“สไตล์การชอบใครสักคนหนึ่งของคุณแปลกมากจริง ๆ” จุนเหยาเอ่ยพลางเอาดาบออกมาจากด้านหลัง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็มาสู้กันเถอะ”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า สู้กันเหรอ?” เลสหัวเราะ “ธงที่เธอปักไว้ข้างนอกนั่นใช้ไม่ได้แล้วใช่ไหม?”“ใช่” ฉันตอบ “พลังของค่ายปราบผีพลังเก้าหยางถูกใช้ไปเต็มที่แล้ว”“งั้นเธอจะใช้อะไรมาสู้กับฉัน?” เขาดูเหมือนจะมั่นใจว่าตัวเองจะชนะเหลือเกิน“ฉันจะใช้พลังทั้งหมดในชีวิตสู้กับคุณ” มือเรียวถอดหมวก หน้ากาก และเข็มกลัดออก แล้ววางลงพื้น[อา อา อา ในที่สุดเราก็ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของแอดมินแล้ว!][พระเจ้า สวยมาก ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาก่อน!][ทั้งสวยทั้งเท่! แอดมิน ผมอยากจะมีลูกกับคุณสักร้อยคน][สวย สวย สวยมาก สวยมาก ๆ เลย!]ฉันยกดาบขึ้นและชี้ปลายดาบขึ้นเพื่อรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ส่วนปลาย ทำให้ร่างกายของฉันกลายเป็นลำแสงและพุ่งเข้าไปหาเขาและแล้วในห้องไลฟ์สดก็เกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง[ฉันทนไม่ไหวแล้ว! ฉันจะไปลอสแองเจลิสตอนนี้ ฉันจะไปช่วยแอดมิน!][หยุดตลกได้แล้ว กว่าคุณจะบินไปถึงคงทำได้แค่เก็บศพให้แอดมิน][ต่อให้ช่วยแอดมินไม่ได้ ฉันก็อยากไปแก้แค้นให้เธอ!]มีรอย
เขาพูดมีเหตุผลมาก ฉันถึงกับไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว[เอ๊ะ นี่ใช่คนที่โรงแรมผีสิงคนนั้นหรือเปล่า?][รู้สึกว่าจะนามสกุลหยินใช่ไหม? เป็นคนที่หล่อมากคนหนึ่งเลยนะ][คิดไม่ถึงว่าเขาจะกลับมา แล้วเขาจะอยู่กับแอดมินถาวรไหม?]ฉันปิดห้องไลฟ์สดและทำท่าจะเดินออกไป แต่ฝีเท้าของฉันกลับอ่อนแรงจนเกือบจะล้มลงเขาเอื้อมมือออกมาพยุงฉัน แต่โดนฉันผลักออกไป ร่างบางยันผนังไว้แล้วเดินออกไปทีละก้าว ก่อนจะเห็นป้ากุ้ยและครอบครัวนอนอยู่บนพื้น ฉันจับชีพจรของพวกเขาดู โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่แค่เป็นลมไปเท่านั้นหยินเฉิงเหยาตามหลังฉันมา เขามองฉันอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร“ทำไมนายถึงมาอเมริกาล่ะ?” ฉันถาม “ไม่ใช่ว่าสะกดรอยตามฉันมาจริง ๆ ใช่ไหม?”“ถ้าฉันบอกว่าฉันมาอเมริกาเพื่อหาพืชพลังงานจิตชนิดหนึ่ง เธอจะเชื่อไหม?” หยินเฉิงเหยาพูดฉันมองดูเขาอย่างเย็นชาและเขาก็พูดต่อว่า “หญ้าเฮยมี๋ มีคนบอกว่าเคยเห็นมันแถว ๆ นี้ ฉันต้องการมันเพื่อช่วยให้ฉันก้าวหน้าขึ้น”หญ้าเฮยมี๋เป็นหญ้าแห่งจิตวิญญาณชนิดหนึ่งที่เติบโตในที่ที่มีพลังงานมืดสูงที่แท้เขาก็ไม่ได้สะกดรอยตามฉันมามันคือพรหมลิขิตอันชั่วร้ายที่แท้จริง“เธอเกลียดฉัน
“เธออยู่ในนี้ก่อน ฉันจะไปดูที่ชายฝั่งว่ามีของอะไรสามารถเอามาใช้ได้บ้าง” หลังจากที่เขาออกไป ฉันก็ตรวจดูสิ่งของบนร่างกาย ยังดีที่มีดาบไม้ท้อและกริชสั้นไม้ท้อติดตัวมาด้วย ส่วนในกระเป๋าเป้ก็มียาอยู่ไม่น้อย มันน่าจะช่วยประคับประคองร่างกายไปได้สักพักทุกครั้งที่ฉันเจอหยินเฉิงเหยาล้วนเจอแต่เรื่องไม่ดีผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง หยินเฉิงเหยาก็ได้พกกล่องขนาดใหญ่กลับมาด้วย กล่องนี้น่าจะเป็นของผู้โดยสารคนใดคนหนึ่ง เจ้าของของมันได้กลายเป็นเมฆฝุ่นอยู่ในทะเลที่กว้างใหญ่ไปแล้วหยินเฉิงเหยาหยิบผ้าห่มส่งมาให้ฉัน และฉันก็ห่มมันอย่างหนาแน่น เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า “เสื้อผ้าที่เปียกต้องถอดออกมาตากให้แห้ง จะได้ไม่เป็นปอดบวม”พูดแล้วเขาก็ถอดเสื้อคลุ่มที่เปียกออก เผยให้เห็นผิวสีน้ำตาลอ่อนที่แข็งแรงฉันหันหน้าไปอีกด้านทันที “ฉันไม่เป็นไร”หลังจากที่ฉันเลื่อนขั้นเป็นระดับสองแล้ว ร่างกายก็ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงเพื่อไม่ให้เจ็บป่วยง่าย ๆ ด้วยภายในถ้ำภูเขา อีกทั้งเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผา พวกเราทั้งคู่ต่างไม่พูดกันสักคำ ทำให้บรรยากาศดูอึดอัดและแปลกประหลาดฉันเหนื่อยมากจึงนอนอยู่ข้างกองไฟและหลับไปไม่รู้ว่
ข้างนอกเต็มไปด้วยหิมะ หลังจากกินกระต่ายและยาอายุวัฒนะแล้ว ปราณแห่งจิตวิญญาณในร่างกายของฉันก็ฟื้นฟูขึ้นมาป้องกันความหนาวเย็นได้พอดีฉันเดินผ่านหิมะหนาบางเป็นเวลานาน และในที่สุดก็พบถ้ำที่สะอาดแห่งหนึ่ง ฉันเดินเข้าไปด้านใน ถ้ำแห่งนี้ลึกมาก แต่ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะเข้าไปสำรวจภายในถ้ำ ดังนั้นฉันจึงจุดไฟที่ทางเข้าถ้ำและถือมันไว้จนกว่าทีมกู้ภัยจะมาถึงไม่นานนัก ฉันก็ได้ยินเสียงออกมาจากภายในถ้ำ และชักดาบไม้ท้ออกมาในทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดระแวงเสียงนั้นใกล้เข้ามาทุกที มันคือหนู เป็นหนูที่ตัวใหญ่เท่ากระต่าย ดวงตาทั้งสองเป็นสีแดงก่ำ มันอ้าปากที่เต็มไปด้วยฟันแหลมคมและเปล่งเสียงคำรามออกมามันใช้ขาหลังกระโดดมาข้างหน้าฉัน ฉันจึงแผ่ปราณแห่งจิตวิญญาณเข้าไปในดาบไม้ท้อ แล้วใช้ดาบตัดหัวของมันออกเสียงฝีเท้ากร็อบแกรบ ๆ ดังมาจากส่วนลึกของถ้ำอีกครั้ง ทำให้หนังศรีษะของฉันตึงขึ้นราวตื่นตัวในความมืด หัวของหนูยักษ์ถูกเปิดออก ตามมาด้วยตัวที่สอง สาม และอีกนับไม่ถ้วน ดวงตาของพวกมันเป็นสีแดงวาบและมองมาที่ฉันด้วยความโกรธแค้นใบหน้าของฉันซีดขาว และก้าวถอยหลังสองก้าวอย่างระมัดระวัง ทว่าจู่ ๆ ก็มีมือข้างหน
มันคือน้ำพุร้อน! มีบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่อยู่ลึกเข้าไปในถ้ำแห่งนี้!