แพทตี้มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของน้ำขิงได้สองวันแล้ว เธอไม่ได้ไปทำงานด้วยสภาพที่ไม่เป็นใจให้เธอไปทำงานหาเงิน เธอจึงขอยืมโทรศัพท์ของน้ำขิงโทรไปลางาน ทำเรื่องลาป่วย ถึงแม้ว่าทางฝ่ายบุคคลจะเรื่องมากไปหน่อย เธอจึงถ่ายรูปและส่งไปให้เขาจริงปล่อยผ่านไป "ขิงแพทฝากซื้อชุดทำงานหน่อยได้ไหม สักสามชุด อันเก่ามันขาดอ่ะ ไปฝากซักที่ร้านมา แล้วไม่รู้ว่าเขาซักรวมกับอะไรบ้าง หรืออาจจะใช้น้ำยาอะไรก็ไม่รู้ทำให้ชุดเราขาด แต่ไม่ต้องห่วงเราได้ค่าเสียหายมาแล้วถึงแม้ว่ามันไม่มากแต่ก็พอที่จะซื้อชุดทำงานใหม่ได้ ฝากด้วยนะ" ขอโทษอีกครั้งนะน้ำขิงที่ต้องโกหกอีกแล้ว " อืมๆว่าแต่ มีโทรศัพท์ใช้ไหม เอาเครื่องเก่าขิงไปใช้ก่อนก็ได้นะ มันนอนอยู่เฉยๆอ่ะ เอาไปใช้ก่อน เครื่องเก่าที่มันพังเดี๋ยวจะลองเอาไปซ่อมให้..." น้ำขิงสงสารแพทตี้มาก มันจะซวยอะไรซ้ำซ้อนขนาดนั้น ตกบรรได้ลงมาแล้วโทรศัพท์ยังกระเด็นตกลงมาพร้อมอีก... น่าสงสารจริงๆที่รักของน้ำขิง ถ้ามาเป็นแฟนน้ำขิงนะ น้ำขิงคนนี้จะเลี้ยงให้ดีเลยทีเดียว" ขอบใจนะ งั้นเราฝากขิงด้วย ถ้าเงินเดือนออกเราจะ ทยอยๆคืนให้นะ เพราะเราไม่มีเงินมากขนาดนั้น ห้ามปฏิเสธเรานะขิง แค่นี้เราก็เกรงใจขิง
แพทตี้อยู่ว่างๆที่บ้านของขิง เธอไม่รู้จะทำอะไร เพราะป้าแมวชอบห้ามเธอ ห้ามไปหมด จนในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป..." ป้าแมวค่ะ หนูเบื่อแล้วค่ะ อยู่เฉยๆมาตั้งหลายวันแล้ว วันนี้หนูขอทำกับข้าวนะคะ หนูเหง๊าเหงา... เบื่อมากๆเลยค่ะ นะคะป้าแมวคนสวย... ให้หนูช่วยก็ได้ค่ะ หนูสัญญาว่าจะไม่ดื้อไม่สนไม่แอบกินด้วย..." แพทตี้ถึงกับต้องทำตัวให้น่ารักตัวเล็กตัวน้อย...เพื่อที่จะให้ป้าแมวใจอ่อน..." ก็ได้ค่ะๆ เห็นว่าเหงาหรอกนะคะ ไม่งั้นป้าแมวไม่ให้ช่วยทำหรอก... มาค่ะ งั้นวันนี้เราทำแกงเผ็ดเป็ดย่างกัน หนูแพททำเป็นไหมคะ?" ป้าแมวผู้ที่มีความรู้ด้านอาหารระดับหนึ่งเธอเอ่ยถามสาวน้อยน่าตาน่ารักจิ้มลิ้มคนนี้อย่างใคร่รู้..."เคยได้ยินค่ะ ไม่เคยชิมไม่เคยทำด้วย แทพทำแต่กับข้าวง่ายๆ อย่างเช่นมัสมั่น พะโล้ แกงเทโพ ผัดผักรวมมิตร ฉู่ฉี่ด้วยค่ะ แพทชอบกิน คุณพ่อก็ชอบ..." น้ำเสียงช่วงสุดท้ายที่เปล่งออกไปกลับเบาราวกับเสียงลมที่พัดผ่านไป... " งั้นมาช่วยป้าแมวดีกว่า มาคะ่ จะได้เอาไปทำให้คุณพ่อหนูแพททานไงคะ ดีไหม? " หญิงสูงวัยถึงกับหาทางเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะดูๆแล้วสาวน้อยคนนี้น่าจะรักครอบครัวมาก ยิ่งคนเป็นพ่อแล้วด้วยเพียงแ
