แชร์

ได้กำไลมหาศาล

ผู้เขียน: Sanassetong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-15 23:02:42

หลังจากที่มู๋จินเป่าหลับไป ห่าวอู๋อวี่ก็เก็บป้ายหยกที่อาจารย์ จากมิตินิมิตให้มาใส่ในถุงมิติของตน เพราะต้องการจะเสพไอวิเศษของต้นหลิวต้องแสงจันทร์ และต้องการรู้ว่าแรงกดดันที่อยู่ตำแหน่งนี้ ตนจะรับได้มากน้อยเพียงใดถ้าไม่มีป้ายหยก พอเก็บป้ายหยกเข้าไปในถุงมิติทันใดนั้น ก็มีแรงกดดันมหาศาลพุ่งเข้าหาห่าวอู๋อวี่ช่างหนักหน่วงเหลือเกิน และผ่อนคลายไปในตัว ร่างกายของห่าวอู๋อวี่เสพไอวิเศษอย่างตะกละตะกลาม ทุกรูขุมขนเลยก็ว่าได้หลังจากนั้นไม่นานห่าวอู๋อวี่ก็ดิ่งสู่ห่วงฝึกฝนทันที หลังจากที่มู๋จินเป่าหลับได้เกือบสองวันก็สะดุ้งตื่น เพราะอยู่ดีๆก็รู้สึกเย็นวูบๆ พอตื่นขึ้นมาก็เห็นห่าวอู๋อวี่ยังนั่งสมาธิอยู่ และอยู่ๆนางก็รู้สึกเย็นวูบขึ้นมาอีก นางเป็นอะไรไป สักพักก็เย็นขึ้นอีกครั้ง

"เจ้านายข้าเลื่อนวรยุทธได้สามระดับแล้ว ตอนนี้ข้าอยู่ในขั้นจิตตราระดับหกดาว พวกเรากำลังย้ายที่สำหรับขับเคลื่อนวรยุทธกัน ทุกคนยกเว้นจื่ออี้เฉินก็เลื่อนวรยุทธคนละสามระดับกัน"

ลี่หลินสื่อกับมู๋จินเป่า น้ำเสียงแสดงถึงความดีใจอย่างเห็นได้ชัด

"เป็นเช่นนี้นี่เอง ข้าถึงได้รับรู้ว่าอยู่ๆตัวข้าก็รู้สึกเย็นวูบๆจึงทำให้ข้าตื่นจากพวัง พวกเจ้าท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เมื่อผลหลิวต้องแสงจันทร์สุก

    เมื่อคืนวันเพ็ญบรรยากาศรอบ ๆ ก็มีผู้คนหนาตาขึ้นมามาก ณ วันนี้ มู๋จินเป่าเองก็รับรู้ได้ว่า ไม่มีผู้ใดเข้าออกจากอาณาเขตที่ห่าวอู๋อวี่กางไว้ ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาห้าทุ่มแล้ว แต่ห่าวอู๋อวี่ไม่มีวีแววที่จะตื่นด้วยซ้ำ อยู่ๆนางก็รู้สึกเย็นวูบขึ้นแสดงว่าลี่หลินออกจากสมาธิแล้ว ครั้นนี้นางรู้สึกเย็นวูบรั่ว ๆ จนไม่ได้นับเพราะกังวลกับเวลาที่จะมาถึง คนที่อยู่ข้างหน้ายังไม่มีวีแววที่จะตื่นด้วย ไม่รู้จะตื่นทันหรือไม่ ครั้นจะไปปลุกก็กลัว เพราะสีหน้าของห่าวอู๋อวี่เยือกเย็น บางครั้งมีไอเย็นออกมาและอยู่ๆก็หายไป แล้วกลับมาอีกวนเวียนอยู่แบบนี้จนนางเองก็ตกใจ"เจ้านายพวกข้าเตรียมพร้อมกันแล้ว ข้ามีวรยุทธเพิ่มอีกห้าระดับตอนนี้อยู่ขั้นมายาระดับที่หนึ่งระดับมนตรา ของข้าเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่ตอนนี้พวกข้าก็เข้าใกล้ต้นหลิวต้องแสงจันทรไม่ได้เลย พวกข้าน่าจะต้องเตรียมการอยู่ที่นี้ "ลี่หลินสื่อกับมู๋จินเป่า ว่าตนเลื่อนวรยุทธได้แล้วแต่เข้าใกล้ต้นหลิวไม่ได้อยู่ดี"พวกเจ้าทำได้ดีมาก บริเวณที่ข้าอยู่ใกล้ตนหลิวต้องแสงจันทร์อยู่มาก มองเห็นต้นหลิวต้องแสงจันทร์ แต่มองไม่เห็นผลของมันเลย เจ้ารู้หรือไม่ว่าผลหลิวต้องแสงจันทร์ อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ

    ทันใดนั้นก็มีแสงสีแดงและสีฟ้าพันกันเป็นเส้นวงกลมพุ่งลงมาจากฟ้ามายังร่างของห่าวอู๋อวี่ และจื่ออี้เฉิน ทุกอย่างก็สว่างขึ้นมาทันที ร่างของทั้งสองลอยขึ้นอยู่เหนือพื้นดินเล็กน้อยสักระยะหนึ่งก็กลับมาอยู่ที่เดิม"เจ้านายของข้าทำสำเหร็จแล้ว ข้าและเจ้านายมีวรยุทธเพิ่มขึ้นแล้ว"จื่ออี้เฉินร้องขึ้นด้วยความดีใจ พลางมองฝูงสัตว์อสูรวิ่งกรูหนีออกมาจากทิศทางที่ต้นหลิวต้องแสงจันทร์อยู่ซึ่งเมื่อครู่มีสายฟ้าฟาดลงมาเหมือนกับตำแหน่งของจื่ออี้เฉินยืน ณ จุดบริเวณนั้นน่าจะเป็นนายของตนเป็นแน่ นายท่านของเค้าไม่ใช่แค่เลื่อนวรยุทธแต่ยังสามารถควบคุมพลังอะไรสักอย่าง ของต้นหลิวต้องแสงจันทร์ได้เป็นแน่ เพราะจะมีสายฟ้าไม่กี่ครั้งที่เจ้านายของตนเลื่อนวรยุทธ ครั้งแรกที่ตนติดตามเจ้านายมาก็เพราะ เจ้านายควบคุมสายน้ำอมฤตพิฆาตที่อยู่ในถ้ำตะวันได้ตนจึงต้องติดตามมา ตอนนั้นมีสายฟ้าสีรุ้งฟาดลงมาด้วย ซึ่งแรกๆตนไม่อยากติดตามจ้านายด้วยซ้ำแต่พอเห็นความสามารถ และความพยายามในตอนนั้น ทำให้ตนปลื้มอยู่ไม่ใช้น้อยหลังติดตามมาแล้วก็ได้เจอะเจอของดี ๆเรื่อยมาจึงทำให้ตนรู้สึกว่าตนไม่น่าผิดหวังเลยสักนิด ที่ติดตามนายท่าน ตอนนี้ไม่รู้ว่านายท่านจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   การไล่ล่าจากผู้มียุทธจากมิติเชื่อมจิต

    หลังจากที่จื่ออี้เฉินกรายร่างเป็นอีกาดำสามขา แล้วหอบกลุ่มของพี่ซิงอี และสัตว์อสูรทั้งสองไปรับเจ้านาย ห่าวอู๋อวี่ และมู๋จินเป่าหลบหนี้ผู้คนไปยังถ้ำที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อวางแผนต่อไป หลังจากวางทุกคนลงแล้วตัวของจื่ออี้เฉินก็กรายร่างมาเป็นบุรุษรูปงามในชุดสีดำดังเดิม"จินเป่า! จินเป่า!จินเป่า!เจ้าเป็นอะไรไป"ซิงอีเป็นคนแรกที่เอ่ยขึ้นพลางวิ่งเข้าไปหามู๋จินเป่า ที่ห่าวอู๋อวี่อุ้มอยู่ พอห่าวอู๋อวี่วางมู๋จินเป่าลง เจ้าต้นหลิวต้องแสงจันทร์จิ๋วก็กระโดดลงจากตัวของมู๋จินเป่าพร้อมกับกระต่ายหยกตัวจิ๋ว ที่ตอนนี้หน้าตาตื่นๆผิดกับก่อนหน้านี้ที่แข็งแรงและตัวใหญ่โตมาก กระต่ายหยกจิ๋วมองหน้าห่าวอู๋อวี่ และหลับตาปริบๆ เจ้าต้นหลิวต้องแสงจันทร์จิ๋วเดินไปหาห่าวอู๋อวี่และดึงชายเสื้อของห่าวอู๋อวี่ และกระเถิบๆเข้าหาห่าวอู๋อวี่ ทุกคนก็ตกใจกับการกระทำของมัน มีแต่กระต่ายหยกตัวเดียวที่เดินเข้าไปหาต้นหลิวต้องแสงจันทร์ เพราะมันเข้าใจกัน ลี่หลินจึงกรายร่างเป็นสัตว์อสูรจิ้งจอกเก้าหางและทำการคุยภาษาสัตว์กับกระต่ายหยก เมื่อรู้ทุกอย่างกระจ่างแจ้งแล้วจึงกลับร่างเป็นดรุณีน้อยและสื่อสารกับมนุษย์"ตอนนี้ใกล้เที่ยงคืนแล้วท่านห่าว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   นายหญิงข้าผิดไปแล้ว

