Share

บทที่ 142

Author: เล่อเอิน
"..."

เจียงไหลหันควับมามองตาฉัน เธอส่งสายตาเป็นนัยน์จนแทบจะถลนออกมา

ฉันแปลกใจเล็กน้อย แต่พอเห็นท่าทีอันเฉยเมยราวกับลมสงบของลู่สือเยี่ยน ฉันรู้สึกว่าเขาคงไม่ได้หมายถึงอย่างที่เจียงไหลเข้าใจ

อีกอย่าง ลู่สือเยี่ยนมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ชอบมาตั้ง 20 ปี เขาจะมารู้สึกอะไรกับคนที่เพิ่งหย่าอย่างฉัน

ลู่สือเยี่ยนรินน้ำข้าวโพดให้ฉัน "ยังไม่ต้องรีบตอบ คุณเอาไปคิดก่อน"

"ค่ะ"

ในใจของฉันยังรู้สึกเต้นไม่เป็นส่ำ

ถึงอย่างไรก็เป็นแบรนด์ที่ฉันใฝ่ฝันมาตลอดหลายปี จู่ๆ ก็ได้มาง่ายๆ เหมือนกับฝันไปเลย

พอทานข้าวเสร็จ เจียงไหลก็อ้างว่าต้องไปปาร์ตี้ต่อ เธอเลยรบกวนลู่สือเยี่ยนให้ไปส่งฉัน

พอขึ้นรถ ฉันก็พูดอย่างเกรงใจ "รบกวนคุณแย่เลย"

"ไม่รบกวนครับ ผมกินของคนอื่นปากจะอ่อน เอาของคนอื่นมือจะสั้น" (กินของคนอื่นปากจะอ่อน เอาของคนอื่นมือจะสั้น หมายถึง ใจอ่อนเพราะติดค้างบุญคุณ)

ลู่สือเยี่ยนยิ้มกรุ้มกริ่ม

ฉันหัวเราะเบาๆ "คุณไม่ยอมให้ฉันออกเงินเลี้ยงด้วยซ้ำ ขอบคุณ..."

ตอนระหว่างทานอาหาร เขาก็อ้างว่าจะไปรับโทรศัพท์ ที่แท้ไปจ่ายเงินค่าอาหาร

มือขาวเย็นจับพวกมาลัยด้วยนิ้วเรียวยาว ดูมีความสง่ามาตั้งแต่กำเนิด สายตาเหลือ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 143

    ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง มองลงไปในถุงกระดาษ ข้างในเป็นกล่องกำมะหยี่ประณีตสองกล่องด้านในเป็นจี้หยกที่คุณปู่เตรียมมอบไว้ให้กับลูกของฉันในใจของฉันรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทีละน้อยพร้อมกับพูดอย่างเย็นชา "คุณปู่เตรียมไว้ให้กับลูก ในเมื่อลูกไม่อยู่แล้ว ฉันควรจะคืนให้คุณ"เขาเหลือบมองฉัน "คุณปู่ยกให้คุณ ถ้าคุณจะคืน ก็ไปคืนให้กับคุณปู่เองเถอะ""..."ฉันพบว่าเขาเป็นคนที่ถ้าไม่พูดด้วยเหตุผล เขาก็จะไม่ฟังเลยฉันเม้มริมฝีปาก "ฟู่ฉีชวน อย่างอื่นฉันรับไว้ได้ แต่ของสิ่งนี้มูลค่ามากเกินไป"เขาพูดออกมาโดยไม่ไตร่ตรอง "ผมให้คุณ ไม่ได้ให้คนอื่นคนไกล"ฉันกำมือแน่นอย่างอดไม่ได้ พยายามอดกลั้นความรู้สึกแปลกในใจ พยายามตั้งสติ "ระหว่างเราขาดแค่ใบสำคัญหย่าแค่ใบเดียว เราควรขีดเส้นแบ่งให้ชัดเจนไว้จะดีกว่า""ขีดเส้นแบ่ง?"หางตาเย็นชาของฟู่ฉีชวนกระตุกเล็กน้อย เขามองฉันอย่างสงบอารมณ์ฉันรู้สึกตื่นตระหนกอย่างไม่มีเหตุผล "ใช่""เอาอะไรมาขีดเส้นแบ่ง?"เขาเอนตัวลงบนโซฟา ร่างสูงโปร่งค่อยๆ พูดอย่างไม่สนใจ "คุณกับผมแต่งงานกันมาสามปี เห็นเรือนร่างผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ได้เสียกับผมมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ใครจะไปรู้ว่าคุณแอบถ่าย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 144