หลังจากที่ครามได้สอบถามแพทตี้เรื่องต่างๆนานา เขาก็ทำได้แค่.. นั่งรอ และช่วยป้าแมวบ้าง เพราะเอาจริงๆ เขาไม่ถนัดทำกับข้าวหรอก ได้แต่กิน และตอนนี้ก็คงจะต้องรอยัยน้องกลับมา แต่ก็คงจะอีกนานเลย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เขาจึงไปหามุมสงบๆนั่งทำงานของเขาไป แต่ในช่วงที่เขาทำงานนั้น เขาก็จะเหลือบตามองไปยังหญิงสาวตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนนั้น เธอเป็นคนหน้าเล็กๆ ผมดำยาวสลวย มือเล็กๆ ปากเล็กนั่น ดูไปมันก็เข้ากันดีไปหมด เสียงหัวเราะที่ดังออกมาเป็นระยะๆ มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและมีบ้างเป็นบางครั้งที่เขาถึงกับต้องยิ้มออกมาเพราะเสียงหัวเราะนั่น... " คุณครามคะ อยากได้ของทานเล่นไหมคะ เดี๋ยวแพทไปเอามาให้" หญิงสาวถามออกมาด้วยความใจดี อันที่จริงเธอไม่สมควรถามเลยด้วยซ้ำไปเพราะคุณครามเป็นพี่ของน้ำขิง แต่เธอนี่สิทำตัวราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง"ไม่เป็นไร เรียกว่าเฮียครามดีกว่าจะได้เหมือนยัยน้อง เราน่ะ นั่งนิ่งๆบ้าง เดินกะเผลกๆไปมาๆอยู่ทั้งวันเนี่ย... ระวังเถอะจะไม่ได้ถอดเฝือก..." ครามพูดออกไปด้วยความเป็นห่วง นี่ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งนะเขาจะตีก้อนให้เข็ดเลย" พอดีพรุ่งนี้จะไปทำงานน่ะค่ะ ต้องเร
เอกดนัยอุ้มร่างเล็กจิ๋วของเมียที่เขาไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะให้เป็นมายังรถของเขา เมื่อมาถึงลูกน้องของเขาก็เปิดประตูทันที...ตุ๊บ!!!" เข้าไป!!" เอกดนัยโยนร่างของยัยผู้หญิงหน้าเงินคนนี้เข้าไปในรถทันที เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งสิ้น เขาสั่งให้ลูกน้องของเขาขับรถไปยังเซฟเฮ้าส์ของเขาทันที... แพทตี้ยังคงนั่งเงียบไม่พูดไม่จา เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา เธอไม่รู้จะเริ่มยังไง เธออุตส่าห์หนีเขาแล้ว เธอหนีมาได้ตั้งเกือบสามอาทิตย์แล้ว.. แต่วันนี้เธอกลับดวงซวย ไม่รู้ว่าวันนี้เธอก้าวเท้าไหนออกจากบ้านกันแน่...มันเลยทำให้เธอต้องมาเจอกับเขา... " ร่านนักนะ อยากมีผัวใหม่มากนักใช่ไหม... รอไปก่อนเถอะยัยปลิงดูดเงิน... รอให้หย่ากันก่อนก็แล้วกัน รอให้ฉันใช้เธอให้คุ้มค่ากับเงินที่พ่อฉันเสียไปก่อนก็แล้วกัน... เมื่อนั้นฉันจะทำให้เธอได้อับอายขายขี้หน้าผัวใหม่เธอเอง..." เอกดนัยบีบไปที่แขนของผู้หญิงหน้าเงินคนนี้อย่างแรง... เขาโมโหมากที่เห็นยัยนี่ยืนยิ้มหน้าบานให้กับผู้ชายคนอื่น.. ยัยนี่ไม่มีสิทธิ์ที่จะหัวเราะหรือมีความสุข....แพทได้แต่เก็บกลั้นความรู้สึกเจ็บของเธอ ไม่ว่าจะเป็นที่แขนหรือที่ขา และไหนเมื่อครู่เธอล้มล
