เอกดนัยอุ้มร่างเล็กจิ๋วของเมียที่เขาไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะให้เป็นมายังรถของเขา เมื่อมาถึงลูกน้องของเขาก็เปิดประตูทันที...ตุ๊บ!!!" เข้าไป!!" เอกดนัยโยนร่างของยัยผู้หญิงหน้าเงินคนนี้เข้าไปในรถทันที เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งสิ้น เขาสั่งให้ลูกน้องของเขาขับรถไปยังเซฟเฮ้าส์ของเขาทันที... แพทตี้ยังคงนั่งเงียบไม่พูดไม่จา เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา เธอไม่รู้จะเริ่มยังไง เธออุตส่าห์หนีเขาแล้ว เธอหนีมาได้ตั้งเกือบสามอาทิตย์แล้ว.. แต่วันนี้เธอกลับดวงซวย ไม่รู้ว่าวันนี้เธอก้าวเท้าไหนออกจากบ้านกันแน่...มันเลยทำให้เธอต้องมาเจอกับเขา... " ร่านนักนะ อยากมีผัวใหม่มากนักใช่ไหม... รอไปก่อนเถอะยัยปลิงดูดเงิน... รอให้หย่ากันก่อนก็แล้วกัน รอให้ฉันใช้เธอให้คุ้มค่ากับเงินที่พ่อฉันเสียไปก่อนก็แล้วกัน... เมื่อนั้นฉันจะทำให้เธอได้อับอายขายขี้หน้าผัวใหม่เธอเอง..." เอกดนัยบีบไปที่แขนของผู้หญิงหน้าเงินคนนี้อย่างแรง... เขาโมโหมากที่เห็นยัยนี่ยืนยิ้มหน้าบานให้กับผู้ชายคนอื่น.. ยัยนี่ไม่มีสิทธิ์ที่จะหัวเราะหรือมีความสุข....แพทได้แต่เก็บกลั้นความรู้สึกเจ็บของเธอ ไม่ว่าจะเป็นที่แขนหรือที่ขา และไหนเมื่อครู่เธอล้มล
ทันที่รถเคลื่อนที่มาถึงจุดหมายปลายทาง แพทตี้ก็ถูกเขาลากลงมาจากรถทันที..." เจ็บค่ะ... เบาๆหน่อยได้ไหมคะฉันเจ็บ" แพทตี้ทำได้แค่ร้องขอแต่เขาจะทำตามรึเปล่า.... เธอก็ไม่อาจรู้ได้..." เรื่องมาก..." เอกดนัยตะคอกออกไปเสียงดังพร้อมกับคว้าร่างเล็กของยังผู้หญิงหน้าเงินคนนี้.... เขาเห็นท่าทางที่ยัยนี้เดินแล้วก็หงุดหงิดดังนั้นการแบกคงจะเป็นทางเดียวที่เขาต้องทำ...หมับ!!! ว๊ายยยยแพทตี้ถึงกับหลุดอุทานออกมาเพราะความตกใจ ตอนแรกเขาฉุดกระชากเธออย่างบ้าคลั่ง แต่ตอนนี้อยู่ๆเขาก็แบกเธอพาดไว้ที่บ่าหนาและแข็งแกร่งของเขา..."ปล่อยนะ... ปล่อยฉันนะคุณเอกดนัย ฉันอยากกลับบ้าน... พาฉันกลับไปบ้านที...." น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเชิงร้องขอและขอความเห็นใจถูกใช้ออกมาเธอต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เขาเห็นใจและสงสารเธอให้ได้... เธอไม่อยากอยู่ที่นี่...." หุบปากของเธอซะก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวแล้วจับเธอโยนลงน้ำ...." น้ำเสียที่เรียบถูกเอ่ยออกมาจากปากของเขา ยัยนี่ทำให้เขาโมโหหลายเรื่องแล้วนะ ตึกตึกตึก.....ตุ๊บ!!" โอ๊ย... อู้ย....." เสียงโอดโอยจากปากเล็กจิ้มลิ้มดังออกมาทันทีที่ชายร่างยักษ์โยนเธอลงบนเตียงคิงไซซ์ เขาไม่มีความปรานีต่อ
