ชายวัยกลางคนกระชากตัวอู๋หยู่เจี๋ยขึ้นมา “รีบขอโทษคุณหยินสิ”“แต่พ่อ” อู๋หยู่เจี๋ยพูดอย่างโกรธเคือง “หมอนั่นทำร้ายเฮยอิงกับเฮยเป้านะ พ่อยังจะให้ผมขอโทษอีกเหรอ?”อู๋ซุนหลินตบลูกชายตัวเองอย่างแรง “พวกนั้นเริ่มก่อน อย่าพูดว่าคุณหยินทำร้ายพวกมัน แม้ว่าจะฆ่าพวกมันจนตาย เขาก็ไม่ผิด”อู๋หยู่เจี๋ยตกตะลึง เขาเกิดมาจนจะอายุยี่สิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่อู๋ซุนหลินทุบตีเขา และยังทำต่อหน้าผู้คนมากมายอีกด้วยพออู๋ซุนหลินเห็นว่าลูกชายไม่ยอมขอโทษ จึงพูดอย่างร้อนรนว่า “ถ้าแกไม่รีบแก้ไขข้อผิดพลาด วันข้างหน้าพ่อก็คงเลี้ยงดูได้แค่น้องชายของแก”อู๋หยู่เจี๋ยหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ คนที่พ่อเขาเรียกว่าน้องชาย ความจริงแล้วคือลูกบุญธรรมและเป็นลูกนอกกฎหมายของพ่อ เขาเฝ้าจับตาดูตำแหน่งผู้สืบทอดมรดกมาตลอด และแม่ของเขาก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ตำแหน่งของเขามั่นคง ถ้ามันต้องถูกน้องชายที่ต้อยต่ำแย่งชิงไปในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ แม่และเขาจะต้องตกยากลำบากเป็นแน่เขาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหันไปหาหยินเฉิงเหยาพลันโค้งตัวขอโทษ “คุณหยิน ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันยังเด็กและยังไม่รู้ความ คุณใจกว้างมากที่อดทน”แม้ว่าอู๋หยู่เจี๋ยจะเอ
ฉันโต้กลับทันที โดยใช้พื้นฐานการชกมวยและไพ่ที่ถือในมือทั้งหมด ก่อนจะพบว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้นสูญเปล่า เขาเป็นเหมือนแมวที่หยอกล้อเล่นกับหนู ทั้งยังหลบเลี่ยงอย่างเจ้าเล่ห์ด้วยท่าทีสบายอารมณ์ ฉันกัดฟันกรอดไม่พอใจที่ตัวเองอ่อนแอเกินไปทันใดนั้นเขาก็เริ่มลงมือ พอฉันชกหน้าอกของเขา เขาก็คว้าข้อมือของฉันไว้ แล้วดึงรั้งรอบเอวให้เข้าไปแนบชิด“นายจะทำอะไร?” ฉันพูดด้วยความโกรธ“เถียงพอหรือยัง?” เขาพูดเสียงเย็นร่างเล็กตัวสั่นด้วยความโกรธ “นายต้องการอะไร? ฉันจะไม่มีวันเอายาให้นายแน่นอน”“แน่ใจเหรอ?” เขาวางมือไว้บนหัวของฉัน จากนั้นก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าใบเล็ก ๆ แล้วหยิบขวดหยกสองสามใบออกมา ฉันเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที “คนบ้า เอาคืนมาให้ฉันนะ”เขาเปิดฝาขวดแล้วนำขวดไปไว้ใต้จมูกพลันสูดดมมันเข้าไป สัมผัสแปลกประหลาดแวบเข้ามาในดวงตาของเขา “ในขวดเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของยาและพลังงานทางจิตวิญญาณ นี่เธอเอาของล้ำค่าแบบนี้พกไปไหนมาไหนงั้นเหรอ?”ฉันจ้องเขาด้วยความโกรธ แต่ท่าทางของเขากลับดูอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้ ร่างสูงเอ่ยหร้อมรอยยิ้ม “ฉันขอซื้อยาพวกนี้ทั้งหมด”ฉันตอบกลับอย่างโกรธเคือง “ไม่ขาย”“ไม่ขาย