พอเห็นน้ำแร่ร้อนวูบวาบ หัวใจก็คันยุบยิบนิดหน่อย หลายวันมานี้ไม่ได้อาบน้ำ ร่างกายเหนียวเหนอะจนได้กลิ่นเหงื่อเหม็น ๆ ออกมาจากทั่วร่างกายหยินเฉิงเหยารู้ว่าฉันกำลังคิดอะไร ก็เลยพูดว่า “พวกเราไปอาบน้ำกันสักหน่อยเถอะ”สีหน้าของฉันเปลี่ยนไปทันที เขาจึงพูดขยายความอีกครั้ง “เธอไปอาบตรงซอกหินนั้น ฉันจะอยู่ข้างนอก ถ้ามีอะไรให้เรียกฉัน”ฉันพยักหน้าตอบ ก่อนจะตรงไปที่หลังหินแล้วลงไปในน้ำฉันลองเงี่ยหูฟัง ทางนั้นก็เหมือนจะอยู่ในน้ำด้วย “ทางนั้นปลอดภัยไหม?” หยินเฉิงเหยาถามจากด้านนอก“ปลอดภัย” ฉันพยักหน้า จากนั้นเราทั้งคู่ก็เงียบไปไม่รู้ว่านานแค่ไหน ฉันค่อย ๆ ปล่อยตัวลึกลงไปในน้ำ พลางปล่อยจิตสำนึกแห่งสวรรค์ออกมาปราณจิตวิญญาณมากมายนั้นมากจากใต้น้ำอุ่นมีบางสิ่งที่อ่อนนุ่มเคลื่อนมายังข้อเท้าของฉัน และฉันก็กวาดเท้าสัมผัสมันด้วยความรู้สึกทางจิตวิญญาณ ในใจตื่นตระหนกเล็กน้อยมันคือ...ปลาเหรอ?ฉันเกือบหลุดกรีดร้อง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอยู่ใต้น้ำ ฉันก็เอามือปิดจมูกและปากทันทีนี่คือปลาแก้วหลากสี!ปลาแก้วหลากสีเป็นปลาวิญญาณโบราณ
ฉันวิ่งไปได้แค่สองก้าว ก็ได้ยินเสียงอู้อี้ของหยินเฉิงเหยาดังขึ้นเขาได้รับบาดเจ็บเหรอ?เพื่อช่วยฉันไว้ ก็เลยถูกงูขาวตัวนั้นทำร้ายสินะ แต่ฉันกลับวิ่งหนีไปคนเดียว นี่มันไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยเหรอ?แต่เขาเป็นศัตรูของฉัน เขาเป็นคนที่ทำให้น้องชายของฉันนอนเป็นผัก เขาควรจะชดใช้ด้วยชีวิต ฉันควรจะฆ่าเขาเสียฉันกัดฟันและเดินหน้าต่อไป แต่ฉันก็ไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ให้ตายเถอะ หยวนจุนเหยา เธอไม่ควรเสียดายนะในตอนนี้ หยินเฉิงเหยาขึ้นขี่อยู่บนหัวของงูขาว ร่างกายของเขาอาบไปด้วยเลือด ฉันรีบหยิบดาบไม้ท้อขี้ไปที่เท้าแล้วแทงไปที่งูขาวตีงูต้องตีให้ได้ที่ความยาวเจ็ดนิ้วฉันกะความยาวประมาณเจ็ดนิ้วของงูยักษ์ แล้วแผ่ปราณทั้งหมดลงในปลายดาบ เสียงดังฟึ่บ เจาะทะลุผิวหนังของงูทว่าคิดไม่ถึงว่าผิวหนังของงูจะแข็งขนาดนี้ ดาบของฉันแทงเข้าไปได้แค่หนึ่งนิ้วเท่านั้นแต่ถึงอย่างไรมันก็ได้รับบาดเจ็บ งูยักษ์ดิ้นด้วยความเจ็บปวดอยู่ในน้ำ ฉันถูกตวัดลงน้ำ และกระแทกลงไปที่หินจนรู้สึกเจ็บปวดที่หลังหยินเฉิงเหยาคว้าเกล็ดของมัน พลางเลื่อนตัวลงมาจากหัว จนมาถึงบริเวณที่ความยาวเจ็ดนิ้ว เขาก็ชกเข้าไปที่บาดแผลหมัดนี้
ในใจของฉันเต็มไปด้วยความสุข หลังจากที่การฟื้นฟูคงที่แล้ว ฉันก็ลืมตาขึ้นและพบว่าหยินเฉิงเหยากำลังตัดหัวงูขาวออก พลางขุดเอาน้ำดีออกจากตัวงูเขาส่งน้ำดีงูให้ฉันและพูดว่า “ที่ฉันสามารถฆ่างูตัวนี้ได้ก็เป็นเพราะดาบของเธอ ดีงูล้ำค่านี้เธอรับไว้เถอะ”ฉันหยิบถุงน้ำดีของงูขึ้นมาดู พร้อมตกใจมาก นี่คือถุงน้ำดีในตำนาน งูขาวตัวนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่มีดีงูสีขาวจริง ๆ ครั้งนี้ฉันต้องทำเงินได้มากมายแน่ ๆ น้ำดีของงูขาวยังเป็นวัตถุดิบหลักในการกลั่นยาอายุวัฒนะ คราวนี้ฉันจะมียาอายุวัฒนะวางจำหน่ายมากกว่าเดิมแล้วฉันเก็บส่วนที่ล้ำค่าของมันไว้ในกล่องหยก แต่กลับได้ยินหยินเฉิงเหยาเอ่ยแทรก “ส่วนที่เหลือเป็นของฉัน”ฉันสาปแช่งเขาเงียบ ๆ ไอ้คนขี้งก!เขาลอกหนังงูและหั่นเนื้อออกเป็นชิ้น ๆ อย่างชำนาญ เรากินเนื้องูดิบกันอยู่สองสามวัน หลังจากนั้น ปราณจิตวิญญาณของฉันก็ฟื้นฟู ฉันจึงใช้พลังจิตก่อไฟ ในที่สุดเราก็ได้กินอาหารที่ปรุงสุกเสียทีเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ แผนกพิเศษก็บอกข่าวคราวกับฉันในห้องไลฟ์สดว่าในที่สุดพวกเขาก็พบเกาะหิมะและกำลังจะมาถึงเมื่อถังหมิงหลีได้ยินว่าฉันติดอยู่กับหยินเฉิงเหยา เขาจึงรีบมาหาฉันด้ว
เรือของทีมกู้ภัยมาถึงแล้ว ถังหมิงหลีรีบกระโดดลงจากเรือและพุ่งมาที่ฉัน ดูเหมือนเขาจะมีหลายสิ่งที่อยากจะถามฉัน แต่สุดท้ายเขาก็พูดว่า “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”ฉันมองดูความกังวลในดวงตาของเขา และจนในที่สุดก็รู้สึกดีขึ้น“ฉันสบายดีแล้วก็เลื่อนขั้นแล้ว”ถังหมิงหลีเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “ระดับกลาง ขั้นที่สอง?”ฉันพยักหน้า เขาใช้สายตาราวกับมองสัตว์ประหลาดจ้องมาที่ฉัน “เมื่อก่อนฉันไม่เชื่อเรื่องพรสวรรค์และโชคชะตา แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว”ฉันก้าวขาขึ้นเรือรบแห่งแดนบูรพา กองทัพกำลังนั่งเรือโบตเข้ามา ฉันกัดฟันแล้วเอ่ย “นี่ทำเพื่ออะไรกัน?”“มีสมบัติล้ำค่าบนเกาะหิมะ ประกอบกับการกลายพันธุ์ของสัตว์และพืชบนเกาะ มีพืชจิตวิญญาณและสัตว์แปลก ๆ มากมายที่มีพลังปราณเพียงพอ แดนบูรพาต้องเข้ามาครอบครองและพัฒนาก่อน” ถังหมิงหลีเอ่ย “อีกไม่กี่วัน ปรมาจารย์แห่งแดนบูรพาก็จะมาล่าขุมทรัพย์ที่นี่ นี่คือการแข่งขันที่สิ้นหวัง และคาดว่าจะเกิดการนองเลือดขึ้น”เขาหันมาหาฉันแล้วเอ่ย “จุนเหยา เธอกลับเมืองซานเฉิงก่อน ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ”“มีเรื่องอะไรเหรอ?” ฉันอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเขายกยิ้มมุมปากพลางเอ่ย “นอกจากกองทัพ
เธอหยุดชั่วคราวและกล่าวอย่างยิ้ม ๆ อีกครั้งว่า “ฉันยังมีคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลอีกข้อหนึ่ง หวังว่าคุณหยวนจะตกลง”“เรื่องอะไรเหรอคะ?” ฉันไม่พอใจเล็กน้อยกับสายตาที่มีความดูถูกเหยียดหยามของเธอ แต่ฉันก็ยังถามอย่างเก็บอารมณ์เธอพูดว่า “ในการไลฟ์สดครั้งนี้ มีบางฉากที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ฉันอยากให้คุณหยวนได้โปรดอธิบายให้ผู้ชมฟังในการไลฟ์สดครั้งต่อไปด้วย เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจลูกเทียนของเราผิด”ใจของฉันสงบลงและรอยยิ้มบนใบหน้าได้เปลี่ยนเป็นไม่เต็มใจเล็กน้อย “คุณนายเสวีย การไลฟ์สดของฉันเป็นการไลฟ์สดจับผีไม่ใช่การไลฟ์สดเกี่ยบกับความรู้สึก”คุณนายเสวียพูดอย่างสุภาพแต่ไม่ยอมปฏิเสธ “ฉันก็กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของคุณเหยาเหมือนกัน ถึงอย่างไรคุณก็เข้าใจสถานะของตระกูลเราในเมืองจินหลิงชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเกิดทำให้คนอื่นเข้าใจคุณเหยาผิดว่าประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”สีหน้าของฉันเย็นลงมา นี่เป็นการเปลี่ยนวิธีที่จะบอกว่าฉันกำลังประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลฉันยิ้มจาง ๆ “คุณนายเสวีย ไม่รู้ว่าคุณชายเสวียเคยบอกคุณไหมว่าฉันเป็นคนรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดี”คุณนายเสวียตะลึงไปคร