ทันที่รถเคลื่อนที่มาถึงจุดหมายปลายทาง แพทตี้ก็ถูกเขาลากลงมาจากรถทันที..." เจ็บค่ะ... เบาๆหน่อยได้ไหมคะฉันเจ็บ" แพทตี้ทำได้แค่ร้องขอแต่เขาจะทำตามรึเปล่า.... เธอก็ไม่อาจรู้ได้..." เรื่องมาก..." เอกดนัยตะคอกออกไปเสียงดังพร้อมกับคว้าร่างเล็กของยังผู้หญิงหน้าเงินคนนี้.... เขาเห็นท่าทางที่ยัยนี้เดินแล้วก็หงุดหงิดดังนั้นการแบกคงจะเป็นทางเดียวที่เขาต้องทำ...หมับ!!! ว๊ายยยยแพทตี้ถึงกับหลุดอุทานออกมาเพราะความตกใจ ตอนแรกเขาฉุดกระชากเธออย่างบ้าคลั่ง แต่ตอนนี้อยู่ๆเขาก็แบกเธอพาดไว้ที่บ่าหนาและแข็งแกร่งของเขา..."ปล่อยนะ... ปล่อยฉันนะคุณเอกดนัย ฉันอยากกลับบ้าน... พาฉันกลับไปบ้านที...." น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเชิงร้องขอและขอความเห็นใจถูกใช้ออกมาเธอต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เขาเห็นใจและสงสารเธอให้ได้... เธอไม่อยากอยู่ที่นี่...." หุบปากของเธอซะก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวแล้วจับเธอโยนลงน้ำ...." น้ำเสียที่เรียบถูกเอ่ยออกมาจากปากของเขา ยัยนี่ทำให้เขาโมโหหลายเรื่องแล้วนะ ตึกตึกตึก.....ตุ๊บ!!" โอ๊ย... อู้ย....." เสียงโอดโอยจากปากเล็กจิ้มลิ้มดังออกมาทันทีที่ชายร่างยักษ์โยนเธอลงบนเตียงคิงไซซ์ เขาไม่มีความปรานีต่อ
ตั้งแต่วันที่เขาลากเธอออกมาจากโรงแรมนี่ก็เข้าสู่วันที่สิบแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องงานของเธอแล้ว... เธอคงจะโดนไล่ออกแล้ว และต่อไปเธอจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายหนี้คุณลุงภพกูล....แพทตี้นั่งคิดเรื่องราวต่างๆไปเรื่อยจนทำให้เธอไม่ทันสังเกตว่าชายคนนั้นมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเธอ เธออยู่ในบ้านหลังนี้ของเขาโดยไม่ได้ออกไปไหน ได้เห็นก็แค่แสงตะวันที่มันสาดส่องเข้ามาในตัวบ้าน และท้องฟ้าที่มืดครึ้มในช่วงเย็น.. รอบบ้านเป็นกำแพงรั้วสูงมีลวดหนามขึงเอาไว้ราวกับว่าที่นี่คือคุกเอาไว้ขังเธอ.... เอกดนัยจับยัยนี่มาขังเอาไว้ที่เซฟเฮาส์ของเขาเกือบจะครบ10วันแล้ว และตอนนี้มันก็ถึงกำหนดที่เขาจะต้องกลับบ้านสักที เพราะเขาโกหกแยมออกไปว่าเขาไปทำธุระให้พ่อของเขาที่ต่างประเทศ 10วัน ดังนั้นวันนี้เขาจะต้องกลับไปที่นั่น และที่สำคัญ เขาจะพายัยผู้หญิงหน้าเงินคนนี้กลับไปด้วย..."ลุก... " และเป็นเสียงเดียวที่แพทตี้ได้ยิน เธอยังไม่ทันจะได้พูดหรือเอ่ยตอบอะไร เขาก็กระชากเธอให้ลุกขึ้นมาจากโซฟาทันที... ไม่เพียงเท่านั้นเขายังหาผ้ามามัดที่มือและปิดตาเธอเอาไว้... เธอเลือกที่จะไม่ขัดขืนหรือทำท่าดื้อดึงต่อเขา เพราะเธอรู้ดีว่าที่นี่เธอท
แพทตี้กลับมาอยู่ในนรกแห่งนี้อีกครั้ง เธอทำตัวไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่เธอได้เห็นหรือสิ่งที่เธอได้ยิน ตอนนี้เธอเป็นเหมือนทาสรับใช้ให้กับคนพวกนั้น เธอไม่มีรายได้ เธอไม่มีเงินเข้ามา เธอมีเพียงเศษเงินที่หลงเหลือจากการไปจับจ่ายตลาด เพียงแค่ครั้งละสิบ ยี่สิบบาท และทุกครั้งที่เธอไปซื้อของสด ผู้ชายคนนั้นก็จะให้คนของเขาเดินประกบเธอไปด้วยทุกครั้ง มีบ้างเป็นบางครั้งที่เธอมองเห็นน้ำขิงจากไกลๆ เธออยากจะขอความช่วยเหลือ แต่น้ำขิงก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากตีเนียนมายืนใกล้ๆและทำทีว่าน้ำขิงเลือกซื้อของ และถามเธอบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่ค่อยแน่ใจ เธอทำได้แค่ใช้สายตาเพื่อเป็นการสื่อสารว่ามีคนอยู่กับเธอ บ่อยครั้งที่เธอสัมผัสไปที่มือของน้ำขิงเพื่อเป็นการปรามไม่ให้น้ำขิงทำอะไรบู่มบ่าม... มีบ้างเป็นบางครั้งที่เธอคุยกับน้ำขิงผ่านทางคนขายผักขายหมูเธอไม่สามารถพูดคุยได้ตามปกติเพราะคนของเขาตามติดเธอแจ เธอแทบจะไม่มีช่องว่างให้พูดคุยกับน้ำขิงเลยสักนิด...." แยมอยากกินข้าวต้มกุ้ง เธอไปทำให้แยมกินที..." อยู่ๆเอกดนัยก็เริ่มเบื่อกับแยม เขาไม่รู้สิว่าทำไมช่วงนี้แยมชอบทำตัวน่ารำคาญใส่เขา เขามีงานที่ต้องทำ เขามีสิ่งที่ต้อง
เอกดนัยลากแยมขึ้นมาบนห้องนอน ครั้งนี้เขาคิดว่าแยมทำเกินไป เขาไม่คิดเลยว่าแยมจะทำแบบนี้ ปกติเขาไม่เคยห้ามเลยสักนิดถ้าแยมอยากจะกลั่นแกล้งยัยบ้านั่น แต่ครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ สิ่งที่แยมทำคือการเทข้าวต้มร้อนๆราดลงไปที่หัวของคนอื่น.. ใครๆก็รู้ว่ามันร้อนมากแค่ไหน เพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาก็สามารถเห็นรอยแดงที่ใบหน้าของยัยผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นได้ และไหนแรงตบที่แยมฝากไว้บนหน้าเล็กๆของยัยนั่นอีก.... มันยิ่งทำให้ใบหน้านั่นแดงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว...." แยม... ครั้งนี้แยมทำเกินไปนะ พี่จะให้คนของพี่ขับรถไปส่งแยมที่บ้าน ถ้าแยมยังคิดไม่ได้ก็อย่ามาหาพี่อีก ถึงแม้ว่าพี่จะตามใจแยมมาตลอด พี่ไม่เคยว่าเลยสักครั้งที่แยมกลั่นแกล้งผู้หญิงคนนั้นพี่ไม่เคยคิดจะห้ามแยมเลย แต่ครั้งนี้มันเกินไป แยมทำเกินไป แยมกลับไปสงบสติอารมณ์ที่บ้านของแยมก่อน ถ้าเมื่อไรแยมคิดได้ คิดว่าสิ่งที่แยมทำมันไม่ดี และมันผิดจริง แยมก็กลับมาขอโทษยัยนั่นซะ..." เอกดนัยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบแต่จริงจัง ทุกคำพูดของเขาคือสิ่งที่เขาคิดไว้แล้ว ถ้าแยมยังคิดไม่ได้ ยังไม่ยอมรับความผิดของตัวเองในวันนี้ ก็อย่างพึ่งมาหาเขาเลย " ไม่ค่ะ แยมไม่ไป แยมเกลี
เอกดนัยมีเรื่องที่จะต้องไปจัดการดังนั้นเขาจึงฝากพิมาญาไว้กับยัยน้ำเน่าเอาไว้ เขาล่ะชังขี้หน้านัก ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องขอให้ยัยนี่อยู่เป็นเพื่อนพิมาญาล่ะก็ พอถีบออกจากบ้านไปนานแล่ว...." เดี๋ยวไปทำธุระก่อนนะยัยหน้าเงินเอ่อ.. พิ.. พิมาญา ฉันไปทำธุระข้างนอกแล้วจะรีบกลับ...." จุ๊บ....เอกดนัยจูบลงไปที่ริมฝีปากค่อนข้างแห้งของพิมาญาเป็นเพราะนอนโรงพยาบาลนานมันเลยทำให้ปากที่เคยอวบอิ่มถึงกับแตกแห้งเป็นขุย... น้ำขิงเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้.. โด่เธอก็ได้จุ๊บแพทตี้ของเธอแล้วเถอะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการขโมยจุ๊บก็ตามแต่เธอก็ได้จุ๊บแล้ว... แพทตี้พยักหน้ารับคำของคุณเอกดนัยส่งๆ เธอไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรมากนักว่าเขาจะไปไหนหรือทำอะไร ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอว่างเปล่าไปหมด ทั้งความคิดและการกระทำ...เพียงแค่เอกดนัยออกไปจากห้องนั่งเล่นน้ำขิงก็สรรหาคำพูดหรือเรื่องราวมาพูดคุยกับแพท แต่ดูเหมือนว่าแพทก็ยังคงไม่ยินดียินร้าย.. เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี เธอกลัวว่าถ้าเธอปล่อยให้แพทตี้คลาดสายตามันจะทำให้แพทตี้คิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเข้าห้องน้ำหรือหาของกินเธอก็จะลากแพทตี้ให้ต
หลังจากที่แพทตี้ไม่ได้สติไปเกือบสองอาทิตย์ เธอก็ตื่นมาพร้อมกับอาการเบลอๆ เธอไม่แน่ใจว่าเธอเป็นอะไร ร่างกายของเธอรู้สึกปวดร้าวไปหมด ตกลงแล้วเธอเป็นอะไรกันแน่....อือ...เอกดนัยที่เฝ้าพิมาญาตลอดทั้งวันทั้งคืนได้ยินเสียงครางเบาๆของใครบางคนมันก็ทำให้เขาลืมตาขึ้นมาและกวาดตามองหาเสียง แต่เขาก็ไม่พบอะไรผิดปกติเลยสักนิด...." คงแค่ฝันไป.... " เอกดนัยพึมพำอยู่คนเดียวแต่เพียงไม่นานเขาก็ได้ยินอีกครั้งและครั้งนี้มันก็ทำให้เขาดีใจจนน้ำตาไหลออกมา...หมับ!! ฮึก.... ฟอดดด" ตื่นแล้วเธอตื่นแล้วยัยผู้หญิงบ้า...ในที่สุดก็ตื่นสักที... รอแป๊บนึงนะ ฉันเรียกหมอก่อน รอแป๊บนึง..." เอกดนัยรีบกดเรียกพยาบาลและหมอให้เข้ามาในห้องของพิมาญาโดยเร็ว เพียงไม่นานทั้งหมอและพยาบาลก็มายืนเสนอหน้ากันเต็มห้องพักผู้ป่วยของพิมาญา....คุณหมอเล่าทุกอย่างให้พิมาญาฟัง เอกดนัยที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักเขาเห็นน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหล่ออกมาจากวงตากลมโตคู่นั้น... แววตาที่เคยเศร้าตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา.... เขาสงสารพิมาญา เขาจะต้องเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้... เขาสัญญาเลย...เพียงแค่หมอและพยาบาลออกไปเขาก็รีบพาตัวเองที่ยังต้องนั่งรถเข
หลังจากที่ครามได้ข่าวของแพทว่าถูกรถชนจนแท้งลูกและไอ้คุณเอกดนัยก็เดี้ยงไปตามๆกัน เขากับป๊าเลยมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล เมื่อมาถึงเขาก็มาเจอท่านภพกูลและลูกชายอีกคนของท่าน ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วยพ่อเขาและเขาเข้าไปทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทีที่อ่อนน้อม ลูกชายคนเล็กของท่านภพกูลอายุน่าจะน้อยกว่าเขาสักสามถึงสี่ปี ท่าทางดูเป็นคนนิสัยดีไม่เหมือนคนเป็นพี่..." แพทเป็นยังไงบ้างครับ..." เพราะว่ายังไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้หลายๆคน