พูดแล้วเขาก็โค้งคำนับฉันอย่างสุดซึ้ง “โจวจิน แสดงความเคารพต่อผู้อาวุโส”ในโลกของนักบำเพ็ญเพียร ผู้แข็งแกร่งจะเป็นที่เคารพนับถือและผู้เชี่ยนชาญจะเป็นอาจารย์ที่น่าเกรงขาม ผู้อาวุโสไม่ได้ถูกตัดสินด้วยอายุ แต่เป็นรากฐานการฝึกฝน รากฐานการฝึกฝนของฉันสูงกว่าเขามาก เขาจึงจำเป็นต้องเรียกฉันว่า “ผู้อาวุโส”ในเวลานี้คนที่ตกใจที่สุดคือป้ากุ้ย ท่านใช้สายตาแปลกประหลาดมองฉันอย่างลึกซึ้ง เหมือนกับว่าท่านไม่เคยรู้จักฉันมาก่อนหูตี๋และเถาจือเองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เพราะไม่เข้าใจว่าอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจะสามารถโค้งคำนับฉันจริง ๆ ในโลกใบนี้มีเรื่องมหัศจรรย์แบบนี้แล้วเหรอ?ฉันเงียบไม่พูดอะไรออกมา อาจารย์โจวมองมาที่พวกเราและพูดว่า “คุณนายหู ในเมื่อพวกคุณรู้จักผู้อาวุโสท่านนี้ ทำไมยังต้องขอร้องฉันด้วย? มีเธอคนนี้แล้วยังจะกลัวอะไรอีก?”ฉันมองไปยังชายหนุ่มเสื้อคอจีนสีขาวที่ตกใจจนสีหน้าถอดสี พลางเอ่ย “นี่คือลูกศิษย์ของคุณเหรอ? ฉันเป็นผู้หญิง แต่เขากลับพ่นไฟใส่บนใบหน้าฉัน เพื่อที่จะทำลายรูปลักษณ์ของฉัน จิตใจเขาช่างร้ายกาจมาก!”อาจารย์โจวมองชายคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา “ออกไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่ามาให้ฉ
หลังจากที่บินบนมหาสมุทรแปซิฟิกมาหนึ่งคืนเต็ม ๆ ในที่สุดฉันก็มาถึงสนามบินลอสแอนเจลิสและเมื่อออกจากประตูสนามบินก็มีผู้ช่วยคนหนึ่งก็มารับผู้ช่วยคนนี้เป็นผู้ช่วยของสามีป้ากุ้ย เธอสวยมากและพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันแท้ได้คล่องมากด้วยตอนนี้ฉันยังคงสวมหมวกและหน้ากากเหมือนเดิม เธอเหลือบมองมาทางฉันและพูดด้วยภาษาอังกฤษว่า “มาดามคนคนนี้คือใคร? ทำไมถึงปิดหัวปิดหน้า? ช่วงนี้ในลอสแอนเจลิสมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายออกมาจำนวนมาก สถานะของเธอไม่มีปัญหาใช่ไหม?”“วางใจได้ ป้ากุ้ยเห็นฉันมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน” ฉันตอบกลับไปด้วยภาษาอังกฤษพวกเขาต่างก็มองฉันด้วยสายตาประหลาดใจ ประมาณว่าเธอจบแค่มัธยมตอนปลายไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงพูดภาษาอังกฤษได้ดีขนาดนี้?แต่พวกเขาคงไม่รู้ว่าก่อนที่ฉันจะมา ฉันบ่นกับหยินฉางเซิงว่าตัวเองพูดและฟังภาษาอังกฤษได้ไม่ดีเท่าไหร่ และกลัวจะมาขายหน้าที่อเมริกาเมื่อพวกเขาได้ยินว่าฉันจะมาไลฟ์สดที่ต่างประเทศก็ล้วนเกิดความสนใจ ราชาแห่งหวางซานจึงได้สอนคาถาหนึ่งให้แก่ฉันคาถานี้เป็นการใช้จิตสำนึกแห่งสวรรค์ใส่เข้าไปในสมองของผู้อื่นโดยตรง ซึ่งเมื่อคุยกับคนอื่น ความจริงฉันก็ยังคงพูดภา