    "ไม่ใช่หล่อน แล้วเป็นฉันรึไง?"ฉันมองสบตาเขาอย่างไม่หวั่นเกรง ถามชัดถ้อยชัดคำจะบอกว่าฉันถามไปโดยไม่คาดหวังก็ดูจะโกหกฉันอาจหลอกคนอื่นได้ แต่คงไม่อาจหลอกหัวใจตัวเองได้ ฉันยังปล่อยวางจากเขาไม่ได้แม้ฉันจะรู้แก่ใจดีทุกอย่าง ไม่ว่ายังไง ฉันกับเขาก็ไม่อาจไปกันต่อได้ ทว่าก็ยังจะหวังว่าหลายปีมานี้ เขาจะชอบฉันสักนิด ต่อให้เป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีสั้นๆ ก็ยังดีแปดปี ชีวิตคนเราตั้งแปดปีเลยนะดวงตาสีดำของเขาราวกับห้วงวังวน เหมือนกับจะดูดกลืนคนลงไป เสียงของเขาแฝงไปด้วยอำนาจลวงใจ "ถ้าหากผมบอกว่าใช่ เราจะไม่หย่ากันได้ไหม?"ฉันประหลาดใจ จนเวลาผ่านไปนาน ฉันรวบรวมสติมองไปที่เขาและส่ายหัว"ฟู่ฉีชวน หากคุณเคยชอบฉันจริงๆ มันก็แค่พิสูจน์ได้ว่า ฉันหลายปีมานี้ไม่ได้รักคุณแค่ข้างเดียว มันทำให้ฉันพอจะสบายใจขึ้นมาบ้าง แต่นี่...ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะไปกันต่อได้""หลายปี?""ใช่ หลายปี"ฉันจู่ๆ ก็ยอมสารภาพความรู้สึกออกมา ไม่ปิดบังอีกต่อไปและยิ้มกล่าว "แปดปี ฟู่ฉีชวน ฉันชอบคุณตั้งแต่เรียนมหาลัยแล้ว ชอบคุณมาแปดปีแล้ว"ฉันพูดออกมาทั้งหมด อาจเพราะไม่ต้องการรู้สึกเสียใจในภายหลังบอกเขาอย่างเปิดเผยว่าฉันเคยช

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 145

    พอได้ยินประโยคนั้น ฉันเหม่อลอยไปพักหนึ่งคำถามนี้ นอกจากเจียงไหลที่เคยถามฉันแล้ว อันที่จริงฉันไม่เคยถามตัวเองอย่างจริงจังเลยเป็นไปได้หรอถ้าหากคนที่ช่วยฉันในวันนั้นเป็นผู้ชายอีกคน คนที่ฉันตื่นขึ้นมาก็เห็นเป็นผู้ชายอีกคนเช่นกันฉันจะชอบผู้ชายคนนั้นรึเปล่าหรือหากฉีชวนไม่เคยช่วยฉัน ฉันจะยังชอบเขาขนาดนี้รึเปล่า งั้นที่ฉันชอบเขามาตลอดหลายปี...มันคืออะไร...ฉันอารมณ์แปรปรวน ไม่กล้าจะคิดอะไรต่อ ฉันส่ายหัวเบาๆ "ฟู่ฉีชวน ฉันตอบคุณไม่ได้"ฟู่ฉีชวนซึ่งมักจะสุขุมมาตลอดกลับไม่อาจรักษาท่าทีสงบไว้ได้ สันกรามบนใบหน้าแน่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เขาพ่นควันขมุกขมัวของบุหรี่ออกมาและพูด "...อืม""ฉันเคยชอบคุณเพราะว่าอะไรมันสำคัญด้วยหรอ?"ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงเห็นเหมือนเขาดูผิดหวังมาถึงปลายทางจุดสิ้นสุดของความรักแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องรื้อฟื้นเหตุผลอะไรตอนแรกเลยฟู่ฉีชวนเหลือบหลบสายตาฉัน ขยี้ก้นบุหรี่จนดับ เขาบ่ายเบี่ยงพูดเรื่องอื่น "เรื่องที่คุณขอ ผมให้สัญญา""อะไรนะ?"ฉันอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ได้สติกลับมา "เรื่องของฟู่จินอัน?"เขาพยักหน้า "ใช่""ฉันหวังว่าคุณจะทำได้เหมือนที่สัญญา ไม่ทำให้วิญญาณของ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 146