ยังไม่ถึงสองวัน ชาวเน็ตผู้หญิงที่ซื้อสบู่ทำมือเหล่านี้ไปก็มาโพสต์ที่หมวดยา พวกเธอพูดอย่างตื่นเต้นว่าสบู่ทำมือนี้ใช้ดีมาก ๆ พึ่งจะใช้ไปไม่กี่วันสภาพผิวก็ดีขึ้นมาก ริ้วรอยตรงขอบตาและมุมปากต่างก็ตื้นขึ้นเยอะด้วยมีหญิงสาวนักรบสายขาวคนหนึ่งบอกว่าบนใบหน้าของเธอมีสิวเยอะมาก เมื่อก่อนนี้เธอใช้เครื่องประทินผิวเยอะเยอะหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้ผล และนั่นทำให้เธอเป็นทุกข์มาก ๆ แต่หลังจากที่เธอได้ใช้สบู่ทำมือ สิวบนใบหน้าของเธอก็หายไป และไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นมาอีก เธอยังปล่อยภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังออกมาเป็นพิเศษอีกด้วยในไม่ช้า สบู่ทำมือนี้ก็ถูกอัปโหลดลงบนนักเล่นแร่แปรธาตุเน็ตเวิร์กทั้งหมด และนักเล่นแร่แปลธาตุผู้หญิงจำนวนมากต่างก็ฝากข้อความต้องการจะซื้อไว้ทางบริษัทเครื่องสำอางก็มีผลตอบรับกลับมาว่าได้กำหนดสูตรสบู่ทำมือแล้วสามชนิด ชนิดที่หนึ่งคือ กลิ่นหอมของหอมหมื่นลี้ที่ใช้สำหรับขาวใส ชนิดที่สองคือกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ที่ใช้สำหรับป้องกันสิว และอีกหนึ่งชนิดก็คือกลิ่นหอมของว่านหางจระเข้ที่ใช้สำหรับให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษผลลัพธ์ของทั้งสามชนิดต่างก็ดีมาก ๆ และทีมผู้บริหารของบริษัทก็พร้อมที่จะทำ
เมื่อมองดูรถของพวกเขาหายไป ฉันก็แอบถอนหายใจในใจ ถึงแม้ว่าคุณนายเสวียจะลืมช่วงความตายของคุณชายเสวียไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่เหมือนโดนกรวยแหลมคมแทงทะลุเข้าไปในใจก็ยังฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของเธอฉันยักไหล่ ถึงอย่างไรฉันก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันไม่สามารถขอให้ทุกคนมาชอบตัวเองได้หรอกร่างบางกลับมาถึงห้องก็นอนหลับอย่างสบายใจ จนเช้าวันรุ่งขึ้นก็โดนปลุกให้ตื่นโดยเสียงเคาะประตูอย่างแรงฉันหาวหวอดพลางเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก็เห็นถังหมิงหลียืนอยู่นอกประตู เขาถือกระเป๋าสัมภาระธรรมดาใบหนึ่ง เขาหน้าซีดเผือดมาก ราวกับว่าไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืนเพราะรีบกลับมาเมื่อเขาเห็นฉันก็รีบโผเข้ามากอดไว้แน่น ทำให้ใบหน้าของฉันฝังอยู่ที่คอของเขาอย่างแรงและเขาก็พูดขึ้นทันที “ก่อนหน้านี้ฉันอยู่บนเกาะหิมะตลอด ฉันไม่รู้เลยว่าเธอว่าได้เจอกับอันตรายแบบนั้น ไม่อย่างนั้นฉันต้องรีบกลับมาช่วยเธอโดยเร็วที่สุดแน่นอน”ฉันยิ้มออกมา “เป็นเพราะอย่างนี้เองเหรอ วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไร”เขาจับหน้าของฉันไว้แล้วก้มหน้าลงจูบอย่างเร็วฉันตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วรีบผลักเขาออก พลันพูดอย่างร้อนใจ “นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”“ใช่ ฉันบ้าไปแ