เขาจึงต้องถามข่าวคราวจากท่านภพกูลแทน..." ยังทรงตัวน่ะ คงจะต้องรอให้ฟื้นก่อน แต่ก็ต้องรอดูสภาพจิตใจของหนูแพทด้วย ตอนนี้ทางผมก็กำลังให้คนไปตามสืบกันว่าคนขับรถน่ะเป็นคนทำเองคนเดียวหรือว่ามีใครว่าจ้างมา.. เพราะเท่าที่ดูมันเหมือนเป็นการจงใจเอามากๆ...." ภพกูลคิดในแง่ลบไว้ก่อน เขาไม่รู้หรอกว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง รอบตัวเขาต่างก็มีคนต้องการที่จะชิงดีชิงเด่น และต้องการที่จะโค่นล้มตระกูลพวกเขา... ดังนั้นคนที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก... หนูแพท แต่มันจะมีใครรู้กันเพราะการจดทะเบียนของสองคนนั้นมันคือการจดแค่เพียงในครอบครัวของเขา" ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะช่วยท่านอีกแร
เอกดนัยโทรบอกคนเป็นพ่อเขาว่าเขาเจอลูกสะใภ้ของท่านแล้ว และตอนนี้ก็อยู่กับเขาด้วยที่สำคัญท้องด้วย พ่อเขาถึงกับดีใจยกใหญ่ บอกว่าจะบินมาหา เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนแรกพ่อบอกว่าจะมาตอนนั้นเลย แต่เขาบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยมาก็แล้วกัน เพราะมันก็เย็นมากแล้ว ไปไหนมาไหนลำบาก พ่อเขาจึงยอม...." ยัยหน้าเงิน.. พรุ่งนี้พ่อจะมา มาหาเธอมาหาหลาน... แต่งตัวสวยๆนะ เสื้อผ้าฉันจัดไว้ให้เต็มตู้หมดแล้วเลือกใส่ได้เลย กางเกงชั้นในลายสวยๆ เสื้อชั้นในลายสวยก็มี ชุดนอนไม่ได้นอนก็เยอะ เลือกเอาเลยว่าจะใส่อะไร เพราะฉันได้หมดไม่ติด...." เอกดนัยขยิบตาให้กับพิมาญาหนึ่งครั้งเขาขยิบตาได้ไม่นานเขาก็โดนฝ่ามืออรหันต์ทันทีเพี๊ยะ..."โอ๊ยยยย ยัยนี่นิ.. ฟาดลงมาได้ แขนฉันหลุดแล้วเนี่ย.." เสียงเอะอะโวยวายพร้อมกับการเล่นเกินเบอร์ของเอกดนัยดังขึ้นมาทันทีที่พิมาญาตีลงมาที่แขนล่ำๆของเขา" เวอร์แล้วค่ะคุณเอกดนัย... คุณนี่ทุเรศน่าเกลียด คิดได้แต่เรื่องอย่างว่า..." " ก็ไม่ได้ทำนานแล้วนี่.. ครั้งก่อนนู้นนนนน ก่อนที่จะเจอเธอฉันก็ไม่ได้ปลดปล่อยมันออกมาเกือบสามเดือนเลยนะยัยหน้าเงิน.... และครั้งสุดท้ายก็วันนั้น นี่มันก็จะเดือนหนึ่งแล้วไหม... ส
เอกดนัยถึงกับตกใจที่ยัยหน้าเงินตะโกนใส่หน้าเขาต่อคนหมู่มาก... คอยดูเถอะรอให้คนพวกนี้กลับไปก่อนเขาจะชำระแค้นนี้ให้ดู...แต่สิ่งที่เขาคิดไว้มันคือ... ผิดพลาดไปหมด ไม่เพียงคนพวกนี้จะไม่กลับแต่ยังหน้าหนาหน้าทนนั่งเล่นอยู่ในบ้านของเขาราวกับว่าตัวเองไม่มีศาลให้ประจำเป็นหลักเป็นแหล่ง ราวกับเป็นผีไร้ศาลให้ตายเถอะวะ " คุณป๊าลองทานนี่ดูค่ะ แพททำเอง..." แพทตี้ขอให้คนของคุณเอกดนัยไปซื้อของมาให้เธอเพื่อทำกับข้าว เธออยากกินต้มยำกุ้งเปรี้ยวๆ อยากกินยำวุ้นเส้นรสจัดๆ เธออยากกินไก่ผัดพริกแกง... และข้าวสวยร้อนๆ แกงจืดไข่เจียว และในที่สุดเธอก็ได้ทำมันกิน เมื่อก่อนเธอยอมรับว่าเธอต้องประหยัดและอดออม แต่ในเมื่อมีคนหน้าใหญ่พยายามอวดรวยดีนัก