“ไม่” ฉันพูดขึ้นทันที “ของมา ยาไป เท่านั้น” “ได้ ของจะมาถึงพรุ่งนี้ตอนเช้าเมื่อเรือเทียบท่าแล้ว”มุมปากของเขากระตุกยิ้มยั่วยุ “ฉันยังมีวัตถุดิบปรุงยาล้ำค่าอยู่มากมายในมือให้เธอเลือกสรรนะ”ดวงตาของฉันฉายแววเย้ยหยัน “นายต้องการวิธีปรุงยางั้นหรือ?”“แล้วเธอจะขายเหรอ?” เขาเลิกคิ้วขึ้น“นายคิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังฉัน จะยอมให้ฉันทำแบบนั้นเหรอ?”ร่างสูงมองฉันอย่างมีเลศนัย และหยุดพูดถึงเรื่องการปรุงยา ฉันจึงแอบโล่งใจและถามเขาว่า “นายจะไปไหน?” “เราคุยเรื่องธุรกิจกันจบแล้ว ฉันจะอยู่ที่นี่ไปทำไมอีก?” แต่ฉันยังไม่ได้ยาที่เขาเอาไปคืนมาเลย ฉันกลัวว่าเขาจะเล่นตุกติก“เพราะว่าเธอเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ เราจึงต้องคุยกันให้เยอะขึ้น” เขาเริ่มพูดอีกครั้ง “ฉันมีหญ้าดวงใจ แลกกับการที่เธอทำอาหารให้ฉัน สนใจไหม?”ฉันรำพึงรำพันในใจ คิดว่าฉันจะยอมจำนนเพราะเห็นแก่หญ้างั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ! ขาเรียวก้าวเท้าออกจากห้อง ทว่าเดินไปได้แค่สองก้าว สุดท้ายก็หันหลังกลับโดยไม่ได้ตั้งใจ “นายจะนำหญ้าดวงใจมาให้ฉันจริง ๆ เหรอ?”หยินเฉิงเหยายกยิ้ม พลางจิบไวน์แดง “ฉันอยากกินข้าวแล้ว”จุนเหยาเดินเข้าครัวอย่างสิ้นหวัง โชคดี
นี่คือทักษะเวทย์ที่ทำได้โดยวิญญาณชั่วร้ายเท่านั้น พลังหยินที่ทลายกระดูกนี้มีพิษร้ายแรง มันสามารถกัดกร่อนผิวหนังของมนุษย์ลงไปถึงกระดูกได้ เมื่อมนุษย์ถูกมนต์พลังหยินทลายกระดูกนี้ก็จะเน่าเปื่อยเป็นหนองทั่วทั้งตัว พลังนี้ร้ายแรงกว่าในละครโทรทัศน์เสียอีกวิญญาณร้ายสามารถฝึกตนให้กลายเป็นพลังหยินทลายกระดูกได้ ซึ่งพละกำลังจะต้องแข็งแกร่งมาก และจะต้องถูกเลี้ยงโดยหมอผีมือฉกาจเป็นแน่“ระวัง!” หยินเฉิงเหยากระโดดเข้ามาหาฉัน ก่อนดึงฉันเข้าไปในอ้อมแขน และใช้หลังของเขาปกป้องพลังหยินทลายกระดูกนั่นแทน“กลั้นหายใจ แล้วใช้กำลังภายในต่อต้าน”ฉันฟื้นกำลังภายในขึ้นมาทันทีและสร้างเกราะป้องกันจิตวิญญาณไว้รอบ ๆ ร่างกาย ปิดกั้นปราณแห่งความเย็นยะเยือกทลายกระดูก จากนั้นหยินเฉิงเหยาก็หยิบยาเม็ดยัดเข้าไปในปากของเขา แล้วฟาดอู๋หยู่เจี๋ยด้วยมือเปล่า อู๋หยู่เจี๋ยกระเด็นไปกระแทกกำแพงอย่างแรง ทิ้งคราบเลือดเอาไว้และสิ้นใจทันทีวิญญาณชั่วร้ายครอบงำร่างของให้ลุกขึ้นมาอีกคร้ัง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว ใบหน้าบอบช้ำน่ากลัว การเคลื่อนไหวของเขาแข็งแกร่งราวกับสัตว์ดุร้าย เขาคำรามและพุ่งเข้ามาหาพวกเราใบหน้าของหยินเฉิงเหยา
เมื่อเรือสำราญจอดเทียบที่ชายฝั่ง หัวหน้าจินก็พาคนมาเก็บกวาดด้วยตัวเอง ศพเหล่านั้นมีสีหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวอย่างยิ่ง เขากัดฟันกรอดขณะกล่าว “พวกองค์กรนิกายนักฆ่า พวกหมาหมู่ มันกล้าลงมือทำในอาณาเขตของเรา ถ้าไม่สั่งสอนพวกมันสักหน่อย พวกมันคงเหิมเกริมยิ่งกว่านี้อีก”เขาหันกลับมาพูดกับฉัน “คุณหยวนครับ ไม่ต้องกังวลนะครับ พวกเราจะกำชับเบื้องบนให้ครับ”ฉันพยักหน้า หูชิงหยูย่อมรู้ดีว่าควรทำอย่างไรขณะก้าวลงเรือ มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งขับรถมาส่งตลับหยกสองตลับ ศีรษะของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อโชก สาเหตุคงเพราะกลัวว่าฉันจะรอไม่ไหวมือเรียวเปิดตลับออก เห็ดหลินจือเคลือบเปล่งประกายรัศมีหลากสีจาง ๆ และสมุนไพรที่อยู่ตรงกลางก็มีสีทองอ่อน ๆ เช่นกัน ดูแล้วเหมือนใบไม้สีทองที่ทำมาจากทองคำถึงแม้อายุของมันจะไม่สูงมาก แต่สภาพถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ฉันพอใจมากจุนเหยาหยิบของแล้วเดินออกไป ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงผิดหวัง “ไม่พูดอะไรสักคำหน่อยเหรอ ได้ของแล้วก็จะไปเลยงั้นสิ?”“ธุระเสร็จแล้ว จะให้พูดอะไรอีกล่ะ” ร่างเล็กเอ่ยตอบ พลันสาวเท้าออกไปโดยไม่หันหลังกลับชายวัยกลางคนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อ
หรงเฉิงเป็นสถานที่ที่มีวัฒนธรรมสอดแทรกลึกซึ้งมาก ทั่วทุกที่ล้วนมีกลิ่นอายสมัยโบราณแตกต่างจากเมืองซานเฉิง พวกเรามาถึงสวนสไตล์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงในเขตชานเมืองเฉิงซีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าจะต้องจ่ายค่าบัตรผ่านประตูคนละหนึ่งแสนหยวน ฉันรู้สึกเจ็บใจแต่ก็ยื่นเงินจ่ายอย่างไวทันทีที่เข้าไปข้างใน ร่างบางก็เปิดห้องไลฟ์สด หวางหลูจือก็กำลังออนไลน์อยู่งานแลกเปลี่ยนได้เริ่มขึ้นแล้ว คนที่มาเข้างานร่วมงานนั้นมากหน้าหลายตาปะปนกันไป มีผู้มีพลังวิเศษ ผู้ฝึกวิชา ผู้ฝึกฌาน และยังมีคนธรรมดาที่รีบร้อนแสวงหายาอายุวัฒนะ แถมบางคนก็เอาเครื่องปรุงยาจีนของตัวเองมาเร่ขาย“คุณผู้ชายและคุณผู้หญิงท่านนี้ ผมมีดอกหมาป่าเดียวดาย พวกคุณสนใจไหมครับ?” ชายปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิงเดินเข้ามาเอ่ยทักเราดอกหมาป่าเดียวดายเหรอ? ไม่เคยได้ยินเลยอ่ะฉันจึงตอบกลับ “เอาสินค้าให้ฉันดูก่อนค่ะ”ชายปากแหลมแก้มตอบยื่นตลับหยกในมือให้ร่างเล็กเปิดดู พลันดวงตาคมก็เปล่งแสงขึ้นมาทันที ดอกหมาป่าเดียวดายอะไรกันล่ะ นี่มันดอกซิเรียสดาวตกชัด ๆ! ดอกไม้นี้เป็นตัวยาหลักในการกลั่นโอสถวิญญาณ“ต้นนี้ก็ไม่เลวนะ คุณขายเท่าไหร่คะ?” ฉันถามกลับช
“เหอ เหอ หลอกคนอื่นไว้เยอะขนาดนั้น ในที่สุดกรรมก็ตามสนอง สมน้ำหน้า!”“ฝีมือใครกัน?”“โธ่ พวกคุณนี่ไม่รู้อะไรเลย ทำไมสิบแปดมงกุฎคนนี้ถึงได้หลอกลวงอยู่ที่นี้มาเป็นเวลาหลาย ๆ ปีได้? ก็เพราะว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับหุบเขาโอสถราชันน่ะสิ”ฉันอดไม่ได้ที่จะถามถังหมิงหลี “หุบเขาโอสถราชันคืออะไรเหรอ?”