ข้างนอกเต็มไปด้วยหิมะ หลังจากกินกระต่ายและยาอายุวัฒนะแล้ว ปราณแห่งจิตวิญญาณในร่างกายของฉันก็ฟื้นฟูขึ้นมาป้องกันความหนาวเย็นได้พอดีฉันเดินผ่านหิมะหนาบางเป็นเวลานาน และในที่สุดก็พบถ้ำที่สะอาดแห่งหนึ่ง ฉันเดินเข้าไปด้านใน ถ้ำแห่งนี้ลึกมาก แต่ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะเข้าไปสำรวจภายในถ้ำ ดังนั้นฉันจึงจุดไฟที่ทางเข้าถ้ำและถือมันไว้จนกว่าทีมกู้ภัยจะมาถึงไม่นานนัก ฉันก็ได้ยินเสียงออกมาจากภายในถ้ำ และชักดาบไม้ท้ออกมาในทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดระแวงเสียงนั้นใกล้เข้ามาทุกที มันคือหนู เป็นหนูที่ตัวใหญ่เท่ากระต่าย ดวงตาทั้งสองเป็นสีแดงก่ำ มันอ้าปากที่เต็มไปด้วยฟันแหลมคมและเปล่งเสียงคำรามออกมามันใช้ขาหลังกระโดดมาข้างหน้าฉัน ฉันจึงแผ่ปราณแห่งจิตวิญญาณเข้าไปในดาบไม้ท้อ แล้วใช้ดาบตัดหัวของมันออกเสียงฝีเท้ากร็อบแกรบ ๆ ดังมาจากส่วนลึกของถ้ำอีกครั้ง ทำให้หนังศรีษะของฉันตึงขึ้นราวตื่นตัวในความมืด หัวของหนูยักษ์ถูกเปิดออก ตามมาด้วยตัวที่สอง สาม และอีกนับไม่ถ้วน ดวงตาของพวกมันเป็นสีแดงวาบและมองมาที่ฉันด้วยความโกรธแค้นใบหน้าของฉันซีดขาว และก้าวถอยหลังสองก้าวอย่างระมัดระวัง ทว่าจู่ ๆ ก็มีมือข้างหน
มันคือน้ำพุร้อน! มีบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่อยู่ลึกเข้าไปในถ้ำแห่งนี้!พอเห็นน้ำแร่ร้อนวูบวาบ หัวใจก็คันยุบยิบนิดหน่อย หลายวันมานี้ไม่ได้อาบน้ำ ร่างกายเหนียวเหนอะจนได้กลิ่นเหงื่อเหม็น ๆ ออกมาจากทั่วร่างกายหยินเฉิงเหยารู้ว่าฉันกำลังคิดอะไร ก็เลยพูดว่า “พวกเราไปอาบน้ำกันสักหน่อยเถอะ”สีหน้าของฉันเปลี่ยนไปทันที เขาจึงพูดขยายความอีกครั้ง “เธอไปอาบตรงซอกหินนั้น ฉันจะอยู่ข้างนอก ถ้ามีอะไรให้เรียกฉัน”ฉันพยักหน้าตอบ ก่อนจะตรงไปที่หลังหินแล้วลงไปในน้ำฉันลองเงี่ยหูฟัง ทางนั้นก็เหมือนจะอยู่ในน้ำด้วย “ทางนั้นปลอดภัยไหม?” หยินเฉิงเหยาถามจากด้านนอก“ปลอดภัย” ฉันพยักหน้า จากนั้นเราทั้งคู่ก็เงียบไปไม่รู้ว่านานแค่ไหน ฉันค่อย ๆ ปล่อยตัวลึกลงไปในน้ำ พลางปล่อยจิตสำนึกแห่งสวรรค์ออกมาปราณจิตวิญญาณมากมายนั้นมากจากใต้น้ำอุ่นมีบางสิ่งที่อ่อนนุ่มเคลื่อนมายังข้อเท้าของฉัน และฉันก็กวาดเท้าสัมผัสมันด้วยความรู้สึกทางจิตวิญญาณ ในใจตื่นตระหนกเล็กน้อยมันคือ...ปลาเหรอ?ฉันเกือบหลุดกรีดร้อง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอยู่ใต้น้ำ ฉันก็เอามือปิดจมูกและปากทันทีนี่คือปลาแก้วหลากสี!ปลาแก้วหลากสีเป็นปลาวิญญาณโบราณ