เธอก็สนองให้ตามแรงศรัทธา " ตักอันนั้นให้หน่อยสิอยากกิน..." เอกดนัยถึงกับหน้าตึงที่ยัยหน้าเงินตักกับข้าวให้กับคนอื่นโดยที่ไม่ตักให้เขาเลยสักนิด...." ตักเองสิคะ คุณก็น่าจะตักถึง..." อยู่ใกล้แค่นี้ยังจะมาใช้เธออีกบ้าป่ะ..." ตักให้หน่อยสิ... อยากกินอันนั้นอ่ะ " เอกดนัยชี้ไปยังแกงจืดที่ใช้ไข่เจียวทำ เขาไม่เคยกินเลยสักครั้งยัยนี่ตอนอยู่บ้านไม่ยอมทำให้กินเลยสักครั้ง หรือว่าทำ
และสุดท้ายแพทตี้ก็ไม่ได้กลับบ้านจนตอนนี้2ทุ่มเข้าไปแล้วเธอก็ยังตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ การที่เขาไม่ทำอะไรเธอหรือต่อว่าเธอแรงๆมันทำให้เธอรู้สึกกลัวเขาพิลึก เพราะเธอไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาคิดยังไงกันแน่เธอเดาไม่ถูกจริง เขาทำแบบนี้เธอไม่ชินเลยสักนิด..." ยัยหน้าเงินมานี่หน่อยอ๋อไม่สิ ฉันจะต้องเดินไปหาเธอเองถ้ารอให้เธอมาคงจะไม่มีทางเป็นไปได้..." เอกดนัยเดินเข้ามาหาพิมาญาพร้อมด้วยกล่องพัสดุกล่องใหญ่ ซึ่งของพวกนั้นเขาสั่งออนไลน์แบบรวดเร็วทันใจ และที่สำคัญเขาสามารถเช็กระยะการส่งของได้ด้วยแบบนี้สิมันถึงจะดีแพทตี้ก็ยังคงรู้สึกเกร็งทุกครั้งที่อยู่กับเขาขนาดตอนนี้แล้วเธอก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงเลย...เอกดนัยยกชุดเอี้ยมที่ดูน่ารัก(สำหรับเขา)ขึ้นมา ราคาก็ไม่ใช่บาทสองบาท เขาสั่งจากร้านที่เป็นเสื้อผ้านำเข้า ดังนั้นคุณภาพและการตัดมักจะสวยเป็นธรรมดา เขายกขึ้นมาแล้วเอาไปทาบไว้ที่ตัวของพิมาญาทันที"เอาไปใส่ให้ดูหน่อย.. เร็วสิถ้าชักช้าฉันจะใส่ให้เธอเองเลือกเอาว่าจะเอาแบบไหน ใส่เองหรือฉันใส่ให้..." และเขาก็คงเป็นเขาเหมือนเดิม ดังนั้นเธอจึงขอทำเลือกที่จะใส่เองดีกว่า... ก๊อกๆๆ"เสร็จ
ครามโทรหาแพทตี้หลายต่อหลายครั้ง เขารู้สึกเป็นห่วงแพทตี้เป็นอย่างมาก แต่ทำยังไงแพทก็ไม่รับ..มันยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงแพทมากขึ้นและทำให้เขาต้องรับพาตัวเองไปยังโรงพยาบาลที่แพทตี้ไปฝากครรภ์ตู๊ดดดดด กริ๊ก.." แพท... แพทอยู่ไหน... พี่โทรหาตั้งนานทำไมไม่รับ รู้ไหมพี่กับป๊าเป็นห่วง.." เพียงแค่ปลายสายกดรับเท่านั้นครามก็พรั่งพรูคำพูดต่างๆนาๆออกมาเสียยาวยืด..."เมียกูหลับอยู่ มึงอย่ามาจุ้นจ้านกับเมียกูให้มากนัก..ระวังตัวมึงเอาไว้ให้ดี..." "คุณ... แพทอยู่ไหนคุณทำอะไรแพท แพทท้องอยู่ คุณอย่างทำอะไรบ้าๆนะ... ถ้าคุณทำร้ายแพทอีกครั้ง ผมจะแจ้งความจับคุณ หลักฐานผมมีทุกอย่าง" อันที่จริงเขาไม่มีอะไรหรอกแค่ขู่ไปงั้นเอง..." ชู้แบบมึงไม่มีสิทธิ์ เอาสิแจ้งเลยกูจะได้ฟ้องชู้แบบมึงด้วยที่มายุ่งกับเมียกู และทำให้เมียกูท้อง กูจะพาเมียกูไปเอาลูกของมึงออกเองมึงไม่ต้องห่วง..."" คุณมันบ้า ถ้าคุณทำอะไรแพทกับเด็กในท้องคุณจะเสียใจไปตลอดชีวิตผมบอกคุณเอาไว้เลย และที่สำคัญถ้าแพทยินดีให้ผมเป็นพ่อของเด็กในท้องผมก็เต็มใจในเมื่อเด็กมันทีพ่อเลวแบบคุณแล้วมันไม่ดี งั้นผมก็จะเป็นพ่อให้แทน.. " ตู๊ดๆๆ" ไอ้เวรเอ๊ย... ทำไมมัน