แต่ถังหมิงหลียังไม่ทันได้ตอบ ผู้เฒ่าหยางก็แย่งพูดเสียก่อน “หุบเขาโอสถราชันคือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการแพทย์แผนจีนของประเทศจีน ว่ากันว่าตอนนี้มีอยู่ห้าท่าน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นมือหนึ่งของประเทศ สามในห้าเป็นลูกศิษย์ของหุบเขาโอสถราชัน ส่วนอีกสองคนมีความสัมพันธ์ซับซ้อนกับหุบเขาโอสถราชัน โอสถวิญญาณมากมายหลายชนิดมีต้นกำเนิดจากหุบเขาโอสถราชัน ดังนั้น กลุ่มผู้มีพลังวิเศษมากมาย ตระกูลผู้ฝึกวิชา หรือแม้แต่หน่วยเฉพาะกิจล้วนต้องการซื้อยาวิเศษนี้กันทั้งนั้น สุดท้าย ตำแหน่งที่ตั้งของหุบเขาโอสถราชันจึงอยู่เหนือข้อพิพาทใดใดทั้งสิ้น รวมถึงงานแสดงสินค้านี้ หุบเขาโอสถราชันก็เป็นคนจัดมันขึ้นมา”ฉันถามด้วยความแปลกใจ “ในเมื่อเขามีความเกี่ยวข้องกับหุบเขาโอสถราชัน แล้วทำไมคุณยังกล้าทำร้ายเขาล่ะ?”ผู้เฒ่าหยา
“แก แกอย่ามาใส่ร้ายคนอื่นนะ!” ผู้จัดการคำรามด้วยความโกรธแค้นสุดขีด “เอ้า พวกแกงงอะไรกันอยู่ล่ะ ยังไม่รีบไปจับพวกก่อความวุ่นวายสองคนนั้นอีก!”“หยุด!” เสียงเข้มงวดเสียงหนึ่งดังขึ้น ผู้จัดการจึงหันไปพูดกับชายในสุดสูทจงซานด้วยใบหน้าซีดเซียว “คุณหลี่ ท่านมาแล้วถึงเหรอครับ? คนพวกนี้มันวางยาพิษคนในงานจัดแสดงสินค้า ผมกำลังจัดการอยู่ครับ ท่านเข้าไปดื่มชาก่อนนะครับ รอผมจัดการพวกมันเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะส่งตัวพวกมันให้ท่านเป็นคนตัดสินนะครับ”คุณหลี่กวาดสายตามองที่พวกเราไปมา และไปจบที่เจ้าลิงภูเขาที่นอนชักอยู่บนพื้น “เขาเป็นใคร?”“เขา เขาแซ่โหวครับ” ผู้จัดการเดินไปข้างหน้าและตอบเสียงเบา “เขาเป็นพี่เขยของคุณเหยียนมู่เฉิงครับ”ฉันกระซิบถามถังหมิงหลี “เหยียนมู่เฉิงคือใครเหรอ?”“เหยียนมู่เฉิงเป็นหมอของหุบเขาโอสถราชัน” ถังหมิงหลียิ้มเหยียด “หมอเกรดต่ำสุด”คุณหลี่ขมวดคิ้วแน่น “ก็แค่หมอเกรดต่ำสุดของหุบเขาโอสถราชัน พวกคุณยอมให้พี่เขยของเขาทำตามอำเภอใจในงานแสดงสินค้างั้นเหรอ?”ใบหน้าของผู้จัดการซีดเผือด ศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อโชก สำหรับพวกเขาแล้ว คนนอกเหล่านี้ หรือแม้แต่หมอที่อยู่ชั้นต่ำสุดของย่าวหวงกู
เธอหยุดชั่วคราวและกล่าวอย่างยิ้ม ๆ อีกครั้งว่า “ฉันยังมีคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลอีกข้อหนึ่ง หวังว่าคุณหยวนจะตกลง”“เรื่องอะไรเหรอคะ?” ฉันไม่พอใจเล็กน้อยกับสายตาที่มีความดูถูกเหยียดหยามของเธอ แต่ฉันก็ยังถามอย่างเก็บอารมณ์เธอพูดว่า “ในการไลฟ์สดครั้งนี้ มีบางฉากที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ฉันอยากให้คุณหยวนได้โปรดอธิบายให้ผู้ชมฟังในการไลฟ์สดครั้งต่อไปด้วย เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจลูกเทียนของเราผิด”ใจของฉันสงบลงและรอยยิ้มบนใบหน้าได้เปลี่ยนเป็นไม่เต็มใจเล็กน้อย “คุณนายเสวีย การไลฟ์สดของฉันเป็นการไลฟ์สดจับผีไม่ใช่การไลฟ์สดเกี่ยบกับความรู้สึก”คุณนายเสวียพูดอย่างสุภาพแต่ไม่ยอมปฏิเสธ “ฉันก็กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของคุณเหยาเหมือนกัน ถึงอย่างไรคุณก็เข้าใจสถานะของตระกูลเราในเมืองจินหลิงชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเกิดทำให้คนอื่นเข้าใจคุณเหยาผิดว่าประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”สีหน้าของฉันเย็นลงมา นี่เป็นการเปลี่ยนวิธีที่จะบอกว่าฉันกำลังประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลฉันยิ้มจาง ๆ “คุณนายเสวีย ไม่รู้ว่าคุณชายเสวียเคยบอกคุณไหมว่าฉันเป็นคนรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดี”คุณนายเสวียตะลึงไปคร