    เจ้ากระต่ายหยกก็มาโพล่ในโพลงของกระต่ายอสูรตัวหนึ่งที่มีสีขาวตัวน่ารักน่าเอ็นดู เมื่ออยู่ๆก็มาโพล่แบบนี้ทำให้สัตว์อสูรกระต่ายขาวตกใจและเป็นลมไปทันที เมื่อกระต่ายหยกคายทุกคนออกก็สลบไปทันที มู๋จินเป่าที่สลบแล้วร่วมสามวันก็ค่อยๆตื่นขึ้นมา ทันใดนั้นวรยุทธของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวนางเองก็ยังสะลึมสะลืออยู่"เจ้านายข้าต้นหลิวต้องแสงจันทร์ ตอนนี้ท่านได้เป็นนายข้าแล้ว"ต้นหลิวต้องแสงจันทร์ที่กลายเป็นเด็กอีกครั้งกล่าวขึ้น มู๋จินเป่าก็มองเห็นห่าวอู๋อวี่ก็ตกใจ สภาพร่างกายของเขาช่างน่ากลัวเหลือเกิน "เจ้าว่าอะไรนะเจ้าต้นไม้"มู๋จินเป่าเอ่ยถามพลางมองห่าวอู๋อวี่และกระต่ายหยก"เจ้านายข้าคือต้นหลิวต้องแสงจันทร์เอง เราทำพันธสัญญากันเมื่อสามวันที่แล้ว ๆ เจ้านายก็สลบไป บุรุษผู้นี้พาเจ้านายและข้ากับเจ้ากระต่ายหยกหนีมา ส่วนคนอีกกลุ่มหนีไปอีกทาง เพราะต้องการจะแบ่งผู้ออกตามล่าพวกเราให้น้อยลง"ต้นหลิวต้องแสงจันทร์กล่าว มีแต่มู๋จินเป่าเท่านั้นที่สื่อสารกับต้นหลิวต้องแสงจันทร์ได้โดยตรง"แล้วเจ้ามีวิธีรักษาสองคนนี้หรือไม่ "มู๋จินเป่าถามเจ้าต้นหลิวต้องแสงจันทร์เพราะตนไม่มีสิ่งใดติดตัวมาเลย ต้นหลิวต้องแสงจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ปลดผนึกมิติ

    ทางด้านมู๋จินเป่าเมื่อนั่งถ่ายทอดพลังรักษาให้ห่าวอู๋อวี่ พลังในร่างกายของนางก็ปั้นป่วน เหมือนกำลังกดดันพลังบางอย่างเอาไว้ พอเริ่มถ่ายพลังออกไปเรื่อยๆ พลังของห่าวอู๋อวี่ก็ผลักดันพลังนางกลับมาทุกที ทำให้มู๋จินเป่าที่ทีแรงมีพลังในตัวถูกกดทับเอาไว้ก็เริ่มคลายตัวลง มู๋จินเป่าจึงเร่งที่จะถ่ายพลังให้ห่าวอู๋อวี่มากขึ้นเพราะพลังต้านในตัวของห่าวอู๋อวี่ทำให้ตนรู้สึกว่าอีกไม่นานตนน่าจะเลื่อนวรยุทธแล้ว พลังในตัวบุรุษผู้นี้เป็นพลังที่กลหลไม่รู้ว่าหนาวหรือร้อนปนเปกันไปหมด แต่พลังนี้มันดีต่อตัวนางใช้น้อย ทันใดนั้นนางก็เลื่อนวรยุทธทันที และห่าวอู๋อวี่เองก็กระอักเลือดออกมาและฟื้นทันที"เจ้าจะรีบถ่ายทอดพลังรักษาให้ข้าหายเร็ว หรือเพื่อเพิ่มวรยุทธของเจ้ากันแน่ ถ้าข้าไม่ตื่นเสียก่อนร่างกายของข้าคงระเบิดไปนานแล้ว พลังรักษาใครเขารีบร้อนถ่ายให้กัน ต้องค่อยๆสิ ข้าก็เคยถ่ายให้เจ้าตั้งสองครั้งไม่เห็นเจ้าจะกะอักเลือดออกมาเลย"ห่าวอู๋อวี่พูดพลางเช็ดเลือดออกจากมุมปาก และหยิบน้ำอมฤตมาดื่มก็รู้สึกว่าร่างกายของตนแปลก อยู่เฉยๆก็รู้สึกว่าพลังในร่างกายปั่นป่วน หรือจะเป็นพลังของนางที่ถ่ายทอดให้ตนเพื่อการรักษากันนะ"ข้าใช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   อีแร้งยักษ์

    ทางด้านซิงอีกเมื่อรู้ว่ามู๋จินเป่าปลอดภัยนางก็เริ่มกินผลไม้ที่นกยักษ์เอามาทิ้งให้ได้ และหยดน้ำอมฤตให้จิ้งจอกเก้าหางขนสีน้ำผึ้งกับ อีกาดำสามขาทุกวันจนในที่สุดทั้งสองก็รู้สึกตัวในวันที่สามของการหลบหนีมา หลังจากที่ร่างกายได้รับไอวิเศษของผลหลิวต้องแสงจันทร์ ก็ทำให้ร่างกายทั้งสองแข็งแรงมาก เหมือนไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน "นี้มันที่ใดกัน เรามาทีนี้ได้อย่างไรกัน ข้าจำได้ว่าข้าถูกพลังยุทธของผู้มียุทธระดับสูงซัดใส่อย่างเต็มที ข้าคิดว่าพวกเราทุกคนไม่น่าจะรอดแล้วตกลงเรารอดแล้วหรือ"จื่ออี้เฉินกล่าวขึ้นพลางมองไปรอบ ๆ ก็เห็นเป็นลักษณะเหมือนรังนก และกลิ่นอายก็คุ้นเคยยิ่งนัก พลางมองทุกคนที่ตอนนี้ปลอดภัยดี จื่ออี้เฉินคิดถึงเจ้านายเป็นคนแรกจึงลองสื่อสารดูแต่ไร้ผล เจ้านายของเขาติดต่อไม่ได้อีกแล้ว พลางมองไปยังลี่หลินที่มีท่าทีเศร้าเช่นกัน"เจ้าก็สื่อสารกับเจ้านายไม่ได้ล่ะซิ ข้าติดต่อไม่ได้แต่ข้ารู้เจ้านายของข้าฟื้นแล้วและยังมีวรยุทธที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้วรยุทธของข้าก้าวกระโดดยิ่งนัก "ลี่หลินกล่าวพลางมองร่างกายตัวเองและภูมิใจมาก เดิมที่นางมีร่างกายเป็นมนุษยแต่บางครั้งการทำสีหน้าก็ไม่ค่อยมีชีวิตชีว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   การไล่ล่าจากมิติเชื่อมจิต

    เมื่ออีแร้งยักษ์บินออกจากนครวิหกแล้ว ทุกคนก็รู้สึกโล่งใจ "จื่ออี้เฉินพวกเราหาประสบการณ์ในป่าแห่งนี้ก่อนดีไหม ข้ากับลี่หลินและเจ้าสือยวี่จะได้มีประสบการณ์กันมากขึ้น ขามาป่าต้องแสงจันทร์พวกข้าผจญภัยในหลายรูปแบบ ตอนที่มีวรยุทธน้อยๆอยู่ ตอนนี้ข้ามีวรยุทธมากขึ้นแล้วข้าอยากผจญภัยแบบผู้มียุทธกัน"ซิงอีกล่าว เพราะป่าแถบนี้ร่มรื่นและมีไอวิเศษอ่อนๆน่าอยู่อาศัยพลางยิ้มและจินตราการว่าจะดีไม่น้อยถ้าได้จญภัยอยู่ที่นี้สักระยะ"ถ้าหากตอนนี้ข้ากับเจ้านายยังสื่อสารกันได้ข้าก็อยากให้ท่านได้หาประสบการณ์ ได้ผจญภัยอยู่หรอกแต่ตอนนี้ข้าติดต่อเจ้านายไม่ได้นะสิ และอีกอย่างเรามีของที่คนหมู่มากต้องการอยู่ ข้าเองก็ไม่วางใจนัก หมู่บ้านต้องแสงจันทร์ก็คงจะมีประกาศติดตามหาตัวพวกเราแล้ว ถ้าพวกที่มียุทธและมีกระจกสมปราถนาแบบที่เรามีก็จะแย่เอา ข้าต้องการกลับให้ถึงเมืองตะวัน ก่อนและแจ้งให้บิดาของเจ้านายข้าออกตามหาเจ้านาย เมื่อเราพบกลุ่มเจ้านายแล้วค่อยหาที่ฝึกประสบการณ์และผจญภัยดีหรือไม่"จื่ออี้เฉินกล่าวความคิดของตนให้คนอื่นฟัง "ข้ารู้สึกว่ามีผู้จับตาดูเราอยู่ ข้าว่าเรารีบกลับเมืองตะวันของเจ้ากันเถอะ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พิษปลิดชีพ

    มู๋จินเป่าเรียกเจ้าต้นไม้จิ๋วออกมาจากมิติที่นางพึ่งปลดผลึกได้ และทุกคนก็ร่วมปรึกษากัน เพราะคนของตนมีแค่สามคนส่วนอีกฝ่ายมีเป็นสิบห้าคน เดิมทีหากไม่มีข่ายอาคมกันตาคนกลุ่มนั้นก็คงจะกรุเข้ามาเพื่อจับตัวทั้งสองแล้ว"ถ้าพวกเจ้าอยู่ห่างจากอาคมกันตาคนเหล่านั้นก็จะจับเจ้าได้ "ห่าวอู๋อวี่กล่าว"แต่ถ้าข้าไม่ออกไปแล้วจะได้สู้หรือ5555 อาคมกันตาของท่านก็ดีอยู่หรอกแต่ข้ามีแผนของข้า ลอบกำจัดผู้ที่อยู่ใกล้ข่ายอาคมก่อนไม่ให้ผู้อื่นรู้ตัว เมื่อคนอยู่ใกล้หมดหรือพวกเข้ารู้ตัว เจ้าต้นไม้จิ๋วเจ้าทำตัวให้ใหญ่และโอบข้าไว้ ข้าจะรอจัดการคนเดินผ่านไปมา ส่วนท่านก็ล่อคนมาให้ข้าจัดการ"มู๋จินเป่ากล่าวสิ่งที่ตนคิดออกไป"เจ้าจะเก่งเพียงนั้นเลยหรือ คนกลุ่มนี้มีวรยุทธก็เหนือเจ้าทั้งนั้น แต่แผนแรกก็เข้าท่าดีข้าคิดว่ากำจัดคนที่อยู่ใกล้ก่อนนี้แหละ"ห่าวอู๋อวี่กล่าว"ถ้าท่านไม่เก็บข่ายอาคมไปแล้วข้าจะออกไปได้หรือจะจัดการกับคนพวกนั้นได้อย่างไร"มู๋จินเป่ากล่าว เพราะเขาเคยเห็นข่ายอาคมของห่าวอู๋อวี่ในตอนที่อยู่เขาป่าต้องแสงจันทร์แล้ว เขาออกไปไหนไม่ได้เลย"เดียวข้าแสดงให้เจ้าดูเอง"ห่าวอู๋อวี่กล่าวน้ำเสียงของเขาสนุกสนานในที แล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เคร็ดวิชาเรียกพายับ