พลังที่เก้าเอ่ยแทรก “หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ที่จริงผีตัวนี้มีชีวิตและมีเนื้อหนัง แค่เนื้อหนังของมันก็คือทั้งหมดของโรงเรียนแห่งนี้เท่านั้นเอง”ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางยังกล่าวอีกว่า “ฉันไม่ได้เจอผีที่มีเลือดเนื้อในร่างกายมนุษย์แบบนี้มาหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังมีอยู่ในโลกมนุษย์”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถึงแม้ว่าในตอนนี้ในโลกมนุษย์จะขาดแคลนพลังปราณ แต่อารมณ์เจ็ดอายตนะหกของผู้คนก็ยังแข็งแกร่งมากขึ้น” พลังที่เก้าพูดขึ้น “ผีก็มากขึ้นเรื่อย ๆ”หัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ก้อนนั้นเริ่มเผาไหม้และควันหนาค่อย ๆ ลอยออกมา ผีใบหน้าสีดำตัวนั้นเผยหน้าตาที่แสนเจ็บปวดออกมา พลันกำแพงรอบ ๆ ก็เริ่มลุกไหม้ขึ้นมา เปลวไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วและพวกเราก็ได้วิ่งออกมาจากโรงเรียนแห่งนั้น อาคารร้างทั้งหลังล้วนจมลงไปในเปลวไฟ ริ้วลิ้นแห่งเปลวไฟยังกระโจมอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าฉันจะเห็นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปในอากาศด้วยแสงไฟ“อ๊าก!” ในที่สุดผีใบหน้าสีดำก็ปรากฏขึ้นมาในเปลวไฟ มันโดนไฟเผาจนเล็กลงเรื่อย ๆ และมองไม่เห็นอีกต่อไปฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกยาว ๆ ในที่สุดก็จบลงแล้ว จะไม่มีเกมส์แห่งความตายอีกต่อไปแล้ว และก
เมื่อมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เปื้อนเลือดของคุณชายเสวีย ในใจของฉันก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาเป็นพัก ๆ[เป็นไปไม่ได้มั้ง คุณเสวียตายแล้ว?][จะเป็นไปได้ยังไง ถึงแม้ว่าคุณเสวียจะมาเข้าร่วมไลฟ์สดแค่ชั่วคราว แต่จะตายง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร? เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้เชียวนะ][ใครบอกว่าจะไม่มีคนตาย? ทุกครั้งที่แอดมินไลฟ์สดล้วนอันตรายมาก แต่ก็ยังเอาชีวิตรอดจากภัยอันตรายมาได้หลายครั้ง เมื่อก่อนที่จอมเผด็จการไม่ตายก็แค่โชคดีมากเท่านั้นเอง พวกคุณคิดว่าพวกเขาจะมีรัศมีของตัวเอกจริง ๆ เหรอ?][แอดมิน ฉันคือคนใช้ของครอบครัวคุณเสวีย เมื่อสักครู่แม่ของเขาก็ดูไลฟ์สดอยู่ แต่ตอนนี้ได้เป็นลมหมดสติไปแล้ว คุณเตรียมใจรอรับความโกรธของตระกูลเสวียได้เลย][คนข้างบนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งชาวบ้าน ถ้าพวกคุณมีความสามารถก็ไปจัดการกับผีใบหน้าเองสิ จะระบายอารมณ์ใส่แอดมินทำไม?][แอดมิน...จะมีชีวิตกลับมาไหม?]ขณะนี้ในใจของฉันว่างเปล่า ฉันคุกเข่าลงบนพื้นและกอดหัวของเสวียห้าวเทียนไว้ ทั้งยังรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วร่างกายฉันและคุณชายเสวียไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่เขากับฉันได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาในเกมส์แห