นักขับไล่วิญญาณทั้งสองคนถือปืนสั้นที่ในปืนมีลูกกระสุนสีเงินอยู่ และรีบวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองอย่างเร็วฉันเองก็ตามขึ้นไปอย่างเงียบ ๆ และยังคงเปิดห้องไลฟ์สดอยู่แต่เมื่อเปิดประตูห้องนั้น คาดไม่ถึงว่าหลังประตูจะไม่มีอะไรสักอย่าง ทว่าดวงตาแห่งหยินหยางของฉันสามารถมองเห็นผีเด็กเหล่านั้นได้ชัดเจน พวกเขาตกใจและต่างก็เข้าไปหลบในผนังพอผู้ชมที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เห็น ต่างก็หัวเราะออกมา[ดู ๆ แล้วนักขับไล่วิญญาณสองคนนี้ก็ไม่เท่าไหร่][เมื่อเทียบกับแอดมินของพวกเราแล้ว ปืนในมือของพวกเขาก็แค่ของเล่นเด็กเท่านั้น][แอดมิน สู้พวกเขาเลย!]ฉันแค่ก้าวเท้าตามไปดูความตื่นเต้นอยู่ด้านหลัง ไม่ได้ตั้งใจที่จะยื่นมือออกมาช่วยแต่อย่างใดทว่าจู่ ๆ เลสก็หันกลับมาและตะโกนเสียงดังลั่น “ออกไปให้พ้น!”ฉันเอียงตัวออกไป เป็นจังหวะเดียวกับตอนที่เขายิงกระสุนมาที่ด้านหลังฉันเพราะที่ด้านหลังฉันมีผีผู้ชายสวมหน้ากากหัววัวอยู่คนหนึ่ง เนื้อตัวของเขาสกปรกไปทั้งตัว อีกทั้งเสื้อผ้าก็เต็มไปด้วยคราบสกปรก และในมือของเขาถือขวานขนาดใหญ่อยู่เล่มหนึ่งกระสุนลูกนี้ยิงเข้าไปฝังในร่างกายของผีหัววัวผู้ชาย จากนั้นผีหัววัวผู้ชายก็ได้
“ไม่” ฉันส่ายหน้า “พวกคุณคิดผิดแล้ว ตัวที่เก่งกาจจริง ๆ ยังไม่ออกมา”ทว่าจู่ ๆ ฉันก็หยุดไปครู่หนึ่งและมองไปยังด้านหลังของพวกเขา แล้วพูดขึ้นว่า “เธอมาแล้ว”พวกเขาตกใจมากและรีบหันกลับไป ก่อนจะเห็นภาพวาดสีน้ำมันโบราณแผ่นหนึ่งที่แขวนอยู่บนผนังห้องนั่งเล่น เดิมทีบนภาพวาดสีน้ำมันนี้เป็นภาพสตรีผู้สูงศักดิ์ที่แต่งกายด้วยชุดโบราณคนหนึ่ง เดิมทีเธอคนนี้สวยมาก แต่เวลานี้รูปลักษณ์ของเธอได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดขึ้นในดวงตาของเธอมีแสงสีแดงผุดขึ้นมา และใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นช้ำม่วง ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีดำและข้างในปากก็อัดแน่นไปด้วยเขี้ยวสีขาวซีดใบหน้าของเธอพุ่งออกจากในภาพวาดและกลายเป็นใบหน้าที่ใหญ่ยักษ์ มันก็พุ่งไปที่นักขับไล่วิญญาณทั้งสองอย่างรวดเร็วนักขับไล่วิญญาณตกใจมาก และรีบหลบออกไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ใบหน้านั้นข้ามผ่านพวกเขาแล้วพุ่งตรงเข้ามาหาฉันเลสตะโกนเสียงดังลั่น “รีบหนีไปซะ!”ฟิลิปดึงเขาไว้และพูดว่า “อย่าเข้าไป นายช่วยเธอไม่ได้หรอก!”สีหน้าฉันสงบลง ขาเรียวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง จากนั้นก็ยกมือทั้งสองขึ้นมาผูกตราผนึกธรรมที่หน้าอกและท่องบทสวยเสียงดัง “พลังเก้าหยางกล่อมความมืด แส