    "ท่านพ่อสหายจากมิติสามัญต้องการที่จะหาสถานที่ฝึกวรยุทธกัน ลูกคิดว่าให้พวกเขาไปฝึกวรยุทธที่ตำหนักร้างดีหรือไม่ขอรับ เราก็ให้คนของเราไปดูแลพวกเขาอยู่รอบนอก ถ้าพวกเขาขาดเหลือสิ่งใดเราก็ส่งให้ ถ้าท่านพอไม่ไว้ใจพวกเขาก็ให้ลูกไปฝึกกับพวกเขาก็ได้นะขอรับ"องค์ชายหกกล่าวขอผู้เป็นบิดาให้หาที่ฝึกวรยุทธให้กับสหายจากมิติสามัญ เพราะพวกเขาบอกว่าที่มาจากมิติสามัญนั้นก็เพื่อที่จะหาประสบการณ์และฝึกวรยุทธให้เข้มแข็งขึ้นก่อนที่จะไปยังมิติเชื่อมจิต"เจ้ายังมีความต้องการที่จะเดินทางไปยังมิติอื่นอีกอยู่หรือ เจ้าไม่เห็นพี่ชายของเจ้าหรือขนาดอยู่ที่ดีๆยังมีคนปองร้ายเขาถึงขนาดนั้น โลกแห่งนี้ไม่ได้ใจดีกับทุกคนหรอกนะ ดูพี่ชายเจ้าเป็นตัวอย่างสิในคืนแต่งงานแท้ๆอยู่ดีๆเขาก็ต้องนอนเป็นผักอยู่ตั้งหลายปี"ท่านประมุขของมิตินิมิตกล่าวกับบุตรชายของตน"ท่านพ่อไม่รู้อะไรเสียแล้ว ในโลกที่ผู้มีวรยุทธเป็นใหญ่แบบเราผู้ใดที่แข็งแรงกว่าผู้นั้นก็กำปั้นหนักกว่าเสมอสามารถชี้ไปทิศใต้ทิศเหนือได้ ข้าต้องการฝึกประสบการณ์กับสหายจากมิติสามัญนั้นจริงๆขอรับ เผื่อวันข้างหน้าถ้าเสด็จพี่องค์ชายรัชทายาทเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก พวกเราก็จะได้แก้ไขไ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   วิชาแฝดมิติ

    พอได้ผลหยางเหมยมาแบบชอบธรรมแล้วจางซินก็นำมาปรุงสมุนไพรรักษาลมปราณทันที และขอให้จินเป่ามาช่วย เพราะยามใดมีจินเป่าลงมือปรุงสมุนไพรจะออกมาเป็นจำนวนหลายเม็ด เขาจึงสรุปเอาเองว่าจินเป่าได้พรสวรรค์มาจากตระกูลจาง ส่วนตัวเขาเองเหมือนจะเก่งด้านนี้แต่น่าจะมาจากการฝึกฝนเองทั้งนั้น "จางซินข้าเห็นเหมือนว่าเจ้ามีมิติล่องหนเลยทำไมเจ้าไม่ลองนำสมุนไพรพวกนี้ไปปรุงในมิติเล่ามันอาจจะได้หลายเม็ดก็ได้"จินเป่ากล่าวขึ้น"ข้ารู้แล้วแหละว่าเจ้าต้องรู้เพราะการรักษาคุณชายใหญ่และซิงอีตอนที่อยู่มิติสามัญนั้นมันต้องใช้ผู้ที่มีมิติล่องหลรักษาเท่านั้น"ซินจางกล่าวขึ้น"ข้าสงสัยเจ้าตั้งแต่อยู่หุบเขาแห่งบรรพกาลแล้วล่ะ แต่ที่ข้าแน่ใจก็วันก่อนที่เราจะออกเดินทางจากจวนห่าวอู๋มานั่นแหละ เพราะว่าน้ำอมฤตนั้นเป็นของข้าและข้าก็รู้ว่าเจ้าเอาน้ำอมฤตออกข้าเข้าไปในมิติล่องหลและเจ้าก็เอามันออกมา"จินเป่ากล่าว"เจ้าจะรู้ได้อย่างไรเจ้าเก่งขนาดนั้นเชียว"จางซินกล่าวขึ้นโดยไม่เดือดร้อนเพราะต่อไปนี้ตนไม่มีสิ่งใดที่จะปกปิดต่อน้องสาวของตัวเองอยู่แล้ว"แล้วเจ้ามีมิติล่องหนจะเรียนรู้อะไรกับมิติล่องหนของเจ้าบางที่ทำให้เกิดประโยชน์มากกว่าการ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ชิงคืน