    "เธอจะภูมิใจอะไรนักหนา?!"เธอโมโหหายใจเร็วจนอกกระเพื่อม แววตาของเธอแผ่รังสีโกรธเกรี้ยวอาฆาตร "หร่วนหนานจือ เธอบังคับฉันเองนะ เธอให้เขาไล่ฉันออกนอกประเทศใช่ไหม...รอตำแหน่งนายหญิงของตระกูลฟู่เป็นของฉันเมื่อไหร่ก่อนเถอะ ฉันจะไสหัวแกให้ออกไปจากเมืองเจียงเฉิง!""ไล่เธอออกนอกประเทศ?"ฉันคาดไม่ถึงคิดว่าฟู่ฉีชวนรับปากสัญญากับฉันแล้ว แต่เขาก็คงเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆ อย่างมากก็คงไม่แต่งงานกับเธอ ไม่คาดคิดว่าจะตัดขาดได้อย่างไร้เยื่อใยขนาดนี้"เลิกสะตอสักที! อาชวนดีกับเธอขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาจะตัดขาดกับฉันแบบนี้ได้ไง!""...""ฉันขอบอกเธอไว้ ฉันจะไม่บินออกนอกประเทศ เธอล้มเลิกความหวังซะเถอะ!""เธอไปบอกกับเขาสิ คนที่ไล่เธอออกนอกประเทศไม่ใช่ฉัน"พูดจบ ฉันขณะกำลังจะเทน้ำดื่ม ฉันก็ได้ยินฟู่จินอันพูดเย็นชาเสียงดัง"ฉันฆ่าลูกของแกตาย แกคงแค้นฉันมากล่ะสิ?"ทันใดนั้นฟู่จินอันก็หัวเราะขึ้นมา แววตาร้ายกาจหัวใจของฉันเหมือนถูกคนแทงอย่างแรง ฉันหันไปมองเธอ "ฟู่ฉีชวนเป็นคนบอกเธอหรอ?""ไม่ใช่ เรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องบอกฉัน"หล่อนยิ้มเหมือนภาคภูมิใจ เดินกระแทกส้นสูงทีละก้าวเข้ามาฉัน "ฉันเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 147

    ในแววตาของฟู่จินอันคือรอยยิ้มได้ใจ!ทันใดนั้นฉันก็เข้าใจจุดประสงค์ของเธอ ฉันไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อยและค่อยๆชักมือกลับ ภายใต้สายตาตกตะลึงของฟู่ฉีชวน ฉันพูดอย่างเรียบเฉย "ตามที่คุณเห็น"ถึงยังไงก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาฟังคำอธิบายจากฉันอีกอย่าง เขาตอนนี้ยังได้เห็นเองกับตา ถ้าอธิบายมากไปก็มีแต่จะเข้าตัวเองเมื่อก่อนฉันกังวลเรื่องที่ไม่มีมูลว่าเขาจะคิดว่าฉันเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตรึเปล่า แต่ตอนนี้ ฉันไม่สนอะไรแล้วไม่มีอะไรเศร้ากว่าหัวใจที่ตายด้าน มันก็คงจะประมานนี้เขาจะมองฉันยังไง มันไม่สำคัญเลยสักนิดฟู่จินอันกุมบาดแผลของตัวเอง น้ำตานองเต็มหน้า "อาชวน ช่วยฉันด้วย...ฉันเจ็บเหลือเกิน! เธอบ้าไปแล้ว จู่ๆ ก็หยิบมีดมาแทงฉัน..."อายุ 30 กันแล้ว ยังจะแสร้งว่าตัวเองบริสุทธิ์เหมือนดอกบัวขาวฉันยิ้มหัวเราะ "ร้องอะไรนักหนา เป้าหมายของเธอไม่ใช่รึไง? บรรลุเป้าหมายแล้ว ต้องมีความสุขสิถึงจะถูก"ยั่วโมโหฉัน กะเวลาที่ฟู่ฉีชวนจะมาและบีบให้ฉันต้องลงมือขิงต้องแก่ถึงจะเผ็ดฟู่จินอันร้อนใจขึ้นมา ทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้หนักมากกว่าเก่า "เธอพูดส่งเดชอะไร...ฉันก็แค่มาขอร้องเธอ อย่าให้อาชวนไล่ฉันออกนอก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 148