เพี๊ยะ เพี๊ยะ! ไฟในเมรุเผาศพดังขึ้นและลัดวงจร กระแสไฟฟ้ารวมตัวกันในมือของฉันจนกลายเป็นก้อนใหญ่ [ว้าว ใช้กระแสไฟฟ้าหนึ่งแสนโวลต์ควบแน่นเป็นสายฟ้าก้อนกลม แอดมินเธอเก่งขั้นเทพเลยอ่ะ] [แรงดันไฟฟ้าสูงเท่าหนึ่งแสนโวลต์ที่ไหนกัน!] [ฉันพูดเกินจริงไม่ได้เหรอ? คุณจะยุ่งเกินไปแล้ว?] “คุณเสวีย หลบไปเร็วเข้า!” ฉันตะโกนเสียงดังแล้วโยนกระแสไฟฟ้าในมือออกไป ตูม! เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น กระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าใส่ร่างของผีกองกอย ร่างของมันเปล่งแสงสีม่วงออกมาและส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ป่า แต่สุดท้ายร่างกายก็ไหม้กลายเป็นศพไหม้เกรียม “เร็วเข้า เอามันเข้าไปในเตาเผาศพ!” ฉันและเสวียห้าวเทียนอดทนต่อกลิ่นเหม็นเน่าเพื่อยกผีกองกอยขึ้น แล้วรีบเข้าไปในห้อง พร้อมเปิดเตาเผาศพและโยนศพเข้าไป บึ้ม! ในเตาเผามีเปลวไฟลุกโชนออกมา ผีกองกอยดิ้นทุรนทุรายอย่างดุเดือด ฉันตะโกน “ปิดประตู!” ประตูเตาเผาได้ปิดลงเสียงดังปัง เสียงดิ้นรนดังออกมาจากด้านใน ศพถูกเผาเป็นเวลานานมากก่อนที่จะหยุดลง และท้ายที่สุดก็มีเศษกระดูกออกมาจากรูด้านหลัง กระดูกไม่ได้ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด แต่เผาแล้วกลายเป็นเศษเล็ก ๆ พวกมัน
[เพื่อเงินเพียงเล็กน้อย แต่เขากลับฆ่าพ่อของตัวเอง ช่างน่าเศร้าจริง ๆ] [มีลูกชายแบบนี้ มิน่าล่ะพ่อของเขาถึงได้โกรธทะยานขึ้นจนศพเปลี่ยนไป] [จะไปโทษใครได้? นอกจากตัวเขาเอง ใครบอกให้เขารักลูกชายมากเกินไปล่ะ? รู้จักแต่เลี้ยงแต่ไม่รู้จักอบรม นั่นเป็นความผิดขอพ่อแม่] ในห้องไลฟ์สดมีการโต้เถียงทุกแบบอย่าง ผีดิบฟางเหวินตัวนั้นกระโดดออกมาจากโลงศพ โลงศพเป็นโลงไม้เนื้อแข็งแบบดั้งเดิม และสูงพอ ๆ กับไหล่ของผู้ใหญ่ แต่มันสามารถมันกระโดดออกมาได้ในพริบตา ในตอนนั้นเอง ร่างกายของฟางเหวินก็เริ่มมีขนงอกออกมาอย่างรวดเร็ว เขามีขนปุกปุยราวกับลิงอุรังอุตังที่เป็นบรรพบุรุษ [ผีกองกอย! นี่มันผีกองกอยจริง ๆ!] [ผีกองกอยเป็นกระดูกเหล็กทองแดงในตํานาน! มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว กระโดดขึ้นอาคารบ้านเรือนไปบนต้นไม้ กระโดดโลดเต้นราวกับบิน ไม่กลัวไฟธรรมดา หรือแม้แต่แสงอาทิตย์] [ข้างบนมีความรู้เยอะจัง] [ไร้สาระ เว็บไป๋ตู้ก็เขียนเอาไว้แบบนั้น] ฉันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาถูกลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าตาย ลูกชายก็อกตัญญู และมักจะด่าทอเขา เขามีความคับข้องใจมาเป็นเวลานาน แถมลูกชายก็ไม่ได้จัดงานศพให้ หลังจ