เอกดนัยเลือกที่จะไม่ตอบโต้ผู้หญิงบ้าคนนี้ แต่เขาเลือกพายัยบ้านี่เข้ามาในตัวบ้านของเขา..." คุณเอกดนัย... ได้โปรดเถอะนะคะ ปล่อยฉันเถอะนะคะ... ฉันต้องไปแล้ว ฉันต้องกลับแล้ว ฉันต้องไปทำงาน" ถึงแม้ว่าเธอจะขอร้องเขายังไงแต่เขากลับไม่ฟังเธอเลย และที่สำคัญเขายังไม่ยอมเปิดปากคุยกับเธอเลยสักคำตั้งแต่บนรถ...ขวับ!!! ว๊ายยยยแพทตี้ถึงกับตกใจ... เพียงแค่เขาหันกลับมาหาเธอ เธอก็ต้องตกใจร้องออกมา อยู่ๆเขาก็หันกลับมาหาเธอ พร้อมกับกระชากตัวเธอเอาไปพิงกับกำแพง... เอกดนัยกักขังพิมาญาเอาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง เขาต้องรู้ให้ได้ว่ายัยบ้านี่ท้องได้ยังไง.... ท้องกับใคร....สมองของเขามันตีกันไปหมด ใจหนึ่งก็กลัวว่ายัยนี่จะสวมเขาให้เขา แต่อีกใจก็ยังคงสับสนว่าถ้าเกิดเด็กคนนี้เป็นลูกของเขาจริง เขาควรจะรู้สึกอย่างไรดี.. ดีใจไหม หรือว่าเขาควรจะทำยังไงดี..." ท้อง... เธอท้อง... ลูกของใคร ของฉันหรือของมัน..." เขาพอจะนึกได้ถึงไอ้ผู้ชายคนนั้น ที่มันจับแขนของยัยผู้หญิงหน้าเงินในครั้งนั้น...." ไม่ใช่ลูกคุณ ไม่ใช่.... " แพทตี้ไม่มีทางที่จะให้เขารู้ได้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใคร..." มองตาฉันแล้วตอบพิมาญา.... ตอบ!!" เอกดนัยตะโกนอ
หนึ่งอาทิตย์แล้วที่เอกดนัยมาอยู่ที่ภูเก็ต ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาเบื่อหน่ายในการใช้ชีวิตอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าการที่เขาต้องคอยรับมือกับแยมในทุกๆวัน เขายอมรับว่าช่วงที่เขามาอยู่ที่นี่ มันคือสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขแปลกๆ เขาไม่ต้องการแยมในเรื่องอย่างว่า เขาไม่ต้องการเรื่องอย่างว่าตั้งแต่ยัยผู้หญิงคนนั้นหนีเขาไป เขาไม่ต้องการเลย ดูสินี่ก็จะเข้าเดือนที่สามแล้ว เพียงแค่เขาต้องการหาใครสักคนมารองรับอารมณ์เปลี่ยวของเขา เพียงแค่พวกหล่อนก้าวเท้าเข้ามายืนใกล้ๆมันก็ทำให้เขาต้องรีบพุ่งตัวเข้าไปยังห้องน้ำทันที บางคนถึงกับพูดแซวว่าเขาทำเหมือนกับคนที่แพ้ท้องแทนเมีย เขาก็คิดตามนะ แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นคนยื่นยาคุมให้ยัยนั่นกับมือ และที่สำคัญถ้าแยมท้อง แยมก็ไม่เก็บเงียบเอาไว้แบบนี้แน่.. ดังนั้นไม่มีทางที่จะเป็นไปได้...ตึกตึกตึก..." คุณเอกครับ... แฮ่กๆ.. เกิดเรื่องครับ เกิดเรื่องแล้ว.." ลูกน้องคนสนิทของเขาวิ่งหน้าตื่นมาหาเขา ตอนนี้เขานั่งอยู่ในห้องทำงานที่แยกส่วนออกมาจากโรงแรม เขาเป็นคนเสนอให้พ่อของเขาสร้างมันเป็นสำนักงานแยกออกมาจากโรงแรม.. เพื่อที่พื้นที่ของโรงแรมจะได้มีเอาไว้ใช้สอยได้เต็ม