ยังไม่ถึงสองวัน ชาวเน็ตผู้หญิงที่ซื้อสบู่ทำมือเหล่านี้ไปก็มาโพสต์ที่หมวดยา พวกเธอพูดอย่างตื่นเต้นว่าสบู่ทำมือนี้ใช้ดีมาก ๆ พึ่งจะใช้ไปไม่กี่วันสภาพผิวก็ดีขึ้นมาก ริ้วรอยตรงขอบตาและมุมปากต่างก็ตื้นขึ้นเยอะด้วยมีหญิงสาวนักรบสายขาวคนหนึ่งบอกว่าบนใบหน้าของเธอมีสิวเยอะมาก เมื่อก่อนนี้เธอใช้เครื่องประทินผิวเยอะเยอะหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้ผล และนั่นทำให้เธอเป็นทุกข์มาก ๆ แต่หลังจากที่เธอได้ใช้สบู่ทำมือ สิวบนใบหน้าของเธอก็หายไป และไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นมาอีก เธอยังปล่อยภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังออกมาเป็นพิเศษอีกด้วยในไม่ช้า สบู่ทำมือนี้ก็ถูกอัปโหลดลงบนนักเล่นแร่แปรธาตุเน็ตเวิร์กทั้งหมด และนักเล่นแร่แปลธาตุผู้หญิงจำนวนมากต่างก็ฝากข้อความต้องการจะซื้อไว้ทางบริษัทเครื่องสำอางก็มีผลตอบรับกลับมาว่าได้กำหนดสูตรสบู่ทำมือแล้วสามชนิด ชนิดที่หนึ่งคือ กลิ่นหอมของหอมหมื่นลี้ที่ใช้สำหรับขาวใส ชนิดที่สองคือกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ที่ใช้สำหรับป้องกันสิว และอีกหนึ่งชนิดก็คือกลิ่นหอมของว่านหางจระเข้ที่ใช้สำหรับให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษผลลัพธ์ของทั้งสามชนิดต่างก็ดีมาก ๆ และทีมผู้บริหารของบริษัทก็พร้อมที่จะทำ
เมื่อมองดูรถของพวกเขาหายไป ฉันก็แอบถอนหายใจในใจ ถึงแม้ว่าคุณนายเสวียจะลืมช่วงความตายของคุณชายเสวียไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่เหมือนโดนกรวยแหลมคมแทงทะลุเข้าไปในใจก็ยังฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของเธอฉันยักไหล่ ถึงอย่างไรฉันก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันไม่สามารถขอให้ทุกคนมาชอบตัวเองได้หรอกร่างบางกลับมาถึงห้องก็นอนหลับอย่างสบายใจ จนเช้าวันรุ่งขึ้นก็โดนปลุกให้ตื่นโดยเสียงเคาะประตูอย่างแรงฉันหาวหวอดพลางเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก็เห็นถังหมิงหลียืนอยู่นอกประตู เขาถือกระเป๋าสัมภาระธรรมดาใบหนึ่ง เขาหน้าซีดเผือดมาก ราวกับว่าไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืนเพราะรีบกลับมาเมื่อเขาเห็นฉันก็รีบโผเข้ามากอดไว้แน่น ทำให้ใบหน้าของฉันฝังอยู่ที่คอของเขาอย่างแรงและเขาก็พูดขึ้นทันที “ก่อนหน้านี้ฉันอยู่บนเกาะหิมะตลอด ฉันไม่รู้เลยว่าเธอว่าได้เจอกับอันตรายแบบนั้น ไม่อย่างนั้นฉันต้องรีบกลับมาช่วยเธอโดยเร็วที่สุดแน่นอน”ฉันยิ้มออกมา “เป็นเพราะอย่างนี้เองเหรอ วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไร”เขาจับหน้าของฉันไว้แล้วก้มหน้าลงจูบอย่างเร็วฉันตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วรีบผลักเขาออก พลันพูดอย่างร้อนใจ “นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”“ใช่ ฉันบ้าไปแ