ตั้งแต่วันที่เขาลากเธอออกมาจากโรงแรมนี่ก็เข้าสู่วันที่สิบแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องงานของเธอแล้ว... เธอคงจะโดนไล่ออกแล้ว และต่อไปเธอจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายหนี้คุณลุงภพกูล....แพทตี้นั่งคิดเรื่องราวต่างๆไปเรื่อยจนทำให้เธอไม่ทันสังเกตว่าชายคนนั้นมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเธอ เธออยู่ในบ้านหลังนี้ของเขาโดยไม่ได้ออกไปไหน ได้เห็นก็แค่แสงตะวันที่มันสาดส่องเข้ามาในตัวบ้าน และท้องฟ้าที่มืดครึ้มในช่วงเย็น.. รอบบ้านเป็นกำแพงรั้วสูงมีลวดหนามขึงเอาไว้ราวกับว่าที่นี่คือคุกเอาไว้ขังเธอ.... เอกดนัยจับยัยนี่มาขังเอาไว้ที่เซฟเฮาส์ของเขาเกือบจะครบ10วันแล้ว และตอนนี้มันก็ถึงกำหนดที่เขาจะต้องกลับบ้านสักที เพราะเขาโกหกแยมออกไปว่าเขาไปทำธุระให้พ่อของเขาที่ต่างประเทศ 10วัน ดังนั้นวันนี้เขาจะต้องกลับไปที่นั่น และที่สำคัญ เขาจะพายัยผู้หญิงหน้าเงินคนนี้กลับไปด้วย..."ลุก... " และเป็นเสียงเดียวที่แพทตี้ได้ยิน เธอยังไม่ทันจะได้พูดหรือเอ่ยตอบอะไร เขาก็กระชากเธอให้ลุกขึ้นมาจากโซฟาทันที... ไม่เพียงเท่านั้นเขายังหาผ้ามามัดที่มือและปิดตาเธอเอาไว้... เธอเลือกที่จะไม่ขัดขืนหรือทำท่าดื้อดึงต่อเขา เพราะเธอรู้ดีว่าที่นี่เธอท
แพทตี้กลับมาอยู่ในนรกแห่งนี้อีกครั้ง เธอทำตัวไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่เธอได้เห็นหรือสิ่งที่เธอได้ยิน ตอนนี้เธอเป็นเหมือนทาสรับใช้ให้กับคนพวกนั้น เธอไม่มีรายได้ เธอไม่มีเงินเข้ามา เธอมีเพียงเศษเงินที่หลงเหลือจากการไปจับจ่ายตลาด เพียงแค่ครั้งละสิบ ยี่สิบบาท และทุกครั้งที่เธอไปซื้อของสด ผู้ชายคนนั้นก็จะให้คนของเขาเดินประกบเธอไปด้วยทุกครั้ง มีบ้างเป็นบางครั้งที่เธอมองเห็นน้ำขิงจากไกลๆ เธออยากจะขอความช่วยเหลือ แต่น้ำขิงก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากตีเนียนมายืนใกล้ๆและทำทีว่าน้ำขิงเลือกซื้อของ และถามเธอบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่ค่อยแน่ใจ เธอทำได้แค่ใช้สายตาเพื่อเป็นการสื่อสารว่ามีคนอยู่กับเธอ บ่อยครั้งที่เธอสัมผัสไปที่มือของน้ำขิงเพื่อเป็นการปรามไม่ให้น้ำขิงทำอะไรบู่มบ่าม... มีบ้างเป็นบางครั้งที่เธอคุยกับน้ำขิงผ่านทางคนขายผักขายหมูเธอไม่สามารถพูดคุยได้ตามปกติเพราะคนของเขาตามติดเธอแจ เธอแทบจะไม่มีช่องว่างให้พูดคุยกับน้ำขิงเลยสักนิด...." แยมอยากกินข้าวต้มกุ้ง เธอไปทำให้แยมกินที..." อยู่ๆเอกดนัยก็เริ่มเบื่อกับแยม เขาไม่รู้สิว่าทำไมช่วงนี้แยมชอบทำตัวน่ารำคาญใส่เขา เขามีงานที่ต้องทำ เขามีสิ่งที่ต้อง