ฉันถามถึงที่อยู่และเรียกแท็กซี่กับเสวียห้าวเทียน จนมาถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฝางเจีย เมืองนี้ค่อนข้างหดหู่กว่าเมืองชิงหยาง มีเพียงคนแก่ใกล้วาระสุดท้ายที่นั่งอาบแดดอยู่หน้าประตู เราสอบถามเกี่ยวกับโรงฌาปนกิจศพในเมืองฝางเจีย วันนี้ไม่มีการจัดงานศพ ภายในนั้นเงียบมาก และมีชายชราคนหนึ่งกําลังกวาดพื้น “ขอถามหน่อยค่ะ คุณคือผู้เฒ่าฟางใช่ไหมคะ?” ฉันก้าวไปข้างหน้าและถามเขาทันที เขามองฉันอย่างระมัดระวังพลางกล่าว “คุณมีธุระอะไร?” “เมื่อสองวันก่อน มีช่างขนศพพาศพหกศพมาค้างคืนที่นี่ใช่ไหมคะ?” ฉันถาม ความระแวดระวังในดวงตาของชายชรายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น “ผมจําไม่ได้แล้ว” พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป เสวียห้าวเทียนเดินไปข้างหน้าและจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้ “ผู้เฒ่าฟาง อย่าเพิ่งรีบไปสิ มาคุยกับพวกเราเถอะครับ” พร้อมกันนั้น เขาก็ยัดธนบัตรสีแดงสองใบใส่มือชายชราไปด้วย เขาลังเลเล็กน้อยและกำธนบัตรสีแดงไว้ ก่อนจะกล่าว “คุณต้องการถามอะไร?” เสวียห้าวเทียนยิ้มบาง “เราแค่อยากรู้ว่าในโลงศพทั้งหกศพนั้นบรรจุอะไรไว้” “แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? แน่นอนว่าต้องเป็นศพอยู่แล้ว” ตาแก่ฟางพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ฉันยิ่งงงเข้าไปใหญ่ การที่ภูตผีจากโรงเรียนมัธยมหวนซานนี้ รวบรวมเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นจริงไว้มากมายเพื่อทดสอบคนอื่น ที่แท้เพราะอะไรกันแน่นะ? เขาวางแผนอะไรอยู่นะ? จริงสิ! ความกลัวไงล่ะ! ความกลัวที่พวกเราประสบในมิติวิญญาณจะกลายเป็นแหล่งพลังงานของมัน ทําให้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมภูตผีถึงชอบทำให้คนกลัว หลังจากที่มนุษย์หวาดกลัวแล้ว พลังหยางจะถูกทําลาย ทำให้ถูกสิงได้ง่ายขึ้น แต่ภูตผีบางชนิดสามารถดูดซับความกลัวได้ เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น พอดึกขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีเสียงกรนดังมาจากห้องเวร ตอนแรกฉันว่าจะไปผนึกศพพวกนี้ก่อน แต่ตัวอักษรเลือดพูดถึงผีดิบที่ฆ่าศพฟื้นคืนชีพ ถ้าฉันฝืนเปลี่ยนเค้าโครงเรื่อง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้จะดีกว่า พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และเป็นตอนที่พลังหยินพลุ่งพล่านที่สุด พระจันทร์เสี้ยวสีแดงเลือดดวงนั้นสว่างจนแสบตาเป็นพิเศษ ฉันสอนวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เสวียห้าวเทียน โดยการปิดปากและจมูก เพื่อให้ผีดิบไม่ได้กลิ่นมนุษย์บนตัวเรา ทันใดนั้นกลิ่นอายวิญญาณก็พวยพุ่งออกมาจากในห้อง ศพทั้งหกพลันลืมตาขึ้นมาพร้อ