    "ฉินเจ๋อ?"เสียงของฟู่ฉีชวนเย็นเยือกจนน่ากลัว "ยืนเป็นสากกะเบือทำไม เอาเธอไปส่งโรงพยาบาล!"ฟู่จินอันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เธอยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ฉินเจ๋อก็ลากเธอเข้าไปในลิฟต์อย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง!เธอไม่ลืมจะจงใจแกล้งทำเลือดหยดลงพื้นฉันหันมองไปทางที่พวกเขาเดินออกไป ฉันจ้องมองเขม็งอย่างอดไม่ได้ ฉันยังคงหายใจแรงจนอกกระเพื่อม"หนานจือ เราไปล้างมือกันก่อนดีกว่า?"ราวกับว่าฟู่ฉีชวนกลัวจะทำฉันโมโห น้ำเสียงเลยนุ่มนวลเหมือนกับกำลังปลอบเด็กฉันมองเขาและถามอย่างช้าๆ "คุณไม่โทษฉันที่ทำร้ายเธอหรอ?"นี่ไม่ใช่นิสัยของฟู่ฉีชวนเขาควรจะต้องอ้างเหตุผลมาปกป้องฟู่จินอัน เข้าข้างฟู่จินอันถึงจะถูกสิเขาถอนหายใจและจูงฉันเดินมาที่ห้องน้ำและเปิดก็อกน้ำ เขาลองเช็คอุณหภูมิน้ำ จากนั้นก็ค่อยเอามือของฉันไปวางไว้ใต้ก็อก บีบเจลล้างมือใส่และล้างมือให้ฉันอย่างบรรจง"คุณตบเธอแบบนั้น มือคุณเองไม่เจ็บหรอ?"ฉันชะงักไปเล็กน้อย ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะพูดแบบนี้ออกมาฉันก้มหน้าลงมองนิ้วงามเรียวยาวของเขาที่กำลังสัมผัสกับนิ้วของฉัน ฉันยิ้มให้กับตัวเองถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ฉันอาจจะใจอ่อน เมื่อก่อนขอแค่เขาทำดีกับฉันเล

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 149

    ฟู่ฉีชวนราวกับจนปัญญา เขามองฉันและอธิบายอย่างนุ่มนวล "เธอตอนนั้นเองก็เสียลูกไปเหมือนกัน ต่อให้ไปขึ้นศาล ศาลก็คงไม่มีทางตัดสินอย่างที่คุณต้องการหรอก""หรอ..."ฉันพยักหน้าให้กับตัวเอง รู้สึกเหมือนเคว้งคว้างว่างเปล่า "งั้นจะบอกว่า ลูกของฉันต้องตายฟรี?"เขาเหมือนกลัวฉันจะหุนหันพลันแล่น เลยรีบปลอบฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ไม่ใช่แบบนั้น มันยังมีอีกหลายวิธี...""วิธีอะไร?"ฉันยิ้มมุมปาก "จะส่งเธอไปต่างประเทศ งั้นให้ฉันเลือกประเทศได้ใช่ไหม?""ได้"เขาถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าโดยแทบไม่ต้องคิดฉันมองใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของเขาแลหัวเราะ "งั้นส่งเธอไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วกันอย่างเช่นพม่า เวียดนาม ลาว...อ้อ แล้วก็แค่ส่งเธอ ห้ามให้เงินเธอใช้""หนานจือ...""ไม่ได้หรือไง?"ไม่ใช่ว่าฉันไม่เห็นสีหน้าไม่อยากเชื่อของเขา แต่ฉันจะทำแบบนี้ฟู่จินอันจะต้องชดใช้ราคาที่เธอต้องจ่ายเขาขมวดคิ้ว "ประเทศแถวนั้นวุ่นวาย ตั้งแต่ยังเด็กเธอ..."เขาพูดได้แค่ครึ่งประโยค มือถือในกระเป๋าเสื้อสูทรก็ดัง เขาหยิบออกมาดู เป็นฉินเจ๋อโทรเข้ามาฉันเลยพูดแดกดันใส่เขา "รับสิ อาจช่วยชีวิตเอาไว้ไม่ทันเลยรีบเรียกคุณไปรั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 150