“ไม่ต้องยิงให้เปลืองกระสุนแล้ว!” ฉันพูดเสียงดังกว่าเดิม “พวกคุณไปปกป้องครอบครัวป้ากุ้ยเถอะ !”ทั้งสองคนมองหน้ากันและเลสก็พูดขึ้นว่า “ระวังตัวด้วย”พวกเขารีบพุ่งไปที่บันไดด้านล่างและพาครอบครัวป้ากุ้ยออกมา จากนั้นก็วิ่งออกไปทางประตูด้านนอกปัง!เสียงปิดประตูดังขึ้น มีเงาผีสองตัวกระโจนเข้าใส่พวกเขา พวกเขาจึงยกปืนขึ้นยิงให้เงาผีกระจัดกระจายออกไป พลันยิงอีกนัดใส่ที่ล็อคประตูเพื่อรีบพาพวกเขาออกไป“จุนเหยา!” ป้ากุ้ยและเถาจือตะโกนเรียกฉันด้วยความกังวัล “หนูต้องระวังตัวด้วยนะ!”พูดยังไม่ทันจบประตูก็ปิดลงอีกครั้งและไม่สามารถเปิดได้อีกต่อไปแล้วเงาผีที่เต็มอยู่ในห้องบินเข้ามาหาฉันพร้อม ๆ กัน เมื่อพวกมันรวมตัวกันอยู่เหนือหัว ฉันก็รีบทำสัญลักษณ์และค่ายปราบผีพลังเก้าหยางก็พุ่งลงมาเป็นเพลิงไฟอีกครั้ง พร้อมยิงไปที่บนตัวของเงาผีเหล่านั้นพอดี“ผั๊วะ!” ฉันตะโกนออกมาเสียงดัง เปลวไฟปกคลุมเงาผีทั้งหมดเอาไว้และลุกโชนอยู่เหนือหัวของฉัน มีเงาผีจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังดิ้นรน ซ้ำยังกรีดร้องอยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกไหม้จนกระทั่งเงาผีทั้งหมดได้มอดไหม้และเสียงเปลวไฟก็ดับสลายไป มีเพียงประกายไฟเพียงเล็กน้อยตกล
อลิซาเบธเติบโตขึ้นในครอบครัวชนชั้นสูงของอังกฤษ แต่ครอบครัวของเธอตกต่ำลง และเพื่อไม่อยากใช้ชีวิตแบบสามัญชน เธอจึงแต่งงานกับสามีที่กำลังทำธุรกิจในอังกฤษ แล้วกลับมาใช้ชีวิตกับเขาที่อเมริกาสมิธ สามีของเธอตั้งใจสร้างบ้านสไตล์อังกฤษเพื่อให้เธออาศัยอยู่โดยเฉพาะ แต่อลิซาเบธไม่ได้รักสามีของเธอ และสมิธก็มักจะไม่จากบ้านไปทำงานเป็นเวลานาน เพราะเหตุนี้เธอจึงตกอยู่ในความเหงาและหนาวเปล่าเปลี่ยว พลันหลวมตัวเข้าไปในเงื้อมมือของปีศาจทุกคืนเธอจะฝันว่าชายหนุ่มรูปงามมาพบกับตัวเอง ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ตั้งครรภ์ แต่สามีของเธอได้ออกไปทำงานต่างที่เป็นเวลาครึ่งปีแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะท้องเช่นนี้แต่เพื่อที่จะไม่ให้ข่าวรั่วไหลออกไป เธอจึงพาสาวใช้สองคนขึ้นไปอยู่บนห้องใต้หลังคา กระทั่งตั้งครรภ์ครบเก้าเดือนและคลอดเด็กออกมาเธอบอกในไดอารี่ว่าเด็กคนนี้คือปีศาจ แต่สำหรับเธอแล้วคือนางฟ้า เธอโกหกว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของสาวใช้ แล้วเธอก็แอบเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้ข้างกาย แต่ในโลกใบนี้ไม่มีความลับ เพราะเมื่อเด็กอายุได้เจ็ดขวบ ก็มีคนบอกสมิธว่าเด็กชายคนนี้เป็นลูกนอกสมรสของอลิซาเบธสมิธโกรธมากพร้อมเดินถือตะเกียงน้ำมันข