    "ที่พวกข้ามานี้ไม่ได้ต้องการอะไรหรอกนะ พวกข้าแค่ไม่เคยเห็นหน้าเจ้านะ แล้วผลหยางเหมยนี้ล่ะเอามาจากที่ใดกันข้าได้ข่าวว่าถ้าพบก็ต้องเป็นสิบๆลูกนิ เจ้าเอามาจากที่ใดล่ะถึงมีเพียงลูกเดียวไม่ใช่ว่ามีหลายลูกแต่ไม่เอาออกมาหรอกหรือ"บุรุษผู้หนึ่งถามเจ้ากระต่ายหยกขึ้น เจ้ากระต่ายหยกทำหน้าบูดขึ้นทันทีมันไม่ตอบแต่มองกลับไปก็รู้ว่าคนกลุ่มนี้ละโมบอยากได้ผลหยางเหมยหมดทุกผลรวมกับเบี้ยที่เสียมาด้วย"ทำไมไม่ตอบล่ะเจ้ารู้หรือป่าวว่าลูกพี่ของข้าคือผู้ที่เก่งที่สุดในมิติแห่งนี้ท่านตงหมิงของข้าผู้ที่คว้าอันดับหนึ่งของศึกมังกรเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว"บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้น แต่กระต่ายหยกเองก็ยังเมินเฉยอยู่"หรือเจ้าไม่รู้ภาษามนุษย์กันถึงได้เงียบแบบนี้"บุรุษอีกผู้ถามขึ้น"พวกเจ้ามีปัญหาอะไรกันหรือป่าว"จินเป่ากล่าวถาม"พวกข้าจะเป็นอย่างไรแล้วพวกเจ้าจะมีปัญหาอะไรกัน"บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้นจึงทำให้กลุ่มคนของตงหมิงราวๆแปดคนมองมาที่จินเป่าเพียงคนเดียว ทันใดนั้นด้วยความงามของนางก็ทำให้คนที่เห็นถึงกับตกตลึงทันที"อ่ะเจ้าจะมาพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกหรอกนะ ถ้าสตรีผู้นี้จะมาเกี่ยวข้องข้าเองก็เต็มใจยิ่งนัก ข้ามีนามว่าตงหมิงที่ศ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ผลหยางเหมย

    "ข้าว่าท่านประมุขในมิติแห่งนี้ก็ฉลาดมากนักนะ สงสัยองค์ชายรัชทายาทต้องฟื้นแล้วล่ะ และนี้คงจะเป็นการล่อคนออกมาเป็นแน่ หรือจะจัดเพื่อเอาใจเรากันนะ"จางซินกล่าวขึ้น"ข้าว่าน่าสนุกออกเราไปขอให้องค์ชายหกให้พวกเราเข้าร่วมด้วยดีกว่าเราจะได้ประสบการณ์ด้วย แถมเคล็ดวิชานี้ก็น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง ดัชนีสุริยัน ข้าได้ยินแล้วสนใจยิ่งนัก ถ้าท่านได้ศึกษาเคล็ดวิชานี้ท่านต้องไปได้ไกลแน่ๆ"จินเป่ากล่าวขึ้นพลางนึกคึกขึ้นมา และมองหน้าห่าวอู๋อวี่ เพราะจินเป่าต้องการเคล็ดวิชานี้เพื่อเขา"เจ้าอยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี้ถึงเพียงนั้นเลยหรือ "ห่าวอู๋อวี่ถามขึ้น"ยังกับท่านไม่อยากจะลองประลองในครั้งนี้ ข้าว่าตัวท่านแหละต้องการประลองในครั้งนี้มากกว่าข้าเสียอีก แล้วอีกอย่างเราเป็นคนจากมิติอื่นเขาไม่น่าจะสังหารเราหรอกมั้ง"จินเป่ากล่าวขึ้น"ข้าคิดว่ามันก็เป็นการดีนะถ้าเราจะลองประลองฝีมือในครั้งนี้ แต่ข้าว่าเราน่าจะช่วยกันหาผลหยางเหมยก่อนดีหรือป่าวเพราะเราต้องเตรียมสมุนไพรรักษาเส้นลมปรานเสียก่อนไม่อย่างนั้นถ้าบาดเจ็บมาเราแย่แน่"จางหยงกล่าวขึ้น"ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราไปหาองค์ชายหกกันเพื่อจะคุยเรื่องการเข้าร่วมประลอง ส่วนเ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ประกาศ