พลังที่เก้าเอ่ยแทรก “หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ที่จริงผีตัวนี้มีชีวิตและมีเนื้อหนัง แค่เนื้อหนังของมันก็คือทั้งหมดของโรงเรียนแห่งนี้เท่านั้นเอง”ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางยังกล่าวอีกว่า “ฉันไม่ได้เจอผีที่มีเลือดเนื้อในร่างกายมนุษย์แบบนี้มาหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังมีอยู่ในโลกมนุษย์”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถึงแม้ว่าในตอนนี้ในโลกมนุษย์จะขาดแคลนพลังปราณ แต่อารมณ์เจ็ดอายตนะหกของผู้คนก็ยังแข็งแกร่งมากขึ้น” พลังที่เก้าพูดขึ้น “ผีก็มากขึ้นเรื่อย ๆ”หัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ก้อนนั้นเริ่มเผาไหม้และควันหนาค่อย ๆ ลอยออกมา ผีใบหน้าสีดำตัวนั้นเผยหน้าตาที่แสนเจ็บปวดออกมา พลันกำแพงรอบ ๆ ก็เริ่มลุกไหม้ขึ้นมา เปลวไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วและพวกเราก็ได้วิ่งออกมาจากโรงเรียนแห่งนั้น อาคารร้างทั้งหลังล้วนจมลงไปในเปลวไฟ ริ้วลิ้นแห่งเปลวไฟยังกระโจมอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าฉันจะเห็นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปในอากาศด้วยแสงไฟ“อ๊าก!” ในที่สุดผีใบหน้าสีดำก็ปรากฏขึ้นมาในเปลวไฟ มันโดนไฟเผาจนเล็กลงเรื่อย ๆ และมองไม่เห็นอีกต่อไปฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกยาว ๆ ในที่สุดก็จบลงแล้ว จะไม่มีเกมส์แห่งความตายอีกต่อไปแล้ว และก
เมื่อมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เปื้อนเลือดของคุณชายเสวีย ในใจของฉันก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาเป็นพัก ๆ[เป็นไปไม่ได้มั้ง คุณเสวียตายแล้ว?][จะเป็นไปได้ยังไง ถึงแม้ว่าคุณเสวียจะมาเข้าร่วมไลฟ์สดแค่ชั่วคราว แต่จะตายง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร? เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้เชียวนะ][ใครบอกว่าจะไม่มีคนตาย? ทุกครั้งที่แอดมินไลฟ์สดล้วนอันตรายมาก แต่ก็ยังเอาชีวิตรอดจากภัยอันตรายมาได้หลายครั้ง เมื่อก่อนที่จอมเผด็จการไม่ตายก็แค่โชคดีมากเท่านั้นเอง พวกคุณคิดว่าพวกเขาจะมีรัศมีของตัวเอกจริง ๆ เหรอ?][แอดมิน ฉันคือคนใช้ของครอบครัวคุณเสวีย เมื่อสักครู่แม่ของเขาก็ดูไลฟ์สดอยู่ แต่ตอนนี้ได้เป็นลมหมดสติไปแล้ว คุณเตรียมใจรอรับความโกรธของตระกูลเสวียได้เลย][คนข้างบนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งชาวบ้าน ถ้าพวกคุณมีความสามารถก็ไปจัดการกับผีใบหน้าเองสิ จะระบายอารมณ์ใส่แอดมินทำไม?][แอดมิน...