ฉันวิ่งไปได้แค่สองก้าว ก็ได้ยินเสียงอู้อี้ของหยินเฉิงเหยาดังขึ้นเขาได้รับบาดเจ็บเหรอ?เพื่อช่วยฉันไว้ ก็เลยถูกงูขาวตัวนั้นทำร้ายสินะ แต่ฉันกลับวิ่งหนีไปคนเดียว นี่มันไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยเหรอ?แต่เขาเป็นศัตรูของฉัน เขาเป็นคนที่ทำให้น้องชายของฉันนอนเป็นผัก เขาควรจะชดใช้ด้วยชีวิต ฉันควรจะฆ่าเขาเสียฉันกัดฟันและเดินหน้าต่อไป แต่ฉันก็ไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ให้ตายเถอะ หยวนจุนเหยา เธอไม่ควรเสียดายนะในตอนนี้ หยินเฉิงเหยาขึ้นขี่อยู่บนหัวของงูขาว ร่างกายของเขาอาบไปด้วยเลือด ฉันรีบหยิบดาบไม้ท้อขี้ไปที่เท้าแล้วแทงไปที่งูขาวตีงูต้องตีให้ได้ที่ความยาวเจ็ดนิ้วฉันกะความยาวประมาณเจ็ดนิ้วของงูยักษ์ แล้วแผ่ปราณทั้งหมดลงในปลายดาบ เสียงดังฟึ่บ เจาะทะลุผิวหนังของงูทว่าคิดไม่ถึงว่าผิวหนังของงูจะแข็งขนาดนี้ ดาบของฉันแทงเข้าไปได้แค่หนึ่งนิ้วเท่านั้นแต่ถึงอย่างไรมันก็ได้รับบาดเจ็บ งูยักษ์ดิ้นด้วยความเจ็บปวดอยู่ในน้ำ ฉันถูกตวัดลงน้ำ และกระแทกลงไปที่หินจนรู้สึกเจ็บปวดที่หลังหยินเฉิงเหยาคว้าเกล็ดของมัน พลางเลื่อนตัวลงมาจากหัว จนมาถึงบริเวณที่ความยาวเจ็ดนิ้ว เขาก็ชกเข้าไปที่บาดแผลหมัดนี้
ในใจของฉันเต็มไปด้วยความสุข หลังจากที่การฟื้นฟูคงที่แล้ว ฉันก็ลืมตาขึ้นและพบว่าหยินเฉิงเหยากำลังตัดหัวงูขาวออก พลางขุดเอาน้ำดีออกจากตัวงูเขาส่งน้ำดีงูให้ฉันและพูดว่า “ที่ฉันสามารถฆ่างูตัวนี้ได้ก็เป็นเพราะดาบของเธอ ดีงูล้ำค่านี้เธอรับไว้เถอะ”ฉันหยิบถุงน้ำดีของงูขึ้นมาดู พร้อมตกใจมาก นี่คือถุงน้ำดีในตำนาน งูขาวตัวนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่มีดีงูสีขาวจริง ๆ ครั้งนี้ฉันต้องทำเงินได้มากมายแน่ ๆ น้ำดีของงูขาวยังเป็นวัตถุดิบหลักในการกลั่นยาอายุวัฒนะ คราวนี้ฉันจะมียาอายุวัฒนะวางจำหน่ายมากกว่าเดิมแล้วฉันเก็บส่วนที่ล้ำค่าของมันไว้ในกล่องหยก แต่กลับได้ยินหยินเฉิงเหยาเอ่ยแทรก “ส่วนที่เหลือเป็นของฉัน”ฉันสาปแช่งเขาเงียบ ๆ ไอ้คนขี้งก!เขาลอกหนังงูและหั่นเนื้อออกเป็นชิ้น ๆ อย่างชำนาญ เรากินเนื้องูดิบกันอยู่สองสามวัน หลังจากนั้น ปราณจิตวิญญาณของฉันก็ฟื้นฟู ฉันจึงใช้พลังจิตก่อไฟ ในที่สุดเราก็ได้กินอาหารที่ปรุงสุกเสียทีเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ แผนกพิเศษก็บอกข่าวคราวกับฉันในห้องไลฟ์สดว่าในที่สุดพวกเขาก็พบเกาะหิมะและกำลังจะมาถึงเมื่อถังหมิงหลีได้ยินว่าฉันติดอยู่กับหยินเฉิงเหยา เขาจึงรีบมาหาฉันด้ว