“สไตล์การชอบใครสักคนหนึ่งของคุณแปลกมากจริง ๆ” จุนเหยาเอ่ยพลางเอาดาบออกมาจากด้านหลัง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็มาสู้กันเถอะ”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า สู้กันเหรอ?” เลสหัวเราะ “ธงที่เธอปักไว้ข้างนอกนั่นใช้ไม่ได้แล้วใช่ไหม?”“ใช่” ฉันตอบ “พลังของค่ายปราบผีพลังเก้าหยางถูกใช้ไปเต็มที่แล้ว”“งั้นเธอจะใช้อะไรมาสู้กับฉัน?” เขาดูเหมือนจะมั่นใจว่าตัวเองจะชนะเหลือเกิน“ฉันจะใช้พลังทั้งหมดในชีวิตสู้กับคุณ” มือเรียวถอดหมวก หน้ากาก และเข็มกลัดออก แล้ววางลงพื้น[อา อา อา ในที่สุดเราก็ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของแอดมินแล้ว!][พระเจ้า สวยมาก ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาก่อน!][ทั้งสวยทั้งเท่! แอดมิน ผมอยากจะมีลูกกับคุณสักร้อยคน][สวย สวย สวยมาก สวยมาก ๆ เลย!]ฉันยกดาบขึ้นและชี้ปลายดาบขึ้นเพื่อรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ส่วนปลาย ทำให้ร่างกายของฉันกลายเป็นลำแสงและพุ่งเข้าไปหาเขาและแล้วในห้องไลฟ์สดก็เกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง[ฉันทนไม่ไหวแล้ว! ฉันจะไปลอสแองเจลิสตอนนี้ ฉันจะไปช่วยแอดมิน!][หยุดตลกได้แล้ว กว่าคุณจะบินไปถึงคงทำได้แค่เก็บศพให้แอดมิน][ต่อให้ช่วยแอดมินไม่ได้ ฉันก็อยากไปแก้แค้นให้เธอ!]มีรอย
เขาพูดมีเหตุผลมาก ฉันถึงกับไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว[เอ๊ะ นี่ใช่คนที่โรงแรมผีสิงคนนั้นหรือเปล่า?][รู้สึกว่าจะนามสกุลหยินใช่ไหม? เป็นคนที่หล่อมากคนหนึ่งเลยนะ][คิดไม่ถึงว่าเขาจะกลับมา แล้วเขาจะอยู่กับแอดมินถาวรไหม?]ฉันปิดห้องไลฟ์สดและทำท่าจะเดินออกไป แต่ฝีเท้าของฉันกลับอ่อนแรงจนเกือบจะล้มลงเขาเอื้อมมือออกมาพยุงฉัน แต่โดนฉันผลักออกไป ร่างบางยันผนังไว้แล้วเดินออกไปทีละก้าว ก่อนจะเห็นป้ากุ้ยและครอบครัวนอนอยู่บนพื้น ฉันจับชีพจรของพวกเขาดู โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่แค่เป็นลมไปเท่านั้นหยินเฉิงเหยาตามหลังฉันมา เขามองฉันอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร“ทำไมนายถึงมาอเมริกาล่ะ?” ฉันถาม “ไม่ใช่ว่าสะกดรอยตามฉันมาจริง ๆ ใช่ไหม?”“ถ้าฉันบอกว่าฉันมาอเมริกาเพื่อหาพืชพลังงานจิตชนิดหนึ่ง เธอจะเชื่อไหม?” หยินเฉิงเหยาพูดฉันมองดูเขาอย่างเย็นชาและเขาก็พูดต่อว่า “หญ้าเฮยมี๋ มีคนบอกว่าเคยเห็นมันแถว ๆ นี้ ฉันต้องการมันเพื่อช่วยให้ฉันก้าวหน้าขึ้น”หญ้าเฮยมี๋เป็นหญ้าแห่งจิตวิญญาณชนิดหนึ่งที่เติบโตในที่ที่มีพลังงานมืดสูงที่แท้เขาก็ไม่ได้สะกดรอยตามฉันมามันคือพรหมลิขิตอันชั่วร้ายที่แท้จริง“เธอเกลียดฉัน