จะมีชีวิตกลับมาไหม?]ขณะนี้ในใจของฉันว่างเปล่า ฉันคุกเข่าลงบนพื้นและกอดหัวของเสวียห้าวเทียนไว้ ทั้งยังรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วร่างกายฉันและคุณชายเสวียไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่เขากับฉันได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาในเกมส์แห
เพี๊ยะ เพี๊ยะ! ไฟในเมรุเผาศพดังขึ้นและลัดวงจร กระแสไฟฟ้ารวมตัวกันในมือของฉันจนกลายเป็นก้อนใหญ่ [ว้าว ใช้กระแสไฟฟ้าหนึ่งแสนโวลต์ควบแน่นเป็นสายฟ้าก้อนกลม แอดมินเธอเก่งขั้นเทพเลยอ่ะ] [แรงดันไฟฟ้าสูงเท่าหนึ่งแสนโวลต์ที่ไหนกัน!] [ฉันพูดเกินจริงไม่ได้เหรอ? คุณจะยุ่งเกินไปแล้ว?] “คุณเสวีย หลบไปเร็วเข้า!” ฉันตะโกนเสียงดังแล้วโยนกระแสไฟฟ้าในมือออกไป ตูม! เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น กระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าใส่ร่างของผีกองกอย ร่างของมันเปล่งแสงสีม่วงออกมาและส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ป่า แต่สุดท้ายร่างกายก็ไหม้กลายเป็นศพไหม้เกรียม “เร็วเข้า เอามันเข้าไปในเตาเผาศพ!” ฉันและเสวียห้าวเทียนอดทนต่อกลิ่นเหม็นเน่าเพื่อยกผีกองกอยขึ้น แล้วรีบเข้าไปในห้อง พร้อมเปิดเตาเผาศพและโยนศพเข้าไป บึ้ม! ในเตาเผามีเปลวไฟลุกโชนออกมา ผีกองกอยดิ้นทุรนทุรายอย่างดุเดือด ฉันตะโกน “ปิดประตู!” ประตูเตาเผาได้ปิดลงเสียงดังปัง เสียงดิ้นรนดังออกมาจากด้านใน ศพถูกเผาเป็นเวลานานมากก่อนที่จะหยุดลง และท้ายที่สุดก็มีเศษกระดูกออกมาจากรูด้านหลัง กระดูกไม่ได้ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด แต่เผาแล้วกลายเป็นเศษเล็ก ๆ พวกมัน
[เพื่อเงินเพียงเล็กน้อย แต่เขากลับฆ่าพ่อของตัวเอง ช่างน่าเศร้าจริง ๆ] [มีลูกชายแบบนี้ มิน่าล่ะพ่อของเขาถึงได้โกรธทะยานขึ้นจนศพเปลี่ยนไป] [จะไปโทษใครได้? นอกจากตัวเขาเอง ใครบอกให้เขารักลูกชายมากเกินไปล่ะ? รู้จักแต่เลี้ยงแต่ไม่รู้จักอบรม นั่นเป็นความผิดขอพ่อแม่] ในห้องไลฟ์สดมีการโต้เถียงทุกแบบอย่าง ผีดิบฟางเหวินตัวนั้นกระโดดออกมาจากโลงศพ โลงศพเป็นโลงไม้เนื้อแข็งแบบดั้งเดิม และสูงพอ ๆ กับไหล่ของผู้ใหญ่ แต่มันสามารถมันกระโดดออกมาได้ในพริบตา ในตอนนั้นเอง ร่างกายของฟางเหวินก็เริ่มมีขนงอกออกมาอย่างรวดเร็ว เขามีขนปุกปุยราวกับลิงอุรังอุตังที่เป็นบรรพบุรุษ [ผีกองกอย! นี่มันผีกองกอยจริง ๆ!] [ผีกองกอยเป็นกระดูกเหล็กทองแดงในตํานาน! มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว กระโดดขึ้นอาคารบ้านเรือนไปบนต้นไม้ กระโดดโลดเต้นราวกับบิน ไม่กลัวไฟธรรมดา หรือแม้แต่แสงอาทิตย์] [ข้างบนมีความรู้เยอะจัง] [ไร้สาระ เว็บไป๋ตู้ก็เขียนเอาไว้แบบนั้น] ฉันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาถูกลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าตาย ลูกชายก็อกตัญญู และมักจะด่าทอเขา เขามีความคับข้องใจมาเป็นเวลานาน แถมลูกชายก็ไม่ได้จัดงานศพให้ หลังจ