    หลังจากที่ท่านประมุขรู้ทุกอย่างที่บุตรชายของตนเล่าให้ฟัง จึงส่งคนไปตามหาพระชายาและจับตัวพระชายามา แต่ทหารที่จะไปตามตัวพระชายาขององค์รัชทายาทนั้นยังไม่ได้ออกจากตำหนักก็พบว่าพระชายาได้เดินทางเข้าวังหลวงเสียแล้ว หลังจากที่นางรู้สึกถึงสายฟ้าฟาดเข้ามาในวังหลวง บุรุษผู้เป็นสามีก็ให้นางรีบเข้ามาดูสถานการณ์ เพราะคนของพวกนางถูกสับเปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่มีใครคอยสืบข่าว หลังจากที่นางเข้ามาในวังหลวงก็ถูกทหารจับตัวทันที"พวกเจ้าจับข้าทำไมกัน ข้าคือชายาขององค์ชายรัชทายาทนะปล่อยข้ากับลูกเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าทำกับข้าแบบนี้ไม่กลัวถูกตัดหัวหรือไร"พระชายาร้องตกใจที่ตัวเองถูกจับกุมไว้ ทั้งๆที่นางก็คิดว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเกี่ยวกับตัวของนางแน่นอน"ไปกับพวกข้าซะดีๆเถอะเดี๋ยวท่านก็รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วงท่านได้รับความเป็นธรรมแน่นอน"ทหารผู้หนึ่งกล่าวขึ้นพลางลากตัวคนที่สนิทของพระชายาไป"เจ้าจะพานางไปไหนปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ นี่เป็นคำสั่งของข้า พระชายาขององค์ชายทายาท"เมื่อคนรับใช้ข้างกายของตนถูกจับจึงทำให้พระชายาทนอยู่เฉยๆไม่ได้ร้องโวยวายออกมา เพราะคนข้างกายนั้นคือน้องสามีของนางเอง ไม่นานพระชายาก

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ประกาศ

    หลังจากที่ท่านประมุขรู้ทุกอย่างที่บุตรชายของตนเล่าให้ฟัง จึงส่งคนไปตามหาพระชายาและจับตัวพระชายามา แต่ทหารที่จะไปตามตัวพระชายาขององค์รัชทายาทนั้นยังไม่ได้ออกจากตำหนักก็พบว่าพระชายาได้เดินทางเข้าวังหลวงเสียแล้ว หลังจากที่นางรู้สึกถึงสายฟ้าฟาดเข้ามาในวังหลวง บุรุษผู้เป็นสามีก็ให้นางรีบเข้ามาดูสถานการณ์ เพราะคนของพวกนางถูกสับเปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่มีใครคอยสืบข่าว หลังจากที่นางเข้ามาในวังหลวงก็ถูกทหารจับตัวทันที"พวกเจ้าจับข้าทำไมกัน ข้าคือชายาขององค์ชายรัชทายาทนะปล่อยข้ากับลูกเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าทำกับข้าแบบนี้ไม่กลัวถูกตัดหัวหรือไร"พระชายาร้องตกใจที่ตัวเองถูกจับกุมไว้ ทั้งๆที่นางก็คิดว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเกี่ยวกับตัวของนางแน่นอน"ไปกับพวกข้าซะดีๆเถอะเดี๋ยวท่านก็รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วงท่านได้รับความเป็นธรรมแน่นอน"ทหารผู้หนึ่งกล่าวขึ้นพลางลากตัวคนที่สนิทของพระชายาไป"เจ้าจะพานางไปไหนปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ นี่เป็นคำสั่งของข้า พระชายาขององค์ชายทายาท"เมื่อคนรับใช้ข้างกายของตนถูกจับจึงทำให้พระชายาทนอยู่เฉยๆไม่ได้ร้องโวยวายออกมา เพราะคนข้างกายนั้นคือน้องสามีของนางเอง ไม่นานพระชายาก

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สายฟ้าฟาด

    กลางคืนอันเงียบสงบก็เกิดพายุลมแรงขึ้นเสียงฟ้าคำรามกึกก้อง ทั้งหกที่นอนอยู่ในห้องรีบวิ่งออกมาด้านนอกรวมตัวกัน"มันเกิดสิ่งใดหรือทำไมท้องฟ้าแปรปรวนเช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะมีผู้เลื่อนวรยุทธหรอกหรือ"ห่าวอู๋มูลี่กล่าวขึ้น"น่าจะมีผู้ที่มีวรยุทธลึกล้ำที่กำลังจะเลื่อนวรยุทธนะท่านพี่ ข้าว่ามิตินิมิตแห่งนี้มีผู้ที่วรยุทธลึกล้ำไม่มีอันใดแปลก หรอก หรือว่าจะเป็นองค์ชายรัชทายาทที่ต้องฟื้นภายในวันนี้แต่เขาไม่ฟื้น กลับมาฟื้นกลางดึกแบบนี้ แล้วร่างกายได้รับความกดดันพลังภายในเป็นเวลานานจึงทำให้วรยุทธเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น อยู่ๆก็มีสายฟ้าฟาดเข้ามาในพระราชวัง สายตาทั้งหกคู่ที่มองเห็นแทบจะบอดเลยทีเดียว ทุกคนต่างหลับตาและอุดหู"โน้นสายฟ้าฟาดเข้าไปในวังน่าจะตำแหน่งของตำหนักองค์ชายรัชทายาทเป็นแน่"จินเป่าร้องขึ้นพลางชี้มือไปที่ปลายสายของสายฟ้านั้น สายฟ้าผ่าลงไปสักพักแสงก็เลือนหายไป ทุกคนที่อยู่ตำหนักขององค์ชายรัชทายาทนั้นสลบทันที ผู้เป็นมารดาขององค์ชายรัชทายาทลุกขึ้นมาเพราะเสียงฟ้าผ่า นางตื่นขึ้นมาก็กระอักเลือดไปสามที แต่ด้วยความที่นางเป็นห่วงบุตรชาย จึงรีบเดินออกไปดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้น และรีบว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตำแหน่งประมุข