เอกดนัยลากแยมขึ้นมาบนห้องนอน ครั้งนี้เขาคิดว่าแยมทำเกินไป เขาไม่คิดเลยว่าแยมจะทำแบบนี้ ปกติเขาไม่เคยห้ามเลยสักนิดถ้าแยมอยากจะกลั่นแกล้งยัยบ้านั่น แต่ครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ สิ่งที่แยมทำคือการเทข้าวต้มร้อนๆราดลงไปที่หัวของคนอื่น.. ใครๆก็รู้ว่ามันร้อนมากแค่ไหน เพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาก็สามารถเห็นรอยแดงที่ใบหน้าของยัยผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นได้ และไหนแรงตบที่แยมฝากไว้บนหน้าเล็กๆของยัยนั่นอีก.... มันยิ่งทำให้ใบหน้านั่นแดงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว...." แยม... ครั้งนี้แยมทำเกินไปนะ พี่จะให้คนของพี่ขับรถไปส่งแยมที่บ้าน ถ้าแยมยังคิดไม่ได้ก็อย่ามาหาพี่อีก ถึงแม้ว่าพี่จะตามใจแยมมาตลอด พี่ไม่เคยว่าเลยสักครั้งที่แยมกลั่นแกล้งผู้หญิงคนนั้นพี่ไม่เคยคิดจะห้ามแยมเลย แต่ครั้งนี้มันเกินไป แยมทำเกินไป แยมกลับไปสงบสติอารมณ์ที่บ้านของแยมก่อน ถ้าเมื่อไรแยมคิดได้ คิดว่าสิ่งที่แยมทำมันไม่ดี และมันผิดจริง แยมก็กลับมาขอโทษยัยนั่นซะ..." เอกดนัยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบแต่จริงจัง ทุกคำพูดของเขาคือสิ่งที่เขาคิดไว้แล้ว ถ้าแยมยังคิดไม่ได้ ยังไม่ยอมรับความผิดของตัวเองในวันนี้ ก็อย่างพึ่งมาหาเขาเลย " ไม่ค่ะ แยมไม่ไป แยมเกลี
เอกดนัยได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องของเขาที่เขาให้ตามยัยผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นไป มันโทรมาบอกเขาว่า พิมาญา หนีไปแล้ว... แค่นั้นเอง... แค่คำว่าหนี... มันก็ทำให้เขาถึงกับคลั่ง ถ้าไม่เพราะแยมบอกว่ามีจะฆ่xตัวตายเพราะกลัวว่าเขาทิ้งเธอล่ะก็.... เขาไม่มีทางปล่อยให้ยัยนั้นออกไปไหนมาไหนกับลูกน้องหน้าโง่เด็ดขาด...ผลัวะ... ผลัวะ... ผลัวะ.....แฮ่กๆ....เอกดนัยรีบบึ่งรถออกมาจากบ้านของแยมทันที เพียงแค่ได้ยินจากได้ลูกน้องหน้าโง่ว่ายัยนั่นหนีไปได้ เขาก็ไม่สนใจห่าเหวอะไรอีกแล้ว... " มึงมันโง่... ผัวะ.... มึงมันโง่!!" ผลัวะ .... อั๊ก....เอกดนัยทั้งเตะทั้งต่อยลูกน้องของเขา จนสภาพมันไม่เหลือเค้าโครงของคนที่หน้าตาดีหลงเหลืออยู่เลย....'ผมยืนเฝ้าเธออยู่ตลอดครับคุณเอกดนัย... แต่เภสัชกรบอกว่าจะขอค้นตัวเธอ... ผมทำอะไรไม่ได้ เพราะเภสัชกรคนนั้นบอกว่าคุณแพทเธอยัดของเขาไปที่ชุดชั้นใน...' คำอธิบายของลูกน้องถูกเอ่ยออกมาเพื่อที่จะได้อธิบายให้เจ้านายได้รับรู้..." กูถึงบอกไงว่ามึงมันโง่ ยัยนั้นมันไม่เคยขโมยของ มึงมันโง่!!! " ผลัวะ.... อั๊ก....โถ่เว้ย!!เอกดนัยแทบจะเป็นบ้าตาย หลังจากที่เขาได้ยินข่าวว่ายัยนั่นหนีไปได้
แพทตี้ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพียงแค่เธอมาถึงหน้าหมู่บ้านของน้ำขิงเธอก็เห็นพี่ครามมายืนรออยู่ และเพียงแค่เธอก้าวลงมาจากแท็กซี่ พี่ครามก็รีบถลาตัวมากอดเธอเอาไว้แนบอกทันที...." ไม่เป็นไรแล้ว.. ไม่เป็นไร.. ยัยน้องโทรมาบอกพี่แล้ว... เรารีบไปกันเถอะ... ไม่ต้องกลัวไปอยู่กับพี่นะ จะไม่มีใครรู้นอกจากยัยน้อง... เราไปกันเถอะ พี่รับรองว่าที่ที่เราจะไปมันปลอดภัย..." ครามถึงกับสงสารแพทตี้ทันทีที่เห็นสภาพของสาวน้อย... ใบหน้าที่ดูก็รู้ว่าถูกทำร้ายมาโดยการถูกตบ แต่ใครตบนั้นเขาไม่รู้เลย.. และรอยแดงๆที่บริเวณคออีก... รอบนี้เหมือนว่าแพทจะผอมไปกว่าครั้งก่อนที่เห็นอีก..." ฮึก.... แพทขอโทรหาพ่อก่อนจะได้ไหมคะ...." เธอเป็นห่วงพ่อของเธอมากถ้าเธอไปอยู่ไกลๆใครจะคอยดูแลท่าน แล้วถ้าคุณลุงภพกูลรู้เข้า... ท่านจะยกเลิกคนมาคอยดูแลพ่อของเธอรึเปล่า...." ขึ้นรถก่อนๆ เราต้องรีบไป ไปโทรในรถก็ได้..." ครามต้องรีบพาแพทไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด.... เขาไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนนั้น... เอกดนัย พิจารุวรรณจะโผล่มาตอนไหนบ้างแพทตี้พยักหน้าให้พร้อมกับเดินตามไปยังรถอีกคันที่ไม่ใช่รถของน้ำขิง... เมื่อขึ้นมาแล้วเธอก็รับมือถือของพ
เอกดนัยไปเฝ้ามองเพื่อนของยัยนั้นอยู่เป็นเดือน แถมยังลงทุนซื้อบ้านในหมู่บ้านเดียวกับยัยนี่อีก เขาเริ่มไม่แน่ใจสักเท่าไรว่าทำไมยัยนี่ถึงมีเงินมากมายขนาดนี้ หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านคนมีเงิน ราคาต่ำสุดอยู่ที่8ล้าน แพงสุดก็เกือบ20ล้าน ยัยผู้หญิงคนนี้ไปเอาเงินมากมายมาจากไหนกัน หรือว่าจะเป็นเด็กเสี่ย.... ไม่ได้การ เขาจะต้องสืบให้รู้....แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้สืบหาข้อมูลความเป็นมาเป็นไปของเพื่อนยัยนั่นเลย พ่อของเขาก็ส่งเขาไปดูงานที่ภูเก็ต เขาไม่ได้อยากจะไปสักเท่าไร แต่เพียงแค่พ่อของเขาบอกว่าถ้าไม่ไปก็จะให้ไอ้ลูกเมียน้อยไปแทน ดังนั้นเขาจึงต้องไปเอง ถ้าขืนให้มันไปมันคงจะได้ฮุบสมบัติของเขาทั้งหมดแน่...เอกดนัยมาถึงสนามบินภูเก็นในช่วงเย็นๆ เขาก็ให้คนขับรถของโรงแรมในเครือ PPGroupมารับ โดยโรงแรมนี้ใช้ชื่อ The Freedom ในเครือPPGruoup ไม่ได้มีเพียงแค่โรงแรม แต่ยังมีอาหารข้าวของเครื่องใช้ อุปโภค บริโภค อาหารที่ทำส่งสายการบินใหญ่ๆระดับชาติ นำเข้าสินค้าแบรนด์หรูไฮเอนด์ต่างๆ ครอบครัวเขาเป็นคนทำทุกอย่าง จะว่ารวยหมื่นล้านก็ไม่ผิด แต่ทุกอย่างมันสมควรจะเป็นของเขาทั้งหมดโดยไม่เกี่ยวกับไอ้ลูกเมียน้อย... ดังนั้
ครอบครัวใหญ่สองครอบครัวกำลังมารอลุ้นว่าตอนนี้พวกเขาจะได้หลายชายหรือหลานสาว สองสาวบอกว่าไม่ขอตรวจเพศให้รอมาลุ้นตอนคลอดเอา และวันนี้คนเป็นปู่เป็นตาก็มาลุ้นกันที่หน้าห้องคลอดกันอย่างเนืองแน่น... ครามถูกตามให้มากรุงเทพ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากจะกลับมาสักเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อคนเป็นพ่อบอกว่ายัยน้องกำลังจะคลอดเขาก็เลยต้องรีบจองตั๋วแล้วก็มายังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังทันที....พลั่ก.... อุ๊ย...." ขอโทษครับ... ฝ้าย...." ครามถึงกับตกใจในสิ่งที่เขาเห็น... รักแรกของเขา.... เขาไม่ได้เจอรักแรกของเขาตั้งแต่ที่เธอบอกเลิกเขาไป.... จนป่านนี้... ก็เกือบ8ปีแล้ว...