เรือของทีมกู้ภัยมาถึงแล้ว ถังหมิงหลีรีบกระโดดลงจากเรือและพุ่งมาที่ฉัน ดูเหมือนเขาจะมีหลายสิ่งที่อยากจะถามฉัน แต่สุดท้ายเขาก็พูดว่า “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”ฉันมองดูความกังวลในดวงตาของเขา และจนในที่สุดก็รู้สึกดีขึ้น“ฉันสบายดีแล้วก็เลื่อนขั้นแล้ว”ถังหมิงหลีเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “ระดับกลาง ขั้นที่สอง?”ฉันพยักหน้า เขาใช้สายตาราวกับมองสัตว์ประหลาดจ้องมาที่ฉัน “เมื่อก่อนฉันไม่เชื่อเรื่องพรสวรรค์และโชคชะตา แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว”ฉันก้าวขาขึ้นเรือรบแห่งแดนบูรพา กองทัพกำลังนั่งเรือโบตเข้ามา ฉันกัดฟันแล้วเอ่ย “นี่ทำเพื่ออะไรกัน?”“มีสมบัติล้ำค่าบนเกาะหิมะ ประกอบกับการกลายพันธุ์ของสัตว์และพืชบนเกาะ มีพืชจิตวิญญาณและสัตว์แปลก ๆ มากมายที่มีพลังปราณเพียงพอ แดนบูรพาต้องเข้ามาครอบครองและพัฒนาก่อน” ถังหมิงหลีเอ่ย “อีกไม่กี่วัน ปรมาจารย์แห่งแดนบูรพาก็จะมาล่าขุมทรัพย์ที่นี่ นี่คือการแข่งขันที่สิ้นหวัง และคาดว่าจะเกิดการนองเลือดขึ้น”เขาหันมาหาฉันแล้วเอ่ย “จุนเหยา เธอกลับเมืองซานเฉิงก่อน ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ”“มีเรื่องอะไรเหรอ?” ฉันอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเขายกยิ้มมุมปากพลางเอ่ย “นอกจากกองทัพ
พูดจบพวกเราก็กำลังจะเดินออกไป แต่ชายชุดดำกลับหยุดพวกเราไว้อีกครั้ง “ขออภัย ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ผู้นำฟังอย่างไร”เสี่ยวหลินพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ตระกูลโจวต้องการจะมีเรื่องกับแผนกพิเศษเหรอ?”ก่อนที่คำพูดจะจบลง ก็มีคนสองคนก็โผล่มาจากทางด้านหลัง และเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมสองคนนี้คือเจ้าแห่งสายฟ้าเฉินเต๋อข่ายและเจ้าแห่งไฟเย่เซียนหลัวชายสวมแว่นกันแดดต้องการที่จะพูดอะไรต่ออีก แต่เฉินเต๋อข่ายก้าวไปข้างหน้าและจับไหล่ของเขา สักพักกระแสไฟฟ้าก็พุ่งออกมาจากมือ ชายสวมแว่นกันแดดคนนั้นสั่นเทิ้ม แล้วล้มลงกับพื้น ร่างกายของเขากระตุกตลอดเวลาเสี่ยวหลินก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า “โปรดกลับไปบอกผู้นำตระกูลโจวว่า ถ้าใครไม่ลงรอยกับคุณหยวน ก็ถือว่าเป็นปรปักษ์กับแผนกพิเศษของเรา พวกนายควรชั่งน้ำหนักให้ดี” ตระกูลโจวเป็นแค่เพียงด่านหน้า เบื้องหลังของพวกเขาคือผู้คนมากมายที่ต้องการจะหาผลประโยชน์กับฉัน คำพูดของเสี่ยวหลินไม่เพียงแค่บอกเตือนกับผู้นำตระกูลโจว แต่ยังบอกไปถึงคนที่ตั้งใจจะทำเรื่องนี้อีกด้วยแต่ฉันพบเกาะหิมะที่เหมือนขุมทรีพย์แห่งหนึ่งนี้ และเปิดเผยมันโดยไม่ปิดบัง การคุ้มกันฉัน