ฉันถามถึงที่อยู่และเรียกแท็กซี่กับเสวียห้าวเทียน จนมาถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฝางเจีย เมืองนี้ค่อนข้างหดหู่กว่าเมืองชิงหยาง มีเพียงคนแก่ใกล้วาระสุดท้ายที่นั่งอาบแดดอยู่หน้าประตู เราสอบถามเกี่ยวกับโรงฌาปนกิจศพในเมืองฝางเจีย วันนี้ไม่มีการจัดงานศพ ภายในนั้นเงียบมาก และมีชายชราคนหนึ่งกําลังกวาดพื้น “ขอถามหน่อยค่ะ คุณคือผู้เฒ่าฟางใช่ไหมคะ?” ฉันก้าวไปข้างหน้าและถามเขาทันที เขามองฉันอย่างระมัดระวังพลางกล่าว “คุณมีธุระอะไร?” “เมื่อสองวันก่อน มีช่างขนศพพาศพหกศพมาค้างคืนที่นี่ใช่ไหมคะ?” ฉันถาม ความระแวดระวังในดวงตาของชายชรายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น “ผมจําไม่ได้แล้ว” พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป เสวียห้าวเทียนเดินไปข้างหน้าและจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้ “ผู้เฒ่าฟาง อย่าเพิ่งรีบไปสิ มาคุยกับพวกเราเถอะครับ” พร้อมกันนั้น เขาก็ยัดธนบัตรสีแดงสองใบใส่มือชายชราไปด้วย เขาลังเลเล็กน้อยและกำธนบัตรสีแดงไว้ ก่อนจะกล่าว “คุณต้องการถามอะไร?” เสวียห้าวเทียนยิ้มบาง “เราแค่อยากรู้ว่าในโลงศพทั้งหกศพนั้นบรรจุอะไรไว้” “แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? แน่นอนว่าต้องเป็นศพอยู่แล้ว” ตาแก่ฟางพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ฉันยิ่งงงเข้าไปใหญ่ การที่ภูตผีจากโรงเรียนมัธยมหวนซานนี้ รวบรวมเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นจริงไว้มากมายเพื่อทดสอบคนอื่น ที่แท้เพราะอะไรกันแน่นะ? เขาวางแผนอะไรอยู่นะ? จริงสิ! ความกลัวไงล่ะ! ความกลัวที่พวกเราประสบในมิติวิญญาณจะกลายเป็นแหล่งพลังงานของมัน ทําให้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมภูตผีถึงชอบทำให้คนกลัว หลังจากที่มนุษย์หวาดกลัวแล้ว พลังหยางจะถูกทําลาย ทำให้ถูกสิงได้ง่ายขึ้น แต่ภูตผีบางชนิดสามารถดูดซับความกลัวได้ เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น พอดึกขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีเสียงกรนดังมาจากห้องเวร ตอนแรกฉันว่าจะไปผนึกศพพวกนี้ก่อน แต่ตัวอักษรเลือดพูดถึงผีดิบที่ฆ่าศพฟื้นคืนชีพ ถ้าฉันฝืนเปลี่ยนเค้าโครงเรื่อง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้จะดีกว่า พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และเป็นตอนที่พลังหยินพลุ่งพล่านที่สุด พระจันทร์เสี้ยวสีแดงเลือดดวงนั้นสว่างจนแสบตาเป็นพิเศษ ฉันสอนวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เสวียห้าวเทียน โดยการปิดปากและจมูก เพื่อให้ผีดิบไม่ได้กลิ่นมนุษย์บนตัวเรา ทันใดนั้นกลิ่นอายวิญญาณก็พวยพุ่งออกมาจากในห้อง ศพทั้งหกพลันลืมตาขึ้นมาพร้อ