ฝ้ายมาเป็นพยาบาลอยู่ที่นี่เหรอ...." สวัสดีค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ..." หญิงสาวรีบทักทายพร้อมกับก้มหัวให้หนึ่งครั้งและเดินจากไปทันที...ครามเดินมายังกลุ่มคนด้วยท่าทางที่เหม่อลอย.. เขาบอกไม่ถูกว่าเขาควรจะรู้สึกยังไงดี ดีใจ? หรือเสียใจ...." มาแล้วเหรอเจ้าคราม ตอนนี้กำลังรอลุ้นอยู่เลยว่าใครจะคลอดก่อนกัน.... " พ่อตาของยัยน้องพูดขึ้น แต่เท่าเขาคิดไว้เขาว่ายัยน้องน่าจะคลอดก่อน เพราะยัยน้องท้องก่อนไม่ใช่เหรอ..." น้ำขิงต้องคลอดก่อนสิครับเพราะน้ำขิงท้องก่อนแพทเกื
หลังจากที่ภพกูลบอกกล่าวคนในวงการนักธุรกิจให้มาร่วมงานบุญในครั้งนี้ ครอบครัวของน้ำขิงก็ได้มาร่วมงานบวชของลูกชายคนโตของเขาด้วย.....โดยการบวชครั้งนี้เป็นการบวชช่วงเข้าพรรษาพอดี และลูกชายของท่านก็ขอบวชหนึ่งพรรษาหรือการบวชเอาพรรษาก็เท่ากับ3เดือน ตอนแรกท่านก็คิดว่าลูกชายเขาจะบวชหนึ่งพรรษาที่แปลว่า 1 ปี เพราะเขาคิดว่าลูกชายเขาไม่น่าจะบวชได้นานขนาดนั้น เอกดนัยที่พยายามข่มอารมณ์เอาไว้... เพราะเขากลัวว่าเขาจะเผลอด่าไอ้ผัวเมียคู่นี้... เมียมันก็คอยมาออเซาะเมียเขา ส่วนไอ้น้อยเวรมันก็คอยส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เมียเขาเช่นกัน และที่สำคัญไอ้สองผัวเมียคู่นี้มันชอบมากวนใจให้เขาแทบจะหลงลืมตัวและด่ามันออกไป แต่ติดที่ว่าเขาต้องสำรวมทั้งกาย วาจา และใจ... นี่สินะที่เขาเรียกว่า มารผจญ ก่อนบวชมักจะมีมารผจญ.. ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง เมื่อถึงเวลาที่เอกดนัยเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ทุกคนในงานก็ต่างสงบเสงี่ยมมากขึ้น... เอกภพเลือกวัดที่นอกเมืองหน่อย เพราะมันไม่ค่อยวุ่นวาย.... แต่สิ่งที่เขาคิดไว้มันกลับผิดไปหมด.....ทุกเช้าที่เขาออกมาบิณฑบาตก็มักจะมีสาวๆไม่ว่าจะเด็กสาววัยรุ่น วันกลางคน และคนแก่แม่ม่ายก็มักจะตื
หลังจากงานแต่งงานอันใหญ่โตได้สิ้นสุดลง ตอนนี้น้ำขิงและเอกภพก็พากันไปอยู่ที่ภูเก็ต เพราะเอกดนัยบอกให้ทั้งสองคนไปดูแลงานที่นั่น เพราะตอนนี้ที่ภูเก็ตขาดคนดูแลและไหนพ่อกับพี่ของยัยน้ำเน่าที่ปักหลักอยู่ที่นั่นอีก ดังนั้นมันก็เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้ไอ้สองคนนั้นกระเด็นออกจากบ้านไป เพราะเขาเบื่อขี้หน้าของสองคนผัวเมียที่คอยแต่จะเคลมเมียเขา... เขารู้หรอกน๊าว่าเมียเขาน่ะน่ารัก ถึงแม้ว่าเขาจะมองเห็นความน่ารักของเมียเขาช้าไปนิดก็ตาม แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เห็นแล้วไงจะมาวุ่นวายอะไรกันอีก..." รีบๆไสหัวกันไปได้แล้ว น่ารำคาญ" เพี๊ยะ....โอ๊ย...." เจ็บน้ำยัยหน้าเงิน!!! " เอกดนัยถึงกับร้องโอ๊ยออกมาทันทีเพราะเมียเขาฟาดลงมาที่แขนด้วยไม้พายที่กวนขนม...ดูสิแขนหักไปแล้วมั้งเนี่ย..." ทำไมคุณเอกดนัยถึงพูดแบบนี้คะ? น้ำขิงเป็นน้องสะใภ้คุณ และพี่ภพก็เป็นน้องชายคุณด้วย..." แพทตี้ล่ะไม่ชอบเลยที่คุณเอกดนัยชอบพูดจาแบบนี้ใส่น้ำขิงและพี่ภพ.." โห้... ที่มันเธอเรียกว่าพี่ ส่วนฉันเธอเรียกว่าคุณ.... น่าน้อยใจฉิบหาย..." เพียงเท่านั้นเอกดนัยก็เดินหนีออกจากห้องนั่งเล่นทันที...เอกดนัยเดินออกไปด้านนอกของตัวบ้าน จากอารมณ์
หลังจากเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในครอบครัวพิจารุวรรณ ก็มีข่าวดีเกิดขึ้นเพราะคุณภพกูลได้ไปสู่ขอหนูน้ำขิงกับพ่อของหนูน้ำขิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ค่อยยินดีสักเท่าไรนั่นก็คือน้ำขิง...." คุณจะมาเดินตามอะไรฉันหนักหนาคุณเอกภพ..." เจ้าสาวคนสวยถึงกับหน้างอคอหักเลยทีเดียว เพราะตอนนี้เจ้าบ่าวของเธอเดินตามเธอยิ่งกว่าเงาอีก..." เฮียภพ เรียกเฮียภพ... แล้วที่เดินตามเพราะว่าเธอกำลังให้พ่อของฉันและพ่อของเธอต้องเสียหน้าเพื่อเธอไม่รู้... เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะเลี้ยงลูกได้ยังไงกัน..." เอกภพถึงกับต้องถอนหายใจออกมายาวๆ "ฉันคงไม่ซวยขนาดนั้นมั้งที่จะท้องเลย..." น้ำขิงเบ้ปากใส่เจ้าบ่าวของเธอไปหนึ่งที และตอนนี้เธอเห็นแพทกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับกำลังกินอาหารอย่างสนุกสนานโดยมีไอ้คุณเอกดนัยจับนั่น ป้อนนี้ใส่ปากแพทตี้ของเธออยู่.." อิจฉาน้องแพทเหรอ? จะให้ป้อนแบบนั้นไหม.. แบบว่า.. ป้อนบนเตียง... ป้อนในห้องน้ำ... ป้อนบนโต๊ะทำงาน แบบนั้นก็คงจะอร่อยไปอีกแบบนะ.." เอกภพถึงกับรีบยียวนเมียมาดๆของเขา เพราะเท่าที่เขาเดาได้.. ยั
เสียงกรี๊ดที่ดังสะนั่นบ้านปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นและคนที่ตกใจมากที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้..."คุณทำอะไรฉัน...ห๊ะ... กรี๊ดดด...." น้ำขิงกรี๊ดสุดเสียงเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยัง..."เงี๊ยบ!! ผมบอกให้เงี๊ยบบบ " เอกภพไม่พูดเปล่าเขายังใช้ฝ่ามือของเขาปิดทับลงไปที่ริมฝีปากอวบอิ่ม.... จากการดูด และขบเม้ม... ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเขามันขนาดไหน" ถ้ายังร้องโวยวายอีกละก็...ฉันจะฆ่าหมกเตียง.. ลองดูไหมล่ะ ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตานะจะบอกให้..." น้ำขิงถึงกับต้องทำหน้ายี้เลยทันทีคนบ้าอะไรชมตัวเอง พูดเองเออเองเหมือนคนเป็นพี่ไม่มีผิด...อือ.. อือ...อือ......เอกภพค่อยๆปล่อยมือออกจากปากของน้ำขิงช้าๆ เพราะเขาคิดว่าน้ำขิงคงอยากจะพูดอะไรกับเขาเป็นแน่..." แก... ไอ้คนนิสัยไม่ดี ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้หน้าหมา ไอ้อืออออ" และนั่นก็เป็นคำสุดท้ายของน้ำขิงที่ถูกพ่นออกมาก...เอกภพไม่รอช้าเขาจูบหนักๆที่ริมฝีปากบางแต่กลับพูดมาก พูดจาไม่ดี พูดจากไม่เพราะจากแค่เขาต้องการที่จะทำโทษน้ำขิงที่พูดไม่ดีใส่เขา แต่เพียงแค่เขาจูบไปจูบมา... มันก็ทำให้อารมณ์ที่โกรธจางหายไปและแปลเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์แห่งความดิบเถื่อนชวนสยิว....น้ำขิงถึงกับทำอะไร