สีหน้าของฉันเคร่งขรึมเล็กน้อยเสวียห้าวเทียนพูดต่อ “หลังจากที่ตำรวจมาถึง พวกเขาก็ได้ทำการสอบสวน ในตอนนั้นในห้องน้ำไม่มีใครเลยนอกจากเฉินเฟย ตอนที่คนคุ้มกันของบ้านฉันเข้าไปพบร่างของเขานั้น จากระยะทางที่เขาไปเข้าห้องน้ำจะใช้เวลาเพียงครึ่งนาที ในครึ่งนาทีคนคนนั้นก็สามารถฆ่าเขาและหั่นร่างเขาออกเป็นชิ้น ๆ แถมยังกระโดดหนีไปจากต่างบนชั้นเจ็ดได้อีก อย่างน้อยก็น่าจะเป็นนักยุทธ์ระดับตานจิน หรืออาจจะอยู่ในระดับที่สี่ แต่ปรมาจารย์เช่นนั้นจะฆ่าคนธรรมดาได้อย่างไร?”“แม่ของฉันตกใจมาก ท่านโทษตัวเองและรู้สึกละอายใจเสมอที่ไม่สามารถช่วยเขาได้” เสวียห้าวเทียนถอนหายใจ “ดังนั้นเธอจึงส่งคนไปตรวจสอบอย่างละเอียด เฉินเฟยกลับจีนมาเมื่อสองเดือนก่อน และทำงานเป็นผู้จัดการแผนกในบริษัทข้ามชาติ อาชีพของเขากำลังเฟื่องฟู แต่หนึ่งสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุเขาก็หายตัวไป”“หายตัวไป?” ฉันเอ่ยถาม “เขาไม่ได้ขอลาออกจากบริษัท ทางบริษัทส่งคนไปตามหาเขาแล้วแต่ไม่พบใคร ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทจึงได้แจ้งตำรวจ” เสวียห้าวเทียนยื่นรูปถ่ายให้ฉันด้วยสีหน้าที่หนักอึ้ง “แม่ของฉันใช้กำลังทั้งหมดของท่านในการสืบสวน และพบว่าเขากำลังขับรถที่มีการปลอมแ
แกร๊กลูกบิดประตูขยับ และประตุไม้ลายจุดก็ค่อย ๆ เปิดออกมีผีปรากฎตัวอยู่ที่ประตู เป็นตุ๊กตากระดาษที่ฉันเห็นในจดหมายเชิญก่อนหน้านี้ร่างกายของมันถูกคลุมด้วยผ้าสีดำทั้งตัว มีเพียงมือซีดขาวคู่หนึ่งที่ถือขวานเปื้อนเลือดเดินเข้ามาหาฉันทีละก้าวใจเย็น ๆ หยวนจุนเหยา เธอต้องใจเย็น ๆตอนแรกฉันอยู่บนรถไฟ แต่กลับมาโผล่อยู่ที่นี่ แถมยังถูกมัด ผีระดับไหนกันถึงได้มีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ไม่ใช่แล้ว!ฉันมองไปที่ประตูด้านหลังผีที่เปิดแง้มไว้ครึ่งหนึ่ง ด้านนอกมืดสนิทมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นและจู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าทุกสิ่งที่นี่ไม่มีจริง ฉันไม่ได้ถูกจับตัวไปไหนทั้งนั้น แต่มีพลังงานวิญญาณอยู่ในจดหมายเชิญ ผีเข้าครอบงำสมองของฉันและทำให้ฉันเห็นภาพลวงที่น่าสยดสยองฉันมองดูผีที่เข้าใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ และรอยยิ้มเย็น ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉัน“ฉันเป็นผู้บำเพ็ญจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ เล่นฉากนี้ต่อหน้าฉัน แกกำลังสอนจระเข้ว่ายน้ำอยู่นะ” หลังจากพูดจบ ฉันก็หลับตาลง และปล่อยจิตสำนึกแห่งสวรรค์ออกมา เพียงพริบตาทุกสิ่งรอบ ๆ ตัวฉันถูกชะล้างไปจนหมดในทันที ฉันยังคงยืนอยู่ในห้องน้ำและถือจดหมายเชิญอยู่ในมือ