แชร์

มิตินิมิตร

ผู้เขียน: Sanassetong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-12 23:21:48

"ข้าว่าพวกเรายังอยู่ที่เดิมนะ เพราะพวกเราก็อยู่ในทะเลเหมือนเดิม"

ห่าวอู๋มู่ลี่กล่าวขึ้น

"เราเดินไปในป่าสักนิดนึงแล้วเราค่อยพักเถอะอยู่แถวนี้มันอันตรายเกินไปเพราะจุดนี้จะเป็นทางเข้าทางออกจากนิติแห่งนี้และก็มีคนรู้จักที่นี้พอสมควรด้วย"

จางหยงกล่าวขึ้นเพราะว่าพวกตนเคยมามิตินิมิตรแล้ว จึงชวนทุกคนเข้าไปพักในป่าจะดีกว่า ทุกคนจึงลากตัวเองขึ้นจากน้ำและเดินโซซัดโซเซขึ้นไปในป่าเมื่อเข้าไปในป่าก็พบกับต้นไม้ใหญ่สองต้นเหมือนเป็นทางเข้าพวกเขาทั้งหกจึงมุ่งไปทางต้นไม้ใหญ่ เมื่อพ้นจากต้นไม้ใหญ่ทั้งสองต้นนั้นแล้วความรู้สึกเหมือนไอวิเศษ พุ่งเข้ามาในร่างกายของคนทั้งสี่คน เป็นไอวิเศษที่มีแรงกดดันมหาศาล ซึ่งแรงกดดันนี้จางซินกับจางหยงจับถึงความผิดปกติไม่ได้ด้วยซ้ำ ทั้งสี่คนจึงทรุดตัวลงแล้วนั่งขัดสมาธิเพื่อที่จะขับเคลื่อนวรยุทธ์ภายใน ขนาดยืนพวกเขาทั้งสี่ยังลำบากแล้วจะให้เดินทางไปยังมิติเชื่อมจิตได้อย่างไร ระหว่างมิติสามัญกับมิตินิมิตรแห่งนี้ช่างมีไอวิเศษที่แตกต่างกันมากนัก ทั้งสี่คนนั่งขับเคลื่อนวรยุทธภายในใช้เวลาเราสองกานธูปทั้งสี่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาไอวิเศษที่กดดันพวกเขามานั้นไม่ได้ทำให้พวกเขาเลื่อนวรยุทธแต่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   รถม้าจากวังหลวง

    เช้าวันต่อมารถม้าอันสวยหรูและใหญ่โตจากวังหลวงจอดรออยู่หน้าโรงเตี๊ยมสองคัน ผู้คนเดินผ่านไปมาก็สงสัยว่าเป็นรถม้าของใครกัน จากวังหลวงใครเสด็จออกมาทำไมถึงมาถึงแต่เช้า บุรุษและสตรีทั้งหก ก็ลงมาจากห้องพักของโรงเตี๊ยมและนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ บุรุษผู้หนึ่งที่พวกเขาได้คุยกันเมื่อคืนก็เดินมาและโค้งคำนับให้พวกเขา"ผู้มียุทธทั้งหกตอนนี้รถมาได้มาจอดรอพวกท่านแล้วหากพวกท่านรับประทานอาหารเสร็จแล้วพร้อมจะไปก็เชิญเลยนะขอรับ"ชายผู้นั้นกล่าวขึ้นและเปลี่ยนสรรพนามเรียกพวกเขาทั้งหกและก็น้ำเสียงอันไพเราะและนอบน้อมกับพวกเขามากกว่าเดิม ทำให้พวกเขาทั้งหกยิ้มได้เพราะว่าถ้ามาในรูปแบบนี้ก็แสดงว่ามาดีจริงๆ"พวกเราอิ่มแล้วล่ะไปกันเถอะ ขอบคุณพวกท่านมากนะที่นำรถม้ามารับพวกเราพวกเราจะได้พักผ่อนในการเดินทาง"จางซินกล่าวขึ้น ทั้งหกจึงออกไปขึ้นรถม้าบุรุษหนึ่งคันและสตรีหนึ่งคัน เมื่อพบคนด้านมองเห็นว่าเป็นบุรุษที่หน้าตาหล่อเหลาขึ้นไปบนรถม้าคันแรกก็เดาสถานะของบุรุษทั้งสามคนนั้นไปต่างๆนานา และเห็นสตรีทั้งสาวขึ้นรถม้าคันที่ใหญ่โตได้สวยหรูอีกคันพวกเขาก็เดากันไป"บุรุษจากวังหลวงหรือ พวกเราก็ต่างเห็นองค์ชายรัชทายาทกันแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   จุดประสงค์ใด