มื้อค่ำถูกจัดขึ้นที่ห้องอาหารใหญ่ เพราะวันนี้ลูกชายเจ้าของบ้านทั้งสองคนมานั่งร่วมโต๊ะด้วยพร้อมกับน้ำขิงแขกประจำของบ้าน แต่กว่าน้ำขิงจะหยุดโวยวายได้ก็ทำเอาเอกภพถึงกับปวดหัว...และในที่สุดมื้อค่ำก็ถูกจัดเรียงเอาไว้ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง อาหารแต่ละอย่างนั้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยแม่ครัวประจำของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆอาหารทุกจานก็จะถูกกวาดเรียบเสียจนไม่เหลือแม่แต่น้ำสักหยด ทุกคนบนโต๊ะอิ่มเอมกับอาหารตรงหน้า คนที่มีอายุมากที่สุดของบ้านก็ชวนเด็กๆรุ่นลูกคุยเรื่องต่างๆนานา คุยสัพเพเหระ และถามแขกของบ้านว่าอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งไหม แต่เขาก็ได้คำตอบมาเพียงว่าเธอไม่ต้องการ เธอชอบตำแหน่งนั้นมากกว่าเธอเรียนมาทางนี้ จะให้เธอไปทำบัญชีก็คงจะไม่ไหว เธอพอทำได้บ้างแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ถนัดเอาเสียเลย คุณภพกูลถึงกับถูกใจในคำตอบของหนูน้ำขิง ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะมีเงินมากมายจนไม่จำเป็นต้องทำงานก็สามารถมีกินได้ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะออกมาทำงานหาเงินเพื่อหาประสบการณ์ให้กับตัวเอง แบบนี้สิดี ถ้าได้มาเป็นลูกสะใภ้อีกคนก็คงจะดี....เอกดนัยจ้องมองสายตาของคนเป็นพ่อที่ดูจะถูกอกถูกใจในตัวของยัยน้ำเน่านี่
หนึ่งอาทิตย์ที่แพทมาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่โดยมีน้ำขิงอยู่เป็นเพื่อนเธอ เธอก็ถามว่าน้ำขิงไม่ไปทำงานเหรอ น้ำขิงก็ตอบว่าเธอลาได้สิบวัน นั่นก็คือสองอาทิตย์ หลังจากนั้นเธอก็จะกลับไปทำงานเหมือนเดิม แต่น้ำขิงให้สัญญาว่าเธอจะแวะมาหาทุกเย็นก่อนกลับบ้าน และวันนี้ก็มีแขกพิเศษมาที่บ้าน....แพทกับน้ำขิงอยู่ในครัวทำตัววุ่นวายกันอยู่ในครัวพร้อมกับมีลูกแมวสองตัวที่นั่งเป็นกำลังใจให้ทาสของตัวเอง แม้ว่ามันจะเน้นหลับกับกินมากกว่าการเล่นแต่ดูเหมือนว่าสองสาวก็ไม่ติดอะไรกลับยิ่งชอบในสิ่งที่พวกมันทำเสียอีก..." ทำอะไรกันอยู่ครับ..." น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังมาแต่ไกลและมันก็ทำให้สองสาวและคนอื่นๆหันไปมองยังทิศทางของเสียง...." เอ๊ะ.... คุณคนที่เคยชนกันกับฉันที่ตลาดนัดนี่คะ.." แพทจำเขาได้ คนที่ชนกับเธอที่ตลาดนัด เธอเป็นคนจำคนได้แม่นด้วยสิ... เพราะด้วยความสูงบวกกับหน้าตาของเขามันเด่นกว่าคนอื่นมันเลยทำให้เธอจำเขาได้ง่ายขึ้น.."ครับพี่สะใภ้... แต่พี่สะใภ้อายุดันน้อยกว่านี่สิ เลยไม่รู้ว่าจะแทนตัวเองว่ายังไงดี..." เอกภพยิ้มให้พี่สะใภ้ของเขาจนตาของเขาเป็นสระอิ ไม่รู้ว่าจะลำดับขั้นกันยังไงดี" อายุมากกว่าก็ต้องแทนตัวเองว่าพ