    หลังจากมอบยาให้กับท่านประมุขแล้วทั้งหกก็ไม่ได้เข้าไปตำหนักใหญ่อีกเลย ทำราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ให้ความร่วมมือกับท่านประมุขแต่อย่างใด องค์ชายหกยังแวะเวียนมาเยี่ยมทั้งหก และพาพวกเขาออกไปด้านนอกตามเคย "ห๊ะทั้งหกไม่ได้เข้าไปรักษาองค์ชายรัชทายาทหรอกหรือ แสดงว่าที่เราขู่เขาได้ผลล่ะสิ แล้วผู้ที่ข้าส่งไปทำไม่ยังไม่กลับมารายงานอีกหรือพวกเจ้าจัดการเก็บเรียบร้อยแล้วหรือ"เสียงบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้น "กลุ่มคนที่ถูกส่งไปไม่ได้มีใครกลับออกมาแบบมีชีวิตเลยขอรับ ทางการน่าจะจับตายหมดแล้ว ตอนนี้กำลังสืบอยู่ขอรับ"ผู้ที่มาส่งข่าวรายงาน"ท่านพี่แต่เห็นคนบอกว่าต้นไม้จันทน์แดงนั้นถูกเก็บออกไปเสียแล้ว ข้าเกรงว่าไม่ช้าองค์ชายรัชทายาทต้องฟื้นมาเป็นแน่ เราต้องหาสิ่งใดไปแทนหรือไม่ ข้าต้องการให้ลูกชายของเราทั้งสอง ห้าขวบเร็วๆจังจะได้กำจัดมันไปเสียที"เสียงสตรีกล่าวขึ้น ขณะที่ทุกคนคิดว่านางไปต่างเมื่องเพื่อเยี่ยมมารดาของนาง"เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นแหละเจ้าจะได้กำจัดมันแล้ว ถ้าไม่มีต้นจันทร์แดงอยู่เพียงสามเดือนมันก็จะฟื้นแต่นั้นมันก็นานพอดู เอาเป็นว่าข้าจะหาวิธีใหม่ก็แล้วกัน แต่กลุ่มคนเหล่านนั้นมันรู้ได้อย่างไรว่าต้

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ข่มขู่

    "ห๊ะอะไรนะ ชายาขององค์ชายรัชทายาทหนีไปแล้วหรือ "จางซินร้องขึ้นเมื่อได้ฟังองค์ชายหกเล่าเรื่องในวังให้ฟัง"นางคงไปดูแลมารดาที่ป่วยนะ องค์ชายหกก็บอกอยู่ว่านางกล่าวเช่นนั้น"จินเป่าพูดอย่างไม่ใส่ใจ "เจ้าเชื่อแบบนั้นจริงๆหรือ ที่เจ้ากล่าวตอนกลางวันข้าก็นำไปทูลเสด็จพ่อ กับฮองเฮาพวกเขายังตรัสถามเลยว่าเจ้าสงสัยชายาขององค์ชายรัชทายาทหรือ แต่พอเรามาเล่าให้ฟังว่าเขาอ้างว่ากลับไปเยี่ยมมารดาเจ้ากลับเชื่อ"องค์ชายหกกล่าวขึ้น จินเป่าจึงมองหน้าห่าวอู๋อวี่เขาเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าคืนนี้จะมีผู้ลงมือกับพวกเขาเป็นแน่"วันนี้องค์ชายหกให้เกียรติพวกเราถึงขนาดมาเยี่ยมพวกเราที่เรือน เอาแบบนี้ละกันวันนี้องค์ชายหกพอมีเวลารับประทานอาหารเย็นร่วมกับพวกเราหรือไม่"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น"5555แน่นอน เดียวเราสั่งคนไปนำสุราอาหารมา"องค์ชายหกกล่าวขึ้น"ท่านให้คนไปนำสุราก็เพียงพอแล้ว ที่เราเคยบอกไว้เรื่องอาหารปลาหลี่น้ำจิ้มซีฟู้ด วันนี้พวกข้าจะตอบแทนที่ท่านพาพวกข้าเที่ยวทั้งวันดีหรือไม่"จางซินกล่าวขึ้นเพราะเห็นว่าห่าวอู่อวี่ต้องการรั่งองค์ชายหกให้อยู่ต่อ"อ้าดีเลย ข้าก็อยากที่จะลิ้มรสมันเหมือนกัน เดียวข้าสั่งคนไปซื้อป

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status