    "ข้าไม่รู้หรอกว่าพวกเขามาดีหรือมาร้ายแต่ข้ารู้แล้วล่ะว่าพวกเขามาเรื่องอะไร สองปีที่แล้วพวกข้าไปเก็บผลหลิวต้องแสงจันทร์แล้วข้าก็พบกับผู้มียุทธของมิติเชื่อมจิตแล้วก็มิตินิมิตผู้มียุทธที่เดินทางไปอาจจะจำพวกข้าได้ จึงติดประกาศเพื่อที่จะเรียกตัวพวกข้าเข้าไปในวังแต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไรแต่น่าจะเกี่ยวกับผลหลิวต้องแสงจันทร์เป็นแน่"จินเป่ากล่าวออกไปให้สหายฟังอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าผู้คนที่อยู่ด้านนอกจะได้ยิน จางซินได้ยินก็ตกใจเพราะตนก็เคยได้ยินมาว่ามีผู้เก็บผลหลิวต้องแสงจันทร์ได้ในสองปีที่แล้ว แต่ทีนางไม่รู้ก็คือ สหายของนางคือผู้ที่โชคดีและเก่งกาจที่เก็บไปได้ และนางเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เศษเสี้ยวของคนหลิวต้องแสงจันทร์ได้อยู่ในกายของนางและพี่ชายเรียบร้อยแล้ว"เป็นพวกเจ้าเองหรือข้ากับพี่ชายก็นึกว่าใครตอนที่ข้ามาถึงนิติสามัญ ข้ามาไม่ทันผลหลิวต้องแสงจันทร์เพราะข้าทั้งสองคนตัดสินใจมาช้าไป พวกข้ายังคุยกันอยู่เลยว่าอีก 10 ปีข้างหน้าค่อยรอผลหลิวต้องแสงจันทรสุกก่อนแล้วจะเข้าไปแย่งชิงกับคนอื่น"จางซินกล่าวอย่างเบิกบาน"เจ้าเบิกบานสิ่งใดกัน เราไม่คิดด้วยซ้ำว่าคนพวกนี้จะพาเราไปท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้นไม้จันทน์แดง

    พอรุ่งเช้าทุกคนตื่นนอน เมื่อข้างในมีความเคลื่อนไหวของคนที่ตื่นนอน บ่าวรับใช้ที่รออยู่ด้านหน้าอยู่แล้วก็เตรียมอ่างล้างหน้าเตรียมน้ำไปเพื่อที่จะให้บุคคลที่อยู่ภายในทั้งหมดได้อาบ พวกเขายกน้ำเข้าไปในแต่ละห้องห้องซ้ายมือสุดที่ซิงอีและจินเป่าอยู่พวกเขาก็นำไปทั้งสองอ่าง ซิงอีจึงพยักหน้าให้ทุกคนออกไปเพราะเดี๋ยวเขาจัดการให้จินเป่าเอง"เขาดูแลใส่ใจพวกเราดีขนาดนี้เจ้ายังกังวลอะไรอีกหรือ"ซิงอีถาม"พวกเราแค่ต้องการป้องกันตัวเองเท่านั้น เพราะข้าไม่อยากจะแยกจากพวกท่านอีกพี่ซิงอีเข้าใจหรือไม่ ข้าอยากจะให้พวกเราทั้งหมดเดินทางไปถึงบ้านเราเร็วๆตั้งแต่ที่เราต่อสู้ที่มิติสามัญแล้ว ข้ากลัวการที่เราต้องแยกทางกัน เหมือนตอนที่เราได้ผลหลิวต้องแสงจันทร์แล้ว ข้ารู้สึกเป็นห่วงพี่อย่างบอกไม่ถูก"จินเป่ากล่าวขึ้น ทำให้ซิงอีน้ำตาคลอ มันก็ใช่อย่างที่นางพูดเพราะตอนนั้นตนก็คิดแบบนี้เช่นกันและตนก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกเหมือนกัน หลังจากที่ทุกคนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็ออกไปนอกตัวห้อง ภายในเรือนนั้นก็ได้จัดเตรียมอาหารวางไว้ให้เรียบร้อยแล้วบ่าวรับใช้ยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหาร"เชิญพวกท่านทั้งหก รับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ห่านต้าเสวุ่ย

    เมื่อองค์ชายหกจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เขาก็กลัวว่าแขกจากมิติสามัญจะเบื่อหน่าย จึงให้บ่าวรับใช้ไปชวนทั้งหมดไปนั่งดื่มน้ำชาที่โรงเตี๊ยมสักหน่อย ทั้งหกรีบตอบรับทันทีเพราะต้องการสืบข้อมูลจากองค์ชายหกด้วบ"พวกท่านคิดว่าองค์ชายหกเป็นอย่างไรหรือ"จินเป่าเปิดประเด็นถามสหายร่วมทาง"ข้ามองดูว่าเขาเป็นคนดีออกนะ เหมือนที่อยู่ในนั้นเหมือนทุกคนจะแปลกๆ แล้วคนไหนที่เป็นชายาหรือ แล้วก็บุตรขององค์ชายรัชทายาทอีก หรือเป็นเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆฮองเฮานั่นหรอ"จางหยงกล่าวขึ้น"เด็กผู้ชายคนนั้นนั่นหรือหน้าตาไม่ได้เหมือนองค์ชายรัชทายาทเลยนะ"จางซินถามขึ้น"เจ้าก็อย่าเพิ่งพูดอะไรดูพวกเราสิเป็นพี่น้องกันยังหน้าตาไม่เหมือนกันเลย แล้วดูเจ้ากับพี่ชายของเจ้าที่พ่อแม่เดียวกันสิ หน้าตายังไม่ค่อยเหมือนกัน นับประสาอะไรกับเด็กนั่นละที่กำลังเด็ก ยังไม่โตด้วยซ้ำ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินเราก็จะเดือดร้อน"ซิงอีกล่าวขึ้น สักพักก็มีบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งวิ่งมาจึงทำให้จางซินตกใจเพราะนางพึ่งพูดถึงลูกขององค์ชายรัชทายาทไปเมื่อตะกี้"คุณหนูกับคุณชายทุกคนเจ้าค่ะพอดีว่าองค์ชายหกเชิญพวกท่านไปดื่มน้ำชาที่โรงเตี๊ยม ถ้าพวกท่านสะดวก"บ่าวรั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พิษมาจากที่ใด

    "มีสิ่งใดหรือเข้ามาสิ"องค์ชายหกตอบรับขึ้น บ่าวก็วิ่งเปิดประตูเข้ามา"ด้านล่างองค์หญิงสามกับองค์หญิงสี่ กำลังมาที่โรงเตี๊ยมนี้ขอรับน่าจะรู้ว่าองค์ชายหกพาแขกจากมิติสามัญมาดื่มน้ำชาก็เลยจะตามมาขอรับ น่าจะมาแอบฟังพวกท่านสนทนากันกระมังขอรับ"บ่าวรายงานขึ้น"ช่างพวกนางเถอะข้าไม่ได้พูดคุยอะไรกันสักหน่อยข้าแค่ถามสารทุกสุขดิบการเดินทางไปมาของพวกเขาเท่านั้นเจ้าไม่ต้องกังวลหรอกออกไปเถอะ"องค์ชายหก กล่าวขึ้นแต่สีหน้าของเขานั้นเปลี่ยนไป สีหน้าของเขาทำราวกับเป็นเรื่องยุ่งยากมาก สักพักก็ได้ยินผู้คนเดินมามากมายและเปิดประตูห้องข้างๆของพวกเขา น่าจะเป็นองค์หญิงทั้งสองที่มาฟังพวกเขาสนทนากัน"องค์ชายหกท่านเคยกินปลาหลีกับน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือไม่"ซิงอีถามขึ้น เพราะต้องการให้องค์ชายหก รับรู้ว่าพวกตนจะเปลี่ยนแนวการสนทนามาพูดเรื่องชีวิตประจำวันกันแล้วเขาจะได้ไม่ซีเรียส เพราะว่าถามจริงๆพวกเขาก็คงจะคิดว่าองค์ชายหก จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ชายรัชทายาทมีความเป็นไปได้สูงว่าสองคนนี้มาสืบเรื่องของพวกเขา"อะไรนะปลาหลี่น่ะข้าเคยกินแต่น้ำจิ้มซีฟู้ดอะไรนั่นข้าไม่เห็นจะรู้จัก"องค์ชายหกกล่าวขึ้น"รู้ไหมมันเป็นอาหารเลิศรสของเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สงสัย

    "อย่าบอกนะว่าเจ้าสงสัยพระชายานั้นจึงสอบถามองค์ชายหกแบบนั้น"จางซินถามจินเป่าขึ้นหลังจากกลับมาถึงเรือนแล้ว"ก็มันน่าสงสัยนี่เจ้าคิดดูสิว่าจะมีผู้ใดได้ผลประโยชน์ในเรื่องนี้ณเวลานี้ พวกองค์ชายทุกคนจะได้ผลประโยชน์เมื่อท่านประมุขนั้นสิ้นแล้วเท่านั้น ถ้าองค์ชายรัชทายาทไม่อยู่ เพราะข้าคิดได้แบบนี้"จินเป่ากล่าวขึ้น"แต่ก็ไม่แน่เหมือนที่องค์ชายหกบอกเองนั่นแหละ ว่าพวกอนุเองก็น่าจะมีความคิดที่อยากทำแบบนี้ ณ เวลานี้เราจะตัดสินใจลงมือทำสิ่งใดไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นเราต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก ถ้าเราจะจัดการให้องค์ชายรัชทายาทหายจากพิษเลยก็กลัวที่จะมีปัญหากับผู้ที่อยู่เบื้องหลัง"จินเป่ากล่าวขึ้น"แล้วเราจะรักษาให้เขาหรือป่าวล่ะ"จางซินถาม"รักษาสิ เจ้ามีตัวยาใดที่จะรักษาได้หรือป่าว"จินเป่าถามขึ้น"ก็ผลหลิวต้องแสงจันทร์ไงที่รักษาได้ "จางซินกล่าวขึ้น"ถ้าไม่ใช้ผลหลิวต้องแสงจันทร์เรามีตัวอย่าอื่นรักษาแทนได้หรือป่าว ทำให้เขาค่อยๆดีขึ้นนะ"จินเป่ากล่าวขึ้น"ทุกตัวยาที่ข้าคิดได้ต้องใช้ผลหลิวต้องแสงจันทร์เป็นตัวปรุงอยู่ดี"จางซินตอบพลางมองไปยังพี่ชายของตน"งั้นก็ปรุงยาตัวที่ง่ายที่สุดที่พวกเรามีสมุนไพรอยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ข่มขู่

    "ห๊ะอะไรนะ ชายาขององค์ชายรัชทายาทหนีไปแล้วหรือ "จางซินร้องขึ้นเมื่อได้ฟังองค์ชายหกเล่าเรื่องในวังให้ฟัง"นางคงไปดูแลมารดาที่ป่วยนะ องค์ชายหกก็บอกอยู่ว่านางกล่าวเช่นนั้น"จินเป่าพูดอย่างไม่ใส่ใจ "เจ้าเชื่อแบบนั้นจริงๆหรือ ที่เจ้ากล่าวตอนกลางวันข้าก็นำไปทูลเสด็จพ่อ กับฮองเฮาพวกเขายังตรัสถามเลยว่าเจ้าสงสัยชายาขององค์ชายรัชทายาทหรือ แต่พอเรามาเล่าให้ฟังว่าเขาอ้างว่ากลับไปเยี่ยมมารดาเจ้ากลับเชื่อ"องค์ชายหกกล่าวขึ้น จินเป่าจึงมองหน้าห่าวอู๋อวี่เขาเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าคืนนี้จะมีผู้ลงมือกับพวกเขาเป็นแน่"วันนี้องค์ชายหกให้เกียรติพวกเราถึงขนาดมาเยี่ยมพวกเราที่เรือน เอาแบบนี้ละกันวันนี้องค์ชายหกพอมีเวลารับประทานอาหารเย็นร่วมกับพวกเราหรือไม่"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น"5555แน่นอน เดียวเราสั่งคนไปนำสุราอาหารมา"องค์ชายหกกล่าวขึ้น"ท่านให้คนไปนำสุราก็เพียงพอแล้ว ที่เราเคยบอกไว้เรื่องอาหารปลาหลี่น้ำจิ้มซีฟู้ด วันนี้พวกข้าจะตอบแทนที่ท่านพาพวกข้าเที่ยวทั้งวันดีหรือไม่"จางซินกล่าวขึ้นเพราะเห็นว่าห่าวอู่อวี่ต้องการรั่งองค์ชายหกให้อยู่ต่อ"อ้าดีเลย ข้าก็อยากที่จะลิ้มรสมันเหมือนกัน เดียวข้าสั่งคนไปซื้อป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตำแหน่งประมุข

    หลังจากมอบยาให้กับท่านประมุขแล้วทั้งหกก็ไม่ได้เข้าไปตำหนักใหญ่อีกเลย ทำราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ให้ความร่วมมือกับท่านประมุขแต่อย่างใด องค์ชายหกยังแวะเวียนมาเยี่ยมทั้งหก และพาพวกเขาออกไปด้านนอกตามเคย "ห๊ะทั้งหกไม่ได้เข้าไปรักษาองค์ชายรัชทายาทหรอกหรือ แสดงว่าที่เราขู่เขาได้ผลล่ะสิ แล้วผู้ที่ข้าส่งไปทำไม่ยังไม่กลับมารายงานอีกหรือพวกเจ้าจัดการเก็บเรียบร้อยแล้วหรือ"เสียงบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้น "กลุ่มคนที่ถูกส่งไปไม่ได้มีใครกลับออกมาแบบมีชีวิตเลยขอรับ ทางการน่าจะจับตายหมดแล้ว ตอนนี้กำลังสืบอยู่ขอรับ"ผู้ที่มาส่งข่าวรายงาน"ท่านพี่แต่เห็นคนบอกว่าต้นไม้จันทน์แดงนั้นถูกเก็บออกไปเสียแล้ว ข้าเกรงว่าไม่ช้าองค์ชายรัชทายาทต้องฟื้นมาเป็นแน่ เราต้องหาสิ่งใดไปแทนหรือไม่ ข้าต้องการให้ลูกชายของเราทั้งสอง ห้าขวบเร็วๆจังจะได้กำจัดมันไปเสียที"เสียงสตรีกล่าวขึ้น ขณะที่ทุกคนคิดว่านางไปต่างเมื่องเพื่อเยี่ยมมารดาของนาง"เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นแหละเจ้าจะได้กำจัดมันแล้ว ถ้าไม่มีต้นจันทร์แดงอยู่เพียงสามเดือนมันก็จะฟื้นแต่นั้นมันก็นานพอดู เอาเป็นว่าข้าจะหาวิธีใหม่ก็แล้วกัน แต่กลุ่มคนเหล่านนั้นมันรู้ได้อย่างไรว่าต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16

บทล่าสุด

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   หญ้าตายฟื้น

    "พวกท่านทนไหวหรือไม่ ข้าไม่มีสมุนไพรรักษามาเลยพวกท่านต้องรอกลุ่มถัดไปแล้วล่ะ"ลี่หลินพูดขึ้นพลางเดินไปช่วยพยุงจินเป่าลงมานั่งข้างล่าง ห่าวอู๋อวี่จึงนำสมุนไพรมาอุ่นอีกรอบ เจ้ากระต่ายหยกในร่างเด็กน้อยคายบางสิ่งออกมาและส่งต่อให้ลี่หลิน เพื่อให้เขานำไปป้อนกับกินรีทั้งสอง ลี่หลินก็รับมามันเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่เป็นเส้นสีเขียวอ่อน นางจึงจับมันใส่ปากของกินรีทั้งสอง เมื่อทั้งสองได้กินสมุนไพรไปแล้วก็รู้สึกถึงพลังภายในที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สมุนไพรที่เจ้ากระต่ายหยกให้นั้นเป็นสมุนไพรรักษาภายในเท่านั้น ทำให้ภายนอกของกินรีทั้งสองยังคงมอมแมมอยู่เช่นเดิม แต่สำหรับทั้งสองนั้นก็ดีมากโขแล้วพอเดิมทีพวดเขาเหมือนคนที่กำลังจะหมดลมหายใจเลยรู้สึกข้างในมันปั่นป่วนไปหมด เพราะผลกระทบจากศาสตราวุธเหล่านั้น ไม่นานกลุ่มของซิงอีและจางหยงก็มาถึง พวกเขาบาดเจ็บหนักเลยทีเดียว สถานที่แห่งนี้ประหลาดเลยทีเดียว นางไม่สามารถนำสัตว์อสูรออกมาได้เลย ไม่สามารถสื่อสารกับมันได้ด้วยซ้ำเป็นเพราะเหตุใดกันนะ หากนางเรียกเจ้าจระเข้ตาไฟออกมาช่วยได้ล่ะก็ คงจะไม่เจ็บหนักขนาดนี้ แต่คนที่เจ็บหนักก็คือจางหยง เพราะเขาพยายามที่จะปกป้องนา

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สายฝนศาสตราวุธ

    "คู่ต่อไปน่าจะไปได้แล้วล่ะ เสียงเงียบหายไปแล้ว"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น เนื่องจากส่วนมากเขามาเพียงลำพังย่อมไม่รู้สถานการณ์เมื่อมาหลายคน และเขาก็คิดเองว่าหากเดินผ่านสายฝนศาสตราวุธนั้น หากใช้คนเดินทางน้อยก็จะสะดวกต่อการกำจัดศาสตราวุธพวกนั้นแต่หากรวมกันเป็นกลุ่มเกรงว่าจะทำร้ายผู้ที่เดินทางร่วมกันเสี่ยงมากกว่าจึงตัดสินใจให้เดินไปครั้งละสองคน"เจ้าพาจินเป่าไปเถอะ พร้อมกับเจ้าสัตว์อสูรนี้ด้วย"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น จินเป่าจึงขึ้นหลังห่าวอู๋อวี่ และกระต่ายหยกเองก็กรายร่างของมันเป็นเหมือนดังวัตถุโปร่งแสงสีเขียวหยกแล้วคลุมตัวของจินเป่าไว้ แล้วลี่หลินก็ยืนข้างห่าวอู๋อวี่แล้วออกเดินพร้อมกัน เมื่อลงพื้นดินไปสักพักก็ไม่เห็นพวกเขาแล้ว และก็ได้ยินเสียงกระทบกันดังขึ้น เหมือนเสียงนั้นจะดังกว่าครั้งที่แล้วเสียงโลหะกระทบกันถี่มาก แต่ไม่มีเสียงร้องใดๆเลย จินเป่ามองเห็นสายฝนสตราวุธลงมาห่าใหญ่ ร่างกายของเขาเองไร้รอยขีดข่วนใดๆทั้งสิ้น เพราะตัวกระต่ายหยกเองห่อหุ้มนางไว้ ลี่หลินใช้กริชด้ามสั้นที่ตนเคยให้ในการต่อต้านสายฝนศาสตราวุธเหล่านั้น นางร่ายรำดั่งเช่นนางรำทั้งหลบทั้งปัดสตราวุธเหล่านั้น ทางด้านห่าวอู๋อวี่เองถึงแม้ว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แผนที่

    เมื่อปรมาจารย์ไป๋อวิ้นนี้เป็นคนแรกที่จะปีนขึ้นไปด้านบนเนินสูงนั้น ห่าวอู๋อวี่ก็วางจินเป่าลงและนำสมุนไพรต้มที่มารดาของปรมาจารย์ไป๋อวิ้นต้มให้ออกมาอุ่นและส่งให้ซิงอีเพื่อที่จะป้อนสมุนไพรให้จินเป่า ซิงอีรับน้ำยามาแล้วก็ยิ้มก่อนที่จะป้อน เดียวพวกเจ้าไปกันก่อนนะข้ากับจางหยงจะรอดูพวกเจ้าขึ้นไปก่อน หากมีเหตุผิดพลาดอย่างไรพวกข้าจะได้ช่วยเจ้าได้"ซิงอีหันหน้าไปกล่าวกับห่าวอู๋อวี่ หากจินเป่าตกลงมานางกับจางหยงก็จะต้องคอยรับ ถึงแม้จะไม่สูงมากแต่นางไม่มีแรงเลยสักนิดหากตกมาเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้นางเสียชีวิตได้เลย"เจ้านายเดี๋ยวข้าจะขึ้นไปดูข้างบนเสียก่อนหากว่ามีอันตรายใดๆข้าจะได้จัดการให้"ลี่หลินกล่าวขึ้น เจ้ากระต่ายหยกก็พยักหัวตาม"ข้าอยากรู้จังว่าเจ้ากระต่ายหยกนั้นมันชื่ออะไร มันเหมือนไม่ค่อยรู้ภาษามนุษย์เลยเจ้านาย มันต้องเรียนภาษามนุษย์อีก"ข้าไม่ได้มีชื่อเรียกเหมือนพวกสัตว์อสูรแบบเจ้าหรอก แล้วข้าก็ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษามนุษย์มากมาย เพราะข้าแค่อาศัยสื่อสารกับสิ่งที่ข้าองครักษ์ก็เท่านั้นไม่จำเป็นต้องให้สัตว์อสูรหรือมนุษย์มารับรู้'เสียงเด็กน้อยพูดขึ้น ทำให้ลี่หลินขันท่าทีของมัน ที่ไม่ต้องการสื่

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เดินทางกัน

    หลังจากออกเดินทางจากวังหลวงก็ไม่มีสิ่งใดที่เป็นอันตรายจึงทำให้พวกเขาใช้เวลาเพียงสองวันก็ถึงหมู่บ้านอมตะแล้ว ทำให้จางซินรู้สึกไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยเพราะตอนไปพวกเขารีบร้อน มารดาของของท่านอาจารย์ไป๋อวิ้นก็เอาแต่หยุดพักผ่อนตลอดเส้นทางทำให้พวกเขาล่าช้า "วันนี้พวกเจ้าพักผ่อนในหมู่บ้านข้าเสียก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยออกไปกัน อวิ้นจะพาพวกเจ้าเดินทาง"หว่าฮว่ากล่าวขึ้น ทั้งเจ็ดจึงไปพักผ่อน"ที่ตอนพวกข้าเดินทางไปวังหลวงนะพวกเจ้ารู้ไหม มารดาของปรมาจารย์ไป๋อวิ้นนั้นหยุดพักผ่อนเป็นว่าเล่นเลย"จางซินระบายความโกรธออกมา"ปรมาจารย์ของเจ้าก็ชี้แจงแล้วนิ ว่ามารดาของเขาสามารถรับรู้ภัยได้ นางจึงจำเป็นต้องพาพวกเราหยุดบ่อยๆไง เพื่อป้องกันความผิดพลาดและภัยที่เกิดขึ้น"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น"จินเป่าเจ้าเป็นอย่างไรบ้างเหน็ดเหนื่อยหรือไม่"ซิงอีถามขึ้นพร้อมกับป้อนน้ำอมฤตให้นาง ตลอดเส้นทางนางถูกห่าวอู๋อวี่อุ้มแทบตลอดเวลา เวลาลงเดินเองสักพักก็เหนื่อยหอบ จนซิงอีทนไม่ไหวเอ่ยปากให้ห่าวอู๋อวี่อุ้มนางบ้าง ให้นางขึ้นหลังบ้างแต่ห่าวอู๋อวี่เองก็เต็มมาก ครั้นหยุดพักซิงอีก็ปฏิบัติห่าวอู๋อวี่ดังน้องชายตัวเอง ทำให้ห่าวอู๋อวี่

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   คาดการณ์ลวงหน้าได้

    "ปรมาจารย์ไป๋อวิ้น ทำไมมารดาของท่านกล่าวว่านางไม่สามารถที่จะเข้าไปในป่าอมตะนั้นได้ ในเมื่อพวกท่านก็อยู่หมู่บ้านอมตะนั้น"จางซินถามขึ้น จึงทำให้จินเป่าสนใจ จึงมองไปดูผู้ที่จางซินกำลังซักถามอยู่ก็เป็นปรมาจารย์ไป๋อวิ้น"ท่านอาจารย์"จินเป่ากล่าวออกมาได้เท่านี้ก็หมดแรง นางไม่สามารถพูดยาวๆได้ เพียงแค่ใช้แรงในการพูดก็หมดแรงเสียแล้วจะให้นางเดินทางไปได้อย่างไรกัน"เจ้าไม่ต้องพูดแล้วลูกศิษย์เจ้าพักผ่อนเถอะ แล้วเรื่องที่มารดาของข้าไม่สามารถเข้าป่าอมตะนั้นได้ ก็เป็นเพราะว่านางเป็นกินรีชั้นสูง ที่พวกเจ้ารับรู้นั่นแหละ ถึงว่าข้าจะได้เป็นกินรีชั้นสูงแล้วแต่ข้าก็ไม่มีประสิทธิภาพเหมือนกับมารดาของข้า นางสามารถรับรู้อันตรายที่อยู่เบื้องหน้าได้นางสามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ ส่วนข้าจุดนี้ค่ายังไม่สามารถที่จะฝึกฝนมันได้ ข้าจึงคิดว่าข้าจะไปกับพวกเจ้าได้ เพราะในเมื่อถ้าหากว่าคาดการณ์ถึงอันตรายได้แล้ว เราก็จะเลี่ยงอันตรายเหมือนที่เราเดินทางเข้ามาในวังหลวงนี้ไง เมื่อถึงจุดอันตรายมารดาของข้าก็จะให้พวกเราหยุดขบวนเดิน แล้วให้ผู้ที่เก่งกาจเข้าไปจัดการกับอันตราย แล้วเราก็เดินมากันแบบไร้อันตรายใดๆ แล้วที่มาร

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ทัณฑ์สายฟ้า

    ระหว่างที่จินเป่าฟังห่าวอู๋อวี่ท่องเกร็ดวิชาไปเรื่อยๆ ตอนนี้นางเองทำสิ่งใดไม่ได้ จึงลองขับเคลื่อนวรยุทธ์ภายในและจดจำเคล็ดวิชาที่ห่าวอู๋อวี่ท่องออกมา นางรู้สึกว่าภายในของนางนั้นปั่นป่วนยิ่งนักไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนวรยุทธเหมือนเดิมอีกแล้ว นางจึงล้มเลิกความพยายามแล้วหันมาจดจ่อกับเคล็ดวิชานั้นแทน นางจดจำทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของห่าวอู๋อวี่ได้ดีทุกคำ จนในที่สุดก็ครบเจ็ดวันจินเป่าค่อยค่อยลืมตาขึ้น ดวงตาสีดำอันโตของนางมองไปซ้ายมองไปขวา เหมือนกับหลายวันก่อนไม่มีผิด นางอยู่ในอะไรสักอย่างที่เป็นสีม่วงลาเวนเดอร์ และมีน้ำสีดำม่วงอยู่รอบๆ กลิ่นน้ำนี้ก็หอมสมุนไพรเอาเสียมากๆ น้ำอุ่นกำลังพอดี จินเป่ารู้สึกไม่สบายหัว จึงมุดลงไปในน้ำสมุนไพรนั้นแล้วโพล่หัวขึ้นมา นางรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก นางมองออกว่าตอนนี้ร่างกายของนางยังไม่สามารถกลับไปฝึกยุทธได้อีก แต่นางก็เคยไร้วรยุทธ์มาแล้วนิ แต่ตอนนั้นตอนที่นางมาอยู่ร่างนี้ใหม่ๆ ร่างกายนางไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนี้เท่านั้นเอง แต่สักวันคงจะดีขึ้น "วันนี้ครบวันที่เจ็ดแล้ว ร่างกายแม่นางน่าจะไม่เย็นอีกแล้วล่ะป่ะพวกเจ้าไปช่วยข้าเอาแม่นางขึ้นมาจากหม้อกัน"หว่าฮว่ากล่าว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สัตว์มหาอสูร

    "เอาเข้าจริงๆข้าก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเคล็ดวิชาดัชนีสุริยันอะไรนั่นแค่เพียงท่านห่าวอู๋อวี่ท่องให้จินเป่าฟังแล้วนางจะดีขึ้น"ซิงอีกล่าวถามความคิดเห็นของสหายท่านอื่น"เจ้าต้องรู้จักเคล็ดวิชาดัชนีสุริยันก่อนเจ้าลองถามองค์ชายรัชทายาทดูสิว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งใด"จางซินพูดขึ้น"ในเมื่อองค์ชายรัชทายาทนั้นเคยร่ำเรียนตำราดัชนีสุริยันต์แล้วทำไมไม่ให้องค์ชายรัชทายาทเข้าไปท่องให้จินเป่าฟังล่ะ"ซิงอีกล่าวขึ้นพลางมองไปยังองค์ชายรัชทายาท"ทำเป็นว่าหากองค์ชายรัชทายาทเข้าไปท่องเกล็ดวิชาดัชนีสุริยันให้จินเป่าฟังแล้วเจ้าจะยินยอมอย่างไรอย่างนั้น"จางหยงกล่าวถามขึ้น"มันก็ใช่ที่เจ้าพูดแต่ข้าก็ไม่รู้ไงว่าในเมื่อท่านห่าวอู๋อวี่ไม่รู้เคล็ดวิชาดัชนีสุริยันต์แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าไปท่องให้จินเป่าฟังแล้วจะดีขึ้น"ซิงอีถามขึ้นอีก"ผู้ใดท่องก็ดีขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าน้ำเสียงนั้นเป็นน้ำเสียงที่แม่นางผู้นี้คุ้นเคย และเจ้าสัตว์อสูรจิ๋วนั้นก็เลือกบุรุษผู้นั้นให้ท่องให้เจ้านายมันฟัง มันก็คงจะรู้ความพิเศษพิโสของบุรุษผู้นั้นอยู่ แม่นางผู้นี้ข้ามองดูเจ้าเป็นห่วงแม่นางที่อยู่ในหม้อกลั่นสมุนไพรอยู่หรอก แต่เจ้าก็ต้องหัดฟัง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ดัชนีสุริยันต์

    เมื่อเจ้ากระต่ายกับลี่ลินเข้าไปอยู่ในห้องที่มีหม้อตุ๋นสมุนไพรของจินเป่าอยู่ ลี่หลินเองก็นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ หม้อหยกใบนั้น นางขับวรยุทธภายใน นางเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในป่านางต้องฝึกควบคุมวรยุทธไปด้วย ส่วนกระต่ายหยกนั้นเป็นสัตว์อสูรประจำต้นหลิวต้องแสงจันทร์ไม่จำเป็นต้องศึกษาเคล็ดวิชาหรือตำราใดๆและไม่ต้องขับเคลื่อนวรยุทธ หากว่ามันบาดเจ็บเพียงรักษาสักพักก็หายขึ้น มันไม่เหมือนสัตว์อสูรแบบหลีหลินถ้ามันบำเพ็ญตบะได้สูงมันก็จะไม่รู้สึกเจ็บรู้สึกอะไรทั้งสิ้น"เจ้ากระต่ายหยกเจ้ารู้ใช่ไหมว่าดัชนีสุริยันต์เล่มนี้มีอะไรพิเศษเจ้าถึงเร่งให้ข้าทวงจากองค์ชายรัชทายาทนัก"เสียงห่าวอู๋อวี่ดังขึ้น ทำให้เจ้ากระต่ายหยกดีใจยิ่งนัก ทีห่าวอู๋อวี่มาและเขาก็นำดัชนีสุริยันมาด้วย"ท่อง ต้องท่องเคล็ดวิชา ท่านอ่านเคล็ดวิชาให้เจ้านายฟังได้"เจ้ากระต่ายหยกพยายามพูดภาษามนุษย์พร้อมกับทำท่าทางชี้ไปที่ปากของตัวเองแล้วก็หูของมันเอง"เจ้าจะให้ข้าท่องเคร็ดวิชาดัชนีสุริยันให้นางฟังหรือ"ห่าวอู๋อวี่เองก็ถามขึ้นอย่างสงสัย เจ้าเด็ดน้อยพยักหน้าหงึกๆด้วยความดีใจ เขาเข้าใจความหมายของมัน หลี่หลินจึงลืมตาขึ้นมาดูว่าเขาพูดถึงอะไรกัน ห

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตุ่นสมุนไพร

    "เสวุ่ยเจ้าไปหาหม้อสมุนไพรใบใหญ่มาหนึ่งใบอยู่ในท้องพระคลังน่าจะมีอยู่หนึ่งหม้อ เจ้าไปตรวจดูแล้วให้องครักษ์ยกมาที่เรือนรับรอง"องค์ชายรัชทายาทกล่าวขึ้น องค์ชายหกเลยพาทหารองครักษ์ไปหาหม้อสมุนไพรใบใหญ่ ในท้องพระคลังมา เมื่อเขาเข้าไปดูก็พบหม้อสมุนไพรใบใหญ่สีเขียวหยกหนึ่งใบ ซึ่งน่าจะให้สตรีผู้นั้นเข้าไปได้จึงสั่งให้ทหารองครักษ์ยกออกมาให้ หมอหยกใบนั้นเป็นหยกสีเขียวมันแพะดูแล้วมีค่ายิ่งนัก เมื่อนำมาเรือนรับรองแล้วก็วางไว้กลางห้อง"ข้าขอเพียงสมุนไพรเท่านั้น แล้วบุรุษน่าจะออกไปด้านนอกได้แล้วกระมังเพราะว่าสตรีผู้นี้ต้องถอดเสื้อผ้าก่อนที่จะลงหม้อ จางซินข้าต้องพึ่งเจ้าอยู่หากเจ้ายังมีธุระที่จัดการยังไม่เสร็จ ช่วยข้าสักพักแล้วเดี๋ยวค่อยไป"หว่าฮว่ากล่าวขึ้น"ข้าคือสัตว์อสูรของเจ้านายข้าสามารถช่วยเจ้านายได้เจ้าค่ะให้ข้าอยู่ช่วยท่านนะเจ้าคะ"ลี่หลินรีบพูดขึ้น"นางคือน้องสาวของข้าเหมือนกันเจ้าค่ะให้ข้าอยู่ช่วยอีกแรงนะเจ้าคะ"ซิงอีรีบกล่าวขึ้น"ได้เลยแม่หนูเพราะข้าต้องให้สตรีช่วยอยู่แล้วล่ะ ลำพังข้าคนเดียวไม่ไหวหรอก บุรุษทั้งหลายออกไปได้แล้วกระมัง เจ้าเด็กน้อยเจ้าอยู่ก่อนอย่าเพิ่งไปไหน"หว่าฮว่ากล่าวข

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status