เอกดนัยมีเรื่องที่จะต้องไปจัดการดังนั้นเขาจึงฝากพิมาญาไว้กับยัยน้ำเน่าเอาไว้ เขาล่ะชังขี้หน้านัก ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องขอให้ยัยนี่อยู่เป็นเพื่อนพิมาญาล่ะก็ พอถีบออกจากบ้านไปนานแล่ว...." เดี๋ยวไปทำธุระก่อนนะยัยหน้าเงินเอ่อ.. พิ.. พิมาญา ฉันไปทำธุระข้างนอกแล้วจะรีบกลับ...." จุ๊บ....เอกดนัยจูบลงไปที่ริมฝีปากค่อนข้างแห้งของพิมาญาเป็นเพราะนอนโรงพยาบาลนานมันเลยทำให้ปากที่เคยอวบอิ่มถึงกับแตกแห้งเป็นขุย... น้ำขิงเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้.. โด่เธอก็ได้จุ๊บแพทตี้ของเธอแล้วเถอะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการขโมยจุ๊บก็ตามแต่เธอก็ได้จุ๊บแล้ว... แพทตี้พยักหน้ารับคำของคุณเอกดนัยส่งๆ เธอไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรมากนักว่าเขาจะไปไหนหรือทำอะไร ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอว่างเปล่าไปหมด ทั้งความคิดและการกระทำ...เพียงแค่เอกดนัยออกไปจากห้องนั่งเล่นน้ำขิงก็สรรหาคำพูดหรือเรื่องราวมาพูดคุยกับแพท แต่ดูเหมือนว่าแพทก็ยังคงไม่ยินดียินร้าย.. เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี เธอกลัวว่าถ้าเธอปล่อยให้แพทตี้คลาดสายตามันจะทำให้แพทตี้คิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเข้าห้องน้ำหรือหาของกินเธอก็จะลากแพทตี้ให้ต
หลังจากที่แพทตี้ไม่ได้สติไปเกือบสองอาทิตย์ เธอก็ตื่นมาพร้อมกับอาการเบลอๆ เธอไม่แน่ใจว่าเธอเป็นอะไร ร่างกายของเธอรู้สึกปวดร้าวไปหมด ตกลงแล้วเธอเป็นอะไรกันแน่....อือ...เอกดนัยที่เฝ้าพิมาญาตลอดทั้งวันทั้งคืนได้ยินเสียงครางเบาๆของใครบางคนมันก็ทำให้เขาลืมตาขึ้นมาและกวาดตามองหาเสียง แต่เขาก็ไม่พบอะไรผิดปกติเลยสักนิด...." คงแค่ฝันไป.... " เอกดนัยพึมพำอยู่คนเดียวแต่เพียงไม่นานเขาก็ได้ยินอีกครั้งและครั้งนี้มันก็ทำให้เขาดีใจจนน้ำตาไหลออกมา...หมับ!! ฮึก.... ฟอดดด" ตื่นแล้วเธอตื่นแล้วยัยผู้หญิงบ้า...ในที่สุดก็ตื่นสักที... รอแป๊บนึงนะ ฉันเรียกหมอก่อน รอแป๊บนึง..." เอกดนัยรีบกดเรียกพยาบาลและหมอให้เข้ามาในห้องของพิมาญาโดยเร็ว เพียงไม่นานทั้งหมอและพยาบาลก็มายืนเสนอหน้ากันเต็มห้องพักผู้ป่วยของพิมาญา....คุณหมอเล่าทุกอย่างให้พิมาญาฟัง เอกดนัยที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักเขาเห็นน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหล่ออกมาจากวงตากลมโตคู่นั้น... แววตาที่เคยเศร้าตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา.... เขาสงสารพิมาญา เขาจะต้องเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้... เขาสัญญาเลย...เพียงแค่หมอและพยาบาลออกไปเขาก็รีบพาตัวเองที่ยังต้องนั่งรถเข