่น่ากลัวมาก “นายน้อยเสวีย” ใบหน้าของฉันซีดเล็กน้อย “เราอาจจะโดนโจมตีแล้ว” เสวียห้าวเทียนตกตะลึงไปชั่วขณะ ราวกับว่าเขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ทันใดนั้นเองฉากโดยรอบก็เปลี่ยนไป ผนังเริ่มมีรอยด่างพร้อย เฟอร์นิเจอร์และอาหารหายไป เหลือเพียงซากปรักหักพังบนพื้นเท่านั้น ที่นี่คือห้องเรียน! เรากลับไปที่โรงเรียนมัธยมหวนซานอีกครั้ง! ฉันกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง “มันคือมิติวิญญาณ! ครั้งแรกที่พวกเราเดินเข้าไปในโรงเรียนมัธยมหวนซาน เราก็ติดอยู่ที่นี่ ทุกอย่างก่อนหน้านี้ล้วนเป็นกลลวงของวิญญาณทั้งหมด เรายังไม่ได้ออกจากโรงเรียนตั้งแต่แรก!” สีหน้าของเสวียห้าวเทียนเปลี่ยนไป “ดูสิ” ทันใดนั้นมือเรียวชี้ไปที่กระดานดําและตะโกนเสียงดัง จู่ ๆ บนกระดานดํานั่นก็มีคราบเลือดสีแดงก่ำปรากฏขึ้น เลือดเหล่านั้นประกอบกันเป็นข้อความ “ท่านทั้งสอง ยินดีต้อนรับพวกคุณ และขอแสดงความยินดีกับคุณที่ผ่านด่านแรกไปได้