    ขณะฉันถามคำถามนี้ หัวใจของฉันก็รู้สึกเคว้งคว้างขึ้นมาเพราะฉันคิดมาตลอดว่าการตายของคุณปู่ย่อมเกี่ยวข้องกับฟู่จินอัน แต่ว่าก็ไม่มีหลักฐานโชคดีที่ลุงเฉิงตอบกลับมาในทันที "มีครับ ถึงลายนิ้วมือจะมีขนาดเล็ก แต่พอลองเทียบพิสูจร์แล้วก็เป็นของเธอจริงๆ""ที่แท้ก็เป็นเธอจริงๆ..."พอฉันได้คำตอบ ทว่ากลับไม่ได้รู้สึกดีใจ รู้สึกว่าไม่ควรเกิดกับคุณปู่เลย ถ้าหาก...ถ้าหากคุณปู่วันนั้นไม่ได้พบกับฟู่จินอัน ตอนนี้คงได้เห็นคุณปู่ก็คงจะกวักมือเรียกฉันอย่างใจดี เรียกฉันว่า 'ยัยหนู' อยู่ใช่ไหมลุงเฉิงโกรธมาก "คุณท่านถึงแม้จะไม่เคยยอมรับในตัวเธอเลย แต่คุณท่านก็ไม่เคยกลั่นแกล้งเธอ เธอทำไมถึงไม้ไส้ระกำทำแบบนี้""ใช่ค่ะ"ฉันคิดอยู่หลายรอบก็ยังไม่เข้าใจ "ลุงเฉิง ฉันยังมีจุดที่ไม่เข้าใจ วันนั้นที่คุณปู่ตบฟู่ฉีชวน เขาก็ไม่ได้โกรธถึงขั้นอาการกำเริบ แล้วเธอพูดอะไรกับคุณปู่ถึงทำให้คุณปู่อาการกำเริบจนองเอยแบบนี้ได้?"อย่างแรกคือยั่วโมโหคุณปู่จนอาการกำเริบ ต่อมาก็ห้ามไม่ให้คุณปู่ทานยาช่วยชีวิตฉุกเฉินเหมือนกับวันนี้ที่เธอกระตุ้นยั่วโมโหให้ฉันลงมือ จากนั้นก็ให้ฉันตกกลุมพรางลุงเฉิงเองก็ไม่เข้าใจ "ผมเองก็คิดไม่อ

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 340

    สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม และเสียงของเขาที่ฟังดูแหบแห้งและหยาบกระด้าง "ฉันให้หุ้นแก่คุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาต่อรองกับฉัน""ประธานฟู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?""......"เขาเยาะเย้ยและพูดอย่างเย็นชา "งั้นคุณก็ลองดูสิ ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่คุณขายให้ ถ้าคุณอยากทำร้ายใครก็เชิญเลย""......"เขายังคงหวาดระแวงอย่างมาก เกือบจะเหมือนโรคจิตในเรื่องของการข่มขู่ คือการแข่งขันกันว่าใครจะยอมทำสิ่งที่ต่ำที่สุดมากกว่ากันฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ พูดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ฉันกัดฟันแล้วเดินไปหาเจียงไหลเจียงไหลและเฉินเย่กำลังคุยกันเรื่องทั่วไปบางอย่างเมื่อเห็นฉันมา เจียงไหลยกริมฝีปากแดงของเธอไปทางเฉินเย่และพูดว่า "คุณเฉิน ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นเมื่อฉันกลับไปเมืองเจียงเฉิงหลังตรุษจีน""ได้"เฉินเย่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากทักทายเขาแล้ว ฉันก็ไปกับเจียงไหล"ประธานหร่วน!"เฉินเย่หยุดฉันไว้ทันที ก่อนจะเปิดปากถามอย่างระมัดระวังว่า: "คุณและพี่ชวนต้องหย่ากัน มันเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและการหมั้นหมายของเขากับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?"ฉันพูดตามตรงว่า "ใช่ แ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 339

    ฉันเงียบไปและพูดเบาๆ ว่า "ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีความอดทนสูงขนาดนั้น"คืนนั้น ฉันจูบโจวฟางต่อหน้าเขาแม้ว่าฉันจะเมามากเกินไป แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆด้วยบุคลิกของเขา แบบที่ยอมให้ตัวเองทำผิดกฎได้แต่ห้ามคนอื่น เขาน่าจะหยุดมองมาทางฉันนานแล้วทันทีที่ฉันพูดจบ เสียงที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เสียงของฟู่ฉีชวน แต่เป็นเสียงที่มาจากทางกลางห้องจัดงานเลี้ยงเสิ่นชิงหลี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมชุดสีขาวล้วนสุดหรู เธอถือไมโครโฟนไว้ตรงกลางห้อง ดูขี้อายเล็กน้อย แต่ดวงตาสีเช้มของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นในขณะที่เธอจ้องไปที่ทิศทางหนึ่งโดยเฉพาะทิศทางที่โจวฟางอยู่"ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉัน จากอ้อมอกของคุณย่า คุณพ่อและคุณแม่ไป ฉัน... ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ทนทุกข์ทรมานจากวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อฉัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ฉันกัดฟันและอดทนต่อไป"เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอสะอื้น “แต่ฉันโชคดี ครอบครัวของฉัน… และพี่อาฟางไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฉัน เช้านี้คุณย่าถามฉันว่าความปรารถนาของฉันคืออะไร ตอนนั้น ฉันนึกอะไรไม่ออก เพราะแค่การได้กลับไปยังตระกูลเสิ่นก็ถือเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 338

    "คุณนายเสิ่น"ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วอย่างใจเย็นและพูดด้วยเสียงต่ำ "คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับฉันเกี่ยวกับการถอนหมั้น"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาแม่เสิ่นไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าเธอจงใจแกล้งทำเป็นสับสน "แน่นอนว่าฉันต้องอธิบาย ทันทีที่คุณได้ยินว่าวันนี้เป็นซิงหยูของเราที่มารับคุณ คุณก็มาพร้อมกับประธานเสิ่นโดยเฉพาะ ฉันเข้าใจแล้ว...."ปากของเฉินเย่กระตุกเมื่อเขาฟัง และเขาไม่สามารถทนขัดจังหวะได้ "ความมั่นใจของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันยังต้องแทรกอยู่ดี ประธานฟู่มาที่นี่วันนี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูเสิ่นแม้แต่สลึงเดียว โอ้ ไม่ มันไม่เกี่ยวข้องแม้แต่สตางต์เดียว""มันจะไม่เกี่ยวข้องกับซิงหยูได้ยังไง ประธานฟู่าหาครอบครัวเสิ่นของเรา ถ้าไม่ใช่เพราะซิงหยู....."เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง แม่เสิ่นก็คิดได้และสีหน้าของเธอก็มืดมนลง ทันใดนั้นก็มองไปในทิศทางที่ฉันอยู่!ฟู่ฉีชวนก้มตาลงและปรับแขนเสื้อ เสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย "พูดตามตรงนะ คุณนายเสิ่น วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อตามง้อภรรยาของฉัน"เสียงของเขาไม่ได้ดังเป็นพิเศษ แต่ทุกคำก็ตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนรอบข้างได้ยินเขาอย่างชัดเจน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 337

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่เสิ่นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล็อกเป้าหมายไปที่คุณพ่อของเสิ่น แล้วดึงเขาออกไปด้วยกันเพื่อไปต้อนรับไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากทางเข้าห้องจัดเลี้ยงเป็นฟู่ฉีชวน เฉินเย่แลตระกูลเสิ่นจำนวนสามคนที่เดินเข้ามาฟู่ฉีชวนสวมเสื้อคลุมสีดำ มีคิ้วกับดวงตาที่สง่างามและเย็นชา ก้าวเดินอย่างมั่นคง และมีรัศมีแห่งอำนาจที่แข็งแกร่งเฉินเย่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อเขาไปที่หนานซี เขาอยู่ห่างจากฟู่ฉีชวนครึ่งก้าว แต่ทั้งสองดูคุ้นเคยกันดีเมื่อมองดูครั้งแรกเมื่อรวมกับสิ่งที่แม่เสิ่นพูดก่อนจะออกไปรับเขาคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ผ่านโลกมานาน แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจทุกอย่างแล้วฟู่ฉีชวนเป็นบอสใหญ่ของRF กรุ๊ปไม่ใช่ใครอื่นฟู่ฉีชวนคือชายคนเดียวกันที่ตระกูลเสิ่นเคยถอนหมั้นด้วยแต่ตอนนี้ ในชั่วพริบตา พวกเขากลับปฏิบัติกับเขาเหมือนแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเสิ่นอีกครั้ง ไม่กล้าแสดงความละเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องทนต่อไปโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ความสัมพันธ์นี้ ส่งผลให้บรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างประหลาด และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพูดคุยส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 336

    "ผลตรวจ DNA ออกมาแล้ว"ฉันจนปัญญาเขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ผลตรวจ DNA ต้องมีปัญหาแน่ หร่วนหนานจือ ฉันอาจเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นเป็นเธอ"ฉันรู้ดีว่า "คนอื่น" นั้นหมายถึงฉันจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "แต่ฉันจะจำเธอได้เสมอ""......"ฉันเม้มริมฝีปาก "นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับตระกูลเสิ่น โจวฟาง เราควรจะรักษาระยะห่างไว้บ้าง"ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกจริงๆพูดจบ ฉันไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของเขา ดึงเจียงไหล แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันทีแม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับนี้จะจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้จัดแบบลวกๆ เลยแสงไฟที่ระยิบระยับและบรรยากาศที่หรูหรา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างานนี้ยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งหลังจากรับเครื่องดื่มจากถาดของพนักงานเสิร์ฟ เจียงไหลมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ "เธอกลายเป็นคนไร้ความปรานีตั้งแต่เมื่อไหร่?""เจ๊คะ"ฉันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ให้เธอ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเรียนรู้จากประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป""ไม่เหมือนเดิมยังไง?""เมื่อก่อนฉันเคยถลำลึกลงไปแล้ว กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ มันทั้งยากและเจ็บปวด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 335

    "แค่ก..."เจียงไหลเห็นว่าฉันยังรับมือได้ แต่เธอเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหากับฉันจึงเงียบอยู่ตลอดในขณะนี้ คำพูดของโจวฟาง ทำให้ฉันอดไม่ได้และสำลักน้ำลายของตัวเองสำหรับฉันแล้ว แม่เสิ่นสามารถพูดจาเหน็บแนมฉันได้แม่ของเสินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวฟางกับคุณย่าโจว เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกมาได้ เพราะต้องระวังมารยาทกับผู้ใหญ่ และทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไอ้เด็กเวร!”ไม่ว่าคุณย่าโจวจะตามใจโจวฟางมากเพียงใด เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “ใครสอนให้แกพูดแบบนั้น?”"ก็คุณย่าสอนผมนั่นแหละ"โจวฟางไม่ได้ใส่ใจและพูดว่า "เมื่อคุณเห็นความอยุติธรรม จงยื่นมือเข้ามาช่วย""......"คุณย่าโจวโกรธมากจนจ้องมองเขา แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาโต้ตอบได้ใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้น สามารถได้ยินว่าแม่เสิ่นตั้งใจหาเรื่อง และคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นร้ายกาจเกินไปเสิ่นชิงหลี่ผู้ซึ่งเคยเงียบและขี้อายเสมอมา พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาและเบาบาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้"แต่พี่อาฟาง คุณแม่ของฉันก็พูดไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงควรรักษาความบริสุทธิ์และซื่อสั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 334

    เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนั้น อันตรายยิ่งกว่าฟู่จินอันที่เคยเจอเสียอีกฉันไม่อยากสร้างปัญหา[ทำไมคุณไม่ไปตรวจ DNA ด้วยล่ะ][หร่วนหนานจือ ตอบฉันหน่อย][หนีอีกแล้วเหรอ?]……บรรยากาศในห้องยังคงดูผ่อนคลายเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของฉันยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดฉันขมวดคิ้ว เปลี่ยนการตั้งค่าแชทของโจวฟางเป็นห้ามรบกวนแม้เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคิดว่าฉันคือตัวจริงอยู่ดี“คุณหร่วน คุณเพิ่งหย่า แต่โทรศัพท์ของคุณกลับไม่หยุดสั่น”แม่เสิ่นสังเกตเห็นการกระทำของฉัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน "มูฟออนได้เร็วจริง ๆ เลยนะ"โจวฟางส่งเสียงเฮอะออกมา และกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาในทันทีฉันไม่อยากยุ่งกับเขาในตอนนี้ ฉันจึงชิงพูดก่อน "โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่สามารถเทียบกับความเร็วของเสิ่นซิงหยูได้ พอฉันเพิ่งหย่าเสร็จ เธอก็หมั้นหมายกับอดีตสามีของฉันไปแล้ว"“…เธอ!”แม่เสิ่นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอจงใจจงใจทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากการใช้คำพูดทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มีใครบ้างที่ทำไม่ได้?คุณย่าโจวสังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว "หนานจือ งั้นอดีตสามีของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 333

    แต่ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยความคิดนี้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางที่พวกเขาอยู่ หลังจากที่เสิ่นชิงหลี่กระโจนเข้าหาเขา เขาก็ลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนไม่สบายใจและกลัวที่จะทำให้เสิ่นชิงหลี่เศร้าเขาจับแขนของเธอแล้วดึงออก เสียงของเขากลับเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์อะไร "วิ่งช้าๆ หน่อย""แต่ฉันคิดถึงคุณนะ"เสิ่นชิงหลี่เงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดขาวและท่าทางเหมือนกระต่ายตัวน้อย "เมื่อวานคุณออกไปแต่เช้า และฉันไม่ได้เจอคุณมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว"นับกระทั่งชั่วโมงฉันรวบรวมความคิด ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเห็นสายตาของโจวฟางจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าฉันสงบและไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยเขาปล่อยมือของเสิ่นชิงหลี่ แล้วยิ้มกวนๆ ทักทายกับคุณยายทั้งสองก่อน จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามฉันอย่างขี้เกียจคุณย่าโจวมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองและพูด “ไอ้เด็กเวร ดูแลชิงหลี่ให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ เธอเพิ่งกลับมา...”"โอ้ย เธอกำลังพูดอะไรอยู่? ชิงหลี่อยู่ที่บ้านของเธอเอง เธอยังต้องการให้อาฟางดูแลเธออีกเหรอ?"คุณย่าเสิ่นยิ้มตอบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 332

    ฉันปลอบใจว่า "อาจจะเป็นเพราะเธอค่อนข้างขี้อาย? ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คงจะดีขึ้นเอง""แต่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ"หญิงชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “เด็กสาวคนนั้น ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรกลายเป็นคนขี้อายได้ขนาดนี้…”ขณะที่ฉันกำลังจะพูด หญิงชราถอนหายใจและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่ดี เธอยังอยู่เมืองจิ่งเฉิงอยู่ไหม?"ฉันตอบตามตรง “อืม ฉันยังอยู่ค่ะ”“ดีมากเลย! ฉันจะส่งคนขับรถไปรับเธอ”หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม "คืนนี้ฉันกำลังวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับชิงหลี่ และฉันต้องการให้เธอมา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ฉันกับย่าโจวสวมเสื้อผ้าที่เธอออกแบบให้เราสำหรับช่วงตรุษจีน และหลายคนถามว่าสั่งจากที่ไหน ฉันจะใช้โอกาสนี้แนะนำเธอ สัญญาว่าเธอจะไม่ขาดลูกค้าไปทั้งปี!!"".....ดีจังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า"ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงทำข้อตกลงทางธุรกิจตั้งแต่ที่เลือกทำงานออกแบบชุดที่สั่งทำพิเศษแบบนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดต่อกับคุณหญิงคุณนายจากตระกูลใหญ่ แม